แอเรียนยิ้มออกมาด้วยความขมขื่น “คุณคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้ามาร์ครู้ว่าคุณเลี้ยงอาหารฉัน? ฉันมีชู้นะคะ คุณในฐานะที่เป็นเพื่อนกับเขาคุณไม่ควรโกรธฉันด้วยเหรอคะ?”“ไม่มีทาง นั่นเป็นปัญหาระหว่างคุณสองคน ตราบใดที่คุณยังไม่หย่ากัน คุณก็ยังเป็นพี่สะใภ้ของผม คุณจะพูดอะไรก็ตาม จะไม่เกิดขึ้น” แจ็คสันไม่คาดหวังว่าแอเรียนจะพูดตรง ๆ เช่นนี้ทิฟฟานี่ตกตะลึงไปโดยปริยาย “เธอกำลังพูดอะไรอยู่แอริ? มีชู้อะไร? เกิดอะไรขึ้น? ทำไมฉันไม่รู้เรื่องนี้? ฉันก็สงสัยว่าทำไมมีท่าทีแปลก ๆ เกิดขึ้นระหว่างคุณสองคน...”แอเรียนรู้ว่าทิฟฟานี่เป็นคนดีมาก เธอจะไม่ยอมถอยจนกว่าจะอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน ดังนั้นเธอจึงเล่ารายละเอียดทุกอย่างที่เกิดขึ้นให้เธอฟังอีกครั้งหนึ่งทิฟฟานี่ตกใจมาก “เธอโดนใส่ร้ายอย่างเห็นได้ชัด แล้วมาร์คก็ไม่เชื่อเธออย่างนั้นเหรอ?”แอเรียนก้มหน้าลง “มันไม่สำคัญสำหรับเขา อย่างนั้นมั้ง? มันเป็นเรื่องจริงที่ว่าฉันไปเจอวิลในระหว่างช่วงพักกลางวัน เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าฉันไม่ไป มันเป็นความผิดของฉัน ฉันยอมรับมัน”แจ็คสันพูดขึ้น “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรถึงเรื่องนั้นกันแล้ว ทานอาหารเถอะ จากนั้
ในขณะที่พูดเล่นอยู่นั่นเอง ทิฟฟานี่ก็จ้องมองไปยังร่างที่คุ้นเคยที่เข้าแถวต่อคิวอยู่ที่ด้านหน้าสุดของแถว เธอคิดว่าเธอตาฝาดจึงขยี้ตาเพื่อยืนยันสิ่งที่เห็น เป็นเอธานจริง ๆ ที่กำลังต่อคิวเพื่อซื้อไข่ม้วนสไตล์จีน มากไปกว่านั้นเขามาถึงเร็วกว่าพวกเธอด้วยซ้ำ ตอนนี้เกือบจะถึงคิวของเขาแล้ว!เธออยากจะหลบหน้าและรีบออกไปจากตรงนี้ให้รวดเร็วที่สุด ทว่าเธอก็เรียกความกล้าของเธอที่จะยืนอยู่กับที่เพื่อแอเรียนจะได้ชิมรสชาติที่แสนอร่อยของไข่ม้วนสไตล์จีน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเธอเห็นแถวที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เธอก็ทนไม่ได้จริง ๆ ที่จะยอมแพ้ในเป้าหมายของเธอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เธอรอมานานแสนนานแอเรียนสังเกตเห็นอีธานเหมือนกัน เธอไม่ได้ขี้ขลาดเหมือนทิฟฟานี่ในเรื่องนี้ เธอไม่กลัวที่จะเข้าใกล้อีธานขณะที่เธอพูดขึ้นห้วน ๆ “คุณช่วยซื้อไข่ม้วนสไตล์จีนให้เราสองห่อได้ไหม? แถวมันยาวมาก ขอบใจ!”เอธานตกใจเล็กน้อยเมื่อเขาเห็นแอเรียน จากนั้นเขาก็หันไปที่ด้านข้างโดยสัญชาตญาณและมองไปที่ทิฟฟานี่ “ได้สิ”แอเรียนไม่ได้รู้สึกว่าเธอหน้าไม่อาย แม้ว่าเธอจะใช้คำพูดที่รุนแรงไปบ้างเมื่อพวกเขาเจอกันล่าสุด แต่นั่นก็เป็นความผิดของ
แอเรียนไม่สามารถทนนิ่งเฉยได้เมื่อเธอได้ยินอาการป่วยของเจ้าข้าวปั้น “ได้ค่ะ หนูจะกลับและไปเก็บเสื้อผ้าของหนูด้วย หนูไม่มีเสื้อใส่ที่บ้านทิฟฟานี่เลย”เธอเปลี่ยนชุดเป็นชุดสีขาวเดรสแขนยาวสีขาวหลังจากวางสายโทรศัพท์ไปก่อนที่จะเรียกรถแท็กซี่ เมื่อเธอถึงบริเวณประตูใหญ่ของคฤหาสน์เทรมอนต์ เธอเห็นว่าบ้านสว่างไสวไปหมด มาร์คอยู่ที่บ้านในตอนนี้ เจ้าข้าวปั้นวิ่งมาหาแอเรียนและถูตัวของมันกับเรียวขาของเธอ มันดูแข็งแรงและดูไม่เหมือนอดอาหารมาหลายวัน มันยังคงอ้วนกลมและไม่เรียบร้อยเหมือนเดิม แมรี่โกหกให้เธอกลับบ้านเพื่อเธอจะได้เจอกับมาร์คเมื่อแอเรียนเดินเข้ามา เห็นรอยยิ้มฝืน ๆ ปรากฏบนใบหน้าของแมรี่ แอเรียนไม่ได้พูดอะไร เธอขึ้นไปยังห้องของเธอที่ชั้นบนเพื่อเก็บเสื้อผ้าของเธอแทนมาร์คยังคงนั่งอยู่ที่เก้าอี้หน้าหน้าต่างฝรั่งเศส เธอไม่ได้ทักเขา เธอไม่รู้ว่ามีอะไรเหลือให้ดูระหว่างพวกเขาอีกหรือไม่ เธอมีเสื้อผ้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนไม่มากนัก ดังนั้นกระเป๋าเดินทางเพียงใบเดียวก็เพียงพอที่จะใส่เสื้อผ้าของเธอทั้งหมด เธอจัดการเก็บสัมภาระของเธอทั้งหมดในครั้งเดียวขณะที่แอเรียนลากกระเป๋าของเธอและอุ้มเจ้าข้าวป
ทิฟฟานี่สางผมด้วยนิ้วของเธอ “มันรู้สึกเหมือน… ย้อนกลับไปเมื่อฉันยังอยู่กับอีธาน ฉันไม่สามารถอธิบายความรู้สึกได้จริง ๆ แต่เมื่อฉันเห็นอะไรที่ดูน่าอร่อย ฉันก็คิดที่จะเหลือไว้ให้เขา ฉันจะรู้สึกเป็นห่วงถ้าพบว่าเขาหนาวหรือร้อนเกินไป ฉันจะเป็นห่วงถ้าเขาไม่สบายหรือเขาอารมณ์เสีย ตอนนั้นฉันไม่ได้นึกห่วงตัวเองเลย ในเวลานั้น ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาจะเป็นคนเดียวในชีวิตของฉัน ฉันทำทุกอย่างเพื่อเขาและให้อภัยเขาโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ฉันจะให้อภัยเขาไม่ว่าเขาจะทำให้ฉันเสียใจกี่ครั้งก็ตาม ในวันที่เราเลิกกัน ฉันรู้สึกราวกับว่า… ท้องฟ้ามันถล่มลงทับฉัน เขาอยู่ตรงหน้าฉัน แต่เขาไม่ใช่ของฉันอีกต่อไป ฉันไม่สามารถกอดเขาหรือรักเขาต่อไปได้ เพราะเขาไม่ได้รักฉันอีกต่อไปแล้ว”แอเรียนเริ่มร้องไห้เมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอไม่เคยมีประสบการณ์กับสิ่งที่ทิฟฟานี่อธิบายมาก่อน ทว่าเธอสามารถเข้าใจความรู้สึกเจ็บปวดที่เธอรู้สึกได้...เช้าตรู่ของวันรุ่งขึ้น แอเรียนเตรียมชามอาหารแมวและน้ำสำหรับเจ้าข้าวปั้นก่อนที่เธอและทิฟฟานี่จะไปต่อแถวซื้อไข่ม้วนสไตล์จีน ที่นั่นมีลูกค้าเยอะ สิ่งนี้ช่วยพิสูจน์ว่ามันอร่อยและคนบางส่วนก็มีน้ำใจ
แอเรียนไม่ได้ปฏิเสธทันทีแต่เธอกลับตอบอย่างแนบเนียน “เรา… ค่อยคุยกันเรื่องนี้เมื่อเวลาของมันมาถึง” เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเธอกลับมาที่ห้อง “ทิฟฟ์ แม่เธอเพิ่งจะขอเงินค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ในส่วนของฉันไป เขาบ่นว่าเงินที่เธอให้เขามันน้อยเกินไป”ทิฟฟานี่กรอกตา “อย่าไปสนใจเขาเลย ฉันให้เขาตั้งเยอะ แต่ละเดือนฉันไม่เหลือสักบาท เขาจะเอาอะไรอีก? อีกเรื่อง โทรศัพธ์เธอดังระหว่างที่เธอไปอาบน้ำ ฉันไม่ได้ดู แต่เสียงเหมือนมีข้อความเข้า”แอเรียนเช็ดผมตนเองพร้อมกับหยิบโทรศัพธ์ขึ้นมา มันเป็นข้อความจากแมรี่ “แอริ นายท่านกลับบ้านทุกวันตั้งแต่ที่เธอย้ายออกไป เธอจะไม่กลับบ้านจริง ๆ หรอ? ถ้าเธอจะอาละวาด ก็ทำไปเลย ทำไมต้องถึงกับย้ายออกด้วย? เธอไม่ได้จะหย่ากันสักหน่อย”แอเรียนคิดไตร่ตรองก่อนที่เธอจะตอบกลับ “แมรี่ ได้โปรดหยุดเป็นห่วงความสัมพันธ์ของหนูกับมาร์คสักที เขาไม่ยอมกลับบ้านตอนที่หนูอยู่ แต่พอหนูไม่อยู่เขากลับกลับได้ นั้นก็ทำให้เห็นชัดเจนแล้วว่าเขาไม่ต้องการเจอหนู หนูอยู่ที่บ้านทิฟฟานี่หนูก็สบายดี ไม่ต้องห่วงหนู ข้าวปั้นก็สบายดี หนูจะกลับไปเยี่ยมคุณและลุงเฮนรี่เมื่อหนูมีโอกาสนะ”เมื่อเธอส่งข้อความเ
เมื่อมาถึงที่ห้างสรรพสินค้าแอเรียนก็รู้สึกตื่นตากับสิ่งที่เห็น เธอเลือกซื้อสินค้าราคาถูกและตั้งใจจะไม่ซื้ออะไรแพงเกินไปในทางกลับกันลิเลียนเอ้อระเหยอยู่ที่เคาน์เตอร์ของแบรนด์ใหญ่ ๆ เธอฉวยโอกาสตอนที่ทิฟฟานี่ไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อดึงความสนใจของแอเรียน “แอริ ดูเสื้อผ้าสวย ๆ ตรงนั้นสิ ป้าไม่ได้ซื้อเสื้อผ้าใหม่มาเป็นเวลานานแล้ว ลูกสาวป้าช่างไร้ประโยชน์ เมื่อก่อนป้าเคยตามใจเธอมากแต่ตอนนี้เธอไม่แม้แต่จะซื้อเสื้อผ้าให้ป้าสักชิ้น”แอเรียนขืนใจตัวเองและถามว่า “ถ้าอย่างนั้น ให้หนูซื้อให้ไหมคะ? หนูออกมาจากบ้านเทรมอนต์แล้วดังนั้นหนูต้องเอาชีวิตรอดด้วยตัวเอง หนูจึงมีเงินไม่มาก หนูสามารถซื้อให้ได้แค่ชิ้นเดียว…”“ได้ ได้ ได้” ลิเลียนรีบตอบอย่างรวดเร็ว “แค่ชิ้นเดียว หนูแอริน่ารักที่สุด!”แอเรียนปาดเหงื่อเมื่อเธอเห็นป้ายราคาของกระโปรงที่ลิเลียนเลือกมา วันนี้เธอไม่ได้พกเงินสดมามากนัก ตอนที่มองผ่าน ๆ เนื้อผ้าของกระโปรงสามส่วนนั้นดูเหมือนจะบางมากแต่กลับราคาเกิน 3,000 ดอลลาร์… เสื้อผ้าที่บ้านของเธอไม่มีชิ้นไหนราคาแพงเท่านี้เลย ตอนนี้เธอเห็นอกเห็นใจความรู้สึกของทิฟฟานี่แล้ว การที่มีแม่แบบลิเลียนจะ
แอเรียนส่ายหน้า “หนูไม่อยากเข้าไป หนูอึดอัด คุณเอาไปคืนแทนหนูเถอะ หนูกลับนะ”แมรี่ร้องเรียกอย่างเร่งรีบ “เธอจะทำอะไร? อากาศร้อนมาก ดูสิ หน้าเธอแดงไปหมดแล้ว ผิวเธอจะรับไหวหรอ? อีกอย่าง ถ้าเธอเกิดเป็นลมแดดล่ะ? เป็นลมแดดก็ตายได้นะ! ถึงเธอไม่อยากเจอนายท่านแล้วเธอไม่อยากเจอฉันบ้างหรอ? มาเถอะ ไปนั่งพักห้องฉันก่อน!”หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งแอเรียนก็เดินตามแมรี่ไปที่ห้องพักแม่บ้าน เวลานี้ทุกคนต่างกำลังทำงานอยู่จึงไม่มีใครอยู่ในห้อง แม้ว่าห้องนี้จะอยู่กันสี่คน แต่ก็กลับมีพื้นที่กว้างขวางและมีพร้อมทุกอย่างแม้กระทั่งห้องน้ำและห้องครัวส่วนตัวไม่นานนักแมรี่ก็กลับมาจากด้านบนและคืนบัตรให้กับเธอ “ฉันบอกเธอแล้ว นายท่านไม่ได้ใจแคบขนาดนั้น ท่านไม่ได้อยากได้บัตรคืนเลยบอกให้ฉันคืนมันให้เธอ ท่านบอกว่าให้เก็บเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน” แอเรียนอึ้ง “จริงหรอ? เขาพูดอะไรอีกไหม?”แมรี่ส่ายหน้า “ไม่ ท่านแค่ถามว่าเธอกลับมาแล้วหรอ ฉันก็บอกว่าใช่ เธอกลับมาเพื่อเอาบัตรมาคืน แล้วท่านก็บอกว่าให้เธอเก็บมันเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉิน”แอเรียนคิดไตร่ตรองอยู่พักนึงก่อนที่จะตัดสินใจเก็บบัตรเอาไว้ ตอนนี้เธอต้องเลี้ยงตนเองและม
แอเรียนไม่ได้ต้องการที่จะย้ายออก “ทิฟฟ์ ฉันรู้ว่าเธอหวังดี แต่ที่ฉันย้ายมาที่นี้ก็เพราะว่าฉันไม่ต้องการที่จะอยู่คนเดียว เราทำได้น้า ฉันจะแยกเงินสำหรับข้าวปั้นและค่าใช้จ่ายส่วนตัวของตนเองตอนที่เงินเดือนฉันออก ที่เหลือฉันจะให้เธอเพื่อจ่ายค่าอาหาร ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่น ๆ ทีนี้ถ้าแม่เธอมาขอเงินฉัน ฉันก็จะไม่มีเหลือให้เขาแล้วเพราะเงินของฉันจะอยู่ที่เธอหมด”ทิฟฟานี่ทำได้เพียงตกลง “นั่นคงเป็นทางออกเดียวของเรา อย่าคิดมากนะ เธอไม่ค่อยกินอะไรที่บ้านนอกจากช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ อยู่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องช่วยค่าอาหารหรอก หลังจากที่จ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และอย่างอื่นแล้วฉันจะเก็บส่วนที่เหลือไว้ให้เธอ ฉันจะไม่ใช้มันเด็ดขาด แค่อย่าให้แม่รู้ว่าเรามีเงินก็พอ”พอแอเรียนกำลังจะนอนทิฟฟานี่ก็อุทานขึ้นมา “แอริ ดูนี่สิ มีคนถ่ายรูปเราตอนที่พวกเรากำลังซื้อไข่ม้วน! มีรูปตอนที่พวกเรากำลังกลับบ้านด้วย กำลังเป็นที่ลือกันว่าเธอหย่ากับมาร์คและย้ายออกจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ แล้ว ในข่าวบอกว่าเธอกำลังเช่าที่พักอยู่กับเพื่อน พวกเขาสงสัยว่าเธอไม่เหลือเงินสักบาทและกำลังใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก! อะไรนะ? สื่อพวกนี้น่าขยะแข
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง