ตอนที่ 4 ครั้งที่สอง

เสาร์ต่อมา

“อ๊ะ...อึก พี่ทิม...อื้ออ”

เมื่อพีรดาเลิกงานและเพิ่งเดินเข้ามาในห้องก็ถูกคนร่างสูงผลักเข้ากำแพงและจับแขนตรึงไว้ให้ไร้หนทางหนี

ทิมยื่นใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาซุกไซ้ซอกคอขาวเนียนและมอบจูบอันดูดดื่มให้พีรดาโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ทำเอาสมองมึนเบลอไปหมด ลิ้นร้อนดุนดันเข้ามาในโพรงปากทั่วทุกซอกทุกมุมอย่างหื่นกระหาย แถมมือใหญ่ยังบีบเคล้นไปทั่วร่างจนเป็นรอยแดงทั่วร่างกายแล้ว

วันนี้เขาคึกจัง

“คุณไม่รู้หรอกพีรดา ว่าผมอดใจรอวันนี้มาทั้งอาทิตย์”

เขาเอ่ยกับเธอด้วยน้ำเสียงแหบพร่า เนื่องจากตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่ได้แตะต้องเธออีกเลย เพราะต้องทำตามที่ตกลงกันเอาไว้ ซึ่งในบางครั้งพีรดาจะเอางานเข้ามาให้เซ็น ภาพสุดเร่าร้อนที่ทำกันบนโต๊ะฉายวนเวียนอยู่ในสมองซ้ำ ๆ ตลอดเวลา เขาต้องอดกลั้นมาหลายวันจนมันแทบจะระเบิดออกมาแล้ว

 พอถึงเย็นวันศุกร์หลังเลิกงาน ทิมก็พาพีรดาตรงมาที่คอนโดหรูหลายล้านของเขาทันทีโดยไม่รีรอ เขาต้องเปลี่ยนสถานที่ไม่อยากทำในห้องทำงานเพราะกลัวใครจะมาขัดจังหวะเหมือนคราวนั้น เขาอยากกลืนกินพีรดาให้เต็มอิ่ม จึงจำเป็นต้องพามายังรังรักส่วนตัวซึ่งปลอดภัยที่สุด เมื่อพีรดาย่างเท้าเข้าห้องมาความอดทนของเขาก็สิ้นสุดลงทันที

“ขอดาอาบน้ำก่อนได้ไหมคะ?”

คนในอ้อมกอดอ้อนวอนขอความเห็นใจ ยิ่งวันนี้ไปประชุมงานนอกสถานที่กับเขามาทั้งวัน อาจจะมีกลิ่นเหงื่อไม่พึงประสงค์ติดตัวบ้าง พีรดาไม่อยากขายหน้าให้ตัวเองอับอาย ขอล้างเนื้อล้างตัวสักหน่อยก็น่าจะดี

“แต่ผมไม่ไหวแล้วนะ”

ทิมกล่าวก่อนจะยื่นมือไปบดคลึงสะโพกนุ่ม ตอนนี้อารมณ์เขาพลุ่งพล่านจนรอไม่ไหวแล้ว มันแข็งปั้กเหมือนไม้กระบองแทบจะทะลุออกจากกางเกงด้วยซ้ำ หากต้องรออีกฝ่ายอาบน้ำเขาได้คลั่งบุกเข้าไปเอาในห้องน้ำแน่นอน

“แต่...”

“เดี๋ยวค่อยอาบตอนผมเสร็จรอบแรกแล้วกัน”

ว่าแล้วทิมก็รีบถอดกระโปรงทำงานตัวสั้นของพีรดาไปกองไว้ที่พื้น และดึงทึ้งเสื้อผ้าของเธอออกจนหมด เหลือเพียงร่างกายเปลือยเปล่าที่แสนยั่วยวนอยู่ตรงหน้า เขามองเธออย่างพึงพอใจก่อนจะสวมถุงยางที่เตรียมมาพร้อมเสร็จสรรพ เมื่อเสร็จแล้วก็จับแก่นกายอันใหญ่ถูไถกับเรียวขาขาว ๆ ที่คิดถึงมาหลายวันเพื่อกระตุ้นอารมณ์ให้อยากเอามากกว่าเดิม

“อ๊ะ...อื้อออ...”

 พีรดาเปล่งเสียงหวานเมื่อแท่งใหญ่ ๆ นั้นถูไถทางเข้าไปมา เจลลื่น ๆ ที่เคลือบถุงยางช่วยชโลมรูสวยให้ฉ่ำแฉะมากขึ้น เขาใช้ปลายหัวหยักถูวนเวียนบดขยี้เม็ดเล็ก ๆ แต่ก็ไม่เสียบเข้ามาสักทีเหมือนจะแกล้งเธอ พีรดาจึงมองค้อนเขาด้วยสายตาเอาเรื่องกับคนนิสัยเสียที่กำลังแกล้งกัน

“อยากได้เหรอ หืม?” ทิมถาม

“...” พีรดาจงใจไม่ตอบคำถามนั้น

“ถ้าคุณไม่ยอมพูด ผมก็ไม่ใส่เข้าไปนะ”

พีรดากำหมัดเล็ก ๆ แน่นเมื่อได้ยินคำขู่ ให้ตายเถอะ เธอต้องเอ่ยปากร้องขอดุ้นที่กำลังป้วนเปี้ยนเฉียดไปเฉียดมากับทางเข้าเหมือนเด็กกำลังขอขนมจากผู้ใหญ่จริง ๆ ใช่ไหม แต่กระนั้นก็ไม่มีทางเลือกเพราะอยากให้คุณทิมใส่มันเข้ามาสักที เธออยากโดนจะแย่แล้ว!

“ยะ...อยากได้ค่ะ...”

“อยากได้อะไรครับ พูดซิ”

“ดา...อยากได้ xxx ของพี่ทิมค่ะ”

พีรดาเอ่ยกับเขาอย่างออดอ้อน ท่าทางแบบนี้มันทำให้ทิมพอใจเป็นอย่างมาก ที่อีกฝ่ายยอมแพ้และยอมเอ่ยขอการร่วมรักด้วยคำพูดสุดลามก ร่างสูงเชยใบหน้าสวยหวานให้เงยขึ้นมาสบตากับเขา ก่อนจะมอบจูบที่แสนเร่าร้อนให้เธอเป็นของรางวัล และอุ้มเธอไปนอนที่เตียง ซึ่งจังหวะเดียวกันนั้นก็ถือโอกาสนี้ดันแท่งเนื้อใหญ่มุดเข้าไปในช่องทางสีหวานที่กำลังขมิบรอ

“อ๊ะ...อ๊ะ...อื้ออออ”

“ซี้ดด...เด็กน้อย ผ่อนคลายหน่อย”

ทิมกล่าวเตือนเนื่องจากช่องทางรักมันบีบรัดเขาแน่นเกินไปแล้ว คงเป็นเพราะเมื่อครู่เขาไม่ได้ขยายมันให้พร้อมก่อนทำเช่นครั้งก่อน มันจึงคับแคบจนรัดของเขาแน่นจนแทบขยับไม่ได้ เห็นทีต้องหักเหความสนใจไปจุดอื่นเพื่อให้พีรดาได้ผ่อนคลายอารมณ์ก่อนสินะ

“อ๊ะ อ๊าาาา”

ร่างเล็กร้องระงมเมื่ออีกฝ่ายจัดการบีบคั้นหน้าอกสวยของเธออย่างเมามัน เขาใช้นิ้วเขี่ยจุกสีอ่อนกลางอกกระตุ้นความเสียวให้พุ่งสูง ความรู้สึกบางอย่างวิ่งพล่านไปทุกจุด รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่คุณทิมกระแทกท่อนเนื้อเข้ามาสุดลำจัง ๆ พีรดาร่างกายกระตุกวาบเธอเสร็จก่อนเขาอีกแล้ว

“อื้มม...ผมชอบเวลาคุณเสร็จ รู้หรือเปล่าว่าตรงนั้นมันจะตอดผมรัว ๆ เลยนะ” ร่างสูงกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงแหบพร่า

“ไม่จริงหรอกค่ะ อื้อ...”

“ไม่จริงอะไรครับ คุณดูสิ ถ้าผมควงไปมาคุณจะเสียวจนจิกเท้าแน่น ยิ่งถ้าผมขยี้เม็ดเล็ก ๆ ของคุณไปด้วย คุณจะเสียวจนตอดของผมรัว ๆ หนีขึ้นสวรรค์ไปก่อนผมทุกทีเลย”

เขารีวิวจังหวะรักของเธออย่างตรงไปตรงมา ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่พูดทุกประการไม่ผิดเพี้ยน หลักฐานก็คือคนที่กำลังนอนขาสั่นอยู่บนเตียงหลังน้ำแตกไปเมื่อครู่นี้ พีรดาหันหน้าหนีด้วยความอาย

“เขินเหรอ?”

ทิมถามด้วยความเอ็นดู ก่อนจะก้มลงหอมแก้มของพีรดาและเริ่มบทรักที่ค้างคาต่ออีกรอบ แท่งยาวหมุนควานข้างในตามที่เอวสอบบังคับจนมันชนไปทุกจุด ประกอบกับเสียงลามกที่เกิดจากเจลหล่อลื่นในถุงยางก็ยิ่งกระตุ้นอารมณ์คนทั้งสองให้ยิ่งเตลิด

“อ๊ะ...อ๊า...ดาจะยืนไม่ไหวแล้ว”

“ปล่อยออกมาเลยสิ ซี้ด”

ทิมจับเอวของพีรดาเอวไว้และออกแรงกระแทกอย่างรัวเร็วเหมือนคนอดอยากปากแห้งมาเป็นปี เสียงครางดังไปทั่วห้องอย่างไม่อายว่าจะมีใครผ่านมาได้ยิน จนสุดท้ายความเสียวสะท้านก็วิ่งพล่านและกลั่นออกมาเป็นน้ำคาวปริมาณมากที่พุ่งใส่เครื่องป้องกันทุกหยาดหยดเมื่อทิมแตะขอบสวรรค์อย่างถึงใจ

“ฟักก!”

 ทิมแหงนหน้าคำรามพร้อมกดเข้าไปลึก ๆ จนชนมดลูกตามสัญชาตญาณ คำสบถหยาบคายพรั่งพรูออกมาเมื่อได้ปลดปล่อยน้ำรักระบายด้วยความบ้าคลั่ง ส่วนพีรดาก็ตัวกระตุกและเสร็จสมไปพร้อม ๆ กัน เมื่อเขาถอดลำแท่งใหญ่ยาวออกพีรดาก็หมดแรงนอนหอบอยู่บนเตียง

ร่างเล็กหายใจหอบเหมือนโดนกระชากวิญญาณออกจากร่างมาหมาด ๆ แม้มันเสียวมากแต่ก็เหนื่อยมาก และตรงนั้นก็แสบไปหมดแล้วเพราะเขากระแทกไม่บันยะบันยัง ทิมเอาแท่งลำยาวใหญ่มาถูไถคลอเคลียตามใบหน้าหวาน เพื่อให้พีรดาทำความสะอาด ซึ่งเธอก็รู้หน้าที่รีบจับมันเข้าปากแต่โดยดี

“อึกก...แผล็บ”

“ดี...อืมม...”

เขาเอ่ยชมเธออย่างพอใจ นึกเสียดายเล็กน้อยที่ไม่ได้แตกน้ำพันธุ์ของตัวเองใส่รูแน่น ๆ ของพีรดาเหมือนรอบที่แล้ว ลึก ๆ เขารู้สึกว่ามันเหมือนขาดอะไรไปเล็กน้อยในการทำรักแบบป้องกัน แต่เพื่อความสบายใจของเธอ เขาก็ต้องทำอยู่ดี

“แฮก...ดาไปอาบน้ำได้หรือยังคะ?”

ร่างเล็กถามพร้อมกับเช็ดปากหลังดูดเลียน้ำคาวออกจนหมดไม่เหลือสักหยดแล้ว ตอนนี้พีรดาเหนียวตัวมากจนอยากแช่น้ำเย็น ๆ คลายร้อนสักหน่อย เนื่องจากคืนนี้ต้องทำหน้าที่อีกหลายรอบแน่ ๆ

“ไปสิ เดี๋ยวผมพาไป”

เขาก้มลงอุ้มพีรดาเดินตรงไปที่ห้องน้ำทันที เธอตกใจมากกำลังจะบอกว่าเดินเองได้ แต่ก็ไม่ทันแล้ว

ร่างเล็กถูกวางไว้ในอ่างจากุซซีที่มีน้ำอยู่เต็มอ่าง ทิมรีบถอดเสื้อผ้าก่อนจะลงไปในอ่างด้วย น้ำเย็น ๆ ทำให้ทั้งคู่รู้สึกสดชื่นขึ้นจนถึงผ่อนคลาย ยิ่งด้านหน้าเป็นกระจกใสบานใหญ่ให้ชมแสงไฟยามค่ำคืนก็ยิ่งเพิ่มความโรแมนติก จนทิมต้องดึงพีรดามานั่งบนตักแกร่งเพื่อเสพสมบรรยากาศดี ๆ ด้วยกัน

“แม่คุณเป็นยังไงบ้าง?” ทิมเอ่ยถาม

“ตอนนี้ก็เรื่อย ๆ ค่ะ รักษาแบบประคองอาการเท่าที่ทำได้ ที่สำคัญท่านเป็นโรคแทรกซ้อนอีกก็เลยไม่ค่อยมีข่าวดีเท่าไร” พีรดาเอ่ยตอบพร้อมสีหน้าที่ซึมลงเมื่อเอ่ยถึงคุณแม่ที่อยู่ที่บ้าน

อาการของแม่ไม่ค่อยสู้ดีนักจากการตรวจครั้งล่าสุด จนพีรดาต้องกัดฟันจ้างลูกพี่ลูกน้องมาดูแลตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะตนต้องทำงาน ทำให้ตอนนี้เธอมีรายจ่ายต่อเดือนสูงเกินเงินเดือนเลขาไปเสียอีก ดีที่มีเงินสองล้านที่คุณทิมให้เลยประคับประคองค่าใช้จ่ายในช่วงนี้ได้ไม่เดือดร้อนมากนัก

“ถ้าคุณรู้ว่าโอกาสมันน้อยแล้วจะทุ่มเงินรักษาทำไม ถ้าสุดท้ายมันไม่เป็นเหมือนที่หวังคนที่ลำบากจะเป็นคุณเองนะ” ทิมกล่าว

เขาไม่ได้เจตนาจะตัดกำลังใจของพีรดาเลยสักนิด แต่กำลังจะเตือนสติพีรดาว่าต้องเผื่อใจไว้บ้าง การที่ต้องหาเงินจนจำใจมาเป็นเด็กเลี้ยงเขาก็ชัดพอแล้วว่าพีรดาทุ่มเทจนไม่คิดถึงตัวเอง หากถ้าสุดท้ายไม่เป็นอย่างฝันแล้วชีวิตหลังจากนี้จะทำยังไงต่อล่ะ

“ดาไม่ได้หวังว่าแม่จะหายเป็นปกติหรอกนะคะ ดาแค่กำลังยื้อท่านให้อยู่กับดาให้นานที่สุดเท่านั้น ดาเลยต้องทุ่มกับการรักษาและยาดี ๆ เพื่อไม่ให้ท่านต้องทรมานในช่วงสุดท้ายของชีวิต แต่ถ้าถึงเวลาที่ท่านไม่ไหวแล้วจริง ๆ ดาก็จะปล่อยท่านไป”

พีรดากล่าวสิ่งที่คิดอยู่ในใจ มาถึงขั้นนี้แล้วเธอก็เตรียมใจไว้แล้วว่าแม่อย่างไรก็ไม่หายขาดแน่ แต่ที่ทำเพราะแค่อยากยื้อให้ช่วงเวลาอันมีค่าอยู่กับตัวเองให้นานที่สุดดีกว่าเสียใจเมื่อท่านจากไป เพราะหากถึงตอนนั้นต่อให้รวยเป็นพันล้านก็ซื้อเวลาให้ย้อนกลับไปไม่ได้อีกต่อไป

“คุณเป็นคนเก่ง” ทิมเอ่ยชม เพราะยิ่งได้ฟังก็ยิ่งชัดว่าคนในอ้อมแขนนั้นเข้มแข็งกว่าที่เห็นเยอะ ในฐานะที่เขาสูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุมาก่อน ได้แต่ให้กำลังใจให้สู้ต่อไปเพียงเท่านั้น

“ขอบคุุณนะคะ” พีรดาเงยหน้ายิ้มให้อีกฝ่าย

แต่จังหวะที่สายตาทั้งสองหันมาสบตากัน ความรู้สึกบางอย่างมันก่อเกิดในก้นบึ้งหัวใจอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน มันกำลังดึงดูดคนสองคนราวกับแม่เหล็ก สุดท้ายเป็นทิมที่ทนสายตากลมโตคู่นั้นไม่ไหว สุดท้ายต้องกอดจูบคนในอ้อมแขนท่ามกลางบรรยากาศที่แสนโรแมนติกนี่อีกครั้ง