เมื่อมองไปที่นาฬิกา ลมหายใจของแอเรียนก็ชะงักลงชั่วครู่ ขณะที่เธอหน้าซีดเผือดลงทันที เธอรู้สึกคับคล้ายคับคลาว่านาฬิกาเรือนนั้นจะเป็นเรือนเดียวกับที่มาร์คมักจะสวมอยู่เป็นประจำ เธอไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่หายไปบนข้อมือของเขาเมื่อเขากลับมาที่บ้านเมื่อคืน... มันหมายความว่าเขาไปอยู่กับแอรี่ก่อนที่เขาจะกลับมาที่คฤหาสน์เทรมอนต์ การแสดงออกของเธอเปลี่ยนไป แอรี่วางนาฬิกาเอาไว้ตรงหน้าของเธอด้วยความดูถูก “ไม่ต้องไปโทษพี่มาร์คที่รัก เขารับภาระความกดดันมากมายเมื่อเร็ว ๆ นี้ และเธอก็กำลังท้อง มันไม่สะดวก... แม้ว่าจะไม่ใช่ฉัน แต่เขาก็จะมีผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน เธอจะต้องเสียใจไม่ว่าจะเป็นทางใดก็ตาม ฉันกำลังทำหน้าที่ของเธอเพื่อเธออยู่ เธอไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันก็ได้”แอเรียนหยิบนาฬิกาขึ้นมาและลุกขึ้น “ฉันจะกลับไปทำงานถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว”เมื่อเธอบรรลุเป้าหมายของเธอแล้ว แอรี่ก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่อีกต่อไป “เอาสิ บอกเอริกด้วยว่าบริษัทใหม่ของเขาดูดี หวังว่าเขาจะมีอนาคตที่สดใสเพื่อฉัน”เมื่อกลับไปที่โต๊ะทำงานของเธอ ความคิดของแอเรียนสับสนวุ่นวายเมื่อเธอมองไปที่นาฬิกา หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เก็บนาฬิกาแล
ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายนัก แอเรียนอุ้มเจ้าข้าวปั้นพร้อมกับยิ้มออกมา “ฉันสายไปแล้ว ฉันจึงจะไม่ไปที่ทำงานในตอนเช้านี้ค่ะ แต่ฉันจะไปหลังอาหารกลางวัน”จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ จากด้านหลังของเธอ แอเรียนวางเจ้าข้าวปั้นลงโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อรู้ว่ามาร์คคือคนที่มา เขากำลังจะลงโทษเธอที่กำลังอุ้มเจ้าข้าวปั้นอยู่อย่างแน่นอนถึงขนาดที่ทำให้เธอกลัว“หยุดแตะต้องเจ้าแมวโง่ได้แล้ว ฉันกำลังจะไปออฟฟิศ ให้เฮนรี่ไปส่งเธอถ้าเธอจะออกไป” มาร์คกำลังรีบออกไปฝีเท้าของเขารีบร้อนเล็กน้อย เขาไม่ได้ติดแม้แต่กระดุมแขนเสื้อด้วยซ้ำ เมื่อแสงอาทิตย์สีทองอาบไล้มาที่เขา เขารู้สึกราวกับว่าพระเจ้ากำลังจับตามองมาที่เขาอยู่ แอเรียนเม้มริมฝีปากของเธอและไปที่ห้องครัวเพื่อขออาหารจากแมรี่ เธอกำลังหิวโหยณ คินซีย์ วิลล่า แอรี่ยุ่งอยู่ตลอดทั้งเช้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นเพราะเฮเลนจะมารับประทานอาหารกลางวันเท่านั้นฌองนั่งอยู่ที่โซฟาด้วยความหดหู่ ตั้งแต่พวกเขาหย่าร้างต่อกัน เขารู้สึกว่าไม่สามารถบริหารบริษัทได้ ตั้งแต่แต่งงานมาหลายปีเฮเลนเป็นคนช่วยเขาทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัวมาโดยตลอด โดยพื้นฐานแล้วเขาเป็น
เฮเลนหยิบกระเป๋าของเธอและหลังจากนั้นก็ออกไปในทันที เธอไม่ได้คิดที่จะทานอะไรอยู่แล้ว การออกจากบ้านคินซีย์ของเธอไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้นหมาด ๆ ฌองและแอรี่แทบจะไม่ตามหาเธอ เพราะว่าจู่ ๆ พวกเขาก็เชิญเธอกลับมา มันอาจจะไม่ใช่อาหารกลางวันที่ไม่มีพิษภัย เธออาจจะคาดหวังไว้มาก แอรี่ตบโต๊ะด้วยความโมโห “แอเรียน วินน์! ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหนีไปเพราะเรื่องนี้!”ฌองรู้สึกตกใจ นี่ยังคงเป็นลูกสาวของเขาที่รู้จักแค่เพียงวิธีแสดงความน่ารักและดีหรือเปล่า? ทำแววตาของเธอจึงดูอันตราย...?...ณ คฤหาสน์ตระกูลเวสต์ ซัมเมอร์นั่งอยู่ที่ข้างเตียงของแจ็คสันเพื่อปอกแอปเปิ้ลให้กับเขาขณะที่บ่นไปด้วย “ดูลูกสิ เราควรจะทำอย่างไรถ้าลูกพิการในครั้งต่อไปที่ลูกถูกทำร้าย? ตระกูลเวสต์ต้องการทายาท ลูกจะทำให้แม่โหยหาอย่างนี้ไม่ได้ เมื่อไรลูกจะแต่งงาน?”แจ็คสันรู้สึกปวดหัวขึ้นมา “คุณแม่ครับ... ไม่ได้เหรอครับ? เป้าหมายในชีวิตของผมคือพัฒนาตระกูลเวสต์ขึ้นมา ก่อนที่ผมจะมีความสุขกับมัน ผมยังไม่อยากแต่งงาน”ซัมเมอร์เยาะเย้ยเขา “ตระกูลเวสต์ไม่เหมือนเทรมอนต์ แต่ก็ไม่เลว ความจริงแล้วการเป็นที่หนึ่งในเมืองหลวงดีที่สุด แล้วจะเกิดอะไรขึ้นถ้า
เขาขับรถด้วยตัวเองในวันนี้ ขณะที่ไบรอันมีปัญหาบางอย่างและหยุดงาน นั่นหมายความว่าเขาต้องเผชิญหน้ากับทุกอย่างด้วยตัวของเขาเองเมื่อรถของเขามาถึงเส้นทางที่ยาวไกลของถนนไฮเวย์ รถเก๋งสีดำที่อยู่ข้างหลังของเขาก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้นมา รถทั้งสองคันขับไล่ล่ากันราวกับฉากในภาพยนตร์ ทันใดนั้นเอง รถเก๋งสีเงินที่อยู่ข้างหน้าเขาก็เปิดไฟแสดงสถานะเตือนและชะลอความเร็วลงอย่างกะทันหัน รถของมาร์คที่เคลื่อนที่เร็วเกินไป ด้วยความตกใจเขาจึงเหยียบเบรกและหมุนพวงมาลัย หลังจากนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่ามีคนมาดัดแปลงเบรกของเขา! เขารู้ดีว่าเบรกของเขาปกติดีเมื่อเขามาถึงในตอนแรก โอกาสเดียวที่จะมีคนมายุ่งกับเบรกคือระหว่างการประมูลรถของเขาหมุนไปชนกับเกาะกลางถนน พลิกขึ้นกลางอากาศและกระแทกลงกับพื้น!เลือดไหลลงมาจากหน้าผากของเขาและเข้าไปในตา โลกทั้งโลกดูเหมือนจะถูกย้อมไปด้วยสีแดง สติของเขาค่อย ๆ เลือนหายไปเช่นกันเสียงฝีเท้าแผ่วเบาดังเข้ามาใกล้เขาอย่างช้า ๆ เขาต่อสู้เพื่อให้มีสติ รองเท้าหนังสีดำที่สั่งทำขึ้นมาเป็นพิเศษราคาแพงคู่หนึ่งปรากฏขึ้นในสายตาของเขา เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ และตำแหน่งที่เขาอยู่ทำให้เขาไม่สามารถมอ
“เกิดอะไรขึ้น?” หลังจากที่นิ่งไปนาน ในที่สุดเธอก็สงบสติอารมณ์ของเธอและมีเสียงขึ้นมาอีกครั้ง“ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แม่ของคุณมาที่บ้านของผมประมาณบ่ายสองของเมื่อวานนี้ และให้ข้อมูลบางอย่างกับผม มันเกี่ยวกับปัญหาของบริษัทของมาร์ค ผมไปที่ออฟฟิศของมาร์คเพื่อรอเขา เพราะเขาออกไปทำงานบางอย่างข้างนอกให้เสร็จ และเขาก็ประสบอุบัติเหตุระหว่างทางที่กลับมา ผมไม่รู้ว่าอะไรเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ผมเจอพยานคนหนึ่ง แต่พวกเขาบอกว่าเป็นมาร์คเองที่ขับรถเร็วเกินขีดจำกัดความเร็ว จากนั้นจู่ ๆ ก็สูญเสียการควบคุมและชนกับเกาะกลางถนน” แจ็คสันอธิบายด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมเกินขีดจำกัดความเร็ว? แอเรียนรู้จักมาร์คเป็นอย่างดี เขาใจเย็นตลอดเวลาและมีสติในทุกสิ่งที่เขาทำ เขาจะขับรถจนเกิดขีดจำกัดความเร็วได้อย่างไร? เธอโยนความผิดไปให้เฮเลนโดยสัญชาตญาณ “เธอมีข้อมูลที่มีประโยชน์อะไรบ้าง? เธอออกจากคินซีย์แล้ว ตอนนี้เธอไม่มีอะไรแล้ว เธอจะช่วยมาร์คได้อย่างไร? ทำไมในทุก ๆ ครั้ง เธอจะต้องทำมันในช่วงเวลาแบบนั้น? คุณคิดจริง ๆ เหรอว่ามันเป็นไปได้ที่มาร์คจะเร่งความเร็วจนพ้นขีดจำกัดความเร็วภายใต้สถานการณ์ที่ปกติ? คุณจะเชื่ออย่างนั
ทิฟฟานี่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกเมื่อสิ้นสุดการโทร “นั่นเป็นความคิดที่ดี ให้เธอมาหาเรา ช่วยให้เราไม่ต้องเจอปัญหากับการขับรถไปรอบ ๆ มันรู้สึกไม่เหมาะสมที่คิดจะกล่าวหาคนอื่นอย่างรุนแรง จำสิ่งที่ฉันบอกเธอเอาไว้ อย่าบุ่มบ่าม”แอเรียนพยักหน้ารับ รถขับรถมายังถนนอีกฝั่งก่อนจอดที่พื้นที่ว่างด้านหน้าร้านไวโอเล็ต คาเฟ่ เฮเลนไม่ได้ให้พวกเขารอนานจนเกินไป เธอมาถึงยังประตูร้านกาแฟภายในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที เธอรีบมาและไม่ได้นำร่มมาด้วย เมื่อเธอจอดรถเสร็จแล้วและเข้าไปในร้านกาแฟ ชุดสูทสีขาวของเธอจึงเปียกโชกไปด้วยน้ำฝน ผมที่เคยเรียบร้อยของเธอยุ่งเหยิงเล็กน้อย เธออาจจะดูน่าเวทนาไปสักหน่อย แต่เมื่อเธอเห็นแอเรียน เธอก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข “แม่ไม่เคยคิดว่าลูกจะโทรหาแม่”เมื่อทั้งสามคนนั่งอยู่ตรงข้ามกัน แอเรียนจ้องไปที่เฮเลนด้วยสีหน้าที่เรียบเฉยบนใบหน้าของเธอ เธอพยายามจับสีหน้าพิรุธบนใบหน้าของเธอ แม้ว่าเห็นเพียงเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว อย่างไรก็ตามเธอก็ไม่พบอะไรเลยเฮเลนรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาจากวิธีที่แอเรียนจ้องมองเธอมา “มีอะไร? มีอะไรอยากจะบอกแม่ไหม?”แอเรียนกัดฟันของเธอ “สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นแผนของค
เธอคิดอะไรไม่ออกเมื่อเธอได้ยินคำพูด – จดหมายสั่งเสีย “เขายังไม่ตาย ทำไมถึงต้องการแบบนี้? ไม่จำเป็นต้องมอบมันให้ฉัน ทิ้งมันไป!”เฮนรี่ แจ็คสัน เอริก และทิฟฟานี่อยู่ที่นี่ทุกคน นี่คือสถานการณ์ที่ตึงเครียดมากและหดหู่เกินไปสำหรับเธอ ราวกับว่ามาร์คกำลังจะตายแล้วจริง ๆ “คุณเทรมอนต์ ได้โปรดใจเย็นลงก่อน มีความเป็นไปได้สูงที่จดหมายสั่งเสียจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย” แพทย์อธิบาย “ดิฉันเป็นแพทย์ที่ดูแลคุณเทรมอนต์ ดิฉันเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี คุณเทรมอนต์อาการค่อนข้างดี ดังนั้นฉันจึงให้เพียงจดหมายสั่งเสียกับคุณ”หลังจากนั้นแพทย์ก็ดึงกระดาษออกมาจากเสื้อกราวน์ของเขา มันเป็นสถานการณ์ที่ค่อนข้างฉุกเฉินในเวลานั้น เช่นนั้นเขาจึงไม่ได้มีตัวเลือกที่ดีมากนัก ดังนั้นเขาจึงเขียนจดหมายสั่งลาลงบนแผ่นใบสั่งยาของเขา มันดูน่าเกลียดนิดหน่อยและรีบร้อนมือของแอเรียนกำลังสั่น แผ่นกระดาษที่บางเบากลับให้ความรู้สึกราวกับว่ามีน้ำหนัก 600 กิโลกรัม น้ำตาไหลออกมาอาบใบหน้าของเธอในขณะที่เธออ่านจดหมายบรรทัดแรก“ถ้าฉันตาย ขอมอบความไว้วางใจให้แจ็คสัน เวสต์ จัดการชำระบัญชีทรัพย์สินในความดูแลของฉันเป็นเงินสด – เพื่อ
แจ็คสันหยุดเพื่อคิดและพูดว่า “ถ้าครั้งเดียวคุณจะได้หนึ่งหมื่น แต่หากเปลี่ยนเป็นระยะยาวการต่อรองราคาจะง่ายกว่า คำอธิบายคร่าว ๆ ก็คือ… ผมมีเพื่อนคนนึงที่แม่ของเขาตอแยให้เขาพาแฟนไปรู้จัก แต่เพื่อนผมไม่ต้องการที่จะแต่งงาน เขาถึงไม่สามารทำเช่นนั้นได้ เขาเลยให้ผมช่วยหาใครสักคนที่เหมาะสมเพื่อไปแสดงเป็นแฟนเขา แค่แสดง การถูกเนื้อต้องตัวเป็นสิ่งที่จำเป็น แต่คุณไม่ต้องห่วง มันจะไม่ถึงขั้นที่ใกล้ชิดจนเกินไป ถ้าครอบครัวเขาไม่ยอมรับคุณ คุณก็จะไม่ถูกจ้างต่อ แต่ถ้าครอบครัวเขายอมรับคุณ คุณก็จะต้องแสดงต่อ ๆ ไป ถ้าคุณมองว่าราคามันไม่เหมาะสม คุณสามารถต่อรองได้เลย” แค่แสดงเป็นแฟนเขาก็ได้รับเงินหนึ่งหมื่นเลยหรอ? ทิฟฟานี่ตกลงโดยไม่คิดแม้แต่วินาทีเดียว “ราคานี้ดีพอแล้ว อย่างไรก็ตาม ฉันจะพูดไว้ตรงนี้เลยว่า การถูกเนื้อต้องตัวก็มีขีดจำกัดของมัน ถ้าเขาทำอะไรเกินเลย ฉันจะตามไปจัดการคุณ”ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันทันที ทิฟฟานี่ทานอาหารอย่างมีความสุขก่อนที่จะกลับไปงีบที่บ้านเวลา 17.30 น. แจ็คสันโทรหาทิฟฟานี่ทันทีและได้จัดการส่งชุดให้เธออีกด้วย มันดูเหมือนเสื้อเชิ้ตสีขาวเรียบง่ายพร้อมถุงน่องและกระโปรงสั้
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง