เมื่อถึงเวลาที่แขกคนสำคัญมา พี่กล้าเป็นคนมาตามฉันที่เรือนเล็ก
ในตอนนี้ฉันอยู่ในชุดเดรสสีแดงสด แหวกกลางหลังลงมาจนเกือบถึงก้น แต่โชว์หน้าอก วันนี้ฉันโนบาร์ด้วย เมื่อได้ยินเสียงของพี่กล้าเรียกแล้วฉันจึงลุกขึ้นเดินไปหยิบชุดคลุมมาสวมใส่ก่อนจะเดินไปเปิดประตู “ระวังตัวด้วยนะครับคุณหนู” พี่กล้าบอกอย่างเป็นห่วง “ค่ะ” ฉันเพียงแค่รับคำ ก่อนจะเดินไปยังเรือนใหญ่เมื่อเดินมาถึงห้องลับที่คุณป๋าเอาไว้ใช้คุยกับแขกคนสำคัญ พี่กล้าก็เปิดประตูให้ ก่อนที่ฉันจะเดินเข้าไปด้านใน
ภายในห้องเย็นเฉียบ มีเพียงคุณป๋าและผู้ชายวัยกลางคนอายุประมาณสามสิบปลายๆ นั่งคุยกันอยู่ เพียงสองคนเท่านั้น “คุณหิรัญนี่รู้ใจผมจริงๆ” ผู้ชายคนนั้นมองฉันอย่างพึงพอใจ เขาคงไม่รู้ว่าฉันคือลูกสาวบุญธรรมของคุณป๋า “ไปนั่งกับคุณเดชาสิ” คุณป๋าออกคำสั่ง “...ค่ะ” ฉันค่อยๆ ปลดชุดคลุมออก เมื่อเสื้อคลุมหล่นลงพื้น ผู้ชายที่ชื่อเดชาก็มองฉันตาเป็นมันส์ ฉันเดินไปนั่งข้างๆ กับคุณเดชาตามที่คุณป๋าสั่ง โดยที่นั่งหันหน้าประจันกับคุณป๋า ถ้าไม่ได้คิดไปเอง ฉันสังเกตเห็นคุณป๋าแอบลอบมองฉันอยู่หลายครั้ง การคุยกันระหว่างคุณป๋ากับคุณเดชา ทำให้ฉันรู้ว่าเพราะอะไรคุณป๋าถึงอยากจะจัดการเขามากขนาดนี้ การทะนงตัว กดราคา และข้อแลกเปลี่ยนที่มันมากเกินไปของอีกฝ่าย ทำให้คุณป๋าต้องจัดการ ฉันพอจะเข้าใจแล้วแหละ “นั่งตั้งนาน ว่าแต่หนูชื่ออะไรหื้ม” ไม่ถามเปล่า ยังโอบมือมากอดฉันอีก ถ้ากอดเฉยๆ คงจะไม่อะไร แต่นี่ยังแอบจับก้นฉันอีกต่างหาก “เมลค่ะ ^_^” ทุกครั้งที่มีคนถามฉันจะแนะนำว่าตัวเองชื่อเมล เป็นชื่อที่ฟาร์นมันชอบเรียก “แล้วหนูทำงานที่ไหน ถ้าฉันอยากจะรับเลี้ยง...” “แม้ๆ เพิ่งเจอกันเองนะคะ จะรับเลี้ยงแล้วหรอ” ไม่พูดเปล่า ฉันสอดมือเข้าไปในเสื้อเชิดตัวนอก แล้วแสร้งหยอกล้อกับเม็ดไตบนแผงอกเบาๆ ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกอยากรู้จักฉันมากขึ้น ที่ทำแบบนี้เพราะฉันเอาเครื่องแอบดักฟังไปติดไว้ที่เสื้อของเขาด้วย การที่จะไม่ให้ถูกสงสัยก็ต้องทำให้อีกฝ่ายเคลิบเคลิ้ม “เบาๆ กับคนของผมหน่อยสิครับ” คุณป๋าพูดขึ้นมาขัดจังหวะ แล้วใช้สายตามองฉันอย่างดุดัน นั่นหมายความว่าสิ่งที่ฉันทำมันมากเกินไป ก็คุณป๋าเองไม่ใช่หรอที่อยากให้ฉันทำแบบนี้ แล้วจะมาขัดจังหวะทำไม ฉันก็ทำให้เต็มที่นี่ไง ฉันไม่สนใจสายตาของคุณป๋า และออดอ้อนคนข้างกายต่อ ไม่ว่าเขาจะสัมผัสส่วนไหนฉันก็ไม่ห้าม เพราะยังไงเดี๋ยวเขาก็หายไปจากโลกนี้อยู่ดี ฉันไม่โกรธคนที่กำลังจะตายหรอก “คุยธุระเสร็จแล้วน้องเมลสะดวกจะไปต่อด้วยกันกับพี่มั้ยครับ” คนข้างๆ ถามฉันอย่างเสน่ห์หา พลางยื่นหน้าลงมาสูดดมที่ซอกคอของฉัน สัมผัสนี้มันทำให้ขนฉันลุกซู่ไปทั้งตัว แต่ก็ไม่ได้ดันคุณเดชาออกไปแต่อย่างใด “รีบหรอคะ” ฉันทำเชิงเหมือนอยากจะเล่นด้วย “ถ้าอยากรู้จักเมลมากกว่านี้ เมลมีที่มาแนะนำเป็นที่เงียบๆ ที่มีแค่เราสองคน ไม่รู้ว่าคุณเดชาจะสนใจหรือเปล่า” “มันก็ขึ้นอยู่ว่าน้องเมลจะพาพี่ไปหรือเปล่า” “ใจง่ายจังเลยนะคะ” “สำหรับคนสวยแบบน้องเมล พี่คงไม่กล้าขัด” คุณเดชาปัดไรผมของฉันมาทัดไว้ที่หู ก่อนจะโน้มใบหน้าลงมาหอมแก้มฉันเบาๆ “เดี๋ยวผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะครับคุณหิรัญ” คุณเดชาหันไปบอกคุณป๋า “เชิญครับ” คุณป๋าผายมือไปทางประตู ก่อนที่คุณเดชาจะลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป ในตอนนี้ภายในห้องมีเพียงแค่ฉันกับคุณป๋าสองคน แถมคุณป๋าก็ยังเอาแต่มองฉันไม่ละสายตา “หนูเอาเครื่องดักฟังติดที่ตัวของเขาแล้วนะคะ” “ไหนตอนแรกบอกไม่อยากทำ แต่ท่าทางของเธอดูพร้อมจะถวายตัวให้มันจังเลยนะ...” คุณป๋าพูดด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกทำให้ฉันพอจะรู้ว่าคุณป๋าไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ “หนูอยากทำให้คุณป๋าประทับใจไงคะ” ฉันตอบในเชิงประชด “มันมากเกินไป !!” “หนูว่ามันน้อยไปด้วยซ้ำ” พูดจบฉันก็ยิ้มจางๆ ให้คุณป๋า “เธอรีบออกไปซะ!!” ฉันมองคุณป๋าอย่างไม่เข้าใจทันทีเมื่อถูกไล่ให้ออกไปจากห้อง “...คะ?” “งานนี้ฉันจะให้คนอื่นมาทำแทนเธอ” “ทำไมล่ะคะ” “ฉันสั่ง !!” คุณป๋าย้ำเสียงแข็ง “ไม่ค่ะ หนูไม่ออกไปไหนทั้งนั้น ถ้าให้หนูทำงานนี้ก็ต้องให้หนูทำให้จบงาน” ฉันต่อปากต่อคำอย่างไม่เกรงกลัว ทำให้คุณป๋าลุกขึ้นเดินตรงปรี่เข้ามากระชากแขนฉันอย่างแรง จนฉันต้องลุกขึ้นตามแรงกระชาก “ทำไม !!” “หนูต้องถามเหตุผลคุณป๋ามากกว่า ถ้าจะเป็นแบบนี้ก็ไม่ควรบังคับให้หนูทำตั้งแต่แรกนะคะ !!” “หรือเธอชอบที่ถูกมันจับ....” ไม่พูดเปล่า คุณป๋ายังก้มหน้าลงมามองหน้าอกของฉันด้วย “ทุเรสสิ้นดี !!” ฉันเริ่มจะโมโหแล้วจริงๆ วันนี้คุณป๋าเป็นบ้าอะไร ถึงได้แสดงอาการพวกนี้ออกมาเมื่อได้ยินเสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ฉันจึงรีบผลักตัวคุณป๋าออกไปให้พ้น ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาระงับอารมณ์ที่เพิ่งปะทะกับคุณป๋าไปเมื่อครู้เอาไว้ ส่วนคุณป๋าก็เดินกลับไปนั่งบนโซฟาตัวเดิม พลางมองฉันตาไม่กระพริบ ก่อนที่คุณเดชาจะเดินกลับเข้ามานั่งข้างๆ กับฉัน แล้วตกลงเรื่องธุรกิจกับคุณป๋าต่อ ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง การคุยเรื่องธุรกิจก็จบลง จบลงในแบบที่คุณป๋าเสียเปรียบทุกด้าน “น้องเมลบอกว่าจะพาพี่ไปที่ไหนนะครับ” เมื่อคุยเรื่องธุรกิจจบแล้วคุณเดชาก็หันหน้ามาถามฉันอย่างอารมณ์ดี เป็นถึงนักธุรกิจ แต่กลับโง่ให้กับผู้หญิง น่าสมเพชสิ้นดี “ถ้าสัญญาว่าเราจะไปที่นั่นกันแค่สองคน เมลจะรีบพาไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ ^_^” ฉันพูดแล้วยิ้มอย่างเอาอกเอาใจ “ทำไมต้องไปสองคน ?” เหมือนว่าคุณเดชาจะเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้ว ฉันจึงรีบดึงเสน่ห์ออกมายั่วยวนก่อนจะถูกจับได้ ฉันจับมือของคุณเดชามาวางไง้บนขาต้นขาอ่อนของตัวเอง “เวลาที่เราทำอะไรต่อมิอะไรด้วยกัน อย่างเช่น ในห้อง ระเบียง หน้าประตูห้อง หรือตรงทางเดิน....เมลไม่อยากให้ใครเห็น อยากให้คุณเดชาเห็นแค่คนเดียว” ปัก!! เสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น ก่อนที่ฉันจะเห็นสายตาของคุณป๋าที่มอ
Talk หิรัญ ผมรีบขับรถไปที่บ้านพักต่างอากาศ ด้วยความหงุดหงิด เมื่อมาถึงก็รีบตรงไปยังห้องที่ลูกเลี้ยงตัวแสบของผมอยู่ด้านใน “เป็นยังไงบ้าง” ผมถามไอ้กล้าที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้อง “ยายังไม่หมดฤทธิ์เลยครับนาย ผมว่านายอย่าเพิ่งเข้าไปดีกว่า” “ทำไมกูถึงเข้าไปไม่ได้ ?” ผมถามไอ้กล้า เมื่อถูกมันห้าม“ตอนนี้คุณหนูไม่ได้สติ ถ้าเกิดทำอะไรขึ้นมามันจะ...”“หลีกไป” ผมไม่ได้รอให้มันพูดจบ ไอ้กล้าหลีกทางให้ผมอย่างจำใจ “ยืนเฝ้าหน้าห้องเอาไว้” ผมสั่งก่อนจะเปิดประตูเข้าไปด้านในห้อง ภาพที่ผมเห็นมันทำให้ผมต้องหยุดชะงักและตะลึง “คะ คุณป๋า ออกไป อ๊า~” เสียงเล็กๆ ไล่ผมให้ออกไปจากห้อง ก่อนจะดึงผ้าห่มมาคลุมร่างกายเปลือยเปล่าของตัวเองเอาไว้ ใช่!! เธอกำลังเปลือยกายอยู่ ไม่ใช่แค่นอนเปลือยกายอยู่บนเตียง แต่ยังช่วยตัวเองอีกด้วย “อ่า!! คิดบ้าอะไรอยู่วะ” ผมสะบัดความคิดบ้าๆ ของตัวเองออกไปให้หมด เพราะเมื่อครู่ผมเอาแต่ตกตะลึงกับเรือนร่างเปลือยเปล่าของลูกเลี้ยงตัวแสบของผม ไม่คิดมาก่อนว่าเวลาที่เธอไม่สวมใส่อะไรร่างกายของเธอมันจะสวยสะดุดตาแถมยังน่าสัมผัสขนาดนั้น ผมพยายามข่มใจและบอกกับตัวเองว่าตรงหน้าคือลูกเลี้ยงของผม เธอค
“รู้ตัวใช่มั้ยว่าที่เธอเป็นแบบนี้เพราะฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กส์” ผมถามย้ำ เพราะอยากให้เธอมีสติมากกว่านี้ ถ้าผมทำ ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในวันนี้จะไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้อีก “ระ รู้ค่ะ อ๊า เร็วๆสิ” แน่นอนว่าเธอไม่มีสติ “เธอคือลูกเลี้ยงของฉัน มั่นใจว่าจะให้ฉันทำ ?”ถึงผมไม่ได้ผูกพันกับเธอทางสายเลือด แต่ผมก็อยากจะถามให้แน่ใจว่าเธอต้องการมันจริงๆ “บอกให้รีบๆ ทำไงคะ!!” เมื่อไม่ได้ดั่งใจเธอก็ออกอาการหงุดหงิดใส่ผม ผมไม่ใช่คนดีอะไร ในเมื่อผู้หญิงที่กำลังนอนเปลือยกายอยู่ตรงหน้าผมตอนนี้เธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของผม เพราะฉะนั้นก็ไม่ผิดถ้าผมจะทำในสิ่งที่เธอกำลังต้องการ “จำเอาไว้ว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นมันคือความต้องการของเธอเองคนเดียว” ผมค่อยๆ เลื่อนมือลงไปสัมผัสกับเนินสามเหลี่ยมอวบนูน ที่มันเปียกชุ่มไปด้วยน้ำแห่งตัณหา ทันทีที่นิ้วของผมแตะลงบนติ่งเกสร ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยงของผมเธอก็เปล่งเสียงครางกระเส่าออกมาอย่างยั่วยวน นิ้วของผมค่อยๆ สอดใส่เข้าไปในร่องสวาทที่แสนจะคับแน่น มันคับแน่นซะจนผมต้องหยุดชะงัก ก่อนจะมองใบหน้าของคนที่นอนครางอย่างทรมานใต้ร่าง “ไม่เคยผ่านผู้ชาย ?” ผมมองลูกเลี้ยงของต
Talk เมเบลฉันค่อยๆ ลืมตาที่หนักอึ้งขึ้นมา ก่อนจะมองไปรอบๆ สมองเริ่มประมวลภาพเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ “มะ ไม่จริง!! โอ้ย~” ฉันดีดตัวลุกขึ้นนั่ง แต่ก็ต้องร้องอุทานออกมาเสียงดังเมื่อมันรู้สึกเจ็บร้าวที่ท้องน้อยและตรงนั้นของตัวเอง ฉันค่อยๆ ก้มมองดูตัวเองถึงได้เห็นว่าตอนนี้ร่างกายไม่มีเสื้อผ้าอยู่เลยสักชิ้น เมื่อมองไปข้างๆ เตียงก็เห็นว่าเสื้อผ้าของตัวเองมันกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด ไม่ใช่ว่าฉันจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันก็แค่อยากให้เรื่องทุกอย่างมันเป็นเพียงแค่ความฝัน....แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ใช้มือกุมหน้าท้องของตัวเองเอาไว้อย่างเจ็บปวด เมื่อมองกลับไปก็เห็นว่ามีคราบเลือดเป็นดวงใหญ่ๆ เปื้อนที่ผ้าปูที่นอน ฉันกำหมัดแน่น รู้สึกโกรธตัวเองที่ทำบ้าอะไรลงไป ทำไมถึงไม่รู้จักคุมสติของตัวเองเอาไว้ มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ไม่ควรเลย...เพราะผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ของฉันไปคือคุณป๋า ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้รู้สึกว่าคุณป๋าเป็นคนในครอบครัวที่คอยมอบความอบอุ่นให้มาตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าคือคนที่เลี้ยงฉันมา แล้วนี่ฉันทำบ้าอะไรลงไป!! ความบริส
แน่นอนว่าฉันไม่ได้ฟังในคำค้านของคุณป๋า เมื่อยืนยันเด็ดขาดว่าจะไปดื่มฉันก็หันหลังให้คุณป๋าทันที แต่คุณป๋ากลับพุ่งปรี่มาดักหน้าประตูห้องเอาไว้ไม่ยอมให้ฉันออกไป ทำไมกัน!! ฉันอยากจะหนีออกไปให้พ้นๆ จากตรงนี้ ฉันไม่อยากที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับคุณป๋าแบบนี้ !!“หนูนัดฟาร์นไว้ค่ะ ป่านนี้ฟาร์นคงไปรอที่คลับแล้ว” ฉันพูดบ่ายเบี่ยงพยายามหาข้ออ้างทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ออกไปจากห้องนี้เร็วๆ “เธอไม่เข้าใจที่ฉันพูด ?” คุณป๋าเลิกคิ้วขึ้นถาม ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ “หรือว่าฉันจะใจดีกับเธอมากเกินไป” คำพูดของคุณป๋าทำให้ฉันนึกตลกในใจ ใจดีมากเกินไปอย่างงั้นหรอ ตั้งแต่จำความได้ฉันไม่เคยเห็นคุณป๋าใจดีเลยสักครั้ง “จำได้มั้ยคะ หนูบอกว่าถ้าหนูทำงานนี้สำเร็จหนูขอย้ายไปอยู่คอนโด” “จำได้” คุณป๋าเดินหลีกจากประตูไปนั่งลงบนเตียง “แต่เธอพลาดนะ” คุณป๋ากระตุกยิ้มมุมปากอย่างยากมี่จะคาดเดาว่าตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ “จะให้ฉันย้ำข้อผิดพลาดให้ฟังอีก ?”ฉันเม้มปากแน่น เรื่องการวางยาฉันไม่พลาด แน่นอนว่าฉันจะไม่ถามว่าตัวฉันเองพลาดที่จุดไหน เพราะฉันรู้ดีว่าคำตอบมันคืออะไร ทั้งที่คุณป๋าพูดมาก่อนหน้านี้ว่าจะไม่เอ่ยถึง แต
@คลับ ฉันนั่งรถมาที่คลับกับคุณป๋าเพราะถูกบังคับ ทั้งที่ความจริงไม่อยากจะนั่งมาด้วยเลยสักนิด วันนี้ฉันกับฟาร์นมาดื่มกันแค่สองคน“ทำไมวันนี้ถึงชวนมาดื่มที่นี่ ปกติไม่ชอบมาดื่มที่คลับของอาหิรัญ ?” ฟาร์นถามอย่างแปลกใจ ใช่! ฉันไม่ชอบมาที่คลับของคุณป๋า ถึงแม้จะเป็นคลับชื่อดังแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันอยากจะมาเลยสักนิด ถ้าไม่โดนบังคับคงไม่ได้เห็นฉันที่นี่แน่ๆ “อยากเปลี่ยนที่ดื่มมั้ง” ฉันตอบปัดๆ ไปเพราะไม่อยากถูกจี้ถามอะไรมาก “เมล คือไปโดนอะไรมา ?” ฟาร์นเพ่งมองมาที่คอของฉัน ในขณะที่ฉันกำลังยกเหล้าขึ้นดื่ม “ปะ เปล่ามดกัดน่ะ” ฉันรีบเอาผมปิดรอยแดงไว้ จริงๆ ฉันเอาผมปิดไว้ตลอดแต่ดันเผลอลืมปัดผมไปอีกข้าง มันคือรอยแดงที่ตอกย้ำถึงความผิดพลาดของฉัน และฉันก็อยากให้มันหายไปเร็วๆ ไม่อยากคิดถึงว่าใครคือเจ้าของรอยนี้ “ถ้าเธอมีแฟนฉันคงคิดว่านี่คือรอยคริส” ฟาร์นพูดก่อนจะเหลือบตามองไปที่ทางซ้ายของตัวเอง “ดูสิว่าฉันเจอใคร” ฟาร์นยกยิ้มมุมปากก่อนจะทำท่าให้ฉันมองไปทางด้านซ้าย “...ฮาน่า!” ฉันสบถชื่อนังนี่ออกมาอยากไม่ชอบใจเท่าไหร่ คิดว่าจะไม่เจอกับมันอีกแล้วแท้ๆ เชียว แต่กลับต้องมาเจอในสถานที่แบบนี้ แต่เหมือนว
“จับตัวเธอขึ้นไปบนชั้นสอง กูคงต้องอบรมเด็กดื้อสักหน่อย” ลูกน้องของคุณป๋าต่างกรูกันเข้ามาหาฉันกับฟาร์น “อย่าเข้ามานะ !!” เมื่อฉันออกคำสั่ง พวกนั้นก็หยุดและออกท่าลังเลมองไปยังคุณป๋า “กูเป็นนายมึง มึงจะฟังใคร!!” คุณป๋าประกาศเสียงกร้าว ทำใหลูกน้องของคุณป๋าเดินเข้ามาล็อกตัวฉันเอาไว้ แล้วดันฟาร์นออกไป“ขอโทษนะครับคุณหนู” ลูกน้องคุณป๋าพูด “อาหิรัญครับ เรื่องนี้เมลไม่ได้เป็นคนเริ่มเลยนะครับ” ฟาร์นเห็นว่าท่าไม่ดีเลยรีบพูดแก้ต่างให้ แต่เชื่อเถอะว่าจะผิดหรือจะถูก คุณป๋าก็มองว่าฉันเป็นคนผิดอยู่ดี “ช่างเถอะ พูดไปก็เท่านั้น” ฉันหันไปบอกฟาร์น “นายกลับไปก่อนเถอะฟาร์น” ฟาร์นมองฉันด้วยสายตาที่เป็นห่วง แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ก่อนจะจำใจเดินออกไปจากคลับ ผู้คนมากมายยังคงให้ความสนใจกับเหตุการณ์ตรงนี้อยู่ไม่น้อย “ขอโทษหนูฮาน่าซะ!!” คุณป๋าจ้องฉันตาเขม็ง “ไม่จำเป็นค่ะ” ฉันแสยะยิ้มมองตรงหน้า “ต่อให้มันตายหนูก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษมัน” “เมเบล !!” คุณป๋าตวาดเสียงดังลั่น ทุกคนต่างเงียบไม่มีใครกล้าขัดขึ้นมาเลยสักคน“อาหิรัญไม่พาฮาน่าไปหาหมอหรอคะ” ยัยฮาน่าเงยหน้าที่โชกไปด้วยเลือดเงยขึ้นถามคุณป๋า จะตายอยู่แล้วย
ฉันรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งปรี่ตรงไปยังประตู แต่ถูกคุณป๋าโอบเอวเอาไว้ก่อนจะลากตัวฉันมาเหวี่ยงลงบนโซฟาตัวเดิม เข็มขัดราคาแพงถูกคุณป๋าเหวี่ยงลงพื้นอย่างไม่ใยดี ก่อนจะเดินตรงมาหาฉันช้าๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกกลัวคุณป๋าได้มากขนาดนี้ ฉันไม่อยากจะคาดเดาเลยจริงๆ ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ “หนูเป็นลูกเลี้ยงของคุณป๋าไม่ใช่หรอคะ” เมื่อฉันถามออกไปแบบนั้นมันก็ทำให้คุณป๋าชะงัก แล้วขมวดคิ้วจ้องหน้าฉันจนยุ่งเหยิงไปหมด “อย่าทำอะไรเพื่อเป็นการซ้ำเติมความผิดพลาดอีกเลยนะคะ แค่ครั้งเดียวก็ไม่รู้ว่าจะลบมันออกไปยังไงแล้ว” ฉันพูดจากใจจริง ด้วยความรู้สึกจริงๆ คิดว่าฉันยินดีมากหรือไงกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นจากความผิดพลาด“.....” คุณป๋าไม่ได้พูดอะไรและยังคงมองหน้าฉันอยู่แบบนั้น “ตอนนี้หนูพยายามไม่คิดถึงว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้...อย่าทำให้ทุกอย่างมันแย่ไปกว่านี้เลยนะคะ” “เธอเองต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้” ฉันมองคุณป๋าอย่างไม่เข้าใจ ก็ไหนตอนแรกเป็นคนพูดว่าจะไม่เอ่ยถึงไง ทำไมท่าทางตอนนี้มันถึงต่างจากก่อนหน้านี้ล่่ะคุณป๋าโน้มตัวลงมา ก่อนจะจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น “ใช่! เธอเป็นลูกเลี้ยงของฉัน แล้
คุณป๋ายืนกอดอกทำหน้ายักษ์ไม่รับมุกที่ฉันส่งไปให้ ใจคอจะตีฉันด้วยไม้เรียวนี่จริงๆ หรือไง“เลือกได้หรือยัง” คุณป๋าถามเสียงเข้ม สมองของฉันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องอย่างว่า ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหยุดตรงหน้าของคุณป๋า“เลือกได้แล้วค่ะ” “เลือกอันไหนก็หยิบขึ้นมา”ฉันวางมือลงบนแผงอกแกร่ง แล้วค่อยๆ เลื่อนมือลงช้าๆ ลูบไล้ซิกแพ๊คแน่นๆ กำยำของคุณป๋าลงมาคลำตรงเป้ากางเกง“หนูเลือกอันนี้ค่ะ ^_^” “เมเบล!!” คุณป๋าดุฉันอีกแล้ว คอยดูเถอะจะทำให้ครางลั่นห้องเลย “ก็เลือกแล้วนี่คะ เอามันมาฟาดหนูสิ” ฉันปล่อยมือออกจากเป้ากางเกงของคุณป๋า ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงอย่างเชื้อเชิญให้คุณป๋าอดใจไม่ไหว คุณป๋ามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของฉันตาไม่กระพริบ พร้อมกับขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์กามของตัวเอง “นิ่งอยู่ทำไมล่ะคะ ไม่อยากตีหนูแล้วหรอ”“จะดื้อไปถึงไหนห๊ะ!!”“หนูเปล่าดื้อสักหน่อย” คุณป๋าเดินตรงมาหาฉัน ก่อนจะกดร่างของฉันให้นอนราบไปกับที่นอนแล้วขึ้นมาคร่อม “ชอบแบบนี้ ?” “ใครบ้างอยากโดนตีล่ะคะ” ฉันยกมือขึ้นคล้องคอของคุณป๋าเอาไว้ “อยากโดนคุณป๋าปู้ยี่ปู้ยำมากกว่า ^
3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันแต่งงานกับคุณป๋าแล้ว แต่งแบบงงๆ ในตอนนั้นที่คุณป๋าคุกเข่าขอฉันแต่งงาน หลังจากนั้นสองอาทิตย์เราทั้งคู่ก็จูงมือกันเข้าหอ จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ผ่านมสฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าดูแลฉันดีมาก และซื่อสัตย์กับฉันอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฉันเสียใจ แต่!!! หนึ่งเรื่องที่ฉันไม่ชอบเลยคาอเรื่องห้าม ห้ามใส่สั้น ห้ามมองผู้ชาย ห้ามไปเที่ยวคลับ ในตอนนี้ฉันแทบจะเก็บกดตายอยู่แล้ว “เมเบลดื่มดิวะ แมลงวันลงไปวางไข่ในแก้วแล้วมั้งนั่น” ฟาร์นบอกพร้อมกับโยกตัวไปมาตามเสียงเพลง ในตอนนี้ฉันอยู่ที่คลับกับฟาร์นและเอวา ไม่ต้องแปลกใจว่าฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ก็เพราะว่าคุณป๋าไปธุระที่ต่างประเทศน่ะสิ ไปหนึ่งอาทิตย์ แน่นอนว่าฉันที่เก็บกดมานานสามปีต้องไม่พลาดโอกาสทองแบบนี้แน่ ฉันออกมาดื่มกับเพื่อนทุกวันหลังจากที่คุณป๋าบินไปต่างประเทศ คิดดูสิว่าเก็บกดมากขนาดไหน แล้วฉันก็กำชับพวกลูกน้องของคุณป๋าเอาไว้แล้วทุกคนว่าห้ามปริปากฟ้องเรื่องที่ฉันมาเที่ยว ไม่อย่างนั้นจะไล่ออกให้หมด แน่นอนว่าทุกคนเชื่อฟัง เพราะในตอนนี้ฉันก็เปรียบเสหมือนคุณหญิงของบ้านฉันยกแก้วข
ในตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำแผลให้กับคุณป๋าอยู่ คิดแล้วก็ขำ ใครจะไปคิดว่าคุณป๋าจะมีมุมที่อ่อนแอแบบนี้ ความรักมักทำให้คนอ่อนแอเสมอ “ห้ามโดนน้ำนะคะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ” “เป็นหมอหรือไง” คุณป๋าทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน “เป็นเมียคุณหิรัญค่ะ ^_^” พอฉันพูดแบบนั้นคุณป๋าก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนที่จะคว้ามือมาดึงตัวฉันไปสวมกอด เสียงหัวใจของคุณป๋ามันกำลังเต้นรัว ทำให้ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ในตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงหัวใจของฉันกับคุณป๋าที่มันกำลังเต้นรัวแข่งกัน “คุณป๋าเคยคิดจะแต่งงานบ้างมั้ยคะ…” ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ฉันเอ่ยถามคำนี้ออกไป “ทำไมจะไม่เคย แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วงานแต่งงานมันก็ไม่ได้สำคัญไปมากกว่าที่วันนี้เธออยู่กับฉัน” พูดจบคุณป๋าก็ผละกอดออก มือหนาช้อนปลายคางของฉันให้เงยขึ้นมองตัวเอง “ถามแบบนี้แปลว่าเธออยากแต่งงาน ?”“มะ ไม่หรอกค่ะ หนูยังไงก็ได้ตามใจคุณป๋า เพราะสถานะของเราด้วย คงยากที่คนอื่นจะยอมรับ” ฉันยื่นริมฝีปากไปหอมแก้มคุณป๋า “แค่ตอนนี้คุณป๋ารักและซื่อสัตย์กับหนู หนูก็ดีใจมากกว่าการได้ใส่ชุดเจ้าสาวอีกค่ะ” “พรุ่งนี้จะมีงานจัดเลี้ยงของบริษัท ไปกับฉันนะ ในฐานะเ
ถึงจะคิดว่าคุณป๋าไม่ได้อยู่หน้าประตูแล้วแต่ฉันก็ยังโวยวาย เอาแต่ทุบประตูห้องอยู่แบบนั้นเผื่อคุณป๋าจะเห็นใจกลับมาเปิดให้ “อื้อ หนูทุบประตูจนมือแดงหมดแล้วนะคะ” ฉันแสร้งทำเป็นพูด ถ้าคุณป๋าแอบฟังอยู่คงจะเห็นใจ นี่ฉันเป็นเมียเชียวนะ จะใจดำขนาดนั้นหรือไง แต่!!! ไร้สัญญาณใดๆ จากด้านนอก เงียบกริบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น “คุณป๋าหนูปวดฉี่ ฉี่จะลาดแล้ว” ปังๆๆๆๆ พูดจบฉันก็ทุบประตูห้องรัวๆ “คุณป๋าหนูพูดจริงๆ นะ เปิดประตูให้หน่อย หนูจะไม่ทำแล้ว ไม่ดื้อแล้ว” ไม่ว่าจะตะเบ็งเสียงออกไปเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจากนั้นด้านนอก ถ้าคุณป๋าคิดจะขังฉันไว้ในห้องนี้ถึงเช้าจริงๆ ฉันจะหักเงินจากวันละสามร้อยให้เหลือวันละร้อยห้าสิบเลยคอยดูเถอะ!!ฉันนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง ทั้งแหกปากตะโกนทั้งทุบประตูห้องผ่านไปครึ่งชั่วโมงทุกอย่างยังคงเงียบ ฉันก้มหน้าลงดูมือของตัวเองทั้งสองข้างที่แดงเถือกจากกับเคาะประตูรัวๆ ติดกันเป็นเวลานาน“ไม่คิดเลยว่าคุณป๋าจะใจดำได้มากขนาดนี้” ฉันพัดพ้อออกมาเพราะความโกรธ ใช่! ฉันเองที่ผิดไปยั่วโมโหคุณป๋าทำให้ฟิวขาด แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณป๋าจะมาขังไว้แบบนี้ ที่คิดไว้มันคนละแบบกันเลย ป่านนี้ไม
น้ำเสียงอำมหิตของคุณป๋าทำให้ขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ คืนนี้คงจะเจอศึกหนักอีกแล้วสินะ ไหนๆ ก็จะเจอศึกหนักแล้วขอแกล้งหน่อยแล้วกัน อยากเห็นจังว่าเวลาคนแก่หึงมากๆ จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกเพราะปกติคุณป๋าก็ขี้หึง แต่ครั้งนี้อยากทำให้หึงสุดๆ ไปเลย แล้วก็ไปจบที่เตียง คืนนี้ฉันคงต้องร้องขอชีวิตกับคุณป๋าอีกแน่ๆ “นี่เอวาไปเข้าห้องน้ำกัน ^_^” เอวามองฉันอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ฉันก็ชวนไปห้องน้ำ คุณป๋าที่ได้ยินฉันพูดจึงกระตุกแขนเบาๆ แล้วพูดเสียงเข้ม “ถ้าอยากไปเข้าห้องน้ำ ฉันจะพาไป” “ไม่เอาค่ะ หนูอยากไปกับเอวามากกว่า” ฉันรีบปฏิเสธ ขืนให้ไปด้วยก็ไม่สนุกสิ ฉันตั้งท่าจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่คุณป๋าไม่ยอมปล่อยมือที่รั้งเอวของฉันอยู่ ฉันจึงหันไปทำหน้าดุใส่ “ปล่อยนะคะ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้ฉันลุกขึ้นจากตักของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยมือออก ฉันจับมือเอวาให้ลุกขึ้น ก่อนจะจูงมือพาเดินเข้ามาในบ้าน “เดี๋ยว! ห้องน้ำอยู่ทางนั้นแกจะไปไหนเมเบล” เอวาชี้ไปทางห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน“ใครบอกว่าฉันอยากจะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ ล่ะ”“หื้อ อะไรของแกเนี่ยเมเบล” “ตามมาเถอะน่า ถามเยอะจริ
เลิกเรียน ฉันนัดกับเพื่อนและพี่กินให้มาที่บ้านของฉันตอนหนึ่งทุ่ม พอขึ้นมาบนรถฉันก็รีบบอกคุณป๋าไว้ก่อนว่าวันนี้เพื่อนจะมาที่บ้าน “วันนี้หนูนัดเอวากับฟาร์นให้มาปาร์ตี้ที่บ้านนะคะ” ฉันบอกแต่บอกไม่หมด เพราะไม่ได้บอกว่าพี่ดินจะมาที่บ้านด้วยเหมือนกัน“ปาร์ตี้ ?” คุณป๋ามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเป็นปม “ก็ใช่ไงคะ ขอไปคลับคุณป๋าก็ไม่อนุญาต หนูเลยชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้าน”“ทำไมถึงไม่ถามฉันก่อน ?” “ทำไมล่ะคะ หนูไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรตามใจตัวเองเลยหรือไง ต้องขออนุญาตทุกครั้งเลยใช่มั้ยคะ” คุณป๋าถอนหายใจออกมาเบาๆ “มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็แค่อยากให้เธอบอกก่อน”“นี่ไง หนูก็บอกคุณป๋าอยู่นี่ไงล่ะคะ” ทั้งฉันและคุณป๋าต่างก็ทำเงียบใส่กัน อยากจะงอนก็งอนไปเถอะวันนี้ฉันไม่ง้อหรอก ไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวดีนัก อีกอย่างฉันก็แค่ชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านเอง นี่แหละ ฉันกับคุณป๋ามักจะงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องประจำ พอมาถึงบ้านคุณป๋าก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้น เดินมาเปิดประตูรถให้ แต่ยังฟอร์มอยู่ “ฝากบอกให้พี่กล้าจัดเตรียมของที่สระว่ายน้ำด้วยนะคะ เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปอาบน้ำ” ฉันออกคำสั่ง “ห้ามใส่บิกินี่” คุณป๋าชี้หน้าฉันออกคำสั
ฉันนั่งหน้าบึ้งภายในรถโดยมีคุณป๋าเป็นคนมาส่งที่มหาวิทยาลัย จะให้หน้าบึ้งได้ไงล่ะ ก็เพราะคุณป๋าน่ะสิ หยิบกระโปรงตัวที่ยาวคลุมตาตุ่มมาให้ใส่ คิดแล้วก็ไม่น้าเก็บกระโปรงตัวนี้เอาไว้เลย คอยดูเถอะกลับบ้านไปฉันจะเผามันทิ้งซะ!!“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” คุณป๋าหันหน้ามาบอกในขณะที่กำลังขับรถอยู่ “ไม่ต้องมาพูดกับหนูเลย!!” “แค่ให้ใส่กระโปรงยาวแค่นี้ ต้องโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง”“ยาวแค่นี้ พูดมาได้ไงว่ายาวแค่นี้ อีกนิดเดียวก็จะลากดินอยู่แล้วนะคะ” “มันก็ดูเหมาะกับเธอดี” คุณป๋าทำหน้ากวน เหอะ! เหมาะอะไรล่ะ “มีผัวแล้วจะใส่สั้นๆ ไปอ่อยใคร!!” เอ้า! จู่ๆ คุณป๋าก็ทำเสียงดุใส่ฉันเฉยเลย แถมยังทำหน้าบึ้งอีกด้วย “อื้อ กระโปรงยาวแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะคะ ใส่สบายด้วย ^_^” ต้องเป็นฉันที่เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ เพราะไม่อยากจะทะเลาะกันให้ยืดยาว “อยู่เป็น” คุณป๋าพึมพำออกมาเบาๆ ทำให้ฉันจิ๊ปากใส่ แต่ก็แอบๆ ทำเพราะเดี๋ยวจะงอนอีก ยิ่งช่วงนี้คนแกยิ่งชอบอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้วย #มหาวิทยาลัย“หื้อ! เอวาเธอช่วยฉันดูทีว่าไม่ได้ตาฟาดไปใช่มั้ย วันนี้เมลมันใส่กระโปรงแทบจะลากดินเลยว่ะ” พอมาถึงฟาร์นมันก็พูดล้อฉันขึ้นมาทันท
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่มหาวิทยาลัยของฉันเปิดภาคเทอม…วันนี้คุณป๋าจะต้องไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองและไปรับ นี้ไม่ใช่กฏที่ตัวฉันตั้งขึ้น แต่เป็นกฏของคุณป๋าเองต่างหาก แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันมองผู้ชายคนไหนอีกด้วย “ขอยกเว้นพี่ดินสักคนไม่ได้หรอคะ” ฉันอ้อนคุณป๋าในขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ พี่ดินคือพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง เขาเคยช่วยฉันในหลายเรื่อง จะให้ฉันทำเมินใส่เขาคงไม่ได้“ไม่ได้!!” คุณป๋าตอบเสียงแข็ง“หัดมีเหตุผลบ้างสิคะ” “จะใส่ใจมันทำไมนักหนา!!” อีกแล้ว พูดถึงพี่ดินทีไรก็ทักจะมีปากเสียงกันตลอด ล่าสุดฉันขอไปกินข้าวกับพี่ดิน อย่กจะเลี้ยงขอบคุณเขาก็ถูกห้ามแล้วก็มีปากเสียงกันใหญ่โต “เขาเป็นคนดีนะคะ”คุณป๋าเงียบทำเมินไม่สนใจคำพูดของฉัน ก็ได้ถ้าอยากจะเมินใส่กันแบบนี้ ฉันเอื้อมมือหยิบกระโปรงนักศึกษาตัวที่สั้นที่สุดในตู้เสื้อผ้าออกมา แล้สสวมใส่มัน หลังจากที่ใส่กระโปรงแล้วก็หันกลับมามองคุณป๋า เห็นว่าตอนนี้คุณป๋ากำลังจ้องหน้าฉันตาเขม็งอยู่ “ไปส่งหนูได้แล้วค่ะ จะสายแล้ว”“ไม่คิดบ้างหรือไงว่ากระโปรงที่ใส่อยู่มันจะขัดหูขัดตาฉันขนาดไหน” คุณป๋าตวัดสายตาจ้องเขม็งมองกระโปรงของฉัน“หนูก็ใส่แบบนี้
เฮือก!! ใจมันกระตุกวูบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่รู้ทันแผนการของคุณป๋า ใบหน้าของฉันซีดเผือดพร้อมกับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา ฉันหลับตาลงแล้วนับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากตักแกร่งแล้ววิ่งหนี แต่!! ทำได้เพียงแค่ลุกขึ้น ร่างของฉันก็ถูกคุณป๋าคว้าจับที่เอวเอาไว้ออกแรงดึงให้กลับมานั่งลงบนตักของตัวเองเหมือนเดิม บ้าที่สุด!! “คิดจะหนี มันง่ายไปหรือเปล่า” ฉันค่อยๆ หันหน้ามองคุณป๋าที่กำลังทำหน้ายักษ์ใส่ ก่อนจะตัดสินใจถาม “พะ พี่กล้าบอกหรอคะ” คุณป๋าส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ ได้ไง! ถ้าพี่กล้าไม่บอกแล้วคุณป๋าจะรู้ได้ยังไง “ฉันแอบฟังเธอคุยกับมัน” เฮือก!! ให้ตายเถอะ สรุปคือฉันพลาดที่ไม่ได้สังเกตอะไรให้ดีๆ ก่อนใช่มั้ย “ส่วนยานั่นที่เธอคิดว่าเป็นยานอนหลับ มันเป็นแค่ยาบำรุง” มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น “ฉันเป็นคนสั่งให้ไอ้กล้าเปลี่ยน”“……” ฉันค่อยๆ เม้มปากเข้าหากันแน่น ไม่รอดแน่ ถึงจะชอบเวลาที่มีอะไรกับคุณป๋า แต่ฉันไม่ค่อยชอบเลยเวลาที่ต้องถูกลงโทษ เพราะนั่นหมายความว่านอกจากคืนนี้จะไม่ได้ไปคลับแล้ว ฉันยังจะไม่ได้นอนอีกทั้งคืน คุณป๋ากดจูบหนักๆ ลงมาบนริมฝีปากของฉันเพื่อเป็นการลงโทษ ริมฝีปากมั