แชร์

บทที่ 142  พืชผักวิญญาณ

ผู้เขียน: primพริมโรส
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-18 20:46:54

บทที่ 142 พืชผักวิญญาณ

หลังจากนั้นสองศิษย์อาจารย์ก็กลับมาที่คฤหาสน์ตระกูลเฟิงและจวงหลิวเฟิงก็เริ่มเตรียมบทเรียนขั้นต่อไปให้กับนาง

“วันนี้ ข้าจะสอนเจ้าเกี่ยวกับการเปลี่ยนพืชธรรมดาให้กลายเป็นพืชที่มีพลังวิญญาณ” จวงหลิวเฟิงกล่าว น้ำเสียงของนางหนักแน่นและจริงจัง

“พืชที่มีพลังวิญญาณ?” เฟิงหย่าเสวี่ยทวนคำอย่างสงสัย “ข้าเพียงเคยได้ยินเจ้าค่ะแต่ไม่รู้ว่ามันคืออะไร?”

จวงหลิวเฟิงพานางไปที่แปลงพืชผักเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกล “เจ้ารู้หรือไม่ว่าธรรมชาติเป็นแหล่งพลังอันลึกล้ำที่สุด? ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในธรรมชาติล้วนมีความเชื่อมโยงกับพลังแห่งชีวิต หากเจ้าสามารถใช้พลังของหัตถ์เทวะควบคู่กับจิตใจที่บริสุทธิ์ เจ้าก็สามารถเปลี่ยนพืชธรรมดาให้กลายเป็นพืชที่เต็มไปด้วยพลังวิญญาณได้”

เฟิงหย่าเสวี่ยพยักหน้า นางมองตามสายตาของป้าใหญ่ไปยังแปลงพืชที่เต็มไปด้วยต้นสมุนไพรหลากชนิด ใบไม้สีเขียวสดสะท้อนแสงแดดยามเช้าอย่างงดงาม

“ข้าอยากเรียนรู้เจ้าค่ะท่านอาจารย์ ข้าต้องทำอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” เฟิงหย่าเสวี่ยถามอย่างกระตือรือร้น

จวงหลิวเฟิงก้าวไปที่แปลงพืช และยื่นมือไปสัมผัสต้นโหระพาที่ดูธรรมดา นางปล่อยพลังจากฝ่ามือออกมาเบาๆ แสงสี
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่143  ปรุงยาและเรียนวรยุทธ์

    บทที่143 ปรุงยาและเรียนวรยุทธ์"วันนี้ข้าจะสอนเจ้าปรุงยาวิเศษที่จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกายและความจำของเจ้า" จวงหลิวอวี้กล่าวพร้อมเปิดกล่องไม้เก่าแก่ที่บรรจุสมุนไพรหายาก กลิ่นหอมสดชื่นลอยฟุ้งไปทั่วห้องหยิบสมุนไพรชิ้นแรกขึ้นมา เป็นดอกไม้สีแดงสดที่เปล่งแสงวูบวาบ "นี่คือดอกไฟหงส์ สมุนไพรวิญญาณที่เกิดจากเปลวเพลิงของหงส์ มีพลังในการเสริมความแข็งแกร่งให้ร่างกาย"จากนั้นนางหยิบขวดแก้วใสที่มีหยดน้ำใสราวกับคริสตัล "นี่คือน้ำค้างวิญญาณที่เกิดจากการกลั่นตัวของไอหยินบริสุทธิ์ ช่วยฟื้นฟูพลังจิต"สุดท้ายนางหยิบใบไม้สีเขียวมรกตที่เปล่งประกายระยิบระยับ "ใบมรกตแสงสวรรค์ ช่วยปรับสมดุลพลังหยินหยางในร่างกาย"เฟิงหย่าเสวี่ยฟังอย่างตั้งใจ ขณะที่จวงหลิวเฟิงเริ่มวางสมุนไพรทั้งหมดลงบนโต๊ะไม้ขนาดใหญ่ นางหยิบต้นไฟหงส์เพลิงขึ้นมา กลีบดอกที่เปล่งแสงสีทองอ่อนสั่นไหวราวกับเปลวไฟ “ต้นนี้ต้องใช้การควบคุมเปลวไฟที่แม่นยำ เจ้าจงเฝ้าดูและจดจำขั้นตอนของข้าให้ดี”จวงหลิวเฟิงเปิดฝาหม้อหลอม พลังปราณที่ไหลวนอยู่ในหม้อทำให้อุณหภูมิภายในเพิ่มขึ้น นางหย่อนกลีบดอกไฟหงส์เพลิงลงไป เปลวไฟสีทองพุ่งขึ้นมาแต่ถูกจวงหลิวเฟิงควบค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-18
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 144 อยากตอบแทนเจ้าด้วยร่างกาย

    บทที่ 144 อยากตอบแทนเจ้าด้วยร่างกายในค่ำคืนที่แสงจันทร์สาดส่องลงมาผ่านบานหน้าต่างอันเก่าแก่ ณ พระราชวังหลวงของแคว้นต้าหมิง ฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงนั่งอยู่หน้าโต๊ะไม้แกะสลัก ลมหนาวยามค่ำคืนพัดผ่าน ทำให้ชายเสื้อคลุมสีขาวที่ปักลวดลายมังกรทองพลิ้วไหวเล็กน้อย แต่สายตาของพระองค์กลับจดจ่ออยู่ที่กระจกวิเศษที่วางอยู่บนมือ และรอคอย…“คุณหลีหนิงครับ…” พระองค์เอ่ยชื่อของนางด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลก่อนจะเรียกหานางด้วยพลังแห่งกระจกทันใดนั้น ใบหน้าของเฟิงหย่าเสวี่ยก็ปรากฏขึ้นในกระจก นางสวมเสื้อคลุมเรียบง่ายแต่แฝงด้วยความงามที่ยากจะละสายตา เส้นผมดำขลับของนางร่วงกราวลงมาราวกับม่านไหม ดวงตาของนางเปล่งประกายดุจดวงดาวในราตรี ริมฝีปากที่แต่งแต้มด้วยสีระเรื่อจากธรรมชาติทำให้พระองค์ต้องเผลอมองนานกว่าที่ตั้งใจ รอยยิ้มบางเบาของนางดุจกลีบดอกไม้แรกแย้มที่สะท้อนความงามในความเรียบง่ายทุกครั้งที่อยู่กันสองคน พระองค์มักจะทักทายนางด้วยชื่อหลีหนิงที่เคยใช้ในชาติเดิม และทุกครั้งที่ได้ยินชื่อเดