คำพูดเย็นชาของพี่ลีวายเสียดแทงเข้ามาตรงกลางอกข้างซ้ายของฉัน ถึงข้างในจะรู้สึกเจ็บปวด แต่ก็ต้องทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร“ถ้ามิลินจืดชืดอย่างที่ว่า พี่ลีวายจะทนไม่ได้ถึงขนาดนี้เหรอคะ”“คิดว่าที่ฉันทำ เป็นเพราะหลงเธอ?”“…”“อย่าสำคัญตัว” ระหว่างนั้นมือของพี่ลีวายก็ล้วงเข้ามาปลดตะขอบราออก “รู้จักไหม… เครื่องบำเรอกาม”“แต่พี่ลีวายมีผู้หญิงให้เลือกเยอะจะตาย ถ้าไม่ได้ติดใจมิลินจริง ๆ คงไม่…”“มากสุดก็ได้แค่ตัว แต่จำไว้ว่าหัวใจฉันเธอจะไม่มีวันได้ไป”พยายามจะทำเป็นเก่ง ไม่รู้สึกอะไรและต่อกรกับคนใจร้ายอย่างเขา แต่ใจฉันมันก็อ่อนแอเกินกว่าจะแบกรับถ้อยคำใจร้ายนี้ได้“ไม่คิดบ้างเหรอว่าถ้าฉันจะรัก…” เสื้อของฉันถูกถอดออกไปอย่างง่ายดายเพราะตัวเองมัวแต่เหม่อ เช่นเดียวกันกับบราเซีย “… คงรักไปนานแล้ว”ร่างฉันถูกดันลงให้นอนราบไปกับขอบสระ ก่อนที่พี่ลีวายจะถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วตามขึ้นมาคร่อมตัวฉันไว้ตอนนี้ในหัวฉันมันกำลังสับสนว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้ดี เพราะมันสะอึกกับคำพูดของเขาจนกลัวทนไม่ไหวที่พี่ลีวายพูดมามันจริงจนฉันเถียงอะไรไม่ออก ตัวฉันมันอยู่ไกลคำ ๆ นั้นของเขามากคำว่ารัก...แต่คนเราจะรักใครม
พรึบ! พี่ลีวายดันตัวฉัน ออกทำให้น้ำสีขุนที่พ่นเข้ามาไหลออกจากร่องสวาท เมื่อครู่ฉันไม่ทันคิดปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปตามอารมณ์ไม่พยายามห้ามอย่างที่ควรทำ ตอนนี้ค่อยมาคิดไปมันก็สายเกินไป“เอาเงินนี่ไปหาซื้อยาคุมกินซะ” พี่ลีวายหยิบเงินแบงก์พันออกจากกระเป๋าแล้วโยนให้ฉันที่กำลังตกใจทำตัวไม่ถูก “รีบใส่เสื้อผ้า! อยากให้คนอื่นมาเห็นหรือไง”“มิลินบอกให้ไปทำในห้อง พี่ลีวายดึงดันจะทำตรงนี้เองนี่คะ แล้วจะมาหงุดหงิดใส่กันทำไม”“เธอเริ่มก่อนนะ จะมาโทษฉันได้ยังไง”ฉันเม้มปากแน่น เถียงอะไรไม่ได้เพราะเป็นฝ่ายเริ่มก่อนจริง ๆ“พรุ่งนี้อย่าลืมกินยาคุมฉุกเฉิน” พี่ลีวายบอกย้ำพร้อมจัดการใส่เสื้อผ้าของตัวเอง“ทำแบบนี้กับผู้หญิงคนอื่นบ่อยเหรอคะ” ถามเองแท้ ๆ แต่ทำไมฉันต้องมารู้สึกเจ็บซะเองด้วยนะ ไม่เอาไหนเลยเรา“อยากรู้ไปทำไม ทำตามที่ฉันบอกก็พอ”“กลัวมิลินจะท้องเหรอคะ”พี่ลีวายเงียบไม่ยอมตอบอะไร ต่อให้เขาเงียบฉันก็พอเดาออกว่าพี่ลีวายต้องการอะไร“มั่นใจหรือเปล่าคะ ว่าถ้ากินยาคุมฉุกเฉินแล้วมันจะไม่ท้องจริง ๆ”“แค่ทำตามที่สั่ง เธอจะถามมากให้มันได้อะไรขึ้นมาฮะ!!”“ก็พี่ลีวายเองไม่ใช่เหรอ ที่อยากจะปล่อยในทั้งท
ฉันเงียบไม่ยอมบอกพี่ลีวายในสิ่งที่เขาอยากรู้ แต่เหมือนกับว่ากำลังท้าทายเขาอยู่ “เธอเลือกแล้วนะ!!” พูดจบพี่ลีวายก็ฉุดลากตัวฉันให้เดินขึ้นบันไดตามตัวเองไป แต่ฉันไม่ยอมทั้งที่ก่อนหน้าเป็นฝ่ายเดินตามขึ้นมาเองแท้ ๆ“ปล่อยนะคะ มิลินเจ็บ”“ถ้าไม่อยากให้ฉันใช้ความรุนแรงก็ตอบมา!!”“ไม่สนใจแล้วจะอยากรู้ไปทำไม”“คงต้องใช้อย่างอื่นกระตุ้นสินะถึงจะยอมพูด”ขนทั้งตัวมันลุกซู่ เมื่อคืนก็เพิ่งทำไปพี่ลีวายยังคิดเรื่องบนเตียงอยู่อีกหรือไงทำไมถึงเป็นคนหื่นกามขนาดนี้กัน“อย่าทำหน้าเหมือนกลัวขนาดนั้นสิ พอฉันทำจริง ๆ เธอเองก็ชอบไม่ใช่หรือไง”“…”“อย่าปฏิเสธว่าเธอไม่มีความสุข”“แต่ไม่ใช่ตอนนี้”“เธอมีสิทธิ์เลือก? หึ!! ฉันต่างหากที่มีสิทธิ์” คงเป็นเพราะฉันเป็นฝ่ายยอมมากเกินไปพี่ลีวายถึงได้เป็นแบบนี้“เห็นมิลินยอม… ไม่ได้แปลว่าจะต้องยอมทุกครั้งนะคะ”“ถึงเตียงก่อนแล้วค่อยมาปากดี!!”“ไม่ไป ปล่อยมิลินนะ!!”“งั้นก็ตอบคำถามของฉันมา ว่าเธอจะไปไหน” พี่ลีวายจ้องหน้าฉันเขม็ง ยังหาเหตุผลไม่ได้เลย ว่าทำไมเขาถึงอยากรู้มากขนาดนั้น ถึงขั้นขู่ฉันสารพัดพี่ลีวายพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ เมื่อถามยังไงฉันก็ไม่ยอมตอบ ก่อนจะอุ้ม
ไม่คิดว่าคนอย่างพี่ลีวายจะตอบตกลงทำเอาฉันแปลกใจ และอึ้งไปครู่ใหญ่ เพราะปกติเขาไม่ได้กลัวคุณท่านขนาดนั้นหรือว่าครั้งนี้มันรุนแรงเกินไปถึงขั้นที่ฉันต้องเข้าโรงพยาบาล… ถึงยังไงที่พี่ลีวายตอบตกลงก็คงไม่ใช่เพราะอยากจะดูแลฉันแน่นอน“นานเท่าไร” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นมาทำลายความเงียบ“คะ?”“เธอต้องอยู่ที่โรงพยาบาลนานเท่าไร”“หมอบอกว่าหนึ่งอาทิตย์ค่ะ”พี่ลีวายพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ พร้อมสีหน้าที่หงุดหงิด ดูเหมือนว่าเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่ต้องดูแลฉันมันนานเกินไปสำหรับเขา“เสียเวลา!!” เป็นครั้งที่สองแล้วที่พี่ลีวายพ่นคำนี้ออกมาแทนที่จะโกรธกับเหตุการณ์ที่ทำให้ฉันต้องเข้าโรงพยาบาลแท้ ๆ ไม่รู้ทำไม จากที่เศร้าอารมณ์มันก็ดีขึ้นมาเฉยเลย คงเพราะโอกาสแบบนี้ที่พี่ลีวายจะมาดูแลฉันไม่ได้มีมาบ่อย ๆ เป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้… ถึงเขาจะไม่เต็มใจทำก็ตาม“หิวน้ำจังเลยค่ะ”“แล้ว?” พี่ลีวายหรี่ตาถามพร้อมขมวดคิ้วเป็นปม“เอาน้ำให้มิลินดื่มหน่อยค่ะ”“วางอยู่ตรงนั้น หยิบเองมันลำบาก?” เสียงเย็น ๆ เอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์เพราะแก้วน้ำมันอยู่ใกล้ ๆ ในระยะที่มือเอื้อมถึงแต่ฉันกลับสั่งให้พี่ลีวายหยิบให้“ก็… หมอบอกว่าไม่ให้มิลิ
ฉันเบิกตากว้างเมื่อพี่ลีวายล้วงมือเข้ามาด้านใน เขาจะทำจริง ๆ โดยไม่สนใจเรื่องสถานที่เลยหรือไง“มิลินบอกให้หยุด อื้อ~” ฉันกัดริมฝีปากแน่นเมื่อปลายนิ้วสัมผัสเข้ากับจุดกระสันของร่างกาย“จะหยุดได้ยังไง แค่ปลายนิ้วแตะก็ครางออกมาซะเสียงหวาน”“คนนะคะไม่ใช่หุ่นยนต์ จะได้ อ๊ะ~ ไม่มีความรู้สึก”พี่ลีวายยิ้มมุมปากก่อนจะตวัดปลายนิ้วถูขึ้นลงบนติ่งเกสรช้า ๆ ทำให้ร่างกายของฉันเริ่มขยับ“ยะ... หยุดทำอะไร บะ... บ้า ๆ นะ อ๊า~”“ฉันไม่หยุด” เสียงครางกระเส่าของฉันมันทำให้พี่ลีวายใช้นิ้วบดขยี้ติ่งเกสรถี่รัวขึ้น“อ๊ะ~ มิลิน โอ้ย จะ... เจ็บหลัง”แค่ขยับตัวนิดเดี๋ยวก็เจ็บจี๊ดไปทั่วแผ่นหลัง สายตาคมจ้องมองใบหน้าที่เจ็บปวดของฉันก่อนที่พี่ลีวายจะหยุดชะงัก“เจ็บมาก?”“ค่ะ”ฉันขมวดคิ้วนิ่วหน้าเพราะความเจ็บที่ไม่สามารถอธิบายได้ คุณหมอสั่งไว้แล้วว่าห้ามขยับเยอะแต่พี่ลีวายทำแบบนี้จะให้นอนแน่นิ่งได้ยังไง“เธอทำให้ฉันเสียอารมณ์ฉิบ!!”พี่ลีวายพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ราวกับว่ามันเป็นความผิดของฉันก่อนจะดึงมือออกฉันไม่อยากเห็นหรอก แต่สายตามันเหลือบมามองตรงเป้ากางเกงของพี่ลีวายพอดี“มันตื่นเพราะเธอ หายดีเมื่อไรรับผิดชอบมันด
แทนเดินมาหยุดข้าง ๆ เตียงที่ฉันนอนอยู่แล้วมองด้วยสายตาเป็นห่วง ซึ่งพี่ลีวายไม่เคยมองแบบนี้ เลยถึงแม้เขาจะเป็นคนทำให้ฉันเข้าโรงพยาบาล เขาไม่เป็นห่วงและไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด“อาผมเป็นหมออยู่ที่นี่ครับ”“แล้วไม่เรียนเหรอ”“รู้ว่าพี่อยู่โรงพยาบาล ผมจะมีกะจิตกะใจเรียนได้ยังไง”“พี่บอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก”“จะอาลัยอาวรณ์กันอีกนานไหม” เสียงของพี่ลีวายพูดแทรกขึ้นมา บ่งบอกว่าเขาไม่พอใจเอามาก ๆ ที่เห็นแทนมาเยี่ยมฉัน“พี่ลีวายออกไปรอข้างนอกก่อนก็ได้นะคะ” ฉันแค่เสนอความคิดเห็นแต่ไม่คิดว่าคำพูดนั้นจะยิ่งทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ“พอมันมาแล้วไล่ฉัน?”สายตาที่จ้องอย่างเอาเรื่องของพี่ลีวายทำให้แปลกใจว่า เพราะอะไรเขาถึงไม่ชอบแทนมากขนาดนี้ ทั้ง ๆ ที่เคยพูดว่าอยากให้แทนมาหมั้นกับฉันแทนตัวเอง ลืมคำพูดนั้นไปแล้วหรือไง“ตอนแรก เธอยังไม่อยากให้ฉันออกไปเลยนะ”“มิลินแค่ไม่อยากให้บรรยากาศมันอึดอัด”“ใช่ครับ อึดอัดมาก” แทนพูดแทรก คำพูดของเขาทำให้พี่ลีวายลุกขึ้นจากโซฟาแล้วพุ่งปรี่มาประชิดตัวแทนทันที“พี่ลีวายอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะคะ”“ถ้าไม่อยากให้ทำ คราวหลังก็บอกมันว่าอย่ามาปากดี!!”“ผมแค่อยากอยู่กับพี่มิลินตามลำ
ฉันจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่นั้นของพี่ลีวาย หลังจากที่ได้ยินคำตอบหัวใจดวงน้อยมันก็เต้นรัว แต่ก็คิดได้ว่าที่ไม่ยอมปล่อยให้ไปก็เพราะความเกลียด สำหรับพี่ลีวายมันแค่นั้น“อย่าเข้าใจผิดว่าที่ฉันพูดไปเพราะรักเธอ”“รู้ค่ะ มิลินรู้ว่าพี่ลีวายไม่มีหัวใจ”“ฉันเป็นคน ทำไมจะไม่มีหัวใจ แต่ในหัวใจของฉันไม่เคยมีเธออยู่”คำพูดที่ตอกย้ำทำให้ฉันเกือบจะร้องไห้ออกมาแต่ก็ต้องข่มอารมณ์เอาไว้ เข้าใจว่าไม่รักแต่ไม่เห็นจะต้องพูดย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ แบบนี้เลย คำว่าไม่รักได้ยินพี่ลีวายพูดออกมาเป็นร้อย ๆ รอบแล้ว“สักวันหัวใจของมิลินก็จะไม่มีพี่ลีวายอยู่เหมือนกัน”“เธอทำไมได้หรอก”“…”“เธอเลิกรักฉันไม่ได้”“มั่นใจมากเกินไปหรือเปล่าคะ”พี่ลีวายยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินมาหยุดยืนข้าง ๆ ฉันที่นอนอยู่บนเตียง ก่อนจะพูดออกมาอย่างมั่นใจ“ยิ่งฉันเข้าใกล้มากเท่าไร เธอก็ยิ่งหวั่นไหว เธอจะรู้สึกกับฉันมากขึ้นเรื่อย ๆ”“…” ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเมื่อคำที่เขาพูดมาเป็นความจริงพี่ลีวายเอามือมาจับปลายคางของฉันแล้วโน้มลงมาบอกเสียงเย็นยะเยือก “ถ้าชอบฉันมาก ก็อย่ามีใครนอกจากฉัน”“ม… มิลินอยากนอนพัก”“อืม” พี่ลีวายเดินออกไปสูบบุหรี่ที่นอก
สีหน้าของฉันซีดเผือดเมื่อเห็นพี่ลีวายถอดเสื้อออกจากตัว คิดว่าถ้าอ้างเรื่องเป็นประจำเดือนออกไปจะได้ผล แต่ผิดคาดเพราะเขาก็ยังคิดจะทำโดยไม่สนอะไรต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ หรือพี่ลีวายจะรู้ว่าฉันโกหก“ม… มิลินว่ารอให้ประจำเดือนหายก่อนดีไหมคะ”“บอกแล้วไงว่าฉันมีถุงยาง”“แต่มันเปื้อนนะคะ”“เปื้อนก็แค่เปลี่ยนผ้าปูที่นอน”“…” ไม่ว่าจะหาเหตุผลอะไรมาแก้ต่าง แต่สุดท้ายพี่ลีวายก็โต้แย้งมันทุกข้อ ทำเอาฉันจนมุม“รีบ ๆ ถอดเสื้อผ้าฉันมีเวลาไม่มาก”“ถ… ถ้ามีธุระก็รีบไปทำก่อนดีกว่าค่ะ ระ... เรื่องนี้เอาไว้ทำทีหลังก็ได้”“ฉันบอกให้ถอดเสื้อผ้า เข้าใจยากตรงไหน”“…” ให้ตายสิเขามุ่งมั่นที่จะทำเรื่องแบบนั้น มากขนาดนี้เลยหรือไงฉันก้มหน้าลงพร้อมความคิดไม่ตก ยังไงก็ไม่รอดสินะ ต่อให้ปฏิเสธแต่ฉันรู้ดีว่าสุดท้ายมันจะเกิดขึ้น เพราะฉันเองที่เป็นฝ่ายยอมพี่ลีวายพูดถูก… เพราะคำว่ารักทำให้ฉันปฏิเสธเขาไม่เคยได้สักครั้ง “อึก!” ดวงตากลมของฉันเบิกกว้างเมื่อเงยหน้าขึ้นมา แล้วเห็นพี่ลีวายเปลือยเปล่าไร้เสื้อผ้าปิดคลุมร่างกาย พอได้เห็นก็ทำเอาใบหน้ามันร้อนผ่าวขึ้นมาทันที ร่างหนาคร่อมขึ้นมาบนตัวของฉันก่อนจะจับชายเสื้อที่ฉันสวมใส