สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่ทางเดินด้านซ้ายของเวทีอีกครั้ง ต่างก็อยากเห็นว่าคุณหลินที่โด่งดังในชั่วข้ามคืนในเมืองลั่วคนนี้หน้าตาเป็นอย่างไรประเด็นคือเฉาเค่อหมิงพูดชัดเจนแล้ว คุณหลินเป็นคนเมืองลั่ว อีกทั้งยังอายุน้อยมาก ไม่ใช่ตาแก่อย่างที่ทุกคนจินตนาการสิ่งนี้ยิ่งทำให้ทุกคนอยากรู้อยากเห็นแล้วทว่าหลินหยางไม่ปรากฏตัวออกมาให้เห็นแม้แต่เงา มีเพียงมู่หรงจางเดินออกมาคนเดียว“ทุกท่าน ต้องขออภัย คุณหลินเป็นคนถ่อมตน ไม่ยอมปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน เขาไปแล้ว”มู่หรงจางก็หมดหนทางเช่นกัน เขาไปหลังเวทีก็ไม่เจอหลินหยางกับมู่หรงยิ่นจึงได้แต่โทรหามู่หรงยิ่น มู่หรงยิ่นบอกในโทรศัพท์ว่าหลินหยางไปแล้ว ไม่ออกปรากฏตัวในงานเลี้ยงวันเกิด“เพราะอะไร? มีตรงไหนที่พวกเราทำได้ไม่ดีใช่หรือเปล่า ทำให้คุณหลินโกรธ?” มู่หรงจางกล่าวถาม“น่าจะไม่ใช่ หนูก็ไม่เจอเขาเหมือนกัน ในโทรศัพท์เขาพูดกับหนูแค่ว่าไม่ออกงานกิจกรรมแล้ว และแสดงความขอโทษ อีกทั้งยังให้พวกเราอย่าเพิ่งเปิดเผยข้อมูลที่เกี่ยวกับเขามากเกินไป”มู่หรงยิ่นกล่าวในโทรศัพท์“ยิ่นเอ๋อร์ ถ้าอย่างนั้นลูกก็ไม่ต้องออกงานงานเลี้ยงวันเกิดแล้ว ไปหาคุณหลินดีกว่า ลองถามส
หลิ่วเฉิงจื้อยกแก้วเหล้าขึ้นมาทักทายกลับ ในใจมีข้อกังขา“เลขาเจียงบอกว่ามีผู้สูงศักดิ์คอยช่วยเหลือ ผู้สูงศักดิ์คนนี้เป็นใคร?”“จะต้องเป็นเหลียงควนแน่นอน พ่อของเขารับปากแล้วไม่ใช่หรือว่าจะให้คุณเข้าร่วมสมาคมการค้าวั่นเหา? คิดว่าจะต้องเป็นเพราะพูดชื่นชมต่อหน้าประธานยิ่นแน่นอน” อวี๋ผิงกล่าวหลิ่วเฉิงจื้อพยักหน้าเล็กน้อยพร้อมกล่าว “ถ้าอย่างนั้นคงจะต้องขอบคุณเสี่ยวเหลียงหน่อยเสียแล้ว”“เสียวอวี่ ครั้งนี้ลูกสร้างผลงานชิ้นใหญ่แล้ว ถ้าหากไม่ใช่เป็นเพราะความสัมพันธ์ระดับนี้ของลูก พวกเราไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงแล้วจริง ๆ” อวี๋ผิงกล่าวอย่างดีใจหลิ่วฟู่อวี่เองก็สีหน้าดีใจ กล่าว “หนูขอไปหาเขาเพื่อขอบคุณเขาต่อหน้าหน่อยนะคะ”“พวกเราเองก็ไปด้วย”หลิ่วเฉิงจื้อลุกขึ้น พาอวี๋ผิงเดินมายังโต๊ะของเหลียงควน“เสี่ยวเหลียง ครั้งนี้ขอบคุณเธอมาก ๆ ที่ช่วยพวกเราเอาไว้ ถ้าหากไม่ได้เธอ ติ่งเซิ่งกรุ๊ปจะเลือกร่วมมือกับพวกเราได้ยังไงกัน!”เหลียงควนได้ยินก็ตกตะลึง กล่าวอย่างประหลาดใจ “ติ่งเซิ่งกรุ๊ปเลือกพวกคุณแล้ว?”“ถูกต้อง! เลขาเจียงเพิ่งจะมาแจ้งข่าวด้วยตัวเอง เธอยังไม่รู้ใช่ไหม?” อวี๋ผิงกล่าวเหลียงควนคิดใน
“การตัดสินใจของประธานยิ่น ย่อมมีเหตุผลของเธอ ไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะสามารถคาดคะเนได้” เจียงหลินกล่าว“แล้วคุณหลินท่านนั้นละ? เขามีความเป็นมายังไงกันแน่?”ฉินโม่หนงกล่าวถามต่อ“ไม่แน่ใจ วันหลังมีข้อมูลที่ละเอียด ฉันจะบอกคุณอีกที”เมื่อฉินโม่หนงเห็นว่าเรื่องนี้ชี้ขาดเรียบร้อยแล้ว จึงทำได้แค่เพียงเลิกรา หันเหความสนใจไปที่คุณหลิน“เธอคิดหาหนทางช่วยฉันให้ได้ติดต่อกับคุณหลิน ฉันจะให้รางวัลอย่างงาม”เจียงหลินพยักหน้า แล้วก็เดินจากไปทั้งครอบครัวของหลิ่วเฉิงจื้อดีใจเป็นอย่างยิ่ง ได้ร่วมมือกับติ่งเซิ่งกรุ๊ปอย่างราบรื่น ยังได้ลูกเขยในอนาคตที่ร่ำรวยมาอีกคนหนึ่งด้วย ได้กำไรสุด ๆ เลย“เสี่ยวหยางล่ะ? ฉันให้เขารออยู่ด้านนอกไม่ใช่เหรอ?”หลิ่วเฉิงจื้อกล่าว“คุณตามหาเขาทำไม? ตอนนี้เขามีผู้หญิงรวยเลี้ยงดูแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องเป็นห่วง” อวี๋ผิงเบะปากกล่าว“พ่อคะ พ่อคงไม่คิดจะให้หนูแต่งงานกับเขาหรอกใช่ไหมคะ?” หลิ่วฟู่อวี่กล่าว“ไม่มีทาง! เสียวอวี่ ลูกวางใจ ต่อให้พ่อของลูกมีความคิดนี้ แม่ก็ไม่มีทางเห็นด้วย เหลียงควนถึงจะเป็นลูกเขยของแม่ในอนาคต สวะอย่างหลินหยาง คู่ควรกับลูกที่ไหนกัน?”อวี๋ผิงกล่าวหล
การแต่งกายที่ไม่เหมือนเดิม ทำให้บุคลิกของเธอผิดไปอย่างกับคนละคน เรียกได้ว่าเป็นผู้หญิงที่มีสไตล์หลากหลาย“คุณแต่งตัวแบบนี้ แตกต่างจากตอนปกตินะครับ”“สวยไหมคะ?” มู่หรงยิ่นกล่าวถามพร้อมรอยยิ้มหวาน“สวยครับ”หลินหยางพยักหน้าอย่างจริงใจ“แล้วคุณชอบไหมคะ?”มู่หรงยิ่นโน้มตัวไปด้านหน้าเล็กน้อย มือทั้งสองข้างเท้าคาง ดวงตางามใสราวกับน้ำในทะเลสาบ เปล่งประกายแสงที่ทำให้คนลุ่มหลงหลินหยางคิดไม่ถึงว่าทันทีที่มู่หรงยิ่นนั่งลง ก็จะจู่โจมเขา“แน่นอนว่าชอบสิครับ”เพลิงราคะของหลินหยางที่เกิดขึ้นสงบลงไปเพราะการแช่สมุนไพร ไม่ได้ถูกระบายออกมา ทันทีที่ถูกมู่หรงยิ่นยั่วเย้า เพลิงราคะก็ปะทุขึ้นมาทันทีมู่หรงยิ่นแสยะยิ้ม ราวกับพอใจในคำตอบของหลินหยางทั้งสองคนสบตากันแบบนี้ ราวกับว่าอยากจะนาบตราลงไปในดวงตาของกันและกันจนกระทั่งพนักงานมาเสิร์ฟเหล้า สายตาของทั้งสองจึงละออกจากกันหลินหยางกระแอมทีหนึ่ง ยกแก้วเหล้าขึ้นแล้วกล่าว “ขอบคุณสำหรับการจัดการของคุณในค่ำคืนนี้”มู่หรงยิ่นหน้าแดงเล็กน้อย จิบเหล้าอึกหนึ่งเพื่อสงบสติอารมณ์“ปากบอกว่าขอบคุณ แต่ไม่มีความจริงใจเท่าไหร่เลย”“ถ้าอย่างนั้นคุณอยากให้ผมขอ
“คุณกำลังมองใครคะ?”มู่หรงยิ่นหันหน้ากลับไป ก็เห็นหลิ่วฟู่อวี่กับเหลียงควน“ที่แท้ก็เธอ เห็นคู่หมั้นกับผู้ชายอื่นอยู่ด้วยกัน คงปวดใจมากสินะคะ?”“เปล่าคับ มา ดื่มเหล้ากันต่อ”หลินหยางเก็บสายตาคืนมา คร้านจะสนใจหลิ่วฟู่อวี่หลิ่วฟู่อวี่ในเวลานี้มองเห็นหลินหยางแล้ว“ซวยจริง ๆ ยังมาเจอเขาที่นี่อีก” หลิ่วฟู่อวี่กล่าวด้วยสีหน้าสะอิดสะเอียน“ใครครับ?”“หลินหยาง” หลิ่วฟู่อวี่กล่าวเหลียงควนหันหน้ากลับมา มองหลินหยางแวบหนึ่ง นัยน์ตาเปล่งประกายความเคียดแค้นตอนนั้นเขาถูกหลินหยางกระหน่ำต่อยยกหนึ่ง เหลียงควนจำขึ้นใจมาตลอด“ผมได้ข่าวมาว่าพ่อกับแม่ของเขาตายแล้ว เขาเองก็ทำตัวเหลวแหลก ทั้งเล่นพนันทั้งเสพยา เสียผู้เสียคนไปหมด ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่?”หลังจากที่เหลียงควนกลับประเทศ ก็จงใจให้คนไปสืบข่าวของหลิ่วฟู่อวี่กับหลินหยางโดยเฉพาะ“เขาจับผู้หญิงรวยได้คนหนึ่ง ทำตัวเป็นไอ้แมงดา ตอนนี้ เขาไม่คู่ควรแม้แต่ถือรองเท้าให้คุณ” หลิ่วฟู่อวี่กล่าว“งั้นหรือ? ทำให้คนคิดไม่ถึงเลยจริง ๆ”เหลียงควนแอบสะใจ คุณชายหลินผู้สง่าผ่าเผยที่เคยเหยียบย่ำเขา ตอนนี้ตกอับจนถูกผู้หญิงรวยที่ทั้งแก่ทั้งขี้เหร่เลี้ยงดู แต่
เหลียงควนไม่ได้เป็นอย่างที่หลิ่วฟู่อวี่คิด ผู้หญิงตรงหน้าคนนี้ สวยมากจริง มีสไตล์ เป็นระดับนางฟ้าได้เลย!เหลียงควนโอดครวญในใจ ผู้หญิงรวยแบบนี้ เป็นฉันก็ยอมให้เธอเลี้ยงดู!ถ้าหากไม่ใช่เพราะเป็นกังวลว่าหลิ่วฟู่อวี่อยู่ข้าง ๆ เหลียงควนอยากจะพูดตรง ๆ นางฟ้า คุณเลี้ยงดูผมเถอะ ผมยินดีที่จะเป็นไอ้แมงดาให้คุณ ลีลาบนเตียงของผมดุเดือดมาก!นอกจากความเกลียดแค้นของเหลียงควนที่มีต่อหลินหยางแล้ว ยังมีความริษยารุนแรงเพิ่มขึ้นมา“เมื่อวานฉันก็เคยพูดไปแล้วว่า เธอก็ไม่ต่างอะไรกับตัวตลก เธอยังไม่จำขึ้นใจอีกเหรอ?”มู่หรงยิ่นกล่าวเสียงเย็นเยียบ“เธอนั่นแหละที่เป็นตัวตลก! เธอมีอะไรที่เจ๋งมากงั้นเหรอ? ฉันจะบอกเธอให้นะ ตระกูลหลิ่วของพวกเราเป็นหุ้นส่วนใหม่กับติ่งเซิ่งกรุ๊ป จะได้เป็นตระกูลทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งของเมืองลั่วในไม่ช้านี้แล้ว เธอเก่งมาจากไหนถึงกล้าดูถูกฉัน!”หลิ่วฟู่อวี่อดไม่ได้ที่จะโอ้อวดเรื่องที่ได้ประจบสอพลอตระกูลมู่หรง ทำให้รู้สึกภาคภูมิใจมู่หรงยิ่นแสยะยิ้มอย่างเยาะหยัน รู้สึกว่าหลิ่วฟู่อวี่โง่จนน่าขำมาก“พูดจบแล้วใช่ไหม? พูดจบแล้วก็รีบไป”แม้แต่หลินหยางยังรู้สึกรู้สึกอายแทนหลิ่วฟู่อวี่
“บ้าเอ๊ย...”เหลียงควนที่ไม่ทันระวัง ถูกสาดเหล้าเข้าเต็มใบหน้า หลุดปากสบถด่าแต่เขายังไม่ทันด่าจบ หลินหยางก็ลุกขึ้นแล้วตบหน้าเขาสองฉาดเสียงดังเพี้ยะ ๆ ตบจนเหลียงควนจนมึนหัว จนในหูดังวิ้ง ๆ หมุนอยู่กับที่รอบหนึ่งเหลียงควนยังไม่ทันได้สติกลับคืนมา หลินหยางก็ยกวิสกี้ขวดนั้นที่เขาสั่งขึ้นมาอีก แล้วทุบลงบนศีรษะเขาทันทีขวดเหล้าแตกละเอียด เหลียงควนกุมหัวร้องเสียงน่าเวทนา เลือดไหลออกมาตามง่ามนิ้วมือของเขา เขาหัวร้างข้างแตกอีกครั้ง!หลิ่วฟู่อวี่ที่อยู่ด้านข้างตกใจอีกครั้ง คิดไม่ถึงว่าหลินหยางจะกล้าลงมือกับเหลียงควนจากนั้นหลินหยางก็คว้าคอเสื้อของเหลียงควน แล้วโยนเขาออกไปทางหน้าต่างทันที“หลินหยาง...นาย...นายบ้าไปแล้ว! นายกล้าลงมือทำร้ายเขาเหรอ?”“สงสารหรือไง?”หลินหยางหยิบกระดาษเช็ดหน้าออกมา เช็ดไม้เช็ดมือ“นายจบเห่แล้ว! ตอนนี้เหลียงควนไม่ใช่คนที่นายจะหาเรื่องได้! เขาโทรศัพท์กริ๊งเดียว ก็สามารถช่วยพวกเราจัดการเรื่องความร่วมมือกับติ่งเซิ่ง แม้แต่ตระกูลมู่หรงยังต้องไว้หน้าเขา นายจบเห่แน่! อย่าคิดว่าเงินอันน้อยนิดของผู้หญิงคนนี้ จะสามารถคุ้มกะลาหัวนายได้”หลิ่วฟู่อวี่กล่าวอย่างกระหืดกร
ระหว่างทางที่ไปโรงพยาบาล หลิ่วฟู่อวี่โทรศัพท์หาอวี๋ผิง เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง“อะไรนะ? หลินหยางทำร้ายเหลียงควนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส? ไอ้เดรัจฉานนี่ ทนเห็นพวกเราได้ดีไม่ได้ จงใจทำร้ายพวกเราสินะ!”อวี๋ผิงฟังจบก็โมโหจัด โมโหจนทนไม่ไหว“แม่คะ ตอนนี้ทำยังไงดีคะ?” หลิ่วฟู่อวี่กล่าวสะอื้น“เสียวอวี่ ลูกอย่าตกใจไป พวกเราไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขา! แม่กับพ่อของลูกจะรีบไปโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้”หลังจากอวี๋ผิงวางสาย ก็รีบไปที่ห้องหนังสือของหลิ่วเฉิงจื้อ“เป็นอะไรไป?” หลิ่วเฉิงจื้อกล่าวถามอวี๋ผิงตบคอมพิวเตอร์ที่อยู่บนโต๊ะของหลิ่วเฉิงจื้อจนตกพื้น“เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”“เกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้นคุณก็ไม่ควรทำลายคอมพิวเตอร์ของผมนะ ผมกำลังทำแผนการความร่วมมือที่จะไปหารือกับติ่งเซิ่งในวันพรุ่งนี้!”หลิ่วเฉิงจื้อก็โมโหเล็กน้อยเช่นกัน กล่าวด้วยสีหน้าคร่ำเครียด“ยังมาทำแผนงานกับผีอะไรล่ะคะ! ความร่วมมือเกรงว่าจะล่มแล้ว คุณมัวแต่อยากจะดูแลหลานชาย ไอ้เดรัจฉานหลินหยาง เขาทำร้ายเหลียงควนจนบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้กำลังนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาฉุกเฉิน!”อวี๋ผิงด่าทออย่างโกรธจัด“เสี่ยวหยางทำร้ายเหลียงควน? ไม่หรอกมั
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย
ก็แค่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งเท่านั้น เขาไม่สนใจอยู่แล้วแต่ปรมาจารย์ระดับหกคนหนึ่งไม่คิดเลยว่าจะมาเป็นยามให้หลินหยาง เขาไม่สามารถเข้าใจได้!แม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์ระดับเก้าก็ยังไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้!จ้าวเจิ้งฮ่าวและคนอื่น ๆ ต่างก็อ้าปากค้างอย่างตกตะลึงสถานการณ์ตรงราวกับเป็นภาพลวงตาเลยทีเดียว!ไอ้หมอนี่หัวสมองมีปัญหาเหรอไง? ไม่ง่ายเลยกว่าจะได้เป็นปรมาจารย์ระดับหก แต่กลับมาเป็นยามให้คนที่มีระดับเจ็ดอย่างหลินหยาง?!“นับว่าแกพอมีความสามารถอยู่บ้าง แต่การรับใช้คนที่กำลังจะตาย เป็นการทำให้ตัวเองเสื่อมถอยแท้ ๆ เลย!”จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา “หลินหยางทำลายการค้าระหว่างกองทัพกับชาวตงอิ๋ง ฉันมาเพื่อค้นหาหลักฐาน”“ตอนนี้ฉันให้โอกาสแกกลับตัวกลับใจหนึ่งครั้ง สวามิภักดิ์ต่อฉัน! ไม่อย่างนั้น จะถือว่าแกขัดขวางการสอบสวน! ฝ่าฝืนกฎหมายระดับประเทศ! ฉันจะประหารชีวิตแกทันที”เขามีความคิดที่จะชักจูงคนคนนี้ถึงอย่างไรปรมาจารย์ระดับหกในเมืองลั่วก็นับว่าเป็นยอดฝีมือ ฆ่าไปก็น่าเสียดายแต่ทว่าอาต้ากลับกล่าวเสียงเย็นชา “รับเลี้ยงฉัน? แกคู่ควรเหรอ! ไสหัวไป!”“แกคิดให้ดี ๆ กล้าขัดขวาง
เจียงรั่วหานกล่าวโต้เถียงด้วยสีหน้าแดงก่ำแต่นี่ก็คือเรื่องจริงถึงอย่างไรตนก็ไม่ได้ขึ้นเตียงกับหลินหยาง แต่ทว่าทำในรถ...“ไม่ต้องรีบ นั่งลงคุยกัน...” ซ่งหว่านอวี๋ท่าทางสบาย ๆ พูดจาปลอบโยนอย่างมีเลศนัย “เป็นเพราะพี่กลัวเธอถูกหลินหยางหลอกเอา หลินหยางนั่นบังคับให้พี่ทำเรื่องแบบนั้น เขาไม่ใช่คนดีอะไร!”“พี่หว่านอวี๋พี่ไม่เข้าใจเขา!”เจียงรั่วหานกลับวางแก้วกาแฟลง รีบพูดขึ้นว่า “อันที่จริงหลินหยางเป็นคนดีคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่เขาทำแบบนั้นกับพี่ อัน อันที่จริงเป็นเพราะจ้าวเจิ้งฮ่าวเป็นต้นเหตุ!”“ฉันบอกเขาแล้ว ว่าต่อไปห้ามแตะต้องพี่อีก!”ไม่แตะต้องฉัน?ฉันต้องการให้เธอช่วยเหลือเรื่องนี้เหรอ?เธอกินอิ่มแล้วไม่กะจะไม่เหลือไว้ให้ฉันกินสักคำเลยเหรอไง!ซ่งหว่านอวี๋สีหน้าดูแย่เล็กน้อย เธอกินอาหารทะเลมื้อหรูจนเคยชินแล้ว จะกินอาหารจืดชืดลงได้ยังไงอีก?“พี่หว่านอวี๋ ต่อไปฉันคงต้องอาศัยพี่คอยเป็นที่กำบังให้ฉันแล้ว ครอบครัวนี้ ฉันทนอยู่ต่อไปไม่ได้อีกแม้แต่วันเดียวแล้ว!”เจียงรั่วหานยังหันหน้าไปมองซ่งหว่านอวี๋ด้วยท่าทางขอร้อง“เรื่องเล็กน้อย...”ซ่งหว่านอวี๋กล่าวพร้อมรอยยิ้มบาง ๆ ไม่ว่าจะพู
ฉินเจิ้งคุนกลับส่งสัญญาณมือให้เงียบเอาไว้“เรื่องพวกนี้ห้ามเอาไปพูดข้างนอกส่งเดช! การต่อสู้ของบุคคลใหญ่โตไม่ใช่สิ่งที่พวกเราวิจารณ์ได้!”เขากล่าวเตือนด้วยท่าทีขึงขังถึงแม้ว่าตระกูลฉินจะมีชื่อเสียงโด่งดังในหนานโจว แต่ในสายตาของตระกูลใหญ่ที่ล้ำลึกจนไม่อาจคาดเดาของซานโจวบนพวกนั้น วงศ์ตระกูลบ้านนอกอย่างตระกูลฉิน ไม่ควรค่าให้เอ่ยถึงการต่อสู้ระดับนั้น เพียงแค่ควันหลง ก็มากพอที่จะทำให้ทั้งตระกูลฉินตายไร้ที่ฝังศพแล้ว!ฉินอี๋หลิงรีบหุบปากทันทีเช่นกันไม่กล้าส่งเสียงดัง เพราะหวาดกลัวว่าคนบนฟ้า!“หลินไร้ศัตรูแอบรายงานแต่ละวงศ์ตระกูลใหญ่แห่งหนานโจวอย่างลับ ๆ ให้ช่วยเขาตามหาหลานชายของเขา ถ้าหากใครหาเจอ เขาก็จะยอมรับคำขอร้องของคนนั้นหนึ่งข้อ” ฉินเจิ้งคุนค่อย ๆ พูด“จริงเหรอคะ?”ฉินอี๋หลิงสีหน้าตื่นเต้นดีใจ หัวใจไฟลุกโชนถึงแม้ว่าวงศ์ตระกูลของหลินไร้ศัตรูจะล่มสลายไปแล้ว แต่ก็ยังไม่สิ้นอำนาจโดยสมบูรณ์!คำมั่นสัญญาของเขาหนึ่งข้อ สามารถตัดสินว่าใครจะได้ครอบครองตำแหน่งหัวหน้าตระกูลฉิน!“มีเบาะแสของหลานชายคนนั้นของเขาแล้วเหรอยัง!”เธอรีบกล่าวถาม“ง่ายแบบนั้นซะที่ไหน...”ฉินเจิ้งคุนส่ายหน้
ตนในตอนนี้ ต่อสู้ข้ามสามระดับชั้นก็ไม่เป็นปัญหา มีลูกน้องไม่กี่คน ตนก็ไม่ต้องโดนรุมโจมตีอีกบ่อย ๆมีสิทธิ์แสร้งทำเป็นเก่ง ถ้าอย่างนั้นก็ต้องทำแต่ทว่าหลี่หรูเยว่กับปรมาจารย์ทั้งสี่คนมีความปรับตัวให้เข้ากับสไตล์แบบนี้ไม่ค่อยได้เท่าไหร่หลูอ้าวตงว่าอวดดีมากพอแล้ว แต่เมื่อเทียบกับหลินหยาง นั่นก็เป็นแค่เรื่องจิ๊บจ๊อยเท่านั้น...“ไปกันเถอะ กลับไปที่บ้านให้ฉันรักษาอาการบาดเจ็บให้พวกแกก่อน อีกเดี๋ยวไปกับฉันฆ่าคนของจ้าวเจี้ยนชิงให้เรียบ”หลินหยางเดินลงจากภูเขาแต่หลี่หรูเยว่และคนอื่น ๆ อีกห้าคนกลับสบตากันแวบหนึ่ง เห็นสีหน้าตกใจจากนัยน์ตาของอีกฝ่ายหลินหยางพูดจาสบาย ๆ มาก ราวกับว่าในสายตาของเขา การฆ่าหัวหน้ากองทหารรักษาการณ์ ง่ายเหมือนกับซื้อผักพวกเขากลับไม่ทันได้คิดมาก รีบตามหลินหยางลงจากเขา คอยตามปรนนิบัติ...อีกด้านหนึ่งภายในห้องหนังสือสไตล์โบราณแห่งหนึ่งฉินเจิ้งคุนกระแทกโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะ พูดด้วยความโมโห “ไอ้สารเลวนี่อวดดีมาก! แม้แต่สายโทรศัพท์ของฉันกล้าตัดทิ้ง!”ฉินอี๋หลิงที่อยู่ด้านข้างสีหน้าดูแย่เช่นกัน บทสนทนาเมื่อครู่นี้เธอได้ยินหมดแล้วหลินหยางไม่ให้เกียรติเลยแม้แต
หรือไม่ก็โทรศัพท์ไปหยอกหลูอ้าวตงอีกสักที?ไม่มีอะไรทำก็ไปยั่วโมโหหลูอ้าวตงสักหน่อย ได้กลายเป็นความเคยชินของหลินหยางไปแล้วแต่ทว่าทันทีที่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กลับมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาเบอร์โทรศัพท์นั่นคือ...ฉินเจิ้งคุน?หลินหยางมีความประหลาดใจเล็กน้อย จะว่าไป ฉินเจิ้งคุนควรจะส่งคนมาไล่ฆ่าตนถึงจะถูกอย่างไรเสียสิ่งของที่ไม่ได้มาครอบครองก็ต้องทำลายทิ้ง ถึงจะเหมาะสมกับสไตล์ของตระกูลใหญ่อย่างพวกเขาผลปรากฏว่าการตามล่าของตระกูลฉินที่รอคอยมาไม่ถึงสักที...เขารับสายแล้วพูดว่า “ผมคิดว่าคุณตายไปแล้วเสียอีกนะ...”“ไอ้บ้า!”ทันทีที่ฉินเจิ้งคุนต่อสายติดก็ได้ยินประโยคนี้ โมโหจนสะอึกทันที “คนที่ใกล้ตายอย่างแกยังจะกล้าพูดจาเหลวไหล! ตอนนี้แกได้ถูกหลูอ้าวตงตามฆ่าเหมือนกับหนูท่อที่น่ารังเกียจแล้วละมั้ง!”“ถ้าอย่างนั้นคงต้องทำให้คุณต้องผิดหวังแล้ว...”หลินหยางเหลือบตามองลูกน้องที่เพิ่งรับเอาไว้เมื่อสักครู่นี้แวบหนึ่ง หลูอ้าวตงทั้งส่งสมุนไพรทั้งส่งผู้หญิงมาให้ โดนตนจัดการจนรู้สึกไม่ค่อยสบายขึ้นมาอยู่หน่อย ๆ เสียแล้วแต่ทว่าฉินเจิ้งคุนกลับไม่เชื่อ กล่าวเสียงเย้ยหยัน “เลิกพูดจาไร้สาระ ต
เขาหยิบยาพิษสี่เม็ดออกมาจากในกระเป๋าเฉียนคุน โยนให้พวกเขา“ยาพิษนี้มีแค่ฉันเท่านั้นที่ถอนได้ ถ้าหากพวกแกกล้าทรยศ จะต้องตายอย่างน่าเวทนามากแน่อย่างแน่นอน”ปรมาจารย์ทั้งสี่เข้าใจว่าหลินหยางไม่เชื่อใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย ยาพิษนี้ไม่กินก็ต้องกิน จากนั้นก็กลืนยาพิษลงไปโดยไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อยเมื่อทั้งสี่คนกลืนยาพิษลงไปแล้ว หลินหยางถึงได้ไปช่วยรักษาม๋อจื่อภายใต้การจับตามองอย่างประหม่าของหลี่หรูเยว่หลินหยางใช้เข็มวาสนาฝืนลิขิต ม๋อจื่อค่อนข้างไม่ธรรมดา รากฐานกระดูกแข็งแรงมากมาตั้งแต่กำเนิด มุมมองของหลินหยาง เหมาะที่จะเดินเส้นทางเทพวรยุทธ์มากแต่น่าเสียดายที่ถังฮ่าวหรานความคิดตื้นเขิน ใช้วิชาแปลงอสูรสวรรค์ฝึกฝนเขาจนกลายเป็นคนไร้ประโยชน์หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ม๋อจื่อก็ฟื้นขึ้นมา ทันทีที่ลืมตาดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ ท่าทางดุร้าย“ม๋อเอ๋อร์ฟื้นแล้ว!”หลี่หรูเยว่ดีใจเป็นอย่างยิ่งขึ้นมาทันที หันหน้าไปมองหลินหยางพูดด้วยความซาบซึ้งใจ “ขอบพระคุณนายท่าน!”ก่อนหน้านี้ม๋อจื่อดูเหมือนคนกำลังใกล้ตาย เวลาแค่เพียงครู่เดียวหลินหยางก็รักษาเขาจนหายดีแล้วนับว่าเธอนับถือฝีมือการรักษาของหลินหยางอย่างถ