“ขออนุญาตครับท่านประธาน คุณฮุ่ยเหมยมาแล้วครับ” เสียงของต้าฉินดังขึ้นรายงานท่านประธานจากด้านนอก
“เข้ามาได้” เสียงเข้มเย็นชาดังขึ้นแต่ไม่ได้ทำให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ก่อนแล้วรู้สึกถึงความน่ากลัวจากคนตรงหน้าเลยสักนิดร่างอวบอิ่มเดินเข้ามาหลังจากที่บอดี้การ์ดมือขวาของท่านประธานเปิดประตูออกแล้วผายมือเชิญให้เธอก้าวเข้าไปด้านใน ร่างอวบอิ่มสั่นสะท้านแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งๆ ที่การเข้ามาในห้องนี้เป็นความใฝ่ฝันของสาวๆ หลายๆ คนแต่คงไม่มีใครอยากที่จะเข้ามาในสถานการณ์แบบนี้ ขาเรียวก้าวไปยืนอยู่ด้านหน้าของท่านประธานก่อนที่สายตาจะเหลือบไปมองสาวหน้าหวานคู่กรณีของตน เธอกำลังนั่งอยู่อย่างสบายและมองมาที่เธอเช่นกัน ฮุ่ยเหมยเป็นคนที่หลบสายตาก่อน ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเด็กสาวคนนี้ไม่ใช่คนที่เธอควรจะมีเรื่องด้วย“คุณรู้ใช่ไหมว่าผมเรียกคุณให้มาพบด้วยเรื่องอะไร” เสียงเย็นชาดังขึ้นพร้อมกับสายตาเย็นชาที่มองมาทำให้หญิงสาวร่างอวบรู้สึกขนลุกแล้วร่างกายมันก็สั่นสะท้านแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “ร่ะ.ร่ะ..รู้ค่ะ” เสียงแหลมๆ ที่เคยได้ยินกลายเการฝึกงานสามเดือนที่ผ่านมาทำให้นักศึกษาสาวได้ทั้งประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ตนเองร่ำเรียนมาและเวลาที่หญิงสาวรอคอยก็ใกล้จะมาถึงเต็มที นั่นก็คือวันที่เธอเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแอล “น้องถิงถิง ฝึกงานวันสุดท้ายแล้ว เดี๋ยวพวกพี่จะพาไปเลี้ยงส่ง” จินหยูผู้จัดการแผนกบัญชีและการเงินของบริษัทเอ่ยขึ้นหลังจากได้เวลาเลิกงาน “ไปเลี้ยงที่ไหนกันหรอคะ” นักศึกษาฝึกงานเพียงหนึ่งเดียวของแผนกเอ่ยถามขึ้นด้วยความแปลกใจ“คลับแถวบริษัทเรานี่แหละจ้ะ แต่ไม่ต้องห่วงนะ คลับนี้เป็นของเครือตระกูลซือ นั่นก็คือของท่านประธานนั่นแหละจ้ะ ว่าแต่เราไปได้หรือเปล่า ถ้าไปไม่ได้นี่งานกร่อยเลยนะ เพราะงานนี้เป็นงานเลี้ยงส่งหนู” สาวใหญ่เอ่ยขึ้น หลิวถิงถิงรู้สึกเกรงใจจึงไม่ปฏิเสธ “ไปก็ได้ค่ะ อีกอย่างถิงถิงอยากจะขอบคุณพี่ๆ ทุกคนด้วยที่คอยสั่งสอนถิงถิงจนเรียนรู้งานได้ดีตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ผ่านมา” เสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มดีใจของพี่ๆ ทุกคนในแผนก “ดีมากจ้ะ อ้อ แล้วเปลี่ยนชุดด้วยนะเดี
สองสาวรุ่นพี่จัดการเนรมิตสาวน้อยวัยใสในชุดแซกเซ็กซี่อวดแผ่นหลังขาวเนียนไปจนเกือบจะถึงช่วงเอว ความสั้นก็เลยเข่ามาเล็กน้อย หลิวถิงถิงรู้สึกเย็นวูบวาบจนต้องคว้าเสื้อคลุมมาสวมไว้ สองสาวได้แต่ขำให้กับอาการของสาวน้อย เพราะดูๆ เด็กสาวคงยังไม่มีโอกาสได้ใส่ชุดที่เปิดเผยเนื้อหนังมังสาขนาดนี้ ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจนเข้มขึ้นริมฝีปากที่เคยเป็นสีชมพูอ่อนๆ กลายเป็นสีแดงเข้ากับชุดสีแดงเพลิง ทรงผมก็ถูกถักเปียเก็บขึ้นจนเผยให้เห็นลำคอระหง สองสาวมองดูผลงานของตนเองก่อนที่จะยิ้มออกมาอย่างพอใจ ‘รับรองงานนี้มีคนคอเคล็ดหลายคน’ซีแอล คลับ ร่างบางหุ่นสวยทรงนาฬิกาทรายในชุดเดรสเปิดไหล่คว้านหลังลึกไปถึงช่วงเอว ความยาวระดับเคลียร์หน้าขา ใบหน้าหวานถูกแต่งแต้มจนจำลุคส์เดิมแทบจะไม่ได้ แต่ความสวยและเซ็กซี่ที่เปร่งประกายออกมานั้นทำให้นักเที่ยวชายหลายคนมองไปที่ร่างบางในชุดสีแดงเพลิงกันคอแทบเคล็ด อีกทั้งสองสาวที่ก้าวมาพร้อมกันก็สวยเปรี้ยวไม่แพ้กัน รวมๆ คือสวยงามลงไปตัวไปหมด “โอ้พระเจ้า นั่นคุณหลิวหรือนั่น” เสียงเข้มเอ่ยดังขึ้นพร้อม
หลิวถิงถิงรู้สึกว่าหนุ่มๆ มาชนแก้วกับเธอมากเกินไปจนเธอต้องหันไปหาจินหยูเพื่อขอความช่วยเหลือ ด้วยความที่เธอเป็นคนที่มีวุฒิภาวะมากสุดจึงทำหน้าที่กันหนุ่มๆ ให้เด็กสาวไปโดยปริยาย ซือมู่อันที่แอบมองอยู่บนชั้นสองยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อยและหมายมาดจะมอบเงินโบนัสเพิ่มเติมให้แก่ผู้จัดการสาวใหญ่ที่ทำหน้าที่ดูแลเด็กสาวใต้การปกครองเป็นอย่างดี “หน้าแดงมากแล้วนะเราอ่ะ เมาหรือเปล่าเนี่ย” จินหยูขยับเข้ามาใกล้ร่างบางของหลิวถิงถิงก่อนที่จะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แสดงความห่วงใย “นิดหน่อยค่ะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยถิงถิงกันผู้ชายพวกนั้นไว้ให้ อันที่จริงถิงถิงไม่ค่อยชอบมาเที่ยวสถานที่แบบนี้เท่าไหร่หรอกค่ะ เสียงมันดังแถมรู้สึกไม่ค่อยปลอดภัยด้วย” หลิวถิงถิงเอ่ยออกมาให้ผู้จัดการสาวใหญ่ฟังอย่างไม่ปิดบัง “ไม่ต้องกังวลนะ ที่นี่เป็นคลับของท่านประธาน รับรองเราทุกคนจะปลอดภัย ไม่มีใครกล้ามารังแกเราหรอก อ้อ!! แล้วท่านประธานฝากต้าฉินมาบอกว่าวันนี้ท่านประธานจะเลี้ยงเองให้ทุกคนเต็มที่ได้เลย” ทันทีที่ได้ยินสาวใหญ่เอ่ยถึงซือมู่อัน หลิวถิงถิงก็ถึงกับเหลีย
ร่างสูงสง่าเดินเข้าไปในห้องวีวีไอพีของคลับเพื่อพบกับคนที่บังอาจมาทำเรื่องน่าเกลียดในคลับของเขา เพราะเขาไม่เคยสนับสนุนให้นักเที่ยวคนไหนใช้วิธีหลอกลวงหญิงสาวด้วยการวางยาในแอลกอฮอล์อย่างนี้ เพราะเวลามีปัญหาอะไรมา คลับของเขาก็ต้องร่วมรับผิดชอบเช่นกัน “จ่ะ..จับผมมาทำไมครับ” น้ำเสียงหวาดกลัวหากแต่ยังทำใจดีสู้เสือเอ่ยถามขึ้น ใครบ้างในเมืองแอลที่จะไม่รู้จักซือมู่อันหรือคุณชายซือผู้เย็นชาคนนี้ หากใครได้มีเรื่องหรือมีปัญหากับเขารับรองว่าชีวิตนี้จบไม่สวย ถ้าเขายังใจดีก็ยังคงมีที่ยืนอยู่ในเมืองแอล หากเขาใจร้ายถ้าไม่ตายก็คงต้องถูกบีบให้ย้ายออกไปอยู่ที่อื่นแล้วอย่าหวังว่าจะได้กลับมาเหยียบที่เมืองนี้อีกเลย “แล้วนาย...ได้ทำอะไรผิดหรือเปล่าล่ะ” น้ำเสียงเย็นชาดังขึ้นมาจากริมฝีปากสีกุหลาบของคนตรงหน้า มือหนาหยิบปืนสีดำเมื่อมขึ้นมา ก่อนที่จะใช้ผ้าเช็ดและถูไปมา บนกระบอกปืนเบาๆ สายตาของชายหนุ่มนักเที่ยวสั่นไหวก่อนที่ร่างหนาจะสั่นเทิ้มเช่นเดียวกันด้วยความกลัว “ป่ะ...เปล่านะครับ ผมก็มาดื่มมาเที่ยวตามปกติ” เขาพยายามทำใจดีสู้เสือแบบ
ร่างหนากลายเป็นที่พักพิงแอบอิงให้แม่แมวน้อยคออ่อนที่เมามายนอนหลับตาพริ้มไม่ได้สติ ตั้งแต่ขึ้นรถมา เขาเหลือบไปมองใบหน้าหวานก่อนที่จะใช้นิ้วเรียวยาวของตนเกลี่ยปอยผมที่ปกคลุมบดบังใบหน้าหวานอยู่ แม้ในยามหลับใหลแม่สาวน้อยก็ยังดูสวยและน่าเอ็นดูในสายตาของเขา เขาไม่เคยรู้สึกกับผู้หญิงคนไหนแบบเธอมาก่อน ทั้งยังพาเธอขึ้นเตียงครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย ที่สำคัญเขาไม่สามารถที่จะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนไหนได้อีกเลยนอกจากเธอคนนี้คนเดียว“กลับคอนโดใช่ไหมครับคุณชาย” เสียงจางหลงเอ่ยถามขึ้นขัดจังหวะความคิดของเจ้านายหนุ่ม“อืม....” เสียงเย็นชาตอบกลับไปเพียงเท่านั้นก่อนที่จะหยิบสมาร์ทโฟนเครื่องหรูออกมาจากกระเป๋าเพราะมีข้อความเข้าจากต้าฉินบอดี้การ์ดมือขวา งานที่สั่งเรียบร้อยครับคุณชาย (รูปถ่ายของนักเที่ยวชายในสภาพที่ทนดูแทบไม่ได้)ซือมู่อัน ดีมาก แล้วพนักงานของบริษัทเราล่ะกลับกันหมดหรือยังบอดี้การ์ดมือขวา ยังครับ ยังคงดื่มกันต่อซือมู่อัน ฝากดูแลหน่อยนะ เลี้ยงให้เต็มที่บอดี้การ์ดมือขวา รับทราบครับคุณชาย
ซือมู่อันวางหลิวถิงถิงลงก่อนที่จะหมุนร่างบางให้หันหลังให้เขา มือบางของเธอค้ำยันกับผนังห้องน้ำไว้ ก่อนที่เขาจะส่งแท่งเอ็นอุ่นร้อนของตนเข้าไปในช่องทางรักที่ยังคงคับแคบจากทางด้านหลังอีกครั้ง มือหนาทั้งสองข้างจับสะโพกกลมกลึงของสาวสวยตรงหน้าเอาไว้แน่น ก่อนที่สะโพกสอบของตนจะทำหน้าที่ส่งแท่งเอ็นอุ่นร้อนเข้าไปสำรวจภายในถ้ำงามอย่างช้าๆ และเริ่มกดสะโพกเร่งขึ้นให้เป็นจังหวะหนักหน่วงในเวลาต่อมาจนร่างบางสั่นสะท้านทั้งสองร่างเกร็งกระตุกพร้อมกัน ความอุ่นร้อนจากน้ำรักถูกฉีดพุ่งเข้าไปในโพรงสวาทของหญิงสาวทุกหยาดหยด ตอนนี้อารมณ์ใคร่ที่เกิดขึ้นมันทำให้ความยับยั้งชั่งใจหมดสิ้นเสียแล้ว .ซือมู่อันค่อยๆ ดึงแท่งเอ็นที่เพิ่งจะเสร็จบทสวาทไปแล้วเมื่อครู่ออกจากช่องทางรักของหลิวถิงถิงอย่างช้าๆ ขาเรียวสั่นระริกหากไม่ได้เขากอบกุมโอบอุ้มร่างบางของเธอเอาไว้ในวงแขนล่ำ เธอคงจะทรุดลงไปกองกับพื้น เขากดครีมอาบน้ำก่อนที่จะถูไถและลูบไล้ไปตามร่างกายให้กับเธออย่างอ่อนโยน พร้อมทั้งสระผมให้หญิงสาวเช่นกัน ความเงียบเกิดจากเหตุการณ์ร่วมรักก่อนหน้า เขาไม่ได้ป้องกันและเขาก็ปลดปล่อยข้างใน ซือมู่อันรู้ดีแต่เขากลับไม่ได้รู้สึกเส
หลังจากที่ใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำสักพัก ร่างบางในชุดคลุมตัวโคร่งก็เดินออกมา ใบหน้าหวานปราศจากเครื่องสำอางมีหยดน้ำเกาะอยู่ เท้าเล็กพาขาเรียวก้าวไปยังตู้เสื้อผ้าที่มีเสื้อผ้าของเธออยู่บางส่วนโดยคุณชายซือเป็นคนที่ซื้อมาเตรียมเอาไว้ให้ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอมานอนค้างอ้างแรมกับเขา ร่างหนากำลังนั่งสง่าอยู่หน้าโน๊ตบุ๊คราคาแพง บนใบหน้ามีแว่นตาสีใสคอยบดบังดวงตาคมกล้าเอาไว้ เขาได้ยินเสียงหญิงสาวที่อยู่ภายในห้องนอนเดินออกมา ก่อนที่จะเดินตรงไปยังประตู ร่างหนาผุดลุกขึ้นก่อนที่จะก้าวเข้าไปถึงตัวเธออย่างรวดเร็ว “จะไปไหนถิงถิง” เสียงเข้มเอ่ยขึ้น “อ่ะ...เอ่อ... คือดิฉันจะไปร้านขายยาน่ะค่ะ” หญิงสาวตอบไปตามตรง ด้วยเห็นว่าเขาอาจจะเห็นดีกับเธอด้วย เพราะเรื่องเมื่อคืนมันเกิดขึ้นมาจากความใคร่ล้วนๆ “ทำไมต้องไปร้านขายยา ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า” มือหนาถูกวางลงไปบนหน้าผากมนของคนตัวเล็กกว่า หลิวถิงถิงจะถอยหลังหนีหากแต่โดนมือหนาอีกข้างรั้งร่างบางของเธอเอาไว้อยู่ “ก่ะ..ก็เรื่องเมื่อคืนยังไงล่ะคะ” ใบหน้าหวานแดงก่ำขึ้นมาทันทีที่เธอต้องเอ่ยถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน “เมื่อคืน.... เมื่อคืนทำไม” ชายหนุ่ม
หลิวถิงถิงกลับมาที่หอพักของมหาวิทยาลัยทีหลังเพื่อนสนิทอีกสองคน และแน่นอนพอมาถึงเธอก็โดนซักไซ้ไล่เลียงทันทีจากการไม่รับสายเพื่อนเกินกว่าสิบสาย “ถิงถิง ไปไหนมาน่ะ ฉันโทรหาเธอเกือบจะยี่สิบสายอยู่ละ” จ้าวซือซือบ่นออกมาให้เพื่อนสาวคนสวยที่เพิ่งจะเปิดประตูเข้ามาในห้อง “อ่ะ..เอ่อ คือ...ไปทำธุระข้างนอกมาน่ะ” หลิวถิงถิงเลือกที่จะไม่พูดความจริงกับเพื่อน สองสาวเหล่ตามองเธอก่อนที่จะเอ่ยประโยคที่น่าตกใจขึ้น “แล้วที่เขามีข่าวว่าคุณชายซือหิ้วเธอออกไปจากคลับเมื่อคืนล่ะเธอจะว่าไง” ร่างระหงหยุดชะงักก่อนที่จะหันมามองหน้าเพื่อนสนิทสาว “มีคนเห็นอย่างนั้นเหรอ เอ่อ..คือเมื่อคืนน่ะฉันไปงานเลี้ยงส่งกับพี่ๆ ในแผนกที่บริษัท และพอดีคลับที่ไปเป็นของท่านประธาน เอ่อ คุณชายซือน่ะ เขาเห็นฉันเมาเลยพากลับไปส่งไง” เสียงหวานตอบอ้อมแอ้ม “กลับมาส่งไหนยะ แล้วขอถามหน่อยตลอดระยะเวลาที่พวกฉันสองคนไม่อยู่เธอไปพักที่ไหน ฉันถามป้าที่หอพักแล้ว เขาบอกว่าเธอไม่ค่อยกลับมานอนที่หอเลย” คำถามของเพื่อนสนิทสาวทำเอาหลิวถิงถิงอ้าปากค้าง ร่างบางสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนที่จะเดินไปนั่งลงแล้วตัดสินใจเล่าความจริงเรื่องของเธอกับ
“ยินดีด้วยนะลี่หลิน คุณจางหลง ในที่สุดก็จะลงเอยกันเสียที” เจ้าของร้านคนสวยเอ่ยแสดงความยินดีกับเพื่อนสาวทันทีที่เห็นคู่รักเดินเข้ามาในงานเลี้ยงขนาดเล็กภายในร้านของเธอ วันนี้ร้านของเธอปิดทำการขายหนึ่งวัน และได้นำขนมบางส่วนไปให้เด็กๆ ตามสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าได้ทาน ส่วนสามีสุดหล่อแถมสายเปย์ก็มอบทุนการศึกษาให้เด็กด้อยโอกาสในนามของตระกูลซือ“จ้ะ ขอบใจเธอมากนะที่ทำให้เราสองคนได้รู้จักกัน” ลี่หลินเอ่ยขึ้นขณะที่เดินมาจับมือเพื่อนสาวคนสวยที่ราศีคุณนายจับ ผิวขาวเนียนผุดผ่องตามประสาคนไม่ค่อยโดนแสงแดด“มันเป็นพรหมลิขิตมากกว่า จริงไหมคะคุณจางหลง” ซือถิงถิงเอ่ยออกมาพร้อมกับเอ่ยถามบอดี้การ์ดมือซ้ายของสามีหนุ่มยิ้มๆ “ใช่ครับคุณนาย” จางหลงตอบพร้อมยิ้มกว้างออกมา ‘อันที่จริงก็เพราะคุณนายหนีไปทำงานที่เมืองเอ็มอยู่กับลี่หลินนั่นแหละครับผมถึงได้เจอเธอ’ จางหลงคิดในใจหากแต่เขาไม่พูดออกมาเพราะการหนีไปครั้งนั้นของเธอทำให้คุณชายซือผู้ที่เคยเย็นชาของเขากลับกลายเป็นคุณชายซือผู้คลั่งรักและแสนอบอุ่นกับภรรยาและลูกๆ ทั้งสองในวันนี้ สองหนุ่มสาวทักทายเจ้าของร้านคนสวยอยู่สักพักก่อนที่จะเข้าไปเล่นกับคุณชายน้อยและคุณหนูน้
5 ปีผ่านไป สองแฝดน้อยเติบโตมาเป็นเด็กดี และด้วยไอคิวและอีคิวที่สูงกว่าเด็กทั่วไปเลยทำให้ทั้งสองเด็กน้อยถูกเรียกว่าเด็กอัจฉริยะ ทั้งลู่ชิงและลู่เหลียนต่างเป็นที่รักของครอบครัว ครูอาจารย์และเพื่อนๆ ทั้งชั้นเรียน เพราะความเก่ง ฉลาด และมีนิสัยน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ถือว่าตนอยู่ในตระกูลที่ยิ่งใหญ่หรือสูงส่ง ลู่ชิงและลู่เหลียนมีเพื่อนตั้งแต่ตระกูลธรรมดาไปจนถึงลูกเจ้าของบริษัท“แม่ครับ วันนี้ผมขอไปเตะบอลกับต้าเฟยนะครับ” เสียงเล็กๆ ของบุตรชายเอ่ยดังขึ้นหลังจากกลับมาจากโรงเรียน ต้าเฟยคือบุตรชายของต้าฉิน กับหลินหลิน ทั้งคู่ตัดสินใจแต่งงานและมีลูกในทันทีทำให้สองเด็กน้อยมีอายุห่างกันแค่สิบเดือนเท่านั้น“แล้วลู่เหลียนจะไปอยู่ไหนล่ะคะพี่ลู่ชิง” น้องสาวที่คลอดห่างกันไม่กี่นาทีเอ่ยถามพี่ชายขึ้นเพราะต้าเฟยนั้นก็เป็นผู้ชาย เด็กวัยเดียวกันกับเธอนั้นไม่มีเลย มีก็แต่น้องซูหนี่ว์ บุตรสาวของคุณน้าซือซือ ซุปตาร์สาวเพื่อนของมารดาที่อายุน้อยกว่าเธอไปถึงสามปี น้องเพิ่งจะได้สองขวบ เพราะคุณน้าซือซือเพิ่งตกลงแต่งงานกับคุณลุงเจียอีที่ตามจีบคุณน้ามาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย “เอาอย่างนี้ไหมคะลูก เดี๋ยวลู่เหลียนไปที
“ชอบเขาหรอวะจางหลง” ต้าฉินโพล่งถามขึ้นมาทันที จางหลงที่ยกน้ำขึ้นมากระดกพอดีน้ำแทบจะพุ่งพรวดออกจากปาก มือหนายกขึ้นมาเช็ดปากก่อนที่จะหันขวับไปมองใบหน้าหล่อเหลาของไอ้เพื่อนสนิท “เออ...ว่าแต่อาการของข้ามันมองออกขนาดนั้นเลยหรอวะ” จางหลงเอ่ยถามขึ้นเสียงหลง “มาก ไม่ค่อยแสดงออกเลยฮ่าๆๆ” “เออ..ใครมันจะไปเก็บความรู้สึกเก่งแบบแก ระวังเถอะ ระวังสุนัขคาบไปรับประทาน แม่นักข่าวสาวเพื่อนสนิทของแกน่ะ” จางหลงไม่ยอมให้เพื่อนมาแขวะอยู่ฝ่ายเดียว เลยเอาความลับที่รู้มาแขวะเพื่อนกลับไปเช่นกัน ต้าฉินมองหน้าเพื่อนสนิทอย่างตกใจ “เฮ้ย!! แล้วแกรู้ได้ไงวะ ฉันไม่เคยแสดงออกเลยนะ” ต้าฉินอุทานพร้อมเอ่ยถามด้วยความสงสัยปนตกใจ “ก็แกน่ะคบผู้หญิงสักคนที่ไหน ก็เห็นจะมีแต่หลินหลินคนเดียวที่แกคุยด้วย โถ่!! ไอ้ต้าฉินอย่าคิดว่าแกถือไพ่เหนือกว่าคนเดียวสิวะ ขนาดเรื่องนี้คุณชายยังรู้เลยฮ่าๆๆๆ” จางหลงเอ่ยขึ้นก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ ต้าฉินตาเบิกโพลงเขาไม่คิดว่าคุณชายผู้ที่ไม่สนใจเรื่องราวใดๆ แต่ดันมารู้เรื่องของหัวใจที่เขาปิดบังเอาไว้สองหนุ่มหยอกล้อกันระหว่างที่นั่งคุมเชิงอยู่หน้าห้องพักฟื้นVVIPของคุณนายซือ
หกเดือนต่อมา และแล้วช่วงเวลาที่ทุกคนรอคอยก็มาถึงวันที่สองแฝดน้อยได้กำหนดการในการลืมตามาดูโลก คุณนายใหญ่ดูจะเป็นผู้ที่ตื่นเต้นกว่าใครทั้งหมด ด้วยยังไม่รู้ว่าหลานๆ ของตนนั้นเป็นเพศไหน เพราะทั้งบุตรชายและสะใภ้ต่างอยากจะรอลุ้นในวันคลอดทีเดียว ผู้เป็นย่าจึงทำได้แค่เพียงรอคอยและเตรียมชื่อไว้ให้สองแฝดเท่านั้น ซือมู่อันตื่นเต้นไม่แพ้กัน เขาคอยทะนุถนอมดูแลเอาใจใส่ภรรยาสาวมาเป็นอย่างดี แถมเขายังงดเรื่องบนเตียงมาได้เกือบสามเดือนแล้ว เนื่องจากกลัวว่าจะกระทบกระเทือนไปถึงลูกน้อยทั้งสอง ซือถิงถิงเคยพูดเล่นให้เขาไปทำแบบเดิมช่วงที่เธอไม่สามารถมอบความสุขให้เขาได้ แต่ผู้ชายแบบเขาก็ไม่มีทางผิดคำพูดที่เคยให้ไว้กับภรรยาเด็ดขาด เขาเลือกที่จะช่วยตนเองและออกกำลังกาย แทนการไปปลดปล่อยกับผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตน “สวัสดีค่ะแม่ สวัสดีค่ะพ่อ สวัสดีค่ะพี่ตงตง ถิงถิงเข้าห้องคลอดไปนานหรือยังคะ” เสียงหวานจากซุปตาร์สาวที่กำลังมีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนี้เอ่ยทักทายครอบครัวของเพื่อนสนิท ก่อนที่จะถามถึงเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “อ้าว สวัสดีจ้ะหนูซือซือ เข้าไปได้สักพักแล้วจ้ะ เห็นว่าจะคลอดเองนะ แม่ก็อดท
หลิวถิงถิงเขินจนหน้าแดง ก่อนที่จะหันไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ของสามีหนุ่มอย่างหมั่นไส้ และหันไปมองสองบอดี้การ์ดหนุ่มข้างหลังก็พบว่าคนทั้งคู่กำลังมองไปทางอื่นเลยถอนหายใจออกมาเบาๆอย่างรู้สึกโล่งใจที่สองบอดี้การ์ดหนุ่มไม่ทันเห็น แต่หารู้ไม่ว่าริมฝีปากหนาของทั้งจางหลงและต้าฉินยกยิ้มขึ้นมาอย่างขบขันเมื่อประตูลิฟต์เปิดออกที่แผนกบัญชีและการเงิน ร่างอวบอิ่มในชุดเดรสสีขาวลายดอกไม้ก็เดินออกมาจากลิฟต์อย่างสง่างาม พร้อมด้วยบอดี้การ์ดหนุ่มอย่างจางหลงที่มาคอยดูแลความปลอดภัยให้กับคุณนายซือ สี่สาวและสองหนุ่มมองมาที่หญิงสาวในสถานะใหม่อย่างตกตะลึง ก่อนที่ทุกคนจะรีบเดินออกมายืนเรียงกันเป็นหน้ากระดานเพื่อต้อนรับคุณนายซือ“สวัสดีค่ะพี่จินหยูและพี่ๆ ทุกคน สบายดีกันไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มหวาน ผู้จัดการแผนกมองไปที่หญิงสาวที่มีรูปร่างอวบอิ่มอย่างตื่นเต้นและดีใจ“พี่สบายดีค่ะ น้องถิงถิง เอ่อ...คุณนายซือก็สบายดีใช่ไหมคะ” หญิงสูงวัยกว่าทักทายกลับก่อนที่จะเอ่ยถามภรรยาของท่านประธาน“เรียกว่าถิงถิงเหมือนเดิมก็ได้ค่ะพี่จินหยู พี่ๆ ทุกคนด้วยนะคะ”“ไม่ได้หรอกค่ะ ตอนนี้น้องถิงถิง..เอ
เรือนร่างบอบบางเปลือยเปล่านอนกอดก่ายอยู่บนเรือนร่างหนั่นแน่นที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของสามีหมาดๆ เปลือกตาบางหลับพริ้มอย่างมีความสุขหลังจากผ่านค่ำคืนที่บ่งบอกว่าเธอและเขาคือคนคนเดียวกันโดยสมบูรณ์ วงแขนอบอุ่นโอบกอดเธอเอาไว้ราวกับไม่ต้องการให้เธอจากไปไหน แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาภายในห้องเป็นการเตือนว่าเช้านี้ทั้งสองชีวิตได้เริ่มต้นการใช้ชีวิตคู่อย่างแท้จริงแล้ว ร่างหนาของซือมู่อันค่อยๆ ขยับร่างระหงของภรรยาสาวที่ยังนอนหลับอยู่บนหน้าอกของเขาด้วยสีหน้าที่แสดงออกมาถึงความสุข มือเรียวดึงผ้าห่มมาคลุมร่างอวบอิ่มของภรรยาสาวเอาไว้ก่อนที่สายตาคมที่ทอแสงแห่งความอบอุ่นส่งไปยามมองไปที่ใบหน้าสวย เขาค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นอนก่อนที่จะตรงไปเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย ในเวลาต่อมาร่างหนาในชุดคลุมสีขาวเดินตรงไปยังส่วนของห้องครัว มื้อนี้เขาจะเป็นคนลงมือทำอาหารเช้ามื้อแรกสำหรับภรรยาคนสวยของเขา ขณะที่มือเรียวยาวของพ่อครัวหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งกำลังจับตะหลิวคนโจ๊กร้อนๆ อยู่ที่หน้าเตา ช่วงเอวสอบก็ถูกลำแขนเสลาสอดเข้ามากอดจากทางด้านหลัง ริมฝีปากบางสีกุหลาบยกยิ้มขึ้นมาอย่างอบอุ่น“กำลังทำอะไรอยู่คะ...คุณสามี” เสียงหว
การที่ไม่จัดพิธีฉลองมงคลสมรสแบบสากลในตอนเย็นนั้นเป็นความต้องการของเจ้าสาวเอง ไม่ใช่เพราะเธออยากที่จะช่วยทางเจ้าบ่าวประหยัดงบหนือเกรงใจ แต่เป็นเพราะช่วงนี้เธอรู้สึกเพลียง่ายและง่วงนอนเร็ว เลยเลือกที่จะทำพิธีแบบจีนอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเจ้าบ่าวอย่างคุณชายซือก็ไม่ขัด ถึงแม้ว่ามารดาจะไม่ค่อยเห็นด้วยก็ตาม เพราะความที่อยากจะกู้ศักดิ์ศรีให้กับลูกสะใภ้ แต่ก็ต้องจำยอมเพราะเธอเอาหลานๆ ในท้องมาอ้างว่าหากเธอเพลียอาจจะไม่เป็นผลดีกับสองแฝดน้อยในครรภ์คอนโดสุดหรูใจกลางเมืองแอลพอรถจอดซือมู่อันก็อุ้มร่างบอบบางที่เริ่มอวบอิ่มมีน้ำมีนวลของภรรยาขึ้นก่อนที่สองขาแข็งแรงจะก้าวยาวๆ ตรงไปยังลิฟต์ส่วนตัว ใบหน้าหวานขึ้นสีเลือดฝาดขึ้นมาทันทีที่มองใบหน้าหล่อเหลาของผู้เป็นสามีทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย ทั้งสองได้จดทะเบียนสมรสกันก่อนที่จะจัดพิธีแต่งงานมาได้สัปดาห์หนึ่งแล้ว คนถูกมองเหมือนจะไม่รู้ตัวว่าภรรยาตัวน้อยในอ้อมแขนแข็งแรงของเขาแอบมองเขาอยู่ แต่นั่นไม่จริงเลยสักนิด เขากำลังตั้งใจอุ้มเธอด้วยความระมัดระวังเพราะมีลูกๆ สองคนอยู่ในท้องของเธอ ประตูคอนโดถูกเปิดออกโดยสองหนุ่มบอดี้ก
หนึ่งเดือนต่อมาวันนี้เป็นวันที่ใครหลายคนเฝ้าจับตาและรอคอย นั่นก็คือวันแต่งงานของทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลซือซึ่งงานนั้นถูกจัดขึ้นภายในอาณาจักรตระกูลซือที่มีพื้นที่เกือบร้อยไร่ และเหตุผลที่เลือกจัดงานโดยใช้สถานที่เดียวในวันนี้ก็เพราะที่บ้านของเจ้าสาวนั้นค่อนข้างที่จะคับแคบ คุณนายใหญ่แห่งตระกูลซือเลยออกความเห็นว่าให้จัดที่บ้านเจ้าบ่าวและไปเข้าหอกันที่คอนโดสุดหรูใจกลางเมืองของเจ้าบ่าว ทางฝ่ายเจ้าสาวที่มีญาติเหลือเพียงสองคนก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรภายในห้องที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงาม มีเจ้าสาวแสนสวยในชุดกี่เพ้าสีแดงสไตล์เรียบหรูแบบผสมผสานระหว่างจีนกับยุโรป ทรงผมถูกทักเปียเก็บอย่างสวยงามมีปิ่นเงินปิ่นทองและใบทับทิมพร้อมดอกไม้สดประดับอยู่ข้างหลังส่งกลิ่นหอมอบอวลด้วยเจ้าสาวนั้นชอบกลิ่นของมันจึงไม่ใช่ปัญหาของอาการแพ้ท้องที่ตอนนี้ครบกำหนดสามเดือนแล้ว ใบหน้าสวยหวานถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางชั้นดี ร่างระหงกำลังนั่งรอเจ้าบ่าวมารับตัวเพื่อลงไปประกอบพิธี ขั้นตอนนี้ผ่านพิธีมอบสินสอดและสวมแหวนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เหลือก็แต่รอให้เจ้าบ่าวมารับเจ้าสาวพาไปเข้าหอ “เธอสวยมากเล
หลิวถิงถิงมองพนักงานทั้งสองด้วยรอยยิ้ม เธอยังไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากนั้นผู้หญิงทั้งสองคือใคร เสียงดนตรีบรรเลงเพลงสากลขึ้นมาเบาๆ ซึ่งเธอก็จำได้ว่ามันเป็นเพลง Perfect ของEd Sheeran และมาถึงช่วงจังหวะทำนองWell, I found a woman, stronger than anyone I knowShe shares my dreams, I hope that someday I'll share her homeI found a love, to carry more than just my secretsTo carry love, to carry children of our own ร่างสูงโปร่งที่มีใบหน้าหล่อเหลาของคุณชายซือก็ลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วเดินเข้าไปคุกเข่าลงข้างหนึ่งต่อหน้าเธอ บริกรสาวภายใต้หน้ากากเปิดฝาที่ครอบถาดกลมเอาไว้ออก ซึ่งเผยให้เห็นว่าภายในมีกระปุกกลมสีทองวางอยู่ มือเรียวของซือมู่อันยื่นไปหยิบมาถือไว้ หลิวถิงถิงรู้สึกใจเต้นแรงแทบจะไม่เป็นจังหวะก่อนที่เธอจะมองไปที่บริกรสาวทั้งสองอย่างคุ้นเคย หากแต่ยังไม่ทันได้เอ่ยถามอะไรออกไป กล่องสีทองก็ถูกว่าที่สามีสุดหล่อของเธอเปิดออกตรงหน้า แหวนเพชรวงเล็กแต่มีเพชรล้อมรอบส่งแสงระยิบระยับดูงามตา พอถึงตอนนี้เธอจึงเข้าใจทันทีว่าเธอกำลังถูกเขาขอแต่งงาน “มาเป็นคน