หลังจากที่เธอกินอิ่มแล้วเธอก็สำรวจห้อง การตกแต่งภายในเรียบง่ายและหยาบกร้าน ห้องมีขนาดเล็กมากเช่นกัน เมื่อเธอเข้าไปในห้องน้ำ เธอก็เปิดฝักบัวและพบว่าไม่มีน้ำร้อน แต่มันไม่สำคัญอยู่แล้ว เนื่องจากมือเธอถูกลวกเธอจึงไม่สะดวกที่จะอาบน้ำอยู่แล้ว แม้ว่ามันจะเริ่มตกสะเก็ดแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังเจ็บอยู่และถ้ามันเปียกมันก็อาจจะติดเชื้อได้เธอนอนอยู่บนเตียงที่มีกลิ่นเหมือนเชื้อรา แม้แต่ที่นอนก็ยังรู้สึกชื้น เธอไม่สามารถทำให้ตัวเองให้สบายใจได้ ไม่ว่าเธอจะขยับเปลี่ยนตำแหน่งกี่ครั้งก็ตาม อย่างไรก็ตาม เธอก็ไม่ได้บ่น ยังไงมันก็ยังดีกว่าต้องนอนข้างถนน ก่อนเข้านอน เธอได้ดันตู้ให้ชิดผนัง ด้วยวิธีนี้ ถ้ามีคนพยายามจะบุกเข้ามา พวกเขาจะเข้ามาไม่ได้ง่าย ๆเธอหลับไปครู่หนึ่งก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นมาด้วยความโกลาหลในห้องโถง มันฟังดูเหมือนกลุ่มชายหนุ่มขี้เมา พวกเขาพูดเสียงดังและเธอก็รออย่างระมัดระวังจนกว่าความโกลาหลจะหายไป หลังจากนั้น เธอก็คลำหาโทรศัพท์ก่อนที่จะเปิดเครื่อง เนื่องจากเธออยู่คนเดียว โทรศัพท์ของเธอจึงให้ความรู้สึกปลอดภัยแก่เธอ หากมีอะไรเกิดขึ้นเธอจะโทรแจ้งตำรวจทันทีประมาณครึ่งนาทีต่อมา โทรศัพท์ที่เก่าขอ
เอริกหวนนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้อย่างรอบคอบ บาดแผลของธัญญ่าไม่ได้มาจากการทำงานบ้านอย่างแน่นอน นี่หมายความว่ามันเกิดขึ้นในสำนักงาน เขารู้ว่านอกจากการทำความสะอาดแล้วธัญญ่ายังทำและเสิร์ฟชาให้เพื่อนร่วมงานของเธอด้วย เขารู้ว่าเธอใจดีเพราะเธอต้องการเรียนรู้การออกแบบแฟชั่นจากเพื่อนร่วมงาน ดังนั้นเขาจึงไม่ได้คิดอะไรมากกับการกระทำของเธอ ท้ายที่สุดมันไม่ได้มีอะไรแปลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อคิดอีกครั้ง เขาได้เชื่อมโยงเหตุการณ์ทั้งหมดและการลาออกและตระหนักว่าสถานการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เขาถามอย่างเคร่งขรึม “มีคนในบริษัทรังแกเธอหรือเปล่า? บอกความจริงมา!"ธัญญ่ากัดริมฝีปากโดยไม่ยอมพูดทิฟฟานี่โกรธมากจนเธอเริ่มพูดจาหยาบคาย “ไอ้เ**้ย! ยังต้องถามอีกเหรอ? พวกเขาต้องรังแกเธอแน่นอน! เอริก ฉันให้คุณดูแลเธอ เธออยู่กับคุณเกือบตลอดเวลา คุณดูแลเธอหน่อยไม่ได้เหรอ? ธัญ เกิดอะไรขึ้น? ถ้าเธอปฏิเสธที่จะบอกฉัน ฉันจะบอกแอริเรื่องนี้ เธอก็รู้ว่าหล่อนเป็นอย่างไร ถ้าหล่อนรู้เรื่องนี้ หล่อนจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปแน่นอน!”ธัญญ่าตื่นตระหนกเมื่อทิฟฟานี่พูดถึงแอเรียน “ไม่… อย่าบอกพี่แอรินะ หล่อนไม่ค่อยสบายแล
ก่อนที่ธัญญ่าจะทันได้ตอบ ทิฟฟานี่ก็ดึงเธอออกจากห้องไปแล้วเมื่อพวกเขาเดินผ่านแผนกต้อนรับ ผู้หญิงที่แกะถั่วก็ถามว่า “คุณจะไม่อยู่แล้วเหรอ?”ธัญญ่าพยักหน้า “โทษที ฉันจะไม่อยู่ที่นี่แล้ว!”“ทำไมเธอถึงทักทายคนแบบนั้น?” ทิฟฟานี่บ่นเบา ๆ “เธอรู้ไหมว่าที่นี่คือสถานที่แบบไหน? พระเจ้า นี่ไม่ใช่โรงแรม นี่คือสถานที่สำหรับแมงดาและโสเภณี เธอเป็นเหมือนเนื้อสดในถ้ำของฝูงหมาป่าที่หิวโหย! ใครจะไปรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าวันนี้เราไม่ได้เจอเธอ?”ธัญญ่าตัวสั่นด้วยความกลัว “คุณพูดจริงเหรอ? หนูไม่รู้...”เอริกโยนสัมภาระของเธอเข้าไปในรถ “เธอนี่ไร้เดียงสาจริง ๆ ฉันจะบอกเธอให้นะ เพียงเพราะเธอดีกับคนอื่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะดีกลับ บางคนจะดูถูกเธอไม่ว่าเธอจะดีกับพวกเขาแค่ไหน เธอต้องกล้าแสดงออกมากขึ้นและเรียนรู้ที่จะยืนหยัดเพื่อตัวเอง การใจดีเกินไปจะไม่ช่วยอะไรเลย”ทันใดนั้นโทรศัพท์ของทิฟฟานี่ก็ดังขึ้น เธอรีบรับสาย "ฮัลโหล?"เธอได้ยินเสียงกังวลใจที่ปลายสายของแจ็คสัน "คุณอยู่ที่ไหน? ไม่มีใครอยู่บ้านเลย ผมเพิ่งกลับจากที่ทำงาน”ทิฟฟานี่ชะงักไปสองวินาทีก่อนจะพูดว่า “ฉันออกมาข้างนอก ฉันมีบางอย่างต้องทำ ฉันจะ
จากภาพถ่ายเห็นได้ว่าแจ็คสันได้พบกับผู้หญิงคนนี้ในทุกสถานที่ซึ่งดูเหมือนการนัดพบของคู่รัก ผู้หญิงคนนั้นยิ้มอย่างมีความสุขในทุกภาพ ยิ่งกว่านั้น นอกจากจะไปที่ทำงานและกลับบ้าน ทุกครั้งที่แจ็คสันออกไปเขาได้พบกับผู้หญิงคนนั้นด้วย ที่สำคัญที่สุด เขาเคยไปเยี่ยมผู้หญิงคนนั้นที่โรงแรมสองสามครั้งด้วยซ้ำ หนึ่งในการแวะไปเยี่ยมคือตอนเมื่อเช้านี้ ทิฟฟานี่ได้เข้าสำนักงานก่อนในขณะที่แจ็คสันใช้เวลาช่วงนี้ไปหาเบอร์นาเด็ตต์ เขาได้ไปส่งอาหารเช้าให้หล่อนถึงที่โรงแรมโรงแรมห้าดาวมักจะมีบริการอาหารเช้า แต่ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจผู้หญิงคนนั้นมากจนเขาอยากไปส่งอาหารเช้าให้หล่อนด้วยตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็ได้นำอาหารอีกชุดมาให้ทิฟฟานี่ที่สำนักงาน พอคิดได้ ในขณะนั้นเธอได้รู้สึกประทับใจกับการกระทำของเขา ตลกสิ้นดี!ทิฟฟานี่กลัวเกินกว่าจะตรวจสอบสิ่งเหล่านี้อย่างละเอียดหรืออ่านมันอีกครั้ง เธอปิดโทรศัพท์และแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรผิดปกติแล้วกลับบ้านแจ็คสันยังคงตื่นอยู่เมื่อเธอกลับถึงบ้าน เขาอาบน้ำและรอเธออยู่บนโซฟา เขาดูเหนื่อย “คุณไปไหนมา?”เธอไม่แม้แต่จะเหลือบมองเขาขณะที่เธอเดินขึ้นไปชั้นบน “มีบางอย่างเกิดขึ้นกับธัญ ฉ
ผู้หญิงคนนั้นไม่คิดว่าเอริกจะทำอะไรกับเธอเพื่อเห็นแก่ธัญญ่า ท้ายที่สุดเธอได้ทำงานให้เอริกมาสองปีแล้วและงานของเธอก็ไม่ได้แย่เช่นกัน “คุณอยากพูดอะไรก็พูดเลย คุณไม่ได้เก่งอะไรเลยยกเว้นเรื่องสร้างเรื่องและขายเรื่องน่าสงสารของคุณ เราให้เงินคุณสำหรับค่าอาหารและทุกอย่างในวันนั้นและตอนนี้คุณกำลังพยายามรีดไถเงินเพิ่มจากเรา ขอบคุณพระเจ้าที่พวกเราไม่ได้สอนอะไรคุณเลย มันคงจะเป็นงานที่คุ้มเสีย คุณนาธาเนียล โปรดระวังด้วย อย่าเพิ่งหยิบของเน่า ๆ ที่คุณเห็นตามทางขึ้นมา ผู้หญิงที่ไม่มีญาติแบบนี้ต้องมีแรงจูงใจซ่อนเร้นในการเกาะติดคุณแน่นอน”ธัญญ่าร้องไห้ด้วยความโกรธ แค่พวกเขาบิดเบือนข้อเท็จจริงก็แย่พอแล้ว ยิ่งพวกเขาพูดถึงเธอแบบนี้ทั้ง ๆ ที่เธอไม่เคยมีเจตนาใด ๆ ต่อเอริกยิ่งเป็นการดูถูกเธอยิ่งขึ้น!ใบหน้าของเอริกเปลี่ยนสีจากความโกรธ “ให้ผมสอนมารยาทให้คุณไหม? คุณโชคดีที่ผมเป็นคนจัดการเรื่องนี้แทนทิฟฟานี่ เลนหรือแอเรียน วินน์ คนหนึ่งเป็นสมาชิกของตระกูลเวสต์และอีกคนเป็นสมาชิกของตระกูลเทรมอนต์ คุณไม่สามารถทำร้ายคนใดคนหนึ่งได้เลย 'ของเน่า ๆ' ที่คุณพูดถึงนั้นแข็งแกร่งกว่าพวกคุณทุกคน เธอมีสายตาที่เฉียบแหลมในความ
ณ คฤหาสน์เทรมอนต์แอเรียนหลับไปจนเธอตื่นขึ้นเอง แมรี่ช่วยเธออย่างระมัดระวังขณะที่เธอเดินลงบันได“นายหญิง นายท่านอยู่ในห้องอาหาร กำลังรอทานอาหารเช้ากับคุณ เขาบอกว่าเขาจะพาคุณไปตรวจครรภ์ในภายหลัง”แอเรียนรู้สึกว่าแมรี่ระมัดระวังตัวเกินไป อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอจำได้ว่าเธอแท้งตั้งสองครั้งแล้วเธอก็นิ่งเงียบ กันไว้ดีกว่าแก้ นี่ไม่ใช่เวลาสำหรับเธอที่จะจู้จี้จุกจิกเมื่อเธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะอาหาร มาร์คก็ผลักชามข้าวต้มตรงหน้าเขาไปทางเธอ “กินมันในขณะที่มันยังอุ่นอยู่”เธอจ้องไปที่กุ้งในข้าวต้มโดยไม่อยากกินอะไรเลย อาหารที่เธอเคยชอบทั้งหมดตอนนี้ทำให้เธอคลื่นไส้แล้ว เธอค่อนข้างไม่พอใจกับสิ่งนี้ “ฉัน… ฉันไม่อยากกินสิ่งนี้ ขอข้าวต้มเปล่า ๆ ดีกว่า”แมรี่รู้สึกประหลาดใจ “กุ้งเป็นของโปรดคุณไม่ใช่เหรอ? กุ้งเหล่านี้สดและถูกปอกเปลือกเพื่อความสะดวกของคุณเลยนะ พวกมันมีขนาดใหญ่มากด้วย ข้าวต้มเปล่า ๆ จะไม่มีสารอาหารเลยน่ะสิ ต่างจากข้าวต้มชามนี้มาก คุณมีลูกอยู่ในตัวคุณนะ เป็นเด็กดีและกินสักสองคำนะ ฉันเพิ่งทำข้าวต้มนี้ไม่นานมานี้เอง นายท่านตักชามนี้และทิ้งมันไว้ให้เย็นเพื่อที่คุณจะได้รับประทานมันได้ทันทีเพราะ
หลังจากสูดดมตามกลิ่นออกไปนอกหน้าต่าง ดวงตาของแอเรียนก็หยุดที่ร้านอาหารอิตาเลียน “ฉัน… ฉันอยากกินลาซานญ่า!” เธอประกาศลาซานญ่า?! มาร์คตกใจ ความคิดของเขากำลังครุ่นคิดเกี่ยวกับความเหมาะสมของอาหารสำหรับสตรีมีครรภ์อย่างไรก็ตาม ความกระหายบนใบหน้าของเธอบอกทุกอย่างแล้ว เขาต้องยอมรับว่านี้มันดีกว่าที่เธอจะไม่กินอะไรเลย มาร์คถอนหายใจพลางพันผ้าพันคอและลงจากรถ “รอนี่นะ เดี๋ยวฉันไปซื้อให้”เขาคิดไม่ถึงว่าตอนนี้แอเรียนอยู่ในอารมณ์ที่เชื่องที่สุดของเธอ เธอยิ้มให้มาร์คด้วยรอยยิ้มสุดหวาน “ได้เลยค่ะ!”ไบรอันมองดูร่างสูงตระหง่านของมาร์คหายไปในกลุ่มคนชราและถอนหายใจ "นายท่านปฏิบัติต่อคุณดั่งมงกุฏอัญมณีอย่างแท้จริงเลยนะครับนายหญิง”สิ่งเดียวที่แอเรียนนึกถึงคือลาซานญ่า “หือ… อะไรนะ? อ๋อ เอ่อ เขาก็ดีแหละ”มาร์คกลับมาพร้อมกับลาซานญ่าขนาดใหญ่ที่แอเรียนกินเข้าไปภายในไม่กี่นาที บอกตามตรงว่าถ้ามาร์คซื้อลาซานญ่าขนาดใหญ่กว่านี้ เธอก็สามารถกินมันจนหมดได้สตรีมีครรภ์ที่มีอาการแพ้ท้องมักไม่ค่อยมีอาการอยากอาหาร อย่างไรก็ตาม การทำให้พวกเขาพึงพอใจสามารถทำให้ผู้หญิงคนนั้นอารมณ์ดีได้ตลอดทั้งวันลาซานญ่าที่มีกลิ่นแร
ทิฟฟานี่ยิงสายตาใส่ชายคนนั้นก่อนที่วิสัยทัศน์รอบข้างของเธอจะเป็นภาพเงาที่ดูโฉบเฉี่ยวแต่โดดเด่น เบอร์นาเด็ตต์ เลกรานด์ ศิลปินวัย 29 ปีที่โด่งดังในแวดวงศิลปะระดับนานาชาติ สุดท้ายเธอก็หาบริษัทนี้จนเจอ!อายกระชับมือของเธอรอบทิฟฟานี่ “โอเค ใจเย็น ๆ ทิฟฟานี่ ใ จ เ ย็ น ๆ ตอนนี้หล่อนอยู่ที่นี่แล้ว คุณเวสต์จะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องให้คำอธิบายแก่เธอใช่ไหม? ไม่อย่างนั้นเขาจะข้ามเส้นเกินไปมาก”อย่างไรก็ตาม ทิฟฟานี่ไม่ใช่คนที่จะทนอยู่เงียบ ๆ ความจริงที่ว่าเธออดทนมาจนถึงทุกวันนี้ปฏิเสธว่าเธอเกลียดชังความพังทลายทั้งหมดเพียงใด เธอยอมรับว่าเธออาจจะสามารถทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ต่อไปได้ในขณะที่เธอเฝ้าติดตามความสัมพันธ์ก่อนที่จะมีการกระทำใด ๆ แต่ถ้าผู้หญิงคนนี้มีความกล้าที่จะมาปรากฏตัวที่หน้าประตูบ้านของพวกเขา เธอจะไม่แสร้งเป็นตาบอดแน่นอน!ทิฟฟานี่เดินตามพวกเขาออกไปนอกประตูด้วยความโกรธ ด้วยความกังวลต่อทิฟฟานี่ อายจึงกระโดดตามหลังเธอหลังจากที่รวบรวมความกล้าไม่นานทั้งสองก็ไปถึงห้องรับรองที่ชั้นหนึ่ง แม้จะอยู่ไกลกันพวกเขาก็ยังเห็นแจ็คสันกำลังสนทนาแบบเผชิญกับผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างหน้าเขาทิฟฟ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง