ปรากฎว่าลัทธิแม่มดกู่พยามยามอย่างสุดความสามารถ ในการค้นหาเธอซึ่งเป็นการถูกยอมรับโดยหนอนไหมทองคำกู่คุณยายเคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ว่าเมื่อหนอนไหมทองคำกู่ยอมรับใครบางคนว่าเป็นเจ้านายของมัน คนคนนั้นจะได้รับการพิจารณาให้เป็นนักบุญศักดิ์สิทธิ์จากลัทธิแม่มดกู่หนิงชิงเสว่โทษตัวเองอยู่ครู่หนึ่งเห็นว่าหนิงชิงเสว่รู้สึกไม่สบายใจ ฉู่เฉินจับมือหนิงชิงเสว่แล้วกระซิบ: “พี่เจ็ด อย่าเพิ่งตำหนิตัวเองเลย ลัทธิแม่มดกู่ได้กระทำการโหดเหี้ยมเอง และไม่เกี่ยวอะไรกับคุณเลย"“ฉันรู้ แต่มีผู้บริสุทธิ์จำนวนมากถูกฆ่า พวกเขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา ทำไมลัทธิแม่มดกู่ถึงไม่ปล่อยพวกเขาไป”ความเสียใจของหนิงชิงเสว่ยากที่จะทำใจได้“เมื่อมาถึงจุดนี้ รู้สึกเศร้าไปก็ไม่มีประโยชน์ พวกลัทธิแม่มดกู่กำลังตามหาคุณ คุณยายอสรพิษเฒ่าไม่น่าจะได้รับอันตรายในตอนนี้ ลองคิดหาทางช่วยเหลือเธอกัน” ฉู่เฉินวิเคราะห์จากคำพูดของฉู่เฉิน หนิงชิงเสว่ก็พบว่ามันสมเหตุสมผล“ตอนที่คุณยายพาฉันไปซื้อแมลงกู่ก่อนหน้านี้ เธอพาฉันไปที่แห่งหนึ่งของลัทธิแม่มดกู่ พวกเราไปที่นั่นกันเถอะ” หนิงชิงเสว่มีความคิดทันทีก่อนอื่นต้องตามหาลัทธิแม่มดกู่ก่อนหลังจาก
เมื่อทั้งสองเข้าไปในหมู่บ้าน พวกเขาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความแปลกใหม่อย่างแท้จริงหนิงชิงเสว่กำลังจะลากฉู่เฉิน ไปยังสถานที่ที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนแมลงกู่เดี๋ยวนั้น แต่ฉู่เฉินหยุดลงและพาเธอเข้าไปในอาคารที่มีลักษณะคล้ายโรงเตี๊ยมแทนในโรงเตี๊ยมมีผู้คนไม่มากนัก มีเพียงสามหรือห้าโต๊ะเท่านั้น และโต๊ะอื่นๆ ก็ว่างเปล่าทั้งหมดฉู่เฉินและหนิงชิงเสว่ นั่งลงที่โต๊ะว่างและรอสักพักก่อนที่จะมีพนักงงานเดินเข้ามาหา“คุณสองคนสั่งอะไร?” หญิงสาวที่แต่งกายด้วยชุดชาวเขาที่เป็นเอกลักษณ์ถามด้วยท่าทีที่ชัดเจน“นำอาหารจานพิเศษของคุณและไวน์ชั้นดีสองไหออกมา” ฉู่เฉินตั้งใจทำให้เสียงแหบแห้ง ขณะที่พูดออกไปอย่างช้าๆ"ได้ค่ะ รอสักครู่" หลังจากได้รับรายการอาหาร หญิงสาวก็รู้สึกกระตือรือร้น จากนั้นหันหลังเข้าไปในครัวลูกค้าที่สั่งอาหารแบบไม่ดูราคา นั้นหาได้ยากในโรงเตี๊ยม ดังนั้นหญิงสาวจึงทำสัญลักษณ์ว่า พวกเขาเป็นแขก VIP ทันที“เสี่ยวเฉิน ที่นี่เป็นหนึ่งในสาขาของลัทธิแม่มดกู่ พวกเราจะไม่ดึงดูดความสนใจมากเกินไปหรือ?”หนิงชิงเสว่ถามอย่างกังวลใจ“ไม่ต้องห่วง พวกเราเป็นคนแปลกหน้าที่นี่ จึงไม่มีใครรู้จักเรา นอกจากนี้
กำลังพลระดับล่างของลัทธิแม่มดกู่ ไม่ได้สังเกตเห็นว่าฉู่เฉินและหนิงชิงเสว่กำลังสะกดรอยตามพวกเขาทั้งกลุ่มเดินไปพูดไปและหัวเราะกันตลอดทางขณะที่พวกเขาเข้าใกล้อาคารโบราณ พวกเขาก็เงียบ เห็นได้ชัดว่าพวกเขามาถึงฐานใหญ่ลัทธิแม่มดกู่ ที่พวกเขาพูดถึงแล้วสถาปัตยกรรมโบราณตั้งอยู่ลึกเข้าไปในป่าแห่งนี้ ผสมผสานอย่างลงตัวราวกับว่าได้เติบโตมาจากพื้นดิน ผนังเชื่อมต่อกันด้วยต้นไม้สูงตระหง่านหลายต้นจนรวมกันเป็นอาคารขนาดใหญ่ แน่นอนว่านี่คือสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าฐานใหญ่ของลัทธิแม่มดกู่“พวกแกแอบออกมาอีกแล้ว ไม่รู้เหรอว่านี่เป็นวันอะไร ถ้าผู้พิทักษ์เห็นเข้าจะต้องเจอมีปัญหาใหญ่อีกแน่”ขณะที่พวกเขาก้าวผ่านประตูไป ชายร่างใหญ่ก็ตำหนิพวกเขา“ผู้พิทักษ์มาแล้วเหรอ?” หนึ่งในนั้นเหงื่อตกเมื่อเอ่ยถึงผู้พิทักษ์“ฮึ่ม เดี๋ยวค่อยจัดการกับพวกแกทีหลัง” ชายร่างใหญ่พ่นลมหายใจออกมา และปล่อยผ่านพวกเขาเข้าไปพวกเขารีบวิ่งเข้าไปข้างในด้วยความโล่งใจ"พวกเราทำยังไงต่อ?" หนิงชิงเสว่ถามฉู่เฉินอย่างเงียบๆ ขณะที่เห็นกลุ่มคนแยกย้ายกันไปข้างใน“พี่เจ็ด ใจเย็นๆ ก่อนนะ ก่อนอื่นต้องมายืนยันว่าคุณยายอสรพิษเฒ่ายังอยู่ที่นี่หรือไม่
เมื่อเห็นหนิงชิงเสว่ แววตาของคุณยายอสรพิษเฒ่าก็ฉายความกลัวเป็นครั้งแรก จากนั้นดูเหมือนจะนึกถึงบางอย่างขึ้นมาได้ ริมฝีปากที่แตกร้าวแล้วพูดช้าๆ “สาวน้อยโง่เขลา สุดท้ายพวกเราก็หนีไม่พ้น และตอนนี้พวกเราพบกันในยมโลก ”เห็นได้ชัดว่า คุณยายอสรพิษเฒ่าไม่คิดว่าเธอจะรอดมาได้ หลังจากตกไปอยู่ในเงื้อมมือของลัทธิแม่มดกู่ ดังนั้นเมื่อเห็นหนิงชิงเสว่ จึงคิดว่าตัวเองได้เดินทางมาถึงยมโลกแล้ว“คุณยาย คุณกำลังพูดอะไร ฉันมาที่หนานเจียงเพื่อช่วยคุณ” หนิงชิงเสว่พูดพร้อมกับเช็ดน้ำตา พร้อมใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นคุณยายอสรพิษเฒ่าได้สติ“อะไรนะ เธอมาที่หนานเจียงด้วยเหรอ? ช่างโง่เขลาจริงๆ ฉันบอกให้เธอรีบหนีไปแท้ๆ และอยู่ห่างจากหนานเจียงเอาไว้ไม่ใช่เหรอ?” คุณยายอสรพิษเฒ่าได้ยินแบบนั้น ไม่เพียงแต่ไม่มีความสุข แต่ยังรู้สึกกังวลอีกด้วย“คุณยาย ไม่ต้องกลัว ฉันไม่ได้มาคนเดียว ยังมีเสี่ยวเฉินก็มาด้วย คุณไม่รู้สิ ตอนนี้เสี่ยวเฉินแข็งแกร่งมาก” หนิงชิงเสว่ปลอบใจ เพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉู่เฉินแข็งแกร่งมากเพียงใด“เธอรู้ไหมว่าหนานเจียงน่ากลัวแค่ไหน? ไม่ใช่แค่เธอ แม้แต่คนรักของเธอ อย่างปรมาจารย์ฉู่ หากมาที่หน
เมื่อเห็นว่าการปะทะกันกำลังใกล้เข้ามา หนิงชิงเสว่ก็ค่อยๆ ลุกขึ้นยืน และได้ถ่ายเวียนลมปรานที่แท้จริง ทันใดนั้น งูพิษที่อยู่รอบๆ ผู้กอง ทำท่างเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่อาจอธิบายได้ และหัวงูที่เชิดอยู่แต่เดิมก็ตกลงทันที เพื่อแสดงการเชื่อฟังผู้กองยังรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์นี้และนึกถึงบางสิ่งได้ทันที“นักบุญ แม้ว่าคุณจะสามารถข่มขู่อสรพิษด้วยรัศมีของกู่ศักดิ์สิทธิ์ได้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำให้อสรพิษพวกนี้หวาดกลัว ยังไงคุณก็เป็นแค่ระดับปรมาจารย์และความแข็งแกร่งของตัวคุณเองก็มีอยู่แค่นั่น แม้ว่าฉันจะไม่มีอรพิษมีพิษพวกนี้ ฉันก็จัดการกับคุณได้อย่างง่ายดาย " ผู้กองพูดและแผ่รัศมีออกมารัศมีกดดันจากปรมาจารย์ระดับสี่ปกคลุมทั้งคุกทันที บังคับให้กองกำลังของลัทธิแม่มดกู่ที่อยู่ใกล้ๆ ต้องคุกเข่าลง“นักบุญ ตราบใดที่คุณเลิกต่อต้านและกลับไปที่ฐานใหญ่พร้อมกับพวกเรา คุณก็ยังคงเป็นนักบุญเพียงคนเดียว ซึ่งอยู่เหนือกว่าคนนับหมื่น ตำแหน่งนี้เป็นที่ต้องการของผู้คนนับไม่ถ้วนในหนานเจียง ฉันแนะนำให้คุณยอมจำนนซะ" ผู้กองเดินไปหาหนิงชิงเสว่ร่างของหนิงชิงเสว่ สั่นอยู่ครู่หนึ่งราวกับว่ามีน้ำหนักถึงพั
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา ผู้คนทั่วบริเวณเหมือนถูกตบหน้าฉาบใหญ่ ทำให้เกิดความโกลาหลขึ้นทันที“บังอาจ แกกล้าดูถูกนักบุญได้ยังไง!”“อะไรนะ นักบุญแต่งงานแล้วเหรอ?”“เขารนหาที่ตาย!”“ฆ่าเขาซะ! ไม่มีใครสามารถพูดจาดูถูกนักบุญได้”“ใครดูหมิ่นนักบุญจะต้องตาย!”……ไม่เพียงแต่ใบหน้าของผู้พิทักษ์ไมตี๋จะดูเคร่งขรึมเท่านั้นพลทหารคนอื่นๆ ของลัทธิแม่มดกู่ที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นก็ลุกขึ้นด้วยความโกรธและรีบพุ่งเข้าใส่ฉู่เฉินแม้ว่าลัทธิแม่มดกู่ จะมีกองกำลังจำนวนมาก แต่พวกเขาก็ยังเป็นแค่พวกมดปลวกฉู่เฉินยังคงนิ่งเฉยทันทีที่พลทหารหลายสิบคนพุ่งไปข้างหน้า ร่างของพวกเขาก็ระเบิดออกและตายในทันที เลือดและอวัยวะภายในกระจัดกระจายไปทั่วทั้งบริเวณเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ผู้พิทักษ์ไมตี๋ก็พุ่งไปข้างหน้าเช่นกันหากไม่ลงมือตอนนี้ ฐานย่อยของลัทธิแม่มดกู่นี้จะถูกฉู่เฉินฆ่าล้างเผ่าผู้พิทักษ์ไมตี๋ลงมือ ฉู่เฉินก็ตั้งใจขึ้นเล็กน้อย ดวงตาของเขาเป็นประกายและทยานหนีขึ้นไป ต่อมาได้ปรากฏตัวต่อหน้าผู้พิทักษ์ไมตี๋และปล่อยหมัดใส่เหมือนจะหมัดธรรมดาแต่มีพลังวนล้อมรอบอยู่อย่างมากมาย มีหลายวิธีในการหลบหลีกแวบเข
หลังจากกลืนกินศพแล้ว แมลงกู่ก็เติบโตขึ้นเล็กน้อย จากนั้นมุดลงไปในดินอย่างไร้ร่องรอย"ตัวอะไร?" ฉู่เฉินยังคงมองดูเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างสงสัย“นี่เป็นแมลงศักดิ์สิทธิ์อีกตัวหนึ่งของลัทธิแม่มดกู่ แมลงกู่เขมือบ เช่นเดียวกับหนอนไหมทองคำกู่ของชิงเสว่ แมลงตัวนี้ก็เป็นแมลงกู่ศักดิ์สิทธิ์เช่นกัน แต่มีพลังเหนือกว่าหนอนไหมทองคำกู่ของชิงเสว่ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้นำลัทธิโกหกพวกเรา แถมยังมีแมลงกู่อยู่ในร่างของคนของลัทธิอีกด้วย ไม่น่าแปลกใจเลยที่สามีของฉันถึงหายไปอย่างไร้ร่องรอย” คุณยายอสรพิษเฒ่าอธิบายด้วยท่าทางเกลียดชังเห็นได้ชัดว่าภาพนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณยายอสรพิษเฒ่า และดูเหมือนเธอจะเข้าใจเหตุการณ์ในอดีตได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในตอนนี้“คุณยาย ในเมื่อผู้นำลัทธิแม่มดกู่ มีแมลงกู่ศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองอยู่แล้ว ทำไมจึงต้องตามหาชิงเสว่ขนาดนั้นด้วย?” ฉู่เฉินถามอย่างสงสัยก่อนหน้านี้เขาคิดว่าลัทธิแม่มดกู่กำลังตามหาชิงเสว่เพียงเพราะหนอนไหมทองคำกู่ในร่างของเธอ แต่ตอนนี้มันดูซับซ้อนกว่าเดิม“เพราะมีตำนานของลัทธิแม่มดกู่ ว่ากันว่าแมลงกู่ศักดิ์สิทธิ์สามารถพัฒนาเป็นแมลงกู่อมตะได้ จากการกลืนกินแมลงกู่ศ
เบื้องหลังผู้อาวุโสสามคนที่ถูกเรียกว่าสามราชากู่ผู้ยิ่งใหญ่โดยคุณยายอสรพิษเฒ่า ยังมีผู้ติดตามลัทธิแม่มดกู่อีกมากมายแน่นอนว่าก่อนที่ผู้พิทักษ์ไมตี๋จะเสียชีวิต เขาใช้วิธีการใดและแจ้งคนอื่นในลัทธิแม่มดกู่“เหอะๆ ใครจะคิดว่าพวกเราจะไม่ได้ปรากฏตัวบนโลกนี้มานาน แต่ก็ยังมีคนที่จำพวกเราสามคนได้อีก” ชายชราชุดแดงพูดอย่างครุ่นคิดชายชราในชุดดำอีกคนหนึ่งเห็นฉู่เฉินจับมือของนักบุญแล้วพูด: "ในเมื่อรู้จักพวกเรา ก็จงยอมแพ้ซะและอย่าต่อสู้ไปอย่างไร้ความหมาย ไอ้หนู ปล่อยนักบุญซะ แล้วพวกเราจะทำให้ให้ศพของแกครบสามสิบสองเอง"ชายชราในชุดเขียวมองไปที่คุณยายอสรพิษเฒ่าซึ่งอยู่บนหลังของหนิงชิงเสว่ และพูดช้าๆ : "เจ้าต้องเป็นภรรยาของลูกศิษย์ที่ไร้ประโยชน์ของข้า จงยอมแพ้ซะ แล้วข้าจะขอร้องผู้นำลัทธิให้ไว้ชีวิตเจ้า ”“ท่านเป็นอาจารย์สามีของฉันเหรอ?” คุณยายอสรพิษเฒ่าถามด้วยพลังเต็มเปี่ยม“ใช่ ฉันนี่แหละ เด็กคนนี้ได้ฆ่าคนไปมากมายในลัทธิศักดิ์สิทธิ์ และเขาจะตายอย่างแน่นอน” ชายชราในชุดเขียวคิดอย่างชัดเจนว่าคุณยายอสรพิษเฒ่ามาที่นี่เพื่อขอความเมตตา“ในเมื่อท่านเป็นอาจารย์ของเขา ทำไมท่านถึงเพิกเฉยต่อเขา ตอนนี้เขาเส