เมื่อแอเรียนออกมาจากห้องอัลตราซาวนด์ มาร์คก็ก้าวไปข้างหน้าเพื่อช่วยพยุงเธอ “เป็นยังไงบ้าง? หมอว่ายังไงบ้าง?”แอเรียนแสดงผลอัลตราซาวนด์ให้เขาดู “ทำไมฉันถึงมองว่าดูลูกน่าเกลียดจัง? คุณหมอบอกว่าพัฒนาการของเจ้าตัวน้อยเป็นไปตามปกติดีและเขาก็แข็งแรงดีด้วย อวัยวะที่สำคัญ ๆ ของเขาก็เติบโตได้ดีเลย... มือและขาได้รับการพัฒนามาอย่างดี แต่... เขาดูน่าเกลียดจริง ๆ นะ นี่เป็นภาพ 3 มิติจากอัลตราซาวนด์ ฉันคิดว่านี่น่าจะนับเป็นภาพแรกของลูกเลยก็ได้นะ...”มาร์คจ้องไปที่ภาพอัลตราซาวนด์ 3 มิติและขมวดคิ้ว “บางที… เขาอาจจะดูดีขึ้นเมื่อเขาเกิด? ทุกอย่างอาจดูน่าเกลียดเพราะยังอยู่ในท้องก็ได้ ถูกไหม? ไม่ต้องกังวลหรอก แค่เธอคลอดทารกได้อย่างปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว แม้ว่าเขาจะน่าเกลียดแต่ก็ไม่มีทางที่เราจะไม่รักเขา เขาเป็นลูกคนแรกของเราเลยนะ”ริมฝีปากของแอเรียนกระตุก “แม้ว่าคุณจะบอกให้ฉันมองโลกในแง่ดี แต่การขมวดคิ้วบนใบหน้าของคุณนั้นบอกอย่างอื่น จริง ๆ แล้ว ลึก ๆ คุณรู้สึกรังเกียจใช่ไหม?เขาพูดไม่ออกชั่วขณะ เขาเป็นผลผลิตจากพันธุกรรมของตระกูลเทรมอนต์และแอเรียนก็ไม่ได้ขี้เหร่เช่นกัน ใครจะไปคิดว่าลูกของพวกเขาจะดูน
มาร์คเลิกคิ้วขึ้น "ใช่ ทีนี้คุณจะไสหัวออกไปได้หรือยัง?”ในที่สุดสามีของโซอี้ก็ลุกขึ้นจากโซฟา “ก็ได้ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้แหละ ตราบใดที่มีเงินทุกอย่างก็จะราบรื่น มันจะไม่ง่ายกว่านี้มากถ้านายทำแบบนี้ตั้งแต่แรกเหรอ? มันจะช่วยให้ฉันไม่ต้องเดินทางมาถึงที่นี่ เนื่องจากโซอี้ปฏิเสธเงินนี้ นายก็ไม่จำเป็นต้องไปบอกหล่อนเกี่ยวกับการมาเยี่ยมของฉันในวันนี้หรอก ฉันจะไปตามทางของฉันเดี๋ยวนี้ หลานเขย”มาร์คไม่ยอมตอบเขา มาร์คสามารถบอกได้เลยว่ามันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ลุงคนนี้จะได้ลิ้มรสเงินง่าย ๆ แอเรียนกำลังตั้งครรภ์อยู่ ดังนั้นเขาจึงควรเงียบไว้ดีที่สุด 750,000 ดอลลาร์นั้นน่าจะเพียงพอที่จะระงับชายคนนั้นไว้ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อแอเรียนคลอดลูกอย่างปลอดภัย เขาจะไม่ยอมทนอีกต่อไปแน่นอน ผ่านไปครู่หนึ่ง มาร์คก็พูดกับเดวี่ว่า “เปลี่ยนโซฟาและโต๊ะกาแฟที ฆ่าเชื้อทุกอย่างในห้องทำงานนี้ด้วย”…เมื่อถึงสิ้นเดือน ในที่สุดอเลฮานโดรก็กลับมาจากต่างประเทศ สิ่งแรกที่เขาทำคือจัดงานแถลงข่าวเพื่อประกาศการย้ายไปยังเมืองหลวงอย่างเป็นทางการของเขา รอยแผลเป็นบนใบหน้าของเขาไม่สามารถมองเห็นได้อีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สวมหน้ากากอี
แจ็คสันลุกขึ้นด้วยใบหน้าที่นิ่งและเดินไปที่ห้องครัว “ผมจะไปทำน้ำผลไม้”เมื่อเห็นสิ่งนี้ ทิฟฟานี่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องนั่งลงบนโซฟา “โอเคค่ะ… หนูค่อยกลับหลังอาหารเย็นก็ได้…”“ดีมาก” ซัมเมอร์พูดด้วยรอยยิ้ม “แจ็คสันจะกลับหลังอาหารเย็นเช่นกัน เดี๋ยวให้เขาไปส่งเธอก็ได้ ดูสิ แจ็คสันยังจำได้เลยว่าเธอชอบน้ำผลไม้มากแค่ไหน…”ทิฟฟานี่เม้มปากพลางนิ่งเงียบอันที่จริงซัมเมอร์รู้ดีถึงความชอบในเครื่องดื่มของทิฟฟานี่ เธอจงใจถามคำถามนั้น ทิฟฟานี่เห็นว่ารสชาติของกาแฟนั้นขมเกินไปและเธอจะรู้สึกไม่สบายใจหลังจากที่ดื่มมันไปได้ครึ่งวัน ความชื่นชอบในน้ำผลไม้ของเธอก็ไม่ได้เป็นความลับอะไร ดูเหมือนว่าแจ็คสันผู้น่าสงสารจะไม่ลืมสิ่งนั้น เมื่อสังเกตเห็นความเงียบของทิฟฟานี่ ซัมเมอร์จึงเปลี่ยนเรื่องอย่างช่ำชอง “เธอเอารถให้แม่ของเธอใช่ไหม? ฉันได้ยินมาว่าเธอบอกเขาว่าเธอไม่จำเป็นต้องมีรถเพราะอพาร์ตเมนต์ของเธออยู่ใกล้กับที่ทำงานมาก ฉันมีรถสำรองอยู่สองสามคัน เธอต้องการใช้สักคันไหม? ฉันกังวลว่าเธอจะเดินทางไปไหนมาไหนในช่วงวันหยุดไม่สะดวก”ทิฟฟานี่ปฏิเสธข้อเสนอของซัมเมอร์ทันที “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่จำเป็นสำหรับเ
“ใช่ แล้วไง?” ทิฟฟานี่ถาม “นั่นมันเรื่องของฉัน ไม่ใช่ของคุณ”สีหน้าของแจ็คสันจมดิ่งลงไปอีก ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นอีกครั้งหลังจากที่เงียบไปนาน “เขาเป็นเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของคุณสำหรับการเลิกราของเราใช่ไหม?”ทิฟฟานี่ชะงักก่อนจะโกรธเล็กน้อย “คุณกำลังพูดเรื่องอะไร? คุณกำลังจะบอกว่าฉันทิ้งคุณไปหาผู้ชายคนอื่นเหรอ? ดังนั้น สิ่งที่คุณทำกับลินน์ในรถไม่นับเหรอ? แจ็คสัน เวสต์ คุณพูดอย่างมีเหตุผลหน่อยได้ไหม? ถ้าพูดอะไรดี ๆ ไม่ได้ก็หุบปากซะ!”แจ็คสันหัวเราะ “ผมแค่สงสัยว่าผมแพ้คนพิการหรือเปล่า… ผมดีใจที่มันไม่ใช่อย่างนั้น ผมยอมรับความผิดพลาดของตัวเองได้”“หมายความว่าคุณยอมรับว่าคุณคบกับลินน์เหรอ?” เธอถามด้วยฟันที่ขบกันเขาหันหน้าไปด้านข้างและถามว่า “ตอนนี้คุณอยากฟังคำอธิบายของผมแล้วเหรอ?”เธอแกล้งหัวเราะ “ฮิฮิ ไม่ล่ะขอบคุณ ไม่จำเป็นหรอก”เขาไม่ได้พูดอะไรอีก ทันใดนั้นโทรศัพท์ของทั้งสองก็ดังขึ้น พวกเขามองหน้ากันและต่างคนต่างรับสายสายของทิฟฟานี่มาจากอเลฮานโดรซึ่งเชิญเธอไปพบเขา แจ็คสันใส่อุปกรณ์บลูทูธของเขา สายของเขามาจากซาช่าความสนใจของเขาไม่ได้อยู่ที่สายตัวเองแต่อยู่ที่สายของทิฟ
อย่างที่มาร์คกลัว สามีที่น่ารังเกียจของโซอี้ แฮร์ริสรู้สึกพอใจกับเงินที่ได้มาโดยมิชอบจนทำให้เขาคิดที่จะเรียกเงินอีกครั้ง มาร์คคิดว่า 750,000 ดอลลาร์นั้นจะเพียงพอจนกว่าแอเรียนจะคลอดลูก แต่เขาคิดผิดการได้เงินจำนวนมากในครั้งเดียวนั้นคือการบังคับชายคนหนึ่งให้สูญเสียความรู้สึกอ่อนไหวทั้งหมดของเขา แฮร์ริสซึ่งเป็นคนโลภอย่างน่ารังเกียจอยู่แล้วได้เสียสตางค์จากความล้มเหลวในการพนันหลายครั้ง หลังจากค่ำคืนแห่งการสูญเสียอันน่าทึ่ง ชายที่ยากจนก็กลับมาเคาะประตูของมาร์คราวกับคนที่ไร้วิญญาณมาร์คไม่ได้เป็นที่รู้จักเพราะความอดทนของเขามาก่อน แต่เขาสามารถขยายขอบเขตของเขาเพื่อประโยชน์ของแอเรียนได้ แต่การถูกคนคนเดิมคุกคามซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นเพียงการท้าทายการควบคุมของเขา 750,000 ดอลลาร์เพียงพอสำหรับสองสามวันเท่านั้นเองเหรอ? ใครบางคนต้องกระเป๋ารั่วแน่นอน!มาร์คจ้องไปที่ชายผู้ส่งกลิ่นเหม็นของความล้มเหลวในห้องทำงานและวางมือเหนือจมูกของเขา “ผมให้เงินคุณตั้ง 750,000 ดอลลาร์แล้วนะคุณแฮร์ริส ผมเพิ่งให้เงินคุณ 750,000 ดอลลาร์เมื่อไม่กี่วันก่อนนี่เอง! คุณคิดว่าที่นี่คือที่ไหนกัน?”เมื่อตกอยู่ในอันตรายจากหนี้การพนัน
เดวี่ตอบอย่างรวดเร็วว่า “ครับ! ผมจะทำมันเดี๋ยวนี้!”สิ่งแรกที่เข้ามาในสายตาของมาร์คเมื่อเขาก้าวเข้าไปในคฤหาสน์เทรมอนต์คือแอเรียน ทันใดนั้นความเครียดทั้งหมดของเขาก็หายไปมีเพียงเธอเท่านั้นที่สามารถขจัดเมฆมืดที่หมุนวนอยู่ในใจของเขาได้ เขาสบายใจขึ้นมาก “เด็กคนนี้เป็นเด็กดีกับแม่เขาหรือเปล่านะ? หรือเรากำลังจะได้ตัวสร้างปัญหากันแน่นะแอริ?”น้ำเสียงที่อ่อนโยนและเปี่ยมไปด้วยความรักของเขากระทบจุดอ่อนของแอเรียน เธอหัวเราะเบา ๆ พลางมองลงและติดตามวงกลมที่มองไม่เห็นบนท้องของเธอ “โอ้ เขาเป็นเด็กดี ขนาดและอายุแค่นี้คงไม่มีใครสร้างปัญหาได้ขนาดนั้นหรอกมั้ง? แล้ววันนี้ทำไมคุณถึงกลับเร็วจัง? คุณไม่มีงานเหรอ? อย่างไงก็ตาม คุณมาทันเวลาอาหารกลางวันพอดีเลย ตอนเย็นคุณจะกลับไปทำงานต่อไหม?”มาร์คหมอบลงพลางแนบหูตนเองกับท้องของเธอให้มากที่สุดโดยหวังว่าจะจับสัญญาณการเคลื่อนไหวของเด็กได้ ทั้งหมดที่เขาได้ยินคือเสียงที่ดังสนั่นไม่ต่างจากเสียงฟองสบู่มันไม่ได้น่าสนใจหรือแปลกใหม่อะไร แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง การได้ยินมันเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์ที่สุดราวกับกังวลว่าเขาจะปลุกเด็กที่หลับใหลอยู่ เสียงของมาร์คก็เบาห
“ฉันเข้าใจแล้ว! ฉันเข้าใจแล้ว! ฉันสูญเสียการควบคุมอารมณ์ของฉันตอนนั่น เข้าใจไหม? พระเจ้า ทุกอย่างช่างน่าโมโห” มาร์คเอนหลังพิงเบาะนั่งและนวดหน้าผากตัวเอง“ทุกครั้งที่เธอพูดถึงคุณย่า หัวใจของฉันจะเต้นรัวด้วยความกลัวและความกังวลใจ ทว่าครั้งแล้วครั้งเล่า ไอ้คนไร้ค่านั้นก็มาที่หน้าประตูบ้านฉันและใช้ความลับมาเป็นข้ออ้าง ฉันไม่อาจให้เธอรู้ได้ ไบรอัน หากความลับนี้ยังคงแขวนอยู่บนเส้นด้าย จะไม่มีอะไรดีออกมาจากมันได้ ไม่ มันจะไม่มีครั้งต่อไปสำหรับเขา จะไม่มีการคุกคามอีกต่อไป...“โอ้ นั่นทำให้ฉันนึกอะไรบางอย่างได้ นายช่วยเตรียมการกับโรงพยาบาลเพื่อให้พวกเขาเตรียมพร้อมสำหรับการคลอดบุตรด้วย ร่างกายที่อ่อนแอของแอริจะทำให้การคลอดก่อนกำหนดเป็นไปได้มาก ฉันไม่ต้องการให้ความยุ่งยากเกิดขึ้นตลอดกระบวนการ”ไบรอันถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วตอบว่า “รับทราบครับ”เมื่อตกกลางคืนแล้ว แอเรียนก็ขัดขืนการไปทานอาหารเย็น แค่นึกย้อนไปว่ามาร์คโกรธเคืองในตอนบ่ายอย่างรวดเร็วก็ทำให้เธอไม่อยากอาหารแล้วเมื่อเห็นเธอเป็นเช่นนี้ก็ทำให้แมรี่ตื่นตระหนก “ได้โปรดนะแอริ แสร้งทำเป็นว่านายท่านแค่สูญเสียอารมณ์ชั่ววูบ ตกลงไหม? ไม่มีเหตุ
แมรี่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกกับเหตุการณ์ดี ๆ เนื่องจากเธอได้เตรียมอาหารเย็นไว้ในครัวแล้ว เธอจึงวางอาหารทั้งหมดลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็วและพูดขึ้น“ต้องอย่างนี้สิคะนายหญิง คุณไม่ควรอดอาหาร! เด็กต้องการอาหารอร่อย ๆ เพื่อที่จะได้เติบโตอย่างสุขภาพดีและแข็งแรง”แอเรียนนึกถึงภาพอัลตราซาวนด์ของลูกเธอและรู้สึกไม่มั่นใจในทันใด “แมรี่ คุณคิดว่าฉันจะให้กำเนิดลูกเป็ดขี้เหร่หรืออะไรทำนองนั้นไหม? ฉันหมายความว่า ฉันไม่ได้จะไม่ชอบลูกของตัวเอง แต่… ถ้าเด็กหนักเกินไปและอัปลักษณ์ ฉันคิดว่าฉันคงจะไม่ชอบแบบนั้น”แมรี่หัวเราะคิกคักออกมา “พูดไปได้! ทั้งคุณและนายท่านต่างหน้าตาดีมาก ยีนของคุณจะผลิตลูกเป็ดขี้เหร่ได้อย่างไร? สิ่งที่เด็กต้องทำคือตามคุณคนใดคนหนึ่งและ ท๊าดา รับการประกันได้เลยว่าเด็กจะต้องสวยงาม! โอ้ นายหญิง อย่าวิตกกับภาพในรายงานนั้นเลย มันเชื่อถือไม่ได้ 100% หรอก มันจะเป็นไปได้อย่างไร? เด็กยังคงเพลิดเพลินกับสปาทรีตเมนต์ในถุงน้ำคร่ำอยู่เลย ไม่มีใครจะถ่ายรูปขึ้นในนั้นหรอก!”เมื่อได้ยินดังนั้นก็ทำให้แอเรียนมั่นใจขึ้นเล็กน้อยเพราะเธอตอบว่า “ฉันหวังว่าคุณจะพูดถูก! หรือไม่อย่างนั้นฉันจะรู้สึกว่าการทรมาน
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง