นี่หรือคือรางวัลที่ใคร่ควรได้รับ...
ความพยายาที่เพียรสร้างผลงานจนแทบจัดสรรเวลานอนให้กับตัวเองไม่ได้ สุขภาพที่เสียไป อีกทั้งความเหนื่อยล้าอันหนักหน่วงที่โหมกระหน่ำใส่เขาราวคลื่นยักษ์ตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา โปรเจกต์งานระหว่างประเทศได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี และทั้งหมด มีเพียงชายหนุ่มที่ฝ่าฝันจนมายืนอยู่ในจุดสูงสุดของความสำเร็จนี้ได้ ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ล้อมหายไประหว่างทาง...ทำได้แล้วนะโกษิต
ชายหนุ่มยังคงตื่นเต้นกับเม็ดเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีเมื่อเช้าไม่หาย เขาอยากจะกรีดร้องออกมาด้วยความสาแก่ใจและเย้ยหยันผู้คนที่เคยเรียกว่า ‘ทีม’ ในแบบที่ต่อให้จะโดนเกลียดก็ช่างปะไร เงินหกหลักอยู่กับเขา ทั้งชีวิตนี้โกษิตไม่เคยมีเงินเก็บขนาดนี้มาก่อน
“เย็นนี้ผมมีรางวัลที่คุณควรคู่ ทานข้าวกับผมนะ”
คำชวนจากท่านประธาน มินาโตะ ทาเคดะ ทำให้เขาน้อมรับอย่างเต็มใจ ก่อนรถหรูจะมาจอดรอเขาที่หน้าบริษัทในช่วงเวลาเลิกงาน และพามายังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
ตึกสูงระฟ้าใจกลางเมืองคือปลายทาง เพียงแหงนมองก็เหมือนจะถูกความตระหง่านโถมทับ ที่ซึ่งไม่น่าจะมีร้านอาหารมาเปิดบริการอยู่ในตึกนี้ โกษิตละล้าละลัง ทำตัวไม่ถูกขณะก้าวเดินตามชายในชุดสูทสีควันบุหรี่ ใบหน้าเคร่งขรึมไม่ยินดียินร้านแต่กลับนอบน้อมเหลือเชื่อ พร้อมกับผายมือเชิญให้เขาเข้าไปยังห้องหนึ่งเมื่อขึ้นลิฟต์มาถึงชั้น 27
โกษิตเช็ดมือที่ชื้นเหงื่อกับกางเกง จัดท่าทางและเสื้อผ้ารวมทั้งเนคไทให้เข้าทรงก่อนผลักบานประตูเข้าไปแผ่วเบา ลมเย็นเยียบพัดปะทะใบหน้าทันที เขาถึงกับหรี่ตา ทันทีที่บานประตูเปิดกว้างขึ้น ในห้องนั้นมืดสนิทจนน่าวิตก หากแต่ท่านประธานกลับนั่งอยู่ที่ด้านในแล้ว แสงไฟที่ส่องลงเพียงบริเวณนั้นให้ความรู้สึกเหมือนดูละครเวที บางอย่างทะมึนตระหง่านอยู่ตรงกลางระหว่างเขาและผู้เป็นเจ้านาย
ไฟส่องสว่างลงตรงหน้า รัศมีวงกลมกว้างเพียงแค่พอให้ได้เห็นเก้าอี้หรูของตนเอง ในขณะที่ยิ่งสว่างเท่าไหร่ ทัศนียภาพรอบข้างกลับลดลงมากขึ้นเท่านั้น
“นั่งลงสิ ไม่เห็นต้องทำตัวแบบนั้น...” ท่านประธานกล่าวเสียงเย็น ท่าทางของเขายังคงดูน่าเกรงขาม แม้สูทสีกรมท่าจะถูกถอดไว้เหลือเพียงเชิ้ตขาวกับเนคไทสีดำตัดกันก็ตามที “นี่เป็นสิ่งที่คุณจะได้รับจากผม ไม่เคยมีใครได้รับมาก่อน”
ท่านประธานก้มหน้า...แสงเงาที่ตกกระทบทำให้ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวพิลึก
โกษิตนั่งลง พยายามตั้งสติและผ่อนลมหายใจ อะไรกันนะที่ทำให้เขาต้องยำเกรงได้ถึงเพียงนี้ อำนาจ หรือเงินตรา...คำตอบคือทั้งสองอย่าง
เสียงปรบมือดังขึ้นสองครั้ง ไฟอีกส่วนสว่างวาบขึ้นมาจนโกษิตต้องหรี่ตาซ้ำสอง รัศมีไฟวงกลมสามดวงทอดยาวต่อกัน ค่อย ๆ เผยให้เห็นโต๊ะไม้สักสีเข้มที่วางในแนวขวาง ปูทับด้วยผ้าแพรสีครามอย่างดี ลวดลายลูกไม้ปักดิ้นมองที่แสนวิจิตรทำให้ชายหนุ่มละสายตาไม่ได้ ดอกไม้หลากสีหลายขนาดถูกวางไว้ท่ามกลางไม้ประดับคดเคี้ยวดูน่าพิศวง สีสันของมันยืนยันได้ดีว่าสดใหม่ราวกับเพิ่งถูกเก็บมาจากต้น ไอหมอกจากใต้โตะค่อย ๆ ลอยสูงขึ้น เนรมิตให้ห้องแห่งนี้ราวกับสรวงสวรรค์ที่ถูกห้อมล้อมด้วยมวยเมฆ มันเลื้อยวนเอื่อยเฉื่อยอยู่รอบกายของเขาอย่างตื่นตา
โกษิตไม่แม้แต่จะกะพริบตาเพียงครั้ง เขาจับจ้องอยู่บนสิ่งที่ทอดร่างอยู่บนโต๊ะตรงหน้า แทรกแซมอยู่ระหว่างสิ่งประดับประดาเหล่านั้น หยดน้ำไหลลงตามส่วนเว้าโค้ง หยดแล้ว หยดเล่า...
นวลผ่อง เปล่งปลั่ง ขาวลออ
ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ สั่นระริกไปทั้งตัว ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่ปรากฎต่อเขาในเวลานี้คือเรือนร่างของหญิงสาวที่เปลือยเปล่า ราวเทพธิดาที่ถูกเหล่ามวลบุปผาโอบกอดไว้อย่างรักใคร่ ไม่มีอาภรณ์สักชิ้นปิดทับร่างกายแม้ในส่วนที่กระตุ้นความกระสันในกายชายให้ลุกโชนก็ตามที
เส้นผมยาวสลวยเงางามถูกยกขึ้นตีกระบังทรงพัดอย่างเรียบร้อย ประดับประดาด้วยปิ่นทองวาววับและดอกไม้สีสด ขับเน้นใบหน้าที่ประทินด้วยแป้งด้วยสีขาวบริสุทธิ์ให้โดดเด่นสะดุดตา ริมฝีปากกระจับสีแดงสด คิ้วโก่งสวยถูกวาดด้วยสีเข้มพลิ้ว เปลือกตาที่หลับพริ้มมองเห็นขนตาแพสวยงอนทั้งยังไล้ด้วยสีกุหลาบอย่างพิถีพิถัน เท่านี้ก็สามารถเรียกได้ว่าดึงดูดเหลือล้น แม้อีกฝ่ายจะไม่ได้สบตากับผู้จ้องมองเลยก็ตาม...
เสียงหัวเราะของท่านประธานดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมืออย่างชอบใจ ขบขันในท่าทีของโกษิตเหลือล้น
“ฮ่า ๆ อย่าเพิ่งตกใจไป...นี่มันเพียงแค่การเริ่มต้น หลังจากนี้ต่างหาก คือรางวัลของคุณ โกษิตซัง”
เสียงที่อีกฝ่ายพูดมาไม่ได้เข้าหูของโกษิตเลย ร่างกายตรงหน้านอนแน่นิ่ง มีเพียงหน้าท้องแบนราบที่ขยับเพียงแผ่วเบาเป็นการยืนยันว่าเธอคือมนุษย์หาใช่ของเลียน ดอกไม้ที่ถูกจัดวางตามส่วนเว้าโค้งถูกพรมด้วยละลองน้ำที่จับตัวพราว สายตาค่อย ๆ ไล่ละเลียดมองลงไปช้า ๆ จากศีรษะ ใบหน้าอันสะสวย ลำคอระหง เนินถันที่อวบอิ่มเต่งตึงได้รูป ส่วนยอดที่ชูชันสีชมพูหวานหยด จรดเนินพิศวาส!
เสียงหายใจฮืดฮาดดังขึ้น...ไม่ไหวแล้ว แม้อุณหภูมิในห้องนี้จะเย็นจนร่างกายสั่น แต่เหงื่อเม็ดโตกลับผุดขึ้นทั่วใบหน้าและลำคอ ร้อนผ่าวไปทั้งร่างกาย ส่วนที่สงบนิ่งคล้ายถูกภาพตรงหน้ากำลังปลุกปั่นยวนเย้าให้ตื่นตัว สองมือจับขอบเก้าอี้ไว้จนแขนสั่นเทิ้ม
“เป็นจานอาหารที่สมราคาจริง ๆ เอาละ...เสิร์ฟได้!”
บานประตูจากผนังอีกด้านเปิดขึ้นมา ชายผู้สวมชุดเชฟในรูปแบบคุ้นตาตามร้านอาหารญี่ปุ่นสีขาวสะอาดสะอ้านเดินออกมาแล้วนั่งลงที่ส่วนมุมของโต๊ะกลาง แสงไฟดวงถัดไปสว่างขึ้นเผยให้เห็นโต๊ะไม้ขนาดเล็กและเขียงกับมีดสีเงินยวงคมกริบวางคู่ถังไม้ที่วางอยู่แต่แรกถูกเปิดออกพร้อมกับควันและกลิ่นข้าวร้อน ๆ หอมกรุ่นโชยคลุ้ง ถาดวัตถุดิบเลอค่าถูกยกตามมาอีกครั้งแล้ววางตรง โกษิตมองดูเชฟคนนั้นแสดงลวดลายการปั้นข้าวซูชิที่สุดช่ำชองอย่างตื่นตา เพิ่งเคยเห็นว่าปลายนิ้วและฝ่ามือทั้งสองต้องทำงานประสานกันเพียงใด ก่อนจะเริ่มวางชิ้นซูชินั้นลงบนใบไผ่พร้อมเสิร์ฟมันบนเรือนร่างของเกอิชาสาวตรงหน้าอย่างแช่มช้า...คำแล้ว คำเล่าโกษิตกลืนน้ำลายจนลำคอแห้งผาก แต่เขาไม่ได้หิวเลยแม้แต่น้อย สายตายังคงมองดูลมหายใจของนางเกอิชาตรงหน้าอย่างไม่ละลด ทุกครั้งที่อาหารถูกวางลงปิดเร้นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ใจชักอยากจะคีบมันมาจัดการให้สิ้นซาก เพื่อไม่ให้มีส่วนใดบดบังความงามตรงหน้าได้อีกซูชิแซลมอนตรงหน้าท้อง เคียงกันเป็นอูนิคุณภาพสูงราคาแพงลิบ พร้อมกับทูน่าทั้งสามส่วน อากามิ ชูโทโร่ และโอโทโร่“ที่คุณเห็น มันคือวัฒนธรรมการกินของชาวญี่ปุ่น เป็นกา
“ดะ ได้ ครับ...เอ่อ...” ให้ตาย...ไม่เหลือคราบสุภาพบุรุษไว้แม้แต่น้อย “ได้ไหมด...เลย เหรอครับ?”มุมปากยกสูงขึ้น หญิงสาวหยัดกายนั่ง ดอกไม้ประดับร่วงหล่นเรี่ยพื้น เต้าถันตึงเต่งเป็นทรงสวยไม่ต่างจากหยดน้ำที่พรมกาย เอวบางร่างน้อย ส่วนเว้าโค้งทั้งหมดชัดแจ่ม เธอไม่ได้เพียงลุกขึ้นนั่งเท่านั้น มือวางทิ้งน้ำหนักลงโต๊ะแล้วหันมาหาโกษิต สองขาที่มีอาหารวางอยู่หมุนคล้อย ขาค่อย ๆ แยกออกทีละข้าง กว้างพอที่จะได้เห็นความสวยงามของร่องสวาทนั้นเต็มตา ร่างกายปะทะกันในระยะเอื้อมถึง“ทุกอย่างที่ปรารถนาค่ะ” เธอเอ่ย ยกมือขึ้นมาไล้ลูบเรือนกาย กรีดกรายปลายนิ้วละเลียดผิวให้ได้เห็นถึงความเย้ายวน แทรกลงที่ระหว่างเนินอก ไต่ลงไปที่หน้าท้องจนกระทั่งถึงเกสรซ่านเสียวที่โดดเด่นส่วนยอก ไล้นิ้ววนไปพร้อมส่งเสียงระริกเพรียก “อืม...ได้หมดเลยค่ะ”สองขายิ่งอ้ากว้าง นิ้ววาดลงไปตามแนวร่องรักอันแสนชุ่มฉ่ำแล้วแหวกออก กลีบสวาทสีหวานเบ่งบาน โพรงสยิวเริ่มปรากฏหยาดน้ำผึ้งสีหวานเยิ้มปริ่ม มือของเธอไหววน แยกไม่ออกแล้วว่าเพราะความเสียวซ่านหรือเพราะอากาศที่ทำให้ร่างกายของเธอกระตุกเช่นนั้นแข็งจน...จะออกมาข้างนอกอยู่แล้ว ท่านประธานทำอะไรกับเ
เพียงเอ่ยคำนั้น มือที่กอบกุมก็กำแน่นแล้วรูดชักขึ้นลงถี่รัว เนื้อตัวของโกษิตกระตุกวูบ เธอก้มลงไปแล้วเริ่มใช้ปลายลิ้นเลียรอบ ๆ ส่วนปลาย ดุนไปที่รอยหยักอย่างแช่มช้า ดื่มกินของเหลวแห่งความใคร่ที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุดหย่อน ก่อนครอบริมฝีปากลงไปครอบครองความเป็นชายอันชูชัน“ซี้ดดดด...ดี อา...” เสียงทุ้มพร่าคราง “ดีเลย...”เสียงสัมผัสอันหยาบโลนดังขึ้นเบา ๆ เมื่อเธอเริ่มขยับใบหน้ากดลึกลงไปถึงกลางลำ แรงดูดรุนแรงจนสองขาของโกษิตอ้ากว้างช้า ๆ ลิ้นร้อนในปากว่ายวนอย่างพลิ้วไหวและหนักหน่วงพลางขยับขึ้นลงถี่รัวท่าทีของเกอิชาสาวบัดนี้ไร้ความเหนียมอาย เธอกลืนกินลำกายของเขาอย่างหิวกระหาย ทั้งดูดทั้งเลียสลับกันไปมาจนโกษิตไม่อาจจะนั่งนิ่ง ๆ มองเธอกระทำต่อเขาเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป มือเอื้อมปลดเข็มขัดอย่างรีบร้อน สถานการณ์พลิกผันไปจนหมดสิ้น ยกตัวขึ้นมาแล้วกระชากกางเกงลงไปกองกับปลายเท้า“อา...ลึกอีก ลึกลงไปอีกสิ...ผมยังไม่สุดแค่นี้นะครับ” พูดพลางจับที่นั่งไว้แน่นแล้วโยกสะโพกพลิ้วไหวดันแก่นกายเข้าไปในปากของเธอที่ยังคงดูดดุนไม่ลดละ ยิ่งเร็วขึ้นเท่าไหร่ เสียงครางในลำคอของอีกฝ่ายก็ยิ่งดังขึ้นเท่านั้น “อา...เสียว ด
ความซาบซ่านในค่ำคืนวันนั้นไม่อาจลบเลือนไป ทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่ามันคือการค้าขาย บริการที่เธอมอบให้อาจจะเป็นเพราะถูกท่านประธานนั้นจ่ายทุกอย่างเอาไว้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็สุดยอดจนโกษิตลืมมันไม่ลงร่างกายที่บอบบางแต่นุ่มนวล สัมผัสที่กอดก่ายลึกซึ้งเกินกว่าจะเป็นแค่เพียงการแลกเปลี่ยนทางด้านเงินตรา หากว่าเธอทำแบบนั้นเพราะเม็ดเงินตอบแทน เธอคงเก่งกาจมากเลยทีเดียว ที่ทำให้ผู้ชายคนนี้หลงใหลได้ปลื้มจนลืมตัวตนของตัวเองไปไม่มีงานใหญ่ ๆ มาสักพักแล้ว นั่นจึงทำให้หลังจากสแกนบัตรเลิกงาน โกษิตสามารถมานั่งดื่มที่บาร์เล็ก ๆ ใกล้บ้านของเขาได้ บาร์นี้ห่างจากบ้านของเขาไปไม่ไกลนัก ขนาดที่ว่าต่อให้เมาจนภาพจะตัด เขาก็ยังคลานเอาตัวเองกลับเตียงได้ สายตาสอดส่อง คืนนี้ครั่นเนื้อครั่นตัว อยากปลดปล่อยอีกสักครั้ง กับใครสักคนกำลังมองหาใครสักคนที่ทำให้เขารู้สึก เฉกเช่นกับตอนที่ประสานแววตากับเกอิชาคนนั้นสัญชาตญาณคนเรามักรับรู้ได้ยามที่ตนเองถูกมอง ความรู้สึกที่ไม่ปกติส่งผ่าน โกษิตหันขวับ ก่อนเจอหญิงสาวคนหนึ่งที่นั่งลำพังอยู่ที่บาร์หันมาจ้องมอง ทันทีที่เธอเห็นเขา ไม่มีการหลบตาเกิดขึ้น ริมฝีปากที่ถูกฉาบทาด้
เธอปรายตามองเขา ทัดผมข้างหนึ่งที่ใบหูแล้วก้มลงทันที จับส่วนที่ถูกรูดเอาไว้ที่ส่วนโคน ปลายลิ้นพลิ้วไหวระริกปลุกเร้าอย่างถี่รัวที่รูเสียวส่วนปลาย ลากวนไล้ไปรอบ ๆ รอยหยัก ลิ้นที่ดูช่ำชองค่อย ๆ ลามเลียลงมาตรงส่วนลำ ลากลงไปจนถึงลูกบอลกลมกลึงเคียงคู่ เธอครอบริมฝีปากลงไปแล้วดูดดุนสลับซ้ายทีขวาทีจนแผ่นหลังของโกษิตไม่อาจจะแนบติดโซฟาได้อีกต่อไป“อืออออ...”สองขาของเขาถูกจับถ่างออก ลิ้นร้อน ๆ ซอกซอนไปที่ร่องขาอย่างดุเดือด เธอทำให้เขาถึงกับสั่นสะท้านเพียงการใช้ลิ้น ยกเอวของชายหนุ่มที่กำยำขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ในขณะที่มืออีกข้างก็รูดรั้งชักขึ้นลงไม่ขาดสาย ก่อนเรียวลิ้นของเธอที่ดุจดั่งสรวงสวรรค์จะค่อย ๆ ลากกลับจนถึงส่วนยอดเพื่อครอบริมฝีปากลงไปอีกครั้ง“อ๊ะ อา...ดี...ซี้ดดดด...โคตรดีเลย อืมมม”เสียงหยาบโลนจากการดูดดุนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เธอดูดกินลำกายของเขาไม่หยุดหย่อน ฝ่ามือพลางกระตุ้นไปทั่วจุดกระสันของชายหนุ่มจนเขาเองที่เป็นฝ่ายดีดดิ้นแล้วในคราวนี้ สัมผัสที่ลื่นไหลและซอกซอนนั้นทำให้รอยยิ้มอย่างสุขสมยกขึ้นมา โกษิตแหงนหน้าขึ้นแล้วหลับตาพริ้ม เกร็งร่างกายเพื่อรับความหฤหรรษ์นั้นอย่างเต็มที่ สัม
แม้เขาจะจดจำเธอไม่ได้ แต่เธอจดจำเขาได้เป็นอย่างดี รุ่นพี่โกษิต...ตั้งแต่สมัยที่เธอเรียนมัธยม พี่เกรทคือคนที่โดดเด่นและอยู่ในแสงสว่างเสมอ ทุกคราวที่เขายิ้มราวกับมีแสงสว่างเจิดจ้าโอบล้อมตัวของเขาเอาไว้ สำหรับเธอต่อให้ชื่อพราว...แต่เธอกลับไม่พราวสักอย่าง มีแต่มุมมืด และความหมองหม่น ความมั่นใจคือสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัส สิ่งเดียวที่เธอสามารถอยู่ใกล้เขาได้ อาจจะเป็นเพียงดอกกุหลาบในวันแห่งความรักที่ฝากเพื่อนของเธอไป โดยที่ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นมันจะอยู่ในห้องของเขา หรือว่าถังขยะกันแน่แค่ได้เป็นผู้ให้ มันก็พอแล้วทั้งสองจากกันไปหลังจากเรียนจบม.ปลาย เธอได้เจอกับเพื่อนและสังคมใหม่ ๆ เข้าใจในเรื่องการดูแลตัวเอง ปรับตรงนั้น ปรุงตรงนี้ และแต่งตรงโน้น จนสุดท้ายแล้ว การรักตัวเองก็ทำให้เธอกลายเป็นสาวที่มีเสน่ห์และโดดเด่นขึ้นมาในสายตาผู้คน จนถูกทาบทามให้ได้ไปร่วมงาน ณ ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับ VVIP ในฐานะของเกอิชาผู้เป็นเสมือนจานอาหารแห่งศิลปะ“วันนี้ลูกค้าเป็นระดับสุดยอด เธอตองทำทุกอย่างให้ถูกใจ ค่าตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน”นั่นคือคำสั่งที่เธอได้รับมา เธอไม่เคยเลยสักครั้งที่จะพลีกายให้ใครง่าย ๆ กระทั่งได้รู้ว่
ร่างกายของพราวถูกประคองขึ้นมาก่อนเชยคางจูบอย่างเร่าร้อน คราวนี้ไม่มีใครยอมใคร ต่างแลกเปลี่ยนลมหายใจที่ครวญใคร่ให้กันและกันไม่รู้จบ โกษิตอุ้มเธอขึ้นมาแล้วจูบกันอย่างต่อเนื่อง พาเธอไปยังห้องนอนของเขา เธอสมควรได้รับการต้อนรับมากกว่าโซฟาเขาวางร่างหญิงสาวลงอย่างอ่อนโยน ถอดกางเกงของเธอออกไป แหวกเรียวขาขาวนวลแยกกว้าง กลีบสวาทสีหวานคงร่ำร้องหาเขาจวนเจียนจะขาดใจ ซุกหน้าลงไปแล้วเริ่มตวัดเลียไล้ลิ้มรสหวานที่แสนพรั่งพรูนั้นทันที“อ๊ะ อ๊า อ๊า...พะ...พี่คะ พี่...อื๊ออออ”โกษิตหยุด เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มกว้าง “เรียกอีกสิ...เรียกพี่อีก...พี่เกรท เรียกชื่อพี่”“อ๊ะ อ๊า...สะเสียว พี่เกรท เสียว...อื๊ออออ...” สองมือจิกทึ้งเส้นผม เอวคอดยกสูง บิดเร่าไปมาเหมือนลมหายใจจะขาดหาย ร่างกายกำลังถูกกระชากวิญญาณ ตัวตนให้หลุดลอย “พี่เกรท...หนู สะ เสียว...อ๊ายยย”สองนิ้วแหวกกลีบสวยแทรกเข้าไปในร่องรัก หงายมือแล้วงัดขึ้นก่อนเริ่มขยับเข้าออก ทั้งเสียดสี ทั้งคว้าน มอบความซาบซ่านให้หญิงสาวผู้ถูกปรนเปรอจนดีดดิ้นทุรนทุรายไปมา สองมือคว้าจับผ้าปูที่นอนจนยับย่น ความสุขสมที่ไม่อาจอธิบายได้ส่งผ่านมาทางเสียงร้องหวานใส น้ำสวาทเยิ้มปริ
“หนูอยู่ตรงนี้ไง...”เธอชี้ไปยังรูปถ่ายในวันปัจฉิมนิเทศน์ที่ยังคงเก็บเอาไว้ แพรพราวหลบอยู่ด้านหลังเพื่อน แม้ว่าภาพมันจะเก่าไปแล้วก็ตาม แต่สายตาของเธอนั้นก็ยังคงแอบมองไปที่โกษิตซึ่งยืนอยู่ส่วนตรงกลาง กระทั่งตอนนั้น เขาก็ยังคงเหมือนผู้ชายที่มีแสงสว่างส่องถึงอยู่เสมอโกษิตกระชับมือของเธอ ระหว่างที่เดินเลียบชายหาดไปด้วยกันแม้จะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาชัด ๆ แต่นี่ก็สี่เดือนแล้ว หลังจากมื้อค่ำสุด VVIP ที่ร้านอาหารแห่งนั้น“นี่...ทำแบบนั้นกับลูกค้าทุกคนหรือเปล่า?”“พี่เกรท...หนูอ่อยแค่พี่เกรทเท่านั้นแหละ กับลูกค้าคนอื่นหนูนอนเฉย ๆ จริง ๆ” เธอแก้ตัว “ไม่เคยให้ใครถูกตัวเลยนะคะ มันเป็นกฎ”“แต่คนอื่นก็เห็น...”เธอเงียบ “เดี๋ยวรอบหน้าหนูจะบอกให้เชฟเอาใบชิโสะปิดไว้ หนูจะไม่ให้ใครเห็นนอกจากพี่เกรทคนเดียว”แพรพราวเดินเข้าประชิด กอดแขนพี่เกรทของเธอเอาไว้แนบแน่น“ถ้าไม่ติดว่าเป็นงานนะ พี่ไม่ให้ทำจริง ๆ ด้วย” โกษิตชำเลืองมอง “งั้น...วันนี้แต่งหน้าเกอิชานอนรอพี่บนเตียงเลยนะ”“พี่เกรท...ไม่เอา หนูเขิน”“พี่หยอก...แต่ คบกับพี่นะ”“......”“อันนี้พูดจริง” เขายักคิ้ว ชะโงกมองดูเธอที่กำลังเขินจนหน้าแดงก่ำ ไม่ต่า