ในหัวของเธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพต่าง ๆ เมื่อคืนนี้ ฮั่วซื่อเยวียนเริ่มเล่นท่ายาก ซึ่งนั่นทำให้เธอเหนื่อยมากและไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะรับมือกับเขาแล้วจริง ๆเจียงชิงชิงไม่พูดอะไรและทานอาหารอย่างเงียบ ๆเหอหรงเองก็ไม่กล้าพูดอะไรทันใดนั้นซูฝานก็พูดขึ้นว่า“เลขาเจียง ทำไมหน้าคุณแดงจัง ไม่สบายรึเปล่าครับ?”ซูฝานสังเกตเห็นการบอกใบ้เป็นนัย ๆ ของฮั่วซื่อเยวียน จึงถามเจียงชิงชิงด้วยความกังวลเป็นพิเศษเจียงชิงชิงที่กลับมาได้สติส่ายหัวอย่างรวดเร็ว สายตาของเธอมองไปที่ฮั่วซื่อเยวียนโดยไม่รู้ตัว จากนั้นใบหน้าของเธอก็แดงก่ำยิ่งขึ้นเมื่อครู่ตอนที่เธอกำลังคิดฟุ้งซ่าน เธอได้คิดถึงภาพต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก จึงทำให้หน้าของเธอแดงขึ้นอย่างผิดปกติยิ่งซูฝานถามแบบนี้ เธอก็ยิ่งอายมากกว่าเดิม“เปล่าค่ะเปล่า แค่โรงอาหาร...คนเยอะ แล้วก็ร้อนนิดหน่อยค่ะ” เจียงชิงชิงปฏิเสธอย่างรวดเร็ว“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วครับ” ซูฝานถอนหายใจด้วยความโล่งอกและมีท่าทีพอใจหากเกิดอะไรขึ้นกับเจียงชิงชิงที่เป็นคุณนายของท่านประธานคนนี้ เดี๋ยวเขาคงต้องได้วิ่งไปหาซื้อหยูกยามาให้แน่นอน เขายังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะเชียวนะฮั
“นี่เขาไม่รุกอะไรเลยเหรอ?”เหอหรงมีท่าทีประหลาดใจและพูดว่า “แต่ก็จริงอยู่ ผู้ช่วยซูยุ่งขนาดนั้น แถมยังทำโอทีอยู่บ่อย ๆ คงไม่มีเวลาไปเดทกับเธอหรอก”เจียงชิงชิงรู้สึกขบขันคาดไม่ถึงว่าเหอหรงจะเข้าใจผิดว่าซูฝานชอบเธอและก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกันเพราะตอนที่ซูฝานกำลังทานอาหารเมื่อครู่ เขาถามไถ่สุขภาพของเธอด้วยความเป็นห่วง ต้องรู้ไว้ว่าซูฝานแทบจะเป็นเหมือนมนุษย์หุ่นยนต์ในบริษัทแล้ว เขาทั้งบ้างานและมักจะรักษาระยะห่างจากทุกคน เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะใส่ใจเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ มากขนาดนี้“เสี่ยวหรง เธออาจจะเข้าใจผิดก็ได้ ผู้ช่วยซูก็แค่ถามไปอย่างนั้นแหละ...”เจียงชิงชิงพยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แต่ก็ถูกเหอหรงขัดจังหวะ “จะเข้าใจผิดได้ยังไง! เขาคงสนใจเธอแน่ ๆ ผู้ช่วยซูเขาหัดใส่ใจคนอื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ?”“ชิงชิง ฉันคิดว่าเธอกับผู้ช่วยซูเป็นคู่ที่เหมาะสมกันนะ และผู้ช่วยซูก็เป็นคนสนิทของประธานฮั่วด้วย ถ้าได้คบกับผู้ช่วยพิเศษซู ต่อไปเธอก็จะมีที่มั่นคงในฮั่วกรุ๊ป และผู้อำนวยการเฉียวจะไม่สามารถรังแกเธอได้อีกต่อไป!”เจียงชิงชิงรู้สึกอึดอัดมากเธอรู้ว่าที่เหอหรงพูดแบบนี้ก็เพราะหวังดีกับ
หากเฉียวซือโหรวคิดจะมาหาเรื่องทีหลัง เธอก็ยังมีเหตุผลที่เพียงพอเพียงแต่เจียงชิงชิงรู้สึกสับสนขึ้นมา เธออยู่ที่นี่มาสองชั่วโมงแล้ว แต่ฮั่วซื่อเยวียนก็เอาแต่ทำงานโดยที่ยังไม่ได้พูดเรื่องยกเลิกสัญญากับเธอเลยหรือว่าเขาจะไม่คุยเรื่องส่วนตัวในเวลาทำงาน ไว้รอคุยตอนเลิกงานอย่างนั้นเหรอ?เจียงชิงชิงรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนพรมที่ทอด้วยเข็ม เธอใจลอยคิดนั่นนี่ตลอดเวลาที่นั่งจัดเรียงข้อมูล ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเธอลดลงกว่าปกติพระอาทิตย์ค่อย ๆ ตกดิน และออฟฟิศใหญ่ก็เริ่มมืดลงฮั่วซื่อเยวียนปิดโน๊ตบุ้คเสียงดังปึ๊ก ทำเอาเจียงชิงชิงถึงกับต้องหันมามองจากนั้นทั้งสองก็มองหน้ากันเจียงชิงชิงกังวลว่าฮั่วซื่อเยวียนจะคิดว่าเธอเอาแต่นั่งเหม่อ เธอจึงรีบหันไปดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทันใดนั้นก็ได้เขาพูดเสียงเนิบ ๆ ว่า“ทำเสร็จรึยัง?”เจียงชิงชิงตอบว่า “อีกประมาณสิบห้านาทีค่ะ ขอโทษนะคะท่านประธานฮั่ว พอดีว่าช่วงบ่ายนี้ฉันง่วงนิดหน่อยก็เลยทำงานช้า ขออภัยที่ทำให้คุณเสียเวลาค่ะ”เธอคิดว่าที่ฮั่วซื่อเยวียนปิดคอมพิวเตอร์เพราะความล่าช้าของเธอทำให้เขาไม่สามารถทำงานต่อได้ ดังนั้นตอนนี้เธอจึงเริ่มกัง
ลมหายใจร้อน ๆ ของเขารดตรงบริเวณคอของเธอเจียงชิงชิงที่รู้สึกร้อนเหมือนโดนลวกก็เอื้อมมือผลักชายที่อยู่ตรงหน้าออกไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็สบตากับเขาด้วยความไม่พอใจ“ทำไมครับ?”การต่อต้านที่อธิบายไม่ได้ของเจียงชิงชิงทำให้ฮั่วซื่อเยวียนไม่พอใจมากยิ่งขึ้นเจียงชิงชิงรู้สึกสับสนขึ้นมากับสถานการณ์ในตอนนี้ฮั่วซื่อเยวียนอยากจะยกเลิกสัญญากับเธอไม่ใช่เหรอ?เขาสนใจเจียงเยวี่ยฝูไม่ใช่รึไง?“ท่านประธานฮั่ว ฉัน...”เจียงชิงชิงอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดชะงัก คำพูดนั้นมันมาอยู่ที่ปากของเธอแล้ว แต่เธอก็ไม่รู้จะพูดออกไปอย่างไรแต่ฮั่วซื่อเยวียนกลับไม่ได้รู้สึกโกรธ ดวงตาสีดำสนิทของเขาจับจ้องไปที่เธอ เขาสังเกตเห็นแล้วว่าวันนี้จิตใจของเธอไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว“คุณอยากจะพูดอะไร” เขาถามเขาหวังว่าเจียงชิงชิงจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาบ้างแทนที่จะเอาแต่เก็บไว้ในใจเหตุผลที่เขาเลือกเธอยังมีอีกข้อหนึ่ง คือเธอดูเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ดูไม่เหมือนผู้หญิงเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นว่าเขากำลังให้ ‘ทางออก’ แก่เธอ เจียงชิงชิงก็คิดว่าบางทีฮั่วซื่อเยวียนอาจหวังให้เธอเป็นฝ่ายเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนเพื่อที่
หึง…หึงอย่างนั้นเหรอ?เจียงชิงชิงเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ มันจะเป็นไปได้อย่างไร!แน่นอนว่าเธอรู้ว่าตัวเองไม่ได้หึง แต่ฮั่วซื่อเยวียนกลับคิดว่าเธอหึงเนี่ยนะ!พระเจ้า ทำไมพวกผู้ชายถึงชอบหลงตัวเองกันจัง“ประธานฮั่วคะ ถ้าคุณชอบน้องสาวของฉันจริง ๆ ฉันก็จะจับคู่ให้ แล้วก็จะเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาให้ด้วย ขอแค่คุณให้คุณยายของฉันได้อยู่ที่...”ยังไม่ทันที่เจียงชิงชิงจะได้พูดคำขอร้องจนจบประโยค ฮั่วซื่อเยวียนก็ขัดจังหวะเธอ “ผมไม่ได้สนใจเจียงเยวี่ยฝู”เจียงชิงชิงตกตะลึงไปชั่วขณะ และเมื่อเธอเห็นสีหน้าจริงจังของชายหนุ่ม เธอก็สงสัยขึ้นมาทันทีว่าตัวเองเข้าใจผิดจริง ๆ เหรอ“ประวัติเธอแย่ถึงขนาดนั้น การที่เธอก็ถูกรับเข้ามาฝึกงานที่ฮั่วกรุ๊ปนี่ก็เพราะผมเห็นแก่คุณ” ฮั่วซื่อเยวียน อธิบายเขาได้อธิบายเรื่องนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง เขาจึงไม่รู้ว่าทำไมเจียงชิงชิงถึงได้เข้าใจผิดอีก“แต่ว่า…”เจียงชิงชิงเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “ประธานฮั่ว หลังจากวันรุ่งขึ้นที่พวกเราแต่งงานกันฉันก็เกือบถูกไล่ออกนะคะ คุณบอกว่าคุณเป็นคนที่มีความยุติธรรมและไม่ลำเอียง ทุกอย่างจะดูกันที่ความสามารถในการทำงาน แล้วคุณจะรับเจียงเยว
รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงเยวี่ยฝูแข็งค้างไปสองวินาที จากนั้นเธอก็ถามอย่างประจบประแจงต่อไปว่า “คืนนี้ประธานฮั่วต้องทำงานต่อเหรอคะ?”ดูเหมือนเธอจะไม่คิดว่าฮั่วซื่อเยวียนกำลังปฏิเสธเธอจริง ๆ และคิดว่าเขาแค่งานยุ่งเจียงชิงชิงที่อยู่ใต้โต๊ะใจเต้นระรัว หากเจียงเยวี่ยฝูรู้ว่าเธอซ่อนตัวอยู่ตรงนี้ คงจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อยเลย“ที่นี่ไม่ใช่ที่ ๆ คุณควรขึ้นมา”ฮั่วซื่อเยวียนไม่ตอบคำถามของเจียงเยวี่ยฝู แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาทำให้เจียงเยวี่ยฝูตกใจและตระหนักได้ว่าตัวเองอาจจะรุกหนักเกินไปจนทำให้ฮั่วซื่อเยวียนหมดความสนใจรึเปล่า?หรือบางทีเขาอาจจะยังไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้ ดังนั้นเธอไม่ควรเป็นฝ่ายมาหาเขาก่อนสินะ?เจียงเยวี่ยฝูรู้สึกสับสนขึ้นมา เธอควรจะรอฮั่วซื่อเยวียนเรียกมาอย่างเงียบ ๆ แทนที่จะมาทำตัวออดอ้อนแบบนี้ใช่ไหม?“ออกไป”เมื่อเห็นเจียงเยวี่ยฝูยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ฮั่วซื่อเยวียนก็ส่งเสียงคำรามอย่างเหลืออด“ขอโทษค่ะประธานฮั่ว ฉันแค่อยากขอบคุณและเลี้ยงข้าวคุณเท่านั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ ฉันจะไปแล้วค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้...”เจียงเยวี่ยฝูไม่กล้าทำ
ในฐานะเลขานุการ ฉันจะยั่วยวนเจ้านายที่เป็นถึงประธานบริษัทยังไง?…ก็นอนกับเขาไปเลยสิเจียงชิงชิงเพิ่งทำแบบนั้นไปตอนนี้หน้าผากเธอเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ผมดำยาวคลอเคลียไหล่ ฝ่ามือของเธอกดทาบกับผนัง ...เธอสั่นเทาไปทั้งร่าง ขาทั้งสองข้างก็อ่อนแรงจนยืนไม่อยู่ขณะที่กำลังจะล้มลง ฮั่วซื่อเยวียนก็อุ้มเธอขึ้นมาแล้วโยนลงบนเตียงขนาดใหญ่เจียงชิงชิงรู้สึกว่าที่นอนยุบลง จากนั้นก็เจอกับพายุฝนระลอกใหม่ไม่คิดว่าคืนนี้จะผ่านไปราบรื่นขนาดนี้ระหว่างการเดินทางมาทำธุรกิจ เธอพักอยู่ที่โรงแรมเดียวกันกับฮั่วซื่อเยวียน ในงานเลี้ยงเธอเมากรึ่มเล็กน้อย หลังจากจบงานเลี้ยงเธอจึงมาเคาะประตูห้องสวีทของประธานฮั่วกรุ๊ปพอฮั่วซื่อเยวียนเปิดประตูออกมาเห็นเธอ เธอยังไม่ทันได้เริ่มลีลาการยั่วยวนที่คิดเอาไว้ก็ถูกดึงเข้าไปในห้องแล้ว หลังจากนั้น...เจียงชิงชิงนึกอะไรไม่ออกอีก สติของเธอค่อย ๆ เลือนหายไป...เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อเจียงชิงชิงตื่นขึ้นมา เมื่อเห็นชายหนุ่มนอนเปลือยเปล่าอยู่ข้าง ๆ เธอก็ตกใจมากนี่ใจกล้าเกินไปแล้ว ไม่อยากทำงานนี้แล้วหรือไง?ไม่ เธออยากทำอยู่เงินเดือนของการเป็นเลขาฯ ให้ตระกูลฮั่วสูงมาก
เจียงชิงชิงที่ได้ยินคำพูดนี้ถึงกับมือสั่นโทรศัพท์ร่วงจากมือ กระแทกลงบนพื้นเธอเกือบจะคิดว่าตัวเองหูฝาดไป!เจียงชิงชิงยกมือทาบอกแล้วรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถามเสียงตะกุกตะกัก“ท่านประธานฮั่ว มี… มีเรื่องอะไรหรือเปล่าคะ?”“คุณรู้อยู่แก่ใจ”หลังจากพูดประโยคนี้จบ ฮั่วซื่อเยวียนก็วางสายไปสีหน้าของเจียงชิงชิงซีดเผือดแย่แล้ว!คราวนี้แย่แน่!ฮั่วซื่อเยวียนจะคิดบัญชีกับเธอย้อนหลัง!หลังจากที่เจียงชิงชิงนำกระเป๋าเดินทางเข้าไปข้างใน เธอก็รีบกลับบ้านไปหว่านใบสมัครงานเพราะว่าเธอเหนื่อยมาก หลังจากสมัครงานไปชุดหนึ่ง เธอก็ฟุบลงบนโต๊ะแล้วหลับไป จนกระทั่งเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือปลุกเธอเมื่อเห็นว่าเป็นหมายเลขของฮั่วซื่อเยวียน เธอรู้สึกประหลาดใจทันที ความง่วงงุนหายเป็นปลิดทิ้ง เจียงชิงชิงรีบรับสาย “ท่านประธานฮั่ว”“คุณอยู่ไหน?”สองคำง่าย ๆ แต่เย็นชาอย่างที่สุด ทำให้คนฟังรู้สึกเย็นยะเยือกถึงขั้วหัวใจเจียงชิงชิงเหลือบมองเวลา ตอนนี้เป็นเวลาหกโมงครึ่งแล้ว“ขอโทษค่ะท่านประธานฮั่ว ฉันเผลอหลับเพลินไปหน่อย เลยยังไม่ได้ไป” เจียงชิงชิงเอามือกุมหัว รีบขอโทษเขา“มาภายในครึ่งชั่วโมง”หลังจากท
รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงเยวี่ยฝูแข็งค้างไปสองวินาที จากนั้นเธอก็ถามอย่างประจบประแจงต่อไปว่า “คืนนี้ประธานฮั่วต้องทำงานต่อเหรอคะ?”ดูเหมือนเธอจะไม่คิดว่าฮั่วซื่อเยวียนกำลังปฏิเสธเธอจริง ๆ และคิดว่าเขาแค่งานยุ่งเจียงชิงชิงที่อยู่ใต้โต๊ะใจเต้นระรัว หากเจียงเยวี่ยฝูรู้ว่าเธอซ่อนตัวอยู่ตรงนี้ คงจะกลายเป็นเรื่องที่ยุ่งยากไม่น้อยเลย“ที่นี่ไม่ใช่ที่ ๆ คุณควรขึ้นมา”ฮั่วซื่อเยวียนไม่ตอบคำถามของเจียงเยวี่ยฝู แต่กลับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาทำให้เจียงเยวี่ยฝูตกใจและตระหนักได้ว่าตัวเองอาจจะรุกหนักเกินไปจนทำให้ฮั่วซื่อเยวียนหมดความสนใจรึเปล่า?หรือบางทีเขาอาจจะยังไม่อยากให้คนอื่นรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาในตอนนี้ ดังนั้นเธอไม่ควรเป็นฝ่ายมาหาเขาก่อนสินะ?เจียงเยวี่ยฝูรู้สึกสับสนขึ้นมา เธอควรจะรอฮั่วซื่อเยวียนเรียกมาอย่างเงียบ ๆ แทนที่จะมาทำตัวออดอ้อนแบบนี้ใช่ไหม?“ออกไป”เมื่อเห็นเจียงเยวี่ยฝูยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ฮั่วซื่อเยวียนก็ส่งเสียงคำรามอย่างเหลืออด“ขอโทษค่ะประธานฮั่ว ฉันแค่อยากขอบคุณและเลี้ยงข้าวคุณเท่านั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจนะคะ ฉันจะไปแล้วค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้...”เจียงเยวี่ยฝูไม่กล้าทำ
หึง…หึงอย่างนั้นเหรอ?เจียงชิงชิงเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ มันจะเป็นไปได้อย่างไร!แน่นอนว่าเธอรู้ว่าตัวเองไม่ได้หึง แต่ฮั่วซื่อเยวียนกลับคิดว่าเธอหึงเนี่ยนะ!พระเจ้า ทำไมพวกผู้ชายถึงชอบหลงตัวเองกันจัง“ประธานฮั่วคะ ถ้าคุณชอบน้องสาวของฉันจริง ๆ ฉันก็จะจับคู่ให้ แล้วก็จะเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาให้ด้วย ขอแค่คุณให้คุณยายของฉันได้อยู่ที่...”ยังไม่ทันที่เจียงชิงชิงจะได้พูดคำขอร้องจนจบประโยค ฮั่วซื่อเยวียนก็ขัดจังหวะเธอ “ผมไม่ได้สนใจเจียงเยวี่ยฝู”เจียงชิงชิงตกตะลึงไปชั่วขณะ และเมื่อเธอเห็นสีหน้าจริงจังของชายหนุ่ม เธอก็สงสัยขึ้นมาทันทีว่าตัวเองเข้าใจผิดจริง ๆ เหรอ“ประวัติเธอแย่ถึงขนาดนั้น การที่เธอก็ถูกรับเข้ามาฝึกงานที่ฮั่วกรุ๊ปนี่ก็เพราะผมเห็นแก่คุณ” ฮั่วซื่อเยวียน อธิบายเขาได้อธิบายเรื่องนี้ไปแล้วครั้งหนึ่ง เขาจึงไม่รู้ว่าทำไมเจียงชิงชิงถึงได้เข้าใจผิดอีก“แต่ว่า…”เจียงชิงชิงเม้มริมฝีปากแล้วพูดว่า “ประธานฮั่ว หลังจากวันรุ่งขึ้นที่พวกเราแต่งงานกันฉันก็เกือบถูกไล่ออกนะคะ คุณบอกว่าคุณเป็นคนที่มีความยุติธรรมและไม่ลำเอียง ทุกอย่างจะดูกันที่ความสามารถในการทำงาน แล้วคุณจะรับเจียงเยว
ลมหายใจร้อน ๆ ของเขารดตรงบริเวณคอของเธอเจียงชิงชิงที่รู้สึกร้อนเหมือนโดนลวกก็เอื้อมมือผลักชายที่อยู่ตรงหน้าออกไปโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็สบตากับเขาด้วยความไม่พอใจ“ทำไมครับ?”การต่อต้านที่อธิบายไม่ได้ของเจียงชิงชิงทำให้ฮั่วซื่อเยวียนไม่พอใจมากยิ่งขึ้นเจียงชิงชิงรู้สึกสับสนขึ้นมากับสถานการณ์ในตอนนี้ฮั่วซื่อเยวียนอยากจะยกเลิกสัญญากับเธอไม่ใช่เหรอ?เขาสนใจเจียงเยวี่ยฝูไม่ใช่รึไง?“ท่านประธานฮั่ว ฉัน...”เจียงชิงชิงอยากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดชะงัก คำพูดนั้นมันมาอยู่ที่ปากของเธอแล้ว แต่เธอก็ไม่รู้จะพูดออกไปอย่างไรแต่ฮั่วซื่อเยวียนกลับไม่ได้รู้สึกโกรธ ดวงตาสีดำสนิทของเขาจับจ้องไปที่เธอ เขาสังเกตเห็นแล้วว่าวันนี้จิตใจของเธอไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัว“คุณอยากจะพูดอะไร” เขาถามเขาหวังว่าเจียงชิงชิงจะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดออกมาบ้างแทนที่จะเอาแต่เก็บไว้ในใจเหตุผลที่เขาเลือกเธอยังมีอีกข้อหนึ่ง คือเธอดูเป็นคนที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ดูไม่เหมือนผู้หญิงเจ้าเล่ห์เมื่อเห็นว่าเขากำลังให้ ‘ทางออก’ แก่เธอ เจียงชิงชิงก็คิดว่าบางทีฮั่วซื่อเยวียนอาจหวังให้เธอเป็นฝ่ายเอ่ยเรื่องนี้ขึ้นมาก่อนเพื่อที่
หากเฉียวซือโหรวคิดจะมาหาเรื่องทีหลัง เธอก็ยังมีเหตุผลที่เพียงพอเพียงแต่เจียงชิงชิงรู้สึกสับสนขึ้นมา เธออยู่ที่นี่มาสองชั่วโมงแล้ว แต่ฮั่วซื่อเยวียนก็เอาแต่ทำงานโดยที่ยังไม่ได้พูดเรื่องยกเลิกสัญญากับเธอเลยหรือว่าเขาจะไม่คุยเรื่องส่วนตัวในเวลาทำงาน ไว้รอคุยตอนเลิกงานอย่างนั้นเหรอ?เจียงชิงชิงรู้สึกเหมือนกำลังนั่งอยู่บนพรมที่ทอด้วยเข็ม เธอใจลอยคิดนั่นนี่ตลอดเวลาที่นั่งจัดเรียงข้อมูล ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานของเธอลดลงกว่าปกติพระอาทิตย์ค่อย ๆ ตกดิน และออฟฟิศใหญ่ก็เริ่มมืดลงฮั่วซื่อเยวียนปิดโน๊ตบุ้คเสียงดังปึ๊ก ทำเอาเจียงชิงชิงถึงกับต้องหันมามองจากนั้นทั้งสองก็มองหน้ากันเจียงชิงชิงกังวลว่าฮั่วซื่อเยวียนจะคิดว่าเธอเอาแต่นั่งเหม่อ เธอจึงรีบหันไปดูหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทันใดนั้นก็ได้เขาพูดเสียงเนิบ ๆ ว่า“ทำเสร็จรึยัง?”เจียงชิงชิงตอบว่า “อีกประมาณสิบห้านาทีค่ะ ขอโทษนะคะท่านประธานฮั่ว พอดีว่าช่วงบ่ายนี้ฉันง่วงนิดหน่อยก็เลยทำงานช้า ขออภัยที่ทำให้คุณเสียเวลาค่ะ”เธอคิดว่าที่ฮั่วซื่อเยวียนปิดคอมพิวเตอร์เพราะความล่าช้าของเธอทำให้เขาไม่สามารถทำงานต่อได้ ดังนั้นตอนนี้เธอจึงเริ่มกัง
“นี่เขาไม่รุกอะไรเลยเหรอ?”เหอหรงมีท่าทีประหลาดใจและพูดว่า “แต่ก็จริงอยู่ ผู้ช่วยซูยุ่งขนาดนั้น แถมยังทำโอทีอยู่บ่อย ๆ คงไม่มีเวลาไปเดทกับเธอหรอก”เจียงชิงชิงรู้สึกขบขันคาดไม่ถึงว่าเหอหรงจะเข้าใจผิดว่าซูฝานชอบเธอและก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกันเพราะตอนที่ซูฝานกำลังทานอาหารเมื่อครู่ เขาถามไถ่สุขภาพของเธอด้วยความเป็นห่วง ต้องรู้ไว้ว่าซูฝานแทบจะเป็นเหมือนมนุษย์หุ่นยนต์ในบริษัทแล้ว เขาทั้งบ้างานและมักจะรักษาระยะห่างจากทุกคน เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะใส่ใจเพื่อนร่วมงานคนอื่น ๆ มากขนาดนี้“เสี่ยวหรง เธออาจจะเข้าใจผิดก็ได้ ผู้ช่วยซูก็แค่ถามไปอย่างนั้นแหละ...”เจียงชิงชิงพยายามเปลี่ยนหัวข้อสนทนา แต่ก็ถูกเหอหรงขัดจังหวะ “จะเข้าใจผิดได้ยังไง! เขาคงสนใจเธอแน่ ๆ ผู้ช่วยซูเขาหัดใส่ใจคนอื่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันล่ะ?”“ชิงชิง ฉันคิดว่าเธอกับผู้ช่วยซูเป็นคู่ที่เหมาะสมกันนะ และผู้ช่วยซูก็เป็นคนสนิทของประธานฮั่วด้วย ถ้าได้คบกับผู้ช่วยพิเศษซู ต่อไปเธอก็จะมีที่มั่นคงในฮั่วกรุ๊ป และผู้อำนวยการเฉียวจะไม่สามารถรังแกเธอได้อีกต่อไป!”เจียงชิงชิงรู้สึกอึดอัดมากเธอรู้ว่าที่เหอหรงพูดแบบนี้ก็เพราะหวังดีกับ
ในหัวของเธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงภาพต่าง ๆ เมื่อคืนนี้ ฮั่วซื่อเยวียนเริ่มเล่นท่ายาก ซึ่งนั่นทำให้เธอเหนื่อยมากและไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะรับมือกับเขาแล้วจริง ๆเจียงชิงชิงไม่พูดอะไรและทานอาหารอย่างเงียบ ๆเหอหรงเองก็ไม่กล้าพูดอะไรทันใดนั้นซูฝานก็พูดขึ้นว่า“เลขาเจียง ทำไมหน้าคุณแดงจัง ไม่สบายรึเปล่าครับ?”ซูฝานสังเกตเห็นการบอกใบ้เป็นนัย ๆ ของฮั่วซื่อเยวียน จึงถามเจียงชิงชิงด้วยความกังวลเป็นพิเศษเจียงชิงชิงที่กลับมาได้สติส่ายหัวอย่างรวดเร็ว สายตาของเธอมองไปที่ฮั่วซื่อเยวียนโดยไม่รู้ตัว จากนั้นใบหน้าของเธอก็แดงก่ำยิ่งขึ้นเมื่อครู่ตอนที่เธอกำลังคิดฟุ้งซ่าน เธอได้คิดถึงภาพต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก จึงทำให้หน้าของเธอแดงขึ้นอย่างผิดปกติยิ่งซูฝานถามแบบนี้ เธอก็ยิ่งอายมากกว่าเดิม“เปล่าค่ะเปล่า แค่โรงอาหาร...คนเยอะ แล้วก็ร้อนนิดหน่อยค่ะ” เจียงชิงชิงปฏิเสธอย่างรวดเร็ว“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้วครับ” ซูฝานถอนหายใจด้วยความโล่งอกและมีท่าทีพอใจหากเกิดอะไรขึ้นกับเจียงชิงชิงที่เป็นคุณนายของท่านประธานคนนี้ เดี๋ยวเขาคงต้องได้วิ่งไปหาซื้อหยูกยามาให้แน่นอน เขายังมีงานที่ต้องทำอีกเยอะเชียวนะฮั
ขณะที่เจียงชิงชิงกำลังสับสน จู่ ๆ เธอก็เห็นเงาร่างที่งดงามวิ่งไปหยุดอยู่ตรงหน้าฮั่วซื่อเยวียนและคน ๆ นั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจียงเยวี่ยฝูที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เธอเมื่อครู่“ประธานฮั่วคะ!”เจียงเยวี่ยฝูเรียกด้วยความสนิทสนมแล้วกล่าวว่า “ขอบคุณนะคะประธานฮั่ว ขอบคุณที่รับฉันเข้าทำงาน ฉันจะตั้งใจทำงานและจะไม่ทำให้ประธานฮั่วผิดหวังแน่นอนค่ะ!”เจียงเยวี่ยฝูโตมามีรูปร่างที่ดีมาก หน้าอกใหญ่ ๆ ที่ยื่นออกมาของเธอ ประกอบกับเสื้อไหมพรมรัดรูปที่เว้นกระดุมสองเม็ดแรกเอาไว้ ซึ่งทำให้ภาพทิวทัศน์ที่เห็นนั้นดูน่าตื่นตาตื่นใจมากแค่มองแบบนี้ก็อาจทำให้คนจินตนาการอะไรหลายอย่างได้ง่ายมากเจียงเยวี่ยฝูมีคนมาตามจีบไม่เคยขาดตั้งแต่มัธยมปลาย ดังนั้นเธอจึงมั่นใจในตัวเองมาก โดยเฉพาะในเรื่องรูปร่างของเธอเพราะเธอมีหุ่นที่ดีกว่าผู้หญิงส่วนใหญ่เธอรู้ว่าการที่ตัวเองได้เข้าทำงานที่ฮั่วกรุ๊ปทั้ง ๆ ที่มีวุฒิการศึกษาเท่านี้เป็นเพราะฮั่วซื่อเยวียนเป็นคนสั่งอย่างแน่นอนฮั่วซื่อเยวียนคงจะสะดุดตาเธอเข้าและสนใจเธอขึ้นมา นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงรับเธอเข้าทำงานในฮั่วกรุ๊ปเมื่อครู่เธอก็รู้สึกขอบคุณเจียงชิงชิงมากที่มาได้
เธอกำลังเดิมพันเดิมพันว่าฮั่นจื้อหยวนจะไม่กล้าเสี่ยงเพราะงานแต่งงานที่ใกล้จะมาถึง“เธอ!”ฮั่นจื้อหยวนกัดฟันจนฟันแทบแตก เขาก็ไม่กล้าไปฟ้องจริง ๆ นั่นแหละเขาต้องพยายามไปตั้งเท่าไรกว่าจะจีบไป๋ซินหย่าติด อีกทั้งตระกูลไป๋ก็ไม่ชอบใจเขาสักเท่าไรด้วย ถ้าตระกูลฮั่วรู้ว่าเขาเคยคบกับเจียงชิงชิง มันอาจจะส่งผลกระทบกับการแต่งงานของเขากับไป๋ซินหย่าก็ได้ถ้าเป็นแบบนั้นเดี๋ยวมันจะได้ไม่คุ้มเสียเอา“เจียงชิงชิง เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้หรอกนะ!”ฮั่นจื้อหยวนพูดด้วยถ้อยคำรุนแรงและวางสายด้วยความโกรธเขาได้ยินเรื่องของฮั่วซื่อเยวียนจากไป๋ซินหย่ามาไม่น้อย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเรื่องที่ฮั่วซื่อเยวียนไม่เคยสนใจผู้หญิงเลย และพยายามรักษาระยะห่างจากคนอื่นด้วยการที่เจียงชิงชิงแต่งงานกับอีกฝ่ายได้นั้น ต้องเป็นเพราะเธอมีความสัมพันธ์กับฮั่วซื่อเยวียนมานานแล้วแน่นอนไม่แน่ว่าอาจจะนานกว่าเวลาที่เขาคบกับไป๋ซินหย่าเสียอีก!เมื่อคิดขึ้นมาได้ว่าตัวเองถูกเจียงชิงชิงหลอกมานาน อีกทั้งต่อมาตอนที่อยู่ตระกูลฮั่วเขาก็ต้องมาเรียกเธออย่างนอบน้อมว่า ‘อาสะใภ้เล็ก’ อีก เขาก็รู้สึกเหมือนมีก้อนความโกรธอัดแน่นอยู่ในอก ที่จะกลืนล
ก่อนที่เจียงชิงชิงจะหลับไป เธอก็นึกถึงปัญหาหนึ่งขึ้นมาตอนนี้ตัวเธอถูกเฉียวซือโหรวรังแกในตอนกลางวันที่ทำงาน ส่วนตอนกลางคืนก็ต้อง ‘ทำโอที’ และยังถูกฮั่วซื่อเยวียนเอาจับกดอีก ดูเหมือนว่าร่างกายเล็ก ๆ ของเธอจะเริ่มรับไม่ไหวแล้วนอกจากนี้ ประธานฮั่วก็มีเรี่ยวแรงเยอะผิดมนุษย์มนาด้วยถ้าเป็นอย่างนี้ไปนาน ๆ เข้าจะทำอย่างไรดีล่ะ?ตอนนี้เธอกำลังรอให้ประจำเดือนมาเร็ว ๆ เพื่อที่เธอจะได้พักผ่อนสักสองสามวันและผ่อนคลายลงไปได้บ้างส่วนเรื่องที่เธอถูกเฉียวซือโหรวเพ่งเล็งนั้น เธอไม่มีความคิดที่จะบอกฮั่วซื่อเยวียน หลังจากที่มีประสบการณ์ครั้งก่อนแล้ว เห็นได้ชัดว่าครั้งนี้เฉียวซือโหรวเตรียมตัวมาเป็นอย่างดีแม้เธอจะเอาไปฟ้องฮั่วซื่อเยวียน เฉียวซือโหรวก็จะบอกฮั่วซื่อเยวียนถึงเหตุผลที่ตัวเองจัดการแบบนี้และเตรียมคำพูดไว้รอแล้วยิ่งไปกว่านั้นเจียงชิงชิงก็รู้ดีว่าตอนนี้ตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะพูดเรื่องพวกนี้กับฮั่วซื่อเยวียนเพราะถึงอย่างไรทั้งสองคนก็มีความสัมพันธ์กันตามสัญญา ไม่ใช่สามีภรรยากันจริง ๆ สักหน่อยและเฉียวซือโหรวก็เป็นหัวหน้างานโดยตรงของเธอในบริษัท ดังนั้นตามหลักแล้วเธอควรตั้งใจปฏิบัติตามคำ