เธอปรายตามองเขา ทัดผมข้างหนึ่งที่ใบหูแล้วก้มลงทันที จับส่วนที่ถูกรูดเอาไว้ที่ส่วนโคน ปลายลิ้นพลิ้วไหวระริกปลุกเร้าอย่างถี่รัวที่รูเสียวส่วนปลาย ลากวนไล้ไปรอบ ๆ รอยหยัก ลิ้นที่ดูช่ำชองค่อย ๆ ลามเลียลงมาตรงส่วนลำ ลากลงไปจนถึงลูกบอลกลมกลึงเคียงคู่ เธอครอบริมฝีปากลงไปแล้วดูดดุนสลับซ้ายทีขวาทีจนแผ่นหลังของโกษิตไม่อาจจะแนบติดโซฟาได้อีกต่อไป“อืออออ...”สองขาของเขาถูกจับถ่างออก ลิ้นร้อน ๆ ซอกซอนไปที่ร่องขาอย่างดุเดือด เธอทำให้เขาถึงกับสั่นสะท้านเพียงการใช้ลิ้น ยกเอวของชายหนุ่มที่กำยำขึ้นมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ในขณะที่มืออีกข้างก็รูดรั้งชักขึ้นลงไม่ขาดสาย ก่อนเรียวลิ้นของเธอที่ดุจดั่งสรวงสวรรค์จะค่อย ๆ ลากกลับจนถึงส่วนยอดเพื่อครอบริมฝีปากลงไปอีกครั้ง“อ๊ะ อา...ดี...ซี้ดดดด...โคตรดีเลย อืมมม”เสียงหยาบโลนจากการดูดดุนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เธอดูดกินลำกายของเขาไม่หยุดหย่อน ฝ่ามือพลางกระตุ้นไปทั่วจุดกระสันของชายหนุ่มจนเขาเองที่เป็นฝ่ายดีดดิ้นแล้วในคราวนี้ สัมผัสที่ลื่นไหลและซอกซอนนั้นทำให้รอยยิ้มอย่างสุขสมยกขึ้นมา โกษิตแหงนหน้าขึ้นแล้วหลับตาพริ้ม เกร็งร่างกายเพื่อรับความหฤหรรษ์นั้นอย่างเต็มที่ สัม
แม้เขาจะจดจำเธอไม่ได้ แต่เธอจดจำเขาได้เป็นอย่างดี รุ่นพี่โกษิต...ตั้งแต่สมัยที่เธอเรียนมัธยม พี่เกรทคือคนที่โดดเด่นและอยู่ในแสงสว่างเสมอ ทุกคราวที่เขายิ้มราวกับมีแสงสว่างเจิดจ้าโอบล้อมตัวของเขาเอาไว้ สำหรับเธอต่อให้ชื่อพราว...แต่เธอกลับไม่พราวสักอย่าง มีแต่มุมมืด และความหมองหม่น ความมั่นใจคือสิ่งที่เธอไม่เคยสัมผัส สิ่งเดียวที่เธอสามารถอยู่ใกล้เขาได้ อาจจะเป็นเพียงดอกกุหลาบในวันแห่งความรักที่ฝากเพื่อนของเธอไป โดยที่ไม่รู้ว่าหลังจากนั้นมันจะอยู่ในห้องของเขา หรือว่าถังขยะกันแน่แค่ได้เป็นผู้ให้ มันก็พอแล้วทั้งสองจากกันไปหลังจากเรียนจบม.ปลาย เธอได้เจอกับเพื่อนและสังคมใหม่ ๆ เข้าใจในเรื่องการดูแลตัวเอง ปรับตรงนั้น ปรุงตรงนี้ และแต่งตรงโน้น จนสุดท้ายแล้ว การรักตัวเองก็ทำให้เธอกลายเป็นสาวที่มีเสน่ห์และโดดเด่นขึ้นมาในสายตาผู้คน จนถูกทาบทามให้ได้ไปร่วมงาน ณ ร้านอาหารญี่ปุ่นระดับ VVIP ในฐานะของเกอิชาผู้เป็นเสมือนจานอาหารแห่งศิลปะ“วันนี้ลูกค้าเป็นระดับสุดยอด เธอตองทำทุกอย่างให้ถูกใจ ค่าตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน”นั่นคือคำสั่งที่เธอได้รับมา เธอไม่เคยเลยสักครั้งที่จะพลีกายให้ใครง่าย ๆ กระทั่งได้รู้ว่
ร่างกายของพราวถูกประคองขึ้นมาก่อนเชยคางจูบอย่างเร่าร้อน คราวนี้ไม่มีใครยอมใคร ต่างแลกเปลี่ยนลมหายใจที่ครวญใคร่ให้กันและกันไม่รู้จบ โกษิตอุ้มเธอขึ้นมาแล้วจูบกันอย่างต่อเนื่อง พาเธอไปยังห้องนอนของเขา เธอสมควรได้รับการต้อนรับมากกว่าโซฟาเขาวางร่างหญิงสาวลงอย่างอ่อนโยน ถอดกางเกงของเธอออกไป แหวกเรียวขาขาวนวลแยกกว้าง กลีบสวาทสีหวานคงร่ำร้องหาเขาจวนเจียนจะขาดใจ ซุกหน้าลงไปแล้วเริ่มตวัดเลียไล้ลิ้มรสหวานที่แสนพรั่งพรูนั้นทันที“อ๊ะ อ๊า อ๊า...พะ...พี่คะ พี่...อื๊ออออ”โกษิตหยุด เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มกว้าง “เรียกอีกสิ...เรียกพี่อีก...พี่เกรท เรียกชื่อพี่”“อ๊ะ อ๊า...สะเสียว พี่เกรท เสียว...อื๊ออออ...” สองมือจิกทึ้งเส้นผม เอวคอดยกสูง บิดเร่าไปมาเหมือนลมหายใจจะขาดหาย ร่างกายกำลังถูกกระชากวิญญาณ ตัวตนให้หลุดลอย “พี่เกรท...หนู สะ เสียว...อ๊ายยย”สองนิ้วแหวกกลีบสวยแทรกเข้าไปในร่องรัก หงายมือแล้วงัดขึ้นก่อนเริ่มขยับเข้าออก ทั้งเสียดสี ทั้งคว้าน มอบความซาบซ่านให้หญิงสาวผู้ถูกปรนเปรอจนดีดดิ้นทุรนทุรายไปมา สองมือคว้าจับผ้าปูที่นอนจนยับย่น ความสุขสมที่ไม่อาจอธิบายได้ส่งผ่านมาทางเสียงร้องหวานใส น้ำสวาทเยิ้มปริ
“หนูอยู่ตรงนี้ไง...”เธอชี้ไปยังรูปถ่ายในวันปัจฉิมนิเทศน์ที่ยังคงเก็บเอาไว้ แพรพราวหลบอยู่ด้านหลังเพื่อน แม้ว่าภาพมันจะเก่าไปแล้วก็ตาม แต่สายตาของเธอนั้นก็ยังคงแอบมองไปที่โกษิตซึ่งยืนอยู่ส่วนตรงกลาง กระทั่งตอนนั้น เขาก็ยังคงเหมือนผู้ชายที่มีแสงสว่างส่องถึงอยู่เสมอโกษิตกระชับมือของเธอ ระหว่างที่เดินเลียบชายหาดไปด้วยกันแม้จะไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาชัด ๆ แต่นี่ก็สี่เดือนแล้ว หลังจากมื้อค่ำสุด VVIP ที่ร้านอาหารแห่งนั้น“นี่...ทำแบบนั้นกับลูกค้าทุกคนหรือเปล่า?”“พี่เกรท...หนูอ่อยแค่พี่เกรทเท่านั้นแหละ กับลูกค้าคนอื่นหนูนอนเฉย ๆ จริง ๆ” เธอแก้ตัว “ไม่เคยให้ใครถูกตัวเลยนะคะ มันเป็นกฎ”“แต่คนอื่นก็เห็น...”เธอเงียบ “เดี๋ยวรอบหน้าหนูจะบอกให้เชฟเอาใบชิโสะปิดไว้ หนูจะไม่ให้ใครเห็นนอกจากพี่เกรทคนเดียว”แพรพราวเดินเข้าประชิด กอดแขนพี่เกรทของเธอเอาไว้แนบแน่น“ถ้าไม่ติดว่าเป็นงานนะ พี่ไม่ให้ทำจริง ๆ ด้วย” โกษิตชำเลืองมอง “งั้น...วันนี้แต่งหน้าเกอิชานอนรอพี่บนเตียงเลยนะ”“พี่เกรท...ไม่เอา หนูเขิน”“พี่หยอก...แต่ คบกับพี่นะ”“......”“อันนี้พูดจริง” เขายักคิ้ว ชะโงกมองดูเธอที่กำลังเขินจนหน้าแดงก่ำ ไม่ต่า
นี่หรือคือรางวัลที่ใคร่ควรได้รับ...ความพยายาที่เพียรสร้างผลงานจนแทบจัดสรรเวลานอนให้กับตัวเองไม่ได้ สุขภาพที่เสียไป อีกทั้งความเหนื่อยล้าอันหนักหน่วงที่โหมกระหน่ำใส่เขาราวคลื่นยักษ์ตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา โปรเจกต์งานระหว่างประเทศได้รับผลการตอบรับเป็นอย่างดี และทั้งหมด มีเพียงชายหนุ่มที่ฝ่าฝันจนมายืนอยู่ในจุดสูงสุดของความสำเร็จนี้ได้ ท่ามกลางผู้คนมากมายที่ล้อมหายไประหว่างทาง...ทำได้แล้วนะโกษิตชายหนุ่มยังคงตื่นเต้นกับเม็ดเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีเมื่อเช้าไม่หาย เขาอยากจะกรีดร้องออกมาด้วยความสาแก่ใจและเย้ยหยันผู้คนที่เคยเรียกว่า ‘ทีม’ ในแบบที่ต่อให้จะโดนเกลียดก็ช่างปะไร เงินหกหลักอยู่กับเขา ทั้งชีวิตนี้โกษิตไม่เคยมีเงินเก็บขนาดนี้มาก่อน“เย็นนี้ผมมีรางวัลที่คุณควรคู่ ทานข้าวกับผมนะ”คำชวนจากท่านประธาน มินาโตะ ทาเคดะ ทำให้เขาน้อมรับอย่างเต็มใจ ก่อนรถหรูจะมาจอดรอเขาที่หน้าบริษัทในช่วงเวลาเลิกงาน และพามายังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยตึกสูงระฟ้าใจกลางเมืองคือปลายทาง เพียงแหงนมองก็เหมือนจะถูกความตระหง่านโถมทับ ที่ซึ่งไม่น่าจะมีร้านอาหารมาเปิดบริการอยู่ในตึกนี้ โกษิตละล้าละลัง ทำตัวไม่ถูกขณะก้า
บานประตูจากผนังอีกด้านเปิดขึ้นมา ชายผู้สวมชุดเชฟในรูปแบบคุ้นตาตามร้านอาหารญี่ปุ่นสีขาวสะอาดสะอ้านเดินออกมาแล้วนั่งลงที่ส่วนมุมของโต๊ะกลาง แสงไฟดวงถัดไปสว่างขึ้นเผยให้เห็นโต๊ะไม้ขนาดเล็กและเขียงกับมีดสีเงินยวงคมกริบวางคู่ถังไม้ที่วางอยู่แต่แรกถูกเปิดออกพร้อมกับควันและกลิ่นข้าวร้อน ๆ หอมกรุ่นโชยคลุ้ง ถาดวัตถุดิบเลอค่าถูกยกตามมาอีกครั้งแล้ววางตรง โกษิตมองดูเชฟคนนั้นแสดงลวดลายการปั้นข้าวซูชิที่สุดช่ำชองอย่างตื่นตา เพิ่งเคยเห็นว่าปลายนิ้วและฝ่ามือทั้งสองต้องทำงานประสานกันเพียงใด ก่อนจะเริ่มวางชิ้นซูชินั้นลงบนใบไผ่พร้อมเสิร์ฟมันบนเรือนร่างของเกอิชาสาวตรงหน้าอย่างแช่มช้า...คำแล้ว คำเล่าโกษิตกลืนน้ำลายจนลำคอแห้งผาก แต่เขาไม่ได้หิวเลยแม้แต่น้อย สายตายังคงมองดูลมหายใจของนางเกอิชาตรงหน้าอย่างไม่ละลด ทุกครั้งที่อาหารถูกวางลงปิดเร้นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย ใจชักอยากจะคีบมันมาจัดการให้สิ้นซาก เพื่อไม่ให้มีส่วนใดบดบังความงามตรงหน้าได้อีกซูชิแซลมอนตรงหน้าท้อง เคียงกันเป็นอูนิคุณภาพสูงราคาแพงลิบ พร้อมกับทูน่าทั้งสามส่วน อากามิ ชูโทโร่ และโอโทโร่“ที่คุณเห็น มันคือวัฒนธรรมการกินของชาวญี่ปุ่น เป็นกา
“ดะ ได้ ครับ...เอ่อ...” ให้ตาย...ไม่เหลือคราบสุภาพบุรุษไว้แม้แต่น้อย “ได้ไหมด...เลย เหรอครับ?”มุมปากยกสูงขึ้น หญิงสาวหยัดกายนั่ง ดอกไม้ประดับร่วงหล่นเรี่ยพื้น เต้าถันตึงเต่งเป็นทรงสวยไม่ต่างจากหยดน้ำที่พรมกาย เอวบางร่างน้อย ส่วนเว้าโค้งทั้งหมดชัดแจ่ม เธอไม่ได้เพียงลุกขึ้นนั่งเท่านั้น มือวางทิ้งน้ำหนักลงโต๊ะแล้วหันมาหาโกษิต สองขาที่มีอาหารวางอยู่หมุนคล้อย ขาค่อย ๆ แยกออกทีละข้าง กว้างพอที่จะได้เห็นความสวยงามของร่องสวาทนั้นเต็มตา ร่างกายปะทะกันในระยะเอื้อมถึง“ทุกอย่างที่ปรารถนาค่ะ” เธอเอ่ย ยกมือขึ้นมาไล้ลูบเรือนกาย กรีดกรายปลายนิ้วละเลียดผิวให้ได้เห็นถึงความเย้ายวน แทรกลงที่ระหว่างเนินอก ไต่ลงไปที่หน้าท้องจนกระทั่งถึงเกสรซ่านเสียวที่โดดเด่นส่วนยอก ไล้นิ้ววนไปพร้อมส่งเสียงระริกเพรียก “อืม...ได้หมดเลยค่ะ”สองขายิ่งอ้ากว้าง นิ้ววาดลงไปตามแนวร่องรักอันแสนชุ่มฉ่ำแล้วแหวกออก กลีบสวาทสีหวานเบ่งบาน โพรงสยิวเริ่มปรากฏหยาดน้ำผึ้งสีหวานเยิ้มปริ่ม มือของเธอไหววน แยกไม่ออกแล้วว่าเพราะความเสียวซ่านหรือเพราะอากาศที่ทำให้ร่างกายของเธอกระตุกเช่นนั้นแข็งจน...จะออกมาข้างนอกอยู่แล้ว ท่านประธานทำอะไรกับเ
เพียงเอ่ยคำนั้น มือที่กอบกุมก็กำแน่นแล้วรูดชักขึ้นลงถี่รัว เนื้อตัวของโกษิตกระตุกวูบ เธอก้มลงไปแล้วเริ่มใช้ปลายลิ้นเลียรอบ ๆ ส่วนปลาย ดุนไปที่รอยหยักอย่างแช่มช้า ดื่มกินของเหลวแห่งความใคร่ที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุดหย่อน ก่อนครอบริมฝีปากลงไปครอบครองความเป็นชายอันชูชัน“ซี้ดดดด...ดี อา...” เสียงทุ้มพร่าคราง “ดีเลย...”เสียงสัมผัสอันหยาบโลนดังขึ้นเบา ๆ เมื่อเธอเริ่มขยับใบหน้ากดลึกลงไปถึงกลางลำ แรงดูดรุนแรงจนสองขาของโกษิตอ้ากว้างช้า ๆ ลิ้นร้อนในปากว่ายวนอย่างพลิ้วไหวและหนักหน่วงพลางขยับขึ้นลงถี่รัวท่าทีของเกอิชาสาวบัดนี้ไร้ความเหนียมอาย เธอกลืนกินลำกายของเขาอย่างหิวกระหาย ทั้งดูดทั้งเลียสลับกันไปมาจนโกษิตไม่อาจจะนั่งนิ่ง ๆ มองเธอกระทำต่อเขาเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป มือเอื้อมปลดเข็มขัดอย่างรีบร้อน สถานการณ์พลิกผันไปจนหมดสิ้น ยกตัวขึ้นมาแล้วกระชากกางเกงลงไปกองกับปลายเท้า“อา...ลึกอีก ลึกลงไปอีกสิ...ผมยังไม่สุดแค่นี้นะครับ” พูดพลางจับที่นั่งไว้แน่นแล้วโยกสะโพกพลิ้วไหวดันแก่นกายเข้าไปในปากของเธอที่ยังคงดูดดุนไม่ลดละ ยิ่งเร็วขึ้นเท่าไหร่ เสียงครางในลำคอของอีกฝ่ายก็ยิ่งดังขึ้นเท่านั้น “อา...เสียว ด