ระหว่างทางที่กลับบ้าน แอเรียนหันไปหามาร์คและถามขึ้น “คุณคุยกับแจ็คสันแล้วใช่ไหมคะ? ทำไมเขาถึงทำมันลงไป?”มาร์คจึงบอกความจริงกับเธอ “ผู้ชายคนนั้นเป็นขยะ บอกให้ทิฟฟานี่อยู่ห่างจากเขา”ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น “ทำไมคุณไม่พูดแบบนั้นตั้งแต่ทีแรกล่ะ? ฉันจะบอกทิฟฟ์ แต่ทำไมคุณถึงไม่อธิบายกับเธออย่างตรงไปตรงมา? เรื่องมันจะได้ง่ายกว่านี้”เขาจ้องมองไปที่เธอราวกับว่าเขากำลังมองคนโง่ “บางครั้งการพูดอย่างตรงไปตรงมาก็ทำให้เธอเป็นเหมือนคนโง่เธอรู้ไหม? มันไม่ใช่เรื่องผิดที่จะมีไหวพริบ”เวลาห้าทุ่มในคืนนั้น ไวท์ วอเตอร์ เบย์ คาเฟ่ ปิดทำการในวันนั้น แจ็คสันเดินไปที่โรงรถพร้อมกับกุญแจรถของเขาในมือ เขาเพิ่งมาถึงยังรถของเขา เมื่อจู่ ๆ ก็มีกลุ่มผู้ชายปรากฏตัวขึ้นในความมืด เคนโผล่ออกมาจากรถเบนซ์ของเขาด้วยท่าทางหยามใจ “เฮ้ ไอ้โง่ แกต่อยฉันสนุกไหม?”แจ็คสันจ้องมองเขาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “ตอนนี้แกคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาลถ้าไม่มีใครมาห้ามฉันเอาไว้”เคนแตะที่ใบหน้าของเขาซึ่งพันด้วยผ้าพันแผล แล้วเขาก็ถ่มน้ำลายลงกับพื้น “พูดมา แกต่อยฉันทำไม? ฉันไม่ได้คิดที่จะปล่อยแกไป แต่ฉันอยากรู้ว่าทำไม ฉันไม่คิดฉันเค
ในใจของทิฟฟานี่เต็มไปด้วยคำถามขณะที่เธอถามขึ้น “สักครู่นะคะ คุณคือ… คุณแม่ของแจ็คสันใช่ไหมคะ? ยินดีที่ได้พบคุณค่ะคุณนายเวสต์ ดิฉันรู้จักกับเขาค่ะ เขาเป็นเจ้านายของดิฉันและเป็นเพื่อนของสามีของเพื่อนสนิทดิฉัน อย่างไรก็ตาม… ฉันไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น”คุณนายเวสต์ดึงเอกสารที่เต็มไปด้วยตัวหนังสือออกมาจากที่ด้านหลังของเธอ “ฉันไม่อยากจะอธิบายเรื่องนี้กับเธอ ดูด้วยตัวเองแล้วกัน นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ฉันได้รับมา”ทิฟฟานี่เหงื่อแตกพลั่ก เธอรับเอกสารมาและอ่านอย่างละเอียด เธอจ้องมองด้วยความเคร่งเครียดขึ้นเรื่อย ๆ เอกสารได้อธิบายทุกอย่างเอาไว้อย่างชัดเจน ตั้งแต่การต่อสู้ที่รุนแรงของแจ็คสันกับเคนในไวท์ วอเตอร์ เบย์ คาเฟ่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น รู้สึกผสมปนเปไปหมดกับเรื่องที่เกิดขึ้น เช่นนั้น เเจ็คสันชกต่อยกับใครสักคนเพราะเธออย่างนั้นหรือ? และเขาลงเอยด้วยการได้รับบาดเจ็บจากการตอบโต้เช่นกัน...“ดิฉันเสียใจค่ะ คุณนายเวสต์... ดิฉันไม่เคยตั้งใจให้มันเป็นแบบนี้เลย... ดิฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงชกต่อยกับผู้ชายคนนั้น เขาอยู่ที่โรงพยาบาลไหนคะ? ดิฟฟฉันอยากจะไปเยี่ยมเขาค่ะ” เธอพูดขึ้นพร้อมกับเรี
พยาบาลดูเหมือนจะไม่พอใจ ทว่าเธอก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอหันกลับออกไป สุดท้ายแล้วหากผู้ป่วยมีคนดูแลเขาแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นต้องดูแลเขาไม่กี่นาทีต่อมา มือของทิฟฟานี่ก็เริ่มเจ็บปวด “คุณทำไม่ได้จริง ๆ เหรอ? ใช้สายสวนปัสสาวะได้นะถ้าคุณฉี่ไม่ออก อย่าฝืนตัวเอง...”ใบหน้าของแจ็คสันเปลี่ยนเป็นสีแดงจากนั้นก็ขาวซีด “คุณเป็นคนที่ทำให้ ‘ทำไม่ได้’ ...คุณเป็นผู้หญิง คุณไม่รู้สึกอายบ้างเลยหรือไง? คุณเคยพูดด้วยซ้ำว่าคุณคือคนที่ดูแลพ่อเมื่อเขาป่วย ไม่เหมาะสมไม่ใช่เหรอแม้ว่าคุณจะเป็นลูกสาวของเขา? มันคงไม่แย่ขนาดนี้ถ้าเป็นแม่ของคุณแทน...”เธอตอบออกมาอย่างเยาะเย้ยตัวเอง “แม่ของฉันเหรอ? ถ้าพ่อของฉันสามารถพึ่งพาเธอได้จริง ๆ เขาก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากขณะที่เขายังคงมีชีวิตอยู่ แม่ของฉันเป็นผู้หญิงที่มีความสามารถพิเศษอยู่อย่างเดียวคือการมีความสุขกับชีวิต ถึงแม้ตอนนี้ฉันจะลำบากมันก็ยังเหมือนเดิม สิ่งที่เธอรู้คือร้องไห้ให้กับมัน ฉันสิที่ต้องทำแม้ว่ามันจะน่าอึดอัดใจแค่ไหนก็ตาม สุดท้ายแล้วเมื่อพ่อของฉันล้มละลาย... พวกเราไม่มีเงินแม้แต่จะจ้างผู้ดูแล อย่างไรเสียคุณไม่จำเป็นต้องรู้สึกอาย ต่อหน้าพยาบาล
ระดับความผิดหวังของเธอสร้างความแปลกใจให้กับเธอ ทำไมเธอจะต้องรู้สึกผิดหวังแบบนี้ด้วย? เธอไม่ควรจะมีความหวังตั้งแต่ทีแรก เธอควรจะเดินหน้าต่อไปอย่างที่เธอเคยทำ – อยู่ใกล้ทว่ารักษาระยะห่างเหมือนที่ผ่านมาใช่ไหม?ช่วงเวลาอาหารกลางวัน ร่างที่โดดเด่นปรากฏขึ้นที่ทางเข้าประตูออฟฟิศ พนักงานที่เตรียมตัวจะออกไปรับประทานอาหารกลางวันหยุดเดินและจับตามอง นั่นเป็นเพราะมาร์คดูดีมาก ที่สำคัญที่สุดคือเขากำลังถือกล่องอาหารกลางวันที่ห่อเอาไว้อย่างสวยงามบริษัทที่เปิดใหม่ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยพนักงานใหม่ พวกเขาส่วนใหญ่จึงไม่เคยเห็นมาร์คมาก่อน ดังนั้นพวกเขาจึงเดาว่าเขาคือ ‘สามีผู้มีชื่อเสียง’ ของใครสักคน เมื่อเขามาถึงที่โต๊ะของแอเรียน ในที่สุดทุกคนก็เข้าใจ พลางถอนหายใจและแยกย้ายกันไปช้า ๆ “คุณมาทำอะไรที่นี่?” อารมณ์ของแอเรียนในตอนนี้สามารถอธิบายได้ว่าเป็นความตกใจ“ช่วงเวลาอาหารกลางวัน” เขาไม่ได้พูดอะไรมากและเปิดกล่องอาหารกลางวันเหล่านั้น จากนั้นเขาก็ส่งมีดและส้อมใส่ในมือของเธอ กล่องอาหารกลางวันที่ร้อนเต็มไปด้วยสตูว์ ไก่ย่างและผัก สิ่งที่พวกเขาเห็นจะทำให้ทุกคนน้ำลายสอด้วยความหิว แอเรียนเองก็ไม่ได้พูดอะไร
ในช่วงกลางดึก เธอส่งข้อความไปหามาร์คหลังจากที่คิดลังเล : คุณยุ่งเหรอ? ฉันได้ยินว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นที่บริษัทระหว่างประเทศของคุณเธอเลือกที่จะส่งข้อความนั้นกลางดึกด้วยความแตกต่างของเวลาต่างประเทศ ทั้งสองฝ่ายทำงานร่วมกันเพื่อความสัมพันธ์เติบโต มันไม่มีเหตุผลเลยถ้าเธอจะไม่แสดงความเป็นห่วงให้เขาเห็นหลังจากผ่านไปกว่าห้านาที เขาก็ตอบกลับมาในที่สุด : ฉันไม่ต้องการความเป็นห่วงของเธอ แค่ดูแลตัวเองก็พอเธออ่านข้อความบนโทรศัพท์ซ้ำอยู่สองสามครั้ง มีความรู้สึกหดหู่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธออ่าน เธอถามคำถามกับเขาด้วยความห่วงใย ทว่าเขาก็ยังปฏิเสธเธอกลับมาแบบนั้น เธอไม่ควรถามตั้งแต่แรก!เช้าวันรุ่งขึ้น ข่าวของบริษัทระหว่างประเทศของมาร์คแพร่กระจายออกไปอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งวิดีโอสัมภาษณ์ของเขาซึ่งเป็นประกาศปิดบริษัทอย่างเป็นทางการ สาขาย่อยในต่างประเทศของบริษัทของเขาไม่ใช่สาขาเดียวที่ได้รับผลกระทบ ทว่าสำนักงานในประเทศก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เหตุผลโดยทั่วไปคืออุตสาหกรรมทั้งหมดภายใต้ตระกูลเทรมอนต์นั้นมีปัญหามากมายซึ่งทำให้เขาเสื่อมเสียชื่อเสียง ยกตัวอย่างเช่น มีคนพบสินค้าปลอมใน
แอเรียนอดไม่ได้ที่อยากจะแบ่งปันความสุข มันเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษ คนแรกที่เธอคิดถึงคือมาร์ค ทว่าเธอไม่ได้ส่งข้อความถึงเขา ด้วยเกรงว่าเขาจะยุ่ง แต่เธอสามารถบอกกับทิฟฟานี่ได้เท่านั้น หลังจากที่พูดคุยกับทิฟฟานี่อยู่สักครู่หนึ่ง เธอก็รู้สึกว่าเปลือกตาของเธอหนักอึ้งเหลือเกินและหลับไปโดยที่ไม่รู้ตัวเธอไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่เธอได้ยินเสียงคนเปิดประตูอย่างไม่ชัดเจน เธอยังไม่ชินกับเรื่องที่เธอเพิ่งกลับมาที่คฤหาสน์เทรมอนต์และหลับไปด้วยความคิดที่ว่าเธอยังอยู่ในอพาร์ทเม้นต์ของเธอ เธอระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อเธออยู่ตามลำพัง กังวลว่าพวกอันธพาลจะเข้ามาหา เธอจึงตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจในทันที “ใครน่ะ?!”จู่ ๆ ไฟภายในห้องเปิดสว่างขึ้นขณะที่มาร์คมองมาที่เธอด้วยความเหนื่อยล้า เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างระมัดระวังโดยที่ไม่ก้าวไปข้างหน้า “ฉันเอง กลับไปนอนเถอะ ฉันกำลังจะไปอาบน้ำ”เมื่อถอนหายใจด้วยความโล่งอก แอเรียนปรับตัวและนอนลงพลางหลับตาลงอีกครั้งจากนั้นมาร์คก็เดินไปที่ห้องน้ำ เขาตกใจเหมือนกัน เขาเป็นคนทำอะไรเบามากอยู่แล้ว จึงรู้สึกแปลกใจที่แอเรียนยังคงตกใจเมื่อฟังเสียงภายในห้องน้ำ แอเรียนก็ไม่อาจหล
เมื่อมองไปที่นาฬิกา ลมหายใจของแอเรียนก็ชะงักลงชั่วครู่ ขณะที่เธอหน้าซีดเผือดลงทันที เธอรู้สึกคับคล้ายคับคลาว่านาฬิกาเรือนนั้นจะเป็นเรือนเดียวกับที่มาร์คมักจะสวมอยู่เป็นประจำ เธอไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่หายไปบนข้อมือของเขาเมื่อเขากลับมาที่บ้านเมื่อคืน... มันหมายความว่าเขาไปอยู่กับแอรี่ก่อนที่เขาจะกลับมาที่คฤหาสน์เทรมอนต์ การแสดงออกของเธอเปลี่ยนไป แอรี่วางนาฬิกาเอาไว้ตรงหน้าของเธอด้วยความดูถูก “ไม่ต้องไปโทษพี่มาร์คที่รัก เขารับภาระความกดดันมากมายเมื่อเร็ว ๆ นี้ และเธอก็กำลังท้อง มันไม่สะดวก... แม้ว่าจะไม่ใช่ฉัน แต่เขาก็จะมีผู้หญิงคนอื่นเหมือนกัน เธอจะต้องเสียใจไม่ว่าจะเป็นทางใดก็ตาม ฉันกำลังทำหน้าที่ของเธอเพื่อเธออยู่ เธอไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันก็ได้”แอเรียนหยิบนาฬิกาขึ้นมาและลุกขึ้น “ฉันจะกลับไปทำงานถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว”เมื่อเธอบรรลุเป้าหมายของเธอแล้ว แอรี่ก็ไม่จำเป็นจะต้องอยู่อีกต่อไป “เอาสิ บอกเอริกด้วยว่าบริษัทใหม่ของเขาดูดี หวังว่าเขาจะมีอนาคตที่สดใสเพื่อฉัน”เมื่อกลับไปที่โต๊ะทำงานของเธอ ความคิดของแอเรียนสับสนวุ่นวายเมื่อเธอมองไปที่นาฬิกา หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เก็บนาฬิกาแล
ความจริงแล้วมันก็ไม่ได้เลวร้ายนัก แอเรียนอุ้มเจ้าข้าวปั้นพร้อมกับยิ้มออกมา “ฉันสายไปแล้ว ฉันจึงจะไม่ไปที่ทำงานในตอนเช้านี้ค่ะ แต่ฉันจะไปหลังอาหารกลางวัน”จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าหนัก ๆ จากด้านหลังของเธอ แอเรียนวางเจ้าข้าวปั้นลงโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อรู้ว่ามาร์คคือคนที่มา เขากำลังจะลงโทษเธอที่กำลังอุ้มเจ้าข้าวปั้นอยู่อย่างแน่นอนถึงขนาดที่ทำให้เธอกลัว“หยุดแตะต้องเจ้าแมวโง่ได้แล้ว ฉันกำลังจะไปออฟฟิศ ให้เฮนรี่ไปส่งเธอถ้าเธอจะออกไป” มาร์คกำลังรีบออกไปฝีเท้าของเขารีบร้อนเล็กน้อย เขาไม่ได้ติดแม้แต่กระดุมแขนเสื้อด้วยซ้ำ เมื่อแสงอาทิตย์สีทองอาบไล้มาที่เขา เขารู้สึกราวกับว่าพระเจ้ากำลังจับตามองมาที่เขาอยู่ แอเรียนเม้มริมฝีปากของเธอและไปที่ห้องครัวเพื่อขออาหารจากแมรี่ เธอกำลังหิวโหยณ คินซีย์ วิลล่า แอรี่ยุ่งอยู่ตลอดทั้งเช้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เป็นเพราะเฮเลนจะมารับประทานอาหารกลางวันเท่านั้นฌองนั่งอยู่ที่โซฟาด้วยความหดหู่ ตั้งแต่พวกเขาหย่าร้างต่อกัน เขารู้สึกว่าไม่สามารถบริหารบริษัทได้ ตั้งแต่แต่งงานมาหลายปีเฮเลนเป็นคนช่วยเขาทั้งเรื่องงานและเรื่องครอบครัวมาโดยตลอด โดยพื้นฐานแล้วเขาเป็น
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง