ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย เฉียวซือโหรวเดินกอดอกไปยังโต๊ะทำงานของเจียงชิงชิงเธอชี้นิ้วไปที่เอกสารกองสูงพลางมองด้วยสายตาเหยียดหยามและพูดจาเสียดสี “เลขาเจียง ต้องขอโทษจริง ๆ นะ วันนี้เป็นวันศุกร์แล้ว แต่เอกสารพวกนี้เป็นเอกสารเร่งด่วนทั้งหมดเลย จะให้เลื่อนไปเป็นวันอื่นก็ไม่ได้ด้วย…”“คืนนี้รบกวนคุณทำโอทีทีนะ ก่อนเที่ยงคืนฉันต้องได้รับไฟล์สรุปข้อมูลทั้งหมด โอเคไหม?”ปลายนิ้วของเจียงชิงชิงที่กำลังกดแป้นพิมพ์หยุดชะงักเหอหรงที่ทนดูไม่ได้อีกต่อไปพูดออกหน้าแทน “หัวหน้าเฉียวคะ เอกสารมีเยอะขนาดนี้ ลำพังแค่พวกเราสามคนยังไม่มีปัญญาทำเสร็จก่อนเที่ยงคืนเลยค่ะ แต่นี่แค่ชิงชิงคนเดียว…”เฉียวซือโหรวยิ้มเยาะ “ในเมื่อเป็นห่วงเธอมากขนาดนั้น คุณก็อยู่ช่วยเธอสิคะ”พูดจบเธอก็หันไปหาคนอื่น ๆ ที่อยู่ด้านหลังแล้วถามเชิงเตือนเป็นนัย ๆ ว่า “มีใครอยากอยู่ช่วยเจียงชิงชิงทำงานเหมือนกับเหอหรงไหมคะ?”แผนกเลขานุการเต็มไปด้วยคนฉลาด พวกเขารู้ดีว่าเฉียวซือโหรวจงใจหาเรื่องเจียงชิงชิงหากหนึ่งในพวกเขามีใครลุกขึ้นยืนตอนนี้ คน ๆ นั้นจะได้มีจุดจบเหมือนอย่างเหอหรงแน่นอน…ต้องตายแน่ ๆไม่มีใคร
บ้านของตระกูลฮั่วตั้งอยู่ชานเมือง มันถูกสร้างขึ้นบนภูเขาซึ่งได้ครอบคลุมพื้นที่ภูเขาทั้งลูกสถานที่แห่งนี้มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานและถูกทางเมืองหลวงทำการขึ้นทะเบียนเป็นอาคารอนุรักษ์หลังจากออกจากเขตเมืองมา ข้างนอกหน้าต่างก็แทบไม่เห็นคนเลยเมื่อเสียงฝนถูกปิดกั้น ทั้งรถก็เงียบมากจนทำให้เจียงชิงชิงรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาขณะที่เธอกำลังรวบรวมความกล้าที่จะพูดออกมาเพื่อทำลายความเงียบนั้น คนข้าง ๆ เธอก็ชิงพูดขึ้นก่อน “คุณรู้เรื่องราวของตระกูลผมไหม?"เจียงชิงชิงตกตะลึงไปชั่วขณะและหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็พยักหน้าอย่างจริงใจเนื่องจากฮั่นจื้อหยวนนอกใจเธอไปคบกับไป๋ซินหย่า เธอจึงได้รู้โครงสร้างของตระกูลฮั่วกรุ๊ปมาไม่น้อยอีกทั้งยังได้ยินบรรดาพนักงานในบริษัทซุบซิบกันด้วยหากบอกว่าไม่รู้เรื่องราวของตระกูลฮั่วก็คงจะดูเสแสร้งไปหน่อยดวงตาของฮั่วซื่อเยวียนขรึมลง ปลายนิ้วของเขาแตะเบา ๆ บนเข่าด้วยความคลุมเครือ “พูดมาซิ”เจียงชิงชิงรู้สึกเหมือนกับเธอกำลังถูกสัมภาษณ์อยู่เธอรีบยืดหลังนั่งตัวตรง และหลังจากนึกย้อนกลับไปอย่างละเอียดแล้ว เธอก็ตอบอย่างกล้าหาญว่า “คุณมีพี่สาวสองคน พี่ชายหนึ่
เสียงอันทรงพลังที่ดังขึ้น ทำให้เจียงชิงชิงตัวสั่นด้วยความกลัวฮั่วซื่อเยวียนแอบตบหลังมือของเธอโดยไม่ให้ใครเห็น เพื่อบอกให้เธอใจเย็นลงสุดท้ายเขาก็มองไปยังชายชราในห้องรับแขกที่แม้จะมีผมขาวเต็มศีรษะแต่ยังดูกระปรี้กระเปร่าแล้วพูดเนิบ ๆ ว่า “คุณพ่อเป็นคนจิตใจดีจะตายไป คงไม่โกรธเพราะเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้หรอกครับ”เจียงชิงชิงประหลาดใจที่ฮั่วซื่อหยวนพูดกับคุณท่านฮั่วแบบนี้แต่คุณท่านฮั่วกลับไม่ได้ไม่พอใจเหมือนที่เธอคิด แถมเขายังหัวเราะออกมาเสียงดังด้วย“เจ้าเด็กเหลือขอ มีแค่แกคนเดียวจริง ๆ ที่กล้าพูดกับฉันแบบนี้”“ในเมื่อแกพาลูกสะใภ้มาเจอฉันแล้ว ฉันก็จะไม่ไปจูจี้จุกจิกกับแกอีก”พูดจบเขาก็โบกมือให้เจียงชิงชิงพร้อมกับยิ้มให้ “เด็กน้อย มาให้ฉันเห็นหน้าหน่อย”เพียงแค่มองจากระยะไกลเมื่อครู่ คุณท่านฮั่วก็รู้สึกว่าเจียงชิงชิงเป็นคนที่น่ามองมากเรื่องการแต่งงานของฮั่วซื่อเยวียนเป็นเรื่องที่คุณท่านฮั่วกังวลมาโดยตลอดหลายปีมานี้เขาได้คิดหาวิธีมากมายแต่ฮั่วซื่อหยวนกลับดื้อด้านและไม่แม้แต่จะเหลียวแลผู้หญิงที่คุณท่านฮั่วหามาให้ด้วยซ้ำและเมื่อได้เห็นว่าหลานในตระกูลกำลังจะแต่งงาน แต่ฮั่วซ
ห้องทำงานคุณท่านฮั่วหยิบกล่องสีแดงใบหนึ่งออกมาจากตู้เซฟ“เสี่ยวเจียงเป็นคนดีใช้ได้ แม้ภูมิหลังครอบครัวของเธอจะดูธรรมดาไปหน่อย แต่เธอก็มีคุณธรรมและความสามารถ”“แล้วเธอก็เป็นเลขาของแกด้วย สามารถช่วยแกทั้งเรื่องงานและเรื่องการใช้ชีวิตได้ เธอเป็นภรรยาที่ดีได้แน่”“แกก็ทำดีกับเธอไว้ล่ะ”ฮั่วซื่อเยวียนทำสีหน้าเฉยเมย ใบหน้าหล่อเหลาของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ มากนัก “คุณพ่อพอใจก็ดีแล้วครับ”คุณท่านฮั่วจ้องมองเขาอย่างไม่พอใจ “ฉันพอใจก็ดีแล้วอะไรของแก นี่แกแต่งงานเพื่อฉันรึไง? ฉันบอกแกไว้เลยนะ ในเมื่อแต่งงานแล้วก็รีบมีลูกซะ”“อย่าปล่อยให้ฉันแก่ตายโดยที่ยังไม่ได้เจอหน้าหลาน ไม่อย่างนั้นฉันคงตายตาไม่หลับ!”ขณะที่พูด คุณท่านฮั่วก็ไอขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นดีใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา สุขภาพของคุณท่านฮั่วแย่ลงเรื่อย ๆ และยิ่งปีนี้เขาก็นอนโรงพยาบาลไปหลายเดือนแล้วส่งผลให้คนในตระกูลฮั่วว้าวุ่นใจมากยิ่งขึ้นฮั่วซื่อเยวียนรีบเรียกตัวหมอประจำตระกูลมาทันทีเมื่ออาการของคุณท่านฮั่วดีขึ้น เขาก็กลับไปที่ห้องของตัวเอง ซึ่งตอนนี้ก็ดึกมากแล้วในห้องมีเพียงโคมไฟบนโต๊ะทำงานเท่านั้นที่เปิดอยู่ พื้นที่ที่มืด
ใบหน้าของเจียงชิงชิงแดงจนเธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะลุกเป็นไฟดวงตาของเธอพร่ามัว ริมฝีปากบางนุ่มของเธอถูกกัดจนดูแดงมากเป็นพิเศษ ซึ่งเธอไม่รู้เลยว่าตัวเองดูไร้เดียงสาและมีเสน่ห์เย้ายวนแค่ไหน“ฉัน...ฉันจะนำเองค่ะ”เจียงชิงชิงรวบรวมความกล้าและเค้นคำตอบนี้ออกมาจากปากของตัวเอง เธอรู้สึกอายมากจนอยากจะใช้นิ้วเท้าขุดหลุมฝังตัวเองเสียตรงนั้นแต่ชายหนุ่มกลับบีบคางของเธอ ทำให้เธอหมดโอกาสหลบหนีเจียงชิงชิงไม่รู้ว่าจะ ‘ขอบคุณ’ ฮั่วซื่อเยวียนอย่างไร เธอเพียงแค่จ้องมองไปที่ดวงตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาของชายหนุ่มและพูดออกมาโดยไม่ทันคิดตอนนี้เป็นอันชัดเจนว่าเธอไม่มีทางอื่นแล้วถึงอย่างไรนอกจากวิธีนี้ก็เหมือนว่าเธอไม่มีวิธีแสดงความขอบคุณวิธีอื่นแล้วเพราะฮั่วซื่อเยวียนไม่ได้ขาดแคลนอะไรเลย“ได้”เสียงแหบและทุ้มลึกของชายหนุ่มดูวาบหวามเป็นพิเศษเมื่ออยู่ในห้องที่มืดสลัวเจียงชิงชิงยังไม่ทันจะได้ตอบโต้ ฮั่วซื่อเยวียนก็ปล่อยคางของเธอพลางถอยหลังหนึ่งก้าว จากนั้นก็มองเธอด้วยความสนใจ และรอการเคลื่อนไหวต่อไปของเธอเจียงชิงชิงเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร ทำให้หูของเธอแดงฉ่าราวกับว่ากำลังจะมีเลือดออกเธอ
เจียงชิงชิงรู้สึกอายมากจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเธอยิ้มแห้ง ๆ แต่จริง ๆ แล้วนิ้วเท้าของเธอกลับกำลังจิกพื้นอยู่ฮั่วซื่อเยวียนอาศัยจังหวะที่คุณท่านฮั่วไม่ได้สนใจเอ่ยเตือนว่า “คุณพ่อกลัวว่าผมจะหานักแสดงมาเล่นละครน่ะสิ เมื่อคืนเขาก็เลยส่องคนมาสอดส่อง”เจียงชิงชิงเอามือปิดหน้าอย่างเขินอาย อยากจะร้องไห้แต่ทำก็ไม่ได้ หากรู้ตั้งแต่แรกเมื่อคืนเธอคงไม่ส่งเสียงดังขนาดนั้นเธอคาดไม่ถึงเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้อีกอย่างบ้านเก่าก็ตกแต่งดีขนาดนี้ แต่ทำไมฉนวนกันเสียงถึงได้แย่นักล่ะ!“ไม่ต้องกังวลไป ฉนวนกันเสียงมันดีมาก ไม่ได้ยินอะไรหรอก”เมื่อรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ ฮั่วซื่อเยวียนก็พูดเสริมเจียงชิงชิงรู้สึกสับสน รู้สึกเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ถ้าอย่างนั้นคุณท่านฮั่วรู้ได้ยังไงกัน…“เมื่อคืนพวกเราปิดไฟในห้องตอนที่ทำเสร็จแล้วน่ะ” ริมฝีปากบางอันเซ็กซี่ของเขาแนบชิดกับหูของเธอ เสียงของเขาที่เปล่าออกมาทุ้มต่ำอยู่ในลำคอเจียงชิงชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอกหากแค่สังเกตเวลาเปิดปิดไฟ เธอก็คงไม่ต้องอายมากขนาดนี้ตอนนี้เธอรู้สึกผ่อนคลายลงไปมากแล้วหลังทานอาหารเช้าเสร็จ คุณท่านฮั่วก็ขอให้เจียงชิงชิงอยู่
เสียงเริงร่าของนายท่านฮั่วดังมาจากที่ที่อยู่ไม่ไกล ทำให้เจียงชิงชิงกลับมามีสติอีกครั้งเธอรีบยกกระโปรงเดินเข้าไปหา“คุณพ่อ นี่ใครคะ?”หญิงวัยกลางคนท่าทางสง่างามมองเจียงชิงชิงหัวจรดเท้าด้วยความระแวดระวัง ความไม่พอใจในดวงตาของเธอแทบจะล้นทะลักออกมาเจียงชิงชิงเคยเห็นเธอมาก่อนที่ห้องโถงของฮั่วกรุ๊ปตอนนั้นผู้หญิงคนนี้ได้พาคนหลายคนมาด้วยและตะโกนบอกว่าเธอต้องการพบกับฮั่วซื่อเยวียน แต่ก็ถูกบอดี้การ์ดห้ามเอาไว้ตอนนั้นเจียงชิงชิงบังเอิญผ่านไปและได้ยืนดูเหตุการณ์อยู่ครู่หนึ่ง“ทำไมฉันถึงคุ้นหน้าเธอจัง?” ฮั่วม่านลี่ขมวดคิ้ว“ม่านลี่ แกรู้จักชิงชิงเหรอ?” คุณท่านฮั่วกำลังจะพูดแต่ก็ถูกฮั่วม่านลี่ขัดจังหวะ “หนูไม่รู้จักค่ะ แต่ตงซวินคงรู้จักเธอแน่”“ตงซวิน นายมาดูหน่อยซิ ผู้หญิงคนนี้เป็นดาราหน้าใหม่ในวงการบันเทิงรึเปล่า? นายเคยเจอเธอไหม?”เจียงชิงชิงตกตะลึงนี่มันเรื่องอะไรกัน?ฮั่วตงซวินหรี่ตามองไปที่เจียงชิงชิงด้วยความดูถูก จากนั้นก็ยิ้มเยาะ “ไม่เคยเจอนะ คุณพ่อของพวกเรานี่ยังตาแหลมเหมือนเดิมเลยนะ! แต่สาวน้อยคนนี้ดูเด็กไปหน่อย เผลอ ๆ อาจจะอายุพอ ๆ กับซินหย่าเลยด้วยซ้ำ นี่คุณพ่อเป็นวัวแก
เจียงชิงชิงตกใจอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็สงบลงอย่างรวดเร็ว“พี่ก็ล้อเล่นไปได้นะคะ”เธอปฏิบัติตามคำสอนของฮั่วซื่อเยวียน ซึ่งก็คือต้องจริงจังกับการแสดง ตอนนี้เธอคือภรรยาตัวจริงของฮั่วซื่อเยวียนและห้ามคิดว่าตัวเองเป็นนักแสดงเด็ดขาดอย่าให้คนอื่นเห็นข้อบกพร่องฮั่วตงซวินเป็นลูกคนที่สามของตระกูลฮั่ว และเป็นพี่ชายคนเดียวของฮั่วซื่อเยวียน ดังนั้นเจียงชิงชิงจึงเรียกเขาอย่างเคารพว่า ‘พี่’แต่ในแง่ของอายุ ฮั่วตงซวินนั้นแก่กว่าฮั่วซื่อเยวียนมาก เจียงชิงชิงคิดเขาเป็นคนอายุรุ่นพ่อด้วยซ้ำเธอจึงรู้สึกว่าคำว่า ‘พี่’ มันดูกระดากปากไปหน่อยรอยยิ้มบนริมฝีปากของฮั่วตงซวินหยุดชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที จากนั้นเขาก็ยิ้มบาง ๆ ต่อไป“ผมเปิดบริษัทบันเทิงหลายแห่งและทำให้ใครหลายคนกลายเป็นดาราโด่งดังมาแล้ว ผมไม่เคยมองคนพลาดนะ”“น้องสะใภ้ ถ้ายังอยู่กับฮั่วซื่อหยวนต่อไป เธอไม่มีอนาคตหรอก”“มาอยู่กับฉันดีกว่า ฉันจะให้เธอเป็นเบอร์หนึ่งเลย...”เขาอมยิ้มและเดินเข้าไปหาเจียงชิงชิง เจียงชิงชิงที่ได้กลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์จากตัวเขาก็ก้าวถอยไปอย่างไม่สบายใจ แต่แล้วก็มีมือใหญ่อบอุ่นจับไหล่ของเธอไว้ความรู้สึกอันคุ้น
รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงเยวี่ยฝูแข็งค้างไปสองวินาที จากนั้นเธอก็ถามอย่างประจบประแจงต่อไปว่า “คืนนี้ประธานฮั่วต้องทำงานต่อเหรอคะ?”ดูเหมือนเธอจะไม่คิดว่าฮั่วซื่อเยวียนกำลังปฏิเสธเธอจริง ๆ และคิดว่าเขาแค่งานยุ่งเจียงชิงชิงที่อยู่ใต้โต๊ะใจเต้นระรัว หากเจียงเยวี่ยฝูรู้ว่าเธอซ่อนตัวอยู่ตรงนี้ คงจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อยเลย“ที่นี่ไม่ใช่ที่ ๆ คุณควรขึ้นมา”ฮั่วซื่อเยวียนไม่ตอบคำถามของเจียงเยวี่ยฝู แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาทำให้เจียงเยวี่ยฝูตกใจและตระหนักได้ว่าตัวเองอาจจะรุกหนักเกินไปจนทำให้ฮั่วซื่อเยวียนหมดความสนใจรึเปล่า?หรือบางทีเขาอาจจะยังไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้ ดังนั้นเธอไม่ควรเป็นฝ่ายมาหาเขาก่อนสินะ?เจียงเยวี่ยฝูรู้สึกสับสนขึ้นมา เธอควรจะรอฮั่วซื่อเยวียนเรียกมาอย่างเงียบ ๆ แทนที่จะมาทำตัวออดอ้อนแบบนี้ใช่ไหม?“ออกไป”เมื่อเห็นเจียงเยวี่ยฝูยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ฮั่วซื่อเยวียนก็ส่งเสียงคำรามอย่างเหลืออด“ขอโทษค่ะประธานฮั่ว ฉันแค่อยากขอบคุณและเลี้ยงข้าวคุณเท่านั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ ฉันจะไปแล้วค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้...”เจียงเยวี่ยฝูไม่กล้าทำ
หึง…หึงอย่างนั้นเหรอ?เจียงชิงชิงเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ มันจะเป็นไปได้อย่างไร!แน่นอนว่าเธอรู้ว่าตัวเองไม่ได้หึง แต่ฮั่วซื่อเยวียนกลับคิดว่าเธอหึงเนี่ยนะ!พระเจ้า ทำไมพวกผู้ชายถึงชอบหลงตัวเองกันจัง“ประธานฮั่วคะ ถ้าคุณชอบน้องสาวของฉันจริง ๆ ฉันก็จะจับคู่ให้ แล้วก็จะเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาให้ด้วย ขอแค่คุณให้คุณยายของฉันได้อยู่ที่...”ยังไม่ทันที่เจียงชิงชิงจะได้พูดคำขอร้องจนจบประโยค ฮั่วซื่อเยวียนก็ขัดจังหวะเธอ “ผมไม่ได้สนใจเจียงเยวี่ยฝู”เจียงชิงชิงตกตะลึงไปชั่วขณะ และเมื่อเธอเห็นสีหน้าจริงจังของชายหนุ่ม เธอก็สงสัยขึ้นมาทันทีว่าตัวเองเข้าใจผิดจริง ๆ เหรอ“ประวัติเธอแย่ถึงขนาดนั้น การที่เธอก็ถูกรับเข้ามาฝึกงานที่ฮั่วกรุ๊ปนี่ก็เพราะผมเห็นแก่คุณ” ฮั่วซื่อเยวียน อธิบายเขาได้อธิบายเรื่องนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง เขาจึงไม่รู้ว่าทำไมเจียงชิงชิงถึงได้เข้าใจผิดอีก“แต่ว่า…”เจียงชิงชิงเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “ประธานฮั่ว หลังจากวันรุ่งขึ้นที่พวกเราแต่งงานกันฉันก็เกือบถูกไล่ออกนะคะ คุณบอกว่าคุณเป็นคนที่มีความยุติธรรมและไม่ลำเอียง ทุกอย่างจะดูกันที่ความสามารถในการทำงาน แล้วคุณจะรับเจียงเยว
ลมหายใจร้อน ๆ ของเขารดตรงบริเวณคอของเธอเจียงชิงชิงที่รู้สึกร้อนเหมือนโดนลวกก็เอื้อมมือผลักชายที่อยู่ตรงหน้าออกไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็สบตากับเขาด้วยความไม่พอใจ“ทำไมครับ?”การต่อต้านที่อธิบายไม่ได้ของเจียงชิงชิงทำให้ฮั่วซื่อเยวียนไม่พอใจมากยิ่งขึ้นเจียงชิงชิงรู้สึกสับสนขึ้นมากับสถานการณ์ในตอนนี้ฮั่วซื่อเยวียนอยากจะยกเลิกสัญญากับเธอไม่ใช่เหรอ?เขาสนใจเจียงเยวี่ยฝูไม่ใช่รึไง?“ท่านประธานฮั่ว ฉัน...”เจียงชิงชิงอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดชะงัก คำพูดนั้นมันมาอยู่ที่ปากของเธอแล้ว แต่เธอก็ไม่รู้จะพูดออกไปอย่างไรแต่ฮั่วซื่อเยวียนกลับไม่ได้รู้สึกโกรธ ดวงตาสีดำสนิทของเขาจับจ้องไปที่เธอ เขาสังเกตเห็นแล้วว่าวันนี้จิตใจของเธอไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว“คุณอยากจะพูดอะไร” เขาถามเขาหวังว่าเจียงชิงชิงจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาบ้างแทนที่จะเอาแต่เก็บไว้ในใจเหตุผลที่เขาเลือกเธอยังมีอีกข้อหนึ่ง คือเธอดูเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ดูไม่เหมือนผู้หญิงเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นว่าเขากำลังให้ ‘ทางออก’ แก่เธอ เจียงชิงชิงก็คิดว่าบางทีฮั่วซื่อเยวียนอาจหวังให้เธอเป็นฝ่ายเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนเพื่อที่
หากเฉียวซือโหรวคิดจะมาหาเรื่องทีหลัง เธอก็ยังมีเหตุผลที่เพียงพอเพียงแต่เจียงชิงชิงรู้สึกสับสนขึ้นมา เธออยู่ที่นี่มาสองชั่วโมงแล้ว แต่ฮั่วซื่อเยวียนก็เอาแต่ทำงานโดยที่ยังไม่ได้พูดเรื่องยกเลิกสัญญากับเธอเลยหรือว่าเขาจะไม่คุยเรื่องส่วนตัวในเวลาทำงาน ไว้รอคุยตอนเลิกงานอย่างนั้นเหรอ?เจียงชิงชิงรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนพรมที่ทอด้วยเข็ม เธอใจลอยคิดนั่นนี่ตลอดเวลาที่นั่งจัดเรียงข้อมูล ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเธอลดลงกว่าปกติพระอาทิตย์ค่อย ๆ ตกดิน และออฟฟิศใหญ่ก็เริ่มมืดลงฮั่วซื่อเยวียนปิดโน๊ตบุ้คเสียงดังปึ๊ก ทำเอาเจียงชิงชิงถึงกับต้องหันมามองจากนั้นทั้งสองก็มองหน้ากันเจียงชิงชิงกังวลว่าฮั่วซื่อเยวียนจะคิดว่าเธอเอาแต่นั่งเหม่อ เธอจึงรีบหันไปดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทันใดนั้นก็ได้เขาพูดเสียงเนิบ ๆ ว่า“ทำเสร็จรึยัง?”เจียงชิงชิงตอบว่า “อีกประมาณสิบห้านาทีค่ะ ขอโทษนะคะท่านประธานฮั่ว พอดีว่าช่วงบ่ายนี้ฉันง่วงนิดหน่อยก็เลยทำงานช้า ขออภัยที่ทำให้คุณเสียเวลาค่ะ”เธอคิดว่าที่ฮั่วซื่อเยวียนปิดคอมพิวเตอร์เพราะความล่าช้าของเธอทำให้เขาไม่สามารถทำงานต่อได้ ดังนั้นตอนนี้เธอจึงเริ่มกัง
“นี่เขาไม่รุกอะไรเลยเหรอ?”เหอหรงมีท่าทีประหลาดใจและพูดว่า “แต่ก็จริงอยู่ ผู้ช่วยซูยุ่งขนาดนั้น แถมยังทำโอทีอยู่บ่อย ๆ คงไม่มีเวลาไปเดทกับเธอหรอก”เจียงชิงชิงรู้สึกขบขันคาดไม่ถึงว่าเหอหรงจะเข้าใจผิดว่าซูฝานชอบเธอและก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกันเพราะตอนที่ซูฝานกำลังทานอาหารเมื่อครู่ เขาถามไถ่สุขภาพของเธอด้วยความเป็นห่วง ต้องรู้ไว้ว่าซูฝานแทบจะเป็นเหมือนมนุษย์หุ่นยนต์ในบริษัทแล้ว เขาทั้งบ้างานและมักจะรักษาระยะห่างจากทุกคน เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะใส่ใจเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ มากขนาดนี้“เสี่ยวหรง เธออาจจะเข้าใจผิดก็ได้ ผู้ช่วยซูก็แค่ถามไปอย่างนั้นแหละ...”เจียงชิงชิงพยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แต่ก็ถูกเหอหรงขัดจังหวะ “จะเข้าใจผิดได้ยังไง! เขาคงสนใจเธอแน่ ๆ ผู้ช่วยซูเขาหัดใส่ใจคนอื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ?”“ชิงชิง ฉันคิดว่าเธอกับผู้ช่วยซูเป็นคู่ที่เหมาะสมกันนะ และผู้ช่วยซูก็เป็นคนสนิทของประธานฮั่วด้วย ถ้าได้คบกับผู้ช่วยพิเศษซู ต่อไปเธอก็จะมีที่มั่นคงในฮั่วกรุ๊ป และผู้อำนวยการเฉียวจะไม่สามารถรังแกเธอได้อีกต่อไป!”เจียงชิงชิงรู้สึกอึดอัดมากเธอรู้ว่าที่เหอหรงพูดแบบนี้ก็เพราะหวังดีกับ
ในหัวของเธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพต่าง ๆ เมื่อคืนนี้ ฮั่วซื่อเยวียนเริ่มเล่นท่ายาก ซึ่งนั่นทำให้เธอเหนื่อยมากและไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะรับมือกับเขาแล้วจริง ๆเจียงชิงชิงไม่พูดอะไรและทานอาหารอย่างเงียบ ๆเหอหรงเองก็ไม่กล้าพูดอะไรทันใดนั้นซูฝานก็พูดขึ้นว่า“เลขาเจียง ทำไมหน้าคุณแดงจัง ไม่สบายรึเปล่าครับ?”ซูฝานสังเกตเห็นการบอกใบ้เป็นนัย ๆ ของฮั่วซื่อเยวียน จึงถามเจียงชิงชิงด้วยความกังวลเป็นพิเศษเจียงชิงชิงที่กลับมาได้สติส่ายหัวอย่างรวดเร็ว สายตาของเธอมองไปที่ฮั่วซื่อเยวียนโดยไม่รู้ตัว จากนั้นใบหน้าของเธอก็แดงก่ำยิ่งขึ้นเมื่อครู่ตอนที่เธอกำลังคิดฟุ้งซ่าน เธอได้คิดถึงภาพต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก จึงทำให้หน้าของเธอแดงขึ้นอย่างผิดปกติยิ่งซูฝานถามแบบนี้ เธอก็ยิ่งอายมากกว่าเดิม“เปล่าค่ะเปล่า แค่โรงอาหาร...คนเยอะ แล้วก็ร้อนนิดหน่อยค่ะ” เจียงชิงชิงปฏิเสธอย่างรวดเร็ว“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วครับ” ซูฝานถอนหายใจด้วยความโล่งอกและมีท่าทีพอใจหากเกิดอะไรขึ้นกับเจียงชิงชิงที่เป็นคุณนายของท่านประธานคนนี้ เดี๋ยวเขาคงต้องได้วิ่งไปหาซื้อหยูกยามาให้แน่นอน เขายังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะเชียวนะฮั
ขณะที่เจียงชิงชิงกำลังสับสน จู่ ๆ เธอก็เห็นเงาร่างที่งดงามวิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้าฮั่วซื่อเยวียนและคน ๆ นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจียงเยวี่ยฝูที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอเมื่อครู่“ประธานฮั่วคะ!”เจียงเยวี่ยฝูเรียกด้วยความสนิทสนมแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณนะคะประธานฮั่ว ขอบคุณที่รับฉันเข้าทำงาน ฉันจะตั้งใจทำงานและจะไม่ทำให้ประธานฮั่วผิดหวังแน่นอนค่ะ!”เจียงเยวี่ยฝูโตมามีรูปร่างที่ดีมาก หน้าอกใหญ่ ๆ ที่ยื่นออกมาของเธอ ประกอบกับเสื้อไหมพรมรัดรูปที่เว้นกระดุมสองเม็ดแรกเอาไว้ ซึ่งทำให้ภาพทิวทัศน์ที่เห็นนั้นดูน่าตื่นตาตื่นใจมากแค่มองแบบนี้ก็อาจทำให้คนจินตนาการอะไรหลายอย่างได้ง่ายมากเจียงเยวี่ยฝูมีคนมาตามจีบไม่เคยขาดตั้งแต่มัธยมปลาย ดังนั้นเธอจึงมั่นใจในตัวเองมาก โดยเฉพาะในเรื่องรูปร่างของเธอเพราะเธอมีหุ่นที่ดีกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เธอรู้ว่าการที่ตัวเองได้เข้าทำงานที่ฮั่วกรุ๊ปทั้ง ๆ ที่มีวุฒิการศึกษาเท่านี้เป็นเพราะฮั่วซื่อเยวียนเป็นคนสั่งอย่างแน่นอนฮั่วซื่อเยวียนคงจะสะดุดตาเธอเข้าและสนใจเธอขึ้นมา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงรับเธอเข้าทำงานในฮั่วกรุ๊ปเมื่อครู่เธอก็รู้สึกขอบคุณเจียงชิงชิงมากที่มาได้
เธอกำลังเดิมพันเดิมพันว่าฮั่นจื้อหยวนจะไม่กล้าเสี่ยงเพราะงานแต่งงานที่ใกล้จะมาถึง“เธอ!”ฮั่นจื้อหยวนกัดฟันจนฟันแทบแตก เขาก็ไม่กล้าไปฟ้องจริง ๆ นั่นแหละเขาต้องพยายามไปตั้งเท่าไรกว่าจะจีบไป๋ซินหย่าติด อีกทั้งตระกูลไป๋ก็ไม่ชอบใจเขาสักเท่าไรด้วย ถ้าตระกูลฮั่วรู้ว่าเขาเคยคบกับเจียงชิงชิง มันอาจจะส่งผลกระทบกับการแต่งงานของเขากับไป๋ซินหย่าก็ได้ถ้าเป็นแบบนั้นเดี๋ยวมันจะได้ไม่คุ้มเสียเอา“เจียงชิงชิง เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้หรอกนะ!”ฮั่นจื้อหยวนพูดด้วยถ้อยคำรุนแรงและวางสายด้วยความโกรธเขาได้ยินเรื่องของฮั่วซื่อเยวียนจากไป๋ซินหย่ามาไม่น้อย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ฮั่วซื่อเยวียนไม่เคยสนใจผู้หญิงเลย และพยายามรักษาระยะห่างจากคนอื่นด้วยการที่เจียงชิงชิงแต่งงานกับอีกฝ่ายได้นั้น ต้องเป็นเพราะเธอมีความสัมพันธ์กับฮั่วซื่อเยวียนมานานแล้วแน่นอนไม่แน่ว่าอาจจะนานกว่าเวลาที่เขาคบกับไป๋ซินหย่าเสียอีก!เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองถูกเจียงชิงชิงหลอกมานาน อีกทั้งต่อมาตอนที่อยู่ตระกูลฮั่วเขาก็ต้องมาเรียกเธออย่างนอบน้อมว่า ‘อาสะใภ้เล็ก’ อีก เขาก็รู้สึกเหมือนมีก้อนความโกรธอัดแน่นอยู่ในอก ที่จะกลืนล
ก่อนที่เจียงชิงชิงจะหลับไป เธอก็นึกถึงปัญหาหนึ่งขึ้นมาตอนนี้ตัวเธอถูกเฉียวซือโหรวรังแกในตอนกลางวันที่ทำงาน ส่วนตอนกลางคืนก็ต้อง ‘ทำโอที’ และยังถูกฮั่วซื่อเยวียนเอาจับกดอีก ดูเหมือนว่าร่างกายเล็ก ๆ ของเธอจะเริ่มรับไม่ไหวแล้วนอกจากนี้ ประธานฮั่วก็มีเรี่ยวแรงเยอะผิดมนุษย์มนาด้วยถ้าเป็นอย่างนี้ไปนาน ๆ เข้าจะทำอย่างไรดีล่ะ?ตอนนี้เธอกำลังรอให้ประจำเดือนมาเร็ว ๆ เพื่อที่เธอจะได้พักผ่อนสักสองสามวันและผ่อนคลายลงไปได้บ้างส่วนเรื่องที่เธอถูกเฉียวซือโหรวเพ่งเล็งนั้น เธอไม่มีความคิดที่จะบอกฮั่วซื่อเยวียน หลังจากที่มีประสบการณ์ครั้งก่อนแล้ว เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้เฉียวซือโหรวเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแม้เธอจะเอาไปฟ้องฮั่วซื่อเยวียน เฉียวซือโหรวก็จะบอกฮั่วซื่อเยวียนถึงเหตุผลที่ตัวเองจัดการแบบนี้และเตรียมคำพูดไว้รอแล้วยิ่งไปกว่านั้นเจียงชิงชิงก็รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดเรื่องพวกนี้กับฮั่วซื่อเยวียนเพราะถึงอย่างไรทั้งสองคนก็มีความสัมพันธ์กันตามสัญญา ไม่ใช่สามีภรรยากันจริง ๆ สักหน่อยและเฉียวซือโหรวก็เป็นหัวหน้างานโดยตรงของเธอในบริษัท ดังนั้นตามหลักแล้วเธอควรตั้งใจปฏิบัติตามคำ