ทิฟฟานี่หยุดครุ่นคิดเป็นเวลาสองวินาทีก่อนที่เธอจะพูดอย่างใจเย็นว่า “ประโยชน์เหล่านั้นไม่ได้สำคัญสำหรับฉัน ถ้าเขานอกใจฉัน ฉันจะทิ้งเขาโดยไม่ลังเลเลย สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดสำหรับผู้หญิงคือการฝากความหวังไว้กับผู้ชาย ชีวิตฉันจะดีขึ้นมากถ้าไม่มีเขา”แม้ว่าเธอจะไม่เห็นด้วยกับความเห็นของอาย แต่เธอเห็นด้วยว่าเธอควรจ้างนักสืบ เธอไม่เสียเวลาในการดำเนินการนี้ ก่อนหน้านี้ หลังจากที่ช่วยแอเรียนทำการสืบสวนมาแล้ว นี่เป็นกลายเป็นเรื่องสำหรับเธอ เธอติดต่อนักสืบแล้ว สิ่งเดียวที่เธอต้องทำในตอนนี้คือรอผลสืบ…ในขณะเดียวกัน ธัญญ่ากำลังยืนอยู่ในห้องน้ำอย่างสิ้นหวัง เธอถูกใครบางคนล็อกไว้โดยเจตนาไม่ดีขณะที่เธอกำลังถูพื้น ประตูถูกล็อกจากด้านนอก เธอจึงออกไปไม่ได้ เนื่องจากเธอไม่มีนิสัยชอบเล่นโทรศัพท์ขณะทำงานเธอจึงไม่ได้เอาโทรศัพท์ติดตัวมาด้วยสิ่งเดียวที่เธอทำได้คือรอให้ใครสักคนมาช่วยเธอนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ในวันที่สองของการทำงานมีคนจงใจทำชาร้อนหกใส่แขนของเธอ การถูกใช้งานอยู่เสมอเป็นเรื่องปกติโดยไม่มีข้อจำกัดของการเยาะเย้ย เธอไม่ต้องการสร้างปัญหาให้เอริก ดังนั้นเธอจึงต้องเก็บเรื่องนี้ไว
ธัญญ่ากัดริมฝีปากของเธอและกลั้นน้ำตาเอาไว้ “ฉันคิดว่า… คุณจะสอนฉันถ้าฉันทำทุกอย่างที่คุณขอ… คุณนาธาเนียลบอกฉันว่าทุกคนที่นี่นิสัยดีและขอให้ฉันเรียนรู้จากคุณ เมื่อฉันมีทักษะมากขึ้น ฉันจะได้สามารถเป็นแฟชั่นดีไซเนอร์เหมือนพวกคุณทุกคนได้…”ผู้หญิงคนนั้นเย้ยหยัน “แฟชั่นดีไซเนอร์? เธอน่ะเหรอ? ฉันแค่คิดว่าเธอเป็นเป้าหมายที่จะกลั่นแกล้งที่ยอดเยี่ยม อะไร? เธอไม่ได้ยินฉันเหรอ? ไปซื้อชานมมาให้ฉัน!”“งานของฉันจำกัดอยู่แค่งานแม่บ้าน ฉันไม่ได้มีหน้าที่จะไปทำธุระให้คุณ คุณไปซื้อเองเถอะ ฉันไม่ได้ติดค้างอะไรคุณด้วย” นี่เป็นครั้งแรกที่ธัญญ่าปฏิเสธคำขอของหญิงสาวคนนั้น จากนั้นเธอก็ดึงไม้ถูพื้นออกจากใต้ส้นรองเท้าเธออย่างแรงผู้หญิงคนนั้นสะดุดและเกือบจะล้ม ความอัปยศอดสูของเธอกลายเป็นความโกรธและเธอก็ตบหน้าธัญญ่า "เธอคิดว่าเธอเป็นใคร? เรามีแม่บ้านทำความสะอาดอยู่แล้ว เธอมันก็แค่ตัวตลก คุณนาธาเนียลให้งานเธอเพราะความสงสาร งานของเธอมันง่ายมาก เธอไม่ต้องทำอย่างอื่นเลย มันต่างจากการถูกจ้างมาให้ไม่ทำอะไรยังไง? ถ้าเธออยากอยู่ที่นี่ เธอควรไปทำธุระให้เราดีกว่า ไม่อย่างนั้น เราจะแจ้งคุณนาธาเนียลว่าเธอละเลยหน้าที่ของเ
เอริกสับสน “มันก็แค่ทำความสะอาด หมายความว่ายังไงที่ทำงานไม่ดี? เธอทำได้ดีทั้งที่บ้านและที่ทำงานเลย ตั้งแต่ที่เธอย้ายเข้ามา ในที่สุดบ้านของฉันก็ดูเหมือนบ้านมากขึ้น ตอนนี้ทำไมเธอถึงพูดแบบนี้ล่ะ? มีอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า?"ธัญญ่าส่ายหัวโดยไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยประสบการณ์ที่นี่ของเธอ “ไม่มีอะไรจริง ๆ ฉันแค่ไม่อยากทำงานที่นี่อีกต่อไป ฉันเพิ่งทำงานมาไม่กี่วัน คุณไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินให้ฉันหรอก ฉันแค่จะมาบอกคุณเรื่องนี้ ยังไงก็ขอบคุณมากนะ ตอนนี้ฉันกำลังจะกลับบ้านเพื่อไปเก็บของ ฉันจะได้ย้ายออกไป”เอริกขมวดคิ้ว เรื่องทั้งหมดนี้ทำให้เขาประหลาดใจ ตอนแรกทุกอย่างดูปกติดี... พูดตามตรง เขาชอบที่ได้กลับบ้านไปทานอาหารอุ่น ๆ ดี ๆ ทุกวัน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากธัญญ่ายืนยันที่จะไป เขาก็ไม่มีเหตุผลที่จะหยุดเธอ“ถ้างั้น เธอมีแผนจะไปที่ไหน? ทิฟฟานี่ฝากเธอไว้ในความดูแลของฉัน ฉันมีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ อย่างน้อยก็บอกฉันทีว่าเธอจะไปไหน...”ธัญญ่ายังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปที่ไหน แต่เธอโกหกว่า “ฉันมีที่อยู่อาศัยแล้ว ไม่ต้องกังวล คุณควรกลับไปทำงานต่อ ฉันต้องไปแล้ว" จากนั้นเธอก็ออกจากห้องทำงานเขาด้วยความตื่นตระหนกเพ
ธัญญ่าตกใจ แต่การที่ผู้หญิงคนนั้นปฏิเสธที่จะคืนเงินให้เธอทำให้เธอลังเลในท้ายที่สุด เธอก็รวบรวมความกล้าและตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ…เอริกกลับบ้านทันทีหลังเลิกงาน ทันใดนั้นบ้านก็รู้สึกว่างเปล่ามาก เห็นได้ชัดว่ามีคนทำความสะอาดบ้านไว้เพราะมันสะอาดสะอ้านมากโดยไม่พบขนหลงเหลือแม้แต่เส้นเดียว อย่างไรก็ตาม ธัญญ่าไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว ด้วยความรู้สึกกังวลเอริกจึงตัดสินใจโทรหาทิฟฟานี่ “ธัญญ่าอยู่ไหน?”ทิฟฟานี่ถามด้วยความสงสัย “เธอไม่ได้ทำงานในบริษัทของคุณเหรอ? ยิ่งกว่านั้น เธออาศัยอยู่กับคุณด้วย ทำไมคุณถึงถามฉันแบบนี้?”เอริกอุทานว่า “คุณจะบอกว่าเธอไม่ได้ไปหาคุณเหรอ?! วันนี้เธอลาออกจากบริษัทและบอกว่าเธอมีที่พักอาศัยแล้ว เธอย้ายออกไปทันที ผมคิดว่าคุณจะรู้… เธอไม่ได้ติดต่อคุณเหรอ?”ทิฟฟานี่ที่อารมณ์เสียเรื่องชู้สาวของแจ็คสันอยู่แล้ว ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีกเมื่อได้ยินว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับธัญญ่า เธอกังวลมากจนเกือบจะสาปแช่งออกมาดัง ๆ “เกิดบ้าอะไรขึ้น? เธอไม่ได้ติดต่อฉันเลย ฉันคิดว่าเธออยู่กับคุณอย่างสบายดี? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เอริกรู้สึกปวดหัว “ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมรู้สึกสงสัยตั้งแต่เธ
หลังจากที่เธอกินอิ่มแล้วเธอก็สำรวจห้อง การตกแต่งภายในเรียบง่ายและหยาบกร้าน ห้องมีขนาดเล็กมากเช่นกัน เมื่อเธอเข้าไปในห้องน้ำ เธอก็เปิดฝักบัวและพบว่าไม่มีน้ำร้อน แต่มันไม่สำคัญอยู่แล้ว เนื่องจากมือเธอถูกลวกเธอจึงไม่สะดวกที่จะอาบน้ำอยู่แล้ว แม้ว่ามันจะเริ่มตกสะเก็ดแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังเจ็บอยู่และถ้ามันเปียกมันก็อาจจะติดเชื้อได้เธอนอนอยู่บนเตียงที่มีกลิ่นเหมือนเชื้อรา แม้แต่ที่นอนก็ยังรู้สึกชื้น เธอไม่สามารถทำให้ตัวเองให้สบายใจได้ ไม่ว่าเธอจะขยับเปลี่ยนตำแหน่งกี่ครั้งก็ตาม อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่ได้บ่น ยังไงมันก็ยังดีกว่าต้องนอนข้างถนน ก่อนเข้านอน เธอได้ดันตู้ให้ชิดผนัง ด้วยวิธีนี้ ถ้ามีคนพยายามจะบุกเข้ามา พวกเขาจะเข้ามาไม่ได้ง่าย ๆเธอหลับไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมาด้วยความโกลาหลในห้องโถง มันฟังดูเหมือนกลุ่มชายหนุ่มขี้เมา พวกเขาพูดเสียงดังและเธอก็รออย่างระมัดระวังจนกว่าความโกลาหลจะหายไป หลังจากนั้น เธอก็คลำหาโทรศัพท์ก่อนที่จะเปิดเครื่อง เนื่องจากเธออยู่คนเดียว โทรศัพท์ของเธอจึงให้ความรู้สึกปลอดภัยแก่เธอ หากมีอะไรเกิดขึ้นเธอจะโทรแจ้งตำรวจทันทีประมาณครึ่งนาทีต่อมา โทรศัพท์ที่เก่าขอ
เอริกหวนนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อย่างรอบคอบ บาดแผลของธัญญ่าไม่ได้มาจากการทำงานบ้านอย่างแน่นอน นี่หมายความว่ามันเกิดขึ้นในสำนักงาน เขารู้ว่านอกจากการทำความสะอาดแล้วธัญญ่ายังทำและเสิร์ฟชาให้เพื่อนร่วมงานของเธอด้วย เขารู้ว่าเธอใจดีเพราะเธอต้องการเรียนรู้การออกแบบแฟชั่นจากเพื่อนร่วมงาน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดอะไรมากกับการกระทำของเธอ ท้ายที่สุดมันไม่ได้มีอะไรแปลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อคิดอีกครั้ง เขาได้เชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งหมดและการลาออกและตระหนักว่าสถานการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เขาถามอย่างเคร่งขรึม “มีคนในบริษัทรังแกเธอหรือเปล่า? บอกความจริงมา!"ธัญญ่ากัดริมฝีปากโดยไม่ยอมพูดทิฟฟานี่โกรธมากจนเธอเริ่มพูดจาหยาบคาย “ไอ้เ**้ย! ยังต้องถามอีกเหรอ? พวกเขาต้องรังแกเธอแน่นอน! เอริก ฉันให้คุณดูแลเธอ เธออยู่กับคุณเกือบตลอดเวลา คุณดูแลเธอหน่อยไม่ได้เหรอ? ธัญ เกิดอะไรขึ้น? ถ้าเธอปฏิเสธที่จะบอกฉัน ฉันจะบอกแอริเรื่องนี้ เธอก็รู้ว่าหล่อนเป็นอย่างไร ถ้าหล่อนรู้เรื่องนี้ หล่อนจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่นอน!”ธัญญ่าตื่นตระหนกเมื่อทิฟฟานี่พูดถึงแอเรียน “ไม่… อย่าบอกพี่แอรินะ หล่อนไม่ค่อยสบายแล
ก่อนที่ธัญญ่าจะทันได้ตอบ ทิฟฟานี่ก็ดึงเธอออกจากห้องไปแล้วเมื่อพวกเขาเดินผ่านแผนกต้อนรับ ผู้หญิงที่แกะถั่วก็ถามว่า “คุณจะไม่อยู่แล้วเหรอ?”ธัญญ่าพยักหน้า “โทษที ฉันจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว!”“ทำไมเธอถึงทักทายคนแบบนั้น?” ทิฟฟานี่บ่นเบา ๆ “เธอรู้ไหมว่าที่นี่คือสถานที่แบบไหน? พระเจ้า นี่ไม่ใช่โรงแรม นี่คือสถานที่สำหรับแมงดาและโสเภณี เธอเป็นเหมือนเนื้อสดในถ้ำของฝูงหมาป่าที่หิวโหย! ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันนี้เราไม่ได้เจอเธอ?”ธัญญ่าตัวสั่นด้วยความกลัว “คุณพูดจริงเหรอ? หนูไม่รู้...”เอริกโยนสัมภาระของเธอเข้าไปในรถ “เธอนี่ไร้เดียงสาจริง ๆ ฉันจะบอกเธอให้นะ เพียงเพราะเธอดีกับคนอื่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะดีกลับ บางคนจะดูถูกเธอไม่ว่าเธอจะดีกับพวกเขาแค่ไหน เธอต้องกล้าแสดงออกมากขึ้นและเรียนรู้ที่จะยืนหยัดเพื่อตัวเอง การใจดีเกินไปจะไม่ช่วยอะไรเลย”ทันใดนั้นโทรศัพท์ของทิฟฟานี่ก็ดังขึ้น เธอรีบรับสาย "ฮัลโหล?"เธอได้ยินเสียงกังวลใจที่ปลายสายของแจ็คสัน "คุณอยู่ที่ไหน? ไม่มีใครอยู่บ้านเลย ผมเพิ่งกลับจากที่ทำงาน”ทิฟฟานี่ชะงักไปสองวินาทีก่อนจะพูดว่า “ฉันออกมาข้างนอก ฉันมีบางอย่างต้องทำ ฉันจะ
จากภาพถ่ายเห็นได้ว่าแจ็คสันได้พบกับผู้หญิงคนนี้ในทุกสถานที่ซึ่งดูเหมือนการนัดพบของคู่รัก ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างมีความสุขในทุกภาพ ยิ่งกว่านั้น นอกจากจะไปที่ทำงานและกลับบ้าน ทุกครั้งที่แจ็คสันออกไปเขาได้พบกับผู้หญิงคนนั้นด้วย ที่สำคัญที่สุด เขาเคยไปเยี่ยมผู้หญิงคนนั้นที่โรงแรมสองสามครั้งด้วยซ้ำ หนึ่งในการแวะไปเยี่ยมคือตอนเมื่อเช้านี้ ทิฟฟานี่ได้เข้าสำนักงานก่อนในขณะที่แจ็คสันใช้เวลาช่วงนี้ไปหาเบอร์นาเด็ตต์ เขาได้ไปส่งอาหารเช้าให้หล่อนถึงที่โรงแรมโรงแรมห้าดาวมักจะมีบริการอาหารเช้า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจผู้หญิงคนนั้นมากจนเขาอยากไปส่งอาหารเช้าให้หล่อนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ได้นำอาหารอีกชุดมาให้ทิฟฟานี่ที่สำนักงาน พอคิดได้ ในขณะนั้นเธอได้รู้สึกประทับใจกับการกระทำของเขา ตลกสิ้นดี!ทิฟฟานี่กลัวเกินกว่าจะตรวจสอบสิ่งเหล่านี้อย่างละเอียดหรืออ่านมันอีกครั้ง เธอปิดโทรศัพท์และแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติแล้วกลับบ้านแจ็คสันยังคงตื่นอยู่เมื่อเธอกลับถึงบ้าน เขาอาบน้ำและรอเธออยู่บนโซฟา เขาดูเหนื่อย “คุณไปไหนมา?”เธอไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขาขณะที่เธอเดินขึ้นไปชั้นบน “มีบางอย่างเกิดขึ้นกับธัญ ฉ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง