เพราะต้องการพามะลิมาเที่ยวมาชอปปิ้งเท่านั้น เธอก็ยิ่งทนไม่ได้กับคำเยาะเย้ยถากถางของอีกฝ่าย“ไม่ออกจ้า ที่นี่ฉันมีสิทธิ์จะอยู่ตรงไหนก็ได้ มันเป็นบ้านของคุณวิณเช่นกัน และอีกไม่นานฉันจะแต่งงานกับเขา และจะเป็นอาสะใภ้ของเธอ หรือเอ อาจไม่ได้เป็นนะ เพราะฉันจะให้คุณวิณเฉดหัวเธอออกจากทะเบียนบ้าน”“ไม่มีทางคนอย่างเธอ ไม่มีวันได้แต่งงานกับอาวิณ!”“ก็ดูกันต่อไปสิ แต่อย่าหวังนะยัยเด็กกะโปโล ผอมแห้งกรังอย่างเธอไม่มีวันได้เป็นเจ้าสาวของคุณภูเช่นกัน!”“เธอก็ไม่มีวันได้เป็นยัยบวมฉ่ำ!”กรี๊ดดดดดดดด“นี่แกว่าฉันบวมเหรอ! ฉันไม่ได้บวมนะ ฉันแค่อวบอิ่ม ฉันไม่ได้บวม ฉันตัวเล็กนิดเดียว!”“ฉันก็ไม่ได้ผอมแห้งกรังเหมือนกันยะ ฉันแค่เฟิร์ม เพราะชอบออกกำลังกาย และฉันสวยด้วยย่ะ!”ทั้งสองแว้ดใส่กันอย่างไม่มีใครยอมใคร จนเสียงดังลั่นออกไปนอกห้อง ทำให้คนที่เพิ่งเดินมาจะเข้าห้องตัวเองได้ยิน ต้องเดินมายังห้องเกิดเหตุ โดยที่ไม่ได้เคาะประตู จึงเห็นสองสาวต่างวัยและต่างไซซ์กำลังจ้องหน้า เหมือนเตรียมจะวางมวย“เกิดอะไรขึ้น!” เสียงห้าวดุดังขึ้น ทำให้สองสาวต่างวัยหันขวับไปมอง“คุณวิณขา น้องเอิงน่ะ อยู่ๆ มาบูลลี่มะลิค่ะ ว่าตัวบวมฉ
วันเวลา ก็สามปีแล้วนะ มันนานเกินกว่าที่จะเก็บเอามาคิด แต่อรองค์ก็อดคิดไม่ได้ เพราะสุดท้ายแล้วภูวิณก็ไม่เคยมาที่บ้านอีกเลย นับตั้งแต่วันนั้น เธอเองก็ยังถูกสั่งห้ามกลับไร่ จนกว่าจะเรียนจบปริญญาตรี ซึ่งเธอกับอารียาเพิ่งสอบเข้ามหาวิยาลัยเดียวกัน แต่เลือกคนละคณะ อารียาเลือกเรียนนิเทศศาสตร์ ฝันอยากทำงานเบื้องหลังวงการโทรทัศน์หรือเกี่ยวข้องกับวงการบันเทิง ส่วนอรองค์เรียนคณะบริหารธุรกิจ กับความคิดที่จะใช้ความรู้กลับไปช่วยงานภูริณที่ไร่อย่างที่ตั้งใจไว้แต่แรก รวมทั้งรีสอร์ตที่เพิ่งสร้างเสร็จ และเปิดบริการเรียบร้อยแม้ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วเธอจะได้กลับไปที่ไร่ภูวิณอีกครั้งหรือเปล่า เพราะหากภูวิณเลือกที่จะใช้ชีวิตคู่กับมะลิ เธอคงหมดโอกาสจะกลับไป เพราะนอกจากจะทนเห็นทั้งสองรักกัน มะลิก็คงไม่ให้เธออยู่อย่างสุขสงบเช่นกัน แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ที่นั่น ถ้าอยู่อย่างสงบไม่ได้ “มัวแต่นั่งเหม่ออยู่นั่นแหละ ไม้กับมิ้นท์และมะเหมี่ยวรออยู่ที่ร้านแล้วนะ” อารียาเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นอรองค์นั่งเหม่ออยู่ในห้องนั่งเล่น ขณะที่เธอพร้อมจะออกจากบ้านแล
ขณะที่อารียา หน้าตาออกแนวน่ารัก น่าเอ็นดู บวกกับรูปร่างเล็ก สดใส ส่วนมัทนาเป็นคนสวยเรียบๆ ถ้ามองผ่านก็ไม่มีอะไรสะดุดตา แต่มองนานๆ แล้วก็เห็นความสวยคมคายมีเสน่ห์เยือกเย็น ส่วนเธอเองนั้น มะเหมี่ยวคิดว่าตัวเองหน้าตาสวยน้อยที่สุดในกลุ่มเพื่อน แต่เธอสดใส น่ารัก และตัวเล็กนิดเดียวพอๆ กับอารียา ซึ่งจะหาว่าโม้ ในกลุ่มเพื่อนสนิท เธอคือคนที่มีผู้ชายจีบมากที่สุดด้วยซ้ำ ก็แหงสิ เธอเฟรนลี่ที่สุดในกลุ่มนี่ “ถามจริง แกเรียนกฎหมายเพื่อจะเป็นทนายเหรอไม้” มะเหมี่ยวถามต่อ “เปล่า” “แล้วอยากเป็นอะไร” “อือ วันหนึ่งก็คงรู้เองแหละ”“ฉันเดานะ อย่างไม้ ไม่ชอบพูดเยอะ คงไม่เหมาะกับทนายที่ต้องมีลูกล่อลูกชน ฉันว่าไม้เหมาะจะเป็นอัยการมากกว่า” “หรือไม่ก็ผู้พิพากษา” มัทนาว่า มัชกรไม่ตอบอะไร แต่ยิ้มน้อยๆ ให้กับการเดาของเพื่อนๆ “คงไม่อยากเป็นตำรวจหรอกนะ” อรองค์เดาบ้าง คำพูดนั้นทำให้มัชกรส่งยิ้มให้อีกฝ่าย พอทุกคนกินอิ่ม อารียากับมะเหมี่ยวก็พากันไปชอปปิ้ง ส่วนอรองค์ มัทนา และมัชกรนั้นก็เข้าร้านกาแฟ
“แล้วแม่ของไม้ล่ะ”“แม่เราตาย มันนานเท่าอายุเราเลยนะ ไปแจ้งความตอนนี้มันคงไม่มีประโยชน์อะไร เพราะศพแม่เราก็เผาไปนานแล้ว ไม่มีหลักฐาน เช่นการถ่ายภาพเก็บไว้เลย แถมโรงพยาบาลระบุการตายว่าตกเลือกจากการคลอดลูกอีก” มัชกรอธิบาย“แต่เราว่านะ ถ้าเรื่องคดี เราไม่มีหลักฐาน แต่เราหาทางเล่นงานมันทางอื่นก็ได้ คนชั่วๆ มันย่อมทำเรื่องชั่วๆ ตลอดเวลาอยู่แล้ว” อรองค์ออกความเห็น ตอนยังเด็กจำได้ว่าย่าพิสมัยให้เธอลืมเรื่องนี้ คิดเสียว่าเป็นเวรกรรม คนที่ทำอาจเป็นคนที่พ่อกับปู่ภวัตเคยกระทำกับเขามาในชาติปางก่อน ตอนยังเด็กเธอก็คล้อยตามแบบเด็กเชื่อฟังผู้ใหญ่ ครั้นพอโตก็คิดว่าคนก่อกรรมทำชั่วควรรับผลในชาตินี้ ไม่มีชาติก่อน หรือชาติหน้าที่จะชดใช้“จริงของแก” มัทนาเออออ“ก่อนเปิดเรียน เราไปเที่ยวบ้านเกิดกันดีไหมไม้” อรองค์เอ่ยขึ้น“ดี เพราะตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยกลับไปที่นั่นเลย”“พวกแกสองคน อย่าคิดทำอะไรแผลงๆ นะโว้ย” มัทนาเอ่ยด้วยสีหน้ากังวล“แกไม่ต้องเป็นห่วงหรอกน่ามิ้นท์ ฉันกับไม้เอาตัวรอดได้” “เออ รู้ว่า แกสองคนเข้ายิม ชกมวย ฝึกเทควันโด แต่พวกชั่วมันชอบหมาหมู่โว้ย แถมสู้มือเปล่าไม่ได้ก็ใช้อาวุธ”“ไม่
กลับบ้าน “แน่ใจนะว่าเขาจะไม่เจอเอิงที่นี่” ‘ที่นี่’ ของมัชกร ก็คือภูวิณรีสอร์ตนั่นเอง อรองค์ยอมรับว่าตัวเองสับสน บางเวลาคิดว่าไม่ควรเจอภูวิณ เพราะอาจจะยิ่งทำให้ตัดใจยาก แต่บางขณะ คิดถึงจนยั้งใจไม่ได้ เช่นตอนนี้ พอจะเลือกที่พักจริงๆ ใจก็คิดว่าอยากพักในที่ที่จะเห็นเขาได้ง่ายขึ้น จึงเลือกภูวิณรีสอร์ต อีกใจเพราะอยากชมสถานที่ที่เป็นอีกหนึ่งธุรกิจ ที่เธอเคยฝันว่าวันหนึ่งเมื่อเรียนจบ จะเข้ามาช่วยภูวิณทำงานตอนนี้ไม่กล้าฝันแล้ว เพราะถ้าภูวิณเลือกสร้างครอบครัวกับมะลิ เธอก็ต้องเป็นคนนอกทันที แต่อย่างไรก็อดไม่ได้ที่จะปลาบปลื้มเมื่อเห็นรีสอร์ต สวยงามและน่าพักที่สุด และความรู้สึกที่มากกว่านั้น เหมือนที่นี่เป็นบ้านอีกหลังของเธอ“ไม่หรอก อีกอย่างถึงเจอก็ไม่รู้ว่าอาวิณจะจำฉันได้ไหม ไม่เจอกันตั้งสามปีเลยนะ และฉันก็โตขึ้นมากเลย”“ก็แล้วแต่เอิงเถอะ ที่นี่ก็สวยดี” ด้านหน้าติดแม่น้ำ ด้านหลังติดไร่ ฉากหลังเป็นภูเขา บรรยากาศเหมาะสำหรับคนรักน้ำ รักต้นไม้ป่าเขา“เมื่อก่อนฉันเคยคิดว่าสักวันจะมาช่วยอาวิณทำงานที่นี่” อรองค์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย“ตอนนี้ล่ะ”“ไม่กล้าคิด ถ้าเขาแต่งงานกับมะลิ มะลิคงไม่ต้อนรั
ทั้งสองเพลินเพลิดกับอาหารอยู่ชั่วครู่ จากนั้นอรองค์ก็พามัชกรไปตลาด ซื้อขนมไทยเจ้าเดิมที่เคยกินตั้งแต่เด็ก ได้ขนมหลายอย่าง ก่อนแวะร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อเครื่องดื่มและของกินเล่น ก่อนกลับภูวิณรีสอร์ตเมื่อถึงห้องพัก อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ก็พากันนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น“พรุ่งนี้ไปขับรถเอทีวีไปดูน้ำตกไหม” อรองค์ชวน“แกไม่กลัวคนรู้จักเห็นเหรอ”“เห็นก็คงจำไม่ได้มั้ง เพราะฉันตัวโตขึ้นเยอะเลยนะ”“โตยังไง แต่หน้าเอิงก็ไม่ได้เปลี่ยนนะโว้ย”“เปลี่ยนสิ สวยขึ้นออก” อรองค์พูดแล้วหัวเราะถูกใจ เมื่อเห็นมัชกรทำเบ้ปาก“ไม่อยากไปที่ไร่เหรอ”“อย่าถามสิ มันทำให้อยากไป” สีหน้าอรองค์นั้นหงอยขึ้นมาทันที มาถึงบ้านเกิด แต่กลับบ้านไม่ได้ น่าเศร้าชะมัด“ก็ไม่เป็นไรหรอก พรุ่งนี้เราก็ขับรถผ่านๆ ไร่ก็ได้มั้ง แต่จริงๆ ที่นี่ให้เข้าไปชมไร่ได้ไม่ใช่เหรอ”“ก็ใช่น่ะสิ”“งั้นเราก็เข้าไปชมสิ”“ไหนแกบอกว่า หน้าฉันไม่เปลี่ยนไง เข้าไปคนงานในไร่ คนเก่าๆ ก็ยังทำงานกันอยู่”“เอิงก็เอาอะไรปิดหน้าสิ สวมแมส สวมหมวกแก๊ป ใส่แว่นกันแดด เหมือนที่ไอดอลเขาทำกันเวลาออกไปข้างนอกไง”“เอ่อ จริงของแก” อรองค์คล้อยตามความคิดของมัชกร“งั้น
เด็กสาวกับบิ๊กไบท์ รถบิ๊กไบค์ที่เพิ่งแซงเขาไปเมื่อครู่ เป็นคันเดียวกับเมื่อวานที่สวนกับรถของเขาตอนวิ่งเข้าไปในรีสอร์ต ซึ่งอีกฝ่ายขับออกนอกเลน จนเขาต้องรีบหลักหลบวันนี้ไม่มีคนซ้อนท้าย ถ้าให้ดูจากรูปร่างคงเดายากว่าเป็นหญิงหรือชาย เพราะสวมหมวกกันน็อคแบบครอบปิดทั้งหน้า แต่เห็นผมยาวที่มัดเป็นหางม้าปลิวไสว กับช่วงขาเรียวยาวในกางเกงยีนส์ขาเดฟนั้นก็บ่งบอกเพศของเจ้าตัวได้เป็นอย่างดีแม้เสื้อแจ็กเก็ตจะปิดบังรูปร่างช่วงบน แต่เมื่อถูกลมพัดแรงก็แนบลำตัว ทำให้เห็นว่าเป็นผู้หญิงรูปร่างเพรียวสูง ขายาว แต่ก็ยังมีทรวดทรงองค์เอวชวนมองแต่ให้ตายสิ เขาชอบขาเรียวยาวของเธอ เผลอมองหลายครั้ง ขณะที่เจ้าตัวขับอยู่เบื้องหน้าด้วยความเร็วสูง เขาเผลอเหยียบคันเร่งตาม แล้วแกล้งแซงเล่นๆแล้วภูวิณก็อดยิ้มไม่ได้ เมื่อเจ้าตัวบิดคันเร่งแซงเขา แล้วมีการโชว์ลีลาขับปราดเป็นรูปงูเลื้อย ก่อนบิดคันเร่งหนี เหมือนกลัวว่าเขาจะแซงอีกครั้งคงเป็นผู้หญิงที่ซ่า ซน ไม่ยอมคนภูวิณคิดแบบนั้น และจู่ๆ เขาก็นึกอยากเห็นใบหน้าที่ครอบอยู่ภายใต้หมวกกันน็อคจะสวยเหมือนช่วงขา และลีลาขับบิ๊กไบค์หรือเปล่าภูวิณนึกขำตัวเองความคิดของตนเองเธออาจจะเ
แต่อีกไม่กี่วันระรินจะได้รู้กันเสียที ว่าภูวิณแต่งงานกับคนอื่นได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับเธอ“แกถือโอกาสแต่งงานกับมะลิครั้งนี้ นอกจากเรื่องข้อตกลงแล้ว แกจะแก้แค้นระรินหรือเปล่า”“แก้แค้นบ้าอะไรล่ะ แต่ยอมรับว่ะ ส่วนหนึ่งก็อยากให้ระรินได้รู้ว่ากูไม่ได้ต้องการจะคืนดีกับเขา”“ก็เพราะมึงเคยรักเขามากไง ถึงต้องหลงตัวเองขนาดนี้”“ก็แค่เคย”“เคยบอกระรินด้วยคำนี้ไหม”“เคย แต่รินไม่เชื่อ”“ฮ่าๆ กูชอบความมั่นของระรินจริงๆ ว่ะ”“แต่กูเบื่อ”“เออๆ แล้วเด็กในปกครองของมึงล่ะ ตอนยังเด็กหน้าตาน่ารักน่าชัง โตแล้วคงสวยมากใช่ไหม”“ไม่รู้ว่ะ ไม่ได้เจอมาสามปีแล้วมั้ง”“เฮ้ย สามปีเลยเหรอวะ” ภาคินรู้สึกแปลกใจมากกับสิ่งที่ได้ยิน เพราะไม่คิดว่าภูวิณกับเด็กในปกครองจะไม่ได้เจอกันนานขนาดนั้น“เออ ตั้งแต่คราวที่ไปเจอมึงตอนนั้นแหละ”“ทำไมเด็กหลงแสงสี ไม่ยอมกลับบ้านเหรอวะ”“กูไม่ให้กลับเองแหละ”“อ้าว ทำไม”“ชอบทะเลาะกับมะลิ ปวดหัวว่ะ”“เออ นะ ก็ไม่แปลก กูเคยได้ยินคนในไร่มึงพูดว่าน้องเอิงโตขึ้นจะเป็นเจ้าสาวของมึง”“ก็พูดเพ้อเจ้อไปเรื่อย”“ตอนเป็นเด็กหน้าตาน่ารักจะตาย โตมาสวย มึงก็อย่าเสียดายล่ะ”“ไอ้บ้า กูจะแต่ง
พอลูกสาวหลับไปแล้ว ภูวิณก็เก็บหนังสือนิทานไว้บนโต๊ะ ห่มผ้านวมให้ หอมแก้มเบาๆ ไม่ลืมที่จะปิดโคมไฟหัวเตียง เหลือเพียงโคมไฟหน้าห้องน้ำ จากนั้นก็กลับห้องนอนของเขากับภรรยาที่อยู่ห้องถัดไป คั่นกลางด้วยห้องแต่งตัวที่ประตูทั้งสองห้องเชื่อมต่อกันได้ภูวิณยิ้มกริ่มเมื่อเปิดประตูห้องแต่งตัวเข้ามาก็เห็นภรรยากำลังสวมชุดนอนสีดำสายเดี่ยว ยิ่งขับผิวขาวนวลลออตา ชุดสั้นเหนือเข่ามาเกือบคืบ โชว์เรียวขาสวยที่เขามองไม่เคยเบื่อ ผมยาวดำขลับทิ้งสยายเต็มกลางหลังใบหน้าที่ไร้การแต่งแต้มกลับเห็นผิวขาวใสไร้รอยด่างดำ แม้จะออกไปช่วยงานในไร่บ่อยครั้ง สลับกลับไปทำงานในรีสอร์ต แต่อรองค์ก็ดูแลตัวเองอย่างดีอรองค์ในวัยสามสิบต้นๆ เหมือนเจ้าตัวเพิ่งเป็นสาวเต็มตัว มีเสน่ห์มากยิ่งกว่าเด็กสาวในวันวานทั้งรูปร่างที่ผอมเพรียว แต่ก็เฟิร์มไปทั้งเนื้อตัว ช่วงอกอวบอิ่มขึ้น ดวงตากว้างเป็นประกายรู้ทันเมื่อเห็นสายตาโลมเลียของเขา“เซ็กซี่จัง” ภูวิณเดินมาโอบกอดภรรยาจากด้านหลัง ซุกจมูกที่ลำคอระหง ก่อนย้ายไปยังซอกหู มือใหญ่นั้นเริ่มไล้เบาๆ ตั้งแต่โค้งสะโพก ผ่านชุดนอนเนื้อบางเบา ทำให้อรองค์วูบไหวจนร่างสะท้าน พร้อมครางเสียงแผ่วริมฝีปากอุ่น
ตอนพิเศษ “คุณแม่ขาหนูอยากปั่นจักรยานเล่นที่ไร่ค่ะ” เด็กหญิงอิงจันทร์ วัยสี่ขวบเอ่ยขึ้นในเวลาบ่ายวันหยุด กำลังกินของว่างกับแม่ในสวนข้างบ้านเด็กหญิงอิงจันทร์มีหน้าตาคล้ายแม่ค่อนข้างมาก ทั้งใบหน้าเรียวรูปไข่ ดวงตาโตกว้างเป็นประกายสดใส ริมฝีปากจิ้มลิ้มได้รูป ผมสั้นเคลียหูและมีหน้าม้า ยิ่งทำให้ใบหน้านั้นเหมือนตุ๊กตาเดินได้“งั้นกินนมให้หมดก่อนค่ะ เดี๋ยวแม่พาไป” เมื่อได้ยินแบบนั้นเด็กหญิงก็ยกแก้วนมที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วดื่มจนหมด“หมดแล้วค่ะ”“งั้นเราไปเปลี่ยนรองเท้าและใส่หมวกกันค่ะ” อรองค์ที่ตอนนี้อยู่ในวัยสามสิบต้นๆ บอกลูกสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนลูกสาวตัวน้อยก็รีบลงจากเก้าอี้ แล้วเดินลิ่วเข้าไปในบ้านทันทีไม่กี่นาทีต่อมาสองแม่ลูกก็อยู่ในชุดเตรียมพร้อมสำหรับการปั่นจักรยาน รองเท้าผ้าใบและหมวกกันน็อค“น้องเอิงคะ ป้าศรีถาม ค่ำนี้กินอะไรดี”“อ๋อ เอิงลืมบอก ตอนค่ำเอิงจะพาน้องอิงไปกินข้าวที่ รีสอร์ตกับพ่อเขาน่ะ”อรองค์หันมาบอกคำแพง ที่ตอนนี้รับหน้าที่หลักเป็นพี่เลี้ยงเด็กหญิงอิงจันทร์ ช่วยงานบ้านอื่นๆ ยามว่างเว้นจากการดูแลเด็กหญิง เช่นวันหยุดที่อรองค์ไม่ได้ทำงาน เธอก็จะดูแลลูกสาวเอง
บทส่งท้าย หกปีต่อมาที่ไร่ภูวิณในเวลาเช้าตรู่ อรอรงค์กำลังแต่งหน้าทำผมเสร็จ สวมใส่ชุดไทยประยุกต์สีครีม ส่งผลให้รูปร่างสูงเพรียวนั้นยิ่งหน้ามองเครื่องประดับน้อยชิ้น แต่ใบหน้าสวยที่แต่งแบบเรียบๆ กลับยิ่งโดดเด่นนัยน์ตาเรียวกว้างและคมหวานเป็นประกายมีชีวิตชีวา ริมฝีปากยิ้มแย้มอิ่มเต็มและเย้ายวนอยู่ในที“แกสวยมาก” มะเหมี่ยวเอ่ยปากชม“เหมือนนางฟ้าเลยแก” มัทนาชมบ้าง“ฉันเห็นเอิงใส่ชุดแต่งงานครั้งที่สองแล้วนะ ครั้งแรกแต่งแทนคนอื่น ตอนนั้นเอิงยังเด็กอยู่ก็สวยน่ารัก ตอนนี้ดูเป็นสาวเต็มตัว เฉิดฉายมากเลย ออร่าแบบพุ่งสุดๆ” อารียาเอ่ยชมด้วยสีหน้าสุดปลื้มปริ่มกับเพื่อนรัก ที่ตอนนี้เพิ่มสถานะอาสะใภ้เข้าไปด้วย“ครั้งนี้ต้องพิเศษสิ เพราะงานแต่งของฉันจริงๆ ไม่ได้แต่งแทนคนอื่น” อรองค์เอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มกว้าง ปลื้มกับคำชมของเพื่อนๆ จนจะลอยได้อยู่แล้ว“สรุป แกเป็นเจ้าสาวสองครั้งในชีวิตของอาวิณ”“ฉันถือครั้งนี้ คืองานแต่งของฉันจริงๆ”“เด็กๆ ไปข้างล่างกันเถอะ ได้กฤกษ์ทำพิธีแล้ว” อินทุอรโผล่หน้ามาบอกทุกคนในห้องแต่งตัวเมื่อลงมาถึงชั้นล่างที่สวนข้างบ้าน ก็เห็นเจ้าบ่าวยืนอยู่กับมัชกร และกลุ่มเพื่อนๆ เพื่อรอเ
“เราชอบอิ้งตั้งแต่ตอนมอต้น แต่เราไม่กล้าแม้จะคุยกับอิ้ง กลัวยัยน้อยหน่าแกล้งอิ้ง”“เราก็คิดว่าไม้ชอบเอิงเสียอีก”“ใครจะกล้าชอบ อิ้งบอกย้ำเราตลอดว่าเอิงจะเป็นเจ้าสาวของอาวิณของอิ้ง”“แฮะๆ ขอโทษนะ ตอนนั้นเรากลัวไม้ชอบเอิงน่ะ เลยบอกย้ำ” เธอสารภาพน้ำเสียงเขินๆ“ก็ตอนนั้นเราชอบอิ้งแล้ว จะชอบใครได้อีก”“แล้วทำไมไม่บอก ถ้าบอกตั้งแต่ตอนนั้นเราคงคบกันได้หลายปีแล้ว แล้วตอนนั้นไม้เหมือนสนใจเอิงด้วยนะ”“ก็สนใจ เพราะเอิงดูสู้คนไง”“เลยให้เอิงไปสู้กับยัยน้อยหน่าว่างั้นเถอะ”“อือ คิดว่าเอิงจัดการได้”“แต่เสียดาย น่าจะบอกกันบ้าง”“ถึงเราจะชอบอิ้ง แต่ก็ยังเด็ก และไม่แน่ใจว่าจะชอบต่อไปได้นานแค่ไหน”“งั้นตอนนี้ก็ยังชอบนะ”“ก็ชอบอยู่”“งั้นเรามาเป็นแฟนกันไหม” เพราะอย่างไรก็คบในฐานะเพื่อนมานานแล้ว ไม่จำเป็นต้องทำความรู้จักกันอะไรกันเพิ่มเติม“ได้ แต่อย่าเพิ่งบอกคนอื่นๆ ได้ไหม”“ทำไม อายเหรอที่จะเป็นแฟนกับเรา” น้ำเสียงมีแววน้อยเนื้อต่ำใจ“ถ้าอิ้งไม่กลัวพวกเขาแซวก็ตามใจอิ้งนะ”“งั้นปิดไว้ก่อนเหอะ แอบๆ คบกันก็น่าสนุกดีนะ” น้ำเสียงเธอร่าเริงขึ้นมาทันที“แต่อิ้งควรบอกผู้ใหญ่ของอิ้งก่อนนะ”“หมายถึงคุณแม่กับอาวิ
“จะไปไหน แต่งตัวซะสวยเชียว” อรองค์ถามขึ้นเมื่อนั่งอ่านหนังสืออยู่ในโถงชั้นล่างพร้อมกินของว่างไปด้วย ก็เห็น อารียาใส่เดรสสีครีมดูอ่อนหวานนุ่มนวล แถมยังแต่งหน้าอ่อนๆ ให้ดูหวานละมุนเข้ากับชุดที่สวมใส่“ไปดูหนังกับไม้”“แกไปล่อลวงไม้ให้ไปดูหนังได้ด้วยเหรอ”“บ้า ล่อลวงอะไร ปกติไม้ก็ไปดูหนังกับฉันกับยัยเหมี่ยวบ่อยๆ” ส่วนอรองค์กับมัทนาไม่ชอบเข้าโรงหนัง รวมทั้งมัชกรด้วย แต่ทุกครั้งที่ชวนเขาก็ไม่เคยปฏิเสธ“ก็ไม้ไปเป็นเพื่อนแกกับยัยเหมี่ยวไง แต่ครั้งนี้เหมี่ยวไปด้วยหรือเปล่า”“ก็ชวนแล้ว แต่มันไม่ว่าง และฉันก็อยากดูหนังเรื่องนี้มาก” เจ้าตัวก็บอกชื่อภาพยนตร์ที่จะไปดู“มีแผนไรหรือเปล่าเนี่ย ชวนไม้ไปดูหนังผี แล้วตัวเองแต่งตัวเป็นนางฟ้า”“อุ๊ย ฉันสวยมากใช่ไหมแก” น้ำเสียงของอารียาร่าเริงขึ้นมาทันที“ไปถามป้าอินที่ร้านดูก่อนไหม”“บ้าสิ ขืนไปถาม แม่ก็ซักไซ้ว่าฉันแอบกิ๊กผู้ชายไม่บอกเขาน่ะสิ”“คิดว่าป้าอินจะไม่รู้เหรอ แกมองไม้ที โหหวานซึ้งตรึงใจไปถึงสามโลก”“เว่อร์น่า”“ไม่เชื่อก็ไปถามไอ้ไม้ดู”“แกว่าฉันควรถามตรงๆ เหรอ”“เออ จะอมพะนำไปทำไม ค้างๆ คาๆ”“งั้นฉันจะลองทำใจกล้าถามเขาดู”“แต่ก็ต้องเผื่อใจด้วยน
ชอบมาตั้งนาน อรองค์กับแก๊งเพื่อนสนิทนั่งอ่านข่าวเด่นข่าวดังด้วยความชื่นมื่นในร้านชาบู ซึ่งจองห้องวีไอพีเฉพาะพวกเขาเท่านั้นข่าวลูกชายนักการเมืองจัดปาร์ตี้ยาได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมค่อนข้างมาก ในคืนนั้นใครตรวจเจอฉี่ม่วงก็โดนกันไป เรียกว่าไม่มีใครรอดสักคน แต่คนที่หนักสุดคือดรีม เพราะเป็นถึงลูกชายนักการเมืองที่เป็นถึงระดับผู้ช่วยรัฐมนตรี แถมตำรวจเจอคลิปลับในโทรศัพท์ของอีกฝ่ายอีกหลายสิบคลิปในโซเซียลฯ ก็ถูกประจานสันดานเลวๆ ของดรีม ส่วนใหญ่ผู้หญิงออกมาพูดว่าดรีมชอบเอาคลิปลับมาขู่ให้ยอมมีเซ็กซ์ในครั้งต่อๆ ไป บางคนก็ถูกล่อลวง แอบถ่ายต่างๆ นานา เรียกว่างานนี้เรียกโจทย์ทั้งเก่าและใหม่มาทัวร์ลงเท่านั้นยังไม่พอทำพ่อเสียชื่อไปด้วย ได้ยินข่าวมาว่า ประกันตัวออกมาแล้ว ดรีมถูกพ่อส่งไปเมืองนอก เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าตามประสาคนรวย พอมีเรื่องก็อยู่เมืองไทยไม่ได้ เพราะกระแสจากสังคมตอนนี้แรงมากทางมหาวิทยาลัยก็สั่งพักการเรียนทุกคนในงานที่ตรวจเจอฉี่ม่วง รวมทั้งน้ำผึ้งด้วย ที่คืนนั้นแม้จะออกมาก่อนตำรวจจะมาถึง แต่อีกฝ่ายก็เป็นเจ้าของงานวันเกิด ถึงแม้คนที่เป็นเจ้าของปาร์ตี้ตัวจริงจะคือดร
ขณะที่อรองค์ถูกน้ำผึ้งกับเพื่อนสนิทของดรีม ชื่อทิว พยุงเข้าไปในห้องนอนนั้น แม้อรองค์จะมั่นใจว่าจัดการได้ตามแผน แต่ก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ รวมทั้งความกระหายบางอย่าง“เธอเก่งมากน้ำผึ้ง เสร็จงาน ฉันจะให้รางวัลเธออีก” ดรีมเอ่ยด้วยสีหน้าพึงพอใจ“ขอบใจ” น้ำผึ้งตอบรับเสียงแผ่ว“ออกไปได้”“มึงก็เบาหน่อยนะ เดี๋ยวคนข้างนอกได้ยิน” ทิวเอ่ยสีหน้ายิ้มกริ่ม“ห้องนี้เก็บเสียงโว้ย พวกมึงก็เปิดเพลงให้ดังหน่อยก็ได้” อีกฝ่ายบอกน้ำเสียงอ้อแอ้เล็กน้อย เพราะดื่มและใช้ยาไปพอสมควร“งั้นตามสบายมึง อย่าลืมเอาคลิปมาให้กูดูด้วย” ทิวพูดสายตาเป็นประกาย ขณะที่น้ำผึ้งแววตาวูบแสง ก่อนจะเดินออกจากห้องนอนไปก่อน ทิวจึงเดินตามออกมาดรีมหันไปมองโทรศัพท์ที่ตั้งไว้ในมุมห้อง ที่สามารถถ่ายคลิปบนเตียงได้อย่างชัดเจนทุกมุมปกติเขาจะถ่ายคลิปในมุมที่เห็นหน้าตารูปร่างผู้หญิงอย่างชัดเจน แต่เห็นหน้าเขาไม่ชัด แต่คลิปนี้พิเศษ เพราะอรองค์เป็นผู้หญิงที่เขาอยากได้มาก และมันยากมากที่จะทำให้อีกฝ่ายมานอนอยู่บนเตียงได้แบบนี้เขาจะเก็บคลิปลับนี้ไว้ดูคนเดียว ไม่เผื่อแผ่ใครทั้งนั้นดรีมถอดเสื้อผ้าออก จากนั้นก็ปลดกระดุมกางเกงยีนส์ทรงเดฟ เพราะดื่มไ
“น้องเอิง ว่างไหม พี่ขอคุยด้วย” หลังเลิกคลาส อรองค์กำลังจะไปซ้อมเชียร์ ‘พี่ผึ้ง’ รุ่นพี่ในคณะที่เธอค่อนข้างสนิท เพราะเป็นพี่รหัสก็เดินมาหา“คุยได้ค่ะพี่ผึ้ง” อรองค์ตอบรับด้วยรอยยิ้มกว้างกว่าปกติ“คือเย็นวันเสาร์พี่เลี้ยงวันเกิดน่ะ อยากชวนเอิงไปด้วย”“อ๋อได้ค่ะ พี่บอกเวลาและส่งโลให้เอิงทางไลน์ได้เลยนะคะ” จริงๆ แล้วอรองค์ไม่ชอบไปงานปาร์ตี้ใคร นอกจากกลุ่มเพื่อนสนิทเท่านั้น แต่งานนี้กรณีพิเศษ“โอเคค่ะ แต่งตัวสวยๆ ด้วยนะ”“ได้เลยค่ะ”“อืม อยากเห็นเอิงแต่งตัวเซ็กซี่ๆ จัง”“ได้เลยค่ะ เอิงจะจัดเต็มเลย” อรองค์พูดด้วยสีหน้ามั่นใจ แต่แอบยิ้มพรายที่มุมปาก“โอเคค่ะ พี่จะรอดูเอิงในลุคเซ็กซี่”“รับรองพี่ไม่ผิดหวังแน่นอน แต่เอิงพาเพื่อนไปด้วยคนหนึ่งนะคะ เพราะที่บ้านไม่อนุญาตให้ออกไปปาร์ตี้คนเดียว”“เพื่อนหรือแฟน”“เพื่อนค่ะ ไม้ไง พี่ผึ้งก็รู้จัก”“โอ๊ยได้เลยค่ะ” พูดด้วยท่าทียินดี จนอรองค์ไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะเจ้าตัวสนใจมัชกรเป็นทุนเดิม แต่มัชกรก็ยังเป็นมัชกร ไม่สนใจสาวคนไหนทั้งนั้นนอกจากสาวๆ จากแก๊งเพื่อนสนิท “ไม่มีอะไรแล้ว งั้นเอิงไปซ้อมเชียร์นะคะ”“ตามสบายเลยเอิง เดี๋ยวพี่ไปห้องน้ำก่อน แล้วจะตาม
ขจัดคนเลว อรองค์หลับไปแล้ว ขณะที่ภูวิณพลิกดูข้อมูลของดรีม หรือดนุชัย ลูกชายคนเล็กของดนุวัฒน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงใหญ่ หลังจากค้นหาประวัติดู เกเรเข้าขั้น สร้างปัญหาให้พ่อแก้มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ทั้งชกต่อย ยาเสพติดและล่อลวงผู้หญิง แต่ก็รอดมาได้ด้วยบารมีพ่อก็ถ้าสร้างปัญหาอีกครั้ง ก็ดูสิพ่อจะช่วยได้ไหม! วันนี้เขาเห็นว่ามีคนเดินตามอรองค์ห่างๆ ตอนที่เดินมาลานจอดรถ มองปราดเดียวก็รู้ว่าคือคนที่กำลังสร้างความรำคาญให้อรองค์นั่นเองขนาดเขามาเปิดตัวขนาดนี้แล้ว ไอ้เด็กคนนี้ก็ดูจะไม่ยอมถอยง่ายๆภูวิณภาวนาแค่ว่า ให้อีกฝ่ายอยู่ห่างๆ อรองค์ เพราะเขาก็ไม่ได้อยากมีศัตรู แต่ถ้ามันเลี่ยงไม่ได้ก็พร้อมเช่นกันหลังโรงยิม เพราะไม่มีกล้องวงจรปิด ทำให้นักศึกษาบางกลุ่มแอบมาสูบบุหรี่ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า ทั้งหญิงและชายพ่นควันกันตลบอบอวล พลอดรัก นัดเคลียร์กับคู่กรณี หรือแม้แต่เรื่องชกต่อย เช่นตอนนี้ มีนักศึกษาคนหนึ่งกำลังโดนซ้อม สองคนจับ ล็อกไว้ ให้อีกคนปล่อยหมัดอย่างเมามันใส่อีกคน โดยไม่มีใครหน้าไหนมาช่วยอาจเพราะคนปล่อยหมัดคือดรีม ที่ใครๆ ก็ไม่กล้าจะเข้าไปยุ่งด้วย ส่วนที่เหลือคือลูกน้องของมัน ไม่เ