วันเสาร์และวันอาทิตย์ผ่านไปเพียงชั่วพริบตาเดียว ทิฟฟานี่ไม่ได้ไปออฟฟิศในวันจันทร์ เธอสันนิษฐานว่าแจ็คสันไปปาร์ตี้ในช่วงสุดสัปดาห์และไม่เห็นอีเมลของเธอ เขาคงจะตอบเธอกลับมาเมื่อเขามาทำงานในวันจันทร์ ถ้าไม่จำเป็นเธอจะไม่ไปที่ออฟฟิศและเผชิญหน้ากับเขา เมื่อไรก็ตามที่เธอพบกับการจ้องมองของเขา เธอรู้สึกเหมือนอยากจะหนีไป ช่างน่าสับสนจริง ๆ ณ ไบรท์ อินคอร์ปอเรท แจ็คสันที่ทราบถึงสถานการณ์เมื่อเขาเดินผ่านบริเวณที่ทำงานและเห็นโต๊ะทำงานของทิฟฟานี่ว่างอยู่ หลังจากที่เขานั่งลงในห้องทำงานของเขา เขาเปิดคอมพิวเตอร์เพื่ออ่านอีเมลของเธอซ้ำอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่พิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็โทรหาเธอ “ตามกฎของบริษัทระบุว่าการยื่นหนังสือลาออกต้องให้พนักงานนำมาด้วยตัวเอง” เขาวางสายทันทีที่พูดจบไม่รอให้เธอตอบกลับมา เขามั่นใจว่าในที่สุดเธอต้องมา สุดท้ายเธอจะไม่ทิ้งเงินเดือนที่ยังไม่ได้จ่ายตามที่คาดไว้ ทิฟฟานี่มาถึงในครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอก็เคาะประตูของแจ็คสันแจ็คสันหมุนเก้าอี้ของเขาเล็กน้อยขณะที่เขาพูดขึ้น “เข้ามา”ทิฟฟานี่หอบเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอรีบมาที่นี่ “ฉันมาแล้ว มาจัดการเรื่องลาออกค่ะ”แจ็คสัน
ทิฟฟานี่ไตร่ตรองข้อเสนอของแจ็คสัน ถ้าลิเลียนรู้ว่าแจ็คสันยื่นข้อเสนอแบบนี้ให้กับเธอ เธอจะต้องไม่อนุญาตให้เธอลาออก นี่เป็นเครื่องกระตุ้นที่น่าสนใจจริง ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอคิดได้ว่ามันจะเป็นความอึดอัดใจเพราะพวกเขายังคงเจอกันที่ออฟฟิศ ถ้าเธอยังอยู่และข่าวลือที่เคยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ครั้งหนึ่งทำให้เธอรู้สึกเหมือนซ่อนปัญหาเอาไว้ เธอรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ด้วยเงิน “ขอบคุณ แต่ฉันขอปฏิเสธ” ทิฟฟานี่ตัดสินใจแม้ว่าเธอจะปวดหัวใจ เธอแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของเธอที่ร้องไห้เพราะเธอ สุดท้ายแล้วเธอต้องการเงินที่ได้มาอย่างสุจริต แจ็คสันเงียบลง เขารู้ว่านี่ไม่ใช่ตัวตนของเขา เขายื้อพนักงานใหม่ที่ต้องการลาออกด้วยการจ่ายเงินเดือนเพิ่มเป็นสองเท่า นี่มันเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึง เขายังตกใจที่ข้อเสนอของเขาถูกปฏิเสธ เขาไม่ต้องการใช้อำนาจกับเรื่องนี้ แต่เขาอดที่จะรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ที่ถูกปฏิเสธ แต่ไม่นานในที่สุดเขาก็พูดขึ้น “ตามที่คุณต้องการ ขอรับเงินเดือนของคุณได้ที่แผนกบัญชีทั่วไป”ทิฟฟานี่ถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหยิบจดหมายที่เขาเซ็นและไปที่แผนกดังกล่าวโดยปราศจากความลังเลใด
รอยยิ้มที่แทบจะมองไม่เห็นปรากฏอยู่บนริมฝีปากของแจ็คสัน “แน่นอนครับ ผมจะทำเหมือนกับว่าเธอไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องลาออก ผมจะรักษาคำพูดของผมและเพิ่มเงินเดือนให้เธอเป็นสองเท่า อย่างไรก็ตาม โปรดเก็บเรื่องนี้เอาไว้เป็นความลับเพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”ทิฟฟานี่วางเงินสดที่เธอเพิ่งได้รับจากแผนกบัญชีทั่วไปลงบนโต๊ะทำงานของแจ็คสัน “นี่คือค่าจ้างที่ฉันได้รับไปก่อนหน้านี้”แจ็คสันส่ายหัว “รับมันไป ในเดือนนี้คุณยังต้องรับเงินเดือนของคุณ นี่จะถือว่าเป็นเงินโบนัสประจำปีของคุณ เราจะหักมันออกเมื่อถึงเวลานั้น หยุดงานวันนี้และกลับมาทำงานในวันพรุ่งนี้ ตอนนี้ไปปรับสภาพจิตใจของคุณก่อน”...ช่วงเที่ยง แอเรียนโทรมาหาทิฟฟานี่ “ทำไมเธอถึงไม่มาที่นี่? เธอยังลาออกไม่ได้เหรอ?”ทิฟฟานี่ถอนหายใจออกมา “ชีวิตทั้งชีวิตของฉันยุ่งวุ่นวายเพราะแม่ของฉัน ฉันไม่สามารถไปทำงานกับเธอได้แล้ว ฉันขอโทษนะแอริ...”แอเรียนรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นโดยที่ไม่ต้องให้ทิฟฟานี่เล่ารายละเอียด “ไม่เป็นไร บริษัทของแจ็คสันก็ไม่ได้แย่ไปซะหมดหรอก เธอจะมีโอกาสมากมายที่นั่น ฉันแค่โทรมาถาม ฉันต้องวางสายแล้วถ้าไม่มีปัญหาอะไร” แอเรียนไม่ได้พูดอ
พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าทำไมเธอจึงยังไม่ชินกับการกระทำนี้หลังจากผ่านมาไม่นาน เธอไม่ชอบมันเลย ดังนั้นเธอจึงไม่อยากทำ อย่างไรก็ตามการปฏิเสธของเธอก็ไม่มีประโยชน์มาร์คก้มหน้าของเขาลงและขบริมฝีปากของเธอเบา ๆ เมื่อแอเรียนจำได้ว่าเขาอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ร่างกายของเธอก็เกร็งขึ้น ไม่กล้าขยับอีกต่อไป เธอกลัวว่าเธอจะไปสัมผัสถูกบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ควรโดยไม่ได้ตั้งใจเข้า เธอทำได้เพียงพยายามหลบเลี่ยงจูบของเขา “อย่า...”“เธอไม่ชอบมันเหรอ?” มาร์คหายใจอยู่ใกล้หูของเธอ สร้างความรู้สึกจั๊กจี้ให้กับเธอ“อืม... มันรู้สึกแปลก ๆ” แอเรียนตอบอย่างเปิดเผย“แปลก ๆ ? ยังไง?” เขาค่อย ๆ ถามอย่างอดทน“อืม… ฉันรู้สึกว่าไม่ควรทำแบบนี้ตลอด สำหรับฉัน คุณไม่ใช่ผู้ชายคนหนึ่ง...”หลังจากที่เธอพูดจบประโยค มาร์คแสดงออกมาผ่านทางสีหน้าของเขาราวกับเขาอยากจะฆ่าเธอ เธอรีบพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น! ฉันกำลังพูดว่าตอนนั้นฉันอายุแค่แปดขวบและคุณก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว คุณเป็นเหมือนพี่ชายของฉัน... นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมฉันถึงรู้สึกแปลก ๆ ...”ท่าทางของมาร์คดูหม่นหมองมากยิ่งขึ้นไปอีก “นั่นมันก็นานมาแล้ว เธอ
มันน่ารำคาญจริง ๆ แอเรียนเสียใจกับมันหลังจากที่ส่งข้อความไปแล้ว เธอสนิทกับมาร์คมากพอที่จะพูดคุยเรื่องนี้ได้หรือไม่? พวกเขาดูพวกเขาจะเข้ากันได้ดี แต่พวกเขาก็ยังไปไม่ถึงขั้นนั้น!ในขณะที่เธอวางโทรศัพท์ของเธอลงและกำลังจะไปรับประทานอาหารกลางวัน ทันใดนั้นเองโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น เธอคิดว่าเป็นมาร์คแต่พบว่าเป็นวิลเมื่อเธอหยิบโทรศัพท์ของเธอขึ้นมา เธอไม่ได้ลังเลที่จะรับสาย วิลจะโทรหาเธอเพื่ออะไรเสียงของวิลแหบพร่าดังมาอีกด้านหนึ่งของปลายสาย “แอริ… ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบาย ฉันอยู่ที่ห้อง205 โรงแรมซัมเมอร์ มันใกล้กับออฟฟิศของเธอ เธอจะออกมาสักพักได้ไหม?”ก่อนที่เธอจะทันได้ตอบกลับสายโทรศัพท์ก็ถูกตัดไป แอเรียนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เนื่องจากเป็นช่วงพักกลางวัน เธอพอจะมีเวลาออกไปข้างนอกสักครู่ขณะที่เธอกำลังเดินทาง เธออดรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลไม่ได้ มันเป็นวันที่สองที่เธอมาทำงานในบริษัทใหม่ วิลรู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่นี่? โรงแรมซัมเมอร์ตั้งอยู่ห่างจากไกลด์มากและใกล้กับบริษัทใหม่ของเธอ ด้วยความไม่ใส่ใจเธอคงจะรู้หลังจากที่ได้พบกับวิล เธอจะไม่ถามอะไรมาก มันคงไม่แปลกที่วิลจะ
เมื่อออกไปนอกห้อง มาร์คพูดขึ้นด้วยความเย็นชา “ถ้ารูปไหนที่คุณถ่ายหลุดออกไป คุณคงรู้ว่าผลที่จะตามมาคืออะไร”แอรี่ตกใจมาก มาร์คดูราวกับว่าเขามาจากนรกในขณะนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดจารุนแรงกับเธอแบบนี้ เธอพูดขึ้นด้วยสัญชาตญาณ “อย่ากังวล… ฉันแค่ต้องการเก็บหลักฐานให้คุณ ฉันกังวลว่าเธอจะปอกลอกเงินไปจากคุณเมื่อคุณหย่ากับเธอ ฉันจะไม่ปล่อยมันลงไปในอินเตอร์เน็ต...”เธอรีบลุกขึ้น เธอไม่รู้ว่าอะไรคือความจริงที่เกิดขึ้น เธอตัวสั่นขณะที่สวมเสื้อผ้าของเธอ จากนั้นก็เขย่าตัวของวิลเพื่อปลุกเขาขึ้นมา วิลดูเหมือนสับสนขณะที่เธอทำเช่นนั้น “หื้ม? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้แอริ?”เธอตอบด้วยเสียงสะอื้นว่า “นายโทรหาฉันเมื่อตอนเที่ยงและขอให้มาที่นี่เพราะนานรู้สึกป่วย ประตูถูกแง้มเปิดเอาไว้ดังนั้นฉันจึงเข้ามา ทันทีที่ฉันเข้ามา มีบางคนวางยาฉัน เมื่อฉันตื่นขึ้นมา พวกเราทั้งสองคนก็นอนอยู่ด้วยกันด้วยสภาพที่เปลือยเปล่า นอกจากนั้นมาร์คและแอรี่ยังอยู่ที่นี่อีกด้วย... ฉันไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเกิดอะไรขึ้น...”วิลหน้าซีดลงทันที เขาพลิกผ้าห่มออกเพื่อตรวจดูตัวเองและดูหน้าซีดลงไปอีกเมื่อเขาทำเช่นนั้น "ฉันไม่ได้โทรหาเธ
เมื่อพวกเขามาถึงโรงพยาบาล มาร์คพูดคุยกับแพทย์เกี่ยวกับสิ่งที่แอเรียนจะต้องทำในการตรวจ เธอต้องยินยอมให้ความร่วมมือเท่านั้น เธอรู้สึกประหม่าเป็นอย่างมากเมื่อเธออยู่ในห้องตรวจ การตรวจภายในเป็นเรื่องที่น่าอึดอัดเสมอ เมื่อเครื่องมือเย็น ๆ สอดเข้าไปในตัวเธอ เธอเหงื่อออกจากความเจ็บปวดหลังจากเสร็จสิ้นจากขั้นตอนการตรวจ หมอก็พูดขึ้นอย่างไร้อารมณ์ “เสร็จแล้ว”หลังจากที่เธอใส่กางเกงแล้ว แอเรียนก็รอผลตรวจเงียบ ๆ เธอเหลือบมองไปที่มาร์คและแอรี่ที่นั่งอยู่ด้วยกันบนที่นั่งด้านนอกห้องอย่างไม่รู้ตัว ดูเหมือนเป็นคู่รัก อย่างไรก็ตามมาร์คมีท่าทีเย็นชาอย่างไม่น่าเชื่อประมาณยี่สิบนาทีผ่านไป หมอก็เรียกมาร์คให้เข้าไปข้างใน แอเรียนอยู่ข้าง ๆ พวกเขาด้วย เธอรู้สึกได้ว่ามาร์คจงใจอยู่ห่างจากเธอราวกับว่าเขารังเกียจความสกปรกของเธอ“ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ภายในหนึ่งวัน เห็นได้ชัดเจนว่ามีเลือดออกและบวมบริเวณนี้ อาการบวมค่อนข้างมาก” หมอแจ้งผลตรวจด้วยน้ำเสียงแบบมืออาชีพแอเรียนรู้สึกว่าขาของเธอไม่มีแรง และเธอแทบจะพยุงตัวเอาไว้ไม่ได้ถ้าไม่พิงกำแพงเอาไว้มือของมาร์คกำหมัดแน่นขณะที่เขาถามคำถามออกไป “ช่วยเจาะจงเวลากว่านี
หัวใจของแอรี่ถูกแผดเผาด้วยความหึงหวงเมื่อเธอเห็นมาร์คทำตัวแบบนี้ นี่มาร์คโกรธแอเรียนกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือ? “พี่มาร์คที่รัก คุณไม่ได้รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์คลุมเครือของพี่สาวของฉันกับวิลอยู่แล้วเหรอ? คุณควรจะคาดการณ์เอาไว้ว่าเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้น สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ทำ... แบบที่คุณก็รู้ เมื่อสามปีก่อน ฉันบอกคุณเสมอว่าคุณและพี่สาวของฉันเข้ากันไม่ได้ เธอไม่ได้รักคุณเลยและพร้อมที่จะทรยศคุณ ทำไมคุณถึงไม่ปล่อยเธอไป? ทำไมคุณถึงต้องสร้างปัญหาให้กับตัวเอง?”มาร์คสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเอนหลังพิงพนักเบาะรถ “ใครบอกเรื่องนี้กับคุณ? ทำไมคุณถึงบอกเรื่องนี้กับทุกคนได้?”“ฉันก็ไม่รู้” แอรี่อธิบายอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่รู้เรื่องทั้งหมด ฉันแปลกใจเมื่อฉันได้รับข่าวนี้ ฉันโทรกลับไปอีกครั้ง แต่โทรศัพท์ปิดอยู่ คุณและฉันเราทั้งคู่ก็เห็นมันกับตาของเราใช่ไหม? มีใครสามารถหลอกเรื่องแบบนี้ได้จริง ๆ เหรอ? พี่สาวของฉันเพิ่งจะเริ่มงานที่บริษัทใหม่ของเอริก และเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? รู้สึกเหมือนกับว่ามันถูกวางแผนมานานแล้ว วิลรู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่นั่น ลองคิดดี ๆ สิคะ วิลรู้ว่าเธอทำงานที่ไหนในวันที่สอง
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง