แม้ว่าจะเป็นปรมาจารย์ระดับมหากาฬแล้ว แต่คุณยายอสรพิษก็ไม่สามารถระงับเหตุการณ์ความไม่สงบได้ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอเดินทางไปเมืองหลวงเพื่อตามหาหนิงชิงเสว่หลังจากเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วหนิงชิงเสว่ก็ลังเลใจ“พี่เจ็ด ให้ฉันไม่พากลับไปที่หนานเจียงก่อนไหม?”ฉู่เฉินเป็นฝ่ายพูดก่อน“เสี่ยวเฉิน การเดินทางไปญี่ปุ่นไม่สามารถล่าช้าได้ นายไปญี่ปุ่นก่อนเถอะ ฉันจะจัดการเรื่องในหนานเจียงด้วยตัวเอง คราวนี้ฉันคงไปกับนายไม่ได้ ผู้อาวุโสหวู่จิงใจดีกับฉันมาก และฉัน…”หนิงชิงเสว่มีอย่างอื่นที่จะพูดฉู่เฉินกอดหนิงชิงเสว่ไว้แน่นในอ้อมแขนของเขา“พี่เจ็ด ฉันข้าใจแล้วไม่ต้องอธิบายอะไรหรอก”พวกเขาทั้งสองกอดกันอย่างเงียบๆ โดยมีฉินปิงเยว่ และคุณยายอสรพิษอยู่ข้างๆ และไม่ได้รบกวน แต่เพียงเฝ้ามองอย่างเงียบๆหลังจากนั้นไม่นานทั้งสองก็แยกทางกัน“เสี่ยวเฉิน แม้ว่าฉันจะเดินทางไปกับนายไม่ได้ แต่นายสามารถพาปิงเยว่ไปด้วยได้นะ”หนิงชิงเสว่ก็พูดขึ้นมาจู่ๆ ก็เอ่ยถึงชื่อตัวเองฉินปิงเยว่ดูสับสนและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหนิงชิงเสว่เห็นแบบนี้จึงเดินไปหาฉินปิงเยว่และจับมือเธอเอาไว้“เสี่ยวเฉินต้องไปญี่ปุ่นเพื่อ
เมื่อตระกูลหวังทั้งหมดระดมกองกำลังได้ ชาวเมืองก็เต็มไปด้วยความสงสัยว่าอะไรจะกระตุ้นให้เกิดการปฏิบัติการที่อึกทึกครึกโครมเช่นนี้ แต่ก็มีคนพูดเผยถึงข่าววงในจากนั้นทุกคนก็ทราบว่าตระกูลหวังทำถึงขนาดนี้ เป็นเพราะฉู่เฉิน“ฉู่เฉินต้องกล้าหาญขนาดไหนที่จะกล้าบุกเข้าไปในวังของตระกูลหวังและฆ่าใครสักคน เขาต้องได้รับการลงโทษอย่างรุนแรงอย่างแน่นอน”“ใช่ เห็นได้ชัดว่าไม่มีเคารพตระกูลใหญ่เอาเสียเลย”โดยมีตระกูลหวังเป็นผู้นำ ไม่ช้าตระกูลใหญ่อีกหลายตระกูลก็เข้าร่วมเมืองหลวงทั้งเมืองก็แทบจะถูกพลิกเพื่อตามหาตัว แต่ไม่พบฉู่เฉินและผู้หญิง“ดูเหมือนว่าแม้แต่ฉู่เฉินก็รู้ว่า เขาไม่สามารถยั่วยุตระกูลหวังได้และหนีไปแล้ว”“จริง ๆ แล้ว ฉันคิดเสมอว่าฉู่เฉินเป็นคนโง่เขลา ใครจะคิดว่าเมื่อต้องเผชิญกับอำนาจของตระกูลหวัง เขาจะไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหนีไป”มีคนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องวุ่นวายนี้กินเวลานานหลายวันจนกระทั่งได้รับการยืนยันว่าฉู่เฉินไม่ได้อยู่ในเมืองหลวงแล้ว จึงทำให้สถานการณ์ค่อยๆ ผ่อนคลายลง……ในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ เรือสำราญลำหนึ่งแล่นอยู่กลางทะเลฉู่เฉินไปญี่ปุ่นในครั้งนี้ แม้ว่าผู้อาวุโศเฉ
คนคนนั้นได้จากไปแล้ว และฉู่เฉินก็ไม่มีทางเลือกหลังจากยืนงงอยู่สักพัก ก็รู้ว่าดูเหมือนจะมีคนรู้จักอยู่ในญี่ปุ่นเคนอิจิ!ย้อนกลับไปที่ฐานซวนหวู่ถูกถล่ม ตัวเขาได้ปล่อยปรมาจารย์คนหนึ่งไป ตอนนี้เป็นเวลาที่ต้องการตัวเขาจริงๆจิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของฉู่เฉินกระจายออกไปเขาได้ร่ายคาถาใส่ไว้กับเคนอิจิ ดังนั้นตอนนี้เมื่ออยู่ที่ญี่ปุ่นแล้ว การตามหาเขาจึงไม่ใช่เรื่องยากอย่างไรก็ตาม ก็มีเรื่องทำให้ประหลาดใจ ที่เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงเคนอิจินี่จะเป็นเรื่องยุ่งยากฉู่เฉินตัดสินใจไปที่โรงแรมกับฉินปิงเยว่ในตอนนี้จะบอกว่าเป็นโรงแรม แต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวถ้าบอกให้ชัด ก็คือควรจะเป็นเรียวกังในญี่ปุ่น มักจะพบโรงแรมประเภทนี้จะตั้งอยู่บริเวรริมถนนภายในไม่กี่ก้าว ฉู่เฉินก็พบสถานที่เช่นนี้หลายแห่งแม้ว่าฉู่เฉินจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น แต่ก็น่าแปลกที่ตัวอักษรพวกนี้เป็นตัวอักษรที่ฉู่เฉินรู้จักมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นภาษาต้าเซี่ย“ไม่มีอะไรแปลกเกี่ยวกับเรื่องนั้น เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ไม่ยาวนาน ในสมัยโบราณเป็นเพียงเกาะร้าง หลังจากที่ผู้คนจากต้าเซี่ยเข้ามา อารยธรรมก็เริ่มพัฒนาที
คำพูดที่ว่าลูกค้าคือพระเจ้า เป็นสิ่งที่เจ้าของร้านเข้าใจ“ทั้งหมด 250,000 บาท”เจ้าของร้านพูดเรียบๆ“อะไร ของแค่นี้ราคา 250,000 นี่มันปล้นกันชัดๆ”ก่อนที่ฉู่เฉินจะพูดได้ ฉินปิงเยว่ก็อุทานด้วยความประหลาดใจ“ราคา 250,000 คือราคาสำหรับพวกคุณ ปกติมื้อนี้ราคาแค่ 50,000 เท่านั้น คุณหนู คุณอาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่ในญี่ปุ่น การทิ้งอาหารอย่างสิ้นเปลืองถือเป็นการดูหมิ่นอย่างแรง เนื่องจากคุณแทบจะไม่แตะต้องอาหารเลย จึงมีค่าปรับ 200,000 บาทสำหรับการสิ้นเปลือง”เจ้าของร้านอธิบายอย่างเย็นชา“คุณตั้งใจทำแบบนี้สินะ!” ฉินปิงเยว่ระเบิดความโกรธ“ช่างเถอะ”ฉู่เฉินหยุดฉินปิงเยว่ที่กำลังจะโต้เถียงและโยนเงินที่แลกไว้ล่วงหน้าจำนวนหนึ่งออกมาและดึงฉินปิงเยว่ เตรียมพร้อมที่จะออกไปในขณะนี้ คนญี่ปุ่นที่อยู่ใกล้ๆ เห็นฉู่เฉินเป็นเป้าหมายง่ายๆ จึงเริ่มเยาะเย้ยเขาจากด้านหลัง“ไอ้โง่ อย่างที่พูดกันไว้คนจากต้าเซียเป็นคนโง่ ทิ้งอาหารอร่อยๆ แบบนี้ไว้โดยไม่มีใครแตะต้อง”แม้ว่าคำพูดจะดูแข็งกระด้าง แต่ฉู่เฉินก็เข้าใจอย่างชัดเจนเท้าหยุดชะงักหันหน้าไปพูดกับคนที่พูด: “คุณพูดอะไร? ฉันได้ยินไม่ชัด พูดอีกครั้งสิ
ตอนนี้ฉู่เฉินเขย่งเท้าและเตะร่างของคนญี่ปุ่นทันทีมีเสียง “แคร้ก” ดังขึ้นเสียงกระดูกหักของคนญี่ปุ่นดังก้องฉู่เฉินถาม: "นายรู้จักปรมาจารย์งั้นเหรอ?”“โอ๊ย ในเมื่อแกเป็นปรมาจารย์ แล้วจะรังแกคนธรรมดาอย่างฉันได้ยังไง?”ชายชาวญี่ปุ่นนอนอยู่บนพื้นโดยมีเลือดไหลออกมาจากทางปากเมื่อเห็นภาพนี้ ผู้คนในเรียวกังก็ไม่กล้าทำตัวเป็นญี่ปุ่นมุงและหนีไปทีละคน เหลือเพียงเพื่อนของชายคนนั้นเพียงคนเดียว ยืนอยู่ที่นั่น โดยลังเลใจว่าจะอยู่ต่อหรือหนีไปดี“นายไม่ได้ยั่วโมโหฉันเหรอ?” ฉู่เฉินพูดด้วยรอยยิ้มอย่างเย็นชา“คนต้าเซี่ย ถ้านายบอกฉันว่านายเป็นปรมาจารย์ ฉันจะไปกล้ายั่วยุนายได้ยังไง”“ก็ตามที่นายพูดไป ถ้าฉันไม่ใช่ปรมาจารย์ ฉันสมควรโดนแกยั่วยุงั้นเหรอ?”คำพูดของฉู่เฉินทำให้คนญี่ปุ่นหมดคำพูดหลังจากเงียบไปสักพัก ก็ปากแข็งพูดต่อ“โอ๊ย อย่าคิดว่าเพียงเพราะนายเป็นปรมาจารย์ ก็สามารถเดินไปนู่นนั่นนี่ในญี่ปุ่นได้ ฉันแก๊งคุคุจิก็รู้จักปรมาจารย์เหมือนกัน หากนายกล้าก็รออยู่ที่นี่ก่อน”แม้ว่ากระดูกจะหัก แต่ชายชาวญี่ปุ่นก็ยังคงพูดอย่างอาจหาญแก๊งคุคุจิ?คนนี้มาจากก๊งคุคุจิ?ฉู่เฉินรู้สึกประหลาดใจอย่
ชายคนนั้นไม่กล้าปฏิเสธคำพูดของฉู่เฉิน แต่ทันทีที่ได้ยินว่าต้องนำทางไปโตเกียว เขาก็พูดไม่ออก“มีปัญหาอะไร?”เมื่อสังเกตเห็นท่าทางไม่เต็มใจของชายคนนั้น ฉู่เฉินจึงเอ่ยปากถาม“ท่านเทพ แก๊งคุคุจิของพวกเรามีกฎภายในอยู่ว่า หากไม่ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าระดับสูง ก็จะไม่สามารถไปโตเกียวได้ตามที่ต้องการ เพราะแก๊งของพวกเรามีสมาชิกจำนวนมาก และการเดินไปรอบๆ อย่างสะเปะสะปะ ก็อาจทำให้คนอื่นเกิดความเข้าใจผิดได้ครับ”ชายคนนั้นอธิบายฉู่เฉินฟังดูก็ คิดว่าสมเหตุสมผลเพราะญี่ปุ่นมีจำนวนประชากรจำกัด“งั้นพาฉันไปที่แก๊งสาขาของนายแล้วกัน”เนื่องจากคนตรงหน้าเขาไม่สามารถลงมือทำได้ จึงต้องหาคนที่ลงมือทำได้แทนชายชาวญี่ปุ่นไม่กล้าปฏิเสธจึงพาฉู่เฉินกับฉินปิงเยว่ออกจากเรียวกัง และไปที่โรงแรมบ่อน้ำพุร้อน“อิบูกิ ที่นี่คือ?”ฉู่เฉินมองไปที่ป้ายขนาดใหญ่ที่ทางเข้าและปรากฏข้อความว่า "โรงแรมน้ำพุร้อนโอซาก้า"ระหว่างทางฉู่เฉินรู้ว่าชายชาวญี่ปุ่นคนนี้ชื่อ อิบูกิ จากการที่เขาได้ถามออกไปตรงๆ“ท่านเทพ คุณอาจไม่รู้ แต่นี่คือแก๊งสาขาของแก๊งคุคุจิในโอซาก้า ฉันจะพาคุณไปพบหัวหน้า”อิบูกินำฉู่เฉินเข้าไปทันทีเมื่อเข้
บ่อน้ำพุร้อนแต่ละแห่งเรียงขนาบข้างไปกับทางเดินหลักทอดยาวออกไปฉู่เฉินมองแวบเดียว ก็เห็นว่ามีบ่อน้ำพุร้อนมากกว่าสิบแห่งอยู่ตรงหน้าหรืออาจเป็นเพราะเป็นเวลาเย็นแล้ว บ่อน้ำพุร้อนส่วนใหญ่จึงไม่มีคนแช่อยู่ฉู่เฉินลองทดสอบอุณหภูมิของน้ำพุร้อนด้วยมือ และพบว่าน้ำอุ่นเล็กน้อยนี่มันบ่อน้ำพุร้อนจริงๆจากสายตามากมายที่จับจ้องมา ซึ่งอาจบอกได้เลยยว่าบางอย่างผิดปกติการกระทำของฉู่เฉินนั้น ทำให้อิบูกิเห็นว่าฉู่เฉินสนใจน้ำพุร้อนดังนั้นจึงพูดขึ้นมาทันที“ท่านเทพ บ่อน้ำพุร้อนที่หัวหน้าใช้แช่นั้นดีที่สุดในที่นี่ หากท่านเทพสนใจก็ลองแช่ดูสักหน่อยได้ครับ”"โอ้จริงเหรอ?"เมื่อฉู่เฉินยินแบบนั้น ก็แสดงความตื้นเต้นทันทีตอนแรกแค่มาตามหาคน แต่หลังจากนั้นก็มองดูว่าสถานที่นี้ ช่างมีอะไรน่าตื้นตาตื้นใจยิ่งนักในไม่ช้า อิบูกิก็นำฉู่เฉินไปจนสุดทางเดินที่สุดปลายทางเดิน มีบ่อน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ ที่มีขนาดเพียงพอที่จะรองรับคนได้สี่หรือห้าคน บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้มองไม่เห็นก้นบึ้งเหมือนบ่อน้ำพุร้อนอื่นๆ ในบ่อน้ำพุร้อน ชายคนหนึ่งกำลังแช่ตัวอยู่สบายๆ โดยเปลือยเปล่าทั้งหมด และมีแค่ผ้าเช็ดตัวที่คลุมเอาไว้ผืนเดีย
“หยุด! แกคิดว่าที่นี่เป็นที่ไหน จะมาก็มาจะไปก็ไปอย่างนั้นเหรอ?” ฟุโดสั่งพร้อมกระพริบตาส่งสัญญาณ จากนั้นชายสองก็เข้ามาขัดขวางฉู่เฉินทันที“อิบูกิหัวหน้าทีมระดับล่างของแก๊งคุคุจิเอง แม้แต่สมาชิกระดับธรรมดาของแก๊งคุคุจิเอง ก็ไม่ใช่ว่าแกจะใช้คำพูดจัดการได้ ลองพูดมาสิ แกยินดีจ่ายเท่าไหร่?"ตอนนี้ฟุโดมีความมั่นใจขึ้นมาบ้างแน่นอนว่าการคาดเดาของเขาถูกต้องชายต้าเซี่ยคนนี้ เมื่อเห็นเขาก็พร้อมที่จะหันหลังกลับทันที“ฉันสามารถจ่ายค่าไกด์นำทางได้” ฉู่เฉินค่อยๆ พูดท้ายที่สุดแล้ว การมีคนนำทางตัวเอง ไปโตเกียวก็เหมือนกับการจ้างไกด์ การจ่ายค่าธรรมเนียมไกด์ ก็เป็นเรื่องที่ยุติธรรมแก่อิบูกิด้วยถ้าเป็นที่อื่น อีกฝ่ายคงต้องไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มแล้ว ถ้ากล้ายั่วยุเขาแบบนี้“ล้อเล่นใช่ไหม? แกคิดว่าแก๊งคุคุจิเป็นยาจกขนาดนั้นเลย?” ฟุโดไม่พอใจกับคำพูดของฉู่เฉิน“แล้วแกต้องการอะไร?” ฉู่เฉินถาม“ง่ายนิดเดียว คนหนึ่งอยู่ อีกคนไปได้ แกพาอิบูกิไป ส่วนผู้หญิงที่แกพามาด้วยก็อยู่ที่นี่แทน”ฟุโดพูดด้วยรอยยิ้มชั่วร้ายฟุโดเห็นฉินปิงเยว่ในล็อบบี้ของโรงแรมผ่านกล้องวงจรปิดมาก่อนหน้านี้ผู้หญิงที่มีหน้าต