ขณะที่หญิงสาวคู่กรณีกำลังตกตะลึงกับภาพที่เห็นอยู่นั้น ทุกคนที่มองดูเหตุการณ์อยู่ก็อดที่จะตกอกตกใจในสิ่งที่หุ้นส่วนคนสำคัญของท่านประธานกำลังกระทำต่อหญิงสาวรุ่นน้องที่เป็นพนักงานใหม่ไม่ได้ ร่างบางระหงของหลิวถิงถิงแทบจะลอยไปแนบอกหนั่นแน่นของหุ้นส่วนหนุ่มที่เป็นที่หมายตาของสาวๆ ในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ดวงตากลมโตเบิกค้างอย่างตกใจเช่นกันที่เห็นเขา ตอนที่เห็นสองบอดี้การ์ดเข้ามาช่วยเธอ หญิงสาวก็ว่าช๊อไม่ไยดีแล้ว พอแขนเรียวถูกเขาดึงให้เข้าไปในอ้อมกอดที่อบอุ่นหญิงสาวก็อดที่จะน้ำตารื้นไม่ได้ ด้วยเพราะความคิดถึงที่ต้องจากเขามาเพราะความจำใจ “เป็นอะไรหรือเปล่าหือ ดูสิหน้าแดงเลย” เสียงนุ่มทุ้มไม่เย็นชาเลยสักนิดเอ่ยถามหญิงสาวออกมาพร้อมกับแววตาที่แสดงถึงความเป็นห่วง นิ้วเรียวนั้นลูบไล้ลงบนแก้มนวลที่บวมแดงขึ้นมาเล็กน้อย หลิวถิงถิงน้ำตาไหลออกมาด้วยอารมณ์ของคนที่กำลังมีครรภ์ “แล้วนี่ทำไมต้องถึงขั้นลงไม้ลงมือกันด้วย น้องเขาทำอะไรผิดหรือเปล่า” เสียงที่เอ่ยออกไปกับบุคคลอื่นเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที วงแขนกว้างยังคงโอบกอดร่างบางของหญิงสาวเอาไว้ไม่ยอมปล่อยทั้งๆ ที่เธอพยายามดันตัวเองออกมาให้หลุดพ้นจากวงแขนอันอ
วงแขนอบอุ่นผละออกจากร่างระหงของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทางพฤตินัยที่เขามาตามหาถึงเมืองนี้ เธอก้าวเดินไปตรงหน้าของมู่หลิน ก่อนที่จะออกคำสั่งให้สองบอดี้การ์ดซ้ายขวาของคุณชายซือให้ประคองเธอขึ้นมา เรื่องอะไรที่สองหนุ่มจะไม่ทำตามคำสั่งของว่าที่คุณนายซือ ทั้งต้าฉินและจางหลงเข้าไปประคองร่างอวบอัดของมู่หลินให้ยืนขึ้น สองเท้าเล็กก้าวเข้าไปใกล้ๆก่อนที่จะทำในสิ่งที่ทุกคนในแผนกไม่คาดคิด แม้แต่ไม่ไยดีอันเองก็ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวตัวน้อยนั้นจะกล้าตบผู้หญิงที่ดูจัดจ้านกว่า “เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!” มือบางฟาดลงบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะอย่างสุดแรงถึงสามทีจึงหยุดมองก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยความพอใจท่ามกลางสีหน้าตกใจของสองบอดี้การ์ด พนักงานทุกคนที่กำลังมองดูเหตุการณ์หรือแม้กระทั่งซือมู่อันหริอแม้แต่หญิงสาวที่เพิ่งถูกกระทำเอง “เป็นไงคะ เวลาที่เราไม่มีทางสู้แล้วโดนกระทำอะไรแบบนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง อย่าคิดว่าลูกน้องทุกคนที่เขายอมคุณเพราะเขารักหรือเคารพในตัวคุณ แต่เพราะเขากลัวที่จะมีปัญหากับคุณจนทำงานที่นี่ไม่ได้มากกว่า แต่ขอโทษนะคะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น!!” เสียงหว
เมื่อรถตู้คันหรูเคลื่อนเข้าไปจอดที่หน้าโรงแรมหรูของเมืองเอ็ม สองหนุ่มสาวก็ก้าวลงจากรถและเดินเคียงข้างกันเข้าไปในโรงแรม หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มของบริษัทถูกสาวๆ ทั้งที่เป็นแขกและพนักงานในโรงแรมมองมาที่เธอเป็นตาเดียว ร่างระหงค่อยๆลด ความเร็วแล้วเยื้องย่างตามหลังชายหนุ่มไปอย่างเจียมตัว เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นตัวประหลาด แต่ก็คงไม่แปลกนักถ้าเธอไม่สวมชุดพนักงานห้างธรรมดาๆ มาเดินกับคนที่มีชื่อเสียงอย่างคุณชายซือทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก ร่างของสองหนุ่มสาวก็แทบจะถูกดึงดูดเข้าหากันโดยที่หลิวถิงถิงยังไม่ทันห้ามปรามอะไร ปากเรียวสีกุหลาบของชายตรงหน้าก็ตะโบมจูบมาจนเธอแทบจะหายใจไม่ทัน มือบางยกขึ้นก่อนที่จะตีลงไปบนหน้าอกหนั่นแน่นของชายหนุ่มเพื่อเป็นการเตือนสติ ถึงแม้เธอจะคิดถึงเขามากแค่ไหน แต่เธอก็ยังอยากที่จะคุยกับเขาให้เข้าใจก่อนว่าที่ผ่านมันคืออะไรกันแน่ แล้วเขาหลอกเธอว่าเขาเป็นหมันจริงๆ ใช่ไหม ซือมู่อันถอนจูบออกจากปากบางของหญิงสาวอย่างแสนเสียดาย แต่ไม่เป็นไรรอคุยกับเธอให้เข้าใจแล้วค่อยฟัดเธอให้หายคิดถึงก็ได้ มือหนาจับจูงมือบางให้เดินตามไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวก่อนที่เขาจะทรุด
“เพราะพี่รักหนูยังไงล่ะเด็กโง่ แค่นี้ก็มองไม่ออกหรอว่าพี่รู้สึกอย่างไรกับหนู หนูคิดว่าถ้าพี่ไม่รักหนูแล้วพี่จะหลอกหนูว่าพี่เป็นหมันเพื่อที่จะให้หนูท้องลูกของพี่เพื่ออะไร แล้วคนอย่างพี่ถ้าไม่รู้สึกดีหรือรู้สึกว่าใครพิเศษพอพี่จะไม่พบเจออีกเป็นครั้งที่สองหรอกนะ พี่รักหนู ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นแล้ว” คำสารภาพของชายหนุ่มทำเอาว่าที่คุณแม่น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ หากแต่ครั้งนี้มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข ในที่สุดคำที่เธออยากฟังมานานจากคนเย็นชาคนนี้ก็ดังออกมาจากริมฝีปากสีกุหลาบที่แสนร้ายกาจของเขาเสียที วงแขนเรียวโอบกอดเขาตอบใบหน้าชุ่มน้ำตาก็ซบซุกลงบนหน้าอกหนั่นแน่นของเขา“หนูก็รักพี่ค่ะฮึก... พี่มู่อัน หนูรักพี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้ว แต่หนูไม่กล้าที่จะพูดออกมาเพราะหนูไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะสมหรือคู่ควรกับพี่เลยสักนิด ความฝันที่จะได้เคียงข้างพี่มันไกลเกินไปสำหรับหนูจริงๆ ฮึก.. ขอบคุณนะคะสำหรับความรักที่พี่มอบให้ หนูสัญญาจะรักษาและดูแลมันเป็นอย่างดีฮึก...” หญิงสาวสารภาพรักออกมาให้ชายหนุ่มได้ฟังเช่นกัน มือหนาลูบลงบนผมนุ่มและแผ่นหลังของหญิงสาวที่เขาเพิ่
หลิวถิงถิงใช้เวลาอยู่กับคุณชายซือทั้งคืนโดยในตอนสายๆ เพื่อนที่พักอยู่ร่วมห้องของเธอก็โทรเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงและตกใจ “ถิงถิง สรุปเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ แล้วที่เธอไม่กลับห้องทั้งคืนเพราะออกไปกับหุ้นส่วนของท่านประธานจริงๆ ใช่ไหม แล้วไหนเธอบอกว่าไม่เคยมีแฟนยังไงล่ะ ทำไมจู่ๆ หุ้นส่วนของท่านประธานถึงมาบอกทุกคนว่าเธอคือภรรยาของเขา สรุปไอ้อาการอาเจียนเป็นเพราะเธอกำลังท้องใช่ไหม” ลี่หลินซักไซ้เพื่อนสาวเสียยืดยาวด้วยความเป็นห่วงและอยากรู้“คือฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณชายซือจะเป็นหุ้นส่วนของท่านประธาน อันที่จริงฉันน่ะเคยเป็นเด็กในอุปการะของคุณชายซือมาก่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนแรกก็ไม่ได้มีอะไรหรอก แต่มาตอนหลังๆ เขาก็...คิดไม่ซื่อกับฉันมั้ง” ที่หญิงสาวกล้าตอบไปแบบนั้นเพราะเช้านี้ซือมู่อันออกไปจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นที่ทำงานให้กับเธอ เขาไม่อยากให้เธอเครียดและคิดมาก และพรุ่งนี้เขาจะให้คนของเขาไปขนของออกจากหอพักที่เธอพักอยู่กับลี่หลินเพื่อกลับเมืองแอลพร้อมกัน“อ้าว จริงหรอ สรุปว่าคุณชายซือ หุ้นส่วนของท่านประธานคือพ่อของลูกในท้อ
มู่หลินไม่ได้รู้สึกยินดีเท่าไหร่นักที่ต้องไปไกลถึงเมืองอื่น แต่หากจะให้เลือกตกงานกับยังมีงานทำ เธอขอเลือกอย่างหลังมากกว่า และข่าวที่มู่หลินถูกสั่งย้ายไปอยู่สาขาต่างเมืองก็ดังไปทั่วทั้งตึก หลายๆ คนรู้สึกโล่งใจและสบายใจที่มู่หลินจอมแสบนั้นถูกย้ายไปไกล แต่บางคนก็ยังรู้สึกว่ามันไม่พอกับการกระทำที่แสดงออกต่อพนักงานใหม่ ถ้าเมื่อวานผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ภรรยาของหุ้นส่วนท่านประธานก็ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะยังได้รับความยุติธรรมอยู่ไหมซือมู่อันให้จางหลงไปรับหลิวถิงถิงมาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เพราะเขาจองโต๊ะสำหรับมื้อกลางวันเอาไว้แล้ว และรู้ดีว่าเด็กสาวอยากจะเลี้ยงขอบคุณเพื่อนสนิทที่อยู่ที่นี่ของเธอก่อนที่เธอจะกลับไปพร้อมกับเขา “ขอบคุณนะคะที่ทำเพื่อหนูมากขนาดนี้” เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากที่โดนเขาดึงไปสวมกอดภายในร้านอาหารโดยไม่แคร์สายตาของคนอื่นๆ ที่มองมาอย่างอิจฉา มือหนากอบกุมมือบางเอาไว้ก่อนที่จะจับจูงเธอให้เดินตามไปที่โต๊ะ เขาเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย หัวใจก็รู้สึกมีความสุข หลังจากที่ร
มือบางชื้นเหงื่อขึ้นมาทันทีที่รถตู้คันหรูเลี้ยวเข้ามาภายในอาณาจักรของตระกูลซือในพื้นที่เกือบร้อยไร่ใจกลางเมืองแอล ซือมู่อันหันไปมองใบหน้าหวานที่ซีดเผือดของคนข้างๆ ก็พอจะดูออกทันทีว่าแม่สาวน้อยภรรยาทางพฤตินัยของเขากำลังกังวล เพราะนี่คือการพาเธอไปแนะนำให้ครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาได้รู้จัก มือหนาคว้ามือบางมากุมไว้ก่อนที่จะบีบเบาๆ หลิวถิงถิงหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีทางพฤตินัยก็พบว่าเขากำลังส่งยิ้มบางๆ มาให้กับเธอ หญิงสาวจึงยิ้มตอบแล้วผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ “ไม่ต้องกังวลนะที่รัก แม่พี่ใจดี อีกอย่างตอนที่ท่านรู้ว่าหนูกำลังจะมีหลานคนแรกให้ท่าน ท่านดีใจจนร้องไห้เลยล่ะ” ซือมู่อันปลอบเธอ และสิ่งที่เขาบอกเธอนั้นเป็นความจริงทั้งหมด ตอนที่เขารู้ว่าเธอตั้งครรภ์เขาก็รีบโทรปรึกษามารดาทันที และเมื่อมารดาได้ฟังเรื่องที่เขาเล่าแล้วเธอก็รีบกดวางสายแล้วเปลี่ยนเป็นวิดิโอคอลหาเขา ท่านร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ โดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าท่านจะมีหลานที่กำลังจะได้ลืมตามาดูโลกในเร็วๆ นี้ “จริงหรือคะ ท่านจะไม่ว่าจริงๆ ใช่ไหมที่หนูท้องก่อนแต่ง” เสียงหวานเอ
เมื่อเธอก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอนที่มารดาของว่าที่สามีเตรียมไว้ให้ก็ต้องตกตะลึงกับความกว้างขวางใหญ่โต ดวงตากลมโตมองไปที่เตียงกว้างขนาดหกฟุตซึ่งมีทั้งตุ๊กตา หมอนหนุนสีหวานและหมอนข้างแสนนุ่มวางอยู่บนเตียง ก่อนที่ขาเรียวจะพาร่างระหงของเธอตรงไปที่เตียง เพราะเมื่อคืนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลยทำให้เธอรู้สึกง่วงเป็นอย่างมาก ร่างบางปีนป่ายขึ้นไปนอนบนเตียงนุ่มที่มีผ้าปูสีชมพูแสนหวานแล้วล้มตัวลงนอนเปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลงโดยที่ไม่รู้สึกตัวอีกเลย“อะไรกันมู่อัน ไปพาน้องมาแต่ไม่ขอน้องแต่งงานเนี่ยนะ แม่ถามลูกจริงๆ ลูกพาน้องกลับมาบ้านในฐานะอะไร แม่ของลูก ผู้ที่หญิงที่รัก หรือแค่ผู้หญิงที่มีไว้เพื่อมีทายาทให้เท่านั้น” คำถามของผู้เป็นมารดาทำเอาซือมู่อันตกตะลึงก่อนที่จะเพิ่งคิดได้ ใช่สิ เขาต้องขอแต่งงานให้ถูกต้องและการแต่งงานของเขาจะต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่ให้สมกับการที่ตระกูลเขาเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองแอล“ผมนึกไม่ถึงครับคุณแม่ว่าต้องขอเธอด้วย ตอนแรกก็กะจะจัดงานเลย แต่ก็เหมือนว่าผมทำข้ามขั้นตอนไปอีกตามเคย คือผมต้องขอน้องแต่งงานก่อนใช่ไหมครับ” ซือมู่อันนั่งปรึกษากับมารดาพอดี เขา
วันต่อมา หลังจากจัดการเตรียมสถานที่สำหรับการเซอร์ไพร้ส์ขอแต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตเรียบร้อยแล้ว วันนี้ก็เป็นวันที่เขาตัดสินใจจะขอว่าที่ภรรยาสาวแต่งงาน แต่ในตอนเช้าเขานั้นมีแพลนว่าจะพาเธอไปตรวจครรภ์และฝากครรภ์กับแพทย์หญิงที่เขานั้นรู้จัก เธอเป็นภรรยาของเพื่อนต่างเมืองแต่เธอนั้นย้ายมาประจำอยู่ที่เมืองแอลตั้งแต่เมื่อสามเดือนก่อน“สวัสดีเจียวมี่ เธอสบายดีนะ ลู่เพ่ยเป็นยังไงบ้าง เขายอมย้ายตามเธอมาหรือยัง” เสียงเข้มติดเย็นชาเอ่ยทักทายภรรยาของเพื่อนที่เป็นสูตินรีแพทย์ประจำโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงของเมืองแอลแห่งนี้“สบายดีมู่อัน ลูเพ่ยเขาก็เป็นแบบนั้นแหละ ไม่ย้ายมาหรอกแต่ขอบอกว่ามาหาบ่อยมากคิกๆๆ” แพทย์หญิงเอ่ยทักทายเพื่อนสามีกลับเช่นกัน ก่อนที่จะหลี่ตามองสาวน้อยหน้าหวานข้างๆ เพื่อนของสามีด้วยแววตาสงสัย “อ้อ......นี่ถิงถิงว่าที่ภรรยาของฉันเอง วันนี้ฉันพาเธอมาตรวจครรภ์ พร้อมฝากครรภ์กับเธอไปด้วยเลย” คำบอกเล่าแนะนำแม่สาวน้อยข้างกายของเพื่อนสามีทำเอาคุณหมอสาวตกใจแบบไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่หวงความโสดแบบคุณชาย
การวางแผนของซือมู่อันและคนสนิทของหลิวถิงถิงเป็นไปอย่างลับๆ โดยที่หลิวถิงถิงไม่รู้เรื่องเลย ทางด้านคุณนายซือที่ออกไปพบกับบิดาของหลิวถิงถิงก็อดที่จะทำให้ฝ่ายนั้นตกอกตกใจไม่ได้ แต่พอได้รู้ว่าผู้หญิงวัยกลางคนคนนี้มาสู่ขอบุตรสาวของตนให้กับบุตรชาย ใบหน้ากังวลจึงแปรเปลี่ยนเป็นยินดี “ขอบพระคุณคุณนายกับคุณชายซือนะครับที่ให้เกียรติลูกสาวของผม ถ้าถิงถิงตกลงผมก็ไม่ขัดข้องอะไรหรอกครับ” ใบหน้าเหี่ยวย่นไปตามวัยเปื้อนรอยยิ้มแห่งความสุข ใครจะไปคิดว่าบุตรสาวของตนจะได้แต่งเข้าไปในตระกูลที่ยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลของเมืองแอล “อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ เพราะลูกชายของดิฉันทำอะไรข้ามขั้นตอนไปมาก การมาสู่ขอให้ถูกต้องตามประเพณีก็ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่ควรแล้วค่ะ” ซือหลินซู่เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้ม “ข้ามขั้นตอน หมายความว่ายังไงครับ ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าลูกสาวของผมชอบพออยู่กับคุณชาย อาจจะเป็นเพราะผมไม่ใช่พ่อที่ดีมากด้วยแหละครับ ถึงไม่ค่อยจะรู้เรื่องส่วนตัวของลูกๆ” น้ำเสียงงุนงงในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นสลดลงเมื่อนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ใช่พ่อที่ดีที่ใส่
เมื่อเธอก้าวเท้าเข้าไปในห้องนอนที่มารดาของว่าที่สามีเตรียมไว้ให้ก็ต้องตกตะลึงกับความกว้างขวางใหญ่โต ดวงตากลมโตมองไปที่เตียงกว้างขนาดหกฟุตซึ่งมีทั้งตุ๊กตา หมอนหนุนสีหวานและหมอนข้างแสนนุ่มวางอยู่บนเตียง ก่อนที่ขาเรียวจะพาร่างระหงของเธอตรงไปที่เตียง เพราะเมื่อคืนตื่นเต้นจนนอนไม่หลับเลยทำให้เธอรู้สึกง่วงเป็นอย่างมาก ร่างบางปีนป่ายขึ้นไปนอนบนเตียงนุ่มที่มีผ้าปูสีชมพูแสนหวานแล้วล้มตัวลงนอนเปลือกตาบางค่อยๆ ปิดลงโดยที่ไม่รู้สึกตัวอีกเลย“อะไรกันมู่อัน ไปพาน้องมาแต่ไม่ขอน้องแต่งงานเนี่ยนะ แม่ถามลูกจริงๆ ลูกพาน้องกลับมาบ้านในฐานะอะไร แม่ของลูก ผู้ที่หญิงที่รัก หรือแค่ผู้หญิงที่มีไว้เพื่อมีทายาทให้เท่านั้น” คำถามของผู้เป็นมารดาทำเอาซือมู่อันตกตะลึงก่อนที่จะเพิ่งคิดได้ ใช่สิ เขาต้องขอแต่งงานให้ถูกต้องและการแต่งงานของเขาจะต้องจัดอย่างยิ่งใหญ่ให้สมกับการที่ตระกูลเขาเป็นตระกูลใหญ่ของเมืองแอล“ผมนึกไม่ถึงครับคุณแม่ว่าต้องขอเธอด้วย ตอนแรกก็กะจะจัดงานเลย แต่ก็เหมือนว่าผมทำข้ามขั้นตอนไปอีกตามเคย คือผมต้องขอน้องแต่งงานก่อนใช่ไหมครับ” ซือมู่อันนั่งปรึกษากับมารดาพอดี เขา
มือบางชื้นเหงื่อขึ้นมาทันทีที่รถตู้คันหรูเลี้ยวเข้ามาภายในอาณาจักรของตระกูลซือในพื้นที่เกือบร้อยไร่ใจกลางเมืองแอล ซือมู่อันหันไปมองใบหน้าหวานที่ซีดเผือดของคนข้างๆ ก็พอจะดูออกทันทีว่าแม่สาวน้อยภรรยาทางพฤตินัยของเขากำลังกังวล เพราะนี่คือการพาเธอไปแนะนำให้ครอบครัวเพียงคนเดียวของเขาได้รู้จัก มือหนาคว้ามือบางมากุมไว้ก่อนที่จะบีบเบาๆ หลิวถิงถิงหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาของสามีทางพฤตินัยก็พบว่าเขากำลังส่งยิ้มบางๆ มาให้กับเธอ หญิงสาวจึงยิ้มตอบแล้วผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ “ไม่ต้องกังวลนะที่รัก แม่พี่ใจดี อีกอย่างตอนที่ท่านรู้ว่าหนูกำลังจะมีหลานคนแรกให้ท่าน ท่านดีใจจนร้องไห้เลยล่ะ” ซือมู่อันปลอบเธอ และสิ่งที่เขาบอกเธอนั้นเป็นความจริงทั้งหมด ตอนที่เขารู้ว่าเธอตั้งครรภ์เขาก็รีบโทรปรึกษามารดาทันที และเมื่อมารดาได้ฟังเรื่องที่เขาเล่าแล้วเธอก็รีบกดวางสายแล้วเปลี่ยนเป็นวิดิโอคอลหาเขา ท่านร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ โดยที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าท่านจะมีหลานที่กำลังจะได้ลืมตามาดูโลกในเร็วๆ นี้ “จริงหรือคะ ท่านจะไม่ว่าจริงๆ ใช่ไหมที่หนูท้องก่อนแต่ง” เสียงหวานเอ
มู่หลินไม่ได้รู้สึกยินดีเท่าไหร่นักที่ต้องไปไกลถึงเมืองอื่น แต่หากจะให้เลือกตกงานกับยังมีงานทำ เธอขอเลือกอย่างหลังมากกว่า และข่าวที่มู่หลินถูกสั่งย้ายไปอยู่สาขาต่างเมืองก็ดังไปทั่วทั้งตึก หลายๆ คนรู้สึกโล่งใจและสบายใจที่มู่หลินจอมแสบนั้นถูกย้ายไปไกล แต่บางคนก็ยังรู้สึกว่ามันไม่พอกับการกระทำที่แสดงออกต่อพนักงานใหม่ ถ้าเมื่อวานผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ภรรยาของหุ้นส่วนท่านประธานก็ไม่รู้ว่าวันนี้เธอจะยังได้รับความยุติธรรมอยู่ไหมซือมู่อันให้จางหลงไปรับหลิวถิงถิงมาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้เพราะเขาจองโต๊ะสำหรับมื้อกลางวันเอาไว้แล้ว และรู้ดีว่าเด็กสาวอยากจะเลี้ยงขอบคุณเพื่อนสนิทที่อยู่ที่นี่ของเธอก่อนที่เธอจะกลับไปพร้อมกับเขา “ขอบคุณนะคะที่ทำเพื่อหนูมากขนาดนี้” เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากที่โดนเขาดึงไปสวมกอดภายในร้านอาหารโดยไม่แคร์สายตาของคนอื่นๆ ที่มองมาอย่างอิจฉา มือหนากอบกุมมือบางเอาไว้ก่อนที่จะจับจูงเธอให้เดินตามไปที่โต๊ะ เขาเดินไปเลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย หัวใจก็รู้สึกมีความสุข หลังจากที่ร
หลิวถิงถิงใช้เวลาอยู่กับคุณชายซือทั้งคืนโดยในตอนสายๆ เพื่อนที่พักอยู่ร่วมห้องของเธอก็โทรเข้ามาถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงและตกใจ “ถิงถิง สรุปเรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่ แล้วที่เธอไม่กลับห้องทั้งคืนเพราะออกไปกับหุ้นส่วนของท่านประธานจริงๆ ใช่ไหม แล้วไหนเธอบอกว่าไม่เคยมีแฟนยังไงล่ะ ทำไมจู่ๆ หุ้นส่วนของท่านประธานถึงมาบอกทุกคนว่าเธอคือภรรยาของเขา สรุปไอ้อาการอาเจียนเป็นเพราะเธอกำลังท้องใช่ไหม” ลี่หลินซักไซ้เพื่อนสาวเสียยืดยาวด้วยความเป็นห่วงและอยากรู้“คือฉันไม่รู้มาก่อนเลยว่าคุณชายซือจะเป็นหุ้นส่วนของท่านประธาน อันที่จริงฉันน่ะเคยเป็นเด็กในอุปการะของคุณชายซือมาก่อนสมัยเรียนมหาวิทยาลัย ตอนแรกก็ไม่ได้มีอะไรหรอก แต่มาตอนหลังๆ เขาก็...คิดไม่ซื่อกับฉันมั้ง” ที่หญิงสาวกล้าตอบไปแบบนั้นเพราะเช้านี้ซือมู่อันออกไปจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นที่ทำงานให้กับเธอ เขาไม่อยากให้เธอเครียดและคิดมาก และพรุ่งนี้เขาจะให้คนของเขาไปขนของออกจากหอพักที่เธอพักอยู่กับลี่หลินเพื่อกลับเมืองแอลพร้อมกัน“อ้าว จริงหรอ สรุปว่าคุณชายซือ หุ้นส่วนของท่านประธานคือพ่อของลูกในท้อ
“เพราะพี่รักหนูยังไงล่ะเด็กโง่ แค่นี้ก็มองไม่ออกหรอว่าพี่รู้สึกอย่างไรกับหนู หนูคิดว่าถ้าพี่ไม่รักหนูแล้วพี่จะหลอกหนูว่าพี่เป็นหมันเพื่อที่จะให้หนูท้องลูกของพี่เพื่ออะไร แล้วคนอย่างพี่ถ้าไม่รู้สึกดีหรือรู้สึกว่าใครพิเศษพอพี่จะไม่พบเจออีกเป็นครั้งที่สองหรอกนะ พี่รักหนู ตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นแล้ว” คำสารภาพของชายหนุ่มทำเอาว่าที่คุณแม่น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ หากแต่ครั้งนี้มันเป็นน้ำตาแห่งความสุข ในที่สุดคำที่เธออยากฟังมานานจากคนเย็นชาคนนี้ก็ดังออกมาจากริมฝีปากสีกุหลาบที่แสนร้ายกาจของเขาเสียที วงแขนเรียวโอบกอดเขาตอบใบหน้าชุ่มน้ำตาก็ซบซุกลงบนหน้าอกหนั่นแน่นของเขา“หนูก็รักพี่ค่ะฮึก... พี่มู่อัน หนูรักพี่ตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอแล้ว แต่หนูไม่กล้าที่จะพูดออกมาเพราะหนูไม่ใช่ผู้หญิงที่เหมาะสมหรือคู่ควรกับพี่เลยสักนิด ความฝันที่จะได้เคียงข้างพี่มันไกลเกินไปสำหรับหนูจริงๆ ฮึก.. ขอบคุณนะคะสำหรับความรักที่พี่มอบให้ หนูสัญญาจะรักษาและดูแลมันเป็นอย่างดีฮึก...” หญิงสาวสารภาพรักออกมาให้ชายหนุ่มได้ฟังเช่นกัน มือหนาลูบลงบนผมนุ่มและแผ่นหลังของหญิงสาวที่เขาเพิ่
เมื่อรถตู้คันหรูเคลื่อนเข้าไปจอดที่หน้าโรงแรมหรูของเมืองเอ็ม สองหนุ่มสาวก็ก้าวลงจากรถและเดินเคียงข้างกันเข้าไปในโรงแรม หญิงสาวในชุดยูนิฟอร์มของบริษัทถูกสาวๆ ทั้งที่เป็นแขกและพนักงานในโรงแรมมองมาที่เธอเป็นตาเดียว ร่างระหงค่อยๆลด ความเร็วแล้วเยื้องย่างตามหลังชายหนุ่มไปอย่างเจียมตัว เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นตัวประหลาด แต่ก็คงไม่แปลกนักถ้าเธอไม่สวมชุดพนักงานห้างธรรมดาๆ มาเดินกับคนที่มีชื่อเสียงอย่างคุณชายซือทันทีที่ประตูห้องถูกเปิดออก ร่างของสองหนุ่มสาวก็แทบจะถูกดึงดูดเข้าหากันโดยที่หลิวถิงถิงยังไม่ทันห้ามปรามอะไร ปากเรียวสีกุหลาบของชายตรงหน้าก็ตะโบมจูบมาจนเธอแทบจะหายใจไม่ทัน มือบางยกขึ้นก่อนที่จะตีลงไปบนหน้าอกหนั่นแน่นของชายหนุ่มเพื่อเป็นการเตือนสติ ถึงแม้เธอจะคิดถึงเขามากแค่ไหน แต่เธอก็ยังอยากที่จะคุยกับเขาให้เข้าใจก่อนว่าที่ผ่านมันคืออะไรกันแน่ แล้วเขาหลอกเธอว่าเขาเป็นหมันจริงๆ ใช่ไหม ซือมู่อันถอนจูบออกจากปากบางของหญิงสาวอย่างแสนเสียดาย แต่ไม่เป็นไรรอคุยกับเธอให้เข้าใจแล้วค่อยฟัดเธอให้หายคิดถึงก็ได้ มือหนาจับจูงมือบางให้เดินตามไปนั่งลงบนโซฟาตัวยาวก่อนที่เขาจะทรุด
วงแขนอบอุ่นผละออกจากร่างระหงของหญิงสาวที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาทางพฤตินัยที่เขามาตามหาถึงเมืองนี้ เธอก้าวเดินไปตรงหน้าของมู่หลิน ก่อนที่จะออกคำสั่งให้สองบอดี้การ์ดซ้ายขวาของคุณชายซือให้ประคองเธอขึ้นมา เรื่องอะไรที่สองหนุ่มจะไม่ทำตามคำสั่งของว่าที่คุณนายซือ ทั้งต้าฉินและจางหลงเข้าไปประคองร่างอวบอัดของมู่หลินให้ยืนขึ้น สองเท้าเล็กก้าวเข้าไปใกล้ๆก่อนที่จะทำในสิ่งที่ทุกคนในแผนกไม่คาดคิด แม้แต่ไม่ไยดีอันเองก็ไม่คาดคิดว่าเด็กสาวตัวน้อยนั้นจะกล้าตบผู้หญิงที่ดูจัดจ้านกว่า “เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!! เพี๊ยะ!!!!” มือบางฟาดลงบนใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางหนาเตอะอย่างสุดแรงถึงสามทีจึงหยุดมองก่อนที่จะเอ่ยออกมาด้วยความพอใจท่ามกลางสีหน้าตกใจของสองบอดี้การ์ด พนักงานทุกคนที่กำลังมองดูเหตุการณ์หรือแม้กระทั่งซือมู่อันหริอแม้แต่หญิงสาวที่เพิ่งถูกกระทำเอง “เป็นไงคะ เวลาที่เราไม่มีทางสู้แล้วโดนกระทำอะไรแบบนี้ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง อย่าคิดว่าลูกน้องทุกคนที่เขายอมคุณเพราะเขารักหรือเคารพในตัวคุณ แต่เพราะเขากลัวที่จะมีปัญหากับคุณจนทำงานที่นี่ไม่ได้มากกว่า แต่ขอโทษนะคะ เพราะว่าฉันไม่ใช่คนแบบนั้น!!” เสียงหว