แอเรียนโทรกลับไปที่บ้านและแจ้งให้แมรี่ทราบว่าเธอจะไม่กลับบ้านเพื่อรับประทานอาหารเย็นเนื่องจากเธอทำงานล่วงเวลา แมรี่บ่นเธอ เป็นห่วงว่าร่างกายของเธอจะไม่สามารถทนต่อการทำงานหนักได้ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเมื่อเอริกออกมาจากห้องเพื่อมาชงชาให้กับตัวเองราว ๆ สองทุ่ม เขาก็ต้องผงะเมื่อเห็นว่าแอเรียนยังอยู่ “ทำไมคุณยังไม่กลับบ้าน?”แอเรียนตอบอย่างเฉยเมย “ฉันนั่งอยู่ที่นี่ทั้งวัน มันไม่ใช่งานของฉันที่ทำให้ฉันลำบากกาย มันไม่เหนื่อยเลย ฉันสามารถจัดการเรื่องนี้ได้ ถ้าฉันรู้สึกไม่สบายฉันจะกลับไปเอง ไม่ต้องเป็นห่วงฉัน”เอริกยังคงกังวล “ตอนนี้สองทุ่มแล้วนะ เราจะอยู่จนถึงสามทุ่มครึ่ง ดังนั้นคุณควรกลับไปได้แล้ว มันไม่เป็นไร”แอเรียนเหลือบมองไปที่เขาก่อนที่เธอจะปิดคอมพิวเตอร์และเก็บข้าวของของเธอโดยไม่พูดอะไร ด้วยความเป็นผู้ชาย เอริกมีทิฐิมาก แม้ว่าเธอจะได้ยินบทสนทนาของเขาก่อนหน้านี้ แต่เธอก็ไม่สามารถปลอบเขาได้ตรง ๆ ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นปัญหาครอบครัวของเขา ไม่ใช่สิ่งที่เธอควรจะไปยุ่งเกือบสามทุ่มแล้วเมื่อแอเรียนกลับมาถึง คฤหาสน์เทรมอนต์สว่างไสว มาร์คต้องอยู่บ้าน ขณะที่เธอเข้าไปในบ้านเจ้าข้าวปั้
ทิฟฟานี่ดูประหม่าเล็กน้อยขณะที่เธอแตะแก้มด้วยความงุนงง “จริงเหรอ? ก็ช่วยไม่ได้... ถ้าฉันไม่ทำงานพาร์ทไทม์ ฉันจะไม่สามารถเลี้ยงดูแม่ของฉันด้วยเงินเดือนที่ไม่มากนัก เอาล่ะ อย่าพูดถึงเรื่องนี้เลย มันทำให้ฉันรู้สึกแย่”เมื่อเวลาแปดโมง เอริกเข้ามาในออฟฟิศ ทิฟฟานี่รีบทักทายเขาพร้อมกับสัญญาในมือ “ช่วยเซ็นมันให้ฉันทีค่ะ! ฉันต้องนำมันกลับไปส่งให้แจ็คสันที่ออฟฟิศก่อนเก้าโมง!”เอริกตกใจอย่างเห็นได้ชัดเมื่อทิฟฟานี่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน เขาล้วงกระเป๋าของเขาแต่ก็ไม่พบปากกาเมื่อเห็นเช่นนั้น ทิฟฟานี่ก็ยื่นปากกาให้เขาอย่างรวดเร็วจากโต๊ะทำงานของแอเรียน “เร็วเข้า เร็ว!”ทันทีที่เซ็นสัญญาเสร็จทิฟฟานี่ก็หายไปราวกับสายลมเอริกยังคงงุนงง “แอเรียน... เธอให้ผมเซ็นสัญญาอะไร? ผมไม่มีเวลาอ่านด้วยซ้ำ ผมหวังว่ามันจะไม่ย้อนกลับมาแว้งกัดผม..."แอเรียนหัวเราะออกมา “เอาล่ะ เป็นไปได้เหรอ? นั่นจากแจ็คสัน เวสต์ค่ะ คุณสามารถพบเขาได้ถ้ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ฉันจะไปทำงานแล้ว คุณก็ควรจะไปทำงานด้วย”...ที่ออฟฟิศสำนักงานใหญ่ของตระกูลเวสต์ ไบรท์ อินคอร์ปอเรท ทิฟฟานี่หอบอย่างหนักขณะที่ส่งสัญญาให้แจ็คสัน เธอเกือบจะตา
ทิฟฟานี่ก้มหน้าลงเพราะกลัวว่าจะมีใครสังเกตเห็น “ไม่ต้อง ฉันกำลังจะไปที่อื่นเพราะฉันยังมีอย่างอื่นต้องทำ คุณไปก่อนได้เลย”แจ็คสันไม่ได้ตาบอดหรือเป็นคนโง่ ผู้หญิงโดยปกติแล้วจะถือเพียงกระเป๋าถือที่ใหญ่พอจะใส่โทรศัพท์และเครื่องสำอางบางอย่าง อย่างไรก็ตามทิฟฟานี่ได้นำกระเป๋าเสื้อผ้าสีดำมาทำงานเมื่อไม่นานมานี้ และเห็นได้ชัดว่ามันไม่ใช่ของที่เธอเพิ่งซื้อมา เขาค่อนข้างสงสัยว่าเธอไปไหนต่อหลังจากที่เลิกงาน เขาปฏิบัติตาม แต่ขอให้คนขับหยุดที่สี่แยก เขาเฝ้าดูขณะที่ทิฟฟานี่ขึ้นรถแท็กซี่ และสั่งให้คนขับขับตามพวกเขา คนขับงงนิดหน่อย “คุณผู้ชายครับ วันนี้คุณจะไม่กลับไปทานอาหารกับมาดามเหรอครับ? คุณจะไปไหน? เรากำลังไปช้า...”แจ็คสันขมวดคิ้ว “แจ้งคุณแม่ของผมว่าวันนี้ผมจะไม่กลับไปทานอาหารเย็น ผมมีอย่างอื่นต้องทำ” เขาติดตามทิฟฟานี่ไปตลอดทางจนกระทั่งเห็นรถแท็กซี่จอดอยู่หน้าไนต์คลับแห่งหนึ่งหลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งเขาจึงขอให้คนขับหยุดรถและเข้าไปในไนต์คลับคนเดียว ไนต์คลับแห่งนี้เปิดทำการเร็วกว่าที่อื่น ๆ และมีแขกไม่มากนักในชั่วโมงนี้ เป็นพนักงานที่เดินไปมาเสียส่วนใหญ่ นอกเหนือจากพนักงานและผู้จัดการฝ่ายป
ชายคนนั้นเงียบ ทิฟฟานี่ก่นด่าภายในใจ ทำไมเขาถึงทำตัวห่างเหินเมื่อมาสถานที่แบบนี้เพื่อหาความสนุกสนาน? เธอยังใหม่สำหรับงานนี้ ตอนนี้บรรยากาศเริ่มอึดอัดเธอไม่รู้ว่าเธอควรจะทำอย่างไรเธอนึกถึงคำสอนของมาดามในสถานที่แห่งนี้และเดาว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเธอคงจะชอบคนที่น่าหลงใหลและขี้เล่น เมื่อนึกถึงกระเป๋าสตางค์ที่ว่างเปล่าของเธอและเงิน1,200 ดอลล่าร์ที่ลิเลียนเพิ่งใช้ไปเมื่อเช้านี้ เธอกัดฟันและบังคับตัวเองให้เข้าไปจับแขนของชายคนนั้น “ทำไมถึงเงียบจังเลยคะ? ฉันขอโทษ ฉันเพิ่งเริ่มงานที่นี่ ฉันยังเอาใจแขกไม่เก่งนัก คุณอยากเรียกสาว ๆ อีกสองสามคนมาที่นี่เพื่อมาสนุกด้วยกันไหมคะ?”อย่างไรก็ตามทิฟฟานี่ตื่นตระหนกเมื่อชายคนนั้นคว้ามือที่เธอวางไว้ที่แผ่นอกของเขา เธอทำอะไรออกนอกลู่นอกทางหรือ? อย่างไรก็ตามในพริบตา ชายคนนั้นก็ปล่อยมือของเธอและพูดว่า “คุณเงินไม่พอใช้จริง ๆ หรือ?”ทิฟฟานี่เริ่มคิด เธอไม่คาดคิดว่าผู้ชายคนนี้จะเป็นแจ็คสัน เวสต์ เขาตามเธอมาที่นี่เหรอ? หรือเขาบังเอิญมาที่นี่เพื่อผ่อยคลาย? เธออยากจะเปิดไฟจริง ๆ ทว่ามันจะมีแต่ทำให้สิ่งต่าง ๆ น่าอึดอัดมากขึ้น ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจที่จะลืมมั
เสียงของทิฟฟานี่แผ่วเบาในตอนท้ายเพื่อที่จะกลั้นน้ำตาของเธอ เธอจึงรินไวน์ให้ตัวเองหนึ่งแก้วและดื่มมันทั้งหมดในคราวเดียว โชคดีที่เธอไม่ใช่คนที่ไม่เคยดื่มไวน์และแอลกอฮอล์มาก่อน ความสามารถในการดื่มเหล้าของเธอ อย่างน้อยก็ทำให้เธอได้ทำงานในสถานที่แบบนี้แจ็คสันรู้สึกว่าคืนนี้เขาอารมณ์อ่อนไหวเล็กน้อย เขาหายใจเข้าลึก ๆ และเปล่งเสียงเบา ๆ “คุณสามารถทำเหมือนผมเป็นคนแปลกหน้าและบอกอะไรก็ตามที่คุณต้องการทิฟฟานี่ดื่มไวน์ที่แจ็คสันจ่ายเงินให้ในขณะที่เธอพึมพำ “เอาล่ะ ฉันจะบอกคุณถ้าคุณต้องการฟังมัน เป็นความจริงที่ว่าตอนนี้ครอบครัวของฉันไม่จำเป็นต่องจ่ายหนี้อีกต่อไป แต่ฉันก็ยังยากจนมากอยู่ หลังจากแฟนเก่าของฉันเลิกกับฉัน เขาก็คืนเงินทั้งหมดที่ฉันใช้ไปกับเขาตอนที่เราคบกัน มันเกือบ 300,000 ดอลล่าร์ นั่นเป็นเงินจำนวนมากสำหรับฉัน ฉันหวังว่าจะเก็บเงินให้เพียงพอสักวันหนึ่งและซื้อบ้านในทำเลที่ดี แต่แม่ของฉันใช้เงินนั้นหมดในชั่วพริบตา”“แม่ของฉันไม่เคยเจอกับความยากลำบากใด ๆ ในชีวิตของเธอ และเธอเคยใช้ชีวิตที่ฟุ่มเฟือย ฉันเหนื่อยมากกับการทำงานทุกวันและฉันยังต้องทำอาหารให้เธอ ซักผ้าและทำความสะอาดบ้าน ฉันเหนื่อย
ทิฟฟานี่เอาแต่คิดว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงช่วยเธอ? เธอลุกขึ้นยืนและรู้สึกว่าโลกหมุนรอบตัวเธอทันที เธอต้องดื่มมากเกินไปและมีอาการเวียนหัว แจ็คสันรับเธอเอาไว้ได้ทันเวลา ทิฟฟานี่รู้สึกถึงฝ่ามือนุ่ม ๆ ของเขา และพิงเขาโดยไม่ได้ตั้งใจ แจ็คสันรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่กดลงบนแผ่นอกของเขาเบา ๆ กลิ่นหอมโชยเข้าจมูกของเขาเขาถอดเสื้อโค้ทของเขาออกในทันทีและใช้คลุมรอบตัวของทิฟฟานี่เอาไว้ ตอนนี้เขารู้แล้วว่ามีอะไรอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าสีดำที่เธอนำไปทำงานทุกวัน มันเป็นชุดที่เธอใส่ตอนนี้ มันออกแบบค่อนข้างโดดเด่นและเปิดเผยมากพวกเขาออกไปข้างนอกและเมื่อลมหนาวพัดมา ทิฟฟานี่เดินโซซัดโซเซไปตามข้างถนนและถอยหลัง แจ็คสันส่งทิชชู่ให้กับเธอ “คุณสบายดีหรือเปล่า? ผมเห็นคุณจัดการกับวอดก้าเพียว ๆ ขวดใหญ่ คุณต้องรู้สึกแย่จริง ๆ ตอนนี้...”แม้ว่าทิฟฟานี่จะเวียนหัว แต่เธอก็ไม่ได้หูหนวก “ทำไมคุณไม่บอกฉันก่อนล่ะ? ฉันไม่เคยดื่มแอลกอฮอล์แบบเพียว ๆ!“แจ็คสันรู้สึกถูกกล่าวหาแบบผิด ๆ ในตอนนั้นเขารีบไปหาเธอ เขาจึงสั่งแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แบบสุ่มไป ใครจะไปคิดว่าทิฟฟานี่จะดื่มไปมากขนาดนั้น? เมื่อพวกเขาเข้าไปในรถ
เอริกรู้สึกทึ่ง เมื่อสังเกตเห็นว่ามาร์คไล่ตามเขา ทั้งคู่เริ่มแข่งกันจนกระทั่งแยกทางกันที่สี่แยก ถึงอย่างนั้นมาร์คก็ไม่ได้ชะลอ หัวใจของแอเรียนเต้นอย่างบ้าคลั่งขณะที่เธอเกาะเข็มขัดนิรภัยเพื่อรักษาชีวิตที่รักของเธอ “คุณทำอะไร? ฉันกลัว...! ถนนค่อนข้างมืดและลื่น คุณช่วยชะลอได้ไหม?”มาร์คกระแทกเบรกขณะที่รถแล่นมาถึงย่านที่พักอาศัยสุดหรู ในชั่วโมงนี้มีรถไม่มากนักและไม่มีตำรวจคนใดออกใบสั่งให้ที่นี่ แอเรียนลูบหน้าอกของเธอเป็นเวลานานเพื่อปลอบให้ตัวเองสงบลง “ทำไมคุณถึงตัดสินใจมารับฉันคะ? ฉันกลับเองได้...”“กลับเองเหรอ? คุณหมายถึงให้เอริกไปส่งคุณที่บ้านแทนใช่ไหม?” มีความหึงหวงในน้ำเสียงของเขา“ฉันมักจะนั่งแท็กซี่กลับบ้านด้วยตัวเอง เอริกให้ฉันนั่งรถในวันที่ฉันทำงานล่วงเวลาเท่านั้น เกิดอะไรขึ้น? คุณสามารถบอกฉันได้ตรง ๆ ว่าฉันทำให้คุณไม่พอใจด้วยเหตุผลอะไร อย่าใช้วิธีการที่รุนแรงแบบนี้เพื่อทำให้ฉันตกใจ มันอันตรายจริง ๆ นะคะ...” แอเรียนรู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมของเขาในตอนนี้ “คุณไม่ได้รับอนุญาตให้ยิ้มให้ผู้ชายคนอื่น” เมื่อมาร์คพูดเช่นนั้น ใบหน้าของเขาก็หันหนีไปทางหน้าต่างแอเรียนที่ไม่สามารถเห็นการ
นีน่าเห็นว่าเธอรีบวิ่งลงบันไดด้วยใบหน้าแดงก่ำและหยอกล้อเธอด้วยการยิ้มเยาะ “ดูเหมือนมาร์คจะตื่นเต้นเกินไป... มันไม่นานนักที่คุณทำหน้าที่...”แอเรียนอายมากจนอยากจะตาย “คุณพูดเรื่องอะไร...? นั่นไม่ใช่... ฉันเหนื่อย ฉันแค่กำลังจะไปอาบน้ำและนอน”แมรี่จ้องมองนีน่า “อย่ายุ่งเรื่องของคนอื่นคุณผู้หญิง! คุณไม่อายตัวเองเหรอ? สนใจเรื่องของคุณดีกว่า!”นีน่าไม่เห็นด้วยกันเธอ “พวกเราเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้ว คุณกังวลเรื่องอะไร? เมื่อพิจารณาถึงความตึงเครียดเรื่องบนเตียงระหว่างพวกเขาก่อนหน้านี้ ฉันคิดว่าพวกเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ดูเหมือนฉันจะตื่นเต้นไปหมดซะทุกอย่าง พวกเขาทั้งคู่มักจะดูเหมือนว่า “ไม่มีความต้องการทางเพศ” คุณไม่สงสัยเหมือนกันหรือว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาจะพัฒนาได้อย่างไร?”“เหมือนคุณจะไม่รู้ว่านายหญิงสุขภาพไม่ดี นายท่านเข้าใจเรื่องนี้ของเธอ คุณเป็นคนเดียวที่คาดเดาอะไรได้ยากที่นี่ ฉันคิดว่าคุณคงเบื่อจนสติแตก” แมรี่สลัดเธอออกแอเรียนฟังบทสนทนาของแมรี่และนีน่าในห้องน้ำ เธอรู้สึกอายเกินกว่าที่ใครจะเห็นได้ในตอนนี้ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของมาร์ค ทำไมเขาต้องลากเธอขึ้นไปชั้นบนแบบนั้นทันทีที่พวกเขา
แน่นอนว่าแอเรียนจะไม่กล้าอุ้มเพลโตอีกเนื่องจากเธอกลัวว่าลูกชายของเธอจะอิจฉาเมื่อแอเรียนบอกให้ทิฟฟานี่ตั้งชื่อเล่นให้เพลโต ทิฟฟานี่ก็ส่ายหัว “ผู้ชายจำเป็นต้องมีชื่อเล่นด้วยเหรอ? ถ้าสมอร์โตไปเป็นหนุ่มหล่อ มันจะไม่ตลกเหรอถ้าเราจะเรียกเขาว่าสมอร์? พวกสาว ๆ ที่ชอบเขาจะต้องหัวเราะจนน้ำตาไหลแน่นอน ชื่อเล่นจะน่ารักแค่ตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ”แอเรียนเบะปาก “เธอแค่ขี้เกียจที่จะคิดชื่อ ถูกไหม? เธอเลยอ้างเหตุผลทั้งหมดนี้ ชื่อเล่นเขาก็มีไว้เรียกเฉพาะตอนที่ยังเด็กเท่านั้นแหละ ใครเขาจะเรียกชื่อเล่นกันตอนโตล่ะ?”เมื่อพวกเธอกำลังคุยกันอยู่ อยู่ ๆ แจ็คสันก็โทรมา “คุณขับรถไปหาแอเรียนกับเพลโตคนเดียวเลยเหรอ? คุณไม่รู้จักฝีมือการขับรถตัวเองเลยเหรอ? ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะทำยังไง? คุณน่าจะขอให้คนขับรถของแม่ไปส่งคุณแทน”ทิฟฟานี่หงุดหงิดมาก “นี่คุณคงอยากให้อะไรเกิดขึ้นกับฉันมากสินะ? ฉันมาถึงแล้ว แค่นั้นยังไม่ดีพออีกเหรอ? ฉันแค่ถอยรถไม่เก่งแค่นั้นเอง ถ้าฉันขับเดินหน้าอย่างเดียวจะมีอะไรร้ายแรงเกิดขึ้นได้บ้าง? คุณทำงานของคุณต่อไปเถอะค่ะ”ทิฟฟานี่อาจจะหงุดหงิด แต่จริง ๆ แล้วเธอก็แอบดีใจ อารมณ์ของเธอชัดเจนมากแม้ก
เมื่อเมลานีทานอาหารเสร็จและพวกเขาออกจากบ้าน อเลฮานโดรก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันทีที่พวกเขาขึ้นรถเมลานีเห็นดังนั้นจึงถามเขาว่า “โล่งอกใช่ไหมล่ะ? ฉันบอกแล้วว่าไม่ต้องมา แต่คุณไม่ฟังฉันเอง ฉันเองยังเบื่อพ่อแม่ตัวเองเลย”อเลฮานโดรเงียบโดยไม่ตอบอะไร เขาตื่นเช้ามากและยังคงง่วงนอนอยู่ เขาจึงหลับตาลงและพักสายตาเมลานีเริ่มไม่สบายใจ อเลฮานโดรรู้เรื่องที่เธอแอบติดต่อกับทิฟฟานี่หรือเปล่า? เขาน่าจะ… ไม่รู้เรื่องหรอก ถูกไหม? ไม่อย่างนั้นเขาน่าจะโวยวายไปแล้วแทนที่จะนิ่งสงบแบบนี้ เธอเลยคิดว่าเธอน่าจะบอกเขาก่อนที่เขาจะรู้ด้วยตนเองหลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่เธอก็พูดว่า “ฉันติดต่อกับทิฟฟานี่อยู่”ร่างกายของอเลฮานโดรแข็งทื่อโดยไม่รู้ตัว “แล้ว?”เธอคิดถูกแล้วจริง ๆ อเลฮานโดรจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อมันเป็นเรื่องของทิฟฟานี่ แต่นอกจากนั้นเขาจะเมินทุกคำพูดของเธอ เมลานีแอบไม่พอใจ แต่ไม่แสดงให้เขาเห็น “คุณไม่โกรธเหรอ?”อเลฮานโดรลืมตาและมองหน้าเธอ “ทำไมผมจะต้องโกรธด้วย? ยังไงคุณก็ไม่ทำอะไรเธออยู่แล้ว”เมลานีพูดไม่ออก เขามั่นใจขนาดนั้นเลยเหรอว่าเธอจะไม่ทำอะไรทิฟฟานี่? เธอคิดมาเสมอว่าเธอไม่รู้จักอเลฮานโด
อเลฮานโดรรู้ตัวดีว่ามันเป็นเพียงความคิดตามสัญชาตญาณผู้ชายของเขาและไม่มีสิ่งอื่นใดหลังจากนั้นไม่นานหนังตาของเมลานีก็เริ่มหนัก อาจจะเป็นเพราะความเงียบสนิทที่เปรียบดั่งเพลงกล่อมนอนอย่างดี บวกกับครรภ์ของเธอที่ทำให้เธอง่วงเหนื่อยง่ายขึ้น ตอนแรกเธอคิดว่าเธอจะไม่สามารถนอนหลับได้เพราะอเลฮานโดรด้วยซ้ำ…ขณะที่เธอกำลังหาพลิกตัวหาท่านอนที่สบายด้วยความงัวเงีย อยู่ ๆ อเลฮานโดรก็พูดขึ้นมาว่า “หยุดขยับไปขยับมาสักที”เมลานีที่กำลังจะผล็อยหลับตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงของเขาที่ดังขึ้นอย่างกะทันหัน เธอเริ่มรู้สึกรำคาญและเหวี่ยงใส่เขา “นี่มันบ้านของฉันและเตียงของฉัน ทำไมฉันจะขยับตัวไม่ได้? นี่คุณอย่าหาเรื่องโดยไม่มีเหตุผลได้ไหม?”เธอไม่ทันรู้ตัวว่าเธอเผลอไปโดนขาของเขาขณะที่เธอพลิกตัวไปมา ทันใดนั้นอเลฮานโดรก็ขึ้นคร่อมเธอโดยที่แขนแต่ละข้างของเขาอยู่ข้างตัวเธอเมลานีตกใจและหันหน้าหนีทันที “คุณจะทำอะไร? ลงไปเลยนะ!”กำปั้นของเธอเล็กมาก มันไม่เพียงแต่ไม่สามารถทำให้อเลฮานโดรเจ็บได้ แต่การกระทำของเธอยังทำให้เขามีอารมณ์มากขึ้นอีกด้วย “ผมบอกให้คุณเลิกขยับไง คุณจะไม่ฟังผมใช่ไหม?”เมลานีไม่กล้าที่จะขยับตัวอีกและ
ในความเป็นจริงแล้วอเลฮานโดรกลับรู้สึกสบายใจโดยไม่รู้เหตุผลเมื่อเข้ามาในห้องของเธอ “คุณสบายดีไหม?”เมลานีตะลึงเล็กน้อย “ฉันบอกคุณแล้วว่าคุณไม่ต้องแสดงหรอก ที่นี่ไม่มีใครสักหน่อย แล้วคุณจะแกล้งทำทำไม? ฉันไม่ฟ้องคุณปู่หรอก เพราะฉะนั้นพรุ่งนี้คุณกลับไปเลยก็ได้ ฉันอยู่ที่นี่แล้วสบายดี”อเลฮานโดรไม่สนใจสิ่งที่เมลานนีพูดและเรียกหาเจตต์ผู้ซึ่งนำทุกอย่างที่อเลฮานโดรได้ซื้อให้เธอเข้ามาให้ โต๊ะเครื่องแป้งของเธอเต็มไปด้วยข้าวของมากมายในไม่ช้าหัวใจของเมลานีเริ่มละลายแต่เธอบังคับให้ตัวเองสงบนิ่งต่อไปเมื่อเธอพูดว่า “ขอบคุณสำหรับน้ำใจของคุณนะคะ แต่ฉันขอไม่รับของพวกนี้ดีกว่า เพราะฉันรู้ว่าคุณไม่ได้ให้มันด้วยความเต็มใจ”เจตต์ไม่ต้องการรู้เห็นเกี่ยวกับการทะเลาะของพวกเขา เขาจึงออกไปจากห้องเมื่อวางของเสร็จแล้วอเลฮานโดรพูดนิ่ง ๆ ว่า “ถ้าคุณไม่อยากได้นก็ทิ้งไปสิ เครื่องสำอางพวกนี้ไม่ได้แพงขนาดนั้น พวกเครื่องประดับก็ราคาแค่สองสามแสนดอลลาร์ เพราะฉะนั้นคุณจะทำอะไรกับพวกมันก็แล้วแต่คุณเลย ในเมื่อคุณไม่อยากเห็นหน้าผม ผมกลับวันพรุ่งนี้ก็ได้ นอนเถอะ ผมจะไปอาบน้ำก่อน”เมื่อเมลานีเห็นเขาเดินเข้าไปในห้องน้ำเธอ
ทิฟฟานี่ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าสีหน้าของแจ็คสันเยือกเย็น แววตาของเขาเปล่งประกายด้วยความตื่นตระหนก เธอไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรไป “เป็นอะไรเหรอ? ทำไมมองฉันแบบนั้นล่ะ?”มันเหมือนกับว่าเขาเปลี่ยนเป็นคนละคนไปเลย แม้แต่น้ำเสียงของเขาก็เยือกเย็น “เขาแต่งงานเพื่อความสะดวกแบบนั้น คุณยังจะเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเขาจะมีความรู้สึกให้เมลานี ลาร์คจริง ๆ ? คุณคิดไปเองทั้งหมด ผมบอกคุณแล้วว่าห้ามไปเจอเขา ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจยิ่งห้ามแล้วใหญ่ คราวหน้าก็หลีกเลี่ยงเขาซะนะ!”ท่าทีที่เปลี่ยนไปกะทันหันของเขาทำให้ทิฟฟานี่ตกใจกลัว เธอกลืนน้ำลายและไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรแจ็คสันรีบอาบน้ำให้เสร็จและออกไปโดยปล่อยเธอไว้คนเดียวในห้องน้ำ เธอรู้สึกว่างเปล่าทันที ทุกอย่างกำลังไปได้ดีจนกระทั่งเธอพูดถึงอเลฮานโดรและทุกอย่างกลายมาเป็นแบบนี้… แจ็คสันหนีไปที่ห้องทำงานของเขาหลังจากที่ออกมาจากห้องน้ำเพื่อแอบดูดบุหรี่อย่างต่อเนื่องโดยที่ทิฟฟานี่ไม่รู้ นิ้วที่เขาถือบุหรี่สั่นไม่หยุด เขากลัวเกินกว่าที่จะคิดถึงปฏิกิริยาของทิฟฟานี่เมื่อเธอต้องรู้ว่าจริง ๆ แล้วอเลฮ
ขณะที่เขากำลังหาสวิตช์เปิดไฟบนกำแพงเพื่อที่จะเปิดไฟทิฟฟานี่ก็หยุดเขาเอาไว้ “ไม่! ฉันชอบแบบปิดไฟมากกว่า ฉันอายนิดหน่อยน่ะ”เขารู้ดีว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ เธอกลัวว่ารอยแตกของเธอจะทำให้เขาหมดอารมณ์ เขายิ้มและจุ๊บหน้าผากเธอ “ไม่เอาน่า ปกติคุณไม่ขี้อายนี่ ผมไม่ยักรู้ว่าคุณจะอายเป็นด้วยซ้ำ ผมไม่มีวันที่จะหมดอารมณ์กับคุณหรอก คุณได้รอยแตกเหล่านั้นมาเพราะคุณอุ้มท้องลูกของผม พวกมันเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศของคุณนะ”ทิฟฟานี่เชื่อคำพูดของเขา เขามีลิ้นที่กะล่อนที่ช่วยให้เขาสามารถถ่ายทอดคำพูดเหล่านั้นอย่างราบรื่นได้จริง ๆแจ็คสันเปิดไฟเมื่อเธอกำลังเหม่อลอยในห้วงความคิดทิฟฟานี่รีบหยิบผ้าห่มมาคลุมตัวเองทันทีที่ไฟสว่างขึ้น “โธ่ อะไรเนี่ย! ฉันไม่อยากเปิดไฟ ขอเวลาฉันปรับตัวหน่อยสิคะ!”เขายิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เมินคำบ่นของเธอและคว้าแขนเธอเพื่อหยุดเธอจากการดิ้นหนี…เธอลืมหายใจเมื่อเขาจับคางของเธอ สายตาเธอเริ่มพร่ามัวหมอนใบหนึ่งนอนอยู่บนพื้นหน้าเตียงราวกับว่ามันรับความป่าเถื่อนของพวกเขาไม่ได้...หลังจากที่เสร็จภารกิจแล้ว ทิฟฟานี่ก็ขดตัวในอ้อมแขนของแจ็คสันและวาดวงกลมบนแขนของเขาแจ็คสันจับมือของเธ
”หยุดทำไมล่ะคะ?” แอเรียนถาม “เล่นต่อสิ”“เธอก็มาผลักสิ ไม่อย่างนั้นก็มานั่งกับสมอร์” มาร์คชักชวนแอเรียนเคยตกชิงช้าเมื่อตอนที่เธอยังเด็ก เธอจึงหวาดกลัว “ไม่ ๆ ไม่ คุณเล่นกับเขาเลย เดี๋ยวฉันผลักให้ ขาคุณก็ออกจะยาว คุณน่าจะแกว่งตัวเองได้สบาย ไม่เห็นจะต้องพึ่งฉันเลย แล้วคุณจะขอให้ฉันผลักทำไม?”เขาเลิกคิ้วหนึ่งข้างและตอบว่า “เพื่อที่เธอจะได้มีส่วมร่วมด้วยแทนที่จะยืนเหม่อลอยอยู่ยังไงล่ะ…”มีบางอย่างผิดปกติในคำพูดของเขา…แอเรียนยอมแพ้และเดินไปข้างหลังพวกเขา เธอวางมือบนหลังเขาและออกแรงผลักแอริสโตเติลจะส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเป็นครั้งคราว ดูเหมือนว่าแอริสโตเติลไม่ได้มีความสุขได้เฉพาะเวลาที่เล่นกับเจนิซ เพียงแต่ว่าเวลาที่แอเรียนเล่นกับเขาเธอมักจะเล่นแบบนิ่ม ๆ และเงียบ ๆ เพราะเขาคือลูกคนแรกของเธอและมันเป็นครั้งแรกที่เธอต้องเล่นกับเด็กทารก เพราะฉะนั้นยังมีอีกหลายอย่างที่เธอยังต้องเรียนรู้อีก...ในขณะเดียวกันที่ไวท์ วอเตอร์ เบย์ วิลล่าหลังจากที่ทานข้าวกันเสร็จแจ็คสันก็กำลังล้างจานในห้องครัวตามปกติ ทิฟฟานี่สามารถจ้องเขาในชุดผ้ากันเปื้อนได้ทั้งวัน เธอไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากยืนพิงกำแพงในห้
หลังจากนั้นไม่นาน อเลฮานโดรและเจตต์ก็เดินออกมาจากห้างสรรพสินค้าและขึ้นรถไปอเลฮานโดรจ้องกองสินค้าสำหรับผู้หญิงข้าง ๆ เขา ระหว่างคิ้วของเขาแอบมีร่องรอยของความไม่พอใจเจตต์มองเขาผ่านกระจกมองหลัง “ท่านครับ อย่าปล่อยให้เรื่องอื่นเบี่ยงเบนความตั้งใจของท่านเลยครับ ท่านตัดสินใจที่จะไปเยี่ยมนายหญิงที่อายาเช่แล้ว” เขาเตือนเบา ๆ “ดอน สมิธจะไม่มีวันมอบสมบัติของตระกูลสมิธให้ท่านถ้าท่านลงมือในตอนนี้”อเลฮานโดรมองออกไปนอกหน้าต่างและตอบอย่างใจเย็นว่า “รู้แล้ว”เขาคงจะไม่ได้ออกมาซื้อของในวันนี้หากดอน สมิธไม่ได้กดดันเขา เขายังต้องเหนื่อยซื้อของมากมายให้เมลานีอีกด้วย เขาไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอแอเรียนและทิฟฟานี่ที่นี่เหมือนกัน ดูจากสีหน้าของแอเรียนแล้ว มาร์คคงจะบอกเธอทุกอย่างแล้วเขาได้ต้นไม้นั้นมาจากคนอื่นอีกที มันเป็นสายพันธุ์ที่หายากจากนาฟาเอธ เขาต้องลำบากอย่างมากเพื่อที่จะนำมันกลับเข้ามาในประเทศ และไม่มีใครรู้เลยว่ามันจะออกดอกเมื่อไหร่ ถ้ามันได้รับการดูแลอย่างพิถีพิถัน มันคงจะออกดอกในไม่ช้า ตอนแรกเขาตั้งใจว่าเขาจะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเขากับทิฟฟานี่เมื่อต้นไม้นั้นออกดอก แต่น่าเสียดายที่การเปลี่ย
หลังจากที่คุยกันนานพอสมควร ในที่สุดทิฟฟานี่ก็จำได้ว่าเธอมาที่นี่เพื่อซื้อเครื่องสำอางกับแอเรียน เธอหันไปหาแอเรียนและพบกับสีหน้าที่แปลกไปบนใบหน้าของแอเรียน “แอริ เป็นอะไรเหรอ?” เธอถามด้วยความสงสัย “ทำไมดึงหน้าแบบนั้นล่ะ? เธอโอเครึเปล่า?”แอเรียนหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนที่จะตอบว่า “ไม่ ฉันรู้สึกเหนื่อย ๆ นิดหน่อย ฉันไม่อยากช้อปปิ้งแล้ว ไปกันเถอะ”ทิฟฟานี่เอื้อมมือไปจับหน้าผากของแอเรียน “เพราะโรคเลือดจางของเธอรึเปล่า? เธอดูซูบ ๆ นะ ไว้ฉันจะบอกให้มาร์คขุนเธอให้อ้วน แต่ไหน ๆ เราก็มาถึงที่นี่แล้ว ทำไมไม่ซื้อของของเธอเลยล่ะ? เหลือแค่ต้องจ่ายเงินเอง ไม่นานขนาดนั้นหรอก ไปนั่งก่อนไหม? เดี๋ยวฉันจ่ายให้”อเลฮานโดรหันมามองแอเรียน แววตาของเขาแฝงไปด้วยการยั่ยยุ ทั้งคู่ต่างตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีแอเรียนกลบเกลื่อนความโกรธของเธอและหาม้านั่ง เธอหวังเพียงว่าทิฟฟานี่จะเร่งรีบซื้อเครื่องสำอางเพื่อที่พวกเธอจะได้รีบออกไปจากที่นี่ ทุก ๆ วินาทีที่อยู่กับอเลฮานโดรถือเป็นความเสี่ยง“ทิฟฟานี่ ต้นไม้ที่ผมให้คุณออกดอกหรือยังครับ?” อเลฮานโดรจงใจถามถึงต้นไม้ในกระถาง ทิฟฟานี่ยื่นบัตรเครดิตของเธอให้พนักงานคิดเง