แอเรียนไม่ได้ต้องการที่จะย้ายออก “ทิฟฟ์ ฉันรู้ว่าเธอหวังดี แต่ที่ฉันย้ายมาที่นี้ก็เพราะว่าฉันไม่ต้องการที่จะอยู่คนเดียว เราทำได้น้า ฉันจะแยกเงินสำหรับข้าวปั้นและค่าใช้จ่ายส่วนตัวของตนเองตอนที่เงินเดือนฉันออก ที่เหลือฉันจะให้เธอเพื่อจ่ายค่าอาหาร ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และอื่น ๆ ทีนี้ถ้าแม่เธอมาขอเงินฉัน ฉันก็จะไม่มีเหลือให้เขาแล้วเพราะเงินของฉันจะอยู่ที่เธอหมด”ทิฟฟานี่ทำได้เพียงตกลง “นั่นคงเป็นทางออกเดียวของเรา อย่าคิดมากนะ เธอไม่ค่อยกินอะไรที่บ้านนอกจากช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ อยู่แล้ว เธอไม่จำเป็นต้องช่วยค่าอาหารหรอก หลังจากที่จ่ายค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และอย่างอื่นแล้วฉันจะเก็บส่วนที่เหลือไว้ให้เธอ ฉันจะไม่ใช้มันเด็ดขาด แค่อย่าให้แม่รู้ว่าเรามีเงินก็พอ”พอแอเรียนกำลังจะนอนทิฟฟานี่ก็อุทานขึ้นมา “แอริ ดูนี่สิ มีคนถ่ายรูปเราตอนที่พวกเรากำลังซื้อไข่ม้วน! มีรูปตอนที่พวกเรากำลังกลับบ้านด้วย กำลังเป็นที่ลือกันว่าเธอหย่ากับมาร์คและย้ายออกจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ แล้ว ในข่าวบอกว่าเธอกำลังเช่าที่พักอยู่กับเพื่อน พวกเขาสงสัยว่าเธอไม่เหลือเงินสักบาทและกำลังใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก! อะไรนะ? สื่อพวกนี้น่าขยะแข
หลังจากทิฟฟานี่ซื้อที่ตรวจครรภ์มาแอเรียนก็จัดการทำการตรวจทันที ไม่ถึงห้าหน้าทีเธอก็ได้ผลการตรวจเป็น สองขีด เธอยังไม่อยากจะเชื่อจึงตัดสินใจว่าจะตรวจใหม่อีกทีตอนเช้า ช่วงเช้าผลการตรวจจะน่าเชื่อถือกว่าเช้าวันต่อมาแอเรียนก็ต้องพบกับความสิ้นหวัง เธอท้องจริง ๆ เมื่อลองคำนวณเวลาดูแล้วเธอน่าจะท้องได้ประมาณ 3 เดือน เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่าเธอย้ายออกมาจากคฤหาสน์ เทรมอนต์ ได้นานขนาดนั้นแล้ว มันเหมือนไม่ใช่ความจริงหลังจากที่แอเรียนยืนยันผลตรวจ ทิฟฟานี่ก็ถามว่า “แล้วเธอจะเอายังไงต่อ? มาร์คเป็นพ่อของลูกใช่ไหม?”แอเรียนเงียบไปชั่วขณะก่อนที่เธอจะตอบ “วันนั้นฉันและวิลไม่มีสติทั้งคู่ มันเป็นไปไม่ได้ที่เราจะทำอะไรกัน เพราะฉะนั้นก็ต้องเป็นของมาร์คสิ อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีวันเชื่อหรอก เขาไม่เชื่อตั้งแต่ครั้งแรกและเขาจะไม่มีวันเชื่อตอนนี้แน่นอน ฉันโคตรไม่ชอบตอนที่เขาถามฉันด้วยน้ำเสียงอันเย็นชาและไร้ความรู้สึกของเขาคราวที่แล้วว่าใครเป็นพ่อของลูก ฉันไม่ชอบที่เข้าไม่ไว้ใจฉัน ฉันจะเลี้ยงลูกของฉันเอง ฉันจะตั้งใจทำงานและเก็บเงินเพื่อซื้อห้องเล็ก ๆ ที่ชานเมือง ถ้าทุกอย่างล้มเหลว ฉันก็ยังมีแบล็คการ์ดของมาร์คอยู่…”
เมื่อมองไปรอบ ๆ ที่ผู้หญิงตั้งครรภ์กับสามีของพวกเธอ แอเรียนก็รู้สึกเศร้าหมองเล็กน้อย เมื่อถึงคิวของเธอทิฟฟานี่เข้าไปพบหมอกับเธอด้วย หลังจากที่เจาะเลือดและสแกนอัลตร้าซาวด์เสร้จหมอก็ดูผลให้และกล่าวว่า “เด็กมีอายุ 12 สัปดาห์แล้ว และแข็งแรงดี นี่เป็นครั้งแรกที่คุณมาตรวจใช่ไหม? คุณอย่าประมาทนะครับ ลงทะเบียนไว้และกลับมาตรวจให้ตรงเวลาด้วย”ตอนที่พวกเธอออกมาจากโรงพยาบาลก็เลยบ่ายสองแล้วพวกเธอจึงไปที่ร้านอาหารแถว ๆ นั้น ทิฟฟานี่ทานอาหารไปถึงสองจานใหญ่ ๆ เพราะว่าเธอหิวมาก “แค่มาตรวจทำไมมันยุ่งยากวุ่นวายขนาดนี้ ใช้เวลาไปตั้งหนึ่งวันเต็ม ๆ โรงพยาบาลรัฐนี่คนเยอะจริง ๆ เราลองไปหาโรงพยาบาลเอกชนดี ๆ กันไหม? ไม่อย่างนั้นฉันจะต้องทรมานและเธอจะทรมานยิ่งกว่าฉันแน่ ๆ”แอเรียนลูบท้องตนเอง มันยื่นออกมานิดนึงแล้วและเธอรับรู้ได้ถึงแรงกระทบเบา ๆ เธออดไม่ได้ที่จะยิ้ม “ได้ คราวหน้าไปโรงพยาบลเอกชนกัน ฉันรู้จักอยู่ที่นึง”พอมาถึงที่บ้านทิฟฟานี่ก็กระวนวายอีกครั้งเมื่อก้าวขาเข้าประตู “ตั้งแต่เธอท้องข้าวปั้นอยู่ในห้องกับเธอตลอด มันจะเอาเชื้อทอกโซพลาสมามาติดเธอไหม?!”แอเรียนได้คิดเรื่องนี้ไปแล้วเธอจึงตอบว่า “ไม่ต้อง
ลิเลียนตอบรับอย่างง่ายดายและแสดงให้แอเรียนเห็นถึงด้านที่อบอุ่นของเธอ เธอเตือนว่าควรระวังอะไรบ้างและอะไรที่ควรทานระหว่างที่ตั้งครรภ์โดยอิงจากประสบการณ์ของตัวเอง อย่างไรก็ตาม ทิฟฟานี่กล่าวว่าลิเลียนมีประสบการณ์แค่ในเรื่องของการอุ้มท้องและการให้กำเนิด แต่นอกจากนั้นเธอไม่ได้รู้อะไรเลยเพราะว่าอาหารที่เธอกินตอนที่ตั้งครรภ์ถูกจัดเตรียมโดยนักโภชนาการทั้งนั้น เช้าวันต่อมาทิฟฟานี่ลงไปเพื่อต่อคิวซื้อไข่ม้วนเนื่องจากว่าเธอไม่ยอมที่จะให้แอเรียนต้องมายืนต่อคิวทั้ง ๆ ที่ท้องอยู่ สายตาของเธอเหลือบไปมองที่หัวแถวโดยไม่ได้ตั้งใจ เอธานไม่ได้มาแถวนี้นานแล้ว เขาเบื่ออาหารที่แฟนเขาทำให้หรือว่าเป็นแฟนเขาที่เบื่ออาหารเขา? อย่างไรก็ตามเขาคงจะไม่มาอีกแล้วล่ะ...ทิฟฟานี่ส่ายหัวตนเองเมื่อรู้ตัวว่ากำลังคิดไปเลยเถิด ผู้ชายคนนั้นไม่มีค่าพอที่เธอจะต้องนึกถึงอีกต่อไประหว่างที่เธอกำลังซื้ออาหารเช้า แอเรียนก็ออกมาพร้อมกับกระเป๋าสตางค์ของเธอ ทิฟฟานี่ยื่นไข้ม้วนร้อน ๆ ให้ “ฉันขอให้คนขายใส่ไส้เพิ่มด้วย ลองชิมสิ”แอเรียนเหวอ “เธอกำลังพยายามจะสืบว่าลูกเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงหรอ? ฉันยังไม่อยากอาหารเลย ฉันไม่ได้กินเยอะด้วย
เมื่อทิฟฟานี่มีเวลาเธอได้จัดการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสำหรับสุขภาพแม่และเด็กลงบนมือถือของเธอและได้ทำการใส่ข้อมูลปัจจุบันของแอเรียนไป เธอบันทึกทุกอย่างที่เธอต้องจดจำรวมถึงสิ่งที่แอเรียนกินได้และกินไม่ได้ เนื่องจากเธอหมกหมุ่นอยู่กับโทรศัพธ์ของเธอ เธอจึงไม่รู้ตัวเมื่อมีมือใหญ่ ๆ มาเคาะที่โต๊ะเธอ “เมื่อไหร่คุณจะเลิกอู้งานสักที?”ทิฟฟานี่เงยหน้ามองแจ็คสันก่อนที่จะก้มหน้าเล่นโทรศัพธ์ต่อ “ก็ตอนนี้ฉันไม่มีงานให้ทำนิ หรือว่าคุณมีงานอะไรให็ฉันทำ? ถ้ามีฉันจะทำให้ทันทีเลย”เมื่อแจ็คสันเห็นว่าเธอดูตั้งใจทำอะไรสักอย่างบนโทรศัพธ์เขาก็เกิดสงสัยและชายตามอง เขาตะลึงเมื่อเห็นว่ามันเป็นแอพพลิเคชั่นดูแลสุขภาพแม่และเด็ก เขาหลุดปากถามว่า “ใครท้อง?”ทิฟฟานี่สะดุ้ง “ฉัน… ฉันเอง… นี่คุณเป็นแค่หัวหน้า ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวมากไปหน่อยหรอ?”เธอไม่อาจเปิดโปงแอเรียนได้ เพราะว่าถ้าแจ็คสันรู้ก็เท่ากับว่ามาร์ครู้ ด้วยความตื่นตระหนกทำให้เธอไม่ทันหาข้ออ้างที่ดีกว่านี้ได้ จึงยอมดึงความสนใจทั้งหมดมาไว้ที่ตนเองดีกว่าแจ็คสันเงียบลง สีหน้าของเขาไม่บงบอกถึงความรู้สึกอะไรเลย ทิฟฟานี่กระวนกระวายจึงถามไปว่า “มีอะไรหรอ? หรือว่าบร
หัวใจของทิฟฟานี่เต้นเร็วขึ้น ปกติแล้วเธอไม่ได้คบเพื่อนผู้ชายและก็ไม่ได้สนิทกับเพื่อนร่วมงานเท่าไหร่จึงไม่ค่อยมีใครแสดงความเป็นห่วงเป็นใยเธอมากนัก เธอคาดไม่ถึงว่าแจ็คสันจะเชื่อคำโกหกของเธอและยังคิดจะช่วยเหลืออีกด้วย!“ไม่จำเป็นหรอก… ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันจัดการเองได้” ทิฟฟานี่ปฏิเสธด้วยความสุภาพ ทั้ง ๆ ที่เธอไม่ได้ท้องแต่เขากลับเสนอความช่วยเหลือได้ดีมากเลย ถ้าหากว่าเขายังไม่เปลี่ยนเรื่องคุยเธอจะต้องความแตกแน่ ๆ“ยิ่งเอาออกเร็วก็จะยิ่งดีต่อตัวคุณนะ เพราะตอนที่เขาเอาเด็กออกเขาจะต้องดึงมันออกมา เดี๋ยวค่อยว่ากันก็ได้ แต่ต่อจากนี้ไปผมจะทำอาหารกลางวันมาให้คุณ คุณจะต้องไม่ไปกินข้าวที่โรงอาหารอีก อาหารที่นั้นถือว่าใช้ได้แต่อาหารเขาไม่ค่อยมีสารอาหารที่ครบถ้วนเท่าที่ผู้หญิงท้องคนนึงจะต้องการ สำหรับวันนี้เราไปทานที่ร้าน ไวท์ วอเตอร์ส เบย์ แก้ขัดไปก่อน”แจ็คสันสำรวมตนเองระหว่างที่คิดวางแผนให้ทิฟฟานี่ภายในไม่กี่นาทีทิฟฟานี่รู้ตัวว่าหากเธอขืนโกหกต่อเธอจะต้องรู้สึกแย่ลงเรื่อย ๆ และเธอก็ไม่ได้ฉลาดเท่าแจ็คสันเพราะฉะนั้นถ้าเธอยอมรับตอนนี้ว่าจริง ๆ แล้วเธอไม่ได้ท้องเขาจะต้องเค้นเอาความจริงให้ได้แน่ ๆ เธอ
เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงานแจ็คสันได้ส่งข้อความหาทิฟฟานี่ “ผมมีนัดทานข้าวที่ต้องไป เพราะฉะนั้นผมจึงไม่สามารถไปดูแลคุณได้ อย่าลืมนะ ห้ามกินสิ่งต้องห้าม”ทิฟฟานี่งงงวย ทำไมเขาถึงใจดีจัง? อย่างกับว่าลูกเป็นของเขา เนื่อจากทิฟฟานี่ไม่ได้ตอบข้อความนั้นเธอจึงกลับบ้านด้วยความรู้สึกที่รับรู้ได้ถึงความหงุดหงิดของแจ็คสันพอถึงบ้านเธอก็พบกับลิเลียนที่กำลังรับประทายผลไม้บนโซฟา “ทิฟฟ์ แม่ไม่มีเงินเหลือแล้วและน้าเรเน่ก็ชวนแม่ไปเล่นไพ่นกกระจอกคืนนี้ด้วย เอาเงินให้แม่ 300 ดอลลาร์ซิ”“สามร้อย? แม่เอาหนูไปขายเลยไหม? แม่ยังต้องกินอยู่ไหม? ยังเปิดแอร์ด้วย? แม่แพ้ตลอดแต่ก็ยังจะไปเล่น หนูหมดคำจะพูดกับแม่เลยจริง ๆ” ทิฟฟานี่เปลี่ยนร้องเท้าและเดินเข้าห้องตัวเองสีหน้าของลิเลียนเปลี่ยนเมื่อเธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น “ถ้าอย่างนั้นเธอคิดว่ามาร์คจะให้เงินรางวัลฉันไหมถ้าฉันจะไปบอกเขาเรื่องที่แอเรียนท้อง? ถ้าเธอไม่ให้เงินฉัน ฉันก็ต้องจำเป็นที่จะ ‘หา’ เงินเอง ไม่แน่เขาอาจจะตกลงที่จะให้ฉัน 150,000 ดอลลาร์ ก็ได้นะถ้าแลกเปลี่ยนกับข้อมูลที่มีประโยชน์เล็กน้อย ว่าไง?”เมื่อทิฟฟานี่ได้ยินเช่นนั้นเธอก็รีบเดินต่อม ๆ ออกมาจา
แอเรียนพูดไม่ออกขณะเดินไปทำความสะอาด อาหารที่ซื้อกลับบ้านมาสองวันที่แล้วมีกลิ่นที่น่ากลัวราวกับว่ามันเริ่มเน่า การตั้งครรภ์ทำให้เธอไวต่อกลิ่นมากขึ้น เธอจึงไม่อาจหักห้ามตนเองไม่ให้คลื่นไส้อาเจียนได้ เมื่อลิเลียนตระหนักถึงสถานการณ์เธอก็อุทานว่า “ป้าลืมไปว่าหนูท้อง! ปล่อยมันไว้ เดี๋ยวป้าเก็บเอง หนูไปล้างตัวแล้วไปพักผ่อนซะ! หนูอยากกินอะไรไหม? เดี๋ยวป้าสั่งมาให้!”แอเรียนส่ายหัวพร้อมกลั้นหายใจและเก็บขยะออกจากโต๊ะกาแฟ “คุณป้าเลน ทิฟฟ์ก็เหนื่อยจากงานเหมือนกัน คุณป้าไม่ควรสร้างภาระให้เธอด้วยงานเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้ ทั้ง ๆ ที่คุณป้าสามารถจัดการมันเองได้ งานอื่น ๆ เช่นถูพื้นหรือทำความสะอาดบ้านค่อยทำในช่วงสุดสัปดาห์ก็ได้”ลิเลียนพยักหน้าเห็นด้วยแต่สายตาของเธอจับจ้องไปที่โทรทัศน์ทำให้เห็นได้ชัดว่าเธอเพียงแค่ตอบกลับลวก ๆ ไปอย่างนั้นแอเรียนไม่อยากพูดอะไรอีก จึงยิบเสื้อผ้าแล้วตัดสินใจที่จะไปอาบน้ำวันนี้เธอเลิกงานค่อนข้างเร็ว แต่ก็ยังรู้สึกอ่อนเพลียอยู่ดี สิ่งที่เธออยากทำก็คือการนอนหลับให้เต็มอิ่ม แต่เธอกลับหิวมากกว่า ในตัวเธอไม่เหลือพลังงานแม้แต่หยดเดียวเมื่อเธอออกจากห้องน้ำลิเลียนก็ยื่นจานที
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง