เมื่อเข้มขับรถมอร์เตอร์ไซค์วนกลับมาที่หมู่บ้านแรกที่เขาผ่านมา ไม่นานก็เจอปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่มากทางฝั่งขวามือ เขาต้องวนรถเพื่อขับเข้าไปในปั๊มแห่งนั้น ถ้ามาจากตัวอำเภอปั๊มแห่งนี้จะอยู่ทางฝั่งซ้าย เข้มวนรถเข้ามาและหาที่จอดได้ตรงหน้าร้านกาแฟพอดี เขาจึงเดินไปถามแม่ค้าที่ร้านกาแฟ
"ขอโทษครับ ผมมาหาแม่ค้าขายน้ำแข็งใสที่ชื่อฝน ไม่ทราบว่าร้านเธออยู่ตรงใหน" ฟองจันทร์ละมือจากการชงกาแฟชั่วคราว เงยหน้าขึ้นก็เจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเพชรสามีของเธอ บวกลบก็ไม่น่าจะเกินหนึ่งปี ผู้ชายอายุ 35 ปีนี่หล่อกันทุกคนเลยหรือไงนะ ฟองจันทร์คิดในใจ (ติดตามเรื่องเพชรกับฟองจันทร์ได้ในเรื่อง 'กลับบ้านเรารักรออยู่' นะคะ เรื่องนี้จบแล้ว) "ทางโน้นค่ะ" เข้มมองตามมือแม่ค้ากาแฟที่ชี้ไปทางร้านค้าหลาย ๆ ร้านในเพิงสังกะสี เขาผงกหัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ และเดินไปทางนั้นทันที เพชรที่เดินมาหาเมียพอดีทันเห็นหลังเข้มไว ๆ จึงถามขึ้น "ลูกค้าประจำเหรอ ?" เสียงไม่พอใจนิด ๆ ฟองจันทร์ยิ้มแล้วเดินมาหาสามีทันที ดึงแขนเขาเข้าไปในกระท่อมที่ตกแต่งให้เป็นร้านกาแฟ มองซ้ายมองขวา เมื่อไม่มีใคร เธอก็จุ๊บแก้มสากเขาไปทีหนึ่ง "ไม่ใช่ค่ะ เพิ่งเคยเห็นหน้า เขามาถามหาฝน" เพชรอารมณ์ดีขึ้นมาทันใจ ตบสะโพกฟองจันทร์ไปเป็นการหยอกล้อ สองผัวเมียหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างมีความสุข ส่วนฝนนั้นก็กำลังสาละวนทำน้ำแข็งใสให้กับลูกค้าเด็ก ๆ อยู่สามคน วันนี้เธออยู่ร้านคนเดียว น้องสาวทั้งสองคนไปปฐมนิเทศน์เพื่อเตรียมตัวเข้าเรียนต่อ ส่วนแม่พาพ่อไปหาหมอ เธอเป็นกังวลเกี่ยวกับอาการของพ่อพอสมควร แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ซักเท่าไหร่ในตอนนี้ สิ่งที่เธอเป็นกังวล ณ ตอนนี้ก็คือ สายจากเจ๊นกที่โทรมาหาเธอเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนนั่นต่างหากล่ะ "นังฝน งานเข้าแล้วมรึง..สร้างเรื่องอะไรไว้รู้ตัวหรือเปล่า" "เรื่องอะไรล่ะเจ๊ หนูไม่ได้สร้างเรื่องอะไรสักหน่อย" จำได้ว่าตอบเจ๊นกไปแบบนั้น "ไม่สร้างเรื่องอะไร เอ็งตบหน้าใครเมื่อคืน" นั่นแหละเธอถึงได้นึกออกว่าเธอได้ทำอะไรไว้ ดีนะที่แค่ตบไม่ต่อยให้ดั้งหักก็บุญหัวแล้ว "เขาตามหาเอ็งให้ควั่กเลย และตอนนี้เขาก็กำลังจะไปหาเอ็งที่บ้านแล้วด้วย ฉันโทรมาเตือนให้ระวังตัวไว้ เจอหน้าเขาก็มือไม้อ่อนหน่อย ปากก็รู้จักขอโทษเขาด้วย" เจ๊นกร่ายอะไรออกมายืดยาว "แต่เขาจะลวนลามหนูนะเจ๊" เธออธิบายให้เจ๊นกฟัง หวังว่าเจ๊แกจะเข้าใจ "ยังจะมาเถียงอีก นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ยอม ๆ ไปเถอะ ทำอย่างกับไม่เคย ลูกค้าคือพระเจ้า จำไว้" ฝนน้ำตาตก จะบอกว่ายังไม่เคยจะมีใครเชื่อมั้ย และอีกคำ 'ลูกค้าคือพระเจ้า' คำนี้มันทิ่มแทงใจฝนมาก ทำไมวะเกิดมาจนแล้วต้องยอมทุกอย่างเลยหรือไง เมื่อวางสายจากเจ๊นกเธอก็ซึมเป็นหมาเศร้าไปสามนาทีพอดี จนลูกค้าตัวน้อย ๆ ของเธอมาเรียกนั่นแหละจิตใจของเธอถึงกลับมาอยู่กับเนื้อกับตัว เริ่มลงมือทำน้ำแข็งใสให้ลูกค้าไป และหลังจากนั้นลูกค้าก็ทยอยกันมาจนเธอไม่ว่างให้ได้คิดอะไรอีกเลย หารู้ไม่ว่าตอนนี้ 'มัจจุราช' ได้ย่างกรายเข้ามาจนถึงตัวแล้ว เข้มเดินไปนั่งที่โต๊ะรวมกับพวกเด็ก ๆ ที่นั่งรอน้ำแข็งใสอยู่ "เอ้า ! ได้แล้ว" เสียงแม่ค้าคนสวยตะโกนเรียกลูกค้าตัวน้อย ทั้งสามคนที่นั่งร่วมโต๊ะกับเข้มเดินไปรับถ้วยน้ำแข็งใสมาและพากันเดินออกจากร้าน เข้มจึงลุกขึ้นและเดินเข้าไปหาเธอ "ใส่เครื่องทุกอย่างมั้ย เฮ้ย !" เมื่อฝนเงยหน้าขึ้นและสบตากับคนที่เธอคิดว่าเป็นลูกค้าเธอก็ตกใจแทบช็อค เข้มเห็นท่าทางตกใจของเธอก็อดขำไม่ได้ คงเพราะยังเด็กจึงยังไม่รู้จักเก็บท่าเก็บอาการอะไรเลย ฝนตาเบิกโพลงราวกับเห็นผี ถ้าไม่กลัวว่าผู้คนแถวนี้จะแตกตื่นล่ะก็เธอวิ่งหนีไปแล้ว ฝนจำได้ทันทีว่าเขาคือคนที่เธอตบหน้าเมื่อคืน เพราะแววตาดุ ๆ เป็นประกายที่ไม่เหมือนใครนั้น เพียงได้สบตาครั้งแรกเป็นใครก็ลืมไม่ลง "คะ ๆ คุณ มาได้ไง?" ตะกุกตะกักถามเขาออกไป เข้มพิจารณาเธออีกครั้ง ช่างแตกต่างจากเมื่อคืนราวกับคนละคน ใบหน้าที่ปราศจากเครื่องสำอางค์นั้นดูอ่อนเยาว์แต่ก็ดูซุกซนอยู่ในทีเป็นอะไรที่ขัดแย้งแต่กลับลงตัวเป็นที่สุด เสื้อผ้าฝ้ายคอจีนกับกางเกงยีนส์ขายาว เห็นแบบนี้แทบไม่อยากเชื่อเลยว่าเวลาอยู่บนเวทีเธอจะเอว..ดีขนาดนั้น นี่ถ้าอยู่บนเตียง..เข้มหยุดความคิดเอาไว้แค่นั้น "มาได้สิ ขับมอร์เตอร์ไซค์มา" ฝนแทบอยากจะมุดดินหนีกับคำตอบของเขา ไม่ได้อยากรู้ว่าขับรถอะไรมา "นั่นแหละ มาทำไม?" ถามเขาต่ออย่างไม่ลดละเช่นกัน "มาหาคนที่ตบหน้าฉัน" เข้มก็ตอบไปแบบรวบรัดชัดเจนเหมือนกัน "ขอโทษค่ะ" บอกขอโทษเขาพร้อมกับยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อมถ่อมตน ทำตามคำที่เจ๊นกสั่งทุกประการ เข้ม..เมื่อเห็นเธอมาไม้นี้เขาก็ไปไม่ถูกเหมือนกัน พ่อค้าแม่ค้าแถวนั้นเริ่มมองคนทั้งสองอย่างอยากรู้อยากเห็น เมื่อไม่รู้จะเอายังไงต่อเข้มจึงเดินกลับไปที่รถมอร์เตอร์ไซค์ของเขาสตาร์ทและขับออกไปทันที เสียงเครื่องยนต์ค่อย ๆ เบาลงจนเงียบหายไป ฝนหายใจได้อย่างโล่งปอด พลังชีวิตเริ่มกลับคืนมา ชีพจรที่มันเต้นตุบ ๆ เพราะโดนรังสีอำมหิตจากเข้มกดดันก็เริ่มเข้าสู่จังหวะปกติ ถ้าหากว่าเขาอยู่นานกว่านี้อีกสักเพียงแค่นาทีเดียว เธอได้ร้องไห้โฮแน่ ฝนนึกอะไรบางอย่างออกแล้ว ความจริงเข้มเคยมาที่นี่แล้วครั้งหนึ่ง เมื่อทิตย์ที่แล้วนี่เอง แล้วเธอก็นึกถึงเหตุการณ์ในวันนั้นขึ้นมา เธอคุยกับพี่ฟองจันทร์แม่ค้าขายกาแฟอยู่อย่างสนุกสนานเพราะเป็นช่วงว่างจากลูกค้าพอดี "ไปขายของไป ลูกค้าเข้าร้านแล้ว" ฝนมองตามก็เห็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ยืนอยู่สามคน แต่ละคนหน้าตาน่ากลัว โดยเฉพาะคนที่อยู่ตรงกลางตาดุเหลือเกิน ใครกันนะไม่คุ้นหน้าเลย คนต่างถิ่นล่ะมั้ง ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีคนต่างถิ่นผ่านมาทางนี้บ่อย ๆ เพราะถนนสายนี้เชื่อมผ่านหลายจังหวัด ทั้งหนองบัวลำภู และขอนแก่น ฝนจึงรีบวิ่งมาที่ร้าน "เอาสามถ้วย" คนที่ตาดุ ๆ สั่งและก็พากันเดินไปนั่งรอที่โต๊ะในบริเวณร้าน ฝนจึงรีบลงมือทำน้ำแข็งใสให้ลูกค้า ไม่สั่งอะไรเป็นพิเศษแสดงว่าใส่เครื่องทุกอย่าง เอาน้ำแดงนี่แหละคลาสสิคสุดละสำหรับเมนูน้ำแข็งใส เสร็จแล้วก็นำไปเสิร์ฟให้ทั้งสามคน "ได้แล้วค่ะ" วางถ้วยน้ำแข็งใสไว้และกำลังจะเดินออกมา แต่กลับโดนดึงข้อมือเล็กไว้ด้วยมือใหญ่ของคนตาดุ ฝนกำลังจะโวยวายแต่ด้วยประสบการณ์ของแม่ค้าน้ำแข็งใสที่ขายมาหลายปี สถานการณ์แบบนี้เธอควรนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวดีกว่า ฉีกยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่เคยยิ้มมาในชีวิต บิดข้อมือให้พ้นจากอุ้งมือเขาอย่างสุภาพ "เอ่อ..ไม่ทราบว่าคุณลูกค้าต้องการอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่าคะ" เขาไม่พูดอะไรตักน้ำแข็งใสกินต่อ ฝนจึงเดินกลับไปเพื่อทำน้ำแข็งใสให้กับลูกค้าเด็ก ๆ สองสามคนที่กำลังรออยู่... "เฮ้อ..นี่มันบุพเพหรือผีผลักกันแน่วะเนี่ย" รำพึงรำพันอยู่คนเดียว ดึงกระดาษทิชชู่มาซับเหงื่อตรงขมับ ยังไม่มีลูกค้าเธอจึงนั่งพักและดูดกาแฟเย็นที่เริ่มละลายแล้วจู๊ดใหญ่ เข้มชะลอความเร็วของรถมอร์เตอร์ไซค์ลง เขาเคยเจอเธอมาก่อนหน้านี้แล้วที่ร้านน้ำแข็งใสนั่นแหละ วันนั้นเขามาจากกรุงเทพ ฯ แวะพักรถที่ปั๊มแห่งนี้อากาศร้อนเลยหาอะไรเย็น ๆ กิน เขามากับพี่ดำและพี่ขาวซึ่งเป็นคนสนิทของพ่อ ในวันนั้นเขาลวนลามเธอจริง ๆ นั่นแหละ จู่ ๆ ก็คว้ามือของเธอมาจับซะงั้น ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำอย่างนั้นทำไม ที่เธอตบเขาเมื่อคืนก็ถือซะว่าชดเชยให้กับเธอละกันณ..ผับที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุดรธานี คืนนี้นักท่องราตรีต่างก็ครึกครื้นและพลุกพล่านเพราะเป็นคืนวันศุกร์ ทุกคนต่างกินดื่มและสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ เสียงดนตรีแนวหมอลำลูกทุ่งกระหึ่มกึกก้องจนพูดกันแทบไม่ได้ยิน แต่นักท่องราตรีหาได้สนใจไม่ต่างโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามเสียงเพลง เด็กเสิร์ฟเดินกันขวักไขว่ไม่ได้หยุดพัก แต่เด็กเสิร์ฟทุกคนก็สู้ขาดใจลูกค้าเยอะขนาดนี้ทิปที่ได้ก็คงไม่น้อย ผับแห่งนี้มีนายตำรวจใหญ่ที่ลาออกจากราชการเป็นเจ้าของ เริ่มต้นจากเป็นร้านเหล้าเล็ก ๆ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและมีความอินดี้อยู่ในตัว เขาจึงพาผับแห่งนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผับที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดลูกค้าของเขามีทุกระดับ ตั้งแต่มหาเศรษฐี ข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้าและหรือแม้แต่ชาวนาก็มาเที่ยวผับของเขาได้ และเพลงที่เปิดในผับจะต้องเป็นแนวลูกทุ่งหมอลำเท่านั้น ในผับแห่งนี้ไม่มีโซน VIP ทุกคนต่างเข้ามาเที่ยวได้และจ่ายในราคาเท่ากัน นี่จึงอาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าทุกระดับต่างอยากมาสัมผัสบรรยากาศของผับแห่งนี้"เร็ว ๆ นังฝนรีบแต่งตัวเข้า ชักช้าอยู่นั่น เห็นไหมนักร้องเค้าแต่งตัวเสร็จแล้ว"เจ๊นกหญิงวัยสี่สิบปีแต่ยังสวย
หลังจากที่ลงจากเวทีแล้ว ฝนก็ไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวกลับห้องพักที่ทางเจ๊นกจัดไว้ให้ เนื่องจากหมู่บ้านของฝนไกลจากตัวจังหวัดถึง 45 กม. ดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่สะดวกเดินทางกลับเจ๊นกจึงจัดห้องพักให้เธอพักที่นี่ก่อนแล้วเดี๋ยวจะไปส่งเธอที่บ้านในตอนเช้าเพราะเธอต้องขายน้ำแข็งไสในตอนกลางวัน และหากมีงานอีกเจ๊ก็จะไปรับเธอในตอนเย็น ๆ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ๆ ที่เธอทำงานเป็นแดนเซอร์ให้เจ๊นก ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่ทำ ซึ่งช่วงหลัง ๆ เธอมาทำงานให้เจ๊นกเฉลี่ยอาทิตย์ละสี่คืน คือ คืนวันพฤหัสถึงคืนวันอาทิตย์"ทำไมเอ็งไม่มาทำประจำเลยวะฝน นี่ถ้าเอ็งเต้นไม่เก่งและหาคนแทนได้นะเจ๊จะไม่เรียกแกเด็ดขาดขี้เกียจไปรับไปส่ง พักที่นี่เลยสิเอ็งจะได้ไม่ต้องเทียวมาเทียวไปให้เหนื่อยด้วย ทำประจำไปเลยเงินดีจะตาย ดีกว่าขายน้ำแข็งใสเป็นไหน ๆ เผลอ ๆ อาจจะมีเสี่ยเลี้ยง รูปร่างหน้าตาอย่างเอ็งเนี่ยผู้ชายชอบจะตาย ถึงจะไม่สวยมาก แต่ก็สวยคมมีเสน่ห์ ถ้าแกยิ้มให้มันเก่ง ๆ พูดจาเอาอกเอาใจคนหน่อยนะ ขี้คร้านพวกเฒ่าหัวงูจะตามเอ็งต้อย ๆ ถ้าเอ็งมานะเจ๊จะจัดห้องพักให้เอ็งต่างหาก จะได้ไม่ต้องพักรวมกับคนอื่น ๆ"เจ๊นกเคยถามและเคยบอกกับเ
"ไอ้..อมร ตื่นเดี๋ยวนี้"เข้มไปโวยวายที่หน้าบ้านของอมรในตอนสายของวันต่อมา ส่งผลให้อมรที่กำลังนอนกอดลูกกอดเมียอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่น เขาคว้ามือถือมาดูเวลา เพิ่งจะแปดโมงเช้า เมื่อคืนกว่าเขาจะได้นอนเพราะต้องเคลียส์บัญชี และดูแลความเรียบร้อยของผับก็ปาเข้าไปตีห้าแล้ว เมียของเขาก็เหมือนกัน "อะไรหรือคะพี่ ?"ดาราภรรยาสาวสวยของอมรงัวเงียกำลังจะลุกขึ้นมา "ไม่มีอะไรหรอกที่รัก เจ้าเข้มน่ะ เดี๋ยวพี่ไปดูมันซะหน่อย นอนต่อเถอะ"ดาราจึงหันไปคว้าตัวลูกชายวัยสามขวบเข้ามาไว้ในอ้อมกอดและนอนต่อ อมรก้มลงจูบหน้าผากเมียหอมแก้มลูกเสร็จก็เดินออกไปดูเจ้าเพื่อนตัวดีที่มาโวยวายที่หน้าบ้านของเขา บ้านพักของมันเขาก็จัดไว้ให้ต่างหากแล้ว บ้านหลังนั้นอมรซื้อไว้เพื่อเอาไว้สำหรับรับแขก และเอาไว้ให้ญาติพี่น้องรวมทั้งเพื่อนฝูงพักโดยเฉพาะ ห่างกันไม่กี่หลังคาเรือน อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรโครงการหรูที่สุดในตัวจังหวัดอุดรธานี "อะไรวะ?"พูดพร้อมกับเปิดประตูรั้วเพื่อให้เจ้าเพื่อนตัวดีเข้ามาในบ้าน"ข้าโดนเด็กในร้านเอ็งตบ" เข้มเมื่อเข้ามาในบ้านได้แล้วก็ไม่รอช้าเปิดประเด็นทันที"อะไรนะ?"อมรได้แต่งงเขายังไม่ทันจับใจความได้ด้วยซ้ำ เข
เมื่อเข้มขับรถมอร์เตอร์ไซค์วนกลับมาที่หมู่บ้านแรกที่เขาผ่านมา ไม่นานก็เจอปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่มากทางฝั่งขวามือ เขาต้องวนรถเพื่อขับเข้าไปในปั๊มแห่งนั้น ถ้ามาจากตัวอำเภอปั๊มแห่งนี้จะอยู่ทางฝั่งซ้าย เข้มวนรถเข้ามาและหาที่จอดได้ตรงหน้าร้านกาแฟพอดี เขาจึงเดินไปถามแม่ค้าที่ร้านกาแฟ "ขอโทษครับ ผมมาหาแม่ค้าขายน้ำแข็งใสที่ชื่อฝน ไม่ทราบว่าร้านเธออยู่ตรงใหน"ฟองจันทร์ละมือจากการชงกาแฟชั่วคราว เงยหน้าขึ้นก็เจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเพชรสามีของเธอ บวกลบก็ไม่น่าจะเกินหนึ่งปี ผู้ชายอายุ 35 ปีนี่หล่อกันทุกคนเลยหรือไงนะ ฟองจันทร์คิดในใจ (ติดตามเรื่องเพชรกับฟองจันทร์ได้ในเรื่อง 'กลับบ้านเรารักรออยู่' นะคะ เรื่องนี้จบแล้ว)"ทางโน้นค่ะ"เข้มมองตามมือแม่ค้ากาแฟที่ชี้ไปทางร้านค้าหลาย ๆ ร้านในเพิงสังกะสี เขาผงกหัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ และเดินไปทางนั้นทันทีเพชรที่เดินมาหาเมียพอดีทันเห็นหลังเข้มไว ๆ จึงถามขึ้น"ลูกค้าประจำเหรอ ?"เสียงไม่พอใจนิด ๆ ฟองจันทร์ยิ้มแล้วเดินมาหาสามีทันที ดึงแขนเขาเข้าไปในกระท่อมที่ตกแต่งให้เป็นร้านกาแฟ มองซ้ายมองขวา เมื่อไม่มีใคร เธอก็จุ๊บแก้มสากเขาไปทีหน
"ไอ้..อมร ตื่นเดี๋ยวนี้"เข้มไปโวยวายที่หน้าบ้านของอมรในตอนสายของวันต่อมา ส่งผลให้อมรที่กำลังนอนกอดลูกกอดเมียอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่น เขาคว้ามือถือมาดูเวลา เพิ่งจะแปดโมงเช้า เมื่อคืนกว่าเขาจะได้นอนเพราะต้องเคลียส์บัญชี และดูแลความเรียบร้อยของผับก็ปาเข้าไปตีห้าแล้ว เมียของเขาก็เหมือนกัน "อะไรหรือคะพี่ ?"ดาราภรรยาสาวสวยของอมรงัวเงียกำลังจะลุกขึ้นมา "ไม่มีอะไรหรอกที่รัก เจ้าเข้มน่ะ เดี๋ยวพี่ไปดูมันซะหน่อย นอนต่อเถอะ"ดาราจึงหันไปคว้าตัวลูกชายวัยสามขวบเข้ามาไว้ในอ้อมกอดและนอนต่อ อมรก้มลงจูบหน้าผากเมียหอมแก้มลูกเสร็จก็เดินออกไปดูเจ้าเพื่อนตัวดีที่มาโวยวายที่หน้าบ้านของเขา บ้านพักของมันเขาก็จัดไว้ให้ต่างหากแล้ว บ้านหลังนั้นอมรซื้อไว้เพื่อเอาไว้สำหรับรับแขก และเอาไว้ให้ญาติพี่น้องรวมทั้งเพื่อนฝูงพักโดยเฉพาะ ห่างกันไม่กี่หลังคาเรือน อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรโครงการหรูที่สุดในตัวจังหวัดอุดรธานี "อะไรวะ?"พูดพร้อมกับเปิดประตูรั้วเพื่อให้เจ้าเพื่อนตัวดีเข้ามาในบ้าน"ข้าโดนเด็กในร้านเอ็งตบ" เข้มเมื่อเข้ามาในบ้านได้แล้วก็ไม่รอช้าเปิดประเด็นทันที"อะไรนะ?"อมรได้แต่งงเขายังไม่ทันจับใจความได้ด้วยซ้ำ เข
หลังจากที่ลงจากเวทีแล้ว ฝนก็ไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวกลับห้องพักที่ทางเจ๊นกจัดไว้ให้ เนื่องจากหมู่บ้านของฝนไกลจากตัวจังหวัดถึง 45 กม. ดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่สะดวกเดินทางกลับเจ๊นกจึงจัดห้องพักให้เธอพักที่นี่ก่อนแล้วเดี๋ยวจะไปส่งเธอที่บ้านในตอนเช้าเพราะเธอต้องขายน้ำแข็งไสในตอนกลางวัน และหากมีงานอีกเจ๊ก็จะไปรับเธอในตอนเย็น ๆ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ๆ ที่เธอทำงานเป็นแดนเซอร์ให้เจ๊นก ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่ทำ ซึ่งช่วงหลัง ๆ เธอมาทำงานให้เจ๊นกเฉลี่ยอาทิตย์ละสี่คืน คือ คืนวันพฤหัสถึงคืนวันอาทิตย์"ทำไมเอ็งไม่มาทำประจำเลยวะฝน นี่ถ้าเอ็งเต้นไม่เก่งและหาคนแทนได้นะเจ๊จะไม่เรียกแกเด็ดขาดขี้เกียจไปรับไปส่ง พักที่นี่เลยสิเอ็งจะได้ไม่ต้องเทียวมาเทียวไปให้เหนื่อยด้วย ทำประจำไปเลยเงินดีจะตาย ดีกว่าขายน้ำแข็งใสเป็นไหน ๆ เผลอ ๆ อาจจะมีเสี่ยเลี้ยง รูปร่างหน้าตาอย่างเอ็งเนี่ยผู้ชายชอบจะตาย ถึงจะไม่สวยมาก แต่ก็สวยคมมีเสน่ห์ ถ้าแกยิ้มให้มันเก่ง ๆ พูดจาเอาอกเอาใจคนหน่อยนะ ขี้คร้านพวกเฒ่าหัวงูจะตามเอ็งต้อย ๆ ถ้าเอ็งมานะเจ๊จะจัดห้องพักให้เอ็งต่างหาก จะได้ไม่ต้องพักรวมกับคนอื่น ๆ"เจ๊นกเคยถามและเคยบอกกับเ
ณ..ผับที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุดรธานี คืนนี้นักท่องราตรีต่างก็ครึกครื้นและพลุกพล่านเพราะเป็นคืนวันศุกร์ ทุกคนต่างกินดื่มและสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ เสียงดนตรีแนวหมอลำลูกทุ่งกระหึ่มกึกก้องจนพูดกันแทบไม่ได้ยิน แต่นักท่องราตรีหาได้สนใจไม่ต่างโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามเสียงเพลง เด็กเสิร์ฟเดินกันขวักไขว่ไม่ได้หยุดพัก แต่เด็กเสิร์ฟทุกคนก็สู้ขาดใจลูกค้าเยอะขนาดนี้ทิปที่ได้ก็คงไม่น้อย ผับแห่งนี้มีนายตำรวจใหญ่ที่ลาออกจากราชการเป็นเจ้าของ เริ่มต้นจากเป็นร้านเหล้าเล็ก ๆ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและมีความอินดี้อยู่ในตัว เขาจึงพาผับแห่งนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผับที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดลูกค้าของเขามีทุกระดับ ตั้งแต่มหาเศรษฐี ข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้าและหรือแม้แต่ชาวนาก็มาเที่ยวผับของเขาได้ และเพลงที่เปิดในผับจะต้องเป็นแนวลูกทุ่งหมอลำเท่านั้น ในผับแห่งนี้ไม่มีโซน VIP ทุกคนต่างเข้ามาเที่ยวได้และจ่ายในราคาเท่ากัน นี่จึงอาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าทุกระดับต่างอยากมาสัมผัสบรรยากาศของผับแห่งนี้"เร็ว ๆ นังฝนรีบแต่งตัวเข้า ชักช้าอยู่นั่น เห็นไหมนักร้องเค้าแต่งตัวเสร็จแล้ว"เจ๊นกหญิงวัยสี่สิบปีแต่ยังสวย