"ไอ้..อมร ตื่นเดี๋ยวนี้"
เข้มไปโวยวายที่หน้าบ้านของอมรในตอนสายของวันต่อมา ส่งผลให้อมรที่กำลังนอนกอดลูกกอดเมียอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่น เขาคว้ามือถือมาดูเวลา เพิ่งจะแปดโมงเช้า เมื่อคืนกว่าเขาจะได้นอนเพราะต้องเคลียส์บัญชี และดูแลความเรียบร้อยของผับก็ปาเข้าไปตีห้าแล้ว เมียของเขาก็เหมือนกัน "อะไรหรือคะพี่ ?" ดาราภรรยาสาวสวยของอมรงัวเงียกำลังจะลุกขึ้นมา "ไม่มีอะไรหรอกที่รัก เจ้าเข้มน่ะ เดี๋ยวพี่ไปดูมันซะหน่อย นอนต่อเถอะ" ดาราจึงหันไปคว้าตัวลูกชายวัยสามขวบเข้ามาไว้ในอ้อมกอดและนอนต่อ อมรก้มลงจูบหน้าผากเมียหอมแก้มลูกเสร็จก็เดินออกไปดูเจ้าเพื่อนตัวดีที่มาโวยวายที่หน้าบ้านของเขา บ้านพักของมันเขาก็จัดไว้ให้ต่างหากแล้ว บ้านหลังนั้นอมรซื้อไว้เพื่อเอาไว้สำหรับรับแขก และเอาไว้ให้ญาติพี่น้องรวมทั้งเพื่อนฝูงพักโดยเฉพาะ ห่างกันไม่กี่หลังคาเรือน อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรโครงการหรูที่สุดในตัวจังหวัดอุดรธานี "อะไรวะ?" พูดพร้อมกับเปิดประตูรั้วเพื่อให้เจ้าเพื่อนตัวดีเข้ามาในบ้าน "ข้าโดนเด็กในร้านเอ็งตบ" เข้มเมื่อเข้ามาในบ้านได้แล้วก็ไม่รอช้าเปิดประเด็นทันที "อะไรนะ?" อมรได้แต่งงเขายังไม่ทันจับใจความได้ด้วยซ้ำ เข้มชี้ที่แก้มของตัวเอง ซึ่งมันขึ้นริ้วเป็นแนวตามรอยนิ้วมือของผู้ตบ "เอ็งต้องรับผิดชอบ" อมรรวบรวมสติอีกครั้งและมองตามนิ้วชี้ของเพื่อน ก่อนจะหัวเราะก๊ากออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ "ฝีมือผู้หญิง ?" มันเดาถูกได้ไงวะ เข้มได้แต่อุทานในใจ "ใช่แล้ว.." เข้มก็ยอมรับไปตามความจริง "จะให้ข้ารับผิดชอบยังไง ไล่ออกงั้นเหรอ ว่าแต่ว่าเด็กเสิร์ฟ เด็กดริ๊งค์ หรือว่านักร้องวะ แล้วแกไปทำอีท่าใหนถึงได้โดนตบซะเต็มแรงแบบนี้ ไม่อยากเชื่อ คนระดับอย่างคุณเข้ม หน้าตาแบบคุณเข้ม ผู้หญิงเห็นผู้หญิงน่าจะกรี๊ดนะ ไม่น่าจะตอบสนองด้วยการตบหน้าแกแบบนี้" อมรพูดออกมาซะยืดยาว เข้มได้แต่ลูบแก้มตัวเองข้างที่โดนตบ สายตาดุคู่นั้นเป็นประกายวาว "เอ็งต้องไปหาตัว..คน ๆ นั้นมาให้ข้า" บอกย้ำกับเพื่อนอีกครั้ง อมรจึงเริ่มจริงจังขึ้นมา "ว่าแต่แน่ใจได้ยังไงว่าเป็นเด็กในร้าน ไม่ใช่ลูกค้าที่มาเที่ยว" อมรถามเพื่อนอย่างจริงจัง "แน่ใจสิวะ เป็นเด็กในร้านเอ็งนั่นแหละ ก็แม่สาวเอวเด้งคนนั้นนั่นไง" "ดะ..เดี๋ยว ใครแม่สาวเอวเด้ง ?" อมรมึนกับคำพูดของเพื่อน "ก็คนที่ตบข้าไง" แล้วเข้มก็เล่าให้เพื่อนฟังว่าคนที่เขาเรียกว่าแม่สาวเอวเด้งคนนั้นก็คือแดนเซอร์ที่ขึ้นเต้นโชว์เมื่อคืนนี้ คนที่ยืนอยู่แถวหลังสุดคนนั้น "อ๋อ,,ถ้างั้นต้องถามพี่นก เพราะว่าในเรื่องนักร้อง นักเต้น นักดนตรี พี่นกเป็นคนรับผิดชอบ แต่ว่าข้าก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับน้องเขาด้วยนะเว้ย เอ็งไม่ได้ลวนลามน้องเขาแน่นะ" เจ๊นกหรือพี่นกเป็นลูกพี่ลูกน้องกับอมร เป็นผู้จัดการร้าน รับผิดชอบทางด้านเอ็นเตอร์เทนทั้งหมด ทั้งนักร้อง แดนเซอร์ นักดนตรี หรือแม้กระทั่งเด็กนั่งดริ๊งค์ ต่างก็อยู่ในความดูแลของเจ๊แกทั้งหมด เข้มพยักหน้าเป็นการยืนยันว่าเขายังไม่ได้ลวนลามเธอแม้แต่น้อยได้แค่คิดเท่านั้นเอง อมรจึงโทรหาเจ๊นกเพื่อสอบถามว่าแม่สาวเอวเด้งของไอ้เข้มน่ะเป็นใคร เมื่อได้รู้คร่าว ๆ แล้วว่าเป็นเด็กในร้านจริง ๆ เขาจึงได้รายงานเพื่อนที่หน้ายังเป็นปื้นยาวจากฤทธิ์แม่สาวเอวเด้งคนนั้น "แล้วจะให้จัดการยังไง" อมรถามเพื่อน เข้มเมื่อได้รู้เรื่องของฝนจากเจ๊นกผ่านอมรอีกทีก็เกิดสนใจ เด็ก..บ้านนอกคนนี้ขึ้นมาทันที "ไม่เป็นไรข้าจัดการเอง ข้าจะไปหาเจ๊นกได้ที่ไหน" "บ้านพักพนักงาน" เมื่อได้คำตอบเข้มก็เดินดุ่ม ๆ ไปขับมอร์เตอร์ไซค์ ฮาร์เล่ย์คันใหญ่ที่จอดอยู่หน้าบ้านของอมรตรงไปยังผับ จุดประสงค์คือไปหาเจ๊นก อมรได้แต่เกาท้ายทอยตัวเองอย่างงง ๆ อะไรกันวะตอนแรกบอกว่าเขาจะต้องจัดการให้ พอตอนหลังบอกจะจัดการเอง เฮ้อ ! ช่างเถอะเรื่องของมัน ไปนอนกอดลูกกอดเมียต่อดีกว่า อมรบอกกับตัวเองแล้วจึงเดินขึ้นบ้านไปเพื่อนอนพักผ่อนเอาแรงต่อ เสียงเครื่องยนต์ 2 สูบวี-ทวิน คำรามอยู่หน้าหอพักพนักงานในผับของอมร เจ๊นกที่รออยู่แล้วเพราะอมรโทรบอกว่า เข้มเพื่อนของเขาจะมาหา เธอจึงนั่งรอเขาที่โต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นจามจุรี เมื่อเข้มเห็นเจ๊นกนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาก็ดับเครื่องยนต์และก้าวลงจากรถมอร์เตอร์ไซค์คันเท่ห์ที่ราคาแพงกว่ารถยนต์บางคันเสียอีก เดินตรงมาหาเจ๊นกและนั่งลงที่เก้าอี้ม้าหินอ่อนฝั่งตรงข้าม "เรียกเธอออกมาหาผม" ทันทีที่ตูดแตะเก้าอี้ม้าหินอ่อนเข้มก็บอกความต้องการของตัวเองกับเจ๊นกทันที เจ๊นกได้แต่เอามือทาบอกระงับความโมโหไว้ในใจ มิน่าล่ะเมื่อเช้ามันถึงได้ลุกลี้ลุกลนอยากจะกลับบ้านเร็ว ๆ จนเธอต้องแหกขี้ตาตื่นไปส่งมันตั้งแต่หกโมงเช้า ที่ใหนได้มันสร้างเรื่องไว้นี่เอง "ฝนกลับบ้านไปแล้วค่ะ พี่เพิ่งไปส่งมันตอนหกโมงเช้านี่เอง แต่ว่าเย็นนี้มันจะมาทำงานอยู่ เอาไว้เข้มรอเจอมันตอนเย็นนี้ได้ไหม ?" "บ้านฝนอยู่ไหน" เป็นอันว่าเจ๊นกรู้แล้วว่าเข้มไม่ต้องการรอ เธอจึงบอกรายละเอียดที่อยู่บ้านของฝนให้กับเข้มไป จากที่ฟังเรื่องราวจากอมรเจ๊นกรู้แค่ว่านังฝนไปตบหน้าผู้ชายคนนี้เข้าและเขาก็ไม่พอใจเป็นอย่างมากจนถึงกับต้องออกตามหาตัวกันเลยทีเดียว เข้มเมื่อออกมาจากหอพักแห่งนั้นแล้ว เขาก็ขับมอร์เตอร์ไซค์ฮาร์เล่ย์ เดวิดสัน มุ่งหน้าเข้าไปสู่อำเภอหนองวัวซอ ดินแดนที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา ตอนนี้น่าจะประมาณสิบโมงเช้า แสงแดดอันร้อนระอุนั้นไม่ระคายผิวเขาแม้แต่น้อย เพราะแจ๊กเก็ตหนังอย่างดีสีดำ หมวกกันน็อคครึ่งใบยี่ห้อเดียวกันกับรถมอร์เตอร์ไซค์ แว่นกันแดดยี่ห้อเรแบน อีกอย่างวิวทิวทัศน์สองข้างทางทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมาก ถ้าระยะทางตามที่เจ๊นกบอกน่าจะไม่เกินหนึ่งชั่วโมงเขาก็คงถึงบ้านของฝนอย่างแน่นอน เมื่อเข้าสู่ตัวอำเภอหนองวัวซอแล้วเขาก็แวะปั๊มเพื่อเติมน้ำมัน และหาอะไรรองท้องไปด้วย เขาเลือกกินข้าวผัดกระเพราที่ร้านในปั๊มนั่นแหละ อีกประมาณ 25 กม.ก็จะถึงหมู่บ้านของฝนแล้ว เข้มดูจากจีพีเอสในโทรศัพท์ กินข้าวกินกาแฟเรียบร้อยเขาก็พร้อมในการออกเดินทางเพื่อไปตามหาคนที่บังอาจ..กล้าตบหน้าเขา เข้มเป็นคนกรุงเทพ ฯ โดยกำเนิด เกิดมาบนกองเงินกองทองเลยก็ว่าได้ แต่ว่าชีวิตของเขาผ่านมาแล้วเกือบทุกรูปแบบ เพราะเกเรกว่าพี่น้องทุกคนในครอบครัว ทะเลาะกับพ่อและพี่ชายบ่อย เขาจึงออกมาใช้ชีวิตเองตอนเรียนปริญญาตรีที่อุเทนถวาย ล้มลุกคลุกคลานอยู่ห้าปีและได้รู้จักกับอมรตอนที่เรียนจบใหม่ ๆ เพราะอมรมาเป็นร้อยเวรพอดี โดนจับคดีชกต่อยบ่อยมากบางครั้งเป็นอมรเองนั่นแหละที่เป็นคนช่วยประกันตัวเขาออกมา เจอกันบ่อยจึงถูกชะตา อายุอานามก็ไล่เลี่ยกันจึงคบกันเป็นเพื่อน จนกระทั่งพ่อกับแม่มาตามตัวกลับบ้านเพราะพี่ชายของเขาสองคนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ไม่มีคนช่วยบริหารกิจการที่บ้าน เขาจึงยอมละทิ้งชีวิตที่โลดโผนและท้าทายแบบนั้นกลับไปช่วยพ่อกับแม่บริหารกิจการจนอยู่ตัวและขยายออกไปจนมั่นคง เริ่มคิดถึงชีวิตแบบที่เคยใช้ช่วงวัยรุ่นเขาจึงได้มาหาอมรที่นี่ 'จังหวัดอุดรธานี' บ้านเกิดของอมรเพื่อนรัก อมรลาออกจากข้าราชการตำรวจเพื่อมาเปิดผับเพราะเขารักในเสียงเพลงและการสังสรรค์ ออกจากตัวอำเภอหนองวัวซอมุ่งเข้าสู่ตำบลอูบมุงผ่านเข้าไปยังหมู่บ้านเล็ก ๆ ในตำบลแห่งนี้ จีพีเอสในโทรศัพท์ก็แจ้งว่าได้มาถึงจุดหมายแล้ว เข้มจึงได้สอบถามป้าคนหนึ่งที่ปั่นจักรยานผ่านมาพอดี "ป้าครับ รู้จักคนชื่อฝน ที่ทำงานร้านอาหารไหมครับ" ป้าคนนั้นทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฝนที่ทำงานร้านอาหารก็น่าจะมีคนเดียวนั่นแหละ "โน่นบ้านมัน" ชี้ไปที่บ้านไม้สองชั้นหลังเก่า ๆ ข้างบนเป็นไม้ที่สภาพน่าจะสร้างมาแล้วหลายสิบปี ข้างล่างเป็นปูนที่สภาพก็เก่าไม่ต่างกัน แต่ดูสะอาดสะอ้านเรียบร้อย มีกุหลาบและไม้ดอกหลายชนิดปลูกไว้ที่หน้าบ้านหลายกอ "แต่ตอนนี้มันไม่อยู่หรอก มันไปขายของที่ปั๊มน้ำมันที่ใหญ่ ๆ ที่พ่อหนุ่มผ่านมานั่นแหละ น่าจะสังเกตเห็นนะ หมู่บ้านที่ผ่านมานั่นน่ะ" เข้มคิดอยู่ครู่หนึ่ง ผ่านตาเขาแว้บ ๆ เหมือนกัน เขาก้มหัวลงเป็นเชิงขอบคุณป้าคนนั้น และขับรถมอร์เตอร์ไซค์กลับออกมายังหมู่บ้านแรกที่เขาผ่านมา "ชิ..ตามหาตัวยากจังนะแม่สาวเอวเด้ง"เมื่อเข้มขับรถมอร์เตอร์ไซค์วนกลับมาที่หมู่บ้านแรกที่เขาผ่านมา ไม่นานก็เจอปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่มากทางฝั่งขวามือ เขาต้องวนรถเพื่อขับเข้าไปในปั๊มแห่งนั้น ถ้ามาจากตัวอำเภอปั๊มแห่งนี้จะอยู่ทางฝั่งซ้าย เข้มวนรถเข้ามาและหาที่จอดได้ตรงหน้าร้านกาแฟพอดี เขาจึงเดินไปถามแม่ค้าที่ร้านกาแฟ "ขอโทษครับ ผมมาหาแม่ค้าขายน้ำแข็งใสที่ชื่อฝน ไม่ทราบว่าร้านเธออยู่ตรงใหน"ฟองจันทร์ละมือจากการชงกาแฟชั่วคราว เงยหน้าขึ้นก็เจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเพชรสามีของเธอ บวกลบก็ไม่น่าจะเกินหนึ่งปี ผู้ชายอายุ 35 ปีนี่หล่อกันทุกคนเลยหรือไงนะ ฟองจันทร์คิดในใจ (ติดตามเรื่องเพชรกับฟองจันทร์ได้ในเรื่อง 'กลับบ้านเรารักรออยู่' นะคะ เรื่องนี้จบแล้ว)"ทางโน้นค่ะ"เข้มมองตามมือแม่ค้ากาแฟที่ชี้ไปทางร้านค้าหลาย ๆ ร้านในเพิงสังกะสี เขาผงกหัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ และเดินไปทางนั้นทันทีเพชรที่เดินมาหาเมียพอดีทันเห็นหลังเข้มไว ๆ จึงถามขึ้น"ลูกค้าประจำเหรอ ?"เสียงไม่พอใจนิด ๆ ฟองจันทร์ยิ้มแล้วเดินมาหาสามีทันที ดึงแขนเขาเข้าไปในกระท่อมที่ตกแต่งให้เป็นร้านกาแฟ มองซ้ายมองขวา เมื่อไม่มีใคร เธอก็จุ๊บแก้มสากเขาไปทีหน
ณ..ผับที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุดรธานี คืนนี้นักท่องราตรีต่างก็ครึกครื้นและพลุกพล่านเพราะเป็นคืนวันศุกร์ ทุกคนต่างกินดื่มและสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ เสียงดนตรีแนวหมอลำลูกทุ่งกระหึ่มกึกก้องจนพูดกันแทบไม่ได้ยิน แต่นักท่องราตรีหาได้สนใจไม่ต่างโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามเสียงเพลง เด็กเสิร์ฟเดินกันขวักไขว่ไม่ได้หยุดพัก แต่เด็กเสิร์ฟทุกคนก็สู้ขาดใจลูกค้าเยอะขนาดนี้ทิปที่ได้ก็คงไม่น้อย ผับแห่งนี้มีนายตำรวจใหญ่ที่ลาออกจากราชการเป็นเจ้าของ เริ่มต้นจากเป็นร้านเหล้าเล็ก ๆ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและมีความอินดี้อยู่ในตัว เขาจึงพาผับแห่งนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผับที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดลูกค้าของเขามีทุกระดับ ตั้งแต่มหาเศรษฐี ข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้าและหรือแม้แต่ชาวนาก็มาเที่ยวผับของเขาได้ และเพลงที่เปิดในผับจะต้องเป็นแนวลูกทุ่งหมอลำเท่านั้น ในผับแห่งนี้ไม่มีโซน VIP ทุกคนต่างเข้ามาเที่ยวได้และจ่ายในราคาเท่ากัน นี่จึงอาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าทุกระดับต่างอยากมาสัมผัสบรรยากาศของผับแห่งนี้"เร็ว ๆ นังฝนรีบแต่งตัวเข้า ชักช้าอยู่นั่น เห็นไหมนักร้องเค้าแต่งตัวเสร็จแล้ว"เจ๊นกหญิงวัยสี่สิบปีแต่ยังสวย
หลังจากที่ลงจากเวทีแล้ว ฝนก็ไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวกลับห้องพักที่ทางเจ๊นกจัดไว้ให้ เนื่องจากหมู่บ้านของฝนไกลจากตัวจังหวัดถึง 45 กม. ดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่สะดวกเดินทางกลับเจ๊นกจึงจัดห้องพักให้เธอพักที่นี่ก่อนแล้วเดี๋ยวจะไปส่งเธอที่บ้านในตอนเช้าเพราะเธอต้องขายน้ำแข็งไสในตอนกลางวัน และหากมีงานอีกเจ๊ก็จะไปรับเธอในตอนเย็น ๆ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ๆ ที่เธอทำงานเป็นแดนเซอร์ให้เจ๊นก ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่ทำ ซึ่งช่วงหลัง ๆ เธอมาทำงานให้เจ๊นกเฉลี่ยอาทิตย์ละสี่คืน คือ คืนวันพฤหัสถึงคืนวันอาทิตย์"ทำไมเอ็งไม่มาทำประจำเลยวะฝน นี่ถ้าเอ็งเต้นไม่เก่งและหาคนแทนได้นะเจ๊จะไม่เรียกแกเด็ดขาดขี้เกียจไปรับไปส่ง พักที่นี่เลยสิเอ็งจะได้ไม่ต้องเทียวมาเทียวไปให้เหนื่อยด้วย ทำประจำไปเลยเงินดีจะตาย ดีกว่าขายน้ำแข็งใสเป็นไหน ๆ เผลอ ๆ อาจจะมีเสี่ยเลี้ยง รูปร่างหน้าตาอย่างเอ็งเนี่ยผู้ชายชอบจะตาย ถึงจะไม่สวยมาก แต่ก็สวยคมมีเสน่ห์ ถ้าแกยิ้มให้มันเก่ง ๆ พูดจาเอาอกเอาใจคนหน่อยนะ ขี้คร้านพวกเฒ่าหัวงูจะตามเอ็งต้อย ๆ ถ้าเอ็งมานะเจ๊จะจัดห้องพักให้เอ็งต่างหาก จะได้ไม่ต้องพักรวมกับคนอื่น ๆ"เจ๊นกเคยถามและเคยบอกกับเ
เมื่อเข้มขับรถมอร์เตอร์ไซค์วนกลับมาที่หมู่บ้านแรกที่เขาผ่านมา ไม่นานก็เจอปั๊มน้ำมันขนาดใหญ่มากทางฝั่งขวามือ เขาต้องวนรถเพื่อขับเข้าไปในปั๊มแห่งนั้น ถ้ามาจากตัวอำเภอปั๊มแห่งนี้จะอยู่ทางฝั่งซ้าย เข้มวนรถเข้ามาและหาที่จอดได้ตรงหน้าร้านกาแฟพอดี เขาจึงเดินไปถามแม่ค้าที่ร้านกาแฟ "ขอโทษครับ ผมมาหาแม่ค้าขายน้ำแข็งใสที่ชื่อฝน ไม่ทราบว่าร้านเธออยู่ตรงใหน"ฟองจันทร์ละมือจากการชงกาแฟชั่วคราว เงยหน้าขึ้นก็เจอกับชายหนุ่มคนหนึ่งอายุน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกันกับเพชรสามีของเธอ บวกลบก็ไม่น่าจะเกินหนึ่งปี ผู้ชายอายุ 35 ปีนี่หล่อกันทุกคนเลยหรือไงนะ ฟองจันทร์คิดในใจ (ติดตามเรื่องเพชรกับฟองจันทร์ได้ในเรื่อง 'กลับบ้านเรารักรออยู่' นะคะ เรื่องนี้จบแล้ว)"ทางโน้นค่ะ"เข้มมองตามมือแม่ค้ากาแฟที่ชี้ไปทางร้านค้าหลาย ๆ ร้านในเพิงสังกะสี เขาผงกหัวเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ และเดินไปทางนั้นทันทีเพชรที่เดินมาหาเมียพอดีทันเห็นหลังเข้มไว ๆ จึงถามขึ้น"ลูกค้าประจำเหรอ ?"เสียงไม่พอใจนิด ๆ ฟองจันทร์ยิ้มแล้วเดินมาหาสามีทันที ดึงแขนเขาเข้าไปในกระท่อมที่ตกแต่งให้เป็นร้านกาแฟ มองซ้ายมองขวา เมื่อไม่มีใคร เธอก็จุ๊บแก้มสากเขาไปทีหน
"ไอ้..อมร ตื่นเดี๋ยวนี้"เข้มไปโวยวายที่หน้าบ้านของอมรในตอนสายของวันต่อมา ส่งผลให้อมรที่กำลังนอนกอดลูกกอดเมียอยู่ถึงกับสะดุ้งตื่น เขาคว้ามือถือมาดูเวลา เพิ่งจะแปดโมงเช้า เมื่อคืนกว่าเขาจะได้นอนเพราะต้องเคลียส์บัญชี และดูแลความเรียบร้อยของผับก็ปาเข้าไปตีห้าแล้ว เมียของเขาก็เหมือนกัน "อะไรหรือคะพี่ ?"ดาราภรรยาสาวสวยของอมรงัวเงียกำลังจะลุกขึ้นมา "ไม่มีอะไรหรอกที่รัก เจ้าเข้มน่ะ เดี๋ยวพี่ไปดูมันซะหน่อย นอนต่อเถอะ"ดาราจึงหันไปคว้าตัวลูกชายวัยสามขวบเข้ามาไว้ในอ้อมกอดและนอนต่อ อมรก้มลงจูบหน้าผากเมียหอมแก้มลูกเสร็จก็เดินออกไปดูเจ้าเพื่อนตัวดีที่มาโวยวายที่หน้าบ้านของเขา บ้านพักของมันเขาก็จัดไว้ให้ต่างหากแล้ว บ้านหลังนั้นอมรซื้อไว้เพื่อเอาไว้สำหรับรับแขก และเอาไว้ให้ญาติพี่น้องรวมทั้งเพื่อนฝูงพักโดยเฉพาะ ห่างกันไม่กี่หลังคาเรือน อยู่ในหมู่บ้านจัดสรรโครงการหรูที่สุดในตัวจังหวัดอุดรธานี "อะไรวะ?"พูดพร้อมกับเปิดประตูรั้วเพื่อให้เจ้าเพื่อนตัวดีเข้ามาในบ้าน"ข้าโดนเด็กในร้านเอ็งตบ" เข้มเมื่อเข้ามาในบ้านได้แล้วก็ไม่รอช้าเปิดประเด็นทันที"อะไรนะ?"อมรได้แต่งงเขายังไม่ทันจับใจความได้ด้วยซ้ำ เข
หลังจากที่ลงจากเวทีแล้ว ฝนก็ไปล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า เตรียมตัวกลับห้องพักที่ทางเจ๊นกจัดไว้ให้ เนื่องจากหมู่บ้านของฝนไกลจากตัวจังหวัดถึง 45 กม. ดึก ๆ ดื่น ๆ ไม่สะดวกเดินทางกลับเจ๊นกจึงจัดห้องพักให้เธอพักที่นี่ก่อนแล้วเดี๋ยวจะไปส่งเธอที่บ้านในตอนเช้าเพราะเธอต้องขายน้ำแข็งไสในตอนกลางวัน และหากมีงานอีกเจ๊ก็จะไปรับเธอในตอนเย็น ๆ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก ๆ ที่เธอทำงานเป็นแดนเซอร์ให้เจ๊นก ไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่ทำ ซึ่งช่วงหลัง ๆ เธอมาทำงานให้เจ๊นกเฉลี่ยอาทิตย์ละสี่คืน คือ คืนวันพฤหัสถึงคืนวันอาทิตย์"ทำไมเอ็งไม่มาทำประจำเลยวะฝน นี่ถ้าเอ็งเต้นไม่เก่งและหาคนแทนได้นะเจ๊จะไม่เรียกแกเด็ดขาดขี้เกียจไปรับไปส่ง พักที่นี่เลยสิเอ็งจะได้ไม่ต้องเทียวมาเทียวไปให้เหนื่อยด้วย ทำประจำไปเลยเงินดีจะตาย ดีกว่าขายน้ำแข็งใสเป็นไหน ๆ เผลอ ๆ อาจจะมีเสี่ยเลี้ยง รูปร่างหน้าตาอย่างเอ็งเนี่ยผู้ชายชอบจะตาย ถึงจะไม่สวยมาก แต่ก็สวยคมมีเสน่ห์ ถ้าแกยิ้มให้มันเก่ง ๆ พูดจาเอาอกเอาใจคนหน่อยนะ ขี้คร้านพวกเฒ่าหัวงูจะตามเอ็งต้อย ๆ ถ้าเอ็งมานะเจ๊จะจัดห้องพักให้เอ็งต่างหาก จะได้ไม่ต้องพักรวมกับคนอื่น ๆ"เจ๊นกเคยถามและเคยบอกกับเ
ณ..ผับที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดอุดรธานี คืนนี้นักท่องราตรีต่างก็ครึกครื้นและพลุกพล่านเพราะเป็นคืนวันศุกร์ ทุกคนต่างกินดื่มและสนุกสนานกันอย่างเต็มที่ เสียงดนตรีแนวหมอลำลูกทุ่งกระหึ่มกึกก้องจนพูดกันแทบไม่ได้ยิน แต่นักท่องราตรีหาได้สนใจไม่ต่างโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามเสียงเพลง เด็กเสิร์ฟเดินกันขวักไขว่ไม่ได้หยุดพัก แต่เด็กเสิร์ฟทุกคนก็สู้ขาดใจลูกค้าเยอะขนาดนี้ทิปที่ได้ก็คงไม่น้อย ผับแห่งนี้มีนายตำรวจใหญ่ที่ลาออกจากราชการเป็นเจ้าของ เริ่มต้นจากเป็นร้านเหล้าเล็ก ๆ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลและมีความอินดี้อยู่ในตัว เขาจึงพาผับแห่งนี้ก้าวขึ้นมาเป็นผับที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดลูกค้าของเขามีทุกระดับ ตั้งแต่มหาเศรษฐี ข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้าและหรือแม้แต่ชาวนาก็มาเที่ยวผับของเขาได้ และเพลงที่เปิดในผับจะต้องเป็นแนวลูกทุ่งหมอลำเท่านั้น ในผับแห่งนี้ไม่มีโซน VIP ทุกคนต่างเข้ามาเที่ยวได้และจ่ายในราคาเท่ากัน นี่จึงอาจจะเป็นอีกจุดหนึ่งที่เป็นจุดดึงดูดให้ลูกค้าทุกระดับต่างอยากมาสัมผัสบรรยากาศของผับแห่งนี้"เร็ว ๆ นังฝนรีบแต่งตัวเข้า ชักช้าอยู่นั่น เห็นไหมนักร้องเค้าแต่งตัวเสร็จแล้ว"เจ๊นกหญิงวัยสี่สิบปีแต่ยังสวย