Share

บทที่ 1035

Author: สาวน้อยจับปลา
ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการก่อตั้งต้าเซี่ย มีกฎที่ไม่ได้เขียนเป็นลายลักกษณ์อักษรเอาไว้ว่า นิกายหลักทั้งเก้าไม่สามารถเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับตระกูลในต้าเซี่ยได้ ซึ่งเป็นเหตุผลเช่นกันว่าทำไมต้าเซี่ยจึงสามารถรับมือต่อครอบงำของเหล่าตระกูลต่างๆ ได้

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีคนสมคบคิดกับตระกูลที่มีอำนาจบ้าง แต่พวกเขาก็ต้องทำเช่นนั้นอย่างลับๆ ไม่ได้ทำอย่างเปิดเผย

“เอาล่ะ หยุดเล่นน้ำลายได้แล้ว ไม่ว่าความตั้งใจของพวกนายจะคืออะไร ตราบใดที่ฉู่เฉินยังอยู่ที่โถงสมุนไพร พวกนายก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ไสหัวออกไปได้แล้ว!”

หลี่ชางเบื่อเกินกว่าจะพูดไร้สาระอีก หลังพูดจบ จึงหันหลังกลับและเตรียมที่จะจากไป

ตอนนั้นเอง มีคนในฝูงชนพูดขึ้น

“ฮึ่ม ต่อให้เป็นฉู่เฉินหรือฉู่ซวนหวู่ก็ไม่มีข้อยกเว้น ฆ่าคนแล้วไม่ยอมรับ แถมยังมุดหัวซ่อนตัวอยู่หลังผู้อาวุโสอีก”

ทันทีที่พูดจบ คนอื่นๆ ก็พูดเสริมขึ้นมา

“ถูกต้อง! กล้าเรียกตัวเองว่า ซวนหวู่ แต่สิ่งที่เขาทำคือหดหัว เหมือนชื่อของเขาไม่ผิด ซวนหวู่ก็แค่ชื่อเรียกของเต่า”

ทันทีที่พูดคำเหล่านี้ออกไป ทุกคนก็หัวเราะกันลั่น

ฉู่เฉินเดิมทีวางแผนจะจากไปกับหลี่ชาง ก็หยุดเดิน

สามารถด
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1036

    เมื่อถูกฉู่เฉินเรียกออกมา ชายชราก็อยากปฏิเสธโดยสัญชาตญาณขณะที่กำลังจะพูด ก็ถูกฉู่เฉินขัดจังหวะ“ช่างเถอะ ยังไงพวกแกคงไม่ยอมรับอยู่ดี งั้นในเมื่อพวกเราต่างก็เป็นนักสู้ ก็มาแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีของนักสู้กันดีกว่า”“ฉัน ฉู่เฉิน คนนี้ขอประกาศที่นี่และตอนนี้ว่า ใครก็ตามที่มีระดับวรยุทธเท่ากับฉัน ไม่ว่าจะอายุหรือเพศใด สามารถมาที่นี่ เพื่อท้าดวลกับฉันได้เลย หากฉันแพ้ ฉันจะยอมรับผลที่ตามมาโดยไม่ปริปากบ่นสักคำ แต่หากฉันชนะ ไม่ว่าฉันจะไปที่ไหน ผู้พ่ายแพ้ก็ต้องก้มหัว!”ฉู่เฉินมองไปที่กลุ่มชายชราตรงหน้า แล้วพูดอย่างเย็นชา ซึ่งดวงตาเต็มไปด้วยการท้าทาย“ฉู่เฉิน ระดับวรยุทธของแกตอนนี้อยู่ขั้นไหน?” มีคนถามขึ้นมา หลังจากที่ฉู่เฉินป่าวประกาศอย่างกล้าหาญ“จอมยุทธขั้นหก!”ฉู่เฉินไม่ได้ปิดบังอะไรและพูดระดับวรยุทธออกมาถึงอย่างนั้นก็ ยังทำให้เกิดความปั่นป่วนพอสมควร นั่นเป็นเพราะทุกคนยังจดจำภาพที่ฉู่เฉิน อยู่ในระหว่างการแข่งขันแย่งชิงดินแดนเร้นลับ ที่เขตชานเมืองหลวงก่อนหน้านี้และยังมีเพียงคนระดับสูงไม่กี่คนของตำหนักอสูรเท่านั้น ที่รู้เรื่องความพ่ายแพ้ของซิวหลัวจื่อ“นี่ก็เพิ่งจะผ่านไปไม่นานเอง แล

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1037

    กลุ่มคนจากตำหนักอสูรมองหน้ากันไปมา ด้วยความสับสนแม้จะถูกยั่วยุอย่างซึ่งๆ หน้า แต่ก็ไม่มีใครก้าวเท้าออกมาฉู่เฉินก็ไม่เสียเวลาคนเหล่านี้อีกต่อไป จึงพูดส่งท้าย และจากนั้นก็เดินเข้าไปในโถงสมุนไพร“ในเมื่อไม่มีใครกล้าออกมา ฉัน ฉู่เฉินจะฝากคำพูดทิ้งไว้ที่นี่วันนี้ ภายในห้าวัน ฉันยินดีรับทุกคำท้าจากคนที่มีระดับวรยุทธ์เดียวกัน!”“ผู้อาวุโสสอง ไปเชิญนายน้อยมาสอนบทเรียนให้เด็กหยิ่งผยองคนนี้เถอะ”ทันทีที่ฉู่เฉินจากไป กลุ่มชายชราโง่เขลาจากตำหนักอสูรก็เริ่มร้องขอต่อผู้อาวุโสสองของตำหนักอสูร โดยหวังว่านายน้อยซิวหลัวจื่อจะออกหน้า และรักษาชื่อเสียงเอาไว้ได้ผู้อาวุโสสองซึ่งรู้ความจริงข้อนั้นอย่างเต็มอก ได้แสดงสีหน้าเบื่อหน่าย นั่นเป็นเพราะต้องการปกป้องชื่อเสียงของซิวหลัวจื่อ ดังนั้นจึงไม่ได้เปิดเผยความจริงออกไปเพียงแต่ตอบแค่ว่า นายน้อยกำลังยุ่งอยู่กับธุระสำคัญ และไม่มีเวลาสำหรับเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้“เนื่องจากนายน้อยไม่ว่าง งั้นเชิญแม่ชีออกมาหน้าแทน?”ชายชรายังไม่ยอมแพ้ เพราะยังไงเขาถูกทำให้ขายหน้าต่อหน้าคนรุ่นใหม่ และจึงรีบถามออกไปคิดไม่ถึงว่าจะได้ยินแบบนี้จึงทำให้สีหน้าของผู้อาวุโสสอ

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1038

    แม้ว่าในตอนแรก ฉู่เฉินเพียงที่จะท้าทายคนของตำหนักอสูรที่มีท่าทางหยิ่งยโส ที่อยู่ด้านหน้าของโถงสมุนไพร แต่เมื่อแพร่กระจายออกไปผ่านข่าวลือ เรื่องก็กลับบานปลายไป คำพูดถูกใส่สีตีไข่ในตอนเริ่มต้น ข่าวลือเพียงกล่าวว่า ฉู่เฉินต้องการท้าดวลคนที่มีวรยุทธในระดับเดียวกันแต่เมื่อข่าวลือแพร่กระจายออกไป เรื่องราวก็เริ่มเกินจริงมากขึ้นบางคนถึงกับพูดว่า ฉู่เฉินเชื่อว่าตัวเองไร้เทียมทานในหมู่คนรุ่นใหม่ และยังมีข่าวลือแพร่ที่ถูกป่าวประกาศไปว่า เขานั้นแข็งแกร่งที่สุด และใครก็ตามที่ไม่พอใจก็สามารถขอท้าดวลได้ ข่าวลือดังไปถึงหูกองกําลังที่มีชื่อเสียงเกือบทั้งหมดว่ากันว่า ฉู่ซวนหวู่คนปัจจุบันกล้าที่จะท้าทายนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกทุกนิกายที่ได้ยินข่าวลือ ก็รีบนำไปบอกนายน้อยของพวกเขาในทันที ซึ่งรู้สึกโกรธแทนนายน้อยของตนเอง เพราะในใจของพวกเขานั้น นายน้อยของตนแข็งแกร่งที่สุดณ นิกายเจิ้งหยางเจิ้งหยางจื่อกำลังรับมืออยู่กับคนที่เข้ามาขอให้ตัวเองออกหน้าจัดการ ในตอนแรก คิดว่าจะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้ เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับนิกายเจิ้งหยางได้ แต่ทันทีที่ได้ยินชื่อของฉู่เฉิน ก็ปัดความคิดนั

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1039

    อาจจะสัมผัสได้ถึงการมาถึงของซิวหลัวจื่อล่วงหน้าขณะที่ซิวหลัวจื่อยังไม่เข้าสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ผู้หญิงคนนั้นเปิดปากพูดอย่างเย็นชา“มีอะไร?”"เจ้าตำหนักได้สั่งให้เธอไปสั่งสอนบทเรียนกับฉู่เฉิน นี่คือภาพเหมือนของเขา!"ซิวหลัวจื่อรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้ไม่ค่อยได้ออกไปโลกภายนอก ดังนั้นจึงวาดภาพเหมือนของฉู่เฉินมาด้วยหญิงคนนั้นหยิบภาพเหมือนขึ้นมาดู และภาพเหมือนในมือของเธอ ก็กลายเป็นขี้เถ้า“เข้าใจแล้ว”……ลึกเข้าไปในภูเขานับแสน ซึ่งเป็นที่ตั้งของนิกายเมี่ยวหยิน หญิงสาวสองคนกำลังวิงวอนอยู่หน้าหญิงชรา“อาจารย์ ให้พวกเราไปเมืองหลวงเถอะ”หญิงสาวนั่นคือหลินอีนัวกับหลินหยิงหยิน ส่วนหญิงชราที่อยู่ตรงหน้าคืออาจารย์ของพวกเธอ หลินเหมี่ยวหยิน หัวหน้านิกายเมี่ยวหยินนับตั้งแต่ได้ยินข่าวลือของฉู่เฉิน หลินอีนัวก็มาปรากฏตัวต่อหน้าอาจารย์พร้อมกับศิษย์พี่ของเธอถ้ามาคนเดียว อาจารย์จะไม่ยอมปล่อยให้เธอไปอย่างแน่นอน แต่ถ้าเธอพาศิษย์พี่ไปด้วย บางทีอาจจะยอมให้ออกจากภูเขาได้ทันทีที่หลินหยิงหยินได้ยินว่าจะไปพบกับฉู่เฉิน เธอก็ตกลงอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยหลังจากใช้เวลาร่วมกันมาอย่างยาวนาน หลินอีนัวและหล

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1040

    บรรดาลูกศิษย์ต่างมองไปที่หญิงสาวด้านหน้า พร้อมกับน้ำเสียงอิจฉาที่สามารถได้ยินจากระยะไกลสำนักกระบี่ซวนเทียนมีลูกศิษย์หญิงเพียงไม่กี่คน และในกลุ่มคนสิบคนอาจจะไม่ผู้หญิงเลยสักคน แต่ ในสถานการณ์เช่นนี้เอง ก็มีนักดาบหญิงอัจฉริยะปรากฏตัวขึ้นเรื่องนี้ทำให้ลูกศิษย์ชายหลายคนดูอยากจะแทรกแผ่นดินหนีไปหญิงสาวคนที่ตกเป็นเป้าหมายของสายตาของพวกเขา ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาอย่างชัดเจนเธอลุกขึ้นและมาปรากฏตัวต่อหน้าชายทั้งสองจากการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว บังคับให้พวกเขาหยุดการต่อสู้ด้วยดาบเล่มเดียว“ศิษย์น้อง เธอทำอะไร?”ลูกศิษย์ชายมีสีหน้าโกรธเคืองหญิงสาวคนนั้นไม่ได้อธิบาย แต่กลับตอบคำถามแทน“ศิษย์พี่ สิ่งที่คุณเพิ่งพูดไปเป็นความจริงเหรอ?”“แน่นอนว่าเป็นความจริง เธอก็ต้องการท้าทายฉู่เฉินเหมือนกันเหรอ? หยุดฝันกลางวันเถอะ เจ้านิกายได้บอกไปแล้วว่ามีเพียงศิษย์พี่ใหญ่เท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เข้าและออกจากนิกายได้อย่างอิสระ ส่วนคนอื่นหากไม่มีธุระอะไร แต่อยากจะออกไปได้ ก็มีเพียงหนทางเดียว”“ทางไหน?”“เอาชนะศิษย์พี่ใหญ่!”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ท่าทีเย็นชาของหญิงสาวก็ไม่เปลี่ยนไป ในพริบตาเดียว เธอปร

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1041

    ในขณะนั้น แรงกดดันที่เหนือธรรมชาติได้กดทับลงมาที่จัตุรัส ทำให้เหล่าบรรดาลูกศิษย์ของสำนักกระบี่ ที่ต่างกำลังเข้ามาใกล้ ก็ต้องล่าถอยออกไปอย่างควบคุมไม่ได้แม้ว่าเย่ชิงชานจะไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายใคร แต่แรงกดดันนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะต้านทานได้ภายใต้แรงกดดัน บรรรดาลูกศิษย์ทำได้เพียงต้องถอยหลังกลับไป“นี่….มันเป็นไปได้ยังไง เธอเพิ่งมาที่สำนักได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น ระดับความก้าวหน้าของเธอจะรวดเร็วขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”“ไม่ผิด นี่ก็เพิ่งผ่านไปไม่นานเอง และระดับวรยุทธก็แซงหน้าพวกเราไปแล้ว จะเป็นไปได้ยังไงกัน”เหล่าศิษย์ของสำนักกระบี่ร้องอุทาน ออกมาด้วยความประหลาดใจพร้อมกับก้าวเท้าถอยหลัง“เธอเป็นลูกศิษย์สายตรงของเจ้าสำนัก ส่วนนายเป็นเพียงลูกศิษย์ธรรมดา ดังนั้นไม่ควรเอาตัวเองไปเทียบกับศิษย์น้องเย่หรอก”“ต้องเป็นว่าเจ้าสำนักที่ให้ของวิเศษแก่เธอแน่นอน ไม่เช่นนั้นเรื่องมันจะไม่เป็นเช่นนี้หรอก”เมื่อเห็นว่าทิศทางของความคิดเห็นของสาธารณชนเริ่มหันเห แถมบางคนพูดจาว่าร้ายกับเจ้าสำนักอีกด้วยในฐานะศิษย์พี่ใหญ่อย่าง เจี้ยนอี้จำเป็นต้องลุกขึ้นและพูด“อย่าพูดจาเหลวไหล ศิษย์น้องเย่มีกายากร

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1042

    “หมายความว่าอะไรสามารถวัดรอยเท้ากับศิษย์พี่ใหญ่ จากที่ฉันเห็น พวกเขาอยู่ในระดับเดียวกัน”“ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าพวกเราจะเรียกเธอว่า ศิษย์น้องเล็กไม่ได้อีกต่อไปแล้ว พวกเราควรเริ่มเรียกเธอว่า ศิษย์พี่หญิงดีกว่า”จากบทสนทนาไม่กี่ประโยค ลำแสงดาบทั้งสองปะทะกันไป ไม่น้อยกว่าร้อยครั้งเสียงดาบกระทบกันดังก้องไปทั่วสำนักกระบี่ เมื่อเวลาผ่านไป ลูกศิษย์ก็มีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และมารวมตัวกันเพื่อรับชมการดวล"ผู้อาวุโสคนไหนกำลังประลองกับศิษย์พี่ใหญ่"ลูกศิษย์ที่เพิ่งมาถึงบางคนไม่ทราบถึงสถานการณ์ จึงคิดว่าผู้อาวุโสกำลังประลองกับเจี้ยนอี้ เมื่อพวกเขาพบว่าเป็นศิษย์น้องคนเล็กที่เพิ่งเข้าร่วมสำนักไม่นาน ก็อ้างปากค้างไปตามๆ กันจากหนึ่งไปเป็นสิบ จากสิบไปเป็นร้อย เกือบทั้งสำนักกระบี่รู้ว่า เย่ชิงชาน คนที่เพิ่งเข้ามาในสำนัก มีพละกำลังเเท่ากับศิษย์พี่ใหญ่ เรื่องนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงในความว่างเปล่าที่เหล่าศิษย์สาวกมองไม่เห็นชายชราผมขาวสองสามคนก็เฝ้าดูการต่อสู้ของคนทั้งสอง“หวู่เฉิน เจ้ามีลูกศิษย์ชั้นยอดอีกคนหนึ่งแล้ว เธอได้อยู่ที่นี่เพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่เธอก็มีพลังมากขนาดนี้แล้ว อีกไม่นานเธอจะตาม

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1043

    เย่ชิงชานซึ่งเข้าใจอาณาเขตกระบี่ ตั้งแต่ในระดับปรมาจารย์แล้ว ตอนนี้เมื่อมาถึงระดับจอมยุทธ และอาณาเขตกระบี่ของเธอก็แข็งแกร่งขึ้นมาก แม้ว่าเธอจะไม่ได้ปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ แต่แรงกดดันก็มีพละกำลังมหาศาลไม่เพียงแต่มันครอบคลุมทั้งลานจัตุรัสเท่านั้น แต่ยังสามารถดูดพื้นที่เข้ามา แล้วเปลี่ยนแปลงพื้นที่ในพริบตา ลานจัตุรัสทั้งหมดก็กลายเป็นโลกแห่งกระบี่เจี้ยนอี้ยังไม่สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ และสันนิษฐานว่าเย่ชิงฉานเพียงแค่ปลดปล่อยอาณาเขตกระบี่ทั่วไปของจอมยุทธออกมา“ศิษย์น้อง นี่คือท่าไม้ตายของเธองั้นรึ? ก็แค่อาณาเขตของจอมยุทธ จอมยุทธทุกคนสามารถสร้างมันขึ้นมาได้ เพียงอาณาเขตของเธอแค่มีขนาดใหญ่กว่าเท่านั้น ฉันจะแสดงให้เห็นเองว่า ขนาดไม่ได้บ่งบอกว่า จะแข็งแกร่งเสมอไป!”ทันทีที่เจี้ยนอี้พูด ก็ร่ายอาณาเขตกระบี่ของตัวเองออกมาด้วยในฐานะศิษย์พี่ใหญ่ของสำนักกระบี่ ตัวเองก็เข้าใจอาณาเขตกระบี่เช่นกันทันทีที่เจี้ยนอี้คิด ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปอย่างน่าอึดอัด และในเวลาเดียวกัน คลื่นความกลัวมากมายก็ผุดขึ้นมาในจิตใจเป็นไปได้ยังไงกัน? อาณาเขตกระบี่ของฉันไม่ตอบสนองโดยปกติแล้ว อาณาเขตจะปรากฏ

Latest chapter

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1155

    “ไสหัวไปซะ!” ฉู่เฉินขมวดคิ้วและตะโกน สายตาของเขาเย็นชา และเผยจิตสังหารออกมา“อะไร? แกกำลังไล่พวกเรางั้นเรอะ?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็ดูประหลาดใจและสงสัยว่าพวกเขาได้ยินผิด“ไอ้ขี้เหร่ แกกล้าอวดดีขนาดนั้นเลยเหรอ แกเชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าแก”ทันใดนั้น ทุกคนก็โกรธฉู่เฉินอย่างมากแม้ว่านี่จะเป็นเมืองหลวง แต่พวกเขาก็เป็นสมาชิกของตระกูลหวัง พวกเขาข่มเหงผู้ที่อ่อนแอและข่มเหงคนหนุ่มสาวเป็นประจำทุกวัน จึงเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะหยิ่งผยองลำพองใจ พวกเขาคุ้นเคยกับแววตาหวาดกลัวและยอมจำนนของคนอื่น ๆ มาเป็นเวลานานคำพูดของฉู่เฉินทำให้พวกเขาโกรธมาก จนอยากจะถลกหนังเขาและหั่นเขาเป็นชิ้น ๆ!“ฉันจะพูดอีกครั้ง ไปให้พ้น! ไม่เช่นนั้นจะฆ่าอย่างไม่ปราณี!“ สายตาเย็นชาของฉู่เฉินกวาดไปทั่ว เต็มไปด้วยจิตสังหาร“ฆ่าอย่างไม่ปราณี?”“ฮ่า ๆ แกทำให้ฉันขำเป็นบ้า แกคิดว่าแกตัวเองคู่ต่อสู้ของพวกเราได้จริงเหรอ?”ชายหนุ่มหลายคนในชุดสูทมองขึ้นมาและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาของพวกเขาเยาะเย้ย ไม่สนใจเขาเลยฉู่เฉินส่ายหัวและถอนหายใจ คนพวกนี้มีสมองเอาไว้กั้นหูเท่านั้น เขาเพิ่งให้โอกาสพวกเขาไปเมื่อ

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1154

    ……ภายในเมืองหลวงที่คึกคัก บนถนนที่กว้างและราบเรียบกลุ่มบุคคลที่โดดเด่นเดินไปมาในเมือง โดดเด่นเหมือนฝูงนกยูงรำแพนหาง และดึงดูดสายตาที่อยากรู้อยากเห็นมากมายอย่างไรก็ตาม เครื่องแต่งกายของพวกเขาแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง โดยที่เย่ชิงชานสวมชุดสีขาวล้วน ดูบอบบางและงดงามเฉียวหานอวี้สวมชุดยาวสีม่วงแดง แสดงออกถึงท่าทางที่กล้าหาญและมั่นใจหนิงชิงเสว่ที่ยังเยาว์วัยและสวยงามในชุดสีน้ำเงิน ฉู่เหมิงเหยาผู้บริสุทธิ์และสวยงาม อ่อนโยนและเงียบขรึมมีเพียงฉู่เฉินที่สูงใหญ่และสง่างามในชุดสีดำเท่านั้นที่โดดเด่นออกมา ใบหน้าที่คมคายและเฉียบคมของเขาส่งออร่าของความเฉยเมยที่ทำให้เขาดูไม่เข้ากับคนอื่น ๆ“หนุ่มหล่อคนนั้นเป็นใคร? ทำไมเขามากับผู้หญิงมากมายขนาดนั้น?” พฤติกรรมของทั้งกลุ่มดึงดูดความสนใจของบางคนได้อย่างชัดเจนคนเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มและหญิงสาว แต่งกายด้วยเสื้อผ้าหรูหราและเครื่องประดับสีสันสดใส บ่งบอกถึงภูมิหลังครอบครัวมีฐานะ“ผู้ชายคนนั้นดูอ่อนแอมาก แต่ผู้หญิงที่อยู่รอบ ๆ เขาแจ่มเป็นบ้า” คนที่รู้จักฉู่เฉินกระซิบเตือน ไม่เต็มใจที่จะก่อเรื่องฉู่เฉินเดินไปข้างหน้าคนเดียว โดยไม่สนใจคนร

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1153

    “อืม พวกเราจะไม่ทอดทิ้งนายแน่นอน!”เสียงเจี๊ยวจ๊าวของกลุ่มสาว ๆ ทำให้ฉู่เฉินหมดหนทาง แต่ที่สำคัญกว่านั้น มันทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นขึ้นมา“เสี่ยวซือโถว เมื่อเป็นอย่างนั้น พวกเรามาเตรียมพร้อมกันเถอะ ฉันอยู่เฉย ๆ มาหลายวันแล้ว”เฉียวหานอวี้ถูกำปั้น และกระตือรือร้นที่จะพยายามทำอะไรสักอย่างพี่สาวคนอื่น ๆ ก็ตื่นเต้นเช่นกัน ราวกับว่าพวกเธอเห็นภาพของคนหลายคนที่เข้ามาในเมืองหลวงเป็นกลุ่มสถานการณ์นี้ทำให้ฉู่เฉินตกตะลึง“พี่ ๆ ได้โปรดรอก่อน เรื่องนี้ต้องดำเนินการทีละขั้นตอน และฉันกำลังจะทำสำเร็จในไม่ช้า ยังไม่สายเกินไปที่จะดำเนินการเมื่อฉันทำสำเร็จ และอีกอย่าง... ฉันไม่ใช่พี่น้องร่วมสายเลือดของคุณจริง ๆ” ฉู่เฉินขมวดคิ้วและพูดความเกลียดชังของคน ๆ หนึ่งต้องได้รับการจัดการด้วยตัวเองในที่สุด และไม่ให้พี่ ๆ มาเกี่ยวข้องได้ เพราะพวกเธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรเลยในเรื่องนี้“จะเป็นอะไรถ้านายไม่ใช่น้องของฉัน? นายเติบโตมาในสถานรับเลี้ยงเด็กกับพวกเราตั้งแต่ยังเด็ก และแม้ว่านายไม่ใช่น้องร่วมสายเลือดของฉัน แต่พวกเราก็ปฏิบัติกับนายเหมือนเป็นน้องชายของพวกเรา”เฉียวหานอวี้เอื้อมมือไปจับแขนเสื้อข

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1152

    “ประสบการณ์ของฉันก็เรียบง่ายมาก ในกองไฟของสถานรับเลี้ยงเด็ก ฉันได้รับการช่วยเหลือจากชายชราคนหนึ่ง หลังจากนั้น ฉันก็ติดตามชายชราไปฝึกวรยุทธ หลังจากประสบความสำเร็จในการฝึกฝน ฉันก็ออกมาเพื่อล้างแค้นให้กับคุณปู่ผู้อำนวยการและทุก ๆ คน ฉันได้ติดตามเบาะแสทีละขั้นตอนไปจนถึงเมืองหลวง และนั่นคือทั้งหมด”ฉู่เฉินกางมือออกกว้าง แสดงให้เห็นว่าพูดจบแล้ว“แค่นั้นหรือ ไม่มีอะไรเลยเหรอ? เสี่ยวซือโถว นายปฏิบัติกับเราเหมือนคนนอกและปฏิเสธที่จะบอกความจริงกับเรา”เฉียวหานอวี้พูดขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนหน้านี้ เหล่าพี่สาวได้ใช้สายตากดดัน โดยหวังจะเกลี้ยกล่อมให้ฉู่เฉินเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม แต่คิดไม่ถึงว่า ฉู่เฉินจะพูดเพียงไม่กี่คำพวกเธอรู้สึกเหมือนว่าแผนของพวกเธอล้มเหลว“เสี่ยวซือโถว ถ้านายไม่พูด พวกเราก็รู้กันดี แล้วก็รู้ว่าตระกูลฉู่ เป็นหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ในเมืองหลวงในอดีต เป็นตระกูลเดิมของนาย นายตั้งใจไม่บอกความจริงกับพวกเรา เพราะไม่อยากทำให้พวกเราต้องเดือดร้อนใช่ไหม? ”หลินอีนัวจ้องมองฉู่เฉินและพูด“ถ้าไม่เคยรู้มาก่อน ก็คงจะดีกว่า เพราะถ้ารู้แล้ว แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย และจะกลายเป็นภาระสำ

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1151

    ในคฤหาสน์หนานหวาง มีเสียงหัวเราะดังครึกครื้น พี่สาวทั้งห้าคนมารวมตัวกันและสนุกสนานกัน ฉู่เฉินก็สนุกเช่นกัน ในขณะนี้ คนทั้งหกคนอยู่ในลานบ้าน ชิมอาหารที่ฉู่เหมิงเหยานำมา และพูดคุยเกี่ยวกับประสบการณ์ของพวกเขาเริ่มจากพี่สาม เฉียวหานอวี้ เธอได้พบกับหมอเทวดาหลี่ซ่างได้อย่างไร ทำไมถึงได้รับเป็นลูกศิษย์ได้ ทักษะทางการแพทย์ของเธอพัฒนาขึ้นอย่างไรหลังจากนั้น เธอช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างไรบ้าง เธอได้พบกับฉู่เฉินตอนไหน แล้วอะไรทำให้จดจำกันได้ และพูดถึงทุกอย่างอย่างละเอียด“ดังนั้น ถ้าไม่ใช่เพราะน้องเจ็ดความจำเสื่อม พี่สามคงจะไม่ได้เจอเรา”หลังจากฟัง หลินอีนัวก็ถอนหายใจ“ใช่แล้ว พูดได้แค่ว่าโชคชะตาเล่นตลกกับผู้คน โอเค ฉันพูดจบแล้ว ถึงตาเธอแล้วนะ น้องห้า”เฉียวหานอวี้ส่งต่อบทสนทนาไปยังหลินอีนัวหลินอีนัว ก็ไม่ได้ปิดบังอะไรเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกตระกูลหลินพาตัวไป เข้าสู่วงการบันเทิงได้อย่างไร พบกับฉู่เฉินตอนไหน ทำไมถึงมาแสดงหนังร่วมกันอีก และสุดท้ายทำอีท่าไหนถึงเข้าร่วมนิกายเมียวหยินได้หลังจากที่หลินอีนัว พูดจบ พี่สาวหลายคนก็ถอนหายใจว่าประสบการณ์ของหลินอีนัวนั้นค่อนข้างทรหด จากนั้นพวกเธอก็

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1150

    “เอาล่ะ ไปกันเถอะ” เย่ชิงชาน หลินอีนัว และเฉียวหานอวี้ขึ้นรถคันที่สองไปแล้วด้วยความมึนงงชั่วขณะเมื่อเห็นเช่นนี้ หนิงชิงเสว่จึงรีบเข้าไปดึงฉู่เฉินอย่างสบาย ๆ“เสี่ยวซือโถว มานั่งด้วยกันเถอะ”“อืม”ฉู่เฉินตอบกลับ แล้วขึ้นรถที่อยู่ข้างหน้าเขา“ไปกันได้แล้ว” เมื่อมองไปที่เยว่ฟู่หลงที่ยังคงจ้องมองเขาอย่างซื่อบื้อ ฉู่เฉินก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องพูด“โอเค อาจารย์”เยว่ฟู่หลงเหยียบคันเร่งและรถออฟโรดสีดำ ก็พุ่งออกไปเหมือนสัตว์ร้ายที่คำรามภายในสนามบินเมืองหลวงฉู่เหมิงเหยาลงจากเครื่องบิน หยิบสัมภาระของเธอ และเห็นฉู่เฉินรออยู่ที่นั่น ยืนอยู่ข้าง ๆ ฉู่เฉินคือผู้หญิงที่สวยงามสี่คน“พี่หก ทางนี้”ก่อนที่ฉู่เฉินจะพูด หนิงชิงเสว่ก็ตะโกนออกไปอันที่จริง แม้ว่าหนิงชิงเสว่จะไม่ตะโกน แต่ฉู่เหมิงเหยาก็คงจะเห็นแล้วเธอก้าวเท้าและเดินไปข้างหน้าเมื่อรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้พบกับพี่สาวคนอื่น ๆ ฉู่เฉินกังวลว่าอาจจะเกิดความอึดอัด ฉู่เฉินจึงรีบแนะนำทุกคนทันที“พี่หก นี่คือพี่สาม เฉียวหานอวี้ ศิษย์โดยตรงของหมอเทวดา หลี่ซ่าง นี่คือพี่สี่ หลินอี้นัว ศิษย์สายตรงของหัวหน้านิกายเมียวห

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1149

    “แกเป็นใคร?” จ้าวฟางเซียงถามโดยไม่รู้ตัว“ฉันชื่อฉู่เฉิน”เดิมทีฉู่เฉินคิดว่าในฐานะสมาชิกตระกูลจ้าวในเมืองหลวง จ้าวฟางเซียงต้องเคยได้ยินชื่อเขามาบ้าง และเมื่อรู้ว่าเป็นเขา อีกฝ่ายก็จะยับยั้งชั่งใจตัวเองได้บ้างโดยไม่คาดคิด หลังจากพูดชื่อของเขา จ้าวฟางเซียงก็หัวเราะออกมา“ฉันไม่สนใจว่าแกเป็นใคร ก็แค่ไอ้หน้าอ่อน แกยังกล้าประกาศชื่อของแกต่อหน้าฉัน มั่นหน้ามั่นโหนกจริง ๆ แต่น่าเสียดาย เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน จ้าวฟางเซียง แกไม่ได้มีโอกาสที่จะหยิ่งยโส แก….”จ้าวฟางเซียงยังคงพูดไม่หยุดเขาไม่ได้สังเกตเลยว่าชายชราที่ยืนอยู่ข้างหลังจ้าวฟางเซียงในตอนแรก มีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อได้ยินชื่อของฉู่เฉินจริง ๆ แล้วเขาคือฉู่เฉิน ฉู่เฉินผู้ทำลายล้างตระกูลฉินเพียงลำพัง!ในบรรดาตระกูลใหญ่ในเมืองหลวง ฉู่เฉินกลายเป็นสิ่งต้องห้าม โดยเฉพาะในหมู่ผู้ที่มีความสัมพันธ์ไม่ดีกับตระกูลฉู่ชายชราเดินไปหาจ้าวฟางเซียงด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ขัดจังหวะการพูดของเขา และกระซิบที่หูของเขา“นายน้อย เขาคือฉู่ซวนหวู่ ฉู่ซวนหวู่ที่ฆ่าล้างบางตระกูลฉิน!”เมื่อได้ยินแล้วจ้าวฟางเซียงก็รู้ว่าฉู่เฉินเป็นใครไม่น่าแปลกใจ ที่จะฟังดู

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1148

    เมื่อได้ยินเยว่ฟู่หลงกับเว่ยอิงลั่ว เรียกตัวเองเช่นนี้สำหรับหนิงชิงเสว่นั้นไม่เป็นไร เพราะยังไงฉันก็เคยได้ยินคำพูดที่สนิทสนมกว่านี้มาก่อนคนที่เหลืออีกสามคน ไม่ว่าจะเป็นเย่ชิงชาน หลินอีนัว หรือเฉียวหานอวี้ต่างก็หน้าแดงแจ๋ฉู่เฉินพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว“พี่สาว อย่าไปสนใจพวกเขา พวกเขาเคยพูดจาไร้สาระ ไปคุยกันต่อบนรถดีกว่า”“อืม”ทั้งสามคนไม่คัดค้าน แต่ทุกคนรีบวิ่งไปที่รถที่อยู่ข้างหลังพวกเขา“หยุด!”เสียงเย็นชาดังขึ้น ทำให้ฉู่เฉินหยุดชะงัก ร่างหนึ่งก้าวมาข้างหน้าเฉียวหานหยู่ ขวางทางของเธอฉู่เฉินเดินเข้าไปและมองไปที่ชายคนนั้น“พี่สาม คุณรู้จักเขาไหม?”“ไม่รู้จักเลย” เฉียวหานอวี้ตอบพร้อมเอียงหัวอย่างไม่ใส่ใจ“งั้นก็อย่าไปยุ่งกับเขาเลย ขึ้นรถกันเถอะ”ฉู่เฉินจับมือเธอเบา ๆ ช่วยประคองเธอขึ้นรถ ขณะที่เขาเปิดประตูค้างไว้การเห็นตัวเองถูกเมินอย่างซึ่ง ๆ หน้า ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับจ้าวฟางเซียง เขาไม่เพียงแต่เคยคิดจะใช้เงินห้าสิบล้านหยวนเพื่อเอาชนะใจเธอเท่านั้น แต่ตอนนี้เขากลับถูกเมินอย่างสิ้นเชิง และที่แย่ไปกว่านั้น ชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าและหล่อกว่าคนนี้ก็ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอี

  • เจ็ดพี่สาวจอมทะลึ่งของผมทั้งสวยทั้งฮอต   บทที่ 1147

    “คุณหนูเฉียว คุณจะไปไหน ฉันจะพาคุณไปส่งเอง”จ้าวฟางเซียงไม่รู้ว่า มั่นหน้ามั่นโหนกมาจากไหน จึงเอื้อมมือไปหามือหยกอันบอบบางของเฉียวหานอวี้ เพื่อจับมือเธอเฉียวหานอวี้เบี่ยงตัวและหลบไป“นายจะทำอะไร?”“เฮ้ ๆ ทำอะไรอยู่ เป็นเรื่องปกติที่ฉันจะไปส่งคุณกลับบ้าน ไม่ใช่แค่คุณเท่านั้น แต่รวมถึงพวกคุณทุกคนด้วย”เมื่อเห็นว่าเฉียวหานอวี้สามารถหลบมือของตัวเอง ได้อย่างง่ายดายจ้าวฟางเซียงไม่ได้สนใจ และยื่นมือเของเขาออกไปอีกครั้ง“นายบ้าไปแล้วหรือไง ตอนกลางวันแสก ๆ ฉันสามารถแจ้งความอนาจารนายได้!”เฉียวหานอวี้หลบอีกครั้งและพูดจาเย็นชา“บอกฉันสิ? ดูเหมือนว่าคุณยังไม่เข้าใจน้ำหนักของคำว่าตระกูลจ้าวแห่งเมืองหลวง ใครในเมืองนี้ที่กล้าเข้ามายุ่งกับฉัน จ้าวฟางเซียง!”จ้าวฟางเซียงพูดจาเย่อหยิ่งเมื่อเห็นว่าเฉียวหานอวี้หลบได้อีกครั้ง จ้าวฟางเซียงก็รู้ว่า แม้เขาจะโง่แต่ผู้หญิงคนนี้คือวรยุทธ ถึงจะไม่สามารถรับรู้ระดับวรยุทธของผู้หญิงคนนี้ได้ แต่ระดับวรยุทธของเธอก็อาจจะเท่ากับเขา คาดว่าผู้หญิงคนนี้ได้ฝึกฝนวิชามาเหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงหลบเลี่ยงเขาได้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากเข้าใจแล้ว จ้าวฟางเซียงก็พูดอย่

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status