หลังจากที่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องน้ำนานหลายชั่วโมง ฉันหยุดโทษตัวเองก่อนจะลุกขึ้นแต่งตัวและเดินออกจากห้องมาเผชิญหน้ากับโลกของความเป็นจริง เพราะสุดท้ายแล้วสิ่งที่พลาดไปมันไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้
นอกจากฉันจะต้องยอมรับและเผชิญหน้ากับความผิดพลาดในครั้งนี้...ในชีวิตฉัน นี่ค่อเรื่องที่ฉันเสียใจที่สุด “พี่กล้า...” เมื่อเปิดประตูออกมาจากห้องแล้ว คนแรกที่เจอคือพี่กล้า ในตอนนี้ฉันยังอยู่ที่บ้านพักต่างอากาศของคุณป๋า “คุณหนูดีขึ้นแล้วใช่มั้ยครับ” “...ค่ะ” “นายมีธุระด่วน รีบไปเลย...” “เรากลับบ้านกันดีกว่าค่ะ” พูดจบฉันก็เดินนำหน้าพี่กล้าไปเลย ฉันเชื่อว่าพี่กล้าต้องรู้เรื่องแล้วแหละ แต่เพราะเป็นเรื่องของเจ้านายจึงไม่กล้ายุ่งเมื่อกลับมาถึงบ้านฉันก็เก็บตัวเงียบอยู่ที่เรือนเล็ก ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกอะไรเลยกับเรื่องที่มันเกิดขึ้น แต่ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อดี เวลาเจอคุณป๋าฉันต้องทำหน้ายังไง ต้องพูดอะไร ทุกอย่างมันอื้ออึงอยู่ในสมองจนแทบจะระเบิดออกมา
เมื่อคิดอะไรไม่ออก ฉันจึงจัดการโทรนัดให้เอวากับฟาร์นไปดื่มที่คลับเป็นเพื่อน แต่เอวาไม่ว่างเลยได้ไปกับฟาร์นแค่สองคน “คุณหนูไปบอกนายก่อนนะครับว่าจะออกไปดื่ม” เมื่อฉันเดินออกมาจากเรือนเล็กก็เห็นพี่กล้ากำลังเดินมาทางนี้พอดี “คงไม่จำเป็นหรอกค่ะ” ที่ตอบไปแบบนี้เพราะฉันไม่พร้อม ไม่พร้อมที่จะประจันหน้ากับคุณป๋าในตอนนี้ “นายให้ผมเรียกให้ไปพบครับ” “.....” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ พอได้ยินที่พี่กล้าบอก “ฝากบอกคุณป๋าด้วยนะคะว่าวันนี้หนูไม่ว่าง” ฉันไม่รู้ว่าจะอ้างอะไรจริงๆ ตอนนี้มันคิดอะไรไม่ออก “เห็นทีจะไม่ได้ครับ เพราะนายกำชับมาว่าคุณหนูต้องไปพบ” ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเลี่ยงไม่ได้ “...ค่ะ” ฉันเดินตามพี่กล้าเข้าไปที่เรือนใหญ่ คิดว่าคุณป๋าจะรออยู่ที่ห้องนั่งเล่นหรืออาจจะสวนหลังบ้าน แต่ก็ไม่ใช่ทั้งสองที่ ฉันเริ่มหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อพี่กล้าพาเดินขึ้นไปที่ชั้นสองซึ่งเป็นห้องนอนของคุณป๋า “คุณป๋าให้มาหาที่ห้องนอนหรอคะ ?” ฉันถามในขณะที่เรากำลังเดินขึ้นบันได “ครับ” “งั้นช่วยพี่กล้าช่วยไปบอกคุณป๋าให้หนูทีนะคะว่าหนูจะรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น” “เอ่อ...” “ขึ้นมา !!” เสียงนี้ไม่ใช่เสียงของพี่กล้า แต่เป็นเสียงจากคนที่ยืนอยู่บนชั้นสองของบ้าน ซึ่งก็คือคุณป๋า เมื่อเห็นหน้าของคุณป๋ามันก็ทำให้ฉันทำตัวไม่ถูก ต่างกัน สีหน้าของคุณป๋าดูเหมือนว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นก่อนหน้านี้เลย “ทำไมต้องคุยที่ห้องด้วยคะ” ฉันทำใจกล้าถามคุณป๋าออกไป “เธอจะกลัวอะไร ?” คำพูดของคุณป๋าทำให้ฉันเงียบ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดตามคุณป๋าเข้าไปมนห้องภายในห้องนอนของคุณป๋า...
คุณป๋าเดินเข้ามาประชิดตัวฉัน ทำให้ฉันรีบถอยหนีอย่างหวาดระแวง “ฉันเคยบอกเธอไปแล้วว่าอย่าดื่มอะไรที่ศัตรูเอาให้” “...ค่ะ” “ทำไมเธอถึงไม่จำ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ อย่างไม่ชอบใจ “ครั้งนี้ถือว่าจำไว้เป็นบทเรียนแล้วกัน” “...ค่ะ” “เธอจะไม่ถามอะไรสักหน่อย ?” “ไม่ค่ะ” “ก็ดี” คุณป๋าก้าวขาเดินเข้ามาใกล้ๆ ฉันแล้วพูดต่อ “ถ้าเธอไม่อยากจะพูดถึงมัน ฉันก็จะไม่พูดถึงมันเหมือนกัน” “จะไปเที่ยว ?” คุณป๋าเลิกคิ้วขึ้น มองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า “ค่ะ” “ฉันไม่อนุญาต !!” คุณป๋าประกาศเสียงกร้าว “หนูจะไปค่ะ !!”แน่นอนว่าฉันไม่ได้ฟังในคำค้านของคุณป๋า เมื่อยืนยันเด็ดขาดว่าจะไปดื่มฉันก็หันหลังให้คุณป๋าทันที แต่คุณป๋ากลับพุ่งปรี่มาดักหน้าประตูห้องเอาไว้ไม่ยอมให้ฉันออกไป ทำไมกัน!! ฉันอยากจะหนีออกไปให้พ้นๆ จากตรงนี้ ฉันไม่อยากที่จะต้องมาเผชิญหน้ากับคุณป๋าแบบนี้ !!“หนูนัดฟาร์นไว้ค่ะ ป่านนี้ฟาร์นคงไปรอที่คลับแล้ว” ฉันพูดบ่ายเบี่ยงพยายามหาข้ออ้างทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ออกไปจากห้องนี้เร็วๆ “เธอไม่เข้าใจที่ฉันพูด ?” คุณป๋าเลิกคิ้วขึ้นถาม ก่อนจะยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆ “หรือว่าฉันจะใจดีกับเธอมากเกินไป” คำพูดของคุณป๋าทำให้ฉันนึกตลกในใจ ใจดีมากเกินไปอย่างงั้นหรอ ตั้งแต่จำความได้ฉันไม่เคยเห็นคุณป๋าใจดีเลยสักครั้ง “จำได้มั้ยคะ หนูบอกว่าถ้าหนูทำงานนี้สำเร็จหนูขอย้ายไปอยู่คอนโด” “จำได้” คุณป๋าเดินหลีกจากประตูไปนั่งลงบนเตียง “แต่เธอพลาดนะ” คุณป๋ากระตุกยิ้มมุมปากอย่างยากมี่จะคาดเดาว่าตอนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ “จะให้ฉันย้ำข้อผิดพลาดให้ฟังอีก ?”ฉันเม้มปากแน่น เรื่องการวางยาฉันไม่พลาด แน่นอนว่าฉันจะไม่ถามว่าตัวฉันเองพลาดที่จุดไหน เพราะฉันรู้ดีว่าคำตอบมันคืออะไร ทั้งที่คุณป๋าพูดมาก่อนหน้านี้ว่าจะไม่เอ่ยถึง แต
@คลับ ฉันนั่งรถมาที่คลับกับคุณป๋าเพราะถูกบังคับ ทั้งที่ความจริงไม่อยากจะนั่งมาด้วยเลยสักนิด วันนี้ฉันกับฟาร์นมาดื่มกันแค่สองคน“ทำไมวันนี้ถึงชวนมาดื่มที่นี่ ปกติไม่ชอบมาดื่มที่คลับของอาหิรัญ ?” ฟาร์นถามอย่างแปลกใจ ใช่! ฉันไม่ชอบมาที่คลับของคุณป๋า ถึงแม้จะเป็นคลับชื่อดังแต่มันก็ไม่ได้ทำให้ฉันอยากจะมาเลยสักนิด ถ้าไม่โดนบังคับคงไม่ได้เห็นฉันที่นี่แน่ๆ “อยากเปลี่ยนที่ดื่มมั้ง” ฉันตอบปัดๆ ไปเพราะไม่อยากถูกจี้ถามอะไรมาก “เมล คือไปโดนอะไรมา ?” ฟาร์นเพ่งมองมาที่คอของฉัน ในขณะที่ฉันกำลังยกเหล้าขึ้นดื่ม “ปะ เปล่ามดกัดน่ะ” ฉันรีบเอาผมปิดรอยแดงไว้ จริงๆ ฉันเอาผมปิดไว้ตลอดแต่ดันเผลอลืมปัดผมไปอีกข้าง มันคือรอยแดงที่ตอกย้ำถึงความผิดพลาดของฉัน และฉันก็อยากให้มันหายไปเร็วๆ ไม่อยากคิดถึงว่าใครคือเจ้าของรอยนี้ “ถ้าเธอมีแฟนฉันคงคิดว่านี่คือรอยคริส” ฟาร์นพูดก่อนจะเหลือบตามองไปที่ทางซ้ายของตัวเอง “ดูสิว่าฉันเจอใคร” ฟาร์นยกยิ้มมุมปากก่อนจะทำท่าให้ฉันมองไปทางด้านซ้าย “...ฮาน่า!” ฉันสบถชื่อนังนี่ออกมาอยากไม่ชอบใจเท่าไหร่ คิดว่าจะไม่เจอกับมันอีกแล้วแท้ๆ เชียว แต่กลับต้องมาเจอในสถานที่แบบนี้ แต่เหมือนว
“จับตัวเธอขึ้นไปบนชั้นสอง กูคงต้องอบรมเด็กดื้อสักหน่อย” ลูกน้องของคุณป๋าต่างกรูกันเข้ามาหาฉันกับฟาร์น “อย่าเข้ามานะ !!” เมื่อฉันออกคำสั่ง พวกนั้นก็หยุดและออกท่าลังเลมองไปยังคุณป๋า “กูเป็นนายมึง มึงจะฟังใคร!!” คุณป๋าประกาศเสียงกร้าว ทำใหลูกน้องของคุณป๋าเดินเข้ามาล็อกตัวฉันเอาไว้ แล้วดันฟาร์นออกไป“ขอโทษนะครับคุณหนู” ลูกน้องคุณป๋าพูด “อาหิรัญครับ เรื่องนี้เมลไม่ได้เป็นคนเริ่มเลยนะครับ” ฟาร์นเห็นว่าท่าไม่ดีเลยรีบพูดแก้ต่างให้ แต่เชื่อเถอะว่าจะผิดหรือจะถูก คุณป๋าก็มองว่าฉันเป็นคนผิดอยู่ดี “ช่างเถอะ พูดไปก็เท่านั้น” ฉันหันไปบอกฟาร์น “นายกลับไปก่อนเถอะฟาร์น” ฟาร์นมองฉันด้วยสายตาที่เป็นห่วง แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ก่อนจะจำใจเดินออกไปจากคลับ ผู้คนมากมายยังคงให้ความสนใจกับเหตุการณ์ตรงนี้อยู่ไม่น้อย “ขอโทษหนูฮาน่าซะ!!” คุณป๋าจ้องฉันตาเขม็ง “ไม่จำเป็นค่ะ” ฉันแสยะยิ้มมองตรงหน้า “ต่อให้มันตายหนูก็ไม่จำเป็นต้องขอโทษมัน” “เมเบล !!” คุณป๋าตวาดเสียงดังลั่น ทุกคนต่างเงียบไม่มีใครกล้าขัดขึ้นมาเลยสักคน“อาหิรัญไม่พาฮาน่าไปหาหมอหรอคะ” ยัยฮาน่าเงยหน้าที่โชกไปด้วยเลือดเงยขึ้นถามคุณป๋า จะตายอยู่แล้วย
ฉันรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งปรี่ตรงไปยังประตู แต่ถูกคุณป๋าโอบเอวเอาไว้ก่อนจะลากตัวฉันมาเหวี่ยงลงบนโซฟาตัวเดิม เข็มขัดราคาแพงถูกคุณป๋าเหวี่ยงลงพื้นอย่างไม่ใยดี ก่อนจะเดินตรงมาหาฉันช้าๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกกลัวคุณป๋าได้มากขนาดนี้ ฉันไม่อยากจะคาดเดาเลยจริงๆ ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ “หนูเป็นลูกเลี้ยงของคุณป๋าไม่ใช่หรอคะ” เมื่อฉันถามออกไปแบบนั้นมันก็ทำให้คุณป๋าชะงัก แล้วขมวดคิ้วจ้องหน้าฉันจนยุ่งเหยิงไปหมด “อย่าทำอะไรเพื่อเป็นการซ้ำเติมความผิดพลาดอีกเลยนะคะ แค่ครั้งเดียวก็ไม่รู้ว่าจะลบมันออกไปยังไงแล้ว” ฉันพูดจากใจจริง ด้วยความรู้สึกจริงๆ คิดว่าฉันยินดีมากหรือไงกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นจากความผิดพลาด“.....” คุณป๋าไม่ได้พูดอะไรและยังคงมองหน้าฉันอยู่แบบนั้น “ตอนนี้หนูพยายามไม่คิดถึงว่าเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้...อย่าทำให้ทุกอย่างมันแย่ไปกว่านี้เลยนะคะ” “เธอเองต่างหากที่ทำให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้” ฉันมองคุณป๋าอย่างไม่เข้าใจ ก็ไหนตอนแรกเป็นคนพูดว่าจะไม่เอ่ยถึงไง ทำไมท่าทางตอนนี้มันถึงต่างจากก่อนหน้านี้ล่่ะคุณป๋าโน้มตัวลงมา ก่อนจะจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น “ใช่! เธอเป็นลูกเลี้ยงของฉัน แล้
พรึบ!! “โอ้ย~” ในขณะที่ฉันไม่ทันจะระวัง เอาแต่หันไปมองที่ด้านหลังของตัวเองว่าคุณป๋าจะตามมาหรือเปล่า พอหันหน้ามาอีกทีก็ไปชนกับใครก็ไม่รู้เข้า ทำให้ฉันล้มพรึบกระแทกลงพื้น โชคดีที่ไม่ได้เจ็บอะไรมาก ยังไม่ทันทีจะเงยหน้าขึ้นมอง ก็มีมือใหญ่ยื่นมาตรงหน้า ดูจากเส้นเลือดที่ปูดขึ้นตามมือแน่นอนว่าเขาต้องเป็นผู้ชาย“เจ็บตรงไหนมั้ยครับ” เขาถามมาอย่างสุภาพ ก่อนที่ฉันจะเงยหน้าขึ้นมอง ใบหน้าของคนตรงหน้าทำให้ฉันสะตั้นไปกับความหล่อเหลาของเขาชั่วขณะก่อนจะดึงสติของตัวเองกลับมาแล้วตอบ “ขอโทษด้วยนะคะ เมเบลไม่ทันมอง” ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นโดยมีผู้ชายหน้าหล่อคนนี้เป็นคนช่วยพยุง “ชื่อเมเบลหรอครับ ชื่อแปลกจัง” เขาถามแล้วยิ้มอ่อนให้ฉัน ซึ่งในตอนนี้ใบหน้าของเราทั้งคู่มันอยู่ใกล้กันเอามากๆ “...ค่ะ” ฉันรีบดันตัวเองออกห่าง เพราะฉันกับเขาอยู่ใกล้กันมากเกินไปแล้ว “ขอโทษอีกครั้งนะคะ” พูดจบฉันก็เตรียมที่จะเดินหนีเขา แต่ถูกเขามาดักหน้าเอาไว้ก่อน “มีอะไรหรือเปล่าคะ” ฉันมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ “ถ้าพี่อยากรู้จักน้องมากกว่านี้....” “เมเบล !!” เสียงอำมหิตที่ฉันไม่อยากได้ยินดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของฉัน ฉันถอนหายใจออก
“เธอควรตอบคำถามของฉันก่อนนะ...เมเบล” คุณป๋ามองอย่างหาเรื่อง พร้อมกับเดินมาใกล้ๆ ฉัน ฉันก้าวขาถอยหลังหนีอัตโนมัติ ก่อนจะตอบ “ไปบ้านเอวามาค่ะ” “ทั้งวัน ?” คุณป๋ายังคงตามต่อ “....ค่ะ” ฉันไม่ได้บอกว่าออกไปดูหนังที่ห้างด้วยเพราะไม่อยากจะคุยอะไรยืดยาว “ทำไมถึงไม่เอาโทรศัพท์ไป ?” “หนูลืมค่ะ” “ลืมหรือตั้งใจไม่เอาไปด้วยกันแน่ ?” คุณป๋าขยี้ถามอย่างรู้ทัน แน่นอนถ้าฉันไม่ยอมรับซะอย่างคุณป๋าก็ทำอะไรไม่ได้ “ลืมค่ะ” ฉันยืนกรานตอบคำเดิม“เมื่อก่อนเวลาจะไปไหนเธอจะรายงานฉันทุกอย่าง แล้วทำไมไม่รายงาน !!” “หนูคิดว่ามันคงไม่ได้จำเป็นอะไร” “เธอบอกให้ฉันเป็นเหมือนเดิม แต่เธอกลับเป็นคนที่เปลี่ยนไปซะเอง หึ!!” คุณป๋าพูดก่อนจะหัวเราะในลำคอออกมาเบาๆ ฉันไม่ได้โต้ตอบอะไร แต่กลับกำมือแน่นจนเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ “ทำไมไม่ให้ไอ้กล้าขับรถให้ ?” “หนูชอบขับรถเองมากกว่าค่ะ” คำพูดของฉันทำให้คุณป๋าที่ไม่ค่อยพอใจอยู่แล้ว ยิ่งไม่พอใจมากขึ้นอีก “หนูจะย้ายกลับไปอยู่ในที่ของหนู” ฉันยืนกรานเสียงหนักแน่น “ที่ของเธอ ?” “ที่เรือนเล็กไงคะ” “ไม่ได้ !!” คุณป๋าตวาดเสียงกร้าว ได้!! ไม่ยอมให้ฉันกลับไปอยู่ที่เรือนเล็ก งั้
เช้าวันใหม่....กับชีวิตที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ฉันตื่นขึ้นมาลุกขึ้นนั่งพลางถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงเดินไปที่ตะกร้าผ้าแล้วถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ออกเพื่อจะอาบน้ำ แกร็ก! เสียงประตูห้องถูกเปิดเข้ามา ทำให้ฉันตกใจแล้วรีบคว้ามือไปหยิบผ้าขนหนูมาพันร่างกายเปล่าเอาไว้ “...คุณป๋า” ฉันเรียกชื่อคนตรงหน้าที่กำลังเดินมาทางฉัน “จะเข้ามาทำไมถึงไม่บอกก่อนคะ” “ฉันคิดว่ามันไม่จำเป็น” “แต่หนูโป๊อยู่” คุณป๋านั่งลงบนเตียงพลางยกขาขึ้นมาไขว้ห้าง สายตาคมกริบจ้องมองเรือนร่างของฉันไม่กระพริบ “อย่างงั้นหรอ ?” ฉันพยายามหายใจเข้าออกช้าๆ เพื่อให้ตัวเองใจเย็น “มีอะไรหรือเปล่าคะ” “ไม่มี” “ไม่มีแล้วเข้ามาในห้องหนูทำไม” “ฉันจะเข้าห้องไกนในบ้านหลังนี้ก็ได้” “...คุณป๋า!!” ฉันตะเบ็งเสียงดังเพื่อให้คุณป๋ารู้ว่าตอนนี้ฉันไม่พอใจ ไม่พอใจที่ถูกรุกล้ำความเป็นส่วนตัวมากขนาดนี้ “อยู่กันแค่สองคน เธอจะเสียงดังทำไม” คุณป๋ามองฉันอย่างหงุดหงิด เป็นอีกครั้งที่ฉันพยายามบอกตัวเองให้ใจเย็นๆ ใจเย็นไว้เมเบล! “หนูจะอาบน้ำค่ะ” ฉันพูดเป็นในๆ เพื่อบอกให้คุณป๋าออกไป คุณป๋าถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนจะลุกขึ้
“พูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างมั้ยคะ คุณป๋าควรคิดให้มากกว่านี้สักนิด!!”“ฉันพูดผิดตรงไหน ?” ฉันพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่ จู่ๆ คุณป๋าก็ลากฉันขึ้นบันไดอย่างแรง “คุณป๋าหนูเจ็บ !!”“เธอได้เจ็บมากกว่านี้แน่เมเบล” คุณป๋ามองฉันอย่างเกรี้ยวกราด จากนั้นก็ลากฉันโดยไม่ได้สนใจคำร้องท้วงใดๆ คุณป๋าลากฉันเข้ามาในห้องของตัวเอง จากนั้นก็เหวี่ยงร่างของฉันลงเตียงแรงๆ “ครั้งที่แล้วเธอเป็นคนเริ่ม” คุณป๋าพูดพร้อมกับปลดกระดุมเสื้อที่ตัวเองสวมใส่อยู่ไปด้วย “ครั้งนี้ฉันจะเป็นคนเริ่มเอง” “อย่าทำอะไรบ้าๆ นะคะ” ฉันขยับตัวถอยหนีจนสุดเตียง “เธอเป็นคนเริ่มทุกอย่างเอง ฉันคงหยุดมันไม่ได้” คุณป๋าทิ้งเสื้อลงพื้นอย่างไม่ใยดีก่อนจะปลดเข็มขัดราคาแพงต่อ “เรื่องนั้นมันเกิดขึ้นจากความผิดพลาด คุณป๋าเองก็รู้ดี” ฉันพยายามพูดดึงสติของคุณป๋า “ใช่ ฉันรู้! แต่ฉันบอกไปแล้วว่าไม่สามารถมองเธอเป็นแบบเดิมได้ เธอไม่ได้อยู่ในสถานะลูกเลี้ยงของฉันอีกต่อไปแล้วเมเบล” คุณป๋าถอดเข็มขัดราคาแพงออก ก่อนจะคลานขึ้นเตียงมาจับข้อเท้าของฉันแล้วออกแรงฉุดดึงร่างของฉัน ทำให้ตัวของฉันรูดลงไปกับเตียงไปอยู่ใต้ร่างของคุณป๋า “...ค
คุณป๋ายืนกอดอกทำหน้ายักษ์ไม่รับมุกที่ฉันส่งไปให้ ใจคอจะตีฉันด้วยไม้เรียวนี่จริงๆ หรือไง“เลือกได้หรือยัง” คุณป๋าถามเสียงเข้ม สมองของฉันคิดอะไรไม่ได้นอกจากเรื่องอย่างว่า ฉันค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหยุดตรงหน้าของคุณป๋า“เลือกได้แล้วค่ะ” “เลือกอันไหนก็หยิบขึ้นมา”ฉันวางมือลงบนแผงอกแกร่ง แล้วค่อยๆ เลื่อนมือลงช้าๆ ลูบไล้ซิกแพ๊คแน่นๆ กำยำของคุณป๋าลงมาคลำตรงเป้ากางเกง“หนูเลือกอันนี้ค่ะ ^_^” “เมเบล!!” คุณป๋าดุฉันอีกแล้ว คอยดูเถอะจะทำให้ครางลั่นห้องเลย “ก็เลือกแล้วนี่คะ เอามันมาฟาดหนูสิ” ฉันปล่อยมือออกจากเป้ากางเกงของคุณป๋า ก่อนจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงอย่างเชื้อเชิญให้คุณป๋าอดใจไม่ไหว คุณป๋ามองเรือนร่างที่เปลือยเปล่าของฉันตาไม่กระพริบ พร้อมกับขบกรามแน่นเพื่อระงับอารมณ์กามของตัวเอง “นิ่งอยู่ทำไมล่ะคะ ไม่อยากตีหนูแล้วหรอ”“จะดื้อไปถึงไหนห๊ะ!!”“หนูเปล่าดื้อสักหน่อย” คุณป๋าเดินตรงมาหาฉัน ก่อนจะกดร่างของฉันให้นอนราบไปกับที่นอนแล้วขึ้นมาคร่อม “ชอบแบบนี้ ?” “ใครบ้างอยากโดนตีล่ะคะ” ฉันยกมือขึ้นคล้องคอของคุณป๋าเอาไว้ “อยากโดนคุณป๋าปู้ยี่ปู้ยำมากกว่า ^
3 ปีผ่านไปไวเหมือนโกหก ฉันแต่งงานกับคุณป๋าแล้ว แต่งแบบงงๆ ในตอนนั้นที่คุณป๋าคุกเข่าขอฉันแต่งงาน หลังจากนั้นสองอาทิตย์เราทั้งคู่ก็จูงมือกันเข้าหอ จดทะเบียนสมรสเป็นสามีภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ผ่านมสฉันไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าคุณป๋าดูแลฉันดีมาก และซื่อสัตย์กับฉันอย่างที่เคยสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่ทำให้ฉันเสียใจ แต่!!! หนึ่งเรื่องที่ฉันไม่ชอบเลยคาอเรื่องห้าม ห้ามใส่สั้น ห้ามมองผู้ชาย ห้ามไปเที่ยวคลับ ในตอนนี้ฉันแทบจะเก็บกดตายอยู่แล้ว “เมเบลดื่มดิวะ แมลงวันลงไปวางไข่ในแก้วแล้วมั้งนั่น” ฟาร์นบอกพร้อมกับโยกตัวไปมาตามเสียงเพลง ในตอนนี้ฉันอยู่ที่คลับกับฟาร์นและเอวา ไม่ต้องแปลกใจว่าฉันมาโผล่ที่นี่ได้ยังไง ก็เพราะว่าคุณป๋าไปธุระที่ต่างประเทศน่ะสิ ไปหนึ่งอาทิตย์ แน่นอนว่าฉันที่เก็บกดมานานสามปีต้องไม่พลาดโอกาสทองแบบนี้แน่ ฉันออกมาดื่มกับเพื่อนทุกวันหลังจากที่คุณป๋าบินไปต่างประเทศ คิดดูสิว่าเก็บกดมากขนาดไหน แล้วฉันก็กำชับพวกลูกน้องของคุณป๋าเอาไว้แล้วทุกคนว่าห้ามปริปากฟ้องเรื่องที่ฉันมาเที่ยว ไม่อย่างนั้นจะไล่ออกให้หมด แน่นอนว่าทุกคนเชื่อฟัง เพราะในตอนนี้ฉันก็เปรียบเสหมือนคุณหญิงของบ้านฉันยกแก้วข
ในตอนนี้ฉันกำลังนั่งทำแผลให้กับคุณป๋าอยู่ คิดแล้วก็ขำ ใครจะไปคิดว่าคุณป๋าจะมีมุมที่อ่อนแอแบบนี้ ความรักมักทำให้คนอ่อนแอเสมอ “ห้ามโดนน้ำนะคะเดี๋ยวแผลจะอักเสบ” “เป็นหมอหรือไง” คุณป๋าทำหน้ามุ่ยใส่ฉัน “เป็นเมียคุณหิรัญค่ะ ^_^” พอฉันพูดแบบนั้นคุณป๋าก็หน้าแดงขึ้นมาเฉียบพลัน ก่อนที่จะคว้ามือมาดึงตัวฉันไปสวมกอด เสียงหัวใจของคุณป๋ามันกำลังเต้นรัว ทำให้ฉันอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ในตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท มีเพียงเสียงหัวใจของฉันกับคุณป๋าที่มันกำลังเต้นรัวแข่งกัน “คุณป๋าเคยคิดจะแต่งงานบ้างมั้ยคะ…” ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรดลใจให้ฉันเอ่ยถามคำนี้ออกไป “ทำไมจะไม่เคย แต่พอมาคิดๆ ดูแล้วงานแต่งงานมันก็ไม่ได้สำคัญไปมากกว่าที่วันนี้เธออยู่กับฉัน” พูดจบคุณป๋าก็ผละกอดออก มือหนาช้อนปลายคางของฉันให้เงยขึ้นมองตัวเอง “ถามแบบนี้แปลว่าเธออยากแต่งงาน ?”“มะ ไม่หรอกค่ะ หนูยังไงก็ได้ตามใจคุณป๋า เพราะสถานะของเราด้วย คงยากที่คนอื่นจะยอมรับ” ฉันยื่นริมฝีปากไปหอมแก้มคุณป๋า “แค่ตอนนี้คุณป๋ารักและซื่อสัตย์กับหนู หนูก็ดีใจมากกว่าการได้ใส่ชุดเจ้าสาวอีกค่ะ” “พรุ่งนี้จะมีงานจัดเลี้ยงของบริษัท ไปกับฉันนะ ในฐานะเ
ถึงจะคิดว่าคุณป๋าไม่ได้อยู่หน้าประตูแล้วแต่ฉันก็ยังโวยวาย เอาแต่ทุบประตูห้องอยู่แบบนั้นเผื่อคุณป๋าจะเห็นใจกลับมาเปิดให้ “อื้อ หนูทุบประตูจนมือแดงหมดแล้วนะคะ” ฉันแสร้งทำเป็นพูด ถ้าคุณป๋าแอบฟังอยู่คงจะเห็นใจ นี่ฉันเป็นเมียเชียวนะ จะใจดำขนาดนั้นหรือไง แต่!!! ไร้สัญญาณใดๆ จากด้านนอก เงียบกริบไม่ได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น “คุณป๋าหนูปวดฉี่ ฉี่จะลาดแล้ว” ปังๆๆๆๆ พูดจบฉันก็ทุบประตูห้องรัวๆ “คุณป๋าหนูพูดจริงๆ นะ เปิดประตูให้หน่อย หนูจะไม่ทำแล้ว ไม่ดื้อแล้ว” ไม่ว่าจะตะเบ็งเสียงออกไปเท่าไหร่ก็ไร้วี่แววจากนั้นด้านนอก ถ้าคุณป๋าคิดจะขังฉันไว้ในห้องนี้ถึงเช้าจริงๆ ฉันจะหักเงินจากวันละสามร้อยให้เหลือวันละร้อยห้าสิบเลยคอยดูเถอะ!!ฉันนั่งลงที่พื้นอย่างหมดแรง ทั้งแหกปากตะโกนทั้งทุบประตูห้องผ่านไปครึ่งชั่วโมงทุกอย่างยังคงเงียบ ฉันก้มหน้าลงดูมือของตัวเองทั้งสองข้างที่แดงเถือกจากกับเคาะประตูรัวๆ ติดกันเป็นเวลานาน“ไม่คิดเลยว่าคุณป๋าจะใจดำได้มากขนาดนี้” ฉันพัดพ้อออกมาเพราะความโกรธ ใช่! ฉันเองที่ผิดไปยั่วโมโหคุณป๋าทำให้ฟิวขาด แต่ใครจะไปคิดล่ะว่าคุณป๋าจะมาขังไว้แบบนี้ ที่คิดไว้มันคนละแบบกันเลย ป่านนี้ไม
น้ำเสียงอำมหิตของคุณป๋าทำให้ขนทั้งตัวของฉันมันลุกซู่ คืนนี้คงจะเจอศึกหนักอีกแล้วสินะ ไหนๆ ก็จะเจอศึกหนักแล้วขอแกล้งหน่อยแล้วกัน อยากเห็นจังว่าเวลาคนแก่หึงมากๆ จะเป็นยังไง ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นหรอกเพราะปกติคุณป๋าก็ขี้หึง แต่ครั้งนี้อยากทำให้หึงสุดๆ ไปเลย แล้วก็ไปจบที่เตียง คืนนี้ฉันคงต้องร้องขอชีวิตกับคุณป๋าอีกแน่ๆ “นี่เอวาไปเข้าห้องน้ำกัน ^_^” เอวามองฉันอย่างแปลกใจที่จู่ๆ ฉันก็ชวนไปห้องน้ำ คุณป๋าที่ได้ยินฉันพูดจึงกระตุกแขนเบาๆ แล้วพูดเสียงเข้ม “ถ้าอยากไปเข้าห้องน้ำ ฉันจะพาไป” “ไม่เอาค่ะ หนูอยากไปกับเอวามากกว่า” ฉันรีบปฏิเสธ ขืนให้ไปด้วยก็ไม่สนุกสิ ฉันตั้งท่าจะลุกขึ้นอีกครั้งแต่คุณป๋าไม่ยอมปล่อยมือที่รั้งเอวของฉันอยู่ ฉันจึงหันไปทำหน้าดุใส่ “ปล่อยนะคะ” คุณป๋าพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ดูก็รู้ว่าไม่อยากให้ฉันลุกขึ้นจากตักของตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยอมปล่อยมือออก ฉันจับมือเอวาให้ลุกขึ้น ก่อนจะจูงมือพาเดินเข้ามาในบ้าน “เดี๋ยว! ห้องน้ำอยู่ทางนั้นแกจะไปไหนเมเบล” เอวาชี้ไปทางห้องน้ำชั้นล่างของบ้าน“ใครบอกว่าฉันอยากจะมาเข้าห้องน้ำจริงๆ ล่ะ”“หื้อ อะไรของแกเนี่ยเมเบล” “ตามมาเถอะน่า ถามเยอะจริ
เลิกเรียน ฉันนัดกับเพื่อนและพี่กินให้มาที่บ้านของฉันตอนหนึ่งทุ่ม พอขึ้นมาบนรถฉันก็รีบบอกคุณป๋าไว้ก่อนว่าวันนี้เพื่อนจะมาที่บ้าน “วันนี้หนูนัดเอวากับฟาร์นให้มาปาร์ตี้ที่บ้านนะคะ” ฉันบอกแต่บอกไม่หมด เพราะไม่ได้บอกว่าพี่ดินจะมาที่บ้านด้วยเหมือนกัน“ปาร์ตี้ ?” คุณป๋ามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเป็นปม “ก็ใช่ไงคะ ขอไปคลับคุณป๋าก็ไม่อนุญาต หนูเลยชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้าน”“ทำไมถึงไม่ถามฉันก่อน ?” “ทำไมล่ะคะ หนูไม่มีสิทธิ์จะทำอะไรตามใจตัวเองเลยหรือไง ต้องขออนุญาตทุกครั้งเลยใช่มั้ยคะ” คุณป๋าถอนหายใจออกมาเบาๆ “มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันก็แค่อยากให้เธอบอกก่อน”“นี่ไง หนูก็บอกคุณป๋าอยู่นี่ไงล่ะคะ” ทั้งฉันและคุณป๋าต่างก็ทำเงียบใส่กัน อยากจะงอนก็งอนไปเถอะวันนี้ฉันไม่ง้อหรอก ไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวดีนัก อีกอย่างฉันก็แค่ชวนเพื่อนมาดื่มที่บ้านเอง นี่แหละ ฉันกับคุณป๋ามักจะงอนกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่องประจำ พอมาถึงบ้านคุณป๋าก็เหมือนจะอารมณ์ดีขึ้น เดินมาเปิดประตูรถให้ แต่ยังฟอร์มอยู่ “ฝากบอกให้พี่กล้าจัดเตรียมของที่สระว่ายน้ำด้วยนะคะ เดี๋ยวหนูจะขึ้นไปอาบน้ำ” ฉันออกคำสั่ง “ห้ามใส่บิกินี่” คุณป๋าชี้หน้าฉันออกคำสั
ฉันนั่งหน้าบึ้งภายในรถโดยมีคุณป๋าเป็นคนมาส่งที่มหาวิทยาลัย จะให้หน้าบึ้งได้ไงล่ะ ก็เพราะคุณป๋าน่ะสิ หยิบกระโปรงตัวที่ยาวคลุมตาตุ่มมาให้ใส่ คิดแล้วก็ไม่น้าเก็บกระโปรงตัวนี้เอาไว้เลย คอยดูเถอะกลับบ้านไปฉันจะเผามันทิ้งซะ!!“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อย” คุณป๋าหันหน้ามาบอกในขณะที่กำลังขับรถอยู่ “ไม่ต้องมาพูดกับหนูเลย!!” “แค่ให้ใส่กระโปรงยาวแค่นี้ ต้องโกรธฉันมากขนาดนั้นเลยหรือไง”“ยาวแค่นี้ พูดมาได้ไงว่ายาวแค่นี้ อีกนิดเดียวก็จะลากดินอยู่แล้วนะคะ” “มันก็ดูเหมาะกับเธอดี” คุณป๋าทำหน้ากวน เหอะ! เหมาะอะไรล่ะ “มีผัวแล้วจะใส่สั้นๆ ไปอ่อยใคร!!” เอ้า! จู่ๆ คุณป๋าก็ทำเสียงดุใส่ฉันเฉยเลย แถมยังทำหน้าบึ้งอีกด้วย “อื้อ กระโปรงยาวแบบนี้ก็สวยไปอีกแบบนะคะ ใส่สบายด้วย ^_^” ต้องเป็นฉันที่เป็นฝ่ายยอมอ่อนข้อให้ เพราะไม่อยากจะทะเลาะกันให้ยืดยาว “อยู่เป็น” คุณป๋าพึมพำออกมาเบาๆ ทำให้ฉันจิ๊ปากใส่ แต่ก็แอบๆ ทำเพราะเดี๋ยวจะงอนอีก ยิ่งช่วงนี้คนแกยิ่งชอบอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ด้วย #มหาวิทยาลัย“หื้อ! เอวาเธอช่วยฉันดูทีว่าไม่ได้ตาฟาดไปใช่มั้ย วันนี้เมลมันใส่กระโปรงแทบจะลากดินเลยว่ะ” พอมาถึงฟาร์นมันก็พูดล้อฉันขึ้นมาทันท
เวลาล่วงเลยมาจนถึงวันที่มหาวิทยาลัยของฉันเปิดภาคเทอม…วันนี้คุณป๋าจะต้องไปส่งฉันที่มหาวิทยาลัยด้วยตัวเองและไปรับ นี้ไม่ใช่กฏที่ตัวฉันตั้งขึ้น แต่เป็นกฏของคุณป๋าเองต่างหาก แถมยังสั่งห้ามไม่ให้ฉันมองผู้ชายคนไหนอีกด้วย “ขอยกเว้นพี่ดินสักคนไม่ได้หรอคะ” ฉันอ้อนคุณป๋าในขณะที่กำลังแต่งตัวอยู่ พี่ดินคือพี่ชายที่แสนดีคนหนึ่ง เขาเคยช่วยฉันในหลายเรื่อง จะให้ฉันทำเมินใส่เขาคงไม่ได้“ไม่ได้!!” คุณป๋าตอบเสียงแข็ง“หัดมีเหตุผลบ้างสิคะ” “จะใส่ใจมันทำไมนักหนา!!” อีกแล้ว พูดถึงพี่ดินทีไรก็ทักจะมีปากเสียงกันตลอด ล่าสุดฉันขอไปกินข้าวกับพี่ดิน อย่กจะเลี้ยงขอบคุณเขาก็ถูกห้ามแล้วก็มีปากเสียงกันใหญ่โต “เขาเป็นคนดีนะคะ”คุณป๋าเงียบทำเมินไม่สนใจคำพูดของฉัน ก็ได้ถ้าอยากจะเมินใส่กันแบบนี้ ฉันเอื้อมมือหยิบกระโปรงนักศึกษาตัวที่สั้นที่สุดในตู้เสื้อผ้าออกมา แล้สสวมใส่มัน หลังจากที่ใส่กระโปรงแล้วก็หันกลับมามองคุณป๋า เห็นว่าตอนนี้คุณป๋ากำลังจ้องหน้าฉันตาเขม็งอยู่ “ไปส่งหนูได้แล้วค่ะ จะสายแล้ว”“ไม่คิดบ้างหรือไงว่ากระโปรงที่ใส่อยู่มันจะขัดหูขัดตาฉันขนาดไหน” คุณป๋าตวัดสายตาจ้องเขม็งมองกระโปรงของฉัน“หนูก็ใส่แบบนี้
เฮือก!! ใจมันกระตุกวูบทันทีเมื่อได้ยินคำพูดที่รู้ทันแผนการของคุณป๋า ใบหน้าของฉันซีดเผือดพร้อมกับมีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดขึ้นมา ฉันหลับตาลงแล้วนับหนึ่งถึงสามในใจ ก่อนจะลุกขึ้นจากตักแกร่งแล้ววิ่งหนี แต่!! ทำได้เพียงแค่ลุกขึ้น ร่างของฉันก็ถูกคุณป๋าคว้าจับที่เอวเอาไว้ออกแรงดึงให้กลับมานั่งลงบนตักของตัวเองเหมือนเดิม บ้าที่สุด!! “คิดจะหนี มันง่ายไปหรือเปล่า” ฉันค่อยๆ หันหน้ามองคุณป๋าที่กำลังทำหน้ายักษ์ใส่ ก่อนจะตัดสินใจถาม “พะ พี่กล้าบอกหรอคะ” คุณป๋าส่ายหน้าไปมาแทนคำตอบ ได้ไง! ถ้าพี่กล้าไม่บอกแล้วคุณป๋าจะรู้ได้ยังไง “ฉันแอบฟังเธอคุยกับมัน” เฮือก!! ให้ตายเถอะ สรุปคือฉันพลาดที่ไม่ได้สังเกตอะไรให้ดีๆ ก่อนใช่มั้ย “ส่วนยานั่นที่เธอคิดว่าเป็นยานอนหลับ มันเป็นแค่ยาบำรุง” มือหนาจับปลายคางของฉันให้เงยขึ้น “ฉันเป็นคนสั่งให้ไอ้กล้าเปลี่ยน”“……” ฉันค่อยๆ เม้มปากเข้าหากันแน่น ไม่รอดแน่ ถึงจะชอบเวลาที่มีอะไรกับคุณป๋า แต่ฉันไม่ค่อยชอบเลยเวลาที่ต้องถูกลงโทษ เพราะนั่นหมายความว่านอกจากคืนนี้จะไม่ได้ไปคลับแล้ว ฉันยังจะไม่ได้นอนอีกทั้งคืน คุณป๋ากดจูบหนักๆ ลงมาบนริมฝีปากของฉันเพื่อเป็นการลงโทษ ริมฝีปากมั