แอเรียนมองทิฟฟานี่ด้วยสีหน้าแปลก ๆ “โอเค นี่เธอกำลังพูดถึงอะไรเนี่ยทิฟฟ์? เมื่อคืนเธอนอนไม่พอจนตอนนี้เริ่มหลอนแล้วเหรอ?”ทิฟฟานี่กลอกตาไปมา “ฉันพูดจริงนะที่รัก! ถ้าเรานับวันดี ๆ แล้วฉันท้องก่อนธัญญ่าอีก! ฮา! โอเค โอเค คือ เมื่อวานฉันแบบ เฮ้ ประจำเดือนฉันยังไม่มาเลยนี่หว่า ฉันก็เลยไปตรวจร่างกายและ แจ็คพอต! แจ็คพอตจริง ๆ ! บ้าเอ๊ย ฉันขอพรอ้อนวอนทุกวันเพื่อที่จะได้ท้องสักที แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น และตอนนี้ หลังจากที่แจ็คสันและฉันเลิกกันแล้ว ฉันกลับท้องซะอย่างนั้น… แบบว่า ฉันควรจะตกใจดีใจหรือว่าฉันควรจะช็อกดี?”แอเรียนเงียบไป “คือ เราเพิ่งจะรู้เรื่องที่เอริกป่วย แต่เธอกำลังแจ้งข่าวดีที่ดีที่สุดให้ฉันรู้อย่างใจจดใจจ่อ มันทำให้ฉันสับสน ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะรู้สึกเศร้าหรือมีความสุขดี… แล้วเธอคิดจะทำอะไรต่อล่ะ? กลับไปคบกับแจ็คสันเหรอ? เขายังไม่รู้เรื่องนี้ถูกไหม?”ทิฟฟานี่เองก็ไม่รู้แผนต่อไปของเธอเช่นกัน “ฉัน… ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี คือ ฉันน่าจะคุยเรื่องนี้กับเขาหลังจากที่เขารู้สึกดีขึ้นจากเรื่องของเอริกก่อน แล้วฉันจะคอยดูอีกว่าเขารู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับมัน ไม่ว่าจะยังไง ตอ
เจตต์จับพวงมาลัยแน่นโดยไม่รู้ตัว “คุณมีแผนจะทำอะไรครับ?”สายตาของอเลฮานโดรเยือกเย็นดั่งพายุหิมะที่หนาวเหน็บจนถึงกระดูก “ฉันจะไม่ยอมให้เด็กคนนั้นลืมตามองโลกนี้เด็ดขาด ถ้าเธอเสียมันไป เธอก็จะสูญเสียเหตุผลเดียวที่เธอจะต้องกลับไปหาแจ็คสัน… ใช่ ฉันไม่มีวันยอมให้เธอถูกพรากไปจากผมอีก!”เจตต์ถึงกับอึ้ง เป้าหมายของแผนของอเลฮานโดรไม่ใช่เพื่อให้ทิฟฟานี่มาอยู่ในอ้อมแขนของเขาหรอกเหรอ? เจ้านายของเขาไม่เคยรักทิฟฟานี่อย่างแท้จริงและทำทุกอย่างเพียงเพื่อครอบครองเธอเหมือนสิ่งของอย่างนั้นเหรอ? ท้ายที่สุดแล้วคนที่รักใครสักคนอย่างแท้จริงจะสามารถวางแผนให้เธอคนนั้นแท้งอย่างไร้ความปราณีได้อย่างไร?เมื่อพบว่ามันน่าหนักใจมาก เจตต์จึงพูดขึ้นว่า “คุณสมิธครับ ผมเชื่อจริง ๆ ว่านี่เป็นความคิดที่แย่มาก จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเธอรู้ว่าคุณเป็นคนทำให้เธอแท้ง? หลังจากนั้นเธอจะอยากใช้ชีวิตที่เหลือของเธอกับคุณไหม? การทำสิ่งนี้คือการวางระเบิดที่วันหนึ่งจะต้องระเบิดนะครับ”เห็นได้ชัดว่าอเลฮานโดรสูญเสียความมีเหตุผลของเขาไปมาก “งั้นจะให้ฉันทำบ้าอะไรล่ะ หืม?!” เขาตะคอก “ฉันควรจะดูเธอให้กำเนิดสิ่งนั้นและกลับเข้าไปในอ้อมแขนของแจ็ค
นักบัญชีโอบแขนรอบขาแจ็คสันขณะที่เขากำลังจะเดินไปที่ประตูและร้องไห้ “ไม่ ไม่ คุณเวสต์ ได้โปรด! ผมขอร้อง! พ่อแม่ผม… พวกเขาป่วย คุณเวสต์! แม่ต้องพึ่งยาเพื่อความอยู่รอด! ถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้ พวกเขารับไม่ได้แน่! ได้โปรดนะครับ… ผมสามารถหาเงินนั้นมาคืนให้ได้ ผมสาบาน”นักบัญชีร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาจำนวนไหนที่จะทำให้แจ็คสันใจอ่อนได้ ทุกคนต่างมีเส้นบาง ๆ ในใจที่เมื่อมีคนข้ามมันไปจะบังคับให้คน ๆ นั้นต้องปฏิเสธความเมตตาต่อผู้อื่น และสำหรับแจ็คสันนั้นมันสอดคล้องกับกฎหมายเขายักไหล่ให้กับนักบัญชีก่อนที่จะกลับไปที่ห้องทำงานตัวเองโดยที่ไม่แม้แต่จะเหลียวมองนักบัญชีที่หลั่งน้ำตาแม้แต่น้อยทิฟฟานี่และเอมี่ที่เงี้ยหูฟังทุกสิ่ง รีบนั่งตัวตรงและเคร่งขรึมทันทีที่เขาเดินเข้ามาดูเหมือนว่าอารมณ์ของแจ็คสันจะไม่ได้ถูกระบายออกมาจนหมด ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากที่เขาพลิกเอกสารบนโต๊ะอย่างโมโหราวกับว่าเขาไม่สามารถหาสิ่งที่ตัวเองต้องการเจอ ทิฟฟานี่จึงถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ว่า “คุณกำลังหาอะไรอยู่เหรอ? ให้ฉันช่วยไหม?”เขาเอนหลังพิงเก้าอี้เล็กน้อยแล้วนวดหน้าผาก "ไม่เป็นไร คุณกลับไปทำงานต่อเถอะ”เอมี่ส่งสัญญาณให้ทิฟฟานี่
เมื่อใกล้เวลาเลิกงานปกติ ทิฟฟานี่ก็รู้สึกปวดวูบวาบเล็กน้อยทั่วเอว ไหล่ และหลัง เธอเอนตัวลงบนเก้าอี้และรู้สึกหมดแรงด้วยความสิ้นหวัง เธอจึงส่งข้อความถึงแจ็คสัน: 'คุณแน่ใจเหรอว่าเราต้องทำงานล่วงเวลาในคืนนี้? ฉันขอปฏิเสธได้ไหม? แบบ ฉันคิดว่าร่างฉันกำลังจะพังแล้ว ฉันขอลาได้ไหม? ถ้าคุณไม่ตอบฉัน ฉันจะถือว่าคำตอบของคุณคือ ได้'ทิฟฟานี่คาดหวังว่าชายคนนั้นจะยุ่งกับอะไรก็ตามจนไม่มีเวลาสนใจเธอ แต่คำตอบของเขากลับมารวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบ 'ไม่ทำงานล่วงเวลางั้นเหรอ? เฉพาะในกรณีที่คุณมาหาผมที่โรงแรมแทนเท่านั้น ถ้าคุณไม่มาที่นี่ คุณก็จะต้องอยู่ในบริษัท เลือกเอา'คำว่า "โรงแรม" ชี้นำให้ทิฟฟานี่ต้องจินตนาการไปไกล อย่างไรก็ตาม เมื่อส่วนหนึ่งของความคิดของเธอเตือนเธอถึงการตั้งครรภ์ ความกระตือรือร้นของเธอก็หายไป เธอตอบเขาอย่างรู้สึกผิดเล็กน้อยว่า 'ทำไมคุณถึงต้องการให้ฉันไปที่โรงแรมของคุณด้วย หืม? ฉันขอพูดตรง ๆ เลยนะว่าฉันจะไม่มีเซ็กส์กับคุณและเราก็เลิกกันแล้ว'เธอต้องตกใจมากเมื่อปฏิกิริยาตอบสนองของแจ็คสันคือการโทรหาเธอทันที “คุณนี่ปัญญาอ่อนหรืออะไร? หรือคุณกำลังจะบอกว่าผมเป็นคนแบบนั้นเหรอ? ฟังนะ ไม่ว่าคุณจ
แจ็คสันเข้าไปในลิฟต์ก่อน ตามด้วยทิฟฟานี่ที่ขี้อายมาก เพื่อช่วยเธอ เขาจึงเอื้อมมือออกไปด้านข้างของประตูลิฟต์อย่างสุภาพเพื่อไม่ให้ปิดลงก่อนมันเป็นท่าทางเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะเพิ่มความเสียใจขึ้นอีกสองสามระดับในตัวทิฟฟานี่ เธอเริ่มสงสัยจริง ๆ ว่าเธอเมื่อเธอต้องการที่จะเลิกกับเขา เธอโดนมนต์ร้ายหรืออะไรทำนองนั้นสะกดหรือเปล่าแจ็คสันไม่ได้พูดอะไรเลยตลอดเวลาที่พวกเขาอยู่ในลิฟต์ เขาเพียงจ้องมองไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่อดทนและไม่ใส่ใจในขณะที่เขาล้วงมือทั้งสองข้างเข้าไปในกระเป๋ากางเกงยีนส์ของเขา เขาได้พับแขนเสื้อขึ้นจนถึงข้อศอก เผยให้เห็นส่วนเล็ก ๆ ของผิวที่ขาวเนียนของเขา ที่ข้อมือข้างซ้ายของเขามีนาฬิกาหรูราคาแพงที่สื่อถึงสถานะทางสังคมของเขาถ้าใครจะบรรยายออร่าที่แจ็คสันเปล่งออกมา ก็คงจะพูดได้ว่าเขามีความกล้าหาญเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ผสมผสานกับความเก่งกาจสามสิบเปอร์เซ็นต์ระหว่างที่ลงไป แขกคนอื่น ๆ ในโรงแรมหลายคนก็ได้ขึ้นมาในลิฟต์เดียวกัน ไม่สำคัญว่าผู้มาใหม่จะเป็นชายหรือหญิง สิ่งแรกที่พวกเขาทำทันทีที่เข้าไปก็คือการจ้องแจ็คสันสักครู่ ทิฟฟานี่ค่อย ๆ ถูกผลักเข้าไปในมุมที่น่าสมเพชจนมุมมองของเธอลดล
ความอดทนของแจ็คสันถึงขีดสูงสุด เขาจ้องเธออย่างโกรธเคือง “คุณต้องทำแบบนี้กับผมด้วยเหรอ? แล้วนี่เราเป็นบ้าอะไรกันแน่? คุณจะไม่…” คบผมจริง ๆ เหรอ?เขาเก็บประโยคสุดท้ายไว้เพราะเขาไม่สามารถควบคุมเสียงที่สั่นของตัวเองได้ทิฟฟานี่ก้มหัวลง “มันไม่ใช่อย่างนั้น… เราจะไปหาอะไรกินกันไม่ใช่เหรอ? ไปกันเถอะ ฉันหิวแล้ว"แจ็คสันไม่ตอบ เขาเพียงแต่รีบเดินไปที่รถด้วยความโมโห ทิฟฟานี่ถอนหายใจและเดินตามเขาไปอย่างรวดเร็ว เธอรอให้เขาพูดอะไรบ้าง แต่เขากลับไม่ยอมพูดอะไรเลยพวกเขาไปถึงที่ร้านสเต็ก เนื่องจากเขารู้ว่าเธอชอบอะไร แจ็คสันจึงสั่งสเต็กเนื้อมีเดียมแรร์ให้เธอโดยอัตโนมัติ ในอดีต เขามักจะสั่งอาหารให้เธอทุกครั้งที่พวกเขาออกไปทานอาหาร เธอต้องการบอกเขาว่าเธอไม่สามารถกินเนื้อที่กึ่งสุกได้อีกแล้ว แต่เธอกลับไม่ทำ ดังนั้นเธอจึงสั่งพาสต้าเพิ่มเมื่อสเต็กถูกเสิร์ฟ ทิฟฟานี่ก็ไม่แตะมันเลย เธอเพียงแต่ทานพาสต้าที่สั่งมาจนหมด ปริมาณอาหารในร้านนี้น้อยมาก เธอจึงรู้สึกเหมือนช้างที่กินอาหารนก ในเวลาเดียวกันเธอก็อายเกินกว่าจะสั่งอะไรเพิ่ม มันจะดูน่าอายหากผู้หญิงกินมากเกินไปแจ็คสันเห็นว่าเธอละเลยสเต็กที่เขาสั่งให้และยั
แจ็คสันลุกขึ้นทันที "โอเค ผมจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลย แม่ได้รับบาดเจ็บตรงไหน? ร้ายแรงไหม?”แจ็คสันถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อได้ยินว่าซัมเมอร์แค่เจ็บขาของเธอเท่านั้น หลังจากที่วางสาย เขาก็หันไปหาทิฟฟานี่และพูดว่า “คุณทานให้อร่อยเลยนะ แม่ผมประสบอุบัติเหตุ ผมต้องรีบกลับบ้านก่อน แต่เดี๋ยวผมไปจ่ายค่าอาหารให้ก่อน ไว้เดี๋ยวผมโทรหาทีหลัง”เขาหายตัวไปก่อนที่ทิฟฟานี่จะทันได้ตอบ เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็กังวลเรื่องซัมเมอร์ไปพร้อม ๆ กัน เมื่อเธอกลับถึงบ้าน เธอก็รอจนกระทั่งแจ็คสันเกือบถึงบ้านตัวเองก่อนที่จะโทรหาเขา “คุณเวสต์เป็นอย่างไรบ้าง?” เธอถามแจ็คสันอยู่ในโรงพยาบาล “ไม่มีอะไรร้ายแรงมาก ขาขวาของแม่หักและแม่ก็เอาแต่บ่นถึงปัญหาในวัยชราว่าแม่มักจะเจ็บโน้นเจ็บนี้อยู่เสมอและกังวลว่าสุดท้ายแม่จะพิการ แต่แม่อารมณ์ดีมากเลยทีเดียว ตอนนี้มันดึกแล้ว ทำไมคุณถึงยังไม่นอนอีกล่ะ? รีบเข้านอนเถอะ ผมต้องไปแล้ว"เธอไม่ยืนกรานที่จะสนทนาต่อและเพียงแต่พึมพำตอบก่อนที่จะวางสายฤดูร้อนนี้ช่างวุ่นวานเหลือเกิน ที่คฤหาสน์เทรมอนต์ แอเรียนกำลังอุ้มแอริสโตเติลไว้ด้วยความวิตกกังวล แอริสโตเติลมีอาการไข้ขึ้นกลางดึก เขาไ
แอริสโตเติลดูมีพลังมากขึ้นเมื่อไข้ของเขาหายไป ความอยากอาหารของเขาก็กลับมาเช่นกัน แอเรียนรู้สึกโล่งใจมาก เธอยังบังคับให้มาร์คกลับไปทำงานอีก เธอไม่อาจปล่อยให้ความเจ็บป่วยของเด็กทารกฉุดลากทั้งครอบครัวลงได้ ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะต้องอยู่ข้างสมอร์ทั้งวันเสียหน่อยในขณะเดียวกัน ที่โรงพยาบาลอื่น แจ็คสันนอนอยู่ข้างเตียงของซัมเมอร์ตลอดทั้งคืน เช้าวันรุ่งขึ้น เขาก็ไปซื้อลิ้นจี่และองุ่นตามคำขอของแม่ตัวเองและยังปอกผลไม้ให้เธอ เขาวางชามไว้ในมือของเธอ “ผมว่า นอกจากความไม่สะดวกจากขาที่หักของแม่แล้ว ก็ไม่มีอะไรหยุดแม่จากการกินได้จริง ๆ แม่ไม่มีคนขับรถเหรอ? เกิดอะไรขึ้น?"ซัมเมอร์บ่นขณะที่กิน “เอาจริง ๆ นะ คนขับรถของแม่จะขับมั่นคงเสมอ เขาขับให้แม่มาตั้งนานหลายปีแล้ว บาดแผลของเขารุนแรงกว่าแม่อีก ไปซื้ออาหารเสริมแล้วไปเยี่ยมเขาทีหลังด้วยนะ อาการบาดเจ็บของเขาถือว่าเกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน ดังนั้นเราจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลทั้งหมดให้เขาเอง ทุกอย่างเรียบร้อยดีเมื่อเราออกไปเมื่อวานนี้ แต่แล้วก็มีรถพุ่งเข้ามาหาเราทันทีหลังจากที่เราผ่านสี่แยก มันดูจงใจมาก หลังจากนั้นรถคันนั้นก็ขับออกไป ตำรวจจราจรได้สอบสวนแล้ว และพ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง