"แด๊ดดี๊ตักอันนี้ให้หม่ามี๊สิครับ หม่ามี๊ชอบทานมาก" มาร์คินชี้นิ้วไปยังอาหารตรงหน้าแล้วบอกแม็กซ์เวลล์ คนเป็นพ่อทำตามที่ลูกชายตัวน้อยเสนอ ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเข้ากันได้ดีไม่น้อยแม้เพิ่งเจอกันก็ตาม แต่ก็อย่างว่า พวกเขามีสายใยเชื่อมโยงกัน ไม่แปลกที่มาร์คินและแม็กซ์เวลล์จะมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน "มาร
"อยู่กับฉันนะ" "ฉัน..." พูดไม่ทันจบ แม็กซ์เวลล์ได้ฉกริมฝีปากสีระเรื่อของคนตัวเล็กไปจูบอย่างดูดดื่ม ก่อนจะถอนออกในเวลาต่อมา "ถ้าอย่างนั้นนายช่วยบอกฉันได้ไหม ทำไมนายถึงอยากให้ฉันอยู่กับนาย" "จำเป็นต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?" "ถ้านายไม่มีเหตุผลที่ดีพอมาพูด เราก็ไม่จำเป็นต้องอยู่ด้วยกัน หลังจากพ่อฉันหายดี
"คุณพ่อเป็นยังไงบ้างคะ" "พ่อแข็งแรงดี ยังปึ๋งปั๋งอยู่เหมือนตอนหนุ่มๆ" ณดลตอบลูกสาวพร้อมรอยยิ้ม เพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายพลอยเครียดตามไปด้วย "แล้วมาร์คินล่ะ ไม่มาด้วยเหรอ" "แม็กซ์เวลล์พาไปซื้อของขนมค่ะ เดี๋ยวตามขึ้นมา" "แล้วเรื่องของณิกับเขา สรุปมันยังไงกัน ทำไมยังครุมเครืออยู่แบบนี้" "ณิเคยบอกแล้ว
"คราวหลังฉันจะคิดเยอะๆ แล้วจะบอกนายนะ" "หึ" รอยยิ้มอ่อนๆ ถูกประดับขึ้นมาบนใบหน้าหล่อเหลา แม็กซ์เวลล์จับมือทั้งสองของณิชามากุมไว้ เขาตะหงิดใจเลยตามเธอออกมา หากไม่ตามมาคงไม่รู้ว่าณิชาจะกำลังไปทำอะไร ผู้หญิงตัวนิดเดียวแต่จะไปเผชิญหน้ากับอันตราย เกิดเป็นอะไรขึ้นมาคงไม่คุ้ม ณิชาเธอกล้าหาญเกินไป อ่อน
"แม็กซ์เวลล์ ปล่อยฉันเดินเองเถอะคนมองใหญ่แล้ว" ณิชากระซิบบอกแม็กซ์เวลล์ พยายามไม่สบตากับผู้คนที่เดินสวนไปมาในห้างสรรพสินค้า นี่เขาคิดอะไรอยู่ถึงอุ้มเธอท่าเจ้าสาวกลางห้าง เขารู้ไหมว่าเธออายจนแทบอยากหาปี๊บมาคลุมหัวตัวเอง "มองแล้วยังไง" "นายไม่อายพวกเขารึไง" "ทำไมต้องอาย?" เขาก้มลงมาถาม แล้วดึงสา
"ฉันยังไม่เคยทำหน้าที่พ่อให้มาร์คินจริงๆ จังๆ เลยนับตั้งแต่รู้ว่าเขาเป็นลูกตัวเอง นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ทำหน้าที่พ่ออย่างเต็มรูปแบบ" "...." "ฉันรอวันที่เธอให้อภัยฉันอยู่นะ" แม็กซ์เวลล์ค่อยๆ สอดมือประสานมือณิชาที่เดินอยู่ข้างกาย ไออุ่นจากฝ่ามือหนาพลอยทำให้หัวใจคนตัวเล็กไหววูบ @โรงพยาบาลเอกชน แ
"เด็กคนนั้นเป็นลูกของณิกับคุณแม็กซ์เวลล์ใช่ไหม" ณัชชาเอ่ยถามน้องสาวด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบเช่นเดียวกับแววตาซึ่งยากจะหยั่งรู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ คำถามของคนเป็นพี่ทำให้ณิชาเงียบลงไปสองนาน สายตาที่มองมากำลังกดดันให้ตอบคำถามนั้น และแล้ววันนี้มันก็มาถึงจนได้ เธอไม่เคยคาดหวังให้อีกฝ่ายไม่กลับมาเพราะรู้ดีว
"พี่รู้หมดนั่นแหละ มีคนเล่าให้พี่ฟัง" "ใครเหรอคะ?" "ไม่บอก ความลับ ณิตอบพี่มาว่ามีปัญหากันจริงๆ ใช่ไหม" "ก็มีค่ะ" "เล่าให้พี่ฟังได้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น" ณิชาพยักหน้าแทนการตอบ เธอเริ่มเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ณัชชาฟัง "โกรธเรื่องที่เขารู้ว่าณิไม่ใช่พี่ใช่ไหม?" "ณิแค่ไม่อยากเป็นคนโง่ให้เขา
"...." "ผมไม่เคยคิดจะทิ้งพี่เลยนะ พี่ก็รู้ว่าผมรักพี่มากขนาดไหน" "ก็นายไม่สนใจฉัน" "ถ้าเป็นเรื่องนี้ผมขอโทษ หายงอนผมนะ" "...." "เงียบแบบนี้คือ? ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้ผมพาไปกินอาหารญี่ปุ่นเอาไหม" เจเลอร์มองดรีมผ่านกระจกตรงหน้า เธอทำหน้าลังเลเล็กน้อยเมื่อได้ยินเขาพูดถึงอาหารญี่ปุ่นเพราะมันเป็นของโป
"เป็นยังไงบ้าง" "สวยมาก" "นายชอบไหม" "ชอบมาก ชุดนี้สวยเหมาะกับพี่" ดรีมยิ้มพลางเลื่อนมือขึ้นมาเกาท้ายทอยตัวเองด้วยความเขินอาย "เรามาถ่ายรูปคู่กันดีไหม" "พี่อยากถ่ายรูปคู่กับผมเหรอ?" "ใช่ เรายังไม่มีรูปคู่กันเลยนี่หน่า นะๆ พี่คะ รบกวนถ่ายรูปให้เราสองคนหน่อยได้ไหมคะ" "ได้ค่ะ" พนักงานสาวตอบรับด
หลายวันต่อมา "อื้อ...ทำอะไรของพี่เนี่ย" ชายหนุ่มที่กำลังนอนหลับอยู่เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงงัวเงีย เมื่อโดนคนตัวเล็กเข้ามาปลุกโดยวิธีการจุ๊บแก้มซ้ำหลายๆ รอบ เธอมักเข้ามาปลุกเขาแบบนี้ทุกเช้า "ตื่นเร็วเช้าแล้ว" "ขอนอนต่ออีกห้านาทีนะ ผมเพลียมากเลย" คนฟังทำหน้านิ่ว ทุกครั้งที่เข้ามาปลุก เจเลอร์มักพูดแบ
"ไปกอดต่อบนห้อง" เขาจับมือดรีมให้เดินตามไปยังลิฟต์ สามวันที่ผ่านมาบอกตามตรงว่าคิดถึงเธอมาก แม้จะคุยกันผ่านแชตเป็นประจำแต่มันก็ไม่ทำให้หายคิดถึงเท่าเห็นหน้า ประตูลิฟต์เปิดออกเมื่อถึงชั้นเป้าหมาย เจเลอร์จูงมือดรีมมายังห้องตัวเอง เมื่อเข้ามาข้างในเขาไม่รอช้าที่จะดึงคนตัวเล็กมากอดอีกครั้งด้วยความคิดถึง
สามวันต่อมา "รู้สึกยังไงบ้างที่มีผู้ชายโพสต์รูปลงไอจี" ณิชาที่กำลังเดินคล้องแขนดรีมเลือกซื้อของบนห้างสรรพสินค้าเอ่ยถามด้วยรอยยิ้ม "เดี๋ยวเขาก็ลบออกไปเองแหละ" "การที่ผู้ชายทำแบบนี้ฉันว่ามันชัดเจนแล้วนะว่าเจเลอร์อะ เขาคิดเหมือนกันกับแก" "แต่ว่าเขาไม่เคยพูดว่ารู้สึกยังไงกับฉัน" เธอพูดตัดพ้อออกมา
"อะ" ชายหนุ่มรุ่นน้องปรายสายตามองสร้อยประจำตระกูลที่ดรีมคืนให้เพียงนิด ก่อนจะดึงสายตากลับไปมองวิวตรงหน้าต่อพลางขยับปากพูดกับหญิงสาว "พี่เก็บไว้ใส่เถอะ" "แต่ว่านี่เป็นสร้อยประจำตระกูลของนายเลยนะ จะเอามาให้ฉันเก็บไว้ใส่เองได้ยังไง" "พี่เป็นเมียผมแล้วนะ ของๆ ผัว ก็เหมือนของๆ เมีย" "คะ...ใครเป็นเม
เช้าวันต่อมา แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้องนอนสี่เหลี่ยมหรูกระทบเข้ากับเจ้าของใบหน้าสวยหวานที่กำลังนอนหลับปุ๋ยบนเตียง เปลือกตาสีขาวค่อยๆ ปรือขึ้นมาอย่างยากลำบากเพราะมีแสงแดดกำลังแยงตา เธอดึงตัวเองขึ้นจากหมอนใบใหญ่พลางมองไปรอบห้องนอน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านี่คือคอนโดของเจเลอร์ แล้วเธอก็นอนที่นี่
"เจเลอร์" เสียงนั้นทำให้เจเลอร์และดรีมพลันสายไปมอง พบว่าเจ้าของเสียงเมื่อครู่คือพิตต้า หล่อนเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้ม "เจอกันอีกแล้วนะ" "มีอะไร" "ทำไมต้องทำตัวห่างเหินกันด้วยล่ะ เมื่อก่อนเจเลอร์ไม่เป็นแบบนี้นี่หน่า" "เรื่องของเรามันจบไปแล้ว จะพูดถึงทำไมอีก" "เพราะพิตต้ายังรักเจเลอร์อยู่ เราจะไม่
เธอปลีกตัวจากเจเลอร์มาเข้าห้องน้ำเพราะไม่ว่าจะเดินไปทางไหนเขาก็เอาแต่เดินตามราวกับกลัวว่าเธอจะหายไปไหน หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จเธอก้าวออกมาล้างมือ ก่อนจะหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดมือแล้วทิ้งลงถังขยะ จังหวะกำลังเดินออกไปเป็นต้องชะงัก เมื่อพิตต้า อดีตแฟนเก่าของเจเลอร์ได้เดินเข้ามาในห้องน้ำพอดี เธอและพิตต