แชร์

บทที่19 น้องสี่

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-10 14:10:38

เสียงตบมือและเสียงเพลงไม่คุ้นหูที่ดังแว่วมาจากด้านในชวนให้ฮ่องเต้ไท่เสียนต้องขมวดคิ้ว นึกสงสัยในทุกครั้งที่มาเยือนตำหนักอันหนิงว่าธิดาองค์โตชักชวนบรรดาน้อง ๆ เล่นสิ่งใด ครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่คิดเปล่า โอรสสวรรค์ก้าวเข้าไปด้านในในทันทีก่อนจะได้เห็นการละเล่นแปลกประหลาดของลูก ๆ

“นี่ พวกเจ้าเล่นอันใดกันอยู่”

“ท่านพ่อ!” เป็นเจ้าของตำหนักที่ส่งเสียงร่าเริงส่งให้ ก่อนที่น้อง ๆ จะส่งเสียงตามด้วยความยินดีและต่างพากันลุกขึ้นพุ่งไปหาบิดา แรก ๆ ทุกคนไม่คุ้นชินแต่นานวันเข้าการวิ่งเข้าไปหาบิดากลายเป็นสิ่งที่ไม่ได้ผิดอันใดสำหรับทุกคนไปแล้ว

“เจ้าก้อนแป้ง เจ้าพาเจ้าลูกเจี๊ยบเล่นอันใดกัน” โอรสสวรรค์ที่ตอนนี้มีกิจวัตรประจำวันเพิ่มเข้ามาคือการมาเล่นกับลูก ๆ ตรัสถามขณะที่ถูกบุตรสาวคนโตดึงไปนั่ง

“มันเรียกว่ามอญซ่อนผ้าเจ้าค่ะ ท่านพ่อมาเล่นด้วยกันสิเจ้าคะ...ตรงนี้เจ้าค่ะ”

“ครู่เดียวเท่านั้นนะ”

“เจ้าค่ะ”

“ฮิมอญซ่อนผ้า ตุ๊กตา อยู่ข้างหลัง...” และแล้วการละเล่นก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ใช่ว่าจะมีองค์หญิงองค์ชายเท่านั้นที่มีความสุขกับการได้ละเล่นกับบิดา แต่ฮ่องเต้ไท่เสียนเองก็พอพระทัยเช่นกันที่ได้ทิ้งราชกิจน่าปวดหัวมา
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อเรื่องนี้บน Application

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่20 เมื่อเวลาผันผ่าน

    วันเวลาผันผ่านไปเรื่อย ๆ อย่างรวดเร็วให้รู้สึกพิศวงเป็นอย่างยิ่ง กาลเวลากลืนกินหนึ่งชั่วยามก่อนหน้าใหกลายเป็นอดีต กลืนกินหนึ่งเค่อก่อนให้เป็นสิ่งที่ไม่หวนกลับมาอีก แม้ว่าสวรรค์จะมอบโอกาสให้หวนคืนมาสู่อดีตแต่ก็ใช่ว่าจะย้อนกลับไปได้ทุกช่วงเวลาดั่งใจคิด...โอกาสจากสวรรค์ไม่แน่ว่าอาจจะมีเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้นนัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองหิมะแรกของปีที่โปรยปรายลงมาปกคลุมพระราชวังด้วยแววตาไร้อารมณ์ วันเวลาผ่านเลยมาสิบสองปีนับจากที่นางย้อนเวลากลับมาแต่เฉินอันหนิงยังรู้สึกว่ามันช่างแสนสั้นเวลาสิบสองปีพระราชวังแปรเปลี่ยนไปหลากหลายสิ่ง นางย้ายจากตำหนักเซียนซือกลับมาอยู่ตำหนักอันหนิงตั้งแต่อายุสิบห้า นับมาก็ได้สี่ปีแล้ว เหล่าองค์ชายเติบโตขึ้นก็ต้องแยกออกไปมีตำหนักของตนเองนอกพระราชวัง องค์หญิงก็มีตำหนักเป็นของตน การพบเจอกันที่ตำหนักอันหนิงยามนี้มีเพียงองค์หญิงและองค์ชายที่ยังอายุไม่ถึงสิบห้าปีเท่านั้นที่ยังแวะเวียนมา บรรยากาศที่พี่น้องพร้อมหน้าดั่งเช่นก่อนนี้ไม่มีอีกแล้วไม่ทันไรน้อง ๆ ของนางก็เติบโตขึ้นจนแทบจะหมดแล้ว แม้แต่น้องสิบแปดและน้องสิบเก้าที่นางทูลขอเสด็จพ่อตอนนี้ก็มีชันษาได้สิบเอ็ดขวบแล้ว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-12
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่21 กองโจร

    “วันนี้เสด็จพ่อเรียกเจ้ามาใช้งานอันใด”คำถามที่ตรงไปตรงมาถูกเอ่ยขึ้นทันทีที่ทั้งคู่เข้ามาด้านในตำหนักอันหนิง ท่าทีเอื่อยเฉื่อย นิ่มนวลขององค์หญิงลำดับที่หนึ่งแปรเปลี่ยนเป็นท่าทีคล้ายบุรุษไปเสียแล้วทว่าผู้น้องกลับไม่ได้แปลกใจพี่ใหญ่ของเขาและพี่น้องเป็นเช่นนี้มานานแล้ว...“ว่าอย่างไร เสด็จพ่อหาเรื่องยุ่งยากให้เจ้าอีกหรือไม่”“ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอันใดขอรับ” เมื่ออยู่ลำพังไม่มีคำว่ากระหม่อมหรือพะย่ะค่ะ หรือแม้แต่เสด็จพี่ใหญ่ มีเพียงข้ากับท่าน น้องสี่กับพี่ใหญ่อย่างเช่นชาวบ้านสามัญเท่านั้น“มีรายงานว่ามีกองโจรอาละวาด ทำร้ายผู้คนช่วงชิงเสบียงที่เมืองซินอู๋ เสด็จพ่อมีรับสั่งให้ข้านำทหารไปปราบ ท่านก็รู้ว่าข้าชื่นชอบการต่อสู้ตั้งแต่เล็ก เรื่องนี้เรื่องถนัดของข้า”“จะไปเมื่อไหร่”“พรุ่งนี้ขอรับ”“ถึงเวลาแล้วสินะ” ในที่สุดเรื่องร้ายก็คืบคลานเข้ามาต่อให้ไม่เสนอตัว เฉินซีหานไม่รู้เลยแม้แต่นิดว่าการไปปราบโจรที่เขามั่นใจว่าจะได้แสดงฝีมือให้สมกับที่ฝึกฝนการต่อสู้มาจากยอดฝีมือจะเป็นการต่อสู้ที่ถูกลิขิตให้เขาเป็นผู้ที่ต้องทิ้งชีวิตเอาไว้“เวลาอันใดหรือขอรับ”“ก็...เวลาที่เสี่ยวหานของพี่จะได้แสดงฝีมือน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่22 ภาพวาดจากชินอ๋อง

    “ฝ่าบาท องค์หญิงอันหนิงมาขอเข้าเฝ้าพะ...” เสียงรายงานของเหรินกงกงไม่ทันจะจบประโยคผู้มาขอเข้าเฝ้าก็ก้าวเข้ามาภายในห้องทรงพระอักษรเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นี่มิใช่เรื่องร้ายแรงอันใด องค์หญิงอันหนิงทรงทำเช่นนี้อยู่เป็นประจำและฮ่องเต้เองก็มิได้ว่ากล่าวอันใด“อันหนิงถวายพระพรเสด็จพ่อเพคะ”“มานี่เร็ว” ฮ่องเต้ไท่เสียนกวักพระหัตเรียกพระธิดาองค์โตทันทีก่อนจะสะบัดมือให้เหรินกงกงและข้ารับใช้ออกไปด้านนอก เจ้าก้อนแป้งที่เวลานี้เติบโตเป็นสตรีงามพร้อมสมสถานะองค์หญิงลำดับที่หนึ่งไม่รอช้ารีบกรีดกรายเข้ามาหาพระบิดาในทันที“ท่านพ่อ มีอะไรให้หนิงเอ๋อร์ดูหรือเจ้าคะ”“ภาพวาดจากอาของเจ้า” ฮ่องเต้ไท่เสียนไม่พูดเปล่ายังยื่นม้วนภาพวาดที่อยู่ในมือส่งให้ เป็นม้วนภาพวาดที่ชินอ๋องให้ฉินกงกงนำมาถวาย ภาพที่อยู่เบื้องหน้าเป็นภาพวาดทัศนียภาพของสถานที่แห่งหนึ่งที่ถูกวาดออกมาได้อย่างงดงามราวกับภาพฝันสำหรับผู้ชื่นชอบภาพวาดจะต้องบอกว่าเป็นภาพที่งดงามน่าเก็บสะสม สำหรับผู้ที่มิได้มีศิลปะในใจก็คงจะกล่าวว่าเป็นเพียงภาพธรรมดาไม่ได้น่าสนใจ แต่ภาพนี้ไม่ใช่ภาพธรรมดาอย่างแน่นอนเฉินอันหนิงตาเป็นประกายวาววับเมื่อทราบว่าเป็นภาพวาดจากเส

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-13
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่23 ออกเดินทางสู่ซินอู๋

    สองวันต่อมาสองวันจากนั้นก็ได้เวลาออกเดินทาง มีประกาศให้ทราบทั่วไปว่าองค์หญิงอันหนิงได้รับพระราชโองการให้เดินทางไปยังเมืองเป่ยหนานเพื่อเป็นตัวแทนมอบของขวัญพระราชทานเนื่องในวันประสูติของชินอ๋องที่จะมาถึงในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า เพื่อไม่ให้ผู้คนคิดไปว่าฮ่องเต้หมางเมินยอดนักรบจนเกินไปผู้คนต่างรับรู้เช่นนั้น โดยไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าเมืองที่อยู่ก่อนจะถึงเมื่อเป่ยหนานอย่างเมืองซินอู๋ต่างหากคือเป้าหมายของพระธิดาองค์โตในครั้งนี้เรือนกายแบบบางชวนให้รู้สึกอยากทะนุถนอมทว่ากลับคล่องแคล่วดั่งคนฝึกยุทธในอาภรณ์ที่คล้ายบุรุษที่นั่งอยู่บนหลังม้าคือภาพลักษณ์ที่ผู้คนได้เห็นในตอนที่ขบวนเสด็จขององค์หญิงอันหนิงเคลื่อนผ่าน ชาวบ้านร้านตลาดต่างก็คุ้นเคยกับองค์หญิงพระองค์โตเป็นอย่างดีนอกจากจะทักทายและอวยพรให้องค์หญิงเดินทางปลอดภัยแล้ว ยังมอบสุราชั้นเลิศ และผลไม้ตากแห้งให้องค์หญิงอย่างไม่เกรงกลัวจะถูกทหารจับกุมอีกด้วยเพราะนางออกมาเที่ยวเล่นบ่อยครั้งจนผู้คนคุ้นเคยไปเสียแล้ว อีกทั้งยังสนิทสนมกับคหบดีในเมืองหลวงแทบจะทุกร้าน โดยเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-14
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่24 จอมยุทธรูปงาม

    การเดินทางของเฉินอันหนิงช้ากว่าเฉินซีหานและกำลังทหารที่ไปปราบกองโจรหนึ่งวันแต่นางก็ไม่ได้เร่งเดินทางให้ทันน้องชายแม้จะห่วงน้องชายอยู่มากแต่ก็วางใจได้ครึ่งหนึ่งเพราะสาร์นลับจากชินอ๋องที่บอกว่าว่าได้จัดการตามที่นางต้องการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นคือการส่งกองกำลังของตนแฝงตัวมารอดูสถานการณ์ที่ซินอู๋เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทุกอย่างยังดูปกติดี หากมีอันใดไม่ปกติเหยี่ยวของเสด็จอาจะส่งข่าวมาให้นางในทันทีและนางคิดเอาไว้แล้วว่าช่วงแรกจะตามหลังไปก่อน เมื่อใกล้ถึงเมืองซินอู๋จึงค่อยเร่งเดินทางให้ทันน้องชายการเดินทางจากเมืองเฉินซีซึ่งเป็นเมืองหลวงไปยังเมืองเป่ยหนานต้องผ่านเมืองเสียนจิ้ง เมืองหนานเว่ย เมืองตวนซี เมืองเซียงโหยว และเมืองซินอู๋ กะคร่าว ๆ จะใช้เวลาที่เมืองละสองถึงสามวัน หากไม่มีเหตุการณ์ใด และเร่งเดินทางในตอนที่ถึงเมืองตวนซีเพื่อเข้าเมืองเซียงโหยวก่อนที่เฉินซีหานและกองทหารจะเข้าเมืองซินอู๋ ก็จะทันอย่างแน่นอนการเดินทางในวันแรกเป็นไปอย่างราบรื่นเมื่อพลบค่ำก็เข้าเขตเมืองเสียนจิ้งพอดิบพอดี เมืองเสียนจิ้งเป็นเมืองติดเมืองหลวง ผู้คนจากทางใต้และคนจากเมืองหลวงนับได้ว่าพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-15
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่25 จิวหลิงและจิวหู

