เหยียนฮ่าวรู้สึกเหลือเชื่อ หันไปมองฉินเยียนหรานที่อยู่ข้าง ๆ พร้อมกล่าวถามถ้าหากหลินหยางเป็นไอ้คนน่ารังเกียจที่ไร้น้ำยาจริง มันจะมีสิทธิ์อะไรที่จะรู้จักนายท่านตง? เขาเกิดความสงสัยขึ้นมาหน่อย ๆ แล้วว่าฉินเยียนหรานหลอกตนเองเหรอเปล่า“ฉันไม่ได้หลอกคุณ! เขาก็แค่เป็นวรยุทธ์นิดหน่อยเท่านั้นจริง ๆ แต่วรยุทธ์การต่อสู้นิดหน่อยนั่น นายท่านตงจะสนใจได้ยังไงกัน!”ฉินเยียนหรานอธิบายอย่างร้อนใจ บ่นพึมพำกับตัวเองอย่างร้อนใจ “ไม่ถูกต้อง ๆ จะต้องมีตรงไหนที่ไม่ถูกต้องแน่ ๆ...”ในระหว่างที่พวกเขากำลังตกตะลึง ผู้ดูแลหันไปมองหลินหยางกล่าวเสียงขรึม “ตอนนั้นคุณเป็นคนรับปากนายท่านตงเองว่าจะมา นายท่านตงรอคุณนานแล้ว รีบขึ้นมา”เหยียนฮ่าวกับฉินเยียนหรานได้ยินประโยคนี้ ก็ตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง“ฉัน ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม? หลินหยางทำให้นายท่านตงต้องรอได้?” ฉินเยียนหรานหันไปมองเหยียนฮ่าวอย่างตกตะลึง“ไม่ผิด...”เหยียนฮ่าวสูดลมหายใจอย่างตกตะลึงหลูอ้าวตงมาที่บ้านของตน พ่อของตนยังต้องต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดีคนที่สามารถทำให้หลูอ้าวตงรอเป็นพิเศษได้นั่นต้องเป็นคนถึงระดับไหน?และหลินหยางในสายตาที่ตกตะลึงของพ
เขาหันไปมองผู้ดูแลตระกูลหลูกล่าวด้วยสีหน้าไม่ดี “คุณว่า เรื่องนี้ควรจะจัดการยังไงดี?”ผู้ดูแลเองก็ขมวดคิ้วกล่าว “จัดการลำบากอยู่นิด ๆ”“นายท่านตงส่งคนมารับเขาด้วยตัวเอง เขายังไร้มารยาทขนาดนี้ นี่เป็นการไม่เห็นหัวนายท่านตง ไม่เห็นตระกูลหลู นายท่านตงรู้จักกับคนแบบนี้ได้ยังไง”“ตระกูลที่เคารพนายท่านตงอย่างสุดซึ้ง อย่างตระกูลเหยียนของผม ไม่เคยก่อความเดือดร้อนให้แก่นายท่านตง มีแต่จะคิดว่าจะช่วยจัดการปัญหา ให้แก่นายท่านตงยังไงเท่านั้นเหยียนฮ่าวมองดูเหมือนว่าจะรู้สึกเสียดายแทนหลูอ้าวตง แต่ความเป็นจริงคือกำลังแอบกล่าวโทษหลินหยางตระกูลหลูไม่ใช่พ่อของแก จะตามใจนิสัยเสียพวกนี้ของแกได้ที่ไหนกัน?เขารอดูว่า อีกเดี๋ยวหลินหยางจะถูกผู้ดูแลตบหน้ายังไง!“นายมีจิตสำนึกแบบนี้ ก็ดีมาก” ผู้ดูแลพยักหน้าเล็กน้อย รู้สึกค่อนข้างพอใจ“ชมเกินไปแล้วครับ เป็นสิ่งที่ผมสมควรทำ!”เหยียนฮ่าวกล่าวอย่างถ่อมตัว“ถ้าอย่างนั้นพวกนายลงไป คุกเข่าที่ท่าเรือก็แล้วกัน”รอยยิ้มอันถ่อมตัวบนใบหน้าของเหยียนฮ่าว แข็งทื่อไปทันที เขาหันไปมองผู้ดูแลอย่างงุนงง “เมื่อกี้ คุณพูดว่าอะไรนะ?”“ลงไปแล้วคุกเข่าไง ถ้าหากเขาไม่ยอมขึ
ผู้รับผิดชอบพรั่งพรูสีหน้าแห่งความโกรธแค้นออกมา ทำให้เหยียนฮ่าวสั่นสะท้านด้วยความกลัวไปทั้งร่างกาย “พวกเราจะไปแล้ว ไปกันเถอะ” ในขณะที่พูดอยู่ เขารีบพาฉินเยียนหรานลงเรือยอร์ชไปอย่างรีบร้อน ส่วนทางหลินหยางที่เพิ่งขึ้นจากเรือยอร์ช ตอนที่เดินผ่านพวกเขา เขายังยิ้มให้ทั้งเอ่ยขึ้นมาหนึ่งคำ “ตระกูลเหยียนสวะอะไรน่ะ พออยู่ต่อหน้าปรมาจารย์คนนี้ก็แค่ตูดแหละวะ!”สีหน้าของเหยียนฮ่าวแดงก่ำ กำหมัดแน่น แต่เนื่องจากออกแรงมากไป ทำให้เล็บจิกเข้าไปใจกลางฝ่ามือนิดหน่อย เขาจึงไม่กล้าเอ่ยอะไรออกมาเยอะ ตอนนี้ดู ๆ แล้ว สถานะของหลินหยางออกแนวลึกลับ ทำให้ตัวเองไม่สามารถทำร้ายได้ แต่หลินหยางพูดว่าปรมาจารย์? เขาเป็นปรมาจารย์สำนักไหนกัน? ที่หลูอ้าวตงให้ความสำคัญขนาดนี้? “แกอย่าได้ใจให้มันมากนักเลย แกหลอกนายท่านตงไม่ได้ แล้วก็หลอกฉันไม่ได้ด้วย! แกลืมไปแล้วหรือว่าเมื่อก่อนเลียมือเลียเท้าฉันยังไง? แกน่ะมันก็แค่คางคกขึ้นวอ ทำคนอยากจะอ้วกซะจริง ๆ !” ความโกรธของฉินเยียนหรานทยานขึ้นสู่ฟ้า เธอไม่ได้คำนึงถึงเหยียนฮ่าวมากขนาดนั้น ยิ่งกว่านั้นคือเธอรู้เส้นสนกลในทั้งหมดของหลินหยางแล้ว ถึงอย่างไรซะ ในตอนแรกเธอก็
“มองอะไร นี่เป็นคำสั่งจากตระกูลหลู! ยังไม่คุกเข่าลงอีก!”เหยียนฮ่าวคุกเข่าลงคำนับหัวจรดพื้น ทั้งมองไปทางฉินเยียนหรานด้วยสีหน้าอึมครึม!ภายใต้สายตานี้ทำให้ฉินเยียนหรานเกรงกลัวจนหาที่เปรียบไม่ได้ จึงคุกเข่าลงอย่างลังเล อีกใจก็อยากจะก่นด่าหลินหยางออกมา แต่อีกใจก็ทำได้เพียงแค่กัดฟันกรอด ก่อนจะทำการคุกเข่าคำนับลงบนเรือยอร์ช รอเวลาให้หลินหยางจากไปก่อน แล้วจะฉีกหลินหยางออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยตัวเธอเองแน่!หลังจากที่เรือยอร์ชออกตัวไป เหยียนฮ่าวก็หยุดทำการคำนับ แล้วมองไปที่ฉินเยียนหรานด้วยสายตาอึมครึมก่อนจะกล่าวว่า “คนแซ่หลินผู้นี้ ที่กลายมาเป็นปรมาจารย์ สุดท้ายแล้วเขาคือลูกเต้าเหล่าใครจากตระกูลไหนกันแน่ อธิบายให้ผมฟังเดี๋ยวนี้!” ฉินเยียนหรานพูดปลอบใจ “คุณเชื่อฉันนะคะ ว่าเขาเป็นแมลงพิษจริง ๆ “ “สหาย เมืองลั่วของเรากำเนิดปรมาจารย์แซ่หลินขึ้นแล้วหนึ่งคน ที่กำลังต่อสู้อยู่บนเกาะ หลินหยางเองก็อยู่ร่วมใต้ฟ้าบนดินเดียวกันกับผม ต้องไม่ใช่คนคนเดียวกันแน่....” “เขาพูดด้วยความจริงใจอย่างมาก อีกหน่อยก็จะสาบานแล้ว เธอรู้ว่าเมืองลั่วกำเนิดปรมาจารย์หลินผู้เยาว์วัยขึ้นมาแล้วหนึ่งคน ผู้มีกำลังสามารถต่อ
“รออยู่นี่นะ ถ้าผมกลับไปถึงแล้วไม่เห็นว่าพวกเหยียนฮ่าวสองคนนั้นไม่ได้กำลังก้มคำนับอยู่ คุณจบเห่แน่” หลินหยางมองไปที่หลูอ้าวตงราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งเอ่ยขึ้นมา “คุณคิดว่าคุณจะยังกลับมาได้งั้นเหรอ? คุณไม่ได้พึ่งระดับเบิกฟ้าระดับห้าด้วยซ้ำ ก็แค่แมลงเหม็นตัวหนึ่ง! หนีหุบเขาห้านิ้วของนายท่านตงไม่ได้หรอก!” ผู้รับผิดชอบเอ่ยออกมาด้วยความดูถูกที่ปรากฏอยู่เต็มใบหน้า หลินหยางเพียงแค่ยิ้มออกมาอย่างสบาย ๆ ในสายตาแห่งความประหลาดใจของผู้รับผิดชอบ เพียงแค่เขายกมือขึ้นจับผู้รับผิดชอบให้อยู่ภายในมือ ก็ถูกโยนลงฝั่งไปแล้วท่ามกลางเสียงกรีดร้องอันโหยหวน หลินหยางก็กระโดดขึ้นมา ตอนที่ผู้รับผิดชอบกำลังขึ้นมาจากฝั่งอยู่นั้น เขาชนเข้ากับบางอย่าง จนหัวของผู้รับผิดชอบจมอยู่ในดินเหนียว ศีรษะของผู้รับผิดชอบจมอยู่ในโคลนตมลึก จนร่างส่วนที่อยู่เหนือพื้นดินตะคริวกิน “เจียงไห่เซิง มาให้ผมเอาชีวิตซะ!” หลินหยางชำเลืองมองอย่าโอหังทุกทิศทาง เสียงดังก้องราวสายฟ้า วาจาหนักแน่นไม่มีใครเทียม หางตาของหลูอ้าวตง แววตาอันดุร้ายแฝงไว้ด้วยความโกรธอย่างท่วมท้น มองไปทางหลินหยางแม้ว่าผู้ที่หลินหยางฆ่าจะเป็นเ
“พี่ หลูอ้าวตงเปิดไลฟ์ต่อสู้แล้ว! พาดหัวว่าเจียงไห่เซิงจะเอาชีวิตหลินหยาง!” มู่หรงหว่านเอ๋อร์ที่กำลังไถโทรศัพท์อยู่ ทันใดนั้นก็เห็นเข้ากับพาดหัวนี้ แล้วสะดุ้งตกใจ จึงรีบเรียกมู่หรงยิ่นมา มู่หรงยิ่นก็เห็นการถ่ายทอดสดบนหน้าจอ ทันใดนั้นใบหน้าที่สวยงามของเธอก็เคร่งขรึมบนหน้าจออีกฝั่งมีแค่หลินหยาง เพียงแค่คนเดียว แต่ฝั่งตรงข้ามกลับมีกำลังคนอยู่เป็นจำนวนมาก รายล้อมอยู่ข้างกายหลูอ้าวตงเว่ยจ้ง เจียงไห่เซิง จ้าวเจี้ยนชิง เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นกองกำลังรบสูงสุดของเมืองลั่ว! ยิ่งไปกว่านั้นไม่ต้องพูดถึงปรมาจารย์เสวียนอีกคนที่อยู่ข้างกายหลูอ้าวตง! “พี่คะ ของคิดหาวิธีดูหน่อย ว่าจะช่วยหลินหยางได้ไหม เจียงไห่เซิงก็เป็นทายาทของสี่มหาปรมาจารย์ ที่มีชื่อเสียงมานานหลายปี หลินหยางสู้ไม่ไหวแน่! “ มู่หรงหว่านเอ๋อร์เอ่ยออกมาอย่างกังวลใจ “คิดว่าฉันไม่อยากช่วยงั้นเหรอ? อย่าพูดว่าฉันเลย ต้องเรียกได้ว่าทั้งตระกูลมูหรง ล้วนอยู่ในสายตาของหลูอ้าวตง เป็นเพียงแค่แมงกระชอนก็เท่านั้นเอง......” มู่หรงยิ่นรู้สึกไร้กำลังจากก้นบึ้งของหัวใจ ตระกูลหลูในตอนนี้ทรงพลังเกินไป ต่อให้ตนจะคิดอยากช่วยหลินหยางอย่างไร ก
“งั้นก็ดี...”ซ่งหว่านอวี๋ฝืนยิ้มตอบ ดวงตาก็จับจ้องไปที่หลินหยางผู้โดดเดี่ยวบนหน้าจออยู่ครู่หนึ่งในเวลาเดียวกัน ณ คฤหาสน์ตระกูลหลิ่วแห่งหมู่บ้านตี้เหา ที่เกือบจะว่างเปล่า หลิ่วเฉิงจื้อที่นั่งอยู่บนโซฟา ด้วยสีหน้าซีดเผือด ข้างกายมีอวี๋ผิงที่พูดออกมาทั้งกำลังร้องไห้และสาปส่ง “ต้องโทษที่เธอตาบอด แถมตอนแรกยังคิดไม่ถึงอีกว่าจะอยากเลี้ยงเจ้าจิ้งจอกตาขาวนั่นอีก” “ตอนนี้ดีแล้วสิ ที่เขาหันมาต่อต้านคนอื่น เห็นได้ชัดเลยว่าแค่ยื่นมือออกมาก็จะช่วยเหลือพวกเราได้ แล้วก็จะมองมาที่ความเดือดร้อนของเราทันที!” “ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว!” หลิ่วเฉิงจื้อที่ไร้ทั้งกำลังและจิตวิญญาณ หลังจากที่ถูกไล่ออกมาจากสมาคมการค้าวั่นเหา หงชังไฮ่ก็กดขี่เขาทุกกระเบียดนิ้ว ทางธนาคารก็ได้ทีขี่แพะไล่ ถอนเงินกู้ของบริษัทออกจนหมดในตอนนี้ตระกูลหลิ่วจึงเป็นหนี้ท่วมหัว เฟอร์นิเจอร์ถูกเจ้าหนี้ลากออกไปจนว่างเปล่า และต่อไปตัวเองก็จะต้องไสหัวออกไปจากเมืองลั่วด้วย.... เขาเหนื่อยล้าทั้งกายและใจอย่างช่วยไม่ได้ “พ่อคะแม่คะ ถึงเวลาหายนะของไอ้หลินหยางนั่นแล้ว!”ในตอนนี้ หลิ่วฟู่อวี่วิ่งพุ่งออกมาจากห้องด้วยความดีอกดีใ
ณ ทะเลสาบเฉาอิน บนเกาะกลางทะเลสาบ มีเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งลงจอด เห็นเพียงแค่ฉินเจิ้งคุนที่พาฉินอี๋หลิง และชายวัยกลางคนหน้าตาซีดเซียวเหี่ยวแห้งออกไปทางเหลืองเหมือนเทียนไขเดินออกมา หลูอ้าวตงมองไปยังฉินเจิ้งคุนทั้งสามที่เดินมุ่งหน้าเข้ามา ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย แต่ฉินเจิ้งคุนทั้งสามทำราวกับว่ามองไม่เห็นพวกเขา เดินมุ่งหน้าไปทางเดียวกัน เขาเอ่ยออกมาด้วยท่าทางมืดครึ้ม “มาอย่างที่คิดไว้จริงด้วย จับตาดูพวกเขาไว้ให้ดี!” น้ำเสียงทุ้มต่ำลง เหยาจงก้าวออกมาข้างหน้าหนึ่งก้าว สังเกตเห็นเจตนาความเป็นศัตรูอยู่เต็มหน้าของชายวัยกลางคนหน้าตาซีดเซียวที่อยู่ด้านหลังฉินเจิ้งคุนท่านนั้นทำให้เขารับรู้ได้ถึงปรมาจารย์เสวียนผู้ยากต่อการจัดการ แม้ว่าหลูอ้าวตงจะปิดกั้นเกาะกลางทะเลสาบทั้งหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งฉินเจิ้งคุนได้ แต่อีกด้านหนึ่ง ฉินเจิ้งคุนที่ไม่ได้เห็นหลูอ้าวตงอยู่ในสายตา เพียงแค่มองไปที่หลินหยางด้วยความสนใจ ก่อนจะหันไปพูดกับฉินอี๋หลิง “ในที่สุดก็เดินมาจนถึงขั้นนี้ เด็กหนุ่มมันหลงระเริงมากเลย” “ท่านพ่อรู้เหมือนหลับตาเห็นเลยค่ะ นับว่าหลินหยางก้าวเข้าสู่ความตายทุกย่างก้าว!” ฉิน
ร่างกายของฮิเดนากะ ยามาโมโตะเหมือนกับระเบิด แฝงไปด้วยพลังมหาศาล!“บ้าเอ๊ย!”จ้าวเจี้ยนชิงรีบจับเอาไว้อย่างรวดเร็ว พยายามรักษาระยะห่างกับหลินหยางแต่ทว่าหลินหยางกลับขยับตัวเข้าไปใกล้! ตามเขาไปอย่างใกล้ชิด!ทันใดนั้น แม้ว่าเป็นพวกคนสนิทของจ้าวเจี้ยนชิงก็ไม่กล้าเหนี่ยวไก กลัวว่าจะพลาดทำจ้าวเจี้ยนชิงบาดเจ็บ!“ไสหัวออกไป!”จ้าวเจี้ยนชิงคำรามออกมาพร้อมทั้งสวนหมัดออกไป อยากจะบีบให้หลินหยางถอยออกไปแต่หลินหยางกลับคว้าข้อมือของเขาเอาไว้ กล่าวพร้อมแสยะยิ้ม “คิดจะหนี? แกหนีพ้นเหรอไง?”จ้าวเจี้ยนชิงสีหน้าตกใจ ออกแรงอย่างบ้าคลั่งพยายามจะทำให้หลุดพ้นแต่ทว่ามือของหลินหยางเหมือนกับคีม ขยับเขยื้อนไม่ได้เลยสักนิด! ในทางกลับกันมีเสียงดังสนั่นกลุ่มหนึ่งลอยมา ทำให้จ้าวเจี้ยนชิงรู้ว่าตนเองราวกับถูกพันธนาการเอาไว้แน่น!“แม่งเอ๊ย แกปล่อยมือฉันเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงขี้ยาพวกนั้น!” จ้าวเจี้ยนชิงกล่าวข่มขู่ด้วยความโมโหเพี้ยะ!ทันใดนั้นก็ถูกตบหน้าฉาดหนึ่ง!นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงและหนักหน่วง เสียงเปรี้ยงดังขึ้นทำให้หัวของจ้าวเจี้ยนชิงสั่นสะเทือน!“การตบนี้ ตบเพราะแกลืมรากเหง้า!” หลิ
เปรี้ยง!หลินหยางสวนหมัดสังหารออกไปทันที หมัดนี้เต็มไปด้วยเจตนาฆ่า!เขาต้องการจะเอาชีวิตสุนัขของเขา!แต่ทว่าในเวลานี้ ทันใดนั้นที่ประตูใหญ่ของตระกูลเฉิงก็แหลกละเอียด จ้าวเจี้ยนชิงพังประตูออกมา ขวางเอาไว้ที่ด้านหน้าของฮิเดนากะ ยามาโมโตะ สวนหมัดเพื่อโจมตีออกไปเช่นกัน!หมัดทั้งสองปะทะเข้าใส่กัน เกิดเสียงดังเปรี้ยงขึ้นทีหนึ่งแล้วทั้งสองก็ถูกแรงสั่นสะเทือนลอยออกไปพร้อมกันร่างกายของจ้าวเจี้ยนชิงร่นถอยไปหลายก้าวติดต่อกัน เสียงดังเปรี้ยง หินแผ่นหนึ่งถูกบดขยี้อยู่ใต้เท้า“ปรมาจารย์หลิน เรื่องเล็กน้อยนี้ควรค่าที่จะให้คุณต้องโมโหขนาดนี้เลยเหรอ? ไม่คู่ควรหรอกน่า”จ้าวเจี้ยนชิงยืนเอามือไพล่หลัง สายตาที่จ้องมองหลินหยางราวกับกำลังชื่นชม หลินหยางยิ่งโกรธ เขาก็ยิ่งรื่นรมย์ เขาถูกหลินหยางทำให้โมโหจนขาดสติหลายครั้ง ยินดีมากที่จะได้เห็นหลินหยางโมโห“ไม่ผิด!” ฮิเดนากะ ยามาโมโตะกลับกล่าวพร้อมรอยยิ้มเยาะหยัน “พวกเธอเป็นผู้หญิงเสพยาทั้งนั้น ฉันปรารถนาดีหางานให้พวกเธอ ยังจัดการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนั้นให้คุณอีก”“ปรมาจารย์หลินยังจะตำหนิผมอีก ผมนี่มันทำดีแต่ไม่ได้ดีเลยจริง ๆ!”แต่ทว่าทันทีที่พูดจบ
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