ร่างหนากลายเป็นที่พักพิงแอบอิงให้แม่แมวน้อยคออ่อนที่เมามายนอนหลับตาพริ้มไม่ได้สติ ตั้งแต่ขึ้นรถมา เขาเหลือบไปมองใบหน้าหวานก่อนที่จะใช้นิ้วเรียวยาวของตนเกลี่ยปอยผมที่ปกคลุมบดบังใบหน้าหวานอยู่ แม้ในยามหลับใหลแม่สาวน้อยก็ยังดูสวยและน่าเอ็นดูในสายตาของเขา เขาไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนแบบเธอมาก่อน ทั้งยังพาเธอขึ้นเตียงครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ที่สำคัญเขาไม่สามารถที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนไหนได้อีกเลยนอกจากเธอคนนี้คนเดียว
“กลับคอนโดใช่ไหมครับคุณชาย” เสียงจางหลงเอ่ยถามขึ้นขัดจังหวะความคิดของเจ้านายหนุ่ม “อืม....” เสียงเย็นชาตอบกลับไปเพียงเท่านั้นก่อนที่จะหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูออกมาจากกระเป๋าเพราะมีข้อความเข้าจากต้าฉินบอดี้การ์ดมือขวา งานที่สั่งเรียบร้อยครับคุณชาย (รูปถ่ายของนักเที่ยวชายในสภาพที่ทนดูแทบไม่ได้)ซือมู่อัน ดีมาก แล้วพนักงานของบริษัทเราล่ะกลับกันหมดหรือยังบอดี้การ์ดมือขวา ยังครับ ยังคงดื่มกันต่อซือมู่อัน ฝากดูแลหน่อยนะ เลี้ยงให้เต็มที่บอดี้การ์ดมือขวา รับทราบครับคุณชายซือมู่อันวางหลิวถิงถิงลงก่อนที่จะหมุนร่างบางให้หันหลังให้เขา มือบางของเธอค้ำยันกับผนังห้องน้ำไว้ ก่อนที่เขาจะส่งแท่งเอ็นอุ่นร้อนของตนเข้าไปในช่องทางรักที่ยังคงคับแคบจากทางด้านหลังอีกครั้ง มือหนาทั้งสองข้างจับสะโพกกลมกลึงของสาวสวยตรงหน้าเอาไว้แน่น ก่อนที่สะโพกสอบของตนจะทำหน้าที่ส่งแท่งเอ็นอุ่นร้อนเข้าไปสำรวจภายในถ้ำงามอย่างช้าๆ และเริ่มกดสะโพกเร่งขึ้นให้เป็นจังหวะหนักหน่วงในเวลาต่อมาจนร่างบางสั่นสะท้านทั้งสองร่างเกร็งกระตุกพร้อมกัน ความอุ่นร้อนจากน้ำรักถูกฉีดพุ่งเข้าไปในโพรงสวาทของหญิงสาวทุกหยาดหยด ตอนนี้อารมณ์ใคร่ที่เกิดขึ้นมันทำให้ความยับยั้งชั่งใจหมดสิ้นเสียแล้ว .ซือมู่อันค่อยๆ ดึงแท่งเอ็นที่เพิ่งจะเสร็จบทสวาทไปแล้วเมื่อครู่ออกจากช่องทางรักของหลิวถิงถิงอย่างช้าๆ ขาเรียวสั่นระริกหากไม่ได้เขากอบกุมโอบอุ้มร่างบางของเธอเอาไว้ในวงแขนล่ำ เธอคงจะทรุดลงไปกองกับพื้น เขากดครีมอาบน้ำก่อนที่จะถูไถและลูบไล้ไปตามร่างกายให้กับเธออย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งสระผมให้หญิงสาวเช่นกัน ความเงียบเกิดจากเหตุการณ์ร่วมรักก่อนหน้า เขาไม่ได้ป้องกันและเขาก็ปลดปล่อยข้างใน ซือมู่อันรู้ดีแต่เขากลับไม่ได้รู้สึกเส
หลังจากที่ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำสักพัก ร่างบางในชุดคลุมตัวโคร่งก็เดินออกมา ใบหน้าหวานปราศจากเครื่องสำอางมีหยดน้ำเกาะอยู่ เท้าเล็กพาขาเรียวก้าวไปยังตู้เสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าของเธออยู่บางส่วนโดยคุณชายซือเป็นคนที่ซื้อมาเตรียมเอาไว้ให้ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมานอนค้างอ้างแรมกับเขา ร่างหนากำลังนั่งสง่าอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คราคาแพง บนใบหน้ามีแว่นตาสีใสคอยบดบังดวงตาคมกล้าเอาไว้ เขาได้ยินเสียงหญิงสาวที่อยู่ภายในห้องนอนเดินออกมา ก่อนที่จะเดินตรงไปยังประตู ร่างหนาผุดลุกขึ้นก่อนที่จะก้าวเข้าไปถึงตัวเธออย่างรวดเร็ว “จะไปไหนถิงถิง” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น “อ่ะ...เอ่อ... คือดิฉันจะไปร้านขายยาน่ะค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามตรง ด้วยเห็นว่าเขาอาจจะเห็นดีกับเธอด้วย เพราะเรื่องเมื่อคืนมันเกิดขึ้นมาจากความใคร่ล้วนๆ “ทำไมต้องไปร้านขายยา ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” มือหนาถูกวางลงไปบนหน้าผากมนของคนตัวเล็กกว่า หลิวถิงถิงจะถอยหลังหนีหากแต่โดนมือหนาอีกข้างรั้งร่างบางของเธอเอาไว้อยู่ “ก่ะ..ก็เรื่องเมื่อคืนยังไงล่ะคะ” ใบหน้าหวานแดงก่ำขึ้นมาทันทีที่เธอต้องเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน “เมื่อคืน.... เมื่อคืนทำไม” ชายหนุ่ม
หลิวถิงถิงกลับมาที่หอพักของมหาวิทยาลัยทีหลังเพื่อนสนิทอีกสองคน และแน่นอนพอมาถึงเธอก็โดนซักไซ้ไล่เลียงทันทีจากการไม่รับสายเพื่อนเกินกว่าสิบสาย “ถิงถิง ไปไหนมาน่ะ ฉันโทรหาเธอเกือบจะยี่สิบสายอยู่ละ” จ้าวซือซือบ่นออกมาให้เพื่อนสาวคนสวยที่เพิ่งจะเปิดประตูเข้ามาในห้อง “อ่ะ..เอ่อ คือ...ไปทำธุระข้างนอกมาน่ะ” หลิวถิงถิงเลือกที่จะไม่พูดความจริงกับเพื่อน สองสาวเหล่ตามองเธอก่อนที่จะเอ่ยประโยคที่น่าตกใจขึ้น “แล้วที่เขามีข่าวว่าคุณชายซือหิ้วเธอออกไปจากคลับเมื่อคืนล่ะเธอจะว่าไง” ร่างระหงหยุดชะงักก่อนที่จะหันมามองหน้าเพื่อนสนิทสาว “มีคนเห็นอย่างนั้นเหรอ เอ่อ..คือเมื่อคืนน่ะฉันไปงานเลี้ยงส่งกับพี่ๆ ในแผนกที่บริษัท และพอดีคลับที่ไปเป็นของท่านประธาน เอ่อ คุณชายซือน่ะ เขาเห็นฉันเมาเลยพากลับไปส่งไง” เสียงหวานตอบอ้อมแอ้ม “กลับมาส่งไหนยะ แล้วขอถามหน่อยตลอดระยะเวลาที่พวกฉันสองคนไม่อยู่เธอไปพักที่ไหน ฉันถามป้าที่หอพักแล้ว เขาบอกว่าเธอไม่ค่อยกลับมานอนที่หอเลย” คำถามของเพื่อนสนิทสาวทำเอาหลิวถิงถิงอ้าปากค้าง ร่างบางสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนที่จะเดินไปนั่งลงแล้วตัดสินใจเล่าความจริงเรื่องของเธอกับ
หลังจากวันนั้นหลิวถิงถิงก็ยุ่งวุ่นวายกับการทำโปรเจคจบกับเพื่อนๆ จนลืมนึกถึงเรื่องที่เขาไม่ได้ป้องกัน เธอหลงลืมไปและไม่กังวลใจอะไรก็เพราะเขาเป็นคนบอกเธอเองว่า ‘เขาเป็นหมัน’ หญิงสาวทำโปรเจ็คจบหามรุ่งหามค่ำ ดีที่ซือมู่อันเข้าใจและไม่เรียกหาเธอ ทั้งๆ ที่ใจเขานั้นคิดถึงร่างกายหอมๆ ของเธอแทบขาด “เย้ ในที่สุดโปรเจคจบของฉันก็ผ่านสักที” เสียงหวานเอ่ยออกมาด้วยความดีใจที่ความพยายามของเธอตลอดหลายวันที่ผ่านมาสำเร็จ “ฉันก็ผ่านแล้วเหมือนกัน” เฉินเหม่ยหานเอ่ยออกมาบ้าง “เธอล่ะซือซือ แต่ฉันว่าเธอไม่น่าจะพลาด” หลิวถิงถิงเอ่ยถามเพื่อนสนิทก่อนที่จะเอ่ยออกมาอย่างรู้ทัน “ถ่ะ..ถูกต้องนะค้า...... วันนี้เราไปฉลองกัน ฉันอยากกินสุกี้หม้อไฟกับหม่าล่าเผ็ดๆ” สาวสวยดีกรีนักแสดงหญิงคนใหม่ของวงการบันเทิงเมืองแอลเอ่ยชวนขึ้นอย่างตื่นเต้น“เออ แล้วนี่เธอไม่ได้เจอกับคุณชายซือมานานแค่ไหนแล้วเนี่ย เขารู้หรือยังว่าเธอทำโปรเจ็คจบผ่านแล้ว” จ้าวซือซือเอ่ยถามเพื่อนด้วยความสงสัย เพราะเห็นพักหลังๆ มาเพื่อนสนิทคนสวยก็เอาแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับโปรเจคจบของตนเองจนไม่ได้ติดต่อกับผู้อุปการะเลย “ก็มีทักมาถามบ้างนั่นแหละ เขาบอกอ
มื้ออาหารฉลองเรียนจบผ่านไปอย่างสนุกสนาน กลุ่มของฟางอี้หลงกลับไปก่อนกลุ่มของหลิวถิงถิง สามสาวลองดื่มเบียร์ยี่ห้อหนึ่งที่ผลิตขึ้นจากผลไม้ จ้าวซือซือดูจะชำนาญและดื่มเก่งที่สุด ส่วนคนที่คออ่อนที่สุดน่าจะเป็นเฉินเหม่ยหาน เพราะเธอเริ่มพูดคุยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ตั้งแต่หมดไปกระป๋องที่สามแล้ว สามสาวจึงพากันกลับหอพัก หากแต่หลิวถิงถิงนั้นมีคนของคุณชายซือมารอรับอยู่ที่หน้าร้าน เธอจึงบอกให้เพื่อนทั้งสองกลับไปก่อนเพราะเธอคงจะต้องไปคุยกับเขาให้เข้าใจว่าเธอกำลังจะไปทำงานที่เมืองอื่นหลังจากเรียนจบ รถตู้คันหรูติดฟิล์มสีดำเคลื่อนเข้าไปจอดที่คอนโดหรู สถานที่ประจำที่เธอมาบ่อยๆ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา หญิงสาวมองไปรอบๆ ราวกับต้องการที่จะจดจำเอาไว้เป็นครั้งสุดท้าย จางหลงที่เดินมาส่งเธอก็มองอาการคนสำคัญของคุณชายด้วยความแปลกใจ เพราะปกติเวลาที่เธอมา เธอไม่เคยที่จะอ้อยอิ่งหรือสำรวจสถานที่นานเหมือนวันนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป “สวัสดีค่ะคุณชายซือ” เสียงหวานเอ่ยทักทายชายหนุ่มรูปงามที่กำลังนั่งจิบไวน์รอเธออยู่อย่างใจเย็น “มานั่งนี่สิ” เขาใช้มือหนาตบลงบนที่นั่งข้างกาย ขาเรียวพาร่างระหงเยื้องย่างเข้าไปหาชา
และแล้ววันรับปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัยแอลรุ่นของหลิวถิงถิงก็มาถึง สามสาวนั้นรวบผมขึ้นพร้อมกับแต่งหน้าจางๆ มองแล้วดูสวยงามทุกคนจนหนุ่มๆ อดที่จะเหลียวหลังมองตามไม่ได้ ส่วนสาวๆ ที่หมั่นไส้ในทีก็มองมาด้วยความอิจฉาแก๊งนางฟ้าหัวใจเย็นชาที่ไม่เคยมีข่าวว่าคบกับผู้ชายคนไหนเลยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา และวันนี้คนที่ไม่คาดคิดว่าจะมาก็มา “สวัสดีสาวๆ สบายดีกันนะ พี่ขอแสดงความยินดีด้วยที่เรียนจบกันเสียที” เสียงทุ้มดังมาจากหนุ่มรูปหล่อร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีขาวดำ “อ้าว สวัสดีค่ะพี่เจียอี พวกเราสบายดีค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่มา ว่าแต่ไม่เจอกันนานเลย พี่เจียอีสบายดีนะคะ” เป็นหลิวถิงถิงที่เอ่ยทักขึ้นตามแบบของคนที่มีอัธยาศัยและจิตใจดีก่อนที่จะมองไปยังเพื่อนสาวคนสนิท“พี่ทำงานอยู่ที่ไหนคะตอนนี้” เสียงหวานของเฉินเหม่ยหานเอ่ยถามขึ้นบ้าง“ก็บริษัทอสังหาริมทรัพย์ย่านกลางเมืองนั่นแหละ พอดีตอนนี้พี่ได้เป็นหัวหน้าวิศวกรที่นั่นแล้วล่ะ” หลินเจียอีตอบออกมาอย่างภูมิใจก่อนที่จะมองไปท่ใบหน้าสวยเฉี่ยวของหญิงสาวที่เขาตกหลุมรักเธอมานานหลายปีจนป่
“ว่าไง เธอมีแฟนมาก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็คงจะเครียดแหละ แต่เท่าที่สังเกตตั้งแต่เธออยู่กับฉันมาเกือบสองอาทิตย์ ฉันเห็นเธอกินเก่งมากเลยนะ ดูเหมือนเธอจะหิวตลอด แล้วก็ชอบกินพวกของเปรี้ยวๆ บ่อยๆ ด้วย จนฉันอดที่จะคิดไปไม่ได้ว่าเธอกำลังจะมีน้อง” ด้วยความช่างสังเกตแต่เพราะยังไม่สนิทเลยไม่กล้าที่จะเอ่ยถามออกมา แต่ตอนนี้ทั้งเธอและเพื่อนใหม่เริ่มที่จะสนิทกันแล้วจึงไม่ยากที่จะถามด้วยความเป็นห่วง “ฉัน...ไม่เคยมีแฟนหรอก” เธอตอบเพื่อนใหม่ตามความจริง แต่เลือกที่จะปิดบังว่าเธอเคยนอนกับใครมา “ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเป็นเพราะเครียดกับพักผ่อนน้อยแหละ วันนี้เธอไม่ได้ไปทำงานใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนต่อเถอะ ฉันจะไปทำงานก่อนล่ะ พรุ่งนี้ได้ข่าวว่าพี่ชายท่านประธานมาจากต่างเมืองด้วยนะ หล่อระเบิดเลยแหละจะบอกให้ พรุ่งนี้อย่าป่วยล่ะ เดี๋ยวจะพลาดอาหารตาเอาคิกๆ” ลี่หลินเอ่ยออกมาพรางโล่งใจที่เพื่อนสาวคนสวยของเธอไม่ใช่ว่าที่คุณแม่ เพราะเพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือนเลยแถมยังเพิ่งเรียนจบอีกด้วย คงลำบากไม่น้อยถ้าฐานะไม่ดีแล้วต้องมาดูแลเด็กน้อยที่กำลังจะเกิดมา
ทันทีที่รถตู้คันหรูจอดลงบริเวณที่จอดรถวีไอพีของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ร่างหนาสูงโปร่งก็แทบจะปลิวลงจากรถทันที ขายาวๆ ก้าวตรงไปขึ้นลิฟต์เพื่อตรงไปห้องทำงานของท่านประธานทันทีโดยมีสายตาจากสาวๆ ในบริษัทที่มองมาที่เขาอย่างตื่นเต้น แต่คนตัวสูงก็ไม่ได้สนใจสายตาของคนรอบข้างไม่ บอดี้การ์ดทั้งสองผู้ที่คอยทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของคุณชายก็แทบจะเดินแกมวิ่งตามเจ้านายมือหนาเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะ เลขาที่อยู่หน้าห้องที่กำลังจะเอ่ยปากบอกอะไรบางอย่างแก่ผู้มาใหม่ยังไม่ทันได้อ้าปากห้ามเลยด้วยซ้ำ“เห้ย!!! อะไรกันเนี่ยพี่มู่อัน เข้ามาไม่เคาะประตูก่อนเล่า” เสียงทุ้มสบถออกมามือหนาพรางรีบดึงเสื้อเกาะอกของแฟนสาวขึ้นไปอยู่ในสภาพเดิม ใบหน้าหวานของฉินเวยเวยแดงก่ำด้วยความอายพร้อมกับซบลงบนหน้าอกหนั่นแน่นของแฟนหนุ่ม ดีที่เธอหันหลังออกไปทางประตู ผู้มาใหม่อย่างคุณชายซือเลยไม่ทันเห็นอกอวบของตน ฟางถงมองคนมาใหม่อย่างงุนงง ปกติพี่ชายต่างเมืองคนนี้ของเขามักจะมีมารยาทเสมอ วันนี้มาแปลกที่ไม่โทรมาบอกก่อนและยังไม่ให้เลขาหน้าห้องรายงานเขาก่อนที่จะเข้ามาอีก “ขอโทษๆ ขอโท
วงแขนอบอุ่นผละออกจากร่างระหงของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทางพฤตินัยที่เขามาตามหาถึงเมืองนี้ เธอก้าวเดินไปตรงหน้าของมู่หลิน ก่อนที่จะออกคำสั่งให้สองบอดี้การ์ดซ้ายขวาของคุณชายซือให้ประคองเธอขึ้นมา เรื่องอะไรที่สองหนุ่มจะไม่ทำตามคำสั่งของว่าที่คุณนายซือ ทั้งต้าฉินและจางหลงเข้าไปประคองร่างอวบอัดของมู่หลินให้ยืนขึ้น สองเท้าเล็กก้าวเข้าไปใกล้ๆก่อนที่จะทำในสิ่งที่ทุกคนในแผนกไม่คาดคิด แม้แต่ไม่ไยดีอันเองก็ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวตัวน้อยนั้นจะกล้าตบผู้หญิงที่ดูจัดจ้านกว่า “เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!” มือบางฟาดลงบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะอย่างสุดแรงถึงสามทีจึงหยุดมองก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยความพอใจท่ามกลางสีหน้าตกใจของสองบอดี้การ์ด พนักงานทุกคนที่กำลังมองดูเหตุการณ์หรือแม้กระทั่งซือมู่อันหริอแม้แต่หญิงสาวที่เพิ่งถูกกระทำเอง “เป็นไงคะ เวลาที่เราไม่มีทางสู้แล้วโดนกระทำอะไรแบบนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง อย่าคิดว่าลูกน้องทุกคนที่เขายอมคุณเพราะเขารักหรือเคารพในตัวคุณ แต่เพราะเขากลัวที่จะมีปัญหากับคุณจนทำงานที่นี่ไม่ได้มากกว่า แต่ขอโทษนะคะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น!!” เสียงหว
ขณะที่หญิงสาวคู่กรณีกำลังตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่นั้น ทุกคนที่มองดูเหตุการณ์อยู่ก็อดที่จะตกอกตกใจในสิ่งที่หุ้นส่วนคนสำคัญของท่านประธานกำลังกระทำต่อหญิงสาวรุ่นน้องที่เป็นพนักงานใหม่ไม่ได้ ร่างบางระหงของหลิวถิงถิงแทบจะลอยไปแนบอกหนั่นแน่นของหุ้นส่วนหนุ่มที่เป็นที่หมายตาของสาวๆ ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ดวงตากลมโตเบิกค้างอย่างตกใจเช่นกันที่เห็นเขา ตอนที่เห็นสองบอดี้การ์ดเข้ามาช่วยเธอ หญิงสาวก็ว่าช๊อไม่ไยดีแล้ว พอแขนเรียวถูกเขาดึงให้เข้าไปในอ้อมกอดที่อบอุ่นหญิงสาวก็อดที่จะน้ำตารื้นไม่ได้ ด้วยเพราะความคิดถึงที่ต้องจากเขามาเพราะความจำใจ “เป็นอะไรหรือเปล่าหือ ดูสิหน้าแดงเลย” เสียงนุ่มทุ้มไม่เย็นชาเลยสักนิดเอ่ยถามหญิงสาวออกมาพร้อมกับแววตาที่แสดงถึงความเป็นห่วง นิ้วเรียวนั้นลูบไล้ลงบนแก้มนวลที่บวมแดงขึ้นมาเล็กน้อย หลิวถิงถิงน้ำตาไหลออกมาด้วยอารมณ์ของคนที่กำลังมีครรภ์ “แล้วนี่ทำไมต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกันด้วย น้องเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า” เสียงที่เอ่ยออกไปกับบุคคลอื่นเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที วงแขนกว้างยังคงโอบกอดร่างบางของหญิงสาวเอาไว้ไม่ยอมปล่อยทั้งๆ ที่เธอพยายามดันตัวเองออกมาให้หลุดพ้นจากวงแขนอันอ
พนักงานสาวๆ ต่างมองไปที่หุ้นส่วนของท่านประธานเป็นตาเดียวกัน และดูออกได้ไม่ยากว่าสาวๆ คิดอะไรกับเขา ก็เขานั้นทั้งสูง ทั้งหล่อล่ำ หุ่นราวกับเทพบุตรกรีก มู่หลินก็เป็นหนึ่งในนั้นที่แอบหวังในตัวของหุ้นส่วนท่านประธานคนนี้อยู่ไม่น้อย สายตายั่วยวนทอดสะพานไปให้คนข้างหน้าอย่างปิดไม่มิด หากแต่คนบนเวทีนั้นไม่ได้สนใจกับสายตาของสาวๆ เท่าไหร่นัก ดวงตาคมยังคงมองไปรอบๆ ก่อนที่จะกระซิบถามน้องชายต่างเมือง “ถิงถิงไปไหน วันนี้เธอมาทำงานไม่ใช่เหรอ” เสียงเย็นชากระซิบที่ข้างหูของฟางถง “ก็ใช่นะพี่มู่อัน ผมว่าเธอคงไม่ได้มาเข้าประชุมด้วย พี่จะไปดูที่ห้องทำงานไหมล่ะ” ฟางถงกระซิบถามเขากลับเช่นกัน ซือมู่อันจึงพยักหน้าให้เป็นการตอบตกลง “ครับ วันนี้ก็ขอให้ทุกคนทำงานกันอย่างมีความสุข และสนุกกับงานที่ทำด้วยนะครับ แยกย้ายกลับไปทำงานได้ครับ” เสียงเข้มของฟางถงเอ่ยขึ้นก่อนที่สองหนุ่มร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันจะพากันเดินออกจากห้องประชุมไป เสียงพูดคุยกรี๊ดกร๊าดราวกับผึ้งแตกรัง โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่จับกลุ่มพูดคุยกันขณะที่เดินกลับไปทำงานที่แผนก หลิวถิงถิงยังคงไม่ได้สนใจอะไรหรือรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่พวกรุ่นพี่ได้ไปพบเจอก
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสของใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ หลิวถิงถิงตื่นมาอาเจียนตั้งแต่เช้ามืดจนลี่หลินพลอยต้องตื่นนอนแต่เช้าไปด้วย ร่างบางก้มๆ เงยอยู่ที่หน้าคอห่านจนเพื่อนอีกคนต้องเดินเข้ามาถามพร้อมกับลูบหลังให้ “เป็นไงบ้างถิงถิง ไปทำงานไหวไหมเนี่ย” “อืม ไหว เมื่อวานน่าจะทานอาหารเยอะไปหน่อยจนอาหารไม่ย่อย เช้ามาเลยอาเจียนเยอะแบบนี้ ขอโทษนะลี่หลินที่ทำให้เธอต้องตื่นแต่เช้าเลย ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดพักผ่อนของเธอแท้ๆ” หลิวถิงถิงเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด “ไม่เป็นไรหรอก เวลานอนเรามีทั้งวัน ว่าแต่เธอเถอะไปทำงานไหวแน่นะ ถ้าไม่ไหวจะได้โทรไปลาที่ฝ่ายบุคคลให้” ลี่หลินตอบก่อนที่จะเอ่ยถามเพื่อนสาวเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “เป็นไร เราไหวจ้ะ ขอบใจนะ” หลิวถิงถิงลุกขึ้นก่อนที่จะเตรียมตัวอาบน้ำ ลี่หลินจึงเดินออกมาและมองกลับไปด้วยสายตาสงสัย ‘สรุปหลิวถิงถิงไม่เคยมีแฟนมาก่อนแน่เหรอ แต่อาการของเธอเหมือนท้องเลยอะ’ ลี่หลินคิดในใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะคาดคั้นอะไรกับเพื่อนมากเพราะเรื่องบางเรื่องถ้าเพื่อนไม่อยากบอกนั่นแสดงว่าเธอไม่อยากให้รู้ หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวและทานอาหารเช้าเสร็จหลิวถิงถิงก็ไปขึ้นรถเมล์ที่หน
“ไม่ต้องทำหน้าตกใจ มันคือเรื่องจริง ฉันจะมารับเธอกลับเมืองแอล แม่ของฉันอยากเจอเธอ” ซือมู่อันบอกน้องชายที่ทำหน้าประหลาดใจ เขาได้ปรึกษากับมารดาเรื่องของเธอแล้ว มารดาบอกเขาว่าเขารักเธอ ให้เขาลองถามหัวใจตัวเองดู แต่ปากเจ้ากรรมมันดันพูดออกมาไม่ได้ เขาเลยอยากมาเจรจากับเธอเพื่อที่จะให้สถานะที่ไม่เคยให้ใครกับเธอ ยิ่งมารู้ความจริงที่ว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของเขา เขายิ่งมั่นใจ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะตามเมียและลูกกลับไปเมืองแอลกับเขาให้ได้ “แล้วนี่พี่เคยบอกกับเธอหรือยังว่าพี่รู้สึกยังไงกับเธอ ผู้หญิงน่ะ ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าคนที่รักเธอจากหัวใจบอกคำว่ารักให้เธอได้ยินหรอกนะพี่มู่อัน ผมอยากให้พี่บอกความในใจกับเธอ เชื่อผมเถอะ สิ่งที่พี่คิดว่ายากจะง่ายภายในพริบตาเลยล่ะ” ฟางถงเอ่ยถามก่อนที่จะแนะนำตามประสบการณ์ของตนกับฉินเวยเวย ที่ตอนแรกเธอคิดแค่ว่าเขารักสนุกกับเธอ ไม่ได้จริงจังอะไร จนวันที่เขาสารภาพออกมา มันทำให้เธอกล้าเปิดหัวใจและรักเขากลับเช่นกัน “ยังไม่เคยบอก นายก็รู้ว่าฉันมันเย็นชาไร้หัวใจ ฉันเคยรักใครซะที่ไหนกัน” เสียง
ทันทีที่รถตู้คันหรูจอดลงบริเวณที่จอดรถวีไอพีของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ร่างหนาสูงโปร่งก็แทบจะปลิวลงจากรถทันที ขายาวๆ ก้าวตรงไปขึ้นลิฟต์เพื่อตรงไปห้องทำงานของท่านประธานทันทีโดยมีสายตาจากสาวๆ ในบริษัทที่มองมาที่เขาอย่างตื่นเต้น แต่คนตัวสูงก็ไม่ได้สนใจสายตาของคนรอบข้างไม่ บอดี้การ์ดทั้งสองผู้ที่คอยทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของคุณชายก็แทบจะเดินแกมวิ่งตามเจ้านายมือหนาเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะ เลขาที่อยู่หน้าห้องที่กำลังจะเอ่ยปากบอกอะไรบางอย่างแก่ผู้มาใหม่ยังไม่ทันได้อ้าปากห้ามเลยด้วยซ้ำ“เห้ย!!! อะไรกันเนี่ยพี่มู่อัน เข้ามาไม่เคาะประตูก่อนเล่า” เสียงทุ้มสบถออกมามือหนาพรางรีบดึงเสื้อเกาะอกของแฟนสาวขึ้นไปอยู่ในสภาพเดิม ใบหน้าหวานของฉินเวยเวยแดงก่ำด้วยความอายพร้อมกับซบลงบนหน้าอกหนั่นแน่นของแฟนหนุ่ม ดีที่เธอหันหลังออกไปทางประตู ผู้มาใหม่อย่างคุณชายซือเลยไม่ทันเห็นอกอวบของตน ฟางถงมองคนมาใหม่อย่างงุนงง ปกติพี่ชายต่างเมืองคนนี้ของเขามักจะมีมารยาทเสมอ วันนี้มาแปลกที่ไม่โทรมาบอกก่อนและยังไม่ให้เลขาหน้าห้องรายงานเขาก่อนที่จะเข้ามาอีก “ขอโทษๆ ขอโท
“ว่าไง เธอมีแฟนมาก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็คงจะเครียดแหละ แต่เท่าที่สังเกตตั้งแต่เธออยู่กับฉันมาเกือบสองอาทิตย์ ฉันเห็นเธอกินเก่งมากเลยนะ ดูเหมือนเธอจะหิวตลอด แล้วก็ชอบกินพวกของเปรี้ยวๆ บ่อยๆ ด้วย จนฉันอดที่จะคิดไปไม่ได้ว่าเธอกำลังจะมีน้อง” ด้วยความช่างสังเกตแต่เพราะยังไม่สนิทเลยไม่กล้าที่จะเอ่ยถามออกมา แต่ตอนนี้ทั้งเธอและเพื่อนใหม่เริ่มที่จะสนิทกันแล้วจึงไม่ยากที่จะถามด้วยความเป็นห่วง “ฉัน...ไม่เคยมีแฟนหรอก” เธอตอบเพื่อนใหม่ตามความจริง แต่เลือกที่จะปิดบังว่าเธอเคยนอนกับใครมา “ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเป็นเพราะเครียดกับพักผ่อนน้อยแหละ วันนี้เธอไม่ได้ไปทำงานใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนต่อเถอะ ฉันจะไปทำงานก่อนล่ะ พรุ่งนี้ได้ข่าวว่าพี่ชายท่านประธานมาจากต่างเมืองด้วยนะ หล่อระเบิดเลยแหละจะบอกให้ พรุ่งนี้อย่าป่วยล่ะ เดี๋ยวจะพลาดอาหารตาเอาคิกๆ” ลี่หลินเอ่ยออกมาพรางโล่งใจที่เพื่อนสาวคนสวยของเธอไม่ใช่ว่าที่คุณแม่ เพราะเพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือนเลยแถมยังเพิ่งเรียนจบอีกด้วย คงลำบากไม่น้อยถ้าฐานะไม่ดีแล้วต้องมาดูแลเด็กน้อยที่กำลังจะเกิดมา
และแล้ววันรับปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัยแอลรุ่นของหลิวถิงถิงก็มาถึง สามสาวนั้นรวบผมขึ้นพร้อมกับแต่งหน้าจางๆ มองแล้วดูสวยงามทุกคนจนหนุ่มๆ อดที่จะเหลียวหลังมองตามไม่ได้ ส่วนสาวๆ ที่หมั่นไส้ในทีก็มองมาด้วยความอิจฉาแก๊งนางฟ้าหัวใจเย็นชาที่ไม่เคยมีข่าวว่าคบกับผู้ชายคนไหนเลยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา และวันนี้คนที่ไม่คาดคิดว่าจะมาก็มา “สวัสดีสาวๆ สบายดีกันนะ พี่ขอแสดงความยินดีด้วยที่เรียนจบกันเสียที” เสียงทุ้มดังมาจากหนุ่มรูปหล่อร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีขาวดำ “อ้าว สวัสดีค่ะพี่เจียอี พวกเราสบายดีค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่มา ว่าแต่ไม่เจอกันนานเลย พี่เจียอีสบายดีนะคะ” เป็นหลิวถิงถิงที่เอ่ยทักขึ้นตามแบบของคนที่มีอัธยาศัยและจิตใจดีก่อนที่จะมองไปยังเพื่อนสาวคนสนิท“พี่ทำงานอยู่ที่ไหนคะตอนนี้” เสียงหวานของเฉินเหม่ยหานเอ่ยถามขึ้นบ้าง“ก็บริษัทอสังหาริมทรัพย์ย่านกลางเมืองนั่นแหละ พอดีตอนนี้พี่ได้เป็นหัวหน้าวิศวกรที่นั่นแล้วล่ะ” หลินเจียอีตอบออกมาอย่างภูมิใจก่อนที่จะมองไปท่ใบหน้าสวยเฉี่ยวของหญิงสาวที่เขาตกหลุมรักเธอมานานหลายปีจนป่
มื้ออาหารฉลองเรียนจบผ่านไปอย่างสนุกสนาน กลุ่มของฟางอี้หลงกลับไปก่อนกลุ่มของหลิวถิงถิง สามสาวลองดื่มเบียร์ยี่ห้อหนึ่งที่ผลิตขึ้นจากผลไม้ จ้าวซือซือดูจะชำนาญและดื่มเก่งที่สุด ส่วนคนที่คออ่อนที่สุดน่าจะเป็นเฉินเหม่ยหาน เพราะเธอเริ่มพูดคุยด้วยน้ำเสียงอ้อแอ้ตั้งแต่หมดไปกระป๋องที่สามแล้ว สามสาวจึงพากันกลับหอพัก หากแต่หลิวถิงถิงนั้นมีคนของคุณชายซือมารอรับอยู่ที่หน้าร้าน เธอจึงบอกให้เพื่อนทั้งสองกลับไปก่อนเพราะเธอคงจะต้องไปคุยกับเขาให้เข้าใจว่าเธอกำลังจะไปทำงานที่เมืองอื่นหลังจากเรียนจบ รถตู้คันหรูติดฟิล์มสีดำเคลื่อนเข้าไปจอดที่คอนโดหรู สถานที่ประจำที่เธอมาบ่อยๆ ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา หญิงสาวมองไปรอบๆ ราวกับต้องการที่จะจดจำเอาไว้เป็นครั้งสุดท้าย จางหลงที่เดินมาส่งเธอก็มองอาการคนสำคัญของคุณชายด้วยความแปลกใจ เพราะปกติเวลาที่เธอมา เธอไม่เคยที่จะอ้อยอิ่งหรือสำรวจสถานที่นานเหมือนวันนี้ แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยถามอะไรออกไป “สวัสดีค่ะคุณชายซือ” เสียงหวานเอ่ยทักทายชายหนุ่มรูปงามที่กำลังนั่งจิบไวน์รอเธออยู่อย่างใจเย็น “มานั่งนี่สิ” เขาใช้มือหนาตบลงบนที่นั่งข้างกาย ขาเรียวพาร่างระหงเยื้องย่างเข้าไปหาชา