    ห้องที่นางได้พัก นางเพิ่งจะรู้ในตอนที่เดินตามเสี่ยวเอ้อขึ้นมานี่เองว่าเป็นห้องติดกับห้องของบุรุษน่าตาย ส่วนห้องว่างสำหรับเค่อซินก็เป็นห้องที่ติดกับห้องของบุรุษหน้าตายนั่นเช่นกัน ไม่ว่านางจะเลือกห้องซ้าย หรือห้องขวา ก็มีเจ้านั่นอยู่ห้องข้าง ๆ เสียอย่างนั้นสวรรค์อยากให้นางมีชื่อเสียงว่าเป็นองค์หญิงผู้โหดเหี้ยมสังหารคนในโรงเตี๊ยมเพิ่มเข้ามาใช่หรือไม่จึงได้จงใจให้นางมาพบเจอเช่นนี้“น้องชายท่านนี้อยู่ห้องนี้นี่เอง อ่า พบเจอกันถือเป็นวาสนา น้องชาย มาดื่มสุราด้วยกันหรือไม่ ข้ามีสุราดีจากลั่วหยางเชียวนะ” จิวหลิงส่งเสียงขึ้น จะว่าท่าทีของเขาเป็นมิตรก็ว่าได้ แต่จะว่ากระล่อนก็ได้เช่นกัน“พบเจอเพียงครั้งมิถือเป็นวาสนา ไว้โอกาสหน้าเถิด” โอกาสหน้า ที่นางไม่คิดว่าจะมีเฉินอันหนิงไม่ไยดีว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีเช่นไร นางเข้าไปในห้องพักและปิดโดยไม่หันกลับมาให้ความสนใจใด ๆ อีก โดยไม่รู้เลยว่าสายตาคู่นั้นยังคงจับจ้องมองตามจนกระทั่งใครอีกคนเดินขึ้นบันได้มาหยุดข้าง ๆสายตาคู่คมกริบมองตามเห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-16
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่26 ฝันของอันหนิง

    บุรุษรูปงามทั้งสองร่ำสุรากันอย่างเงียบเชียบต่างคนต่างมีความคิดของตนโดยไม่รู้เลยว่าห้องที่อยู่ติดกันมีสตรีสูงศักดิ์พักอาศัยอยู่ เฉินอันหนิงที่ผ่อนคลายความหงุดหงิดใจลงได้แล้วนั่งใช้ความคิดกับตัวเองอยู่ครู่ใหญ่จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกจากด้านนอก“องค์หญิง กระหม่อมเค่อซินพะย่ะค่ะ”“เข้ามาได้” สิ้นเสียงอนุญาตร่างสูงใหญ่ขององครักษ์เค่อซินก็ก้าวเข้ามาด้านในก่อนจะถวายรายงานด้วยใบหน้านิ่งสงบ“เค่อซุนและทุกคนเข้าพักที่จวนรับรองของทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วพะย่ะค่ะ และมีข่าวจากเค่อซานว่าท่านอ๋องตั้งค่ายอยู่ที่อำเภอหยวนหนานขอรับ”“ไม่นับว่าไกล แลกเปลี่ยนข่าวสารกับเค่อซานเป็นระยะ...เจ้าก็ไปพักได้แล้ว อีกหนึ่งชั่วยามค่อยลงไปกินข้าวกัน”“พะย่ะค่ะ” องครักษ์หนุ่มไม่มีปากมีเสียงหรือออกความคิดเห็นใด ๆ องค์หญิงให้ไปพัก เขาก็ต้องไปพัก เคลื่อนไหวทุกอย่างตามรับสั่งขององค์หญิงตามที่อาจารย์สั่งสอนและออกความเห็นเพียงแค่เรื่องที่องคืหญิงต้องการความเห็นเท่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-17
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่27 ไม่กล้าล่วงเกิน

    เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยามตามที่นัดหมายกับเค่อซินเอาไว้ องค์หญิงใหญ่และองครักษ์คนสนิทก็ลงมาจากห้องเพื่อกินอาหารค่ำ ความจริงแล้วเค่อซินอยากจะสั่งขึ้นมาให้นายเหนือหัวเสวยที่ห้องหากแต่ผู้เป็นนายกลับต้องการที่จะลงมาด้านล่างเพื่อซึมซับกับบรรยากาศ องค์หญิงที่ในเมืองหลวงกล่าวกันว่าเป็นองค์หญิงเจ้าสำราญย่อมชื่นชอบที่จะใช้ชีวิตกลมกลืนไปกับชาวบ้านดั่งที่ผ่าน ๆ มาด้านล่างของโรงเตี๊ยมเซียนจื่อโหยวยังคงมีจอมยุทธและคาราวานพ่อค้านั่งดื่มกินสังสรรค์กันพลุกพล่านไม่ต่างกันตอนแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาค่ำคืนแล้วก็ตาม ยังดีว่าพอจะมีที่ว่างเหลืออยู่...หนึ่งโต๊ะเฉินอันหนิงก้าวเข้าไปนั่งยังที่ว่างในทันที ทว่าเสี่ยวเอ้อหนุ่มกลับวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีหวั่นเกรง“เอ่อ..ขออภัยขอรับคุณชาย โต๊ะนี้มีผู้จองเอาไว้แล้ว รบกวนท่านรอสักครู่”เฉินอันหนิงมองท่าทีของเสี่ยวเอ้ออย่างจับสังเกต นางต้องการรู้ว่าอีกฝ่ายหวาดเกรงคนที่จองที่เอาไว้หรือว่าต้องการเล่นตัวเพื่อให้นางจ่ายมากกว่าหลังมองพิจารณาอยู่นาน ในที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-18

บทล่าสุด

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่32 ม้าบาดเจ็บ

    จิวหูในเวลานี้แม้ใบหน้าจะยังสงบนิ่งทว่าในใจกลับไร้ความสงบ เขารีบลงจากหลังม้าก่อนจะหันเหความสนใจไปที่ม้าหนุ่มที่ตื่นตกใจ เฉินอันหนิงเองก็ลงจากหลังม้าเช่นกัน ทว่าไม่ทันได้ทำอันใดม้าของจิวหลิงก็ตามมา“เสี่ยวหนิง ปลอดภัยดีใช่หรือไม่”“ข้าปลอดภัยดี”“ข้าจัดการกลุ่มโจรกลุ่มนั้นแล้ว คนของเจ้ากลับไปตามทางการแล้ว” จิวหลิงบอกเล่า ทุกอย่างถูกจัดการอย่างรวดเร็ว เพราะผู้ที่มาลอบโจมตีเป็นเพียงโจรกระจอกที่ดักซุ่มโจมตีเท่านั้น ไม่ใช่ยอดฝีมืออะไร“ม้าตัวนี้โดนลูกดอก มันบาดเจ็บแล้ว คงเดินทางไม่ได้” เสียงของจิวหูดังขึ้นเป็นประโยคยาว ๆ เป็นครั้งแรกทำให้ทุกคนต้องหันไปมอง ตาคู่หงส์มีประกายความเจ็บปวดพาดผ่านเมื่อเห็นเลือดที่ไหล่อาบของม้าตัวโปรด เสี่ยวจื้อถูกลูกดอกจริง ๆ และเลือดก็ออกมากเสียจนน่ากลัว เจ้าเด็กพยศของนางจะต้องเจ็บปวดมากจึงได้วิ่งพล่านเช่นนี้“เจ็บมากหรือไม่ เสี่ยวจื้อ ไม่เป็นไรแล้วนะ ปลอดภัยแล้ว” คำพูดปลอบประโลมและการลูบไล้สัมผัสใบหน้าทำให

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่31 ซุ่มโจมตี

    การเดินทางไกลไม่อาจหลีกเลี่ยงเส้นทางป่าเขา เมื่อเข้าเขตป่าย่อมต้องมีอันตรายแอบแฝงอยู่ ห่างออกมาจากเมืองเสียนจิ้งหลายร้อยลี้คณะเดินทางของเฉินอันหนิงเข้าสู่เขตป่าที่เป็นเขตรอยต่อกับอำเภอถางซิน เมืองหนานเว่ย บุรุษสวมหน้ากากที่ขี่ม้าออกหน้าไปกับเค่อซินเพื่อระวังภัยให้ผู้เป็นทั้งศิษย์พี่และผู้มีคุณอย่างจิวหลิงวนม้ากลับมาหลังจากกวาดสายตามองความเงียบของเส้นทางเบื้องหน้าที่เขารู้สึกถึงความไม่ปกติ “เส้นทางข้างหน้าไม่ปลอดภัย มีผู้ซุ่มโจมตี”“คงได้ยินว่าข้าจะเอาของขวัญไปส่งมอบ และปรามาสว่าข้าเป็นเพียงสตรี จึงคิดว่าชิงทรัพย์ข้าจะง่ายดายกระมัง” องค์หญิงลำดับหนึ่งผู้ได้รับหน้าที่นำของขวัญล้ำค่าไปมอบให้ชินอ๋องพึมพำอย่างขุ่นเคือง เจตนาของผู้ซุ่มโจมตีใช่ว่าจะคาดเดายาก ข่าวคราวการเดินทางของนางก็ใช่ว่าจะเป็นความลับ คนเหล่านี้รอโอกาสปล้นของขวัญพระราชทานน่ะสิแม้จะรู้ แต่ก็ใช่ว่าจะหลีกเลี่ยงได้ มีแต่ต้องป้องกันเท่านั้น ทว่าไม่ทันได้สั่งการใด ๆ บางสิ่งบางอย่างก็พุ่งมาทำให้ม้าของนางตื่นตกใจจนวิ่งเตลิดซะก่อน พวกมันคิดจะล

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่30 ร่วมทาง

    เฉินอันหนิงเก็บซ่อนความคิดหันกลับมามองสหายใหม่ทั้งสองคนอีกครั้งพร้อมกับความตงิดใจ ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นชาวเสียนจิ้ง และมองอย่างไรจิวหลิงก็ไม่ใช่ชาวต้าเฉินแล้วเหตุใดศิษย์ผู้น้องของเขาถึงได้รู้จักสุราสงบใจ และรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ถูกเรียกว่าหนิงเอ๋อร์“ท่านไม่ใช่ชาวต้าเฉิน”“ข้ากับน้องชายมาจากลั่วหยาง”“แต่เขากลับรู้จักสุราที่ผู้คนลืมเลือนไป” สายตาของนางมองไปยังเขาที่เอ่ยถึง บ่งบอกว่าเรื่องนี้นางสงสัยจริง ๆ ทว่าบุรุษสวมหน้ากากกลับไม่ได้ให้ความสนใจ เขาทำเพียงหยิบทวนขึ้นมาและราดสุราลงบนปลายแหลมของทวนนัยน์ตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยหันมาหาจิวหลิงแทน ศิษย์พี่ใหญ่ของบุรุษสวมหน้ากากยักไหล่ก่อนจะบอกเล่า “เพราะทวนของเขาต้องดื่มสุรา เขาจึงต้องรู้จักสุราชั้นดีมากมาย”“ทวนต้องดื่มสุรา?”“ทวนของเขาเป็นอาวุธที่เป็นมากกว่าอาวุธ หากลงมือแล้วต้องได้ดื่มเลือด ไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายต่อตัวเขา แต่คนของเจ้าไม่ได้เป็นเหยื่อ เขาจึงต้องให้มันด

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่29 พี่จิว

    สิ้นคำพูดของจิวหลิงผู้เป็นแขกประจำของหอสุราเทียนหลินก็ต้องเลิกคิ้วและหันไปสอบถามเสี่ยวเอ้อ ว่าบุรุษผู้นี้ผายลมหรือไม่“เป็นเช่นนั้นหรือเสี่ยวเอ้อ”“ใช่แล้วขอรับ หอเทียนหลินในเมืองหลวงกับโรงเตี๊ยมเซียนจื่อโหยว รวมถึงหอสุราหว่านซินในเมืองเป่ยหนานล้วนเป็นกิจการของนายท่านของข้าน้อยทั้งสิ้น”“ดูท่านายของเจ้าจะร่ำรวยมากทีเดียว”“ที่เจ้าได้ยินเป็นเพียงกิจการในต้าเฉินเท่านั้นเสี่ยวหนิง น้องรองของข้ายังมีกิจการในลั่วหยาง ต้าฉี ต้าฉิน ต้าไห่ ต้าเฉียน และต้าเหว่ย เขาร่ำรวยมาก” จิวหลิงยังคงอวดอ้างถึงความร่ำรวยของศิษย์น้องรองที่เป็นเจ้าของโรงเตี๊ยมเซียวจื่อโหยวแห่งนี้ และ...“แล้วข้าจะบอกความลับหนึ่งให้เจ้าฟัง”“อันใด” ความลับของผู้อื่นย่อมน่าสนใจ แม้นางจะไม่อยากเป็นคนที่ยุ่งเรื่องชาวบ้าน แต่ก็มีบ้างที่อยากจะรู้ ทว่านางก็คล้ายปลาที่ติดเบ็ด เมื่อนางให้ความสนใจ คนวางเหยื่อล่อก็รีบตะครุบ“เรียกข้าว่าพี่จิวก่อนสิ แล้วข้าจะบอก&r

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่28 พบกันถือเป็นวาสนา

    องครักษ์หนุ่มลดกระบี่ลงแล้วแต่ปลายทวนยังคงไม่ลดลง จิวหลิงที่เงียบมาตลอดกระแอมขึ้นในที่สุด “อย่าเคร่งเครียดนักเลย น้องสาม ลดทวนสงบใจของเจ้าลงเถิด คนกันเองทั้งนั้น...แม่นางน้อย นั่งด้วยกันเถิด พบกันครั้งแรกไม่นับเป็นวาสนา ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม นับว่าเรามีวาสนาต่อกัน คบหาเป็นสหายกันไว้วันหน้าย่อมเป็นประโยชน์ต่อเจ้า”ทวนที่มีชื่อว่าทวนสงบใจลดห่างจากลำคอของเค่อซินเป็นที่เรียบร้อย เจ้าของทวนนั้นก้าวเข้าไปนั่งข้าง ๆ บุรุษน่าตายแล้วเช่นกัน ทว่าเฉินอันหนิงกลับยังคงชั่งใจ นางยังอยากกินข้าวด้านล่างแต่จะให้นั่งกับสองคนตรงหน้าก็ดูจะอย่างไรอยู่เมื่อครู่ยังจ่อคอกันอยู่ จะมานั่งกินข้าวร่วมกัน มันจะได้หรือ“มีที่ว่างอื่นอีกหรือไม่” นางหันกลับไปสอบถามเสี่ยวเอ้อก่อนจะได้รับคำตอบที่คาดเดาไว้แล้ว...ไม่มีที่ว่างอื่น“นายท่าน เรา...”“ไม่เป็นไร เจ้าของที่ชวนแล้ว นั่งตรงนี้จะเป็นไรไป” ไม่ทันที่เค่อซินจะได้ออกความคิดเห็นที่นางเข้าใจได้ว่าเขาจะเสนออย่างไร นางก็พูด

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่27 ไม่กล้าล่วงเกิน

    เวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยามตามที่นัดหมายกับเค่อซินเอาไว้ องค์หญิงใหญ่และองครักษ์คนสนิทก็ลงมาจากห้องเพื่อกินอาหารค่ำ ความจริงแล้วเค่อซินอยากจะสั่งขึ้นมาให้นายเหนือหัวเสวยที่ห้องหากแต่ผู้เป็นนายกลับต้องการที่จะลงมาด้านล่างเพื่อซึมซับกับบรรยากาศ องค์หญิงที่ในเมืองหลวงกล่าวกันว่าเป็นองค์หญิงเจ้าสำราญย่อมชื่นชอบที่จะใช้ชีวิตกลมกลืนไปกับชาวบ้านดั่งที่ผ่าน ๆ มาด้านล่างของโรงเตี๊ยมเซียนจื่อโหยวยังคงมีจอมยุทธและคาราวานพ่อค้านั่งดื่มกินสังสรรค์กันพลุกพล่านไม่ต่างกันตอนแรกที่ก้าวเท้าเข้ามาแม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาค่ำคืนแล้วก็ตาม ยังดีว่าพอจะมีที่ว่างเหลืออยู่...หนึ่งโต๊ะเฉินอันหนิงก้าวเข้าไปนั่งยังที่ว่างในทันที ทว่าเสี่ยวเอ้อหนุ่มกลับวิ่งเข้ามาด้วยท่าทีหวั่นเกรง“เอ่อ..ขออภัยขอรับคุณชาย โต๊ะนี้มีผู้จองเอาไว้แล้ว รบกวนท่านรอสักครู่”เฉินอันหนิงมองท่าทีของเสี่ยวเอ้ออย่างจับสังเกต นางต้องการรู้ว่าอีกฝ่ายหวาดเกรงคนที่จองที่เอาไว้หรือว่าต้องการเล่นตัวเพื่อให้นางจ่ายมากกว่าหลังมองพิจารณาอยู่นาน ในที

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่26 ฝันของอันหนิง

    บุรุษรูปงามทั้งสองร่ำสุรากันอย่างเงียบเชียบต่างคนต่างมีความคิดของตนโดยไม่รู้เลยว่าห้องที่อยู่ติดกันมีสตรีสูงศักดิ์พักอาศัยอยู่ เฉินอันหนิงที่ผ่อนคลายความหงุดหงิดใจลงได้แล้วนั่งใช้ความคิดกับตัวเองอยู่ครู่ใหญ่จนกระทั่งได้ยินเสียงเรียกจากด้านนอก“องค์หญิง กระหม่อมเค่อซินพะย่ะค่ะ”“เข้ามาได้” สิ้นเสียงอนุญาตร่างสูงใหญ่ขององครักษ์เค่อซินก็ก้าวเข้ามาด้านในก่อนจะถวายรายงานด้วยใบหน้านิ่งสงบ“เค่อซุนและทุกคนเข้าพักที่จวนรับรองของทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วพะย่ะค่ะ และมีข่าวจากเค่อซานว่าท่านอ๋องตั้งค่ายอยู่ที่อำเภอหยวนหนานขอรับ”“ไม่นับว่าไกล แลกเปลี่ยนข่าวสารกับเค่อซานเป็นระยะ...เจ้าก็ไปพักได้แล้ว อีกหนึ่งชั่วยามค่อยลงไปกินข้าวกัน”“พะย่ะค่ะ” องครักษ์หนุ่มไม่มีปากมีเสียงหรือออกความคิดเห็นใด ๆ องค์หญิงให้ไปพัก เขาก็ต้องไปพัก เคลื่อนไหวทุกอย่างตามรับสั่งขององค์หญิงตามที่อาจารย์สั่งสอนและออกความเห็นเพียงแค่เรื่องที่องคืหญิงต้องการความเห็นเท่า

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่25 จิวหลิงและจิวหู

    ห้องที่นางได้พัก นางเพิ่งจะรู้ในตอนที่เดินตามเสี่ยวเอ้อขึ้นมานี่เองว่าเป็นห้องติดกับห้องของบุรุษน่าตาย ส่วนห้องว่างสำหรับเค่อซินก็เป็นห้องที่ติดกับห้องของบุรุษหน้าตายนั่นเช่นกัน ไม่ว่านางจะเลือกห้องซ้าย หรือห้องขวา ก็มีเจ้านั่นอยู่ห้องข้าง ๆ เสียอย่างนั้นสวรรค์อยากให้นางมีชื่อเสียงว่าเป็นองค์หญิงผู้โหดเหี้ยมสังหารคนในโรงเตี๊ยมเพิ่มเข้ามาใช่หรือไม่จึงได้จงใจให้นางมาพบเจอเช่นนี้“น้องชายท่านนี้อยู่ห้องนี้นี่เอง อ่า พบเจอกันถือเป็นวาสนา น้องชาย มาดื่มสุราด้วยกันหรือไม่ ข้ามีสุราดีจากลั่วหยางเชียวนะ” จิวหลิงส่งเสียงขึ้น จะว่าท่าทีของเขาเป็นมิตรก็ว่าได้ แต่จะว่ากระล่อนก็ได้เช่นกัน“พบเจอเพียงครั้งมิถือเป็นวาสนา ไว้โอกาสหน้าเถิด” โอกาสหน้า ที่นางไม่คิดว่าจะมีเฉินอันหนิงไม่ไยดีว่าอีกฝ่ายจะมีท่าทีเช่นไร นางเข้าไปในห้องพักและปิดโดยไม่หันกลับมาให้ความสนใจใด ๆ อีก โดยไม่รู้เลยว่าสายตาคู่นั้นยังคงจับจ้องมองตามจนกระทั่งใครอีกคนเดินขึ้นบันได้มาหยุดข้าง ๆสายตาคู่คมกริบมองตามเห

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่24 จอมยุทธรูปงาม

    การเดินทางของเฉินอันหนิงช้ากว่าเฉินซีหานและกำลังทหารที่ไปปราบกองโจรหนึ่งวันแต่นางก็ไม่ได้เร่งเดินทางให้ทันน้องชายแม้จะห่วงน้องชายอยู่มากแต่ก็วางใจได้ครึ่งหนึ่งเพราะสาร์นลับจากชินอ๋องที่บอกว่าว่าได้จัดการตามที่นางต้องการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นคือการส่งกองกำลังของตนแฝงตัวมารอดูสถานการณ์ที่ซินอู๋เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทุกอย่างยังดูปกติดี หากมีอันใดไม่ปกติเหยี่ยวของเสด็จอาจะส่งข่าวมาให้นางในทันทีและนางคิดเอาไว้แล้วว่าช่วงแรกจะตามหลังไปก่อน เมื่อใกล้ถึงเมืองซินอู๋จึงค่อยเร่งเดินทางให้ทันน้องชายการเดินทางจากเมืองเฉินซีซึ่งเป็นเมืองหลวงไปยังเมืองเป่ยหนานต้องผ่านเมืองเสียนจิ้ง เมืองหนานเว่ย เมืองตวนซี เมืองเซียงโหยว และเมืองซินอู๋ กะคร่าว ๆ จะใช้เวลาที่เมืองละสองถึงสามวัน หากไม่มีเหตุการณ์ใด และเร่งเดินทางในตอนที่ถึงเมืองตวนซีเพื่อเข้าเมืองเซียงโหยวก่อนที่เฉินซีหานและกองทหารจะเข้าเมืองซินอู๋ ก็จะทันอย่างแน่นอนการเดินทางในวันแรกเป็นไปอย่างราบรื่นเมื่อพลบค่ำก็เข้าเขตเมืองเสียนจิ้งพอดิบพอดี เมืองเสียนจิ้งเป็นเมืองติดเมืองหลวง ผู้คนจากทางใต้และคนจากเมืองหลวงนับได้ว่าพ

DMCA.com Protection Status