แชร์

บทที่ 137  กำจัดจุดอ่อน

ผู้เขียน: primพริมโรส
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-16 13:12:41

บทที่ 137 กำจัดจุดอ่อน

หลังจากที่ทักทายท่านแม่และองค์หญิงเฟยเหยาที่ตอนนี้ได้กลายเป็นลูกรักของท่านแม่คนใหม่แล้ว สองพี่น้องก็เข้าห้องของตัวเองเพื่อพักผ่อน แสงจันทร์สาดส่องผ่านหน้าต่าง ทอดเงาอ่อนลงบนโต๊ะไม้หอมในห้องของเฟิงหย่าเสวี่ย เสียงลมราตรีพัดผ่านกิ่งไม้ดังแผ่วเบา นางนั่งอยู่ริมโต๊ะ มือถือพู่กันชิงหลง ดวงตาจับจ้องไปที่แสงสะท้อนวับวาวบนตัวพู่กัน

ภาพความทรงจำย้อนกลับมา... วันที่นางพบองค์ชายเจิ้งอี้หลงครั้งแรก นางได้แต่หลบซ่อนตัวอยู่หลังเสา ไม่กล้าเผชิญหน้ากับศัตรู ต้องรอให้ชิงหลงช่วยเหลือ... วันที่ต่อสู้กับเหวินเทียนหลง หากไม่มีพลังของชิงหลง นางคงไม่ต่างอะไรกับผักปลาที่รอความตาย

“ชิงหลง...” นางเอ่ยขึ้นมา เพื่อที่จะคุยกับมังกรทองชิงหลง ที่ปรึกษาส่วนตัว “ทุกครั้งที่มีเรื่อง ข้าต้องพึ่งพาเจ้า ตัวข้าเองกลับอ่อนแอเกินไป”

ชิงหลงส่งเสียงครางเบาๆ ในความคิด

“เจ้าไม่ได้อ่อนแอ เพียงแต่ยังไม่ได้พัฒนาพลังที่แท้จริงของตัวเอง”

นางหลับตาลง นึกถึงการต่อสู้ที่ผ่านมา... ตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับศัตรู ร่างกายของนางสั่นเทา ขาอ่อนแรง ไม่มีวรยุทธ์ติดตัว หากไม่มีชิงหลง นางคงถูกจับและถูกทำร้ายได้ตั้งแต่แรก ดูอย
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 138  พิชิตป้าใหญ่ด้วยภาพวาดและส้มตำ!!!

    บทที่ 138 พิชิตป้าใหญ่ด้วยภาพวาดและส้มตำ!!! "ท่านป้า..." เฟิงหย่าเสวี่ยเริ่มพูดอย่างระมัดระวัง "ข้าอยากจะถามเรื่องท่านป้าใหญ่เจ้าค่ะ.."ป้าจวงหลิงอวี้เลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าอนุญาตให้นางถามได้"เจ้าคะ ข้าอยากทราบว่า..." นางหยุดครู่หนึ่ง "ท่านป้าใหญ่ชอบอะไรเป็นพิเศษหรือไม่?"“เพราะเหตุใดเจ้าถึงอยากจะรู้ว่านางชอบสิ่งใด”“คือว่าข้าอยากจะฝากตัวเป็นศิษย์ของท่านป้าใหญ่เจ้าค่ะ ป้าจวงก็ทราบว่าข้านั้นไม่มีวรยุทธ ส่วนป้าจวงก็รับเจ้าเล็กเป็นศิษย์แล้วข้าก็เลยอยากจะเรียนวรยุทธจากท่านป้าใหญ่ ข้าจะได้ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งพาพุ่กันชิงหลงเพียงอย่างเดียว” นางเอ่ยบอกเหตุผลกับจวงหลิวอวี้ตรงๆ เพราะนางนั้นทราบว่าป้าจวงเคยจะนำยาชำระไขกระดูกมาให้นางเพื่อที่นางจะได้ฝึกวรยุทธได้ จวงหลิวอวี้พยักหน้าเบาๆ อย่างเห็นด้วย หากว่าจะมีใครสักคนที่เหมาะสมที่จะสองเฟิงหย่าเสวี่ยคนผู้นั้นจะต้องเป็นพี่สาวของนางอย่างแน่นอนป้าจวงหลิงอวี้หัวเราะเบาๆ "อ้อ เจ้าอยากเอาใจพี่สาวข้าสินะ? นางเป็นคนแปลก แม้จะดูเข้มงวดและเคร่งขรึม แต่กลับชอบของแปลกๆ""แปลกอย่างไรหรือเจ้าคะ?" เฟิงหย่าเสวี่ยถามอย่างสนใจ"นางชอบอาหารรสจัด โดยเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 139  เจ้าต้องการสิ่งใด?

    บทที่ 139 เจ้าต้องการสิ่งใด?เฟิงหย่าเสวี่ยจัดการงานอย่างคล่องแคล่วในห้องทำงานเล็กๆ ของนาง ภาพวาดของป้าใหญ่จวงหลิวเฟิงที่นางบรรจงวาดด้วยความตั้งใจถูกรีดให้เรียบสนิท นางใช้กระดาษพิเศษและม้วนอย่างระมัดระวัง จากนั้นผูกด้วยเชือกไหมสีแดงทองเพื่อเพิ่มความสง่างาม พร้อมทั้งใส่ลงในกล่องไม้สลักลวดลายดอกเหมยอย่างประณีตต่อมานางหันไปจัดเตรียมอาหารที่เพิ่งปรุงเสร็จใหม่ๆ ต้มยำกุ้ง รสจัดจ้านถูกบรรจุในภาชนะโลหะที่ออกแบบมาให้รักษาความร้อนได้ยาวนาน ข้างๆ กันนั้น ส้มตำ สีสันสดใสและ ไก่ย่าง กลิ่นหอมฉุยถูกจัดวางในตะกร้าหวายที่รองด้วยผ้าปักลายดอกไม้ นางเลือกตะกร้าที่เหมาะสมกับบรรยากาศแบบชนบท แต่ยังคงความสง่างามในรายละเอียด และทันใดนั้นเอง นางก็นึกขึ้นได้ถึงสิ่งที่จะเพิ่มความพิเศษให้มื้อนี้“ใช่แล้ว ต้องมีเบียร์!”นางพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะวาดเบียร์กระป๋องออกมา 3 โหลยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ เช่นพวกไวน์แดง ไวน์ขาวเอาไปด้วยจากนั้นก็บรรจุลงในถังเก็บความเย็นอย่างประณีตและใช้กำไลมิติเก็บของเหล่านี้ทันทีเพื่อที่จะให้มันรักษาความร้อนความเย็นของอาหารและเครื่องดื่มเอาไว้เมื่อทุกอย่างพร้อม เฟิงหย่าเสวี่ยก็ออกเดินทางไปยั

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-16
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 140 รับศิษย์

    บทที่ 140 รับศิษย์เฟิงหย่าเสวี่ยนั่งคุกเข่าด้วยท่าทางสงบอยู่ต่อหน้าป้าใหญ่จวงหลิวเฟิง ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและความจริงจัง นางรวบรวมความกล้า ก่อนเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น“ข้าต้องการเรียนรู้วรยุทธ์และวิชาฝ่ามือหัตถ์เทวะจากท่านป้าใหญ่เจ้าค่ะ”จวงหลิวเฟิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมของนางมองหลานสาวตรงหน้า นางเงียบไปครู่หนึ่งราวกับประเมินคำพูดและความตั้งใจนั้น เฟิงหย่าเสวี่ยไม่หลบสายตา ดวงตาของนางฉายแววจริงจัง“อย่างที่ท่านป้าใหญ่เห็นในตอนที่เกิดการต่อสู้กันนั้น ข้าเป็นผู้ที่ไร้ความสามารถที่สุด ข้าไม่สามารถที่จะต่อกรกับผู้ที่มีวรยุทธ์ได้เลย หากว่าไม่มีพู่กันชิงหลง ข้าคงไม่ต่างจากตอไม้ที่รอให้คนมาตัดมาทำลาย”น้ำเสียงของเฟิงหย่าเสวี่ยเริ่มหนักแน่นขึ้น นางยังคงพูดต่อ แม้จะเห็นว่าป้าใหญ่ยังไม่ได้แสดงท่าทีใด“ข้าจึงอยากที่จะเรียนวรยุทธ์เพื่อที่จะได้ดูแลตัวเองได้ ไม่ให้เป็นภาระของผู้ใด และในอีกทาง หากว่าข้าเก่งกาจขึ้น ข้าอยากที่จะปกป้องคนที่ข้ารัก เช่น ครอบครัวของข้าเจ้าค่ะ ท่านป้าใหญ่”จวงหลิวเฟิงวางมือลงจากภาพวาดที่อยู่ตรงหน้า นางมองภาพที่สะท้อนตัวตนของนางในฐานะผู้พิทักษ์แห่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 141  กลับเมืองอวี้ไห่

    บทที่ 141 กลับเมืองอวี้ไห่“กลับเมืองอวี้ไห่เช่นนั้นรึ?”พระชายาเฟิงหันมองหน้าบุตรสาวทันทีเมื่อนางบอกว่าอยากจะกลับไปดูนาเกลือที่เมืองอวี้ไห่เพราะว่าพวกนางมาอยู่เมืองหลวงนานแล้ว“ใช่เจ้าค่ะท่านแม่” เฟิงหย่าเสวี่ยมองดูมารดาที่พักนี้นางดูอวบอิ่มมีน้ำมีนวลผิดปรกติ ไม่แน่ว่าอาจจะมีข่าวดีเร็วๆ นี้เป็นได้“แต่ว่าแม่เป็นห่วง ลูกะอยู่กับใครหากว่ากลับไปที่เมืองอวี้ไห่” พระชายาเฟิงเอ่ยขึ้นมา เพราะที่เมืองหลวงแห่งนี้แม้ว่าบุตรสาวจะออกจากบ้านทุกวัน แต่นางก็เพียงไปที่จวนแม่ทัพซู่หลิง ซึ่งที่นั้นมีป้าจวงอยู่นางไม่เป็นห่วง แต่ว่าเมืองอวี้ไห่นั้นไกลมาก“ท่านอาจารย์จะไปกลับข้าด้วยเจ้าค่ะท่านแม่ ท่านไม่ต้องเป็นห่วงนะเจ้าคะ”เฟิงหย่าเสวี่ยเอ่ยขึ้นมา ขณะนั้นเองเจ้าเล็กก็เดินเข้ามาพอดี“ข้าก็อยากกลับไปเมืองอวี้ไห่ด้วยเหมือนกันขอรับท่านแม่” ก่อนที่พระชายาเฟิงจะพูดสิ่งใดต่อก็มีเสียงเล็กหวานอีกเสียงดังขึ้นมาก่อนว่า“ข้า…ข้าก็อยากไปเมืองอวี้ไห่เช่นกัน ข้าอยากไปดูนาเกลือเจ้าค่ะ” ทั้งสามแม่ลูกหันไปตามเสียงนั้นทันที เห็นว่าผู้ที่เอ่ยนั้นคือองค์หญิงเฟยเหยานั้นเอง ตั้งแต่พระชายาเฟิงเล่าให้นางฟังถึงเมืองอวี้ไห่ที่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 142  พืชผักวิญญาณ

    บทที่ 142 พืชผักวิญญาณหลังจากนั้นสองศิษย์อาจารย์ก็กลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงและจวงหลิวเฟิงก็เริ่มเตรียมบทเรียนขั้นต่อไปให้กับนาง“วันนี้ ข้าจะสอนเจ้าเกี่ยวกับการเปลี่ยนพืชธรรมดาให้กลายเป็นพืชที่มีพลังวิญญาณ” จวงหลิวเฟิงกล่าว น้ำเสียงของนางหนักแน่นและจริงจัง“พืชที่มีพลังวิญญาณ?” เฟิงหย่าเสวี่ยทวนคำอย่างสงสัย “ข้าเพียงเคยได้ยินเจ้าค่ะแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร?”จวงหลิวเฟิงพานางไปที่แปลงพืชผักเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกล “เจ้ารู้หรือไม่ว่าธรรมชาติเป็นแหล่งพลังอันลึกล้ำที่สุด? ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติล้วนมีความเชื่อมโยงกับพลังแห่งชีวิต หากเจ้าสามารถใช้พลังของหัตถ์เทวะควบคู่กับจิตใจที่บริสุทธิ์ เจ้าก็สามารถเปลี่ยนพืชธรรมดาให้กลายเป็นพืชที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณได้”เฟิงหย่าเสวี่ยพยักหน้า นางมองตามสายตาของป้าใหญ่ไปยังแปลงพืชที่เต็มไปด้วยต้นสมุนไพรหลากชนิด ใบไม้สีเขียวสดสะท้อนแสงแดดยามเช้าอย่างงดงาม“ข้าอยากเรียนรู้เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ข้าต้องทำอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” เฟิงหย่าเสวี่ยถามอย่างกระตือรือร้นจวงหลิวเฟิงก้าวไปที่แปลงพืช และยื่นมือไปสัมผัสต้นโหระพาที่ดูธรรมดา นางปล่อยพลังจากฝ่ามือออกมาเบาๆ แสงสี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-18
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่143  ปรุงยาและเรียนวรยุทธ์

    บทที่143 ปรุงยาและเรียนวรยุทธ์"วันนี้ข้าจะสอนเจ้าปรุงยาวิเศษที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกายและความจำของเจ้า" จวงหลิวอวี้กล่าวพร้อมเปิดกล่องไม้เก่าแก่ที่บรรจุสมุนไพรหายาก กลิ่นหอมสดชื่นลอยฟุ้งไปทั่วห้องหยิบสมุนไพรชิ้นแรกขึ้นมา เป็นดอกไม้สีแดงสดที่เปล่งแสงวูบวาบ "นี่คือดอกไฟหงส์ สมุนไพรวิญญาณที่เกิดจากเปลวเพลิงของหงส์ มีพลังในการเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกาย"จากนั้นนางหยิบขวดแก้วใสที่มีหยดน้ำใสราวกับคริสตัล "นี่คือน้ำค้างวิญญาณที่เกิดจากการกลั่นตัวของไอหยินบริสุทธิ์ ช่วยฟื้นฟูพลังจิต"สุดท้ายนางหยิบใบไม้สีเขียวมรกตที่เปล่งประกายระยิบระยับ "ใบมรกตแสงสวรรค์ ช่วยปรับสมดุลพลังหยินหยางในร่างกาย"เฟิงหย่าเสวี่ยฟังอย่างตั้งใจ ขณะที่จวงหลิวเฟิงเริ่มวางสมุนไพรทั้งหมดลงบนโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ นางหยิบต้นไฟหงส์เพลิงขึ้นมา กลีบดอกที่เปล่งแสงสีทองอ่อนสั่นไหวราวกับเปลวไฟ “ต้นนี้ต้องใช้การควบคุมเปลวไฟที่แม่นยำ เจ้าจงเฝ้าดูและจดจำขั้นตอนของข้าให้ดี”จวงหลิวเฟิงเปิดฝาหม้อหลอม พลังปราณที่ไหลวนอยู่ในหม้อทำให้อุณหภูมิภายในเพิ่มขึ้น นางหย่อนกลีบดอกไฟหงส์เพลิงลงไป เปลวไฟสีทองพุ่งขึ้นมาแต่ถูกจวงหลิวเฟิงควบค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-18
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 144 อยากตอบแทนเจ้าด้วยร่างกาย

    บทที่ 144 อยากตอบแทนเจ้าด้วยร่างกายในค่ำคืนที่แสงจันทร์สาดส่องลงมาผ่านบานหน้าต่างอันเก่าแก่ ณ พระราชวังหลวงของแคว้นต้าหมิง ฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงนั่งอยู่หน้าโต๊ะไม้แกะสลัก ลมหนาวยามค่ำคืนพัดผ่าน ทำให้ชายเสื้อคลุมสีขาวที่ปักลวดลายมังกรทองพลิ้วไหวเล็กน้อย แต่สายตาของพระองค์กลับจดจ่ออยู่ที่กระจกวิเศษที่วางอยู่บนมือ และรอคอย…“คุณหลีหนิงครับ…” พระองค์เอ่ยชื่อของนางด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนจะเรียกหานางด้วยพลังแห่งกระจกทันใดนั้น ใบหน้าของเฟิงหย่าเสวี่ยก็ปรากฏขึ้นในกระจก นางสวมเสื้อคลุมเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความงามที่ยากจะละสายตา เส้นผมดำขลับของนางร่วงกราวลงมาราวกับม่านไหม ดวงตาของนางเปล่งประกายดุจดวงดาวในราตรี ริมฝีปากที่แต่งแต้มด้วยสีระเรื่อจากธรรมชาติทำให้พระองค์ต้องเผลอมองนานกว่าที่ตั้งใจ รอยยิ้มบางเบาของนางดุจกลีบดอกไม้แรกแย้มที่สะท้อนความงามในความเรียบง่ายทุกครั้งที่อยู่กันสองคน พระองค์มักจะทักทายนางด้วยชื่อหลีหนิงที่เคยใช้ในชาติเดิม และทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเดิมของนาง เฟิงหย่าเสวี่ยก็จะเผยรอยยิ้มอันอบอุ่นซึ่งทำให้หัวใจของเจิ้งอี้หลงกระตุกวูบ นางเองก็อดคิดถึงชื่อเดิมของตัวเองไม่ได้ ราวกับมันเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 145  นางพญาแห่งพิษ

    บทที่ 145 นางพญาแห่งพิษม่านหมอกสีเขียวอมดำค่อยๆ แผ่ขยายออกจากป่าทึบ เสียงกรีดร้องแหลมเล็กดังขึ้นเป็นระยะ ตามด้วยเสียงหัวเราะเย็นเยียบที่ทำให้ขนลุกซู่"อ๊ะ! น้องน้อย เจ้าจะวิ่งไปไหน?" เสียงหวานใสดั่งระฆังแก้วดังมาจากร่างในชุดม่วงเข้มที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้สูง ดวงหน้างามราวหยกขาวเปื้อนรอยยิ้มบางๆ ขณะที่นัยน์ตาคู่งามกลับเย็นชาดุจน้ำแข็งเด็กหญิงวัยสิบขวบในชุดขาววิ่งสะดุดล้มลงกับพื้น ร่างของนางสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองพื้นดินที่เย็นเยียบ ขาทั้งสองข้างชาและไร้เรี่ยวแรง ราวกับร่างกายปฏิเสธที่จะต่อสู้เพื่อหนีไปจากความสยดสยองนี้"ท่านแม่...ท่านพ่อ..." เสียงสั่นเครือของนางแผ่วเบาและแหบพร่า ราวกับถูกความสิ้นหวังกลืนกิน นางเรียกหาผู้ให้กำเนิดด้วยความหวังที่ริบหรี่ แต่ไม่มีสิ่งใดตอบรับกลับมา นอกจากความเงียบงันที่ทำให้ทุกอย่างดูน่าสลดสังเวชยิ่งขึ้น"พ่อแม่ของเจ้าน่ะหรือ?" ไป่เหลียนเอ่ยพลางดีดนิ้วเบาๆ งูเขียวตัวใหญ่เลื้อยลากร่างไร้วิญญาณสองร่างออกจากพุ่มไม้ ร่างกายของพวกเขาบิดเบี้ยวผิดรูป ดวงตากลวงโบ๋ไม่มีแววชีวิต เนื้อหนังเริ่มหลุดลอกเผยให้เห็นเส้นเลือดสีดำสนิทที่พาดผ่านอย่างน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19

บทล่าสุด

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ 3 บทส่งท้ายแห่งความสุข EP 2 NC...

    ตอนพิเศษ 3 บทส่งท้ายแห่งความสุข EP 2 NC...“…อา อื๊อ อี้หลง”เจิ้งอี้หลงใช้ความจัดเจนดูดดุนปลายลิ้นกับทรวงอกอวบสวยทำให้นางแอ่นหน้าอกขึ้นมาด้วยเสียวซ่าน ขณะที่มืออีกข้างก็เขี่ยคลึงเล่นไปที่ปลายถันที่ยังว่างอยู่จนยอดแข็งชันสู้มือหญิงสาวส่ายร่างบิดไปมาบนที่นอนด้วยด้วยความกระสันซ่าน อารมณ์ปรารถนาของนางถูกปลุกเร้าจนตื่นเพริศ เนื้อตัวเร่าร้อนไปหมดนางปรารถนาเขาจริงๆ ส่วนเจิ้งอี้หลงนั้น เมื่อหญิงสาวตอบสนองและไม่หวงเนื้อหวงตัว เขาจึงจัดเต็มตามอารมณ์ที่เก็บกดไว้ ริมฝีปากของเขาหยอกเย้าดูดดุนอยู่ที่ปลายถัน ส่วนมือก็บีบเค้นปทุมถันอวบใหญ่แรงขึ้นจนผิวขาวๆ เริ่มเป็นจ้ำสีแดงตามรอยมือและปาก จนเมื่อเขาละริมฝีปากจากปลายถันก็เล็มไล้ไต่ลงมาที่เนินหน้าท้อง แล้วซุกไซ้จมูกและปากอยู่ที่สะดือสวย ก่อนจะใช้นิ้วเลื่อนลูบไปที่เนินเนื้อโหนกนูนที่บิดส่ายอยู่ใต้ร่างเขา“อ๊า…อี้หลงค่ะ ฉัน..”หญิงสาวสะดุ้งเฮือกขึ้นมา แล้วจับข้อมือชายหนุ่มไว้ เจิ้งอี้หลงยกยิ้มที่มุมปากและค่อยดึงมือของเขาออก และยกมือของนางมาจูบและรวบดูดปลายนิ้วเล็กเรียวแสนสวยนั้นเสียเลย เฟิงหย่าเสวี่ยตัวอ่อนระรวย ไม่มีแรงที่จะห้ามปรามเขาเสียแล้ว… (เฮ้อช่าง

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ3 บทส่งท้ายแห่งความสุข ep 1

    ตอนพิเศษ3 บทส่งท้ายแห่งความสุข ep 1ค่ำคืนอันสดใสในฤดูใบไม้ผลิ ท้องฟ้ายามราตรีเหนือพระราชวังต้าหมิงสว่างไสวไปด้วยแสงประกายของดอกไม้ไฟที่พุ่งขึ้นสูง สาดส่องท้องฟ้าด้วยสีสันอันตระการตา เสียงเพลงบรรเลงจากเครื่องดนตรีพื้นบ้านผสมผสานกับเสียงปรบมือและเสียงหัวเราะของเหล่าประชาชนที่มารวมตัวกันอย่างคับคั่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและความปลื้มปีติภายในพระราชวังงานเฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปีแห่งการครองราชย์ของฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงกำลังดำเนินไปอย่างยิ่งใหญ่ ท้องพระโรงอันวิจิตรตระการตาประดับประดาไปด้วยโคมไฟหลากสี เสนาอำมาตย์และขุนนางจากทั้งแคว้นต้าหมิงและแคว้นต้าโจวต่างมาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อร่วมแสดงความยินดีและสรรเสริญความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสองแคว้นฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงประทับบนบัลลังก์แกะสลักมังกร พระพักตร์เปี่ยมด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ ขณะที่เฟิงฮองเฮา หรือเฟิงหย่าเสวี่ยนั่งเคียงข้างพระสวามี สวมอาภรณ์สีเหลือทองประดับประดาอย่างงดงามสมเกียรติสะท้อนความงดงามหยดย้อยของนางอย่างชัดเจน แววตาของนางแสดงถึงความมุ่งมั่นและความรักและความเมตตาที่มีต่อแผ่นดินและประชาชน"กระหม่อมขอกราบบังคมทูล" เสนาบดีอาวุ

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ 2  สองสุดยอดแพทย์แห่งยุค

    ตอนพิเศษ 2 สองสุดยอดแพทย์แห่งยุคภายในห้องผ่าตัดขนาดกลางที่ถูกดัดแปลงอย่างพิถีพิถัน แสงจากโคมไฟหลากดวงส่องรวมตรงกลาง เผยให้เห็นเตียงผ่าตัดที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บนเตียงมีชายชราผู้สูญเสียขาจากสงครามนอนหลับสนิทด้วยฤทธิ์ยาชา รอบข้างเต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ดูแปลกตาสำหรับแพทย์จำนวนไม่น้อยในยุคนี้วันนี้ถือเป็นวาระสำคัญที่หลายคนต่างพูดถึง เพราะจะมีการผ่าตัดเพื่อใส่ขาเทียมให้กับผู้ป่วยที่ขาพิการโดยผู้นำการผ่าตัดคือนายท่านเฟิงหยวนเจี๋ย คุณชายหมอเทวดาซึ่งกำลังมีชื่อเสียงขจรขจาย และถือเป็นคุณชายเนื้อหอมมากๆ ผู้หนึ่งของแคว้นต้าหมิง และอีกผู้ยิ่งใหญ่อีกผู้หนึ่งก็คือฮองเฮาเฟิงหย่าเสวี่ย ซึ่งแม้ร่างกายเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน แต่ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ของนางก็ไม่เป็นสองรองใคร และการผ่าตัดในครั้งนี้ก็เป็นการที่นางต้องการที่จะทำด้วย และวาระสำคัญเช่นนี้ฮ่องเต้ของทั้งสองแคว้นนั้นไม่รอช้าที่จะส่งนายแพทย์มาเพื่อศึกษาดูงาน ซึ่งฮองเฮาเฟิงนั้นก็ยินดีที่จะให้พวกเขาได้เรียนรู้ในการผ่าตัดครั้งนี้ด้วยเหล่าแพทย์ของจากทั้งสองแคว้นคือแคว้นต้าโจวและต้าหมิงรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ ทางด้านหลังเพื่อศึกษาขั้นตอนในก

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ ครอบครัวสุขสันต์

    ตอนพิเศษ ครอบครัวสุขสันต์หลังจากที่เฟิงหย่าเสวี่ยฟื้นคืนสติ ข่าวดีนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็วตอนนี้ทั้งประชาชนแคว้นอวี้ไห่และประชาชนแคว้นต้าหมิงต่างก็ความสุขที่ได้รับรู้ว่าเฟิงฮองเฮานั้นได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เมืองอวี้ไห่ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ดอกเหมยท้อบานสะพรั่งทั้งสวนส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ภายในสวนที่จัดแต่งเอาไว้อย่างงดงามนั้นมีเสียงหัวเราะและบทบทสนทนาของคนในครอบครัวเฟิงที่นั่งล้อมวงคุยกันอยู่ เฟิงหย่าเสวี่ยหลังจากฟื้นก็ได้รับการดูแลอย่างดีทั้งจากอาจารย์ของนาง ท่านป้าจวงและเฟิงหยวนเจี๋ยที่มักจะนำยาบำรุงชั้นเลิศที่เขาคิดค้นขึ้นมาสำหรับนางโดยเฉพาะมาให้ดื่มเสมอ ทำให้ร่างก่ายของนางนั้นแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว สมกับที่นางนั้นได้ตกอยู่ในมือของเหล่าหมอเทวดาจริงๆ"ท่านแม่" เฟิงหย่าเสวี่ยเอ่ยเรียกเฟิงซิ่งเหยาที่กำลังนั่งปักรองเท้าอยู่ในสวนดอกไม้ "ท่านแม่ดูอิ่มเอิบขึ้นมากเลยนะเจ้าคะ" เฟิงซิ่งเหยายิ้มอายๆ ขณะที่มือลูบท้องน้อยที่เริ่มนูนขึ้น"เสด็จพ่อของเจ้านี่สิ... ตั้งแต่รู้ว่าข้าตั้งครรภ์บุตรคนนี้ก็เอาแต่แพ้ท้องแทนข้า กินไม่ได้นอนไม่หลับวิงเวียนอยู่ตลอดเ

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 163  จนกว่าจะพบกัน.. (จบบริบูรณ์)

    บทที่ 163 จนกว่าจะพบกัน.. (จบบริบูรณ์)แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างโรงพยาบาลในยุคปัจจุบัน เฟิงหย่าเสวี่ยค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวากลับสับสนเล็กน้อย ราวกับจิตวิญญาณของนางยังคงล่องลอย เธอมองเพดานสีขาวสะอาดและพยายามดึงความทรงจำที่กระจัดกระจายกลับคืนมาเธอถูกพาออกจากโลกแห่งยุคโบราณและกลับมายังยุคปัจจุบัน ร่างกายของนางอ่อนแอแต่หัวใจของนางเต็มไปด้วยความทรงจำอันเจ็บปวด นางนึกถึงผู้คนที่นางได้ช่วยเหลือและเสียสละเพื่อพวกเขา นึกถึงท่านแม่และเจ้าเล็กหากว่าพวกเขารู้ข่าวจะเป็นอย่างไรนะ…คงจะเศร้าเสียใจอย่างแน่นอน..ไหนจะป้าจวงที่จะต้องรู้สึกผิดที่ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือนางได้ จากนั้นน้ำตาไหลของนางก็ออกมาเงียบๆ ขณะที่นางพึมพำชื่อคนที่คุ้นเคยจากโลกอีกใบหลังจากนั้น เฟิงหย่าเสวี่ยฟื้นตัวและกลับไปดำเนินชีวิตในฐานะจิตรกร นางใช้ศิลปะในการแสดงความรู้สึกและความทรงจำจากอดีต ทุกภาพที่นางวาดล้วนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการเสียสละและความหวัง นางกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียง ผู้คนต่างหลงใหลในผลงานของนางโดยไม่รู้ว่านั่นคือเศษเสี้ยวของชีวิตที่นางเคยผ่านพ้นมา แต่ทว่าพู่กันชิงหลงที่เธอใช

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 162 พี่ใหญ่...ท่านผิดสัญญาเช่นนั้นหรือ?

    บทที่ 162 พี่ใหญ่...ท่านผิดสัญญาเช่นนั้นหรือ?“จบแล้ว...” เฟิงหย่าเสวี่ยพึมพำ เสียงแผ่วบางราวกับสายลมที่พัดผ่านใบไม้ร่วง ร่างบางของนางค่อยๆ ทรุดลงกับพื้นอย่างช้าๆ ราวกับวิญญาณที่กำลังหลุดลอยไปจากโลกนี้“คุณหลีหนิง!” เสียงของเจิ้งอี้หลงดังขึ้นด้วยความตกใจ พระองค์รีบพุ่งเข้ามาประคองร่างของนางไว้ในอ้อมพระกร พระพักตร์ซีดเผือด น้ำพระเนตรเอ่อคลอ “คุณหลีหนิง! ลืมตาขึ้นมา! อย่าทิ้งข้าไปแบบนี้!”ดวงตาของเฟิงหย่าเสวี่ยค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างยากลำบาก เปลือกตาที่หนักอึ้งเผยให้เห็นดวงตาที่แฝงไว้ด้วยความอ่อนล้าและเศร้าสร้อย ริมฝีปากซีดเผือดสั่นระริก “อี้หลง... ข้า... ข้าเหนื่อยเหลือเกิน...”“ไม่เป็นไร ข้าอยู่ตรงนี้” เจิ้งอี้หลงพูดด้วยน้ำเสียงสั่น มือหนาลูบใบหน้าซีดขาวของนางอย่างอ่อนโยน ราวกับพยายามปลอบประโลมความเจ็บปวดของนาง “เจ้าอย่าพูดแบบนี้ เจ้าจะไม่เป็นอะไร ข้าสัญญา...”เฟิงหย่าเสวี่ยพยายามยกมือที่อ่อนแรงขึ้นแตะใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของเจิ่งอี้หลง มือที่เย็นเฉียบสั่นระริกจนเจิ้งอี้หลงรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง “ข้า... ใช้พลังทั้งหมดแล้ว... ทุกหยด... ตอนนี้ข้ารู้สึกเหมือน... เหมือนวิญญาณกำลังหลุดลอย

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 161 ข้าได้บอกเจ้าหรือยังว่าอาจารย์ของข้าคือ จวงหลิวเฟิง!!!

    บทที่ 161 ข้าได้บอกเจ้าหรือยังว่าอาจารย์ของข้าคือ จวงหลิวเฟิง!!!เฟิงหย่าเสวี่ยถูกกับไป่เหลียนใช้มีดจี้ที่คอและถูกจับเอาไว้ พยายามนิ่งมากที่สุดแม้ว่าตอนนี้นางแmบจะไม่มีแรงที่จะยืนแล้ว ขณะนั้นเองมือขวากำเข็มเงินแน่น สายตาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของอีกตนที่ตอนนี้ทุกคนต่างก็ล้อมไป่เหลียนเอาไว้ ทุกทางส่วนกองทัพเด็กของนางนั้นต่างก็ถูกช่วยเหลือและพาออกจากสถานที่นี้แล้ว ทำให้ตอนนี้กลางลานนั้นมีเพียงนางเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดอยู่พร้อมกับตัวประกันของนางที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดด้วย"เจ้าคิดว่าตัวเองจะหยุดข้าได้หรือ?" ไป่เหลียนเอ่ยเสียงเย็น พลางหันมองดวงหน้าที่งดงามของนังเด็กบ้าผู้นี้…เหตุใดนางถึงได้งดงามเช่นนี้แม้ว่าตอนนี้หน้าของนางจะซีดเซียวมากก็ตาม ไป่เหลียนคิด ดวงตาฉายแววอำมหิตขึ้นมาอีกครั้ง "เด็กน้อยอย่างเจ้า ช่างงดงามเสียจริงหากว่าความงามของเจ้าเป็นของข้าคงจะดีไม่น้อย ฮ่าฮ่าฮ่า!" นางพูดขึ้นมา พลางพยักหน้ากับความคิดของตัวเอง และคิดหาทางที่จะใช้ประโยชน์จากความเยาว์วัยนี้ให้ได้"ข้ารู้ว่าท่านกำลังทำผิด" เฟิงหย่าเสวี่ยตอบเสียงมั่นคง มือยังคงกำเข็มเงินแน่น "ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การทำร้ายผู้บริสุท

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 160  เจ้าแพ้แล้ว!!

    บทที่ 160 เจ้าแพ้แล้ว!!จวงหลิวอวี้จ้องมองเหตุการณ์ที่เบื้องหน้าอย่างแน่นิ่ง สายตาของนางจับจ้องเฟิงหย่าเสวี่ยที่ยกพู่กันชิงหลงขึ้นมา เสียงหัวใจเต้นหนักหน่วงในอกบอกให้นางรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก นางรีบพุ่งตัวเข้าหาหลานสาวทันที มือแข็งแรงคว้ามือที่กำพู่กันไว้แน่นก่อนที่จะทันได้วาดอะไรลงในอากาศ“อะไรก็ตามที่เจ้าคิดจะทำและเสียสละ...จงหยุดมันเดี๋ยวนี้!!!” จวงหลิวอวี้เอ่ยเสียงดัง สายตาของนางเต็มไปด้วยความกังวลและห่วงใยเฟิงหย่าเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมองป้าจวง ดวงตาคู่นั้นเปี่ยมไปด้วยความรักและเคารพที่นางมีต่อผู้ที่คอยปกป้องและดูแลมาตลอด ทว่าในแววตานั้นกลับแฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง“ท่านป้า...” เฟิงหย่าเสวี่ยพูดเสียงสั่น ดวงตาเริ่มเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา “ข้าขอโทษ...” คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความอาลัยจวงหลิวอวี้มองหลานสาวอย่างตกตะลึง นางยื่นมือไปจับใบหน้าของเฟิงหย่าเสวี่ย “เสวี่ยเออร์... เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เจ้าคือความหวังของตระกูลเฟิง! ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเสียสละตัวเองเด็ดขาด เจ้านึกถึงท่านแม่และน้องชายของเจ้าสิพวกเขาจะเป็นอย่างไร หากว่า

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 159  ฉันขอทำหน้าที่ของฮองเฮาที่กล้าเสียสละเพื่อลูกหลาน

    บทที่ 159 ฉันขอทำหน้าที่ของฮองเฮาที่กล้าเสียสละเพื่อลูกหลาน"และนี่คือผลงานชิ้นเอกของข้า!" ไป่เหลียนผายมือไปที่เด็กๆ "พิษที่ไม่เพียงทำลายร่างกาย แต่ยังบดขยี้จิตวิญญาณ ทำให้พ่อแม่ต้องเห็นลูกของตัวเองกลายเป็นเครื่องมือสังหาร! ความทรมานทั้งผู้ใช้และผู้ถูกใช้ นี่คือสิคือสิ่งที่เรียกว่าพิษที่ดีที่สุดที่ที่ข้าสามารถสร้างขึ้นมาได้ ไม่เพียงทำลายหนึ่งแต่ทำลายได้ทั้งครอบครัวฮ่าฮ่าฮ่า!" เสียงหัวเราะของนางดังลั่นไปทั่วเฟิงซินซินร้องไห้จ้า มือน้อยๆ กำพู่กันแน่นดวงตาเล็กๆ ของนางมองไปที่เหล่าเด็กๆ ที่ถูกทำให้กลายเป็นหุ่นเชิดเป็นร่างที่ไร้ชีวิต"นางสละความเป็นมนุษย์... แลกกับพลังแห่งความชั่วร้าย ยิ่งมีผู้ถูกพิษตาย พิษก็ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งมีผู้ทุกข์ทรมาน พิษก็ยิ่งร้ายกาจ... วงจรแห่งความชั่วร้ายที่ไม่มีวันสิ้นสุด!"จวงหลิงเฟิงสะท้านเฮือก "นี่มัน... เกินกว่าที่มนุษย์คนใดจะทำได้ไป่เหลียนเจ้านี่มันกู่ไม่กลับจริงๆ ไม่เคยสำนึกถึงความผิดของตัวเอง..""ฮ่าฮ่าฮ่า!!!นี่เจ้ารู้ได้อย่างไรเพื่อนรักว่าข้าไม่ใช่มนุษย์แล้ว!" ไป่เหลียนตะโกนก้องและหันมาจ้องมองเพื่อนรักในอดีตที่ได้กลายมาเป็นศัตรูคู่แค้น และเพราะความแค้น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status