แชร์

บทที่10 ไม่เปิดโอกาส

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-12-02 15:40:45

ในตำหนักเซียนซือเต็มไปด้วยบรรยากาศชวนซึ้งทว่าที่ตำหนักใหญ่โอรสสวรรค์กลับเลิกคิ้วมององครักษ์คนสนิทที่มารายงานตามรับสั่งของพระธิดาด้วยความสงสัยแล้วก็เปลี่ยนเป็นความหวาดหวั่นใจ

“เจ้าว่าเจ้าก้อนแป้งโกรธอะไรเจิ้นอีกหรือไม่”

“น่าชังเช่นฝ่าบาททำให้องค์หญิงขุ่นเคืองย่อมไม่แปลก” องค์รักษ์ฟู่เสวียนเอ่ยอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะลอยหน้าลอยตาเมื่อนายเหนือหัวส่งสายตาดุมาให้ ฟู่เสวียนที่อยู่กับองค์หญิงองค์ชายและครอบครัวคือบุรุษอบอุ่น ฟู่เสวียนที่อยู่ต่อหน้าขุนนางคือองค์รักษ์ผู้สุขุมเลือดเย็น แต่ฟู่เสวียนที่อยู่ตามลำพังกับนายเหนือหัวคือ….สหายน่าตาย

คนผู้นี้มีหลายหน้ายิ่งนัก เรื่องนี้มีเพียงฮ่องเต้ไท่เสียนที่รู้ดีที่สุด ไอ้เจ้านี่หน้าหนาและปากจัดยิ่ง ทั้งยังไม่เกรงกลัวเขาอีกต่างหาก

“เจ้านี่ช่าง…”

“ฝ่าบาท ได้เวลาพลิกแผ่นป้ายแล้วพะย่ะค่ะ” ไม่ทันจะต่อว่าสหายผู้กล้าหาญกล่าวตรง ๆ ต่อหน้าฮ่องเต้ เหรินฉิน ขันทีคนสนิทก็ก้าวเข้ามาพร้อมกับถาดแผ่นป้าย...ได้เวลาต้องพลิกแผ่นป้ายแล้ว

แม้ว่าความจริงเหร

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่11 องค์หญิงห้า

    เพลี่ยง!เสียงข้าวของที่แตกกระจายจากด้านในตำหนักไม่ได้ส่งผลให้เฉินซูเหมยในวัยเพียงหกขวบตัวสั่นระริก หรือมีอาการหวาดกลัวใด ๆ กลับกันนางกลับมีเพียงความไม่พอใจและกรุ่นโกรธไม่ต่างจากมารดาที่ขว้างปาสิ่งของผู้มีศักดิ์เป็นองค์หญิงลำดับที่สองของราชวงค์ และเป็นธิดาลำดับที่ห้าของฮ่องเต้ไม่สนใจมารดาที่ระบายโทสะด้วยการขว้างปาสิ่งของก่อนจะก้าวเข้าไปยังแท่นบรรทมด้วยท่าทีที่เงียบสงบเกินวัยถึงแม้ว่าร่างกายของนางจะเป็นเด็กหกขวบ แต่ผู้ใดเล่าจะรับรู้เท่านาง ว่าแท้จริงแล้วนางไม่ได้อายุเพียงหกขวบ...นางตายเพราะเฉินอี้หลง และได้หวนกลับมายังอดีตเฉินซูเหมยกำหมัดแน่น ในอดีตมารดานางกระทำต่ำช้าอาศัยโอกาสที่ฮ่องเต้ปลอมตัวออกไปเยี่ยมราษฏรวางยาปลุกกำหนัดในเหล้าจนทำให้มีนาง ทว่าเพราะเหตุการณ์หลายสิ่งหลายอย่างทำให้นางได้เติบโตนอกวังโดยที่เสด็จพ่อไม่รู้ถึงหกปีเต็ม การได้เข้ามาในวังที่เต็มไปด้วยความแก่งแย่งช่วงชิงใช่ว่าจะมีความสุข มารดานางได้ตำแหน่งแค่เพียงเจาอี๋ ไร้อำนาจซ้ำยังรังแกได้ง่าย นางจึงเกลียดทุกคนที่มีอำนาจ เฝ้าใฝ่ฝันจะเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-02
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่12 ค้างคืน

    ตำหนักเซียนซือเป็นสถานที่ไม่คุ้นเคยสำหรับฮ่องเต้ไท่เสียน แต่กับโอรสทั้งสองพระองค์ทรงคุ้นเคยไม่ต่างจากองค์หญิงใหญ่ แม้ว่าภายนอกผู้คนจะรับรู้ว่าฮ่องเต้ไม่ใคร่สนใจใยดีองค์ชายรองและองค์ชายสามเพราะผู้หนึ่งมารดาจากไปตอนคลอด อีกผู้หนึ่งมารดาไม่เป็นที่โปรนปราน และให้ความสนใจไปที่องค์ชายสี่ซึ่งประสูตรจากหลี่ซูเฟยมากกว่า แต่ความเป็นจริงแล้วพระองค์ทรงลอบพาองค์ชายทั้งสองเข้าไปหาที่ตำหนักใหญ่อยู่บ่อยครั้งโอรสที่ไม่มีมารดาปกป้อง หากโปรดปรานเกินหน้าเกินตาย่อมเป็นอันตราย พระองค์ไม่อาจดูแลได้ตลอดจึงต้องให้เฉินชิงเซวียนอยู่ในมุมมืดไม่โดดเด่นเกินผู้ใดเช่นนี้ ส่วนเฉินอี้หลง เพราะมารดาไม่ปรารถนาความโปรดปราน อำนาจย่อมไม่มี หากให้ความใส่ใจโอรสเป็นพิเศษ ก็ย่อมนำภัยมาให้องค์ชายทั้งสองจึงจำต้องกลายเป็นผู้ไม่ได้รับความโปรดปรานเสมอมา เฉินอันหนิงเข้าใจข้อนี้มาโดยตลอด และนางก็เข้าใจที่เสด็จพ่อไม่ได้ซ่อนนางเอาไว้ในมุมมืดเช่นน้อง ๆ แต่ให้ความโปรดปรานเหนือโอรสธิดาทั่วไป ใช่ว่าเสด็จพ่อต้องการให้นางเป็นหนังหน้าไฟ หากแต่นางเป็นสตรี ไม่มีผู้ใดคิดว่านางจะเป็นภัยต่อตำแหน่งรัชทายาทหรือตำแหน่งฮ่องเต้องค์ถัดไป ซ้ำนางยังมีสก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-03
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่13 ออกเดินทาง

    สองวันต่อมาในวังหลวงในเช้าวันนี้แม้จะครึกครื่นเพราะมีงานเลี้ยงต้อนรับคณะทูตในวังแต่ก็ไม่อาจจะทำให้บิดาและมารดาที่ต้องห่างจากบุตรรู้สึกสนุกได้แม้แต่น้อย ฮ่องเต้ไท่เสียนและหรงกุ้ยเฟยออกมาส่งองค์หญิงอันหนิงด้วยตนเองขณะที่องค์ชายรองและองค์ชายสามนั้นนอนร้องไห้อยู่ที่ตำหนักเพราะพี่สาวห้ามไม่ให้ติดตามไปด้วย“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ รักษาตัวด้วยเพคะ หนิงเอ๋อร์จะรีบกลับมา”“ไปดีมาดีนะลูกพ่อ” ฮ่องเต้ไท่เสียนผู้ไม่เคยให้องค์หญิงใหญ่อยู่ไกลหูไกลตาตรัสทั้งที่ไม่อาจทำใจปล่อยบุตรสาวออกไปนอกวังได้ ทว่าสุดท้ายก็ยอมปล่อยและเฝ้ามองขบวนของอันไท่เฟยออกจากวังหลวงไปจนลับตาองค์หญิงใหญ่แหวกม่านมองกลับไปยังผู้สูงศักดิ์เบื้องหลังเนิ่นนานก่อนจะเปลี่ยนเป็นใบหน้ายิ้มแย้มเมื่อคุณชายใหญ่สกุลฟู่ขึ้นมานั่งบนรถม้าพร้อมกับฟู่ฮูหยินที่อุ้มท้องอุ้ยอ้าย“พี่เหยียน ท่านป้าฟู่ค่อย ๆ นั่ง ระวังเจ้าก้อนแป้งด้วยเจ้าค่ะ” ไม่ว่าเปล่าองค์หญิงตัวน้อยยังยื่นมือมาประคองผู้ที่นางเรียกว่าท่านอาหญิงด้วยมือคู่เล็กให้นั่งลงข้าง ๆ“ขอบพระทัยเพคะองค์หญิง” สายตาที่มององค์หญิงตัวน้อยเต็มไปด้วยความเอ็นดู ใจก็ครุ่นคิดว่าหากลูกในครรภ์เป็นหญิงและน่าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่14 จากลา

    “พี่เหยียน วันหน้าท่านต้องแต่งกับหนิงเอ๋อร์นะ หนิงเอ๋อร์จะรอท่าน”ถ้อยคำอันเอาแต่ใจหากแต่ไร้เดียงสาที่เอื้องเอ่ยมาจากปากของแม่นางน้อยในอาภรณ์หรูหราบ่งบอกฐานันดรศักดิ์ที่ไม่ธรรมดาทำให้ผู้ที่นางเรียกว่าฟู่จื่อเหยียนต้องชะงักฝีเท้าและปล่อยมือที่จับจูงนางอยู่พลางมองมาที่นางด้วยความตระหนกแต่แล้วก็หลุดหัวเราะอย่างขบขัน“มิพูดเล่นเช่นนี้สิพะย่ะค่ะองค์หญิง” คุณชายสกุลฟู่เอ่ยอย่างนอบน้อมพร้อมกับยิ้มอ่อนโยนส่งให้ดั่งเช่นปกติ อย่างไรเสียเขาก็คิดว่าเป็นการพูดเล่นมิได้จริงจังอันใดเพราะแม่นางน้อยตรงหน้าเป็นเพียงแค่เด็กน้อยห้าหนาวยังคงไร้เดียงสาเกินกว่าจะเข้าใจเรื่องการแต่งงาน ซ้ำยังเป็นถึงเชื้อพระวงค์หญิงพระองค์โตแห่งราชวงค์ต้าเฉิน คู่ครองในอนาคตของนางมิมีทางเป็นเพื่อนเล่นที่เป็นเพียงบุตรชายหัวหน้าหน่วยองค์รักษ์รักษาพระองค์อย่างเขาเป็นแน่...นางต้องเติบโตไปเป็นนางหงส์ต่างหากเล่า“วันหน้าองค์หญิงจะได้เป็นฮองเฮาของแคว้นที่ยิ่งใหญ่ อย่าทรงกล่าววาจาล้อเล่นเช่นนี้เลยพะย่ะค่ะ กระหม่อมจะอายุสั้นเอาได้”“หนิงเอ๋อร์มิได้ล้อเล่นนะพี่เหยียน หนิงเอ๋อร์จะแต่งให้ท่าน...หนิงเอ๋อร์พูดจริง ๆ นะ!”“พะย่ะค่ะ ๆ วันหน้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-06
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่15 เรือลำเดียวกัน

    อีกฟากหนึ่งนัยน์ตาที่มักจะดุดันของเฉินเทียนหยางยามนี้เต็มไปด้วยความเห็นใจขณะที่ทอดสายตาจับไปที่ร่างของทารกน้อยที่เพิ่งคลอดได้ไม่กี่อึดใจ ดียิ่งที่เขาทำทีออกไปและแอบเร้นกายอยู่ มิเช่นนั้นเด็กน้อยผู้บริสุทธิ์คนนี้คงมิอาจมีลมหายใจอยู่ได้โหดร้ายยิ่ง กับเด็กตัวเล็กเพียงนี้ยังทำกันได้ลงคอ“ทำเช่นไรดีหยางเอ๋อร์ แม่สงสารเด็กคนนี้” อันไท่เฟยเอ่ยขึ้น พระเนตรที่มองไปยังทารกน้อยที่คลอดมาก็เสียมารดาไปเสียแล้วอ่อนแสงลง นางให้รู้สึกเห็นใจทารกน้อยผู้นี้ยิ่ง แม้จะคลอดออกมาได้อย่างปลอดภัยแต่ก็มีผู้ถือดาบรออยู่แล้ว หากบุตรชายไม่กลับมา มิแคล้วเด็กน้อยคงต้องจบชีวิตตามมารดาไป เพียงเพราะอำนาจแท้ ๆ ผู้บริสุทธิ์จึงต้องสูญเสียเช่นนี้ชินอ๋องหนุ่มทอดถอนใจก่อนจะเอ่ย “เห็นทีวิธีจะรักษาชีวิตเด็กผู้นี้มีเพียงต้องหลอกลวงผู้คนแล้ว”“อย่างไรเล่า”“กระจายข่าวออกไป ว่าฟู่ฮูหยินจากไประหว่างคลอด เด็กก็ไม่มีลมหายใจแล้ว เหอซิน...ลอบไปหาศพทารกมาแทนที่ หากสวรรค์ยังเมตตาเด็กคนนี้อยู่บ้าง ก็คงจะหาเจอ”“พะย่ะค่ะ” องครักษ์เบื้องหลังรับคำก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว หวังเพียงว่าสวรรค์เบื้องบนจะยังเมตตาทารกน้อยที่เพิ่งคลอดผู้นี้ให้ปลอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-07
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่16 สะสาง

    ในเวลาเดียวกันภายในพระราชวังที่เต็มไปด้วยความแตกตื่นเพราะโอรสสวรรค์ถูกลอบปลงพระชนม์ อัครเสนาบดีหลี่และหลี่ซูเฟยตั้งตนเป็นผู้ตัดสินโทษผู้ต้องสงสัยขณะที่ตระกูลฉีก็รอคอยโอกาสช่วงชิงอำนาจและโยนความผิดทั้งหมดไปที่หลี่ซูเฟยโดยอาศัยการประหารของหัวหน้าองครักษ์ฟู่เสวียนเป็นข้ออ้าง...ทุกอย่างจะเข้าทางสกุลฉี หากฟู่เสวียนตายไปก่อนฮอ่องเต้ฟื้นขึ้นมาสกุลหลี่กวาดล้างคนสกุลฟู่ สกุลฉีลอบแฝงตัวแอบอ้างคำสั่งหลี่ซูเฟยประหารผู้นำสกุลฟู่...นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งที่ฮ่องเต้ยังไม่ได้ตัดสินแต่หลี่ซูเฟยอาศัยความเป็นเฟยซ้ำมีบิดาเป็นอัครเสนาบดีสำเร็จโทษใต้เท้าฟู่เสวียนเสียแล้ว อย่างไรก็ย่อมมีความผิด ยิ่งวางอำนาจบาดใหญ่ในเวลาที่ฮ่องเต้ยังไม่ฟื้นมากเท่าไหร่ยามที่พระองค์ทรงฟื้นขึ้นมาความผิดก็ย่อมต้องมากขึ้นฟู่เสวียนถูกคนฝั่งสกุลฉีสังหารไปแล้ว ไม่อาจแก้ไข แต่เพื่อไม่ให้ตระกูลฉีได้โอกาสเพิ่ม ตระกูลหลี่ก็ย่อมคิดเก็บกวาดตระกูลฉี ผู้ใดไม่อยากเกี่ยวข้องก็ย่อมเก็บตัวเงียบ โดยไม่รู้เลยแม้แต่นิดว่ามีผู้นั่งบนภูดูเสือกัดกันอยู่&ldqu

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-08
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่17 กลับสู่ความสงบสุข

    หลายวันผ่านไปในช่วงเวลานี้มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้น เรื่องของตระกูลฉีและตระกูลหลี่ยังไม่ทันซาก็มีข่าวที่ทำให้เหล่าคุณหนูต้องปวดใจเกิดขึ้น ท่านองครักษ์เหอเหลียนประกาศถึงการมีอยู่คุณหนูเหอซูเหยา บุตรสาวของตนกับรองแม่ทัพหญิงซังซัง ไร้วี่แววผิดสังเกตจากผู้คนเพราะรองแม่ทัพซังซังไม่ปรากฏตัวมาเกือบขวบปีทุกอย่างใช่ว่าจะเป็นไปตามที่ใจคิดเสียทุกอย่าง เป็นธรรมดาของชีวิต เฉินอันหนิงที่ผ่านชีวิตมาแล้วถึงสองรอบไม่ได้รู้สึกขัดใจที่หลายสิ่งหลายอย่างไม่ได้เป็นไปตามที่นางคิดไปซะทุกเรื่องแต่นับว่าในตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างลงตัวในระดับที่น่าพอใจแล้วไม่ทันไรก็ผ่านพ้นเหตุการณ์ฉีหลี่ไปแล้วหนึ่งเดือนเต็ม วังหลังในตอนนี้มีประมุขปกครองอย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งขุนนางฝั่งอดีตฮอองเฮาพร้อมใจกันเสนอหรงกุ้ยเฟย และฮ่องเต้ก็ทรงเห็นชอบแต่งตั้งหรงกุ้ยเฟยเป็นหรงฮองเฮาทั้งยังยกองค์ชายสี่เฉินซีหานให้หรงฮองเฮาทรงดูแลวังหลังเป็นระเบียบมากขึ้น เหล่าองค์ชายองค์หญิงก็มีความเปลี่ยนแปลงเช่นกันเมื่อองค์หญิงใหญ่ทำเรื่องสะท้านสะเทือนวังหลวงโดยการขอพระราชทานอนุญาตเลี้ยงดูน้อง ๆ ด้วยตนเอง แม้ว่าเป็นเรื่องที่ขุนนางไม่เห็นด้วย แต่เพราะ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09
  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่18 ว่าด้วยการเลี้ยงน้อง

    ตำหนักอันหนิงสายตาหลายคู่ที่จ้องมองมาบ่งบอกว่ากำลังให้ความสนใจ ทว่าผู้ที่ได้รับความสนใจอย่างเจ้าของตำหนักกลับไม่ได้รู้สึกเขินอายที่ถูกจับจ้อง หรือแม้แต่รู้สึกแปลก ๆ เลยสักนิด เฉินอันหนิงยิ้มอย่างมีนัยยะก่อนจะส่งเสียงขึ้น“เอาล่ะ เริ่มได้...น้องสาม มานั่งตรงนี้”ไม่ว่าเปล่านางยังดึงให้น้องชายมานั่งในพื้นที่ที่นางต้องการ หลังจากที่นางกราบทูลขอเลี้ยงน้อง ๆ เองเวลาส่วนใหญ่ของนางก็อยู่กับการหาการละเล่นและกิจกรรมมาเล่นกับบรรดาน้อง ๆนับแต่องค์หญิงเจ็ดลงไปนับว่าพูดง่าย เพราะยังไร้เดียงสา ยิ่งในทุกวันฮ่องเต้ไท่เสียนจะเสด็จมาเล่นกับลูก ๆ เจ้าลูกเจี๊ยบทั้งหลายก็ยิ่งกระตือรือร้นที่จะมาเล่นที่ตำหนักอันหนิง เพราะจะได้ใกล้ชิดกับพระบิดาอันเนื่องมาจากก่อนนี้บางคนแทบไม่เคยเห็นหน้าพระบิดาเลยสักครั้ง และบางคนใช้เวลากับโอรสสวรรค์น้อยจนไม่คุ้นชินหากจะหาคำที่เหมาะสมคงจะต้องบอกว่า ไม่เพียงกับสนมที่ฝนตกไม่ทั่วฟ้ากับโอรสธิดาเองฝนก็ตกไม่ทั่วฟ้าเช่นกัน เฉินอันหนิงโชคดีที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-09

บทล่าสุด

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่61 ศิษย์สำนักเฟยผิง

    หอเทียนหลินเมื่อการประชุมหารือราชการจบลง เหล่าขุนนางก็กลับไปทำงานในหน้าที่ บ้างก็กลับจวน ส่วนเหล่าอ๋อง...ถูกพี่สาวเรียกมาหอเทียนหลินเฉินอันหนิงยิ้มกว้างเมื่อกวาดตามองเหล่าน้องชายทีละคน วันนี้ช่างเป็นวันดี เจ้าลูกเจี๊ยบของนางมากันครบถ้วน ขาดเพียงน้อง ๆ ที่ยังไม่ได้สวมกว้านเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เท่านั้น พอได้มองดูแต่ละคน ก็มองเห็นความแตกต่าง ทว่าน้อง ๆ ของนางต่างก็หล่อเหลาด้วยกันทั้งสิ้นลูกเจี๊ยบเหล่านี้ไม่เพียงได้ความหล่อเหลาจากเสด็จพ่อที่สมัยยังหนุ่มหรือแม้แต่ตอนนี้ก็ยังดูหล่อเหลาแต่ยังได้รับจากฝั่งมารดาที่งดงามสมกับเป็นสตรีวังหลังอีกด้วย“พี่ห้า ครั้งก่อนท่านยังไม่ได้เล่าเลยว่าท่านติดตามท่านหมอเทวดาไปที่ใดบ้าง” เป็นเฉินซูหนี่ อดีตองค์หญิงเจ็ดที่ได้เลื่อนมาเป็นองค์หญิงหกที่ส่งเสียงถามขึ้น นอกจากเหล่าน้องชายจะมาครบแล้ว วันนี้ยังมีองค์หญิงหกและองค์หญิงเก้าที่หนีออกมาเที่ยวเล่นมาร่วมด้วยน้องสาวทั้งสอง จะว่าเดินตามรอยพี่สาวคนโตก็ว่าได้ พวกนางมักจะลอบออกมาเที่ยวเล่นอยู่เป็นประจำ แต่

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่60 ไป๋อ๋อง

    ตำหนักอันหนิงอากาศยามเช้าในวันหิมะตก ไม่ดีหนัก แต่ถึงแม้จะอยากซุกตัวอยู่ในผ้าห่มผืนหนาสักเท่าไหร่เฉินอันหนิงก็ต้องฝืนตัวเองลุกขึ้นมา ด้วยว่าวันนี้เป็นวันที่นางมั่นใจว่าน้องชายคนที่ห้าจะมาเข้าเฝ้ากลางดึกที่ผ่านมาเค่อซินมารายงานว่าเฉินไป๋เสวี่ยเดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้วเพียงแค่ยังไม่ได้เข้าวังนั่นเท่ากับว่าเช้าวันนี้น้องชายของนางจะต้องมาเข้าเฝ้าต่อหน้าพระพักตร์เป็นแน่ เช่นนั้นวันนี้ต่อให้ไม่อยากตื่นนางก็ต้องตื่น และ...นางก็จะไปเข้าประชุมด้วยก็แล้วกันขนบธรรมเนียมแคว้นอื่นเป็นอย่างไรเฉินอันหนิงไม่อาจรู้ และอาจจะเป็นเหมือนกับนิยายยุคจีนโบราณที่นางเคยอ่านที่สตรีไม่ยุ่งงานราชการ แต่ที่ต้าเฉินไม่ได้มีกฎข้อห้ามและขนบธรรมเนียมเช่นนั้น แม้ยังไม่มีขุนนางหญิงในราชสำนักแต่เหล่าขุนนางในท้องพระโรงก็ได้พบเจอนางอยู่ข้าง ๆ ฮ่องเต้เป็นประจำทว่าช่วงนี้นางไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในท้องพระโรงบ่อยดั่งเช่นก่อนหน้า หากพูดให้ถูกคือนางไม่ได้เข้าร่วมเลยตั้งแต่หิมะตก แม้กลับจากซินอู๋แล้วก็ยังไม่ได้เข้าร่วม และจากนี้ไปก็อาจจะเข

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่59 เจรจา

    “มาทำการค้ากับข้าซะดี ๆ เถอะ”จบคำพูดของนางทุกอย่างก็พลันเงียบลง อ๋องผู้แทบจะกลายเป็นของประดับไร้ชีวิตพากันเลิ่กลั่ก พี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นอันใดไป จะชวนมาร่วมการค้า หรือว่าบังคับขู่เข็นกันแน่“จิวหลินขอบังอาจ...พระองค์ชวนกระหม่อม หรือว่าบังคับข่มขู่กันหรือ?”“ข่มขู่หรือชักชวน นั่นก็ขึ้นอยู่กับท่านจะตัดสิน”สายตาที่จับจ้องเว่ยหนิงตลอดมาหันมามองพิจารณาผู้ที่มีคำว่าหนิงในชื่ออีกคน ท่าทีของนางอย่างไรก็ไม่คล้ายพูดเล่น และคล้ายว่าคำตอบเดียวที่นางต้องการคือตอบตกลงจริงอยู่ว่าตรงหน้าเขาคือองค์หญิงที่กุมอำนาจของต้าเฉินเอาไว้ในมือ ทว่าคนต่างแคว้นเช่นเขา นางคิดหรือว่าจะบังคับกันได้“คล้ายองค์หญิงมั่นใจเหลือเกินว่ากระหม่อมจะไม่ปฏิเสธ”“บอกท่านตามตรง...ข้ามั่นใจ” ใช่ นางมั่นใจจริง ๆ จึงได้พูดจาราวกับบังคับกัน มากกว่าเป็นการชักชวน นางมีแต้มต่ออย่างไรเล่า“เอาความมั่นใจมาจากที่ใดกัน หรือเพราะแม่นางเว่ยร่วมกา

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่58 หอเทียนหลิน

    หนึ่งก้านธูปต่อมาหอเทียนหลินคือจุดหมายของเฉินอันหนิงหลังจากที่กินบะหมี่เสร็จ ที่นั่นไม่เพียงเป็นที่ที่พี่ชายนอกสายเลือดอย่างจิวหลิงบอกว่าเกี่ยวข้องกับตน แต่ยังเป็นสถานที่นัดหมายของนางกับเว่ยหนิงด้วยตั้งแต่คบหาเป็นสหาย นางกับเว่ยหนิงก็นัดหมายกันตามหอสุราขึ้นชื่ออยู่บ่อย ๆ ครั้งนี้ก็เป็นเวลาของหอเทียนหลินไม่ทันจะได้มองหาผู้นัดหมายผู้ดูแลของหอเทียนหลินก็เข้ามาทำความเคารพแล้วเชิญไปยังห้องที่เว่ยหนิงนั่งรออยู่“เจ้าว่องไวไม่เบา”“คนทำการค้าอย่างข้า เมื่อต้องว่องไวย่อมต้องว่องไวเป็นธรรมดา...เจ้าพาอาหารตามาให้ข้าด้วยหรือสหาย” เว่ยหนิงเอ่ยแล้วมองพิจารณาไปยังบุรุษรูปงามที่ติดตามสหายเข้ามาภายในห้อง จะอี้อ๋อง หานอ๋อง หรือเฉิงอ๋อง ต่างก็เป็นบุรุษรูปงามทั้งนั้น สหายของนางที่รายล้อมไปด้วยอาหารตาชั้นดีเหล่านี้ช่างโชคดียิ่งนักชายงามหอพันเซียนยังไม่อาจเทียบได้เลย...เป็นบุญตาอะไรเช่นนี้“น้องชายข้าไม่ใช่อาหารตา อย่าได้สนใจพวกเขา ถ้าเจ้าไม่อยากพบความยุ

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่57 รองแม่ทัพหรง

    เฉินอันหนิงมองสองพี่น้องที่ตัวสั่นเป็นลูกนกก่อนจะยิ้มขำ ดูเอาเถิดท่าทีในตอนนี้แตกต่างจนน่าใจหาย “เอาเถิด พวกเจ้าลุกขึ้นได้ ข้ามิได้ขุ่นเคืองอันใด แต่สิ่งที่ข้าบอกพวกเจ้าไป อย่าได้ลืมเล่า”“พวกเราจะจดจำและทำตามเพคะ”“เช่นนั้นก็ไปนั่งเถิด ตามสบาย”“ขอบพระทัยองค์หญิง” สองคุณหนูแห่งตระกุลฟ่านโน้มตัวคารวะเชื้อพระวงค์ทั้งสี่ก่อนจะกลับไปนั่งที่เดิม และอยู่กันอย่างเงียบเชียบเฉินอันหนิงเลิกให้ความสนใจคุณหนูทั้งสอง หันกลับมามองน้อง ๆ ของตน “เสร็จจากที่นี่ พวกเจ้าไปทำธุระเป็นเพื่อนข้าหน่อย”“มิใช่จะไปร่ำสุราหรือ”“ธุระ” นางแย้งทว่าสายตาของน้องชายก็เหมือนจะไม่เชื่อ พี่สาวผู้มีน้องชายฉลาดรู้ทันส่ายหน้าเบา ๆ ก่อนจะเอ่ย “ก็ไปคุยธุระด้วย ร่ำสุราด้วย จะเป็นไรไป”จะเป็นอันใดได้เล่า นอกจากโอรสสวรรค์ ผู้เดียวที่ใครก็ไม่กล้าต่อกรก็คือองค์หญิงใหญ่ ต่อให้นางทำเรื่องร้ายแรง ก็ไม่มีใครว่าอันใดอยู

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่56 คุณหนูสกุลฟ่าน

    “คนเยอะเช่นนี้อึดอัดเสียจริง”เป็นเฉินซีเฉิงที่เอ่ยขึ้นในขณะที่พี่สาวร่ำร้องอยู่ในใจที่น้องชายไม่มีผู้ใดสนใจสตรีรูปงาม ทว่าไม่ใช่แค่เขาที่รู้สึกเช่นนั้น“นั่นสิ อึดอัดจริง ๆ ยืนกันเต็มไปหมด” เฉินชิงเซวียนเองก็รู้สึกเช่นกัน โอรสพระองค์รองมีสีหน้าเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด พวกเขาต่างก็ทิ้งคนไว้ด้านล่างเพราะอยากจะนั่งกับพี่สาวอย่างอิสระ ไม่ต้องให้ผู้ใดมองมาอย่างหวั่นเกรง แต่ดูโต๊ะข้าง ๆ สิ ผู้ติดตามแทบจะเต็มพื้นที่เช่นนั้น น่าอึดอัดยิ่งโต๊ะไม่ได้ห่างนัก คุณหนูทั้งสองได้ยินอย่างชัดเจน และเหมือนจะรู้ตัวโดยไม่ต้องมีผู้ใดบอก สตรีชุดชมพูอ่อนจ้องเขม็งมาทันที แต่ไม่ได้พูดสิ่งใด อันเนื่องมาจากผู้ติดตามพูดแทนเป็นที่เรียบร้อย“บังอาจ! พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรเอ่ยเช่นนี้ให้คุณหนูของท่านแม่ทัพฟ่านได้ยิน ไม่อยากอยู่แล้วใช่หรือไม่”“พวกเจ้ามากกว่ากระมังที่ไม่อยากอยู่” เฉินซีหานสวนกลับพร้อมกับจ้องอย่างดุดัน สาเหตุที่เขารีบพูดก็เพราะไม่ต้องการให้พี่ชายคนรองที่ดูจะ

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่55 ไม่ยอม

    เสียงตะโกนเรียกอย่างพร้อมเพรียงของน้องชายคนที่สาม น้องชายคนที่สี่รวมถึงน้องชายคนที่แปดที่ตอนนี้เลื่อนกลับมาเป็นน้องชายคนที่เจ็ดเพราะเฉินซูเหมยถูกถอดออกจากลำดับโอรสธิดาทำเอาผู้คนภายในหอซุนฉีถึงกับสะดุ้งตกใจ และหันมามองท่าทีกระหือดกระหอบของบุรุษรูปงามที่ก้าวเข้ามาภายในหอซุยฉีอย่างสนใจเฉินอันหนิงเลิกคิ้วมองก่อนจะกวักมือให้พวกเขารีบมานั่ง อย่าได้รบกวนผู้คนจนเป็นจุดสนใจ ลูกเจี๊ยบทั้งสามทำตามอย่างว่าง่าย เพียงครู่ก็มานั่งกันเต็มโต๊ะตาคู่หงส์มองไปที่น้องชายคนที่เจ็ดที่น้อยครั้งจะออกจากจวนเป็นคนแรก เฉิงอ๋อง เฉินซีเฉิง เป็นบุรุษผู้อยู่กับธรรมชาติมากกว่าผู้คน ตั้งแต่มีจวนเป็นของตัวเองเมื่อครึ่งปีก่อนก็ขลุกอยู่กับการปลูกต้นไม้ และจัดสวน นอกจากตอนที่นึกครึ้มไปหานางหรือมีการรวมตัวที่ตำหนักอันหนิงแล้วแทบไม่มีผู้ใดได้เห็นหน้านางไม่ได้ให้เค่อซินส่งคนไปเรียก เพราะรู้ดีว่าเฉินซีเฉิงจะไม่ออกนอกจวนเด็ดขาด แต่กลับผิดคาด เจ้าลูกเจี๊ยบตัวนี้ก็ออกจากจวนมาเพราะได้ข่าวสารว่าอีกสองปีนางจะออกเรือนเจ้าพวกนี้เป็นอะไรมากไปหรื

