แชร์

บทที่ 2

หนิงชิงเสวี่ยจ้องมองไปที่ฉู่เฉินอย่างไม่ละสายตา พร้อมเผยใบหน้าที่หยิ่งผยองออกมา

โดยที่เลขาที่อยู่ข้างกายของเธอ พานอวิ๋น ก็มองไปยังฉู่เฉินด้วยใบหน้าดูถูกเหยียดหยามด้วยเช่นกัน คนจน ๆ แบบนี้จะคู่ควรกับท่านประธานของพวกเราได้อย่างไรกัน?

“ไม่มีปัญหา”

ฉู่เฉินตอบกลับไปอย่างไม่แยแส “แต่ว่าคุณก็ไม่มีอำนาจตัดสินใจอยู่ดี เพราะว่าสัญญาการแต่งงานครั้งนี้คุณปู่ของคุณเป็นคนจัดการ คุณสามารถรอจนกว่าผมจะรักษาอาการป่วยของเขาจนหายแล้ว ค่อยให้เขายกเลิกการแต่งงานด้วยตัวเองก็ได้ แค่ท่านยินยอม ผมก็ไม่มีทางจะตามรังควานคุณอย่างแน่นอน”

“ไม่ต้อง”

หนิงชิงเสวี่ยยิ่งเหยียดหยามเขาแล้ว เพราะคิดว่าเขายังไม่ยอมแพ้ในเรื่องนี้“งานแต่งของฉัน ฉันจะต้องเป็นคนตัดสินใจเองสิ ยิ่งไปกว่านั้น อาการป่วยของคุณปู่ฉัน ฉันจะคิดหาวิธีเอง ไม่จำเป็นต้องให้คุณมาคอยเป็นกังวลหรอกนะ”

เธอรีบเขียนเช็คใบหนึ่งอย่างรวดเร็ว “ นี่เป็นเช็คมูลค่าห้าล้าน บาทขอแค่นายยอมยกเลิกงานแต่งงานกับฉัน มันก็จะเป็นของนายทันที”

“เงินห้าล้าน บาทสำหรับฉันแล้วมันก็แค่เศษเงินเท่านั้น แต่ว่าสำหรับคนชนชั้นล่างแบบนาย ก็พอที่จะเลี้ยงดูปากท้องได้สบาย ๆ ไปทั้งชาติ ฉันเชื่อว่านายคงจะไม่ปฏิเสธหรอกนะ”

หนิงชิงเสวี่ยเหน็บแนมพร้อมท่าทางยิ้มมุมปาก ราวกับกำลังให้ทานกับขอทานอยู่

ฉู่เฉินตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ต้องหรอก ถึงแม้ว่าคนอย่างฉู่เฉินจะจน แต่ก็ไม่รับของบริจาคจากใครหรอกนะ”

“ผมยังยืนยันตามเดิม อยากถอนหมั้นก็ได้ แต่จะต้องให้หนิงฉางเจิ้งมาคุยกับผมเอง”

เมื่อพูดจบ ฉู่เฉินก็ผลักประตูและเดินออกไปด้วยท่าทางเด็ดขาดทันที โดยไม่หันกลับมามองแต่อย่างใด

“ท่านประธานคะ เจ้าหมอนี่ช่างไม่รู้จักกาลเทศะอะไรเลยนะคะ แล้วทำไมท่านประธานยังต้องเกรงใจเขาขนาดนั้นด้วย” เลขาพานอวิ๋นพูดด้วยความโมโห

“ก็แค่อวดดีรักในศักดิ์ศรีเล็ก ๆ อันน่าสงสารของตัวเองเท่านั้นแหละ”

หนิงชิงเสวี่ยกัดริมผีฝากพูดออกมาด้วยความโกรธ “ไม่มีเงิน เขาอยากใช้ชีวิตที่หนานเจียงก็ยังลำบาก ฉันกล้าพนันได้เลย ไม่ถึงสามวันเขาจะต้องกลับมาขอร้องฉันแน่ๆ”

“ช่างมันเถอะ ไม่ต้องไปพูดถึงเขาแล้ว”

เธอพูดพร้อมกับส่ายหน้า “จริงสิ พี่อวิ๋น พี่ช่วยนัด ฉู่เซี่ยงตงที่เป็นเจ้าพ่อหนานเจียงแทนฉันหน่อยสิ ได้ยินมาว่าเมื่อห้าปีที่แล้วเขาป่วยเป็นโรคตับแข็งระยะสุดท้าย คุณหมอต่างลงความเห็นว่าเขาจะต้องเสียชีวิตในไม่ช้าอย่างแน่นอน แต่สุดท้ายก็มีหมอวิเศษจากสำนักรักษาศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินคนหนึ่งรักษาจนหายได้”

“ขอแค่ฉันสามารถเชิญสำนักรักษาศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมินมาได้ ฉันก็ต้องรักษาคุณปู่ให้หายได้อย่างแน่นอน พอถึงตอนนั้นค่อยให้คุณปู่ออกหน้ายกเลิกงานแต่งของฉันกับหมอนั่น ดูสิว่าเขายังจะพูดอะไรได้อีกหรือเปล่า”

สายตาของเธอดั่งไฟไม่มีอะไรเทียบได้

ฉู่เฉินมุ่งหน้าเดินไปทางรถแท็กซี่ข้างทาง เขามองไปยังมุมถนนที่คุ้นเคย ในสายตาของเขาแสดงความโกรธแค้นออกมา “พี่สาวทั้งเจ็ด เสี่ยวสือโถวกลับมาแล้ว กลับมาแก้แค้นแทนพวกพี่แล้ว !”

ฉู่เฉินในเวลานี้ราวกับว่าเขาได้เปลี่ยนไปเป็นคนละคน มีท่าทางเย็นชาขึ้นมาก

ช่วงเวลาก่อนอายุ 11 ขวบเขาอาศัยอยู่ในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า มีพี่สาวที่เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกันทั้งหมด 7 คน พี่สาวคนที่เจ็ดที่มีอายุน้อยที่สุดอายุมากกว่าเขาเพียงหนึ่งเดือน และพี่สาวที่อายุมากที่สุดโตกว่าเขา 5 ปี

พี่สาวทั้งเจ็ดคนดูแลเขาเหมือนเป็นน้องชายแท้ ๆ ไม่เพียงแต่คอยดูแลปกป้องเขาอย่างเงียบ ๆ มีอะไรดี ๆ ก็มักจะคิดถึงเขาเสมอ ทั้งยังสัญญาว่าหากโตขึ้นแล้วจะแต่งงานเป็นภรรยากับฉู่เฉินอีกด้วย

แต่ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นเมื่อตอนที่ฉู่เฉินอายุ 11 ปี สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้นครั้งใหญ่ เปลวไฟปกคลุมไปทั่วทุกสารทิศ ตอนนั้นพี่สาวทั้งเจ็ดคนที่จริงแล้วก็มีโอกาสหนีเอาตัวรอดไปได้ แต่กลับยกโอกาสที่จะหนีเอาชีวิตรอดให้กับฉู่เฉินกันทั้งสิ้น

ผลสุดท้าย ฉู่เฉินก็หนีออกมาได้ แต่พวกเธอกลับต้องจบชีวิตลงท่ามกลางเปลวไฟแบบนั้น

ต่อมาฉู่เฉินก็ได้รับการช่วยเหลือจากนักบวชเฒ่าลัทธิเต๋าท่านหนึ่ง นักบวชผู้นั้นถ่ายทอดความสามารถทั้งหมดให้กับเขา โดยที่ก่อนจะสิ้นใจยังให้ฉู่เฉินสืบทอดตำแหน่งของสำนักรักษาศักดิ์สิทธิ์กุ่ยเหมิน และให้ฉู่เฉินลงจากเขาไปปกป้องทายาทของแฟนเก่า ของเขาอีกด้วย

การที่ฉู่เฉินลงจากเขามาในครั้งนี้ สิ่งแรกก็เพื่อทำตามความปรารถนาสุดท้ายของชายชราก่อนที่เขาจะเสียชีวิต และประการที่สองเพื่อแก้แค้น

เขาจะส่งฆาตกรที่ทำร้ายพี่สาวจนตายไปลงนรกเสียให้หมด

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status