หัวใจของแอรี่ถูกแผดเผาด้วยความหึงหวงเมื่อเธอเห็นมาร์คทำตัวแบบนี้ นี่มาร์คโกรธแอเรียนกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือ? “พี่มาร์คที่รัก คุณไม่ได้รู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์คลุมเครือของพี่สาวของฉันกับวิลอยู่แล้วเหรอ? คุณควรจะคาดการณ์เอาไว้ว่าเรื่องแบบนี้จะต้องเกิดขึ้น สุดท้ายแล้ว พวกเขาก็ทำ... แบบที่คุณก็รู้ เมื่อสามปีก่อน ฉันบอกคุณเสมอว่าคุณและพี่สาวของฉันเข้ากันไม่ได้ เธอไม่ได้รักคุณเลยและพร้อมที่จะทรยศคุณ ทำไมคุณถึงไม่ปล่อยเธอไป? ทำไมคุณถึงต้องสร้างปัญหาให้กับตัวเอง?”มาร์คสูดหายใจเข้าลึก ๆ และเอนหลังพิงพนักเบาะรถ “ใครบอกเรื่องนี้กับคุณ? ทำไมคุณถึงบอกเรื่องนี้กับทุกคนได้?”“ฉันก็ไม่รู้” แอรี่อธิบายอย่างรวดเร็ว “ฉันไม่รู้เรื่องทั้งหมด ฉันแปลกใจเมื่อฉันได้รับข่าวนี้ ฉันโทรกลับไปอีกครั้ง แต่โทรศัพท์ปิดอยู่ คุณและฉันเราทั้งคู่ก็เห็นมันกับตาของเราใช่ไหม? มีใครสามารถหลอกเรื่องแบบนี้ได้จริง ๆ เหรอ? พี่สาวของฉันเพิ่งจะเริ่มงานที่บริษัทใหม่ของเอริก และเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? รู้สึกเหมือนกับว่ามันถูกวางแผนมานานแล้ว วิลรู้ได้อย่างไรว่าเธออยู่ที่นั่น ลองคิดดี ๆ สิคะ วิลรู้ว่าเธอทำงานที่ไหนในวันที่สอง
แอรี่หัวเราะคิกคัก “เธอนี่โง่มาก คราวนี้ไม่ใช่ฉันจริง ๆ ต้องมีคนเห็นเธอและวิลกำลังเข้าไปในโรงแรมด้วยกันและแอบบอกให้ฉันรู้ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าจะจับเธอได้คาหนังคาเขาแบบนี้ เธอดูมีศักดิ์ศรีแค่ผิวเผิน เธอทำให้ฉันอับอายหลังจากที่เธอรู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับมาร์ค เธอไม่ได้เป็นแบบนั้นเหมือนกันเหรอ? ทำไมเธอต้องอวดอ้างด้วย?”แอเรียนพูดอะไรไม่ออก เธอวางสายทันทีและเดินกลับเข้าไปในบ้าน เธอนอนไม่หลับตลอดทั้งคืน และไม่ได้ไปทำงานในวันต่อมา เธอขอหยุดงานกับเอริก เธอต้องครุ่นคิดถึงผลที่จะตามมา มาร์คจะหย่ากับเธอไหม? ที่ผ่านมาการหย่าจะทำให้เธอโล่งอก แต่ตอนนี้เธอไม่ต้องการจบลงแบบนั้น ถ้าเธอต้องจากไป เธอจะจากไปพร้อมกับความภูมิใจราว ๆ สิบโมงเช้า เธอได้ยินเสียงของรถที่ด้านนอกและวิ่งไปดูที่หน้าต่างฝรั่งเศสอย่างไม่รู้ตัว รถของมาร์คกลับมาแล้วในไม่ช้าเขาก็มาถึงที่ชั้นบน แต่ไม่ได้มองมาที่เธอเมื่อเขาเข้ามาภายในห้อง เขาเดินไปที่ห้องเก็บของและเก็บกระเป๋า เธอก้าวไปข้างหน้า ก้มลงและช่วยเขาทำสิ่งที่เขาทำอยู่ อย่างไรก็ตาม เขาเตะกระเป๋าเดินทางอย่างแรง เสื้อผ้าราคาแพงกระจัดกระจายไปทั่วพื้น “อย่าแตะข้าวของของฉัน
รักเหรอ? เขารักเธออย่างนั้นเหรอ?นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินจากปากของเขา หลายคนเคยพูดว่าเขามีความรู้สึกกับเธอก่อน เธอคิดว่ามันไร้สาระมาตลอด ดูเหมือนกับว่ามันจะเป็นเรื่องจริง เธอได้สติในที่สุดเมื่อประตูห้องนอนกระแทกปิดลง เขาไปแล้วโดยนำกระเป๋าเดินทางไปกับเขาด้วย ใครจะไปรู้ว่าเมื่อไรที่เขาจะกลับมา?ในเรื่องที่เขากล่าวอ้างว่าไม่เคยนอนกับแอรี่ มันไม่สำคัญว่าเธอจะเชื่อเขาหรือไม่ เธอคิดเสมอว่าเขามีเซ็กส์กันอยู่แล้ว จากโทรศัพท์ที่โทรมาเมื่อคืนได้ยืนยันเรื่องนั้นเพิ่มขึ้นแล้ว เขาคิดว่าเธอโกหก ใครสามารถบอกได้บ้างว่าเขาไม่ได้ทำแบบนั้นเหมือนกัน?วันต่อมา ระหว่างที่รับประทานอาหารเช้า เธอได้รับข้อความจากวิล “ฉันขอโทษนะแอริ เรื่องนี้คงจะไม่เกิดขึ้นถ้าฉันไม่ย้ายกลับไปที่ประเทศ ครอบครัวของฉันและฉันไปต่างประเทศตอนสองทุ่มคืนนี้ เธอมีเวลาคิดทบทวนระหว่างวันไม่ว่าเธอจะต้องการมากับฉันหรือไม่”การย้ายถิ่นฐานของครอบครัววิลไปยังประเทศอื่นเป็นผลมาจากอิทธิพลของมาร์คอย่างเห็นได้ชัด แอเรียนรู้เรื่องนี้ แต่เธอก็ช่วยอะไรไม่ได้ เธอไม่เคยคิดจะหนี นิ้วเรียวของเธอพิมพ์ข้อความตอบกลับไป “ไม่มีอะไรต้องคิด ฉันจะไม่ไป ฉันหวั
คำถามของเธอทำให้แจ็คสันหัวเราะขึ้นเบา ๆ “หยุดเลย เรียกผมว่าแด๊ดดี้”ทิฟฟานี่กลอกตาของเธอมองไปที่เขา “ฝันไปเถอะ! พูดมาถ้าคุณมีเรื่องสำคัญจะพูด อย่ามากวนฉันขณะที่ฉันกำลังทำงาน”แจ็คสันใช้นิ้วของเขาเคาะโต๊ะกับโต๊ะเป็นจังหวะ เขาหยุดคิดและพูดขึ้น “ส่งข้อความหาแอเรียนและชวนเธอออกไปรับประทานอาหารหลังเลิกงานที่ร้านอาหารของผม ผมเลี้ยงเอง”ทิฟฟานี่รู้สึกสงสัยขึ้นมาในทันที “ทำไมล่ะ? ทำไมคุณถึงเลี้ยงอาหารพวกเราโดยไม่มีเหตุผลที่ดี? คนที่ใจดีโดยไม่มีเหตุผลที่ดีปกติมักจะซ่อนเจตนาที่ชั่วร้ายเอาไว้ คุณพูดตรง ๆ มาเลยดีกว่าไม่งั้นฉันจะไม่ขยับเลยสักนิด!” ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เธอก็กลืนน้ำลายโดยที่ไม่รู้ตัวขณะที่เธอพูด เธอเคยฝันถึงอาหารจานพิเศษที่ไวท์ วอเตอร์ส เบย์ คาเฟ่ หลายครั้ง เธอคงจะกำลังโกหกอยู่ถ้าเธอพูดว่าเธอไม่ได้ต้องการไปรับประทานอาหารที่นั่นแจ็คสันเห็นว่าเธอกลืนน้ำลายอย่างชัดเจน และเขาก็ยิ้มกว้างขึ้น “ผมจะบอกคุณเมื่อพวกเราไปถึงที่นั่น โทรหาเธอเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทิฟฟานี่ลดเสียงของเธอลงและพูดขึ้น “ขอฉันใช้โทรศัพท์ของคุณได้ไหม? โทรศัพท์ของฉันเงินหมดแล้ว...”แจ็คสันถึงกับผงะ เขาไม่สามา
แอเรียนยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น “คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามาร์ครู้ว่าคุณเลี้ยงอาหารฉัน? ฉันมีชู้นะคะ คุณในฐานะที่เป็นเพื่อนกับเขาคุณไม่ควรโกรธฉันด้วยเหรอคะ?”“ไม่มีทาง นั่นเป็นปัญหาระหว่างคุณสองคน ตราบใดที่คุณยังไม่หย่ากัน คุณก็ยังเป็นพี่สะใภ้ของผม คุณจะพูดอะไรก็ตาม จะไม่เกิดขึ้น” แจ็คสันไม่คาดหวังว่าแอเรียนจะพูดตรง ๆ เช่นนี้ทิฟฟานี่ตกตะลึงไปโดยปริยาย “เธอกำลังพูดอะไรอยู่แอริ? มีชู้อะไร? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้? ฉันก็สงสัยว่าทำไมมีท่าทีแปลก ๆ เกิดขึ้นระหว่างคุณสองคน...”แอเรียนรู้ว่าทิฟฟานี่เป็นคนดีมาก เธอจะไม่ยอมถอยจนกว่าจะอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน ดังนั้นเธอจึงเล่ารายละเอียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เธอฟังอีกครั้งหนึ่งทิฟฟานี่ตกใจมาก “เธอโดนใส่ร้ายอย่างเห็นได้ชัด แล้วมาร์คก็ไม่เชื่อเธออย่างนั้นเหรอ?”แอเรียนก้มหน้าลง “มันไม่สำคัญสำหรับเขา อย่างนั้นมั้ง? มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าฉันไปเจอวิลในระหว่างช่วงพักกลางวัน เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าฉันไม่ไป มันเป็นความผิดของฉัน ฉันยอมรับมัน”แจ็คสันพูดขึ้น “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรถึงเรื่องนั้นกันแล้ว ทานอาหารเถอะ จากนั้
ในขณะที่พูดเล่นอยู่นั่นเอง ทิฟฟานี่ก็จ้องมองไปยังร่างที่คุ้นเคยที่เข้าแถวต่อคิวอยู่ที่ด้านหน้าสุดของแถว เธอคิดว่าเธอตาฝาดจึงขยี้ตาเพื่อยืนยันสิ่งที่เห็น เป็นเอธานจริง ๆ ที่กำลังต่อคิวเพื่อซื้อไข่ม้วนสไตล์จีน มากไปกว่านั้นเขามาถึงเร็วกว่าพวกเธอด้วยซ้ำ ตอนนี้เกือบจะถึงคิวของเขาแล้ว!เธออยากจะหลบหน้าและรีบออกไปจากตรงนี้ให้รวดเร็วที่สุด ทว่าเธอก็เรียกความกล้าของเธอที่จะยืนอยู่กับที่เพื่อแอเรียนจะได้ชิมรสชาติที่แสนอร่อยของไข่ม้วนสไตล์จีน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเธอเห็นแถวที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เธอก็ทนไม่ได้จริง ๆ ที่จะยอมแพ้ในเป้าหมายของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เธอรอมานานแสนนานแอเรียนสังเกตเห็นอีธานเหมือนกัน เธอไม่ได้ขี้ขลาดเหมือนทิฟฟานี่ในเรื่องนี้ เธอไม่กลัวที่จะเข้าใกล้อีธานขณะที่เธอพูดขึ้นห้วน ๆ “คุณช่วยซื้อไข่ม้วนสไตล์จีนให้เราสองห่อได้ไหม? แถวมันยาวมาก ขอบใจ!”เอธานตกใจเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นแอเรียน จากนั้นเขาก็หันไปที่ด้านข้างโดยสัญชาตญาณและมองไปที่ทิฟฟานี่ “ได้สิ”แอเรียนไม่ได้รู้สึกว่าเธอหน้าไม่อาย แม้ว่าเธอจะใช้คำพูดที่รุนแรงไปบ้างเมื่อพวกเขาเจอกันล่าสุด แต่นั่นก็เป็นความผิดของ
แอเรียนไม่สามารถทนนิ่งเฉยได้เมื่อเธอได้ยินอาการป่วยของเจ้าข้าวปั้น “ได้ค่ะ หนูจะกลับและไปเก็บเสื้อผ้าของหนูด้วย หนูไม่มีเสื้อใส่ที่บ้านทิฟฟานี่เลย”เธอเปลี่ยนชุดเป็นชุดสีขาวเดรสแขนยาวสีขาวหลังจากวางสายโทรศัพท์ไปก่อนที่จะเรียกรถแท็กซี่ เมื่อเธอถึงบริเวณประตูใหญ่ของคฤหาสน์เทรมอนต์ เธอเห็นว่าบ้านสว่างไสวไปหมด มาร์คอยู่ที่บ้านในตอนนี้ เจ้าข้าวปั้นวิ่งมาหาแอเรียนและถูตัวของมันกับเรียวขาของเธอ มันดูแข็งแรงและดูไม่เหมือนอดอาหารมาหลายวัน มันยังคงอ้วนกลมและไม่เรียบร้อยเหมือนเดิม แมรี่โกหกให้เธอกลับบ้านเพื่อเธอจะได้เจอกับมาร์คเมื่อแอเรียนเดินเข้ามา เห็นรอยยิ้มฝืน ๆ ปรากฏบนใบหน้าของแมรี่ แอเรียนไม่ได้พูดอะไร เธอขึ้นไปยังห้องของเธอที่ชั้นบนเพื่อเก็บเสื้อผ้าของเธอแทนมาร์คยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าหน้าต่างฝรั่งเศส เธอไม่ได้ทักเขา เธอไม่รู้ว่ามีอะไรเหลือให้ดูระหว่างพวกเขาอีกหรือไม่ เธอมีเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนไม่มากนัก ดังนั้นกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียวก็เพียงพอที่จะใส่เสื้อผ้าของเธอทั้งหมด เธอจัดการเก็บสัมภาระของเธอทั้งหมดในครั้งเดียวขณะที่แอเรียนลากกระเป๋าของเธอและอุ้มเจ้าข้าวป
ทิฟฟานี่สางผมด้วยนิ้วของเธอ “มันรู้สึกเหมือน… ย้อนกลับไปเมื่อฉันยังอยู่กับอีธาน ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้จริง ๆ แต่เมื่อฉันเห็นอะไรที่ดูน่าอร่อย ฉันก็คิดที่จะเหลือไว้ให้เขา ฉันจะรู้สึกเป็นห่วงถ้าพบว่าเขาหนาวหรือร้อนเกินไป ฉันจะเป็นห่วงถ้าเขาไม่สบายหรือเขาอารมณ์เสีย ตอนนั้นฉันไม่ได้นึกห่วงตัวเองเลย ในเวลานั้น ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาจะเป็นคนเดียวในชีวิตของฉัน ฉันทำทุกอย่างเพื่อเขาและให้อภัยเขาโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ฉันจะให้อภัยเขาไม่ว่าเขาจะทำให้ฉันเสียใจกี่ครั้งก็ตาม ในวันที่เราเลิกกัน ฉันรู้สึกราวกับว่า… ท้องฟ้ามันถล่มลงทับฉัน เขาอยู่ตรงหน้าฉัน แต่เขาไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป ฉันไม่สามารถกอดเขาหรือรักเขาต่อไปได้ เพราะเขาไม่ได้รักฉันอีกต่อไปแล้ว”แอเรียนเริ่มร้องไห้เมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอไม่เคยมีประสบการณ์กับสิ่งที่ทิฟฟานี่อธิบายมาก่อน ทว่าเธอสามารถเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดที่เธอรู้สึกได้...เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น แอเรียนเตรียมชามอาหารแมวและน้ำสำหรับเจ้าข้าวปั้นก่อนที่เธอและทิฟฟานี่จะไปต่อแถวซื้อไข่ม้วนสไตล์จีน ที่นั่นมีลูกค้าเยอะ สิ่งนี้ช่วยพิสูจน์ว่ามันอร่อยและคนบางส่วนก็มีน้ำใจ
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง