และแล้ววันรับปริญญาของนักศึกษามหาวิทยาลัยแอลรุ่นของหลิวถิงถิงก็มาถึง สามสาวนั้นรวบผมขึ้นพร้อมกับแต่งหน้าจางๆ มองแล้วดูสวยงามทุกคนจนหนุ่มๆ อดที่จะเหลียวหลังมองตามไม่ได้ ส่วนสาวๆ ที่หมั่นไส้ในทีก็มองมาด้วยความอิจฉาแก๊งนางฟ้าหัวใจเย็นชาที่ไม่เคยมีข่าวว่าคบกับผู้ชายคนไหนเลยตลอดสี่ปีที่ผ่านมา และวันนี้คนที่ไม่คาดคิดว่าจะมาก็มา
“สวัสดีสาวๆ สบายดีกันนะ พี่ขอแสดงความยินดีด้วยที่เรียนจบกันเสียที” เสียงทุ้มดังมาจากหนุ่มรูปหล่อร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีขาวดำ “อ้าว สวัสดีค่ะพี่เจียอี พวกเราสบายดีค่ะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่มา ว่าแต่ไม่เจอกันนานเลย พี่เจียอีสบายดีนะคะ” เป็นหลิวถิงถิงที่เอ่ยทักขึ้นตามแบบของคนที่มีอัธยาศัยและจิตใจดีก่อนที่จะมองไปยังเพื่อนสาวคนสนิท“พี่ทำงานอยู่ที่ไหนคะตอนนี้” เสียงหวานของเฉินเหม่ยหานเอ่ยถามขึ้นบ้าง“ก็บริษัทอสังหาริมทรัพย์ย่านกลางเมืองนั่นแหละ พอดีตอนนี้พี่ได้เป็นหัวหน้าวิศวกรที่นั่นแล้วล่ะ” หลินเจียอีตอบออกมาอย่างภูมิใจก่อนที่จะมองไปท่ใบหน้าสวยเฉี่ยวของหญิงสาวที่เขาตกหลุมรักเธอมานานหลายปีจนป่“ว่าไง เธอมีแฟนมาก่อนหรือเปล่า ถ้าไม่มีก็คงจะเครียดแหละ แต่เท่าที่สังเกตตั้งแต่เธออยู่กับฉันมาเกือบสองอาทิตย์ ฉันเห็นเธอกินเก่งมากเลยนะ ดูเหมือนเธอจะหิวตลอด แล้วก็ชอบกินพวกของเปรี้ยวๆ บ่อยๆ ด้วย จนฉันอดที่จะคิดไปไม่ได้ว่าเธอกำลังจะมีน้อง” ด้วยความช่างสังเกตแต่เพราะยังไม่สนิทเลยไม่กล้าที่จะเอ่ยถามออกมา แต่ตอนนี้ทั้งเธอและเพื่อนใหม่เริ่มที่จะสนิทกันแล้วจึงไม่ยากที่จะถามด้วยความเป็นห่วง “ฉัน...ไม่เคยมีแฟนหรอก” เธอตอบเพื่อนใหม่ตามความจริง แต่เลือกที่จะปิดบังว่าเธอเคยนอนกับใครมา “ถ้าอย่างนั้นก็คงจะเป็นเพราะเครียดกับพักผ่อนน้อยแหละ วันนี้เธอไม่ได้ไปทำงานใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นก็พักผ่อนต่อเถอะ ฉันจะไปทำงานก่อนล่ะ พรุ่งนี้ได้ข่าวว่าพี่ชายท่านประธานมาจากต่างเมืองด้วยนะ หล่อระเบิดเลยแหละจะบอกให้ พรุ่งนี้อย่าป่วยล่ะ เดี๋ยวจะพลาดอาหารตาเอาคิกๆ” ลี่หลินเอ่ยออกมาพรางโล่งใจที่เพื่อนสาวคนสวยของเธอไม่ใช่ว่าที่คุณแม่ เพราะเพิ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือนเลยแถมยังเพิ่งเรียนจบอีกด้วย คงลำบากไม่น้อยถ้าฐานะไม่ดีแล้วต้องมาดูแลเด็กน้อยที่กำลังจะเกิดมา
ทันทีที่รถตู้คันหรูจอดลงบริเวณที่จอดรถวีไอพีของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ร่างหนาสูงโปร่งก็แทบจะปลิวลงจากรถทันที ขายาวๆ ก้าวตรงไปขึ้นลิฟต์เพื่อตรงไปห้องทำงานของท่านประธานทันทีโดยมีสายตาจากสาวๆ ในบริษัทที่มองมาที่เขาอย่างตื่นเต้น แต่คนตัวสูงก็ไม่ได้สนใจสายตาของคนรอบข้างไม่ บอดี้การ์ดทั้งสองผู้ที่คอยทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของคุณชายก็แทบจะเดินแกมวิ่งตามเจ้านายมือหนาเปิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะ เลขาที่อยู่หน้าห้องที่กำลังจะเอ่ยปากบอกอะไรบางอย่างแก่ผู้มาใหม่ยังไม่ทันได้อ้าปากห้ามเลยด้วยซ้ำ“เห้ย!!! อะไรกันเนี่ยพี่มู่อัน เข้ามาไม่เคาะประตูก่อนเล่า” เสียงทุ้มสบถออกมามือหนาพรางรีบดึงเสื้อเกาะอกของแฟนสาวขึ้นไปอยู่ในสภาพเดิม ใบหน้าหวานของฉินเวยเวยแดงก่ำด้วยความอายพร้อมกับซบลงบนหน้าอกหนั่นแน่นของแฟนหนุ่ม ดีที่เธอหันหลังออกไปทางประตู ผู้มาใหม่อย่างคุณชายซือเลยไม่ทันเห็นอกอวบของตน ฟางถงมองคนมาใหม่อย่างงุนงง ปกติพี่ชายต่างเมืองคนนี้ของเขามักจะมีมารยาทเสมอ วันนี้มาแปลกที่ไม่โทรมาบอกก่อนและยังไม่ให้เลขาหน้าห้องรายงานเขาก่อนที่จะเข้ามาอีก “ขอโทษๆ ขอโท
“ไม่ต้องทำหน้าตกใจ มันคือเรื่องจริง ฉันจะมารับเธอกลับเมืองแอล แม่ของฉันอยากเจอเธอ” ซือมู่อันบอกน้องชายที่ทำหน้าประหลาดใจ เขาได้ปรึกษากับมารดาเรื่องของเธอแล้ว มารดาบอกเขาว่าเขารักเธอ ให้เขาลองถามหัวใจตัวเองดู แต่ปากเจ้ากรรมมันดันพูดออกมาไม่ได้ เขาเลยอยากมาเจรจากับเธอเพื่อที่จะให้สถานะที่ไม่เคยให้ใครกับเธอ ยิ่งมารู้ความจริงที่ว่าเธอกำลังตั้งท้องลูกของเขา เขายิ่งมั่นใจ ไม่ว่ายังไงเขาก็จะตามเมียและลูกกลับไปเมืองแอลกับเขาให้ได้ “แล้วนี่พี่เคยบอกกับเธอหรือยังว่าพี่รู้สึกยังไงกับเธอ ผู้หญิงน่ะ ไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าคนที่รักเธอจากหัวใจบอกคำว่ารักให้เธอได้ยินหรอกนะพี่มู่อัน ผมอยากให้พี่บอกความในใจกับเธอ เชื่อผมเถอะ สิ่งที่พี่คิดว่ายากจะง่ายภายในพริบตาเลยล่ะ” ฟางถงเอ่ยถามก่อนที่จะแนะนำตามประสบการณ์ของตนกับฉินเวยเวย ที่ตอนแรกเธอคิดแค่ว่าเขารักสนุกกับเธอ ไม่ได้จริงจังอะไร จนวันที่เขาสารภาพออกมา มันทำให้เธอกล้าเปิดหัวใจและรักเขากลับเช่นกัน “ยังไม่เคยบอก นายก็รู้ว่าฉันมันเย็นชาไร้หัวใจ ฉันเคยรักใครซะที่ไหนกัน” เสียง
เช้าวันใหม่ที่แสนสดใสของใครหลายๆ คน แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ หลิวถิงถิงตื่นมาอาเจียนตั้งแต่เช้ามืดจนลี่หลินพลอยต้องตื่นนอนแต่เช้าไปด้วย ร่างบางก้มๆ เงยอยู่ที่หน้าคอห่านจนเพื่อนอีกคนต้องเดินเข้ามาถามพร้อมกับลูบหลังให้ “เป็นไงบ้างถิงถิง ไปทำงานไหวไหมเนี่ย” “อืม ไหว เมื่อวานน่าจะทานอาหารเยอะไปหน่อยจนอาหารไม่ย่อย เช้ามาเลยอาเจียนเยอะแบบนี้ ขอโทษนะลี่หลินที่ทำให้เธอต้องตื่นแต่เช้าเลย ทั้งๆ ที่เป็นวันหยุดพักผ่อนของเธอแท้ๆ” หลิวถิงถิงเอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิด “ไม่เป็นไรหรอก เวลานอนเรามีทั้งวัน ว่าแต่เธอเถอะไปทำงานไหวแน่นะ ถ้าไม่ไหวจะได้โทรไปลาที่ฝ่ายบุคคลให้” ลี่หลินตอบก่อนที่จะเอ่ยถามเพื่อนสาวเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “เป็นไร เราไหวจ้ะ ขอบใจนะ” หลิวถิงถิงลุกขึ้นก่อนที่จะเตรียมตัวอาบน้ำ ลี่หลินจึงเดินออกมาและมองกลับไปด้วยสายตาสงสัย ‘สรุปหลิวถิงถิงไม่เคยมีแฟนมาก่อนแน่เหรอ แต่อาการของเธอเหมือนท้องเลยอะ’ ลี่หลินคิดในใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะคาดคั้นอะไรกับเพื่อนมากเพราะเรื่องบางเรื่องถ้าเพื่อนไม่อยากบอกนั่นแสดงว่าเธอไม่อยากให้รู้ หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวและทานอาหารเช้าเสร็จหลิวถิงถิงก็ไปขึ้นรถเมล์ที่หน
พนักงานสาวๆ ต่างมองไปที่หุ้นส่วนของท่านประธานเป็นตาเดียวกัน และดูออกได้ไม่ยากว่าสาวๆ คิดอะไรกับเขา ก็เขานั้นทั้งสูง ทั้งหล่อล่ำ หุ่นราวกับเทพบุตรกรีก มู่หลินก็เป็นหนึ่งในนั้นที่แอบหวังในตัวของหุ้นส่วนท่านประธานคนนี้อยู่ไม่น้อย สายตายั่วยวนทอดสะพานไปให้คนข้างหน้าอย่างปิดไม่มิด หากแต่คนบนเวทีนั้นไม่ได้สนใจกับสายตาของสาวๆ เท่าไหร่นัก ดวงตาคมยังคงมองไปรอบๆ ก่อนที่จะกระซิบถามน้องชายต่างเมือง “ถิงถิงไปไหน วันนี้เธอมาทำงานไม่ใช่เหรอ” เสียงเย็นชากระซิบที่ข้างหูของฟางถง “ก็ใช่นะพี่มู่อัน ผมว่าเธอคงไม่ได้มาเข้าประชุมด้วย พี่จะไปดูที่ห้องทำงานไหมล่ะ” ฟางถงกระซิบถามเขากลับเช่นกัน ซือมู่อันจึงพยักหน้าให้เป็นการตอบตกลง “ครับ วันนี้ก็ขอให้ทุกคนทำงานกันอย่างมีความสุข และสนุกกับงานที่ทำด้วยนะครับ แยกย้ายกลับไปทำงานได้ครับ” เสียงเข้มของฟางถงเอ่ยขึ้นก่อนที่สองหนุ่มร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันจะพากันเดินออกจากห้องประชุมไป เสียงพูดคุยกรี๊ดกร๊าดราวกับผึ้งแตกรัง โดยเฉพาะกับสาวๆ ที่จับกลุ่มพูดคุยกันขณะที่เดินกลับไปทำงานที่แผนก หลิวถิงถิงยังคงไม่ได้สนใจอะไรหรือรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งที่พวกรุ่นพี่ได้ไปพบเจอก
ขณะที่หญิงสาวคู่กรณีกำลังตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่นั้น ทุกคนที่มองดูเหตุการณ์อยู่ก็อดที่จะตกอกตกใจในสิ่งที่หุ้นส่วนคนสำคัญของท่านประธานกำลังกระทำต่อหญิงสาวรุ่นน้องที่เป็นพนักงานใหม่ไม่ได้ ร่างบางระหงของหลิวถิงถิงแทบจะลอยไปแนบอกหนั่นแน่นของหุ้นส่วนหนุ่มที่เป็นที่หมายตาของสาวๆ ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ดวงตากลมโตเบิกค้างอย่างตกใจเช่นกันที่เห็นเขา ตอนที่เห็นสองบอดี้การ์ดเข้ามาช่วยเธอ หญิงสาวก็ว่าช๊อไม่ไยดีแล้ว พอแขนเรียวถูกเขาดึงให้เข้าไปในอ้อมกอดที่อบอุ่นหญิงสาวก็อดที่จะน้ำตารื้นไม่ได้ ด้วยเพราะความคิดถึงที่ต้องจากเขามาเพราะความจำใจ “เป็นอะไรหรือเปล่าหือ ดูสิหน้าแดงเลย” เสียงนุ่มทุ้มไม่เย็นชาเลยสักนิดเอ่ยถามหญิงสาวออกมาพร้อมกับแววตาที่แสดงถึงความเป็นห่วง นิ้วเรียวนั้นลูบไล้ลงบนแก้มนวลที่บวมแดงขึ้นมาเล็กน้อย หลิวถิงถิงน้ำตาไหลออกมาด้วยอารมณ์ของคนที่กำลังมีครรภ์ “แล้วนี่ทำไมต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกันด้วย น้องเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า” เสียงที่เอ่ยออกไปกับบุคคลอื่นเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที วงแขนกว้างยังคงโอบกอดร่างบางของหญิงสาวเอาไว้ไม่ยอมปล่อยทั้งๆ ที่เธอพยายามดันตัวเองออกมาให้หลุดพ้นจากวงแขนอันอ
วงแขนอบอุ่นผละออกจากร่างระหงของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทางพฤตินัยที่เขามาตามหาถึงเมืองนี้ เธอก้าวเดินไปตรงหน้าของมู่หลิน ก่อนที่จะออกคำสั่งให้สองบอดี้การ์ดซ้ายขวาของคุณชายซือให้ประคองเธอขึ้นมา เรื่องอะไรที่สองหนุ่มจะไม่ทำตามคำสั่งของว่าที่คุณนายซือ ทั้งต้าฉินและจางหลงเข้าไปประคองร่างอวบอัดของมู่หลินให้ยืนขึ้น สองเท้าเล็กก้าวเข้าไปใกล้ๆก่อนที่จะทำในสิ่งที่ทุกคนในแผนกไม่คาดคิด แม้แต่ไม่ไยดีอันเองก็ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวตัวน้อยนั้นจะกล้าตบผู้หญิงที่ดูจัดจ้านกว่า “เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!” มือบางฟาดลงบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะอย่างสุดแรงถึงสามทีจึงหยุดมองก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยความพอใจท่ามกลางสีหน้าตกใจของสองบอดี้การ์ด พนักงานทุกคนที่กำลังมองดูเหตุการณ์หรือแม้กระทั่งซือมู่อันหริอแม้แต่หญิงสาวที่เพิ่งถูกกระทำเอง “เป็นไงคะ เวลาที่เราไม่มีทางสู้แล้วโดนกระทำอะไรแบบนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง อย่าคิดว่าลูกน้องทุกคนที่เขายอมคุณเพราะเขารักหรือเคารพในตัวคุณ แต่เพราะเขากลัวที่จะมีปัญหากับคุณจนทำงานที่นี่ไม่ได้มากกว่า แต่ขอโทษนะคะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น!!” เสียงหว
เมื่อรถตู้คันหรูเคลื่อนเข้าไปจอดที่หน้าโรงแรมหรูของเมืองเอ็ม สองหนุ่มสาวก็ก้าวลงจากรถและเดินเคียงข้างกันเข้าไปในโรงแรม หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มของบริษัทถูกสาวๆ ทั้งที่เป็นแขกและพนักงานในโรงแรมมองมาที่เธอเป็นตาเดียว ร่างระหงค่อยๆลด ความเร็วแล้วเยื้องย่างตามหลังชายหนุ่มไปอย่างเจียมตัว เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นตัวประหลาด แต่ก็คงไม่แปลกนักถ้าเธอไม่สวมชุดพนักงานห้างธรรมดาๆ มาเดินกับคนที่มีชื่อเสียงอย่างคุณชายซือทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก ร่างของสองหนุ่มสาวก็แทบจะถูกดึงดูดเข้าหากันโดยที่หลิวถิงถิงยังไม่ทันห้ามปรามอะไร ปากเรียวสีกุหลาบของชายตรงหน้าก็ตะโบมจูบมาจนเธอแทบจะหายใจไม่ทัน มือบางยกขึ้นก่อนที่จะตีลงไปบนหน้าอกหนั่นแน่นของชายหนุ่มเพื่อเป็นการเตือนสติ ถึงแม้เธอจะคิดถึงเขามากแค่ไหน แต่เธอก็ยังอยากที่จะคุยกับเขาให้เข้าใจก่อนว่าที่ผ่านมันคืออะไรกันแน่ แล้วเขาหลอกเธอว่าเขาเป็นหมันจริงๆ ใช่ไหม ซือมู่อันถอนจูบออกจากปากบางของหญิงสาวอย่างแสนเสียดาย แต่ไม่เป็นไรรอคุยกับเธอให้เข้าใจแล้วค่อยฟัดเธอให้หายคิดถึงก็ได้ มือหนาจับจูงมือบางให้เดินตามไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวก่อนที่เขาจะทรุด
วันต่อมา หลังจากจัดการเตรียมสถานที่สำหรับการเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็เป็นวันที่เขาตัดสินใจจะขอว่าที่ภรรยาสาวแต่งงาน แต่ในตอนเช้าเขานั้นมีแพลนว่าจะพาเธอไปตรวจครรภ์และฝากครรภ์กับแพทย์หญิงที่เขานั้นรู้จัก เธอเป็นภรรยาของเพื่อนต่างเมืองแต่เธอนั้นย้ายมาประจำอยู่ที่เมืองแอลตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อน“สวัสดีเจียวมี่ เธอสบายดีนะ ลู่เพ่ยเป็นยังไงบ้าง เขายอมย้ายตามเธอมาหรือยัง” เสียงเข้มติดเย็นชาเอ่ยทักทายภรรยาของเพื่อนที่เป็นสูตินรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงของเมืองแอลแห่งนี้“สบายดีมู่อัน ลูเพ่ยเขาก็เป็นแบบนั้นแหละ ไม่ย้ายมาหรอกแต่ขอบอกว่ามาหาบ่อยมากคิกๆๆ” แพทย์หญิงเอ่ยทักทายเพื่อนสามีกลับเช่นกัน ก่อนที่จะหลี่ตามองสาวน้อยหน้าหวานข้างๆ เพื่อนของสามีด้วยแววตาสงสัย “อ้อ......นี่ถิงถิงว่าที่ภรรยาของฉันเอง วันนี้ฉันพาเธอมาตรวจครรภ์ พร้อมฝากครรภ์กับเธอไปด้วยเลย” คำบอกเล่าแนะนำแม่สาวน้อยข้างกายของเพื่อนสามีทำเอาคุณหมอสาวตกใจแบบไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่หวงความโสดแบบคุณชาย
การวางแผนของซือมู่อันและคนสนิทของหลิวถิงถิงเป็นไปอย่างลับๆ โดยที่หลิวถิงถิงไม่รู้เรื่องเลย ทางด้านคุณนายซือที่ออกไปพบกับบิดาของหลิวถิงถิงก็อดที่จะทำให้ฝ่ายนั้นตกอกตกใจไม่ได้ แต่พอได้รู้ว่าผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้มาสู่ขอบุตรสาวของตนให้กับบุตรชาย ใบหน้ากังวลจึงแปรเปลี่ยนเป็นยินดี “ขอบพระคุณคุณนายกับคุณชายซือนะครับที่ให้เกียรติลูกสาวของผม ถ้าถิงถิงตกลงผมก็ไม่ขัดข้องอะไรหรอกครับ” ใบหน้าเหี่ยวย่นไปตามวัยเปื้อนรอยยิ้มแห่งความสุข ใครจะไปคิดว่าบุตรสาวของตนจะได้แต่งเข้าไปในตระกูลที่ยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลของเมืองแอล “อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ เพราะลูกชายของดิฉันทำอะไรข้ามขั้นตอนไปมาก การมาสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่ควรแล้วค่ะ” ซือหลินซู่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้ามขั้นตอน หมายความว่ายังไงครับ ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าลูกสาวของผมชอบพออยู่กับคุณชาย อาจจะเป็นเพราะผมไม่ใช่พ่อที่ดีมากด้วยแหละครับ ถึงไม่ค่อยจะรู้เรื่องส่วนตัวของลูกๆ” น้ำเสียงงุนงงในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นสลดลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ใช่พ่อที่ดีที่ใส่
เมื่อเธอก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอนที่มารดาของว่าที่สามีเตรียมไว้ให้ก็ต้องตกตะลึงกับความกว้างขวางใหญ่โต ดวงตากลมโตมองไปที่เตียงกว้างขนาดหกฟุตซึ่งมีทั้งตุ๊กตา หมอนหนุนสีหวานและหมอนข้างแสนนุ่มวางอยู่บนเตียง ก่อนที่ขาเรียวจะพาร่างระหงของเธอตรงไปที่เตียง เพราะเมื่อคืนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลยทำให้เธอรู้สึกง่วงเป็นอย่างมาก ร่างบางปีนป่ายขึ้นไปนอนบนเตียงนุ่มที่มีผ้าปูสีชมพูแสนหวานแล้วล้มตัวลงนอนเปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลงโดยที่ไม่รู้สึกตัวอีกเลย“อะไรกันมู่อัน ไปพาน้องมาแต่ไม่ขอน้องแต่งงานเนี่ยนะ แม่ถามลูกจริงๆ ลูกพาน้องกลับมาบ้านในฐานะอะไร แม่ของลูก ผู้ที่หญิงที่รัก หรือแค่ผู้หญิงที่มีไว้เพื่อมีทายาทให้เท่านั้น” คำถามของผู้เป็นมารดาทำเอาซือมู่อันตกตะลึงก่อนที่จะเพิ่งคิดได้ ใช่สิ เขาต้องขอแต่งงานให้ถูกต้องและการแต่งงานของเขาจะต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่ให้สมกับการที่ตระกูลเขาเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองแอล“ผมนึกไม่ถึงครับคุณแม่ว่าต้องขอเธอด้วย ตอนแรกก็กะจะจัดงานเลย แต่ก็เหมือนว่าผมทำข้ามขั้นตอนไปอีกตามเคย คือผมต้องขอน้องแต่งงานก่อนใช่ไหมครับ” ซือมู่อันนั่งปรึกษากับมารดาพอดี เขา
มือบางชื้นเหงื่อขึ้นมาทันทีที่รถตู้คันหรูเลี้ยวเข้ามาภายในอาณาจักรของตระกูลซือในพื้นที่เกือบร้อยไร่ใจกลางเมืองแอล ซือมู่อันหันไปมองใบหน้าหวานที่ซีดเผือดของคนข้างๆ ก็พอจะดูออกทันทีว่าแม่สาวน้อยภรรยาทางพฤตินัยของเขากำลังกังวล เพราะนี่คือการพาเธอไปแนะนำให้ครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาได้รู้จัก มือหนาคว้ามือบางมากุมไว้ก่อนที่จะบีบเบาๆ หลิวถิงถิงหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีทางพฤตินัยก็พบว่าเขากำลังส่งยิ้มบางๆ มาให้กับเธอ หญิงสาวจึงยิ้มตอบแล้วผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ “ไม่ต้องกังวลนะที่รัก แม่พี่ใจดี อีกอย่างตอนที่ท่านรู้ว่าหนูกำลังจะมีหลานคนแรกให้ท่าน ท่านดีใจจนร้องไห้เลยล่ะ” ซือมู่อันปลอบเธอ และสิ่งที่เขาบอกเธอนั้นเป็นความจริงทั้งหมด ตอนที่เขารู้ว่าเธอตั้งครรภ์เขาก็รีบโทรปรึกษามารดาทันที และเมื่อมารดาได้ฟังเรื่องที่เขาเล่าแล้วเธอก็รีบกดวางสายแล้วเปลี่ยนเป็นวิดิโอคอลหาเขา ท่านร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ โดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าท่านจะมีหลานที่กำลังจะได้ลืมตามาดูโลกในเร็วๆ นี้ “จริงหรือคะ ท่านจะไม่ว่าจริงๆ ใช่ไหมที่หนูท้องก่อนแต่ง” เสียงหวานเอ
มู่หลินไม่ได้รู้สึกยินดีเท่าไหร่นักที่ต้องไปไกลถึงเมืองอื่น แต่หากจะให้เลือกตกงานกับยังมีงานทำ เธอขอเลือกอย่างหลังมากกว่า และข่าวที่มู่หลินถูกสั่งย้ายไปอยู่สาขาต่างเมืองก็ดังไปทั่วทั้งตึก หลายๆ คนรู้สึกโล่งใจและสบายใจที่มู่หลินจอมแสบนั้นถูกย้ายไปไกล แต่บางคนก็ยังรู้สึกว่ามันไม่พอกับการกระทำที่แสดงออกต่อพนักงานใหม่ ถ้าเมื่อวานผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ภรรยาของหุ้นส่วนท่านประธานก็ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะยังได้รับความยุติธรรมอยู่ไหมซือมู่อันให้จางหลงไปรับหลิวถิงถิงมาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เพราะเขาจองโต๊ะสำหรับมื้อกลางวันเอาไว้แล้ว และรู้ดีว่าเด็กสาวอยากจะเลี้ยงขอบคุณเพื่อนสนิทที่อยู่ที่นี่ของเธอก่อนที่เธอจะกลับไปพร้อมกับเขา “ขอบคุณนะคะที่ทำเพื่อหนูมากขนาดนี้” เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากที่โดนเขาดึงไปสวมกอดภายในร้านอาหารโดยไม่แคร์สายตาของคนอื่นๆ ที่มองมาอย่างอิจฉา มือหนากอบกุมมือบางเอาไว้ก่อนที่จะจับจูงเธอให้เดินตามไปที่โต๊ะ เขาเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย หัวใจก็รู้สึกมีความสุข หลังจากที่ร
หลิวถิงถิงใช้เวลาอยู่กับคุณชายซือทั้งคืนโดยในตอนสายๆ เพื่อนที่พักอยู่ร่วมห้องของเธอก็โทรเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงและตกใจ “ถิงถิง สรุปเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ แล้วที่เธอไม่กลับห้องทั้งคืนเพราะออกไปกับหุ้นส่วนของท่านประธานจริงๆ ใช่ไหม แล้วไหนเธอบอกว่าไม่เคยมีแฟนยังไงล่ะ ทำไมจู่ๆ หุ้นส่วนของท่านประธานถึงมาบอกทุกคนว่าเธอคือภรรยาของเขา สรุปไอ้อาการอาเจียนเป็นเพราะเธอกำลังท้องใช่ไหม” ลี่หลินซักไซ้เพื่อนสาวเสียยืดยาวด้วยความเป็นห่วงและอยากรู้“คือฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณชายซือจะเป็นหุ้นส่วนของท่านประธาน อันที่จริงฉันน่ะเคยเป็นเด็กในอุปการะของคุณชายซือมาก่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนแรกก็ไม่ได้มีอะไรหรอก แต่มาตอนหลังๆ เขาก็...คิดไม่ซื่อกับฉันมั้ง” ที่หญิงสาวกล้าตอบไปแบบนั้นเพราะเช้านี้ซือมู่อันออกไปจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นที่ทำงานให้กับเธอ เขาไม่อยากให้เธอเครียดและคิดมาก และพรุ่งนี้เขาจะให้คนของเขาไปขนของออกจากหอพักที่เธอพักอยู่กับลี่หลินเพื่อกลับเมืองแอลพร้อมกัน“อ้าว จริงหรอ สรุปว่าคุณชายซือ หุ้นส่วนของท่านประธานคือพ่อของลูกในท้อ
“เพราะพี่รักหนูยังไงล่ะเด็กโง่ แค่นี้ก็มองไม่ออกหรอว่าพี่รู้สึกอย่างไรกับหนู หนูคิดว่าถ้าพี่ไม่รักหนูแล้วพี่จะหลอกหนูว่าพี่เป็นหมันเพื่อที่จะให้หนูท้องลูกของพี่เพื่ออะไร แล้วคนอย่างพี่ถ้าไม่รู้สึกดีหรือรู้สึกว่าใครพิเศษพอพี่จะไม่พบเจออีกเป็นครั้งที่สองหรอกนะ พี่รักหนู ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นแล้ว” คำสารภาพของชายหนุ่มทำเอาว่าที่คุณแม่น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ หากแต่ครั้งนี้มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข ในที่สุดคำที่เธออยากฟังมานานจากคนเย็นชาคนนี้ก็ดังออกมาจากริมฝีปากสีกุหลาบที่แสนร้ายกาจของเขาเสียที วงแขนเรียวโอบกอดเขาตอบใบหน้าชุ่มน้ำตาก็ซบซุกลงบนหน้าอกหนั่นแน่นของเขา“หนูก็รักพี่ค่ะฮึก... พี่มู่อัน หนูรักพี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้ว แต่หนูไม่กล้าที่จะพูดออกมาเพราะหนูไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะสมหรือคู่ควรกับพี่เลยสักนิด ความฝันที่จะได้เคียงข้างพี่มันไกลเกินไปสำหรับหนูจริงๆ ฮึก.. ขอบคุณนะคะสำหรับความรักที่พี่มอบให้ หนูสัญญาจะรักษาและดูแลมันเป็นอย่างดีฮึก...” หญิงสาวสารภาพรักออกมาให้ชายหนุ่มได้ฟังเช่นกัน มือหนาลูบลงบนผมนุ่มและแผ่นหลังของหญิงสาวที่เขาเพิ่
เมื่อรถตู้คันหรูเคลื่อนเข้าไปจอดที่หน้าโรงแรมหรูของเมืองเอ็ม สองหนุ่มสาวก็ก้าวลงจากรถและเดินเคียงข้างกันเข้าไปในโรงแรม หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มของบริษัทถูกสาวๆ ทั้งที่เป็นแขกและพนักงานในโรงแรมมองมาที่เธอเป็นตาเดียว ร่างระหงค่อยๆลด ความเร็วแล้วเยื้องย่างตามหลังชายหนุ่มไปอย่างเจียมตัว เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นตัวประหลาด แต่ก็คงไม่แปลกนักถ้าเธอไม่สวมชุดพนักงานห้างธรรมดาๆ มาเดินกับคนที่มีชื่อเสียงอย่างคุณชายซือทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก ร่างของสองหนุ่มสาวก็แทบจะถูกดึงดูดเข้าหากันโดยที่หลิวถิงถิงยังไม่ทันห้ามปรามอะไร ปากเรียวสีกุหลาบของชายตรงหน้าก็ตะโบมจูบมาจนเธอแทบจะหายใจไม่ทัน มือบางยกขึ้นก่อนที่จะตีลงไปบนหน้าอกหนั่นแน่นของชายหนุ่มเพื่อเป็นการเตือนสติ ถึงแม้เธอจะคิดถึงเขามากแค่ไหน แต่เธอก็ยังอยากที่จะคุยกับเขาให้เข้าใจก่อนว่าที่ผ่านมันคืออะไรกันแน่ แล้วเขาหลอกเธอว่าเขาเป็นหมันจริงๆ ใช่ไหม ซือมู่อันถอนจูบออกจากปากบางของหญิงสาวอย่างแสนเสียดาย แต่ไม่เป็นไรรอคุยกับเธอให้เข้าใจแล้วค่อยฟัดเธอให้หายคิดถึงก็ได้ มือหนาจับจูงมือบางให้เดินตามไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวก่อนที่เขาจะทรุด
วงแขนอบอุ่นผละออกจากร่างระหงของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทางพฤตินัยที่เขามาตามหาถึงเมืองนี้ เธอก้าวเดินไปตรงหน้าของมู่หลิน ก่อนที่จะออกคำสั่งให้สองบอดี้การ์ดซ้ายขวาของคุณชายซือให้ประคองเธอขึ้นมา เรื่องอะไรที่สองหนุ่มจะไม่ทำตามคำสั่งของว่าที่คุณนายซือ ทั้งต้าฉินและจางหลงเข้าไปประคองร่างอวบอัดของมู่หลินให้ยืนขึ้น สองเท้าเล็กก้าวเข้าไปใกล้ๆก่อนที่จะทำในสิ่งที่ทุกคนในแผนกไม่คาดคิด แม้แต่ไม่ไยดีอันเองก็ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวตัวน้อยนั้นจะกล้าตบผู้หญิงที่ดูจัดจ้านกว่า “เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!” มือบางฟาดลงบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะอย่างสุดแรงถึงสามทีจึงหยุดมองก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยความพอใจท่ามกลางสีหน้าตกใจของสองบอดี้การ์ด พนักงานทุกคนที่กำลังมองดูเหตุการณ์หรือแม้กระทั่งซือมู่อันหริอแม้แต่หญิงสาวที่เพิ่งถูกกระทำเอง “เป็นไงคะ เวลาที่เราไม่มีทางสู้แล้วโดนกระทำอะไรแบบนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง อย่าคิดว่าลูกน้องทุกคนที่เขายอมคุณเพราะเขารักหรือเคารพในตัวคุณ แต่เพราะเขากลัวที่จะมีปัญหากับคุณจนทำงานที่นี่ไม่ได้มากกว่า แต่ขอโทษนะคะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น!!” เสียงหว