ฝีเท้าของฉินอี๋หลิงชะงักลง สีหน้าปรากฏความประหลาดใจและไม่เข้าใจขึ้นมา จากนั้นความไม่เข้าใจก็แปรเปลี่ยนเป็นความรังเกียจถ้าหลินหยางมีวิธีการรับมือกับตระกูลหลูจริงๆ เมื่อครู่จะถูกซ้อมจนมีสภาพย่ำแย่แบบนั้นได้อย่างไร!ถ้าไม่ใช่เพราะการมาถึงของเธอ ตอนนี้เขายังถอนตัวออกมาไม่ได้เลยจะตายอยู่แล้วยังทำปากเก่งอีก!“คุณไม่ใช่แค่หยิ่งผยอง ยังอวดเก่งอีกดู ดูท่า ฉันคงมองคุณผิดไปแล้ว!”“วิชาแพทย์พวกนี้มาอยู่กับคุณ ช่างเป็นการเสียดายของจริงๆ ถ้าฉันมีวิชาแพทย์แบบนี้ ฉันจะต้องใช้มันให้เกิดประโยชน์สูงสุดแน่!”เมื่อเธอกล่าวด้วยผิดหวังและเสียดายจบ ก็หมุนตัวจากไปต่อให้หลินหยางบังเอิญโชคดีได้เรียนรู้ทักษะการแพทย์มาเล็กน้อย แต่คนชั้นต่ำก็คือคนชั้นต่ำ!ยังคงไม่อาจแก้ไขกมลสันดานของชนชั้นต่ำที่ทะเยอทะยานแต่ไร้ความสามารถ เมื่อเปรียบกับชนชั้นสูงแบบตนแล้ว ก็คนละโลกเลย!ต่อให้มอบวิชาแพทย์อันล้ำเลิศไร้ใดเปรียบให้กับคนชั้นต่ำ พวกเขาก็ใช้ได้ไม่ดี มีแต่ชนชั้นสูงแบบเธอ จึงจะมีสิทธิ์ครอบครองวิชาแพทย์เช่นนี้!หลินหยางที่ถูกเธอสะบัดทิ้งไว้ข้างหลัง เพียงแต่ยิ้มอย่างเยาะหยันเท่านั้น “ทอดวิชาของเทพโอสถ? เธอคู่ควรเหร
แต่ไหนแต่ไรมาเมืองลั่วก็ให้กำเนิดสาวงามมากมาย จุดนี้เป็นที่เลื่องลือไปทั่วแดนใต้ของประเทศหลง เหล่าแฟนคลับสาวของหลินหยางต่างก็คุณภาพดีทั้งนั้น!เหล่าผู้ชมที่เป็นบุรุษต่างพากันชมดูจนตาทั้งสองข้างลุกเป็นไฟ อิจฉาริษยาหลินหยาง เกรงว่าสาวงามทั่วทั้งเมืองลั่วคงจะถูกหลินหยางรวบไว้คนเดียวแล้วส่วนแบ่งของพวกตน ล้วนถูกหลินหยางแย่งไปแล้ว!นี่ปรมาจารย์หลินจะสร้างฮาเร็มในเมืองลั่วหรือ?พวกเขาอิจฉาจนคลุ้มคลั่ง! ฉันก็อยากจะกลายเป็นคนแบบปรมาจารย์หลินเหมือนกัน!หลินหยางสูดลมหายใจเข้าครั้งหนึ่ง ดูเหมือนตอนอวดเท่ตนเองจะเล่นใหญ่ไปหน่อย จนบรรดาแฟนคลับกระตือรือร้นเกินไป!ถ้าไล่ทำให้แต่ละคนสมหวังล่ะก็ เกรงว่าตนเองคงต้องหมดแรงตายแน่ๆสถานการณ์ในตอนนี้ อันตรายยิ่งกว่าตอนที่เผชิญหน้ากับเหยาจงเสียอีกเขาไม่พูดอะไรอีก ทิ้งคำพูดไว้เพียงประโยคเดียวว่า ให้หานลี่ฉินส่งสมุนไพรพวกนั้นไปให้ตนที่บ้าน และยังไม่ทันที่หานลี่ฉินจะรับปากหลินหยางก็ใช้วิชาอสนีบาตสามสหัสสะออกมา ร่างกลายเป็นเงาสายหนึ่ง จนทุกคนรู้สึกเพียงเบื้องหน้าพร่ามัวไปเท่านั้นปรมาจารย์หลินก็หายไปจากเบื้องหน้าแล้ว ทำเอาคนทั้งหลายพากันถอนหายใจด้วยควา
ต่อให้วิชาแพทย์ของหลินหยางจะดีแค่ไหน ปรมาจารย์ระดับต้นก็เป็นแค่ปรมาจารย์ระดับต้น ไม่สามารถต่อกรกับปรมาจารย์ระดับเสวียนได้“พวกเราก็ถือว่าช่วยหลินหยาง เขาสายตาคับแคบ วิชาแพทย์ล้ำเลิศนั่นอยู่ในมือเขาก็เป็นการสิ้นเปลือง วิชาแพทย์ที่ยอดเยี่ยมไร้ที่เปรียบแบบนี้ มีแต่อยู่ในกำมือชนชั้นสูงแบบพวกเรา ถึงจะเกิดประโยชน์สูงสุดได้” “ถือได้ว่าพ่อตอบแทนพระคุณช่วยชีวิตของเขา ด้วยการชี้ทางสว่างให้เขา"ฉินเจิ้งคุนพูดอย่างเป็นธรรมชาติอย่างมาก เขาคิดว่าชนชั้นต่ำแบบหลินหยางสายตาคับแคบ ไม่มีสิทธิ์ และไม่มีความสามารถที่จะครอบครองของดีถูกกำหนดมาให้เป็นข้ารับใช้ของชนชั้นสูงเท่านั้นเขาจำเป็นต้องมีชนชั้นสูงแบบตน มาเป็นนายของเขา“เมื่อถึงเวลานั้น คุณพ่อก็จะใช้วิชาแพทย์เลิศล้ำพวกนั้นของหลินหยางได้ตามใจ!"“ประมุขตระกูลกำลังจะสิ้นอายุขัยแล้ว ถึงตอนนั้น คุณพ่อก็จะมีคุณสมบัติในการชิงตำแหน่งประมุขตระกูลแล้ว!”“หนูจะไปจับตาดูหลินหยางเดี๋ยวนี้ค่ะ ไปรอให้เขาพ่ายแพ้!”ดวงตาของฉินอี๋หลินเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ตอนนี้เธอเห็นหลินหยางเป็นข้ารับใช้ที่ถูกกำหนดไว้แล้ว รอเพียงดูเรื่องตลกของหลินหยางแล้ว“จัดคนไปสืบคว
เธอจ้องมองใบหน้าที่ไม่สะทกสะท้านของหลินหยาง ในใจเกิดความนับถืออย่างอดไม่ได้ในเวลาที่อันตรายแบบนี้ หัวสมองของหลินหยางยังมีสติเช่นนี้ มองแผนการเบื้องหลังของฉินเจิ้งคุนได้ทะลุปรุโปร่งทันทีแผนชั่วของบุคคลใหญ่โตเหล่านี้ เดิมทีก็ล้วนอยู่ในการคาดการณ์ของเขา!แผนการที่แยบยลนี้ สภาพจิตใจมั่นคง สมกับเป็นคนที่เทพโอสถชอบใจ!“ฉินเจิ้งคุนนิสัยโฉดชั่วอย่างที่คิดเอาไว้จริง ๆ...”เมื่อเธอเอ่ยถึงฉินเจิ้งคุน สีหน้าก็หมองหม่นขึ้นไม่น้อย หนึ่งในวงศ์ตระกูลใหญ่ของเมืองเล็ก ๆทางตอนใต้ของประเทศหลง เมื่อเทียบกับผู้สืบทอดของเทพโอสถ ราวกับหิ่งห้อยที่แย่งชิงแสงสว่างกับพระจันทร์ยามสว่างไสว!เขากล้าอยากจะได้หลินหยางตาเป็นมัน ช่างเป็นการแกว่งเท้าหาเสี้ยนจริง ๆเลย!โชคดีที่นายท่านฉลาดมากพอ คาดการณ์แผนการล่วงหน้าของเขาเอาไว้ได้ล่วงหน้า ไม่อย่างนั้นหลินหยางทำตามข้อเสนอแนะของตนเอง ยอมจำนนต่อฉินเจิ้งคุน เรื่องราวอาจจะกลับกลายเป็นยุ่งยากเหยียนหรูอวี้เองก็เป็นห่วงและสับสนเช่นกัน ถึงอย่างไรสถานการณ์ในตอนนี้ของหลินหยางก็ไม่ดีนัก ถ้าหากสงบสติอารมณ์แล้ววิเคราะห์อย่างละเอียด ด้วยความเฉลียวฉลาดของเธอ ก็ไม่ยากที่จะพบแผน
หลินหยางเดินเข้าประตูไป ก็เห็นลั่วหงอวี๋กำลังชงชา ด้วยท่าทางสงบและสง่างามเมื่อเห็นหลินหยางมาถึง ลั่วหงอวี๋ก็วางชาถ้วยหนึ่งลงบนโต๊ะฝั่งตรงข้าม “คุณเป็นแขกที่นาน ๆมาที”เธอกับหลินหยาง เจอกันที่ภูเขาจื่อเสียตลอด เป็นครั้งแรกที่ หลินหยางมาหาอย่างกะทันหัน เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยจากนั้นหลินหยางก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วนั่งลงอย่างคุ้นเคย กล่าวอย่างรู้สึกละลายใจเล็กน้อย “รู้จักกับเถ้าแก่ลั่วมานานขนาดนี้ เพิ่งจะได้มาเยี่ยมเยียนเป็นครั้งแรก เป็นผมที่คิดไม่รอบคอบ!”“กำลังจะมีการต่อสู้กับเจียงไห่เซิงอยู่รอมร่อแล้ว ผมต้องผ่อนคลายหน่อย ดังนั้นเลยจะมาเลี้ยงข้าวเถ้าแก่ลั่ว แล้วก็ถือว่าเป็นการแสดงความขอบคุณความช่วยเหลือของเถ้าแก่ลั่วในช่วงระยะนี้ด้วย”“คุณมาร้านอาหารของฉัน เพื่อเลี้ยงข้าวฉัน?”ลั่วหงอวี๋ตะลึงงันไป พร้อมกับยิ้ม เธอเองก็ไม่ได้สนใจ สั่งให้พนักงานบริการเตรียมเสิร์ฟอาหารเธอพาหลินหยางไปยังห้องวีไอพี หลังจากที่ทั้งสองคนนั่งลง ลั่วหงอวี๋หันไปมองหลินหยางที่มามือเปล่า กล่าวพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ได้พกเหล้ามาด้วย?”หลินหยางรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย “มาด้วยความรีบร้อน เลยลืมพกมาด้วย ครั้งหน้าจะชดเ
เหมือนกับน้ำครึ่งแก้วอย่างฉินเจิ้งคุน ฉินอี๋หลิง ไม่มีทางรู้จักอะไรแบบนี้ และไม่รู้จักพลิกแพลงเป็นอย่างยิ่งในมุมมองของหลินหยาง ดูเหมือนว่าลั่วหงอวี๋จะลึกลับมากกว่าที่ตนคิดเอาไว้?“ยังมีคนเคยพูดแบบนี้กับคุณด้วยเหรอ?”ลั่วหงอวี๋เองก็หันไปมองหลินหยางอย่างประหลาดใจ“ก็ไม่เชิง เพียงแค่เคยถูกพวกคนชั่วบางคนดูถูกเท่านั้น มีคำพูดประโยคนี้ของเถ้าแก่ลั่ว ผมก็เข้าใจว่าความรู้ของคนชั่วพวกนั้น น่าตลกแค่ไหน!”หลินหยางปกปิดเอาตัวรอดแบบขอไปที ความสัมพันธ์ของตนกับลั่วหงอวี๋ก็ถือว่าไม่เลว แต่จะลืมคำสั่งเสียของปรมาจารย์เทพโอสถไม่ได้ ยังไม่ถึงระดับเทพ ห้ามเปิดเผยอาจารย์“คนชั่ว...”ลั่วหงอวี๋ชะงักฝีเท้าไปเล็กน้อย สายตาที่ราวกับสายน้ำในฤดูใบไม้ร่วง หันไปมองข้างหน้า “หมายถึงเขาเหรอ?”แต่เห็นเพียง ไม่รู้ว่าเหยาตงมายืนอยู่ที่สุดถนน ตั้งแต่เมื่อไหร่ ในสีหน้าเรียบเฉยแฝงไปด้วยความเย็นเยียบ มองมาทางหลินหยาง“เจ้าหนุ่ม ความตายมาเยือนตรงหน้า ยังมีจิตใจมาหาผู้หญิงอยู่อีกเหรอ?”“ไอ้แก่ ตระกูลของพวกแกเกิดปีจอเหรอไง ถึงได้กลิ่นมาถูก?”หลินหยางกล่าวอย่างอวดดี“ไอ้หนุ่ม ความตายมาเยือนตรงหน้ายังกล้าเสียมารยาทอ
แต่เหยาจงไม่กล้าลงมือง่าย ๆ ลั่วหงอวี๋ที่อยู่ตรงหน้า ทำให้เขาหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่งตนเป็นปรมาจารย์เสวียนระดับสาม คนนี้สามารถทำให้ตนบาดเจ็บได้ง่าย ๆ อย่างน้อยก็ต้องเป็นปรมาจารย์เสวียนระดับสี่!แน่นอนว่า เมื่อครู่นี้เขาเองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน ถึงได้ประมาทดูถูกศัตรูไป ไม่อย่างนั้นก็ไม่ถึงกับต้องเสียหูหนึ่งข้างหรอกเขาคิดไม่ถึงว่า สถานที่เล็ก ๆอย่างเมืองลั่ว จะมียอดฝีมือแบบนี้ซ่อนอยู่!“แกเป็นใครกันแน่? ถึงได้กล้าขัดขวางตระกูลหลูของฉัน! แกรู้ไหมว่าคนคนนี้เป็นศัตรูตัวฉกาจของตระกูลหลูของฉัน ฉันขอเตือนแกว่าอย่างยุ่งเรื่องชาวบ้านมากนัก จะนำภัยพิบัติมาใส่ตัวเอง”“ตระกูลหลูแห่งซิ่นหลิง?” ลั่วหงอวี๋กล่าว“รู้ก็ดี! คนนี้ล่วงเกินสมาชิกคนสำคัญของตระกูลหลู ตอนนี้นายท่านตงหลูอ้าวตง ต้องการชีวิตของไอ้หมอนี่!”เมื่อเอ่ยถึงตระกูลหลู เหยาจงก็รู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก กล่าวอย่างเหยียดหยาม “รู้จักวางตัว ก็ถอยออกไป จากนั้นกลับไปกับฉัน ขอรับโทษกับนายท่านตง บางทีนายท่านตงเห็นว่าแกหน้าตาสวย อาจจะไม่เอาเรื่องก็ได้!”ตอนที่เขาหันไปมองลั่วหงอวี๋ ในดวงตาค่อนข้างเร่าร้อนผู้หญิงคนนี้หน้าตาสวยมาก บุคลิกเรียบ
“สามารถบีบให้ฉันใช้ทะยานบันไดเมฆา! เด็กอย่างแกควรจะได้รู้สึกเป็นเกียรติ!”เหยาจงแค่นเสียงหัวเราะนี่คือวิชาตัวเบาอันล้ำค่าของเขา ถือเป็นวรยุทธ์ขั้นเสวียนเช่นกัน วรยุทธ์นี้ทำให้เขาถูกขนานนามว่าว่องไวอันดับหนึ่ง ในแดนปรมาจารย์เสวียน ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นปรมาจารย์เสวียนระดับสาม แต่ความว่องไวนี้สามารถเทียบเท่ากับปรมาจารย์เสวียนระดับห้าได้!ถึงแม้ว่าเขาจะหวาดกลัวลั่วหงอวี๋ ถ้าใช้ความเร็วแบบนี้ ก็สามารถเอาชีวิตของหลินหยางได้!สถานที่เล็ก ๆเช่นเมืองลั่วนี้ มีปรมาจารย์เสวียนปรากฏตัวขึ้นก็สามารถให้เขาประหลาดใจมากพอแล้ว ปรมาจารย์เสวียนมีเก้าระดับ หนึ่งระดับหนึ่งชั้นฟ้า การเพิ่มขึ้นแต่ละระดับยากเหมือนขึ้นสวรรค์เขาไม่เชื่อว่าลั่วหงอวี๋จะมีพละกำลังเป็นปรมาจารย์เสวียนระดับห้า!ภายในเวลาชั่วพริบตา เขาเบิกตากว้าง สีหน้าปรากฏความเหลือเชื่อ ราวกับว่าได้เห็นผีจริง ๆเห็นลั่วหงอวี๋ปรากฏกายต่อหน้าของเขาโดยไม่มีลางเลยแม้แต่น้อย สีหน้าที่เรียบเฉยนั่น ราวกับไม่ใช่มนุษย์คนธรรมดาเดินดินทั่วไป เขามองไม่เห็นการเคลื่อนไหวใด ๆของลั่วหงอวี๋เลยสักนิด!“แก...”เขาตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง จนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดีย
“เหลวไหล!” หลินไร้ศัตรูกลับค้อนเขาทีหนึ่งแล้วกล่าว “หลานชายของฉันเป็นสายเลือดโดยตรงรุ่นที่สามที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตระกูลหลิน! ถ้าหากเขาไม่อยู่แล้ว กิจการมากมายของตระกูลหลินจะส่งต่อให้ใครดูแล?!”“คือ...”ว่านเหลยกล่าวด้วยท่าทางลำบากใจ“พยายามตามหาเข้า ถึงอย่างไร...” หลินไร้ศัตรูถอนหายใจเบา ๆ ทีหนึ่ง กลับมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย “ตอนนั้นเป็นเพราะตระกูลหลินของฉันติดค้างเขาแล้วก็ยังมีพี่ชายคนโตของฉันด้วย หนี้ก้อนนี้ จำเป็นต้องคืน”อีกทางด้านหนึ่งหลินหยางกลับจามอย่างรุนแรง “ใครกำลังด่าฉัน? แม่งเอ๊ย จะต้องเป็น...”เมื่อลองคิด ๆ ดูแล้วเหมือนว่าศัตรูที่อยากจะด่าตนมีเยอะแยะมากมาย หลินหยางก็คร้านจะนับเช่นกันมองดูเวลาแวบหนึ่งก็เป็นตอนกลางคืนแล้ว เขาจึงออกจากบ้านด้านนอกคฤหาสน์ หลี่หรูเยว่ได้ยืนอยู่ที่ด้านหน้ารถแล้ว เปิดประตูรถให้หลินหยาง กล่าวด้วยความเป็นห่วงเล็กน้อย “ตระกูลเฉิงจัดงานเลี้ยงไว้รอแล้ว แต่ว่าจ้าวเจี้ยนชิงอยู่ที่งานเลี้ยงนั่นด้วย ที่นั่นจะต้องมีกองทัพทหารคอยเฝ้าอยู่!”ถ้าหากจ้าวเจี้ยนชิงเป็นสุนัขจนตรอก เรื่องจะต้องมีความยุ่งยากขึ้นแน่“งานใหญ่ขนาดนี้ ฉันจะพลาดได้ยังไ
ชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านของปลายสายโทรศัพท์ราวกับตะลึงงันไปครู่หนึ่ง เหมือนว่าจู่ ๆ ก็ได้เห็นความหวัง กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือเล็กน้อย “คุณรักษาได้จริง ๆ เหรอ?”“คือว่าค่าตอบแทนนี่...”“ค่าตอบแทนไม่ใช่ปัญหา! ขอเพียงแค่คุณสามารถรักษาพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกได้ คุณอยากได้อะไรก็ว่ามาได้เลย!”“ยอดเยี่ยม! โสมคนอายุสามร้อยปีสักสามสิบต้น สมุนไพรอายุห้าร้อยปีสิบต้น...”หลินหยางก็ไม่ได้เกรงใจเช่นกัน จากนั้นก็สั่งสมุนไพร ราวกับสั่งอาหาร สมุนไพรพวกนี้มากพอที่จะทำให้หลูอ้าวตงต้องเจ็บปวดใจแต่ทว่าปลายสายกลับกล่าวด้วยความไม่ลังเลเลยแม้แต่น้อย “ได้! คืนนี้ผมจะให้รถไปรับคุณ!”น้ำเสียงที่ดีใจดีนี้ ทำให้หลินหยางรู้สึกเหมือนกับว่าตนเสนอราคาต่ำไปแต่ว่าไม่เสียใจภายหลัง เขาก็ไม่ได้สนใจอีก “โรคพิษเหมันต์แทรกซึมเข้ากระดูกจะรีบร้อนไม่ได้ ผมจำเป็นต้องเตรียมตัวสักหน่อย ถึงเวลานั้นผมจะแจ้งให้คุณทราบ”ชายวัยกลางคนนั้นรับปากทันทีหลินหยางวางสายโทรศัพท์ พูดเบา ๆ “ดูท่าจะเป็นมหาเศรษฐี”อีกฝ่ายไม่ยินยอมที่จะเปิดเผยตัวตน ยังสามารถเอาสมุนไพรมากมายขนาดนี้มาให้ได้อีก ตัวตนจะต้องสูงส่งมาจนไม่สะดวกที่จะเ
หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆ รางวัล?คงไม่ใช่เป็นเพราะเขาเป็นลูกผู้ชายร่างกายกำยำใช่ไหม?เหยียนฮ่าวสีหน้าซีดขาวทันที คุกเข่าลงบนพื้นเสียงดังตึง “คุณหลิน ผมมีตาหามีแววไม่ คุณหลินได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย!”หลินหยางจ้องมองเขาอย่างหมดคำพูดแวบหนึ่ง “จ้าวเจี้ยนชิงอยู่กับตระกูลเฉิง สมคบคิดกับชาวตงอิ๋งค้ายาเสพติด แกไปตรวจสอบให้ละเอียด นี่เป็นผลงานความดีความชอบครั้งใหญ่ใช่ไหม?”“ค้ายาเสพติด? เขากล้าขนาดนั้นเลยเหรอ?”เหยียนฮ่าวเหลือเชื่อ“นายลองไปตรวจสอบคลังสินค้าเทียนหนาน ที่นั่นเป็นจุดที่พวกมันขนส่งสินค้า” หลินหยางกล่าวอย่างสบาย ๆซ่งหว่านอวี๋เป็นคนบอกข่าวกรองนี้ด้วยตัวเอง โชคดีที่มหาปรมาจารย์หลินทำงานอย่างยากลำบากบนเตียงเหยียนฮ่าวดีใจเป็นล้นพ้นขึ้นมาทันที นี่ไม่เพียงแต่เป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่เป็นความดีความชอบที่โคตรยิ่งใหญ่ประเทศหลงอ่อนไหวต่อยาเสพติดมากที่สุด และจ้าวเจี้ยนชิงเข้าร่วมด้วย ปริมาณของยาเสพติดนั่นจะต้องไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แน่นอน!“ขอบพระคุณคุณหลิน! ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้!”แม้แต่ความกังวลของเหยียนฮ่าวที่ถูกวางพิษกู่ ก็จางหายลงไปไม่น้อยรีบเรียกรวมคนแล้วออกไป กา
จ้าวเจี้ยนชิงตกตะลึงไปแล้ว “ราง รางวัลพลเมืองดีเด่น?”เฉิงคั่วร้อนใจ “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าคนตายคาที่ ทุกคนเห็นกันหมด! คุณทำ...”เสียงเพี้ยะดังขึ้นทีหนึ่ง!เหยียนฮ่าวสะบัดฝ่ามือเข้าไปที่บนใบหน้าของเขา เขากล่าวเสียงขรึม “เมื่อครู่นี้แกเห็นอะไร?”“ผม...”เฉิงคั่วสีหน้าซีดขาว ภายใต้สีหน้าที่เย็นยะเยือกของเหยียนฮ่าว กลับไม่กล้าพูดอะไรอีกเขาเป็นปรมาจารย์บ้านนอกคนหนึ่ง จะล่วงเกินเหยียนฮ่าวไม่ได้อย่างเด็ดขาด!“พวกแกเห็นอะไร?”เหยียนฮ่าวกวาดสายตามองคนอื่นด้วยสีหน้าเย็นชาพร้อมกล่าวขึ้นอีกครั้งทั้งหมดนิ่งเงียบ“คดีของวันนี้ง่ายมาก!” เหยียนฮ่าวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก “หวังเทียนเหิงรัฐมนตรีกรมอัยการสูงสุด กลั่นแกล้งประชาชน บังคับใช้กฎหมายที่รุนแรง!”“คุณหลินป้องกันตัวตามกฎหมาย ถือว่าเป็นการอพยพฉุกเฉิน!”“ผมพูดจบแล้ว มีใครเห็นด้วย มีใครคัดค้านไหม?”การอพยพฉุกเฉินสามารถฆ่าคนได้ตามใจชอบอย่างนั้นเหรอ? ไม่มีเหตุผล!ทุกคนตะลึงงันแต่ว่าภายใต้สายตาของเหยียนฮ่าว สีหน้าของทุกคนดูไม่ดีแต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก เพียงเพราะบิดาของเหยียนฮ่าวยังเป็นอธิบดีกรมอัยการสูงสุด คำพูดของเขาก็คือกฎหม
เหยียนฮ่าวรู้สึกหมดความอดทนอยู่บ้าง “อยากจะเจรจาก็รีบพูดมา ไม่พูดฉันจะไปแล้ว!”หลินหยางกลับจิบไวน์อึกหนึ่ง ถึงได้หันหน้าไปมองเขาแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “คุณชายเหยียน เหมือนว่าคุณจะเข้าใจผิดไปนะ”“คุณ มีสิทธิ์อะไรมาเจรจากับผม?”“ว่าอะไรนะ?”เหยียนฮ่าวงุนงงไปทันที หลินหยางเพียงแค่ดีดนิ้วทีหนึ่ง!ทันใดนั้น เหยียนฮ่าวก็ล้มลงไปบนพื้นอย่างรุนแรง กรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวดราวกับไม่ใช่เสียงของมนุษย์! ร่างกายคดงอราวกับกุ้งต้มสุก!ยังดีที่ครั้งก่อนต่อสู้ครั้งใหญ่กับหวังเหลียนเฉิง หลังจากทำลายคฤหาสน์จนพัง หลินหยางก็ได้ให้คนมาซ่อมแซมแล้ว ยังใช้วัสดุเก็บเสียงชั้นดีอีกด้วย ถึงไม่ทำให้เสียงร้องที่ราวกับจะขาดใจตายของเขาไม่ดังเล็ดลอดออกไปข้างนอกหลินหยางนั่งอยู่บนโซฟา ดื่มไวน์อย่างไม่รีบไม่ร้อน เอาหูไปนาเอาตาไปไร่กับเสียงร้องอันน่าเวทนานั่นหลังจากผ่านไปห้านาที ถึงได้ค่อย ๆ วางแก้วไวน์ลงเสียงร้องอันน่าเวทนาของเหยียนฮ่าวก็ค่อย ๆ หยุดลงเขาในเวลานี้นอนอยู่บนพื้น เหงื่อท่วมตัว สีหน้าซีดขาวจนน่าตกใจ แม้แต่พรมยังถูกเขาฉีกจนเละเทะ!“รู้สึกดีแล้วใช่ไหม?”หลินหยางกล่าวพร้อมรอยยิ้ม“แก แกทำอะไรกับฉัน?
“แกคิดว่าแกมีลั่วหงอวี๋คอยปกป้อง ก็จะทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างนั้นหรือ? เพ้อเจ้อ! บ้านเมืองมีขื่อมีแป แม้ว่าจะเป็นลั่วหงอวี๋ก็ไม่สามารถต่อต้านได้!”จ้าวเจี้ยนชิงรู้สึกมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีลั่วหงอวี๋ หลินหยางจะสามารถหนีมานานขนาดนี้ได้ยังไง!เขาทำได้แค่มองดูหลินหยางทำตัวอวดดีมานานขนาดนั้น แต่กลับไม่สามารถทำอะไรได้ ถูกบีบจนแทบจะเสียสติ!แต่ต่อหน้ากำลังของทางการ!ลั่วหงอวี๋ทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น!ในระหว่างที่พูด เขาหันไปพูดกับเหยียนฮ่าว “คุณชายเหยียน หลินหยางฆ่าข้าราชการของกรมอัยการสูงสุดต่อหน้าทุกคน ยังทำร้ายชาวตงอิ๋งจนบาดเจ็บ ทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม!”แม้แต่ฮิเดนากะ ยามาโมโตะก็รีบกล่าวเช่นกัน “คุณชายเหยียนได้โปรดให้ความเป็นธรรม แก่ชาวตงอิ๋งด้วย!”เหยียนฮ่าวเข้าใจในทันที หันหน้าไปมองหลินหยางแสยะยิ้มกล่าว “ไม่คิดเลยว่าแกจะก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขนาดนี้ ยังกล้าทำลายความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศอีกด้วย!”“ใครก็ได้!”ปรมาจารย์หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขาก้าวออกมาพร้อมกัน บนตัวแฝงไปด้วยสีหน้าอันดุร้าย ทุกคนเป็นปรมาจารย์ระดับแปด!
“ท่านรัฐมนตรี ท่านช่วยตบหน้ามัน แก้แค้นให้ผมหน่อยได้ไหม?”จ้าวเจิ้งฮ่าวรีบกล่าว“อนาคตอันน้อยนิดของแก...” หวังเทียนเหิงกล่าวอย่างเยาะหยัน“คงจะไม่ทำร้ายใครอีกใช่ไหม? แกควรคิดให้ดีล่ะ...”หลินหยางกล่าวด้วยความประหลาดใจหวังเทียนเหิงกลับตะคอก “ฉันจะทำร้ายแกจะทำไม!”ในระหว่างที่พูด เขาก็ตบหน้าเข้าไปฉาดหนึ่งท่าทางของเขาเหยียดหยามมาก หลินหยางปรมาจารย์ระดับเจ็ดแล้วยังไง ต่อหน้าฐานะอย่างตนเอง เขามีสิทธิ์อะไรมาขัดขืน?ต้องโดนตบหน้าแต่โดยดีเหมือนกัน!ครู่ต่อมา ความเหยียดหยามบนใบหน้าของเขาก็ชะงักไปทันทีฝ่ามือของเขาถูกหลินหยางจับเอาไว้ในมือ“ยังกล้าตอบโต้อีกเหรอ? ฉันเป็นถึงตัวแทนของทางการแห่งหนานหลิงเชียวนะ?!”หวังเทียนเหิงกล่าวด้วยความโมโห“รู้แล้ว ๆ”หลินหยางใบหน้าแฝงไปด้วยรอยยิ้ม“รู้แล้วก็...”หวังเทียนเหิงยังพูดไม่ทันจบประโยค หลินหยางกลับตบหน้าเขาฉาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว สำหรับหลินหยางแล้วถือเป็นการใช้กำลังเพียงน้อยนิดเท่านั้นแต่หวังเทียนเหิงกลับถูกตบลอยกระเด็นออกไปทันที ฟันผสมเลือดปลิวอยู่กลางอากาศ!นี่ยังไม่หมด ยังไม่รอให้เขาตกถึงพื้น หลินหยางเตะเขาลอยกระเด็นออกไปอีก หวังเ
เจียงรั่วหานหัวใจตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นห่วงชายชู้ของตนเอง ครั้งนี้หลินหยางตกอยู่ในอันตรายจริง ๆ!อย่างไรเสียใช้ยศตำแหน่งข่มเหงคนอื่น!ซ่งหว่านอวี๋ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก็ถอนหายใจในใจเช่นกัน ต่อให้ตำแหน่งของหลินหยางที่เมืองลั่วสูงกว่านี้แล้วจะยังไงต่อหน้าผู้มีอิทธิพลอย่างหวังเทียนเหิง ก็ทำได้แค่เพียงอดกลั้นเท่านั้น!“จะตรวจสอบงั้นก็ได้ แต่ก็ต้องทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย”หลี่หรูเยว่สีหน้าไม่สุขุม แต่กลับไม่กล้าให้หลินหยางมีข้อหาขัดขวางทางการติดตัว“กฎหมาย?” หวังเทียนเหิงยิ้มเยาะ กล่าวด้วยท่าทีหยิ่งยโส “คำพูดของฉัน ก็คือกฎหมาย! มีปัญหา? เข้าไปในห้องกับฉันค่อย ๆ คุยกัน ถ้าทำให้ฉันพอใจได้ ไม่แน่ว่าฉันอาจจะปล่อยแกไปสักครั้ง!”เขาทำตัวอวดดีกำเริบเสิบสาน! ถึงอย่างไรเหยียนฮ่าวก็ได้แทรกแซงคดีนี้ด้วยตนเองแล้ว ถ้าอยากจะจับหลินหยางให้อยู่หมัด! ต้องมีหลักฐานแน่ชัด ทำให้หลินหยางดิ้นไม่หลุดตลอดไป!ส่วนการหลับนอนกับปรมาจารย์ระดับแปดคนหนึ่ง นั่นก็เป็นเพียงเรื่องของผลพลอยได้เท่านั้น!เขาจ้องมองสำรวจรูปร่างที่สวยงามประณีตของหลี่หรูเยว่ด้วยสายตาที่ร้อนผ่าว มีความร้อนกลุ่มหนึ่งพลุ่งพล่านขึ้นในท้องน้อยข
แต่กลัวว่าเขาจะฉวยโอกาสช่วงจังหวะชุลมุน ลงมือกับจ้าวเจิ้งฮ่าว!“นายพลจ้าววางใจ”สีหน้าเฉิงคั่วหนักใจ ก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งในฐานะที่เขาเป็นปรมาจารย์ระดับห้า ประกอบกับมีนักรบทหารองครักษ์ชาวตงอิ๋งที่มีระดับมานะสร้างกลุ่มหนึ่งคอยช่วยเหลือ ก็มากพอที่จะจับตัวปรมาจารย์หนึ่งในนั้นได้“แม่งเอ๊ย ในเมื่อพวกแกทั้งหมดยอมเป็นสุนัขรับใช้ของหลินหยาง ถ้าอย่างนั้นก็ไปตายให้หมด! คิดว่าปรมาจารย์ระดับเก้าของฉันมีไว้ประดับเหรอไงวะ!?”จ้าวเจี้ยนชิงดวงตาแดงก่ำด้วยความริษยา ตนเป็นผู้บังคับบัญชาของเมืองลั่วมานานหลายปี ยังไม่มีลูกน้องที่แข็งแกร่งขนาดนี้ หลินหยางเพิ่งมาได้ไม่นาน ก็มีปรมาจารย์ระดับหกถึงสี่คนเป็นสุนัขรับใช้?!หลินหยางยิ่งใช้ชีวิตดีเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากจะสับหลินหยางให้แหลกเป็นหมื่น ๆ ชิ้น!แต่ทว่ายังไม่ทันได้ลงมือเขาก็รู้สึกเย็นวาบไปทั่วทั้งตัว แรงอาฆาตที่เย็นยะเยือกขั้นสุดกลุ่มหนึ่งลอยมา!“จ้าวเจี้ยนชิง แกอยากตายใช่ไหม?”ในเวลานี้ หลี่หรูเยว่ยืนอยู่ที่ประตูคฤหาสน์ ในมือของเธอใช้โซ่เหล็ก จูงม๋อจื่อที่เหมือนกับเป็นสัตว์ร้าย จ้องมองเขาด้วยความเย็นชาจ้าวเจี้ยนชิงรูม่านตาหดทันที กล่าวอย