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่54 เซวียนอ๋อง

    บุรุษหนุ่มส่ายหน้ากับตัวเองอีกครั้งก่อนจะบอกเล่า “ข้าไปเมืองจิ้งหลวนมา”“ที่แท้เจ้าไปหาช่องทางการค้ากับชาวโพ้นทะเล” แค่น้องชายบอกว่าไปที่ใดมา นางก็คาดเดาได้ น้องรองผู้นี้เสนอเรื่องการค้ากับชาวโพ้นทะเลที่มีของแปลกใหม่มาขายขึ้นมาในที่ประชุม การที่เขาหายไปและจุดหมายคือเมืองจิ้งหลวนที่เป็นเมืองท่าติดทะเล ย่อมเป็นไปได้ว่าเขาจะไปติดต่อกับชาวโพ้นทะเล“ใช่ ข้าไปหาช่องทางทำการค้ากับคนเหล่านั้น”“แล้วเป็นอย่างไร”“ข้ามองหาคนที่มีตาสีฟ้า ตามที่ท่านเคยบอกเล่า แล้วก็พูดภาษาที่ท่านสอนกับเขา แล้วเราคุยกันรู้เรื่อง” เฉินชิงเซวียนพูดแล้วก็ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงตอนที่ตนหาผู้ที่จะเจรจาการค้าด้วย ภาษาประหลาดที่พี่สาวสั่งสอนได้นำมาใช้ในตอนนั้น และเป็นเรื่องน่าทึ่งที่คนผู้นั้นพูดภาษาประหลาดนั้นตอบโต้กับเขาได้เฉินอันหนิงยิ้มตามน้องชายคนรองในทันที ตาคู่หวานมีประกายยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตอนแรกที่รู้ว่าชีวิตของนางเป็นแค่ส่วนหนึ่งของนิยายที่มีน้องชายคนที่สามเป

  • เฉินอันหนิง องค์หญิงผู้หวนคืน   บทที่53 ข่าวแดนไกล

    ตามที่เฉินอันหนิงให้สัญญากับจิวหลิงเอาไว้ว่าจะส่งยอดฝีมือไปให้ นางจึงให้ท่านลุงฟู่คัดเลือกยอดฝีมือในสังกัดทั้งยังมอบหมายหน้าที่ให้เค่อซุนไปเป็นหัวหน้ากองกำลัง นัยหนึ่งก็เพราะจิวหลิงและเค่อซุนพูดคุยกันถูกคอน่าจะเข้าใจกันได้ง่าย อีกนัยหนึ่งก็เพื่อให้เค่อซุนคอยดูแลคนโง่งมให้นางวรยุทธของเขานับว่าล้ำเลิศ ใช่ว่าผู้ใดจะจัดการได้ เค่อซุนไม่อาจเทียบเคียง นางจึงไม่ได้ปรารถนาให้เค่อซุนคุ้มกันเขาจากศัตรู แต่ป้องกันจากสตรีต่างหากจะต้องไม่มีใครมาข้องแวะกับบุรุษของนาง…ไม่รู้ว่าป่านนี้คนโง่งมผู้นั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง แล้วคนของนางจะไปถึงแล้วหรือไม่“กราบทูลองค์หญิง องครักษ์เค่อซินขอเข้าเฝ้าเพคะ” เสียงจากนางกำนัลที่เข้ามารายงานเรียกให้คนที่เผลอขบคิดไปถึงคนห่างไกลได้สติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน นางตอบรับในทันทีก่อนที่องครักษ์หนุ่มจะเข้ามาทำความเคารพ“เค่อซินถวายพระพรองค์หญิง” หลังจากโค้งคำนับผู้เป็นนายเป็นที่เรียบร้อย ผู้มีเรื่องมารายงานก็เอ่ยในทันทีโดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายสอบถาม

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status