แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ “ขอบคุณ ฉันเข้าใจ ฉันไม่ได้สูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวไป ฉันทำบางอย่างที่เป็นความลับของบริษัทหายน่ะ”เพื่อนข้างโต๊ะของเธอถอนหายใจ ใบหน้าแสดงออกให้เห็นถึงความกลัวขณะที่เธอพูดว่า “ฉันไม่เกี่ยว!”แอเรียนไม่ตอบกลับ เธอไม่อยากสงสัยลิลลี่ แต่เวลามันบังเอิญเกินไป เอริกเชื่อว่าตอนนี้ลิลลี่ทำงานให้เขา เขาจะต้องผิดหวังมากหากพบว่าลิลลี่อยู่เบื้องหลังสิ่งนี้แอเรียนลุกขึ้นและเรียกลิลลี่ไปหาที่ครัวลิลี่พูดอย่างไม่อดทน “มีอะไรหรอ? ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน ถ้าเธอมีอะไรจะพูดที่ไม่เกี่ยวกับงานให้ทำนอกเวลาทำงาน”แอเรียนรีบตรงไปที่ประเด็น “ฉันรู้ว่าเธอขโมยเอกสารฉันไป เธอเคยทำงานให้กับพวกนาธาเนียล ดังนั้นฉันจึงเชื่อว่าเธอมอบมันให้พวกเขา ทำไมเธอถึงทำแบบนี้?"สีหน้าของลิลลี่ทรุดลง “มันเป็นความผิดพลาดของเธอ ทำไมเธอถึงโยนความผิดให้กับฉัน? ฉันจะไม่รับผิดในความผิดพลาดของคนอื่น สิ่งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับฉัน”แอเรียนหรี่ตาลง “เธอรู้ได้อย่างไรว่ามันเกี่ยวกับอะไร? เอริกให้เธอเรียกฉันไปที่ห้องทำงานของเขา เขาบอกว่าไม่ได้เปิดเผยอะไรกับเธอ เขาและฉันเป็นคนเดียวในบริษัทที่รู้เรื่องนี้ เธอยังจะเล่นลิ้นกั
ลิลี่ชำเลืองมองไปที่แอเรียน ไม่มีใครรู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ในขณะนี้ “คุณเจอความจริงได้ง่ายเพราะฉันไม่ได้ทำอย่างละเอียดรอบคอบ” เธอมองไปที่เอริก “ฉันไม่ได้อยากทำแบบนี้เหมือนกัน แต่พี่ชายคนโตของคุณขอให้ฉันทำ ฉันถามเขาแล้วว่าทำไม แต่เขาก็ไม่บอกเหตุผลกับฉัน มันไม่ง่ายที่จะอยู่ในเมืองหลวง พวกนาธาเนียลให้โอกาสกับฉันมากมาย ครอบครัวของฉันค่อนข้างลำบาก และฉันไม่ต้องการเสียงานของฉันไป แม่ของฉันจะต้องฆ่าฉันแน่ ๆ ถ้าเราหาเงินไม่ได้ พี่ชายของคุณต้องการแค่การตอบรับและฉันก็ไป ฉันไม่มีทางเลือก...”ความผิดหวังที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของเอริกนั้นฉายแววชัดเจน “นี่คุณคิดว่าผมเป็นสุนัขจรจัดอยู่หรือเปล่าที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้และไม่สามารถดูแลคุณได้? คุณคิดว่าผมไว้ใจไม่ได้ใช่ไหม? ไม่เป็นไร นั่นไม่เป็นไรเลย ผมตั้งใจว่าจะพาคุณไปกับผมด้วยเมื่อผมเริ่มก่อตั้งบริษัทของตัวเองหลังจากที่ออกจากไกลด์แล้ว อย่างไรก็ตาม มันดูเหมือนกับว่าเป้าหมายของเรามันไม่สอดคล้องกัน กลับไปที่สำนักงานใหญ่เดี๋ยวนี้ ผมไม่ต้องการคุณที่นี่”ลิลี่คอตกขณะที่เธอหันกลับไป เธอเดินไปได้สองก้าวก่อนจะชะงัก “ฉันขอโทษคุณนาธาเนียล... สำหรับการที่ทำให้ค
เอริกทำท่าทาง ‘โอเค’ ขณะที่เขาพูดขึ้น “ขอให้มีช่วงสุดสัปดาห์ที่ดีและรายงานตัวที่บริษัทของผมในวันจันทร์ ค่าจ้างของคุณยังเหมือนเดิมไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่เอาเปรียบคุณแน่นอน ผมจะส่งที่อยู่ให้คุณทีหลัง”วันนี้ไม่จำเป็นต้องทำงานล่วงเวลาดังนั้นแอเรียนจึงรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ เธอกลับไปที่คฤหาสน์เทรมอนต์หลังจากที่เสร็จจากงาน อากาศวันนี้อุ่นขึ้นจึงทำให้เธอรู้สึกร้อน เธอเปลี่ยนเป็นชุดนอนที่ทำจากผ้าที่บางขึ้นหลังจากอาบน้ำ จากนั้นเธอก็ไปที่ห้องครัวเพื่อช่วยแมรี่หัวใจของแมรี่เจ็บปวดเมื่อเห็นเช่นนั้นเพราะเป็นเรื่องยากที่แอเรียนจะกลับบ้านเร็ว “คุณไม่ต้องมาช่วยฉัน ไปพักผ่อน คุณเหนื่อยกับงานมามากพอแล้ว”“หนูไม่เหนื่อยค่ะ” แอเรียนตอบพร้อมกับรอยยิ้ม “ให้หนูช่วยคุณเถอะนะคะ วันนี้หนูมีพลังเยอะปกติแล้วหนูขี้เกียจขยับจะตาย”แมรี่สังเกตเห็นว่าแอเรียนเลือกผักได้ดีทีเดียว เธอมองขณะที่ส่ายหัวไปด้วย “วันนี้นายท่านเทรมอนต์จะไม่กลับมารับประทานอาหารเย็นเหมือนกัน ช่วงนี้เขายุ่งมาก ช่างโชคร้ายอะไรอย่างนี้ที่เขาไม่ได้ทานผักที่คุณเลือกด้วยตัวเอง”แอเรียนหน้าแดง “แมรี่… อย่าแกล้งหนู หนูจะออกไปเที่ยวกับทิฟฟ์หลังอาหา
ลิเลียนจ้องมองไปที่ทิฟฟานี่ “แกไม่อยากจะกินอาหารที่แกทำและแกอยากให้ฉันกินเหรอ? รสชาติมันแย่มาก... แกมากินที่ร้านอาหาร แต่แกทิ้งฉันไว้ที่บ้านตามลำพังเนี่ยนะ? เมื่อก่อนฉันคิดถึงแกทุกครั้งที่ฉันกินอะไรดี ๆ หวังว่าแกจะได้กินด้วยกัน แกนี่มันเนรคุณจริง ๆ แอเรียน เธอไม่คิดแบบนั้นเหรอ?”รอยยิ้มที่น่าอึดอัดปรากฏขึ้นบนใบหน้าของแอเรียน “ไม่เป็นไรค่ะ คุณป้าเลน สั่งสิ่งที่คุณต้องการได้เลยค่ะ”ลิเลียนยิ้มออกมาด้วยความพอใจ “แอเรียนมีความเฉลียวฉลาด แต่งงานกับสามีที่ดี ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารและเสื้อผ้า เธอมีแหล่งรายได้ในชีวิต ทิฟฟ์ หัดเรียนรู้จากแอเรียนบ้าง ดูแฟนแต่ละคนที่แกเลือกด้วยตัวแกเอง ฉันโกรธทุกครั้งที่ฉันคิดถึงอีธาน ลืมเหรอว่าเราสูญเสียไปเพราะเขาเท่าไร เป็นยังไงล่ะช่วงวัยรุ่นของแก? สุดท้ายแล้วพวกเราก็ไม่เหลืออะไรเลย”ทิฟฟานี่มีสีหน้าดูไม่สบายใจ “แม่ไม่เคยพูดโดยใช้เหตุผลเลย แม้ว่าตอนนั้นเราจะจน แต่แม่ก็คือคุณเลน ช่วยระวังคำพูดของแม่หน่อยได้ไหม? กินซะ ถ้าแม่อยากกิน แอริเป็นเพื่อนสนิทของหนู หนูไม่อายที่อยู่ต่อหน้าเธอ เธอก็ไม่อายเหมือนกัน อย่างไรก็ตาม หนูหวังว่าจะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก”
ส่วนใหญ่แล้วมาร์คจะสวมสูท นับประสาอะไรกับเสื้อผ้าอื่น ๆ ของเขา เพียงแค่ชุดของเขาคนเดียวก็นับไม่ถ้วนแล้ว หลังจากที่ออกจากห้องเก็บเสื้อผ้าและส่งข้อความหาเอริก แอเรียนได้ยินเสียงฝีเท้าของมาร์คเดินเข้ามา รู้สึกได้ถึงน้ำหนักในการก้าวเดินที่นุ่นนวลและเชื่องช้า หลังจากที่ได้ยินมานานหลายปีมันก็เป็นความคุ้นชินสำหรับเธอไปเสียแล้ว เมื่อมาร์คเข้ามาในห้อง เขาเห็นว่าแอเรียนมองมาที่เขาจากที่บนเตียง เขาซ่อนความอ่อนเพลียบนใบหน้าของเขาและถามขึ้น “ยังตื่นอยู่อีกหรือ? ผมกำลังจะไปอาบน้ำและไปที่ห้องทำงานต่อเพื่อทำงานบางอย่าง พักผ่อนไปก่อนเลย”แอเรียนพยักหน้าและนอนลง ทว่ายังไม่สามารถหลับลงได้ ด้วยตาของเธอจ้องไปที่ประตูห้องน้ำ เมื่อเวลาผ่านไปเสียงน้ำที่ไหลก็หยุดลงและมาร์คก็สวมชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมา“ทำไม่เธอยังไม่หลับอีก?”แอเรียนมองไป “หมู่นี้ทำไมคุณยุ่งจังเลยคะ? คุณยุ่งกว่าปกติด้วยซ้ำ นี่มันวันศุกร์นะคะ และคุณยังทำงานถึงจะดึกแล้วก็ตาม คุณจะทำงานในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ด้วยไหมคะ?”มาร์คจ้องมองเธอด้วยความขบขัน “เธอกำลังบ่นว่าผมไม่มีเวลาอยู่กับเธอด้วยหรือเปล่า? ดูเหมือนว่าก่อนหน้านี้เธอจะดูสบายใจเมื่อผ
ในคฤหาสน์ตระกูลเวสต์ แจ็คสันกำลังรับประทานอาหารอยู่กับซัมเมอร์แม่ของเขา เมื่อโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาไม่รีบร้อนที่จะตรวจดู แต่ซัมเมอร์อดไม่ได้ที่จะเตือนเขา “ลูกชาย จะไม่ดูหน่อยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นที่บริษัทของลูกล่ะ?”ในตอนนั้นเอง แจ็คสันหยิบโทรศัพท์ของเขาขึ้นมา และได้รับการแจ้งเตือนจากอีเมลเป็นจดหมายลาออกของทิฟฟานี่ ตรงหน้าคืออาหารที่น่าอร่อยบนโต๊ะ ความอยากอาหารของเขาหายไปจนหมดสิ้นในทันที เขาไม่ได้ตอบอีเมลกลับเช่นเดียวกัน เพียงแต่ทิ้งโทรศัพท์ของเขาไว้ข้าง ๆ ซัมเมอร์สังเกตท่าทีที่เปลี่ยนไปของลูกชายของเธอ “มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? ลูกยังเด็ก มีหลายอย่างเกี่ยวกับธุรกิจที่ลูกยังไม่รู้เกี่ยวกับมัน ถามแม่ได้นะ มันไม่ใช่เรื่องน่าอายที่ขอคำแนะนำ”แจ็คสันนิ่งเงียบอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่เขาจะพูดขึ้น “พนักงานของผมลาออกครับ แต่ผมไม่ต้องการให้พนักงานคนนี้ลาออก ผมต้องทำอย่างไรครับ?”ซัมเมอร์ไตร่ตรองกับคำถามของแจ็คสันก่อนที่เธอจะตอบ “ก็หาเหตุผลของการลาออก ถ้าพนักงานคนนั้นไม่พอใจกับตำแหน่งหรือเงินเดือน ลูกสามารถเสนอว่าจะเพิ่มหรือบางสิ่งบางอย่าง คนที่ลูกไม่อยากเลิกจ้างต้องเป็นคนที่ค่อนข้างมีความสามารถ
วันเสาร์และวันอาทิตย์ผ่านไปเพียงชั่วพริบตาเดียว ทิฟฟานี่ไม่ได้ไปออฟฟิศในวันจันทร์ เธอสันนิษฐานว่าแจ็คสันไปปาร์ตี้ในช่วงสุดสัปดาห์และไม่เห็นอีเมลของเธอ เขาคงจะตอบเธอกลับมาเมื่อเขามาทำงานในวันจันทร์ ถ้าไม่จำเป็นเธอจะไม่ไปที่ออฟฟิศและเผชิญหน้ากับเขา เมื่อไรก็ตามที่เธอพบกับการจ้องมองของเขา เธอรู้สึกเหมือนอยากจะหนีไป ช่างน่าสับสนจริง ๆ ณ ไบรท์ อินคอร์ปอเรท แจ็คสันที่ทราบถึงสถานการณ์เมื่อเขาเดินผ่านบริเวณที่ทำงานและเห็นโต๊ะทำงานของทิฟฟานี่ว่างอยู่ หลังจากที่เขานั่งลงในห้องทำงานของเขา เขาเปิดคอมพิวเตอร์เพื่ออ่านอีเมลของเธอซ้ำอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็โทรหาเธอ “ตามกฎของบริษัทระบุว่าการยื่นหนังสือลาออกต้องให้พนักงานนำมาด้วยตัวเอง” เขาวางสายทันทีที่พูดจบไม่รอให้เธอตอบกลับมา เขามั่นใจว่าในที่สุดเธอต้องมา สุดท้ายเธอจะไม่ทิ้งเงินเดือนที่ยังไม่ได้จ่ายตามที่คาดไว้ ทิฟฟานี่มาถึงในครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็เคาะประตูของแจ็คสันแจ็คสันหมุนเก้าอี้ของเขาเล็กน้อยขณะที่เขาพูดขึ้น “เข้ามา”ทิฟฟานี่หอบเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอรีบมาที่นี่ “ฉันมาแล้ว มาจัดการเรื่องลาออกค่ะ”แจ็คสัน
ทิฟฟานี่ไตร่ตรองข้อเสนอของแจ็คสัน ถ้าลิเลียนรู้ว่าแจ็คสันยื่นข้อเสนอแบบนี้ให้กับเธอ เธอจะต้องไม่อนุญาตให้เธอลาออก นี่เป็นเครื่องกระตุ้นที่น่าสนใจจริง ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอคิดได้ว่ามันจะเป็นความอึดอัดใจเพราะพวกเขายังคงเจอกันที่ออฟฟิศ ถ้าเธอยังอยู่และข่าวลือที่เคยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ครั้งหนึ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนซ่อนปัญหาเอาไว้ เธอรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเงิน “ขอบคุณ แต่ฉันขอปฏิเสธ” ทิฟฟานี่ตัดสินใจแม้ว่าเธอจะปวดหัวใจ เธอแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่ร้องไห้เพราะเธอ สุดท้ายแล้วเธอต้องการเงินที่ได้มาอย่างสุจริต แจ็คสันเงียบลง เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ตัวตนของเขา เขายื้อพนักงานใหม่ที่ต้องการลาออกด้วยการจ่ายเงินเดือนเพิ่มเป็นสองเท่า นี่มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง เขายังตกใจที่ข้อเสนอของเขาถูกปฏิเสธ เขาไม่ต้องการใช้อำนาจกับเรื่องนี้ แต่เขาอดที่จะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ที่ถูกปฏิเสธ แต่ไม่นานในที่สุดเขาก็พูดขึ้น “ตามที่คุณต้องการ ขอรับเงินเดือนของคุณได้ที่แผนกบัญชีทั่วไป”ทิฟฟานี่ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหยิบจดหมายที่เขาเซ็นและไปที่แผนกดังกล่าวโดยปราศจากความลังเลใด
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง