แอเรียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่เธอจะกล่าวว่า "ตอนที่ฉันโกรธเคืองหลังจากแท้งลูก ฉันพูดในสิ่งที่ฉันไม่ควรพูด และบอกให้โลกรู้ว่าฉันนอกใจเขา... เขาไม่รังเกียจ มีตัวอย่างอื่น ๆ อีกมากมาย นั่นเพียงพอแล้วสำหรับฉัน มันไม่ได้แย่ขนาดนั้น วิล ฉันทำสบายดีจริง ๆ ความเจ็บปวดเพียงอย่างเดียวของฉันคือฉันเป็นลูกสาวของคนบาปและฉันเป็นหนี้บุญคุณเทรมอนน์ อันที่จริงมาร์คตอบสนองความต้องการด้านวัตถุทั้งหมดของฉันและเขาก็เป็นประเภทของฉันเช่นกัน ความเกลียดชังไม่ใช่สิ่งเดียวที่มีอยู่ระหว่างเรา เราใช้เวลาร่วมกันมากว่าสิบปี มันเป็นมากกว่าความรัก พวกเราคือครอบครัว มันไม่ได้แย่ขนาดนั้นจริง ๆ”เมื่อได้ยินคำพูดของแอเรียน ประกายในแววตาของวิลก็หรี่ลงอย่างเห็นได้ชัด “เป็นอย่างนั้นเหรอ? นั่นเป็นเรื่องที่ดีถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ฉันหวังว่าเขาจะไม่ทำให้เธอผิดหวังนะ...”แอเรียนไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไป เธอจึงพูดว่า “อืม… ฉันต้องไปแล้ว พักผ่อนให้ดีล่ะ”วิลพยักหน้า “โอเค"เมื่อแอเรียนอยู่ที่ประตู ทันใดนั้น วิลก็ตะโกนออกมา “แอริ!”แอเรียนหยุดอยู่ตรงทางเดินของเธอ แต่ไม่ได้หันกลับไปน้ำตาที่เธอเคยกลั้นไว้กำลังเอ่อและร่วงลง“จำไว้
มาร์คเย้ยหยัน “ฮะ แค่เพื่อนเหรอ? เพื่อน ๆ สามารถนอนด้วยกันได้ตามที่ใจต้องการงั้นเหรอ?”ลมหายใจของแอเรียนติดอยู่ในลำคอ “กรุณาอย่าพูดอย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามมันก็ผ่านไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องจมอยู่กับมัน ฉันก็ไม่ได้เอะใจว่าคุณนอนกับแอรี่ คินซีย์”เขาหัวเราะเบา ๆ ก่อนที่จะพูดอย่างเย็นชา “เธอรู้ได้อย่างไรว่าฉันเคยนอนกับเธอ? อย่างไรก็ตาม ทุกคนรู้เกี่ยวกับเธอและวิล ซีวาน ถ้าฉันตั้งใจจะทำกับมันจริง เธอคงไม่ได้เจอมันนานแล้ว เป็นเพราะฉันไม่สนใจว่าเธอจะสามารถไปเยี่ยมมันที่โรงพยาบาลได้ เข้าใจไหม? นอกจากนี้ เธอไม่สนใจว่าฉันจะนอนกับใครใช่ไหม?”ไม่ต้องสนใจและไม่มีปัญหาแอเรียนครุ่นคิดถึงคำพูดของเขาและสงสัยว่าเธอสนหรือไม่ ตอนที่เธอได้ยินเสียงที่น่ารักที่เขาและแอรี่ทำในโรงแรมเธอก็หนีไปด้วยความตื่นตระหนก เธอรู้สึกว่างเปล่าและอารมณ์ของเธอก็เปลี่ยนไปมาอย่างรุนแรงอย่างไม่มีเหตุผล เธอไม่สนใจเหรอ? เธอไม่ได้รักเขา แต่การทรยศคือการทรยศ ไม่มีใครสามารถทนต่อการทรยศหักหลังทั้งเขาและเธอ“อย่างไรก็ตาม มันเป็นความเข้าใจผิด ขึ้นอยู่กับคุณว่าจะเชื่อหรือไม่แค่นั้นแหล่ะ” แอเรียนกล่าวอย่างอ่อนแรง ครั้งแรกของเธอได้
มือของมาร์คบีบคางของแอเรียนขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้าและมองเธอด้วยสีหน้าเยาะเย้ย "ฉัน... ไม่เคยเห็นเธอเป็นครอบครัว แม้ตอนที่เธอยังเป็นเด็ก และฉันก็ยังไม่ลืมเรื่องการแก้แค้นของฉัน ทุกครั้งที่ฉันเห็นเธอฉันรู้สึกอยากจะฆ่าเธอ ตอนที่เธอเข้าสู่วัยแรกรุ่นฉันก็รู้ทันทีว่าเธอโตแล้ว เติบโตง่ายขึ้นในสายตาของฉัน เธอเข้าใจที่ฉันหมายถึงไหม? ฉันรอให้เธออายุครบสิบแปดก่อน ฉันจะเอาเธอ แต่วิล ซีวาน เอาเธอไปจากฉัน สิ่งที่เป็นของฉันมันสกปรกไปแล้ว เธอคิดว่าฉันจะทำอะไร?” เขาพูดต่อไปว่า “เธอโง่ขนาดถึงขั้นที่คิดว่าฉันเป็นครอบครัวได้ยังไง? ฉันคือคนที่รอเอาชีวิตเธอต่างหาก ตอนนี้ฉันแค่ให้เธอเป็นของเล่นของฉันเท่านั้นแหละ ทำไมเธอถึงคิดว่าฉันห้ามไม่ให้เธอมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นเหรอ? เป็นเพราะเธอเป็นสมบัติของฉันเหมือนสิ่งของยังไงล่ะ ฉันไม่ชอบให้คนอื่นสัมผัสเธอ ฉันไม่ได้รักเธอและฉันจะไม่มีวัน ฉันไม่สนหรอกถ้าเธอไม่รักฉัน หยุดพูดถึงวิธีที่ฉันดูแลเธอมาสิบปีสักทีเถอะ มันไม่สนุกแบบนั้น”แอเรียนรู้สึกราวกับว่าเธอกำลังมองไปที่คนแปลกหน้าขณะที่เธอมองไปที่ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ เขาพูดคำหยาบเหล่านั้นจริง ๆเหรอ? เธอเคยคิดว
แอเรียนอย่างไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง “เขาเป็นแบบนั้นกับฉันมาตลอด บางครั้งฉันอิจฉาพวกคุณที่ได้รับความอ่อนโยนของเขา ฉันอยู่กับเขามากว่าสิบปีแล้ว แต่ฉันไม่เคย... ”นีน่าไม่ได้มีเจตนาที่จะแกล้งเธอ แต่อย่างใด แต่เธอกลับรู้สึกเห็นใจ “จากความเข้าใจในอดีตของฉันที่มีต่อเขา ฉันคิดว่าเขาแค่พูดคำเหล่านั้นออกมาด้วยความโกรธเท่านั้น ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณทั้งคู่ แต่ตามสัญชาตญาณผู้หญิงของฉัน ฉันไม่คิดว่าเขาเป็นคนซื่อสัตย์ เริ่มแรกฉันก็ไม่เชื่อว่าเขาชอบคุณ ฉันคิดว่าคุณบังคับเขาให้แต่งงานกับคุณโดยแกล้งท้องและใช้กลอุบายอะไรก็ตามเหมือนในละคร แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว เขายืนยันที่จะแต่งงานกับคุณไม่ใช่เหรอ?”แอเรียนไม่เข้าใจคำพูดของนีน่า “คุณหมายถึงอะไร? หลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด คุณยังคิดว่าเรามีความสัมพันธ์กันบางอย่างอีกเหรอ”นีน่าเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ถูกแต่งแต้มไปด้วยดวงดาว เธอครุ่นคิดถึงคำพูดของเธอก่อนที่เธอจะพูดในที่สุดว่า “อย่าบอกนะว่าคุณคิดว่าเขาดูแลคุณและแต่งงานกับคุณเพียงเพื่อแก้แค้นน่ะ? ถ้าเขาต้องการแก้แค้นจริง ๆ ก็มีสิ่งที่แย่กว่านั้นที่เขาทำได้ เขาจะไม่ยอมเสียเวลาทั้งชีวิตกับคุณเพียงเพ
นีน่ายักไหล่ “ถ้าฉันไม่ได้ยินคำพูดของเขาก่อนหน้านี้และเห็นว่าเขาบ้าดีเดือดเพราะคุณในวันนี้ ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาชอบคุณ ถ้าเขาไม่ทำฉันก็จะสู้เพื่อให้ได้โอกาส อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มันต่างออกไป ฉันไม่เคยชอบที่จะแย่งคนรักของใครมาก่อน”“คุณเป็นคนที่น่าทึ่งมากที่สามารถเปลี่ยนผู้ชายที่อ่อนโยนและแสนดีให้กลายเป็นปีศาจได้ ฉันขอยกนิ้วให้เลย”ทันใดนั้นเอง แมรี่ก็ปรากฏตัวขึ้น “โอ้ สาว ๆ พูดคุยกับอยู่ที่นี่! มาทานผลไม้กันเถอะนะ” ตั้งแต่ที่เธอได้ยินคำพูดของนีน่า มันดูเหมือนว่าอคติที่เธอมีต่อนีน่าก็หายไปด้วยนีน่ารู้สึกได้ถึงพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของแมรี่เช่นกันและรับผลไม้ไปด้วยความยินดี “แน่นอน วางไว้ตรงนี้เลยแมรี่”แมรี่วางผลไม้ลงและมองไปที่แอเรียน “แอริ นายท่านโกรธมาก ทำไมคุณถึงไม่... ไม่เป็นไร มันเสียเวลาเปล่าที่จะพูดกับคุณ ทั้งคุณและนายท่านต่างดื้อรั้นเกินไป ในเรื่องนี้คุณทั้งคู่เหมือนกันมากจริง ๆ !”แอเรียนก้มศีรษะของเธอลงและเงียบเสียง เมื่อเธอถูกนีน่าป้อนลูกพีชให้หนึ่งชิ้น ไม่ค่อยคุ้นเคยที่ถูกป้อน การแสดงออกของเธอแข็งกระด้างเมื่อเธอกล่าวขอบคุณนีน่าด้วยรอยยิ้มนีน่ายิ้มกว้าง “แอเรียน ฉันน่า
แอเรียนแสร้งทำเป็นเหมือนว่าเธอไม่ได้ยินอะไรเลยและเดินเข้าไป “คุณนาธาเนียล เป็นอย่างไรบ้างคะ?”แม้ว่าเอริกจะยังสงบสติอารมณ์ของเขา แต่เขาก็ไม่ยิ้มและไม่สามารถปิดบังได้ว่าเขากำลังอารมณ์เสียมากแค่ไหน“เอ่อ... กรุณาไปที่ออฟฟิศของมาร์ค มีสัญญาหลายฉบับที่ต้องการให้เขาเซ็น พวกเราต้องการทำสัญญาอย่างเร่งด่วน เราจะต้องทำงานล่วงเวลาในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม เพราะสุขภาพของคุณไม่ดี คุณไม่ต้องทำงานล่วงเวลา การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นอย่างฉุกเฉิน ใครจะไปรู้ว่าในเร็ว ๆ นี้ ผมจะไม่ได้ดูแลบริษัทนี้แล้ว ผมต้องทำทุกอย่างให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะเสร็จสิ้นก่อนที่จะเกิดขึ้น”แอเรียนพยักหน้าและรับเอกสารก่อนที่เธอจะกลับไปที่โต๊ะทำงาน หลังจากเก็บของเสร็จเธอก็มุ่งหน้าลงไปที่ชั้นล่างและเรียกแท็กซี่ไปที่อาคารเทรมอนต์เมื่อเข้าไปในอาคารได้แล้วและขึ้นไปที่ชั้นสี่สิบหก เธอจึงถอดรองเท้าและเดินบนพื้นด้วยเท้าเปล่า แอลลี่เลขาของมาร์คให้เธอรอด้านนอก “กรุณารอก่อนค่ะ ฉันจะไปรายงานว่าคุณมา”หลังจากนั้นไม่นานแอลลี่ก็ได้รับอนุญาตจากมาร์ค “เชิญเข้าไปค่ะ”เมื่อแอเรียนเดินเข้าไป มาร์คกำลังก้มลงเขียนอะไรบางอย่าง การจดจ่อของเ
แอเรียนโทรกลับไปที่บ้านและแจ้งให้แมรี่ทราบว่าเธอจะไม่กลับบ้านเพื่อรับประทานอาหารเย็นเนื่องจากเธอทำงานล่วงเวลา แมรี่บ่นเธอ เป็นห่วงว่าร่างกายของเธอจะไม่สามารถทนต่อการทำงานหนักได้ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเมื่อเอริกออกมาจากห้องเพื่อมาชงชาให้กับตัวเองราว ๆ สองทุ่ม เขาก็ต้องผงะเมื่อเห็นว่าแอเรียนยังอยู่ “ทำไมคุณยังไม่กลับบ้าน?”แอเรียนตอบอย่างเฉยเมย “ฉันนั่งอยู่ที่นี่ทั้งวัน มันไม่ใช่งานของฉันที่ทำให้ฉันลำบากกาย มันไม่เหนื่อยเลย ฉันสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ถ้าฉันรู้สึกไม่สบายฉันจะกลับไปเอง ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”เอริกยังคงกังวล “ตอนนี้สองทุ่มแล้วนะ เราจะอยู่จนถึงสามทุ่มครึ่ง ดังนั้นคุณควรกลับไปได้แล้ว มันไม่เป็นไร”แอเรียนเหลือบมองไปที่เขาก่อนที่เธอจะปิดคอมพิวเตอร์และเก็บข้าวของของเธอโดยไม่พูดอะไร ด้วยความเป็นผู้ชาย เอริกมีทิฐิมาก แม้ว่าเธอจะได้ยินบทสนทนาของเขาก่อนหน้านี้ แต่เธอก็ไม่สามารถปลอบเขาได้ตรง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นปัญหาครอบครัวของเขา ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรจะไปยุ่งเกือบสามทุ่มแล้วเมื่อแอเรียนกลับมาถึง คฤหาสน์เทรมอนต์สว่างไสว มาร์คต้องอยู่บ้าน ขณะที่เธอเข้าไปในบ้านเจ้าข้าวปั้
ทิฟฟานี่ดูประหม่าเล็กน้อยขณะที่เธอแตะแก้มด้วยความงุนงง “จริงเหรอ? ก็ช่วยไม่ได้... ถ้าฉันไม่ทำงานพาร์ทไทม์ ฉันจะไม่สามารถเลี้ยงดูแม่ของฉันด้วยเงินเดือนที่ไม่มากนัก เอาล่ะ อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย มันทำให้ฉันรู้สึกแย่”เมื่อเวลาแปดโมง เอริกเข้ามาในออฟฟิศ ทิฟฟานี่รีบทักทายเขาพร้อมกับสัญญาในมือ “ช่วยเซ็นมันให้ฉันทีค่ะ! ฉันต้องนำมันกลับไปส่งให้แจ็คสันที่ออฟฟิศก่อนเก้าโมง!”เอริกตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อทิฟฟานี่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เขาล้วงกระเป๋าของเขาแต่ก็ไม่พบปากกาเมื่อเห็นเช่นนั้น ทิฟฟานี่ก็ยื่นปากกาให้เขาอย่างรวดเร็วจากโต๊ะทำงานของแอเรียน “เร็วเข้า เร็ว!”ทันทีที่เซ็นสัญญาเสร็จทิฟฟานี่ก็หายไปราวกับสายลมเอริกยังคงงุนงง “แอเรียน... เธอให้ผมเซ็นสัญญาอะไร? ผมไม่มีเวลาอ่านด้วยซ้ำ ผมหวังว่ามันจะไม่ย้อนกลับมาแว้งกัดผม..."แอเรียนหัวเราะออกมา “เอาล่ะ เป็นไปได้เหรอ? นั่นจากแจ็คสัน เวสต์ค่ะ คุณสามารถพบเขาได้ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ฉันจะไปทำงานแล้ว คุณก็ควรจะไปทำงานด้วย”...ที่ออฟฟิศสำนักงานใหญ่ของตระกูลเวสต์ ไบรท์ อินคอร์ปอเรท ทิฟฟานี่หอบอย่างหนักขณะที่ส่งสัญญาให้แจ็คสัน เธอเกือบจะตา
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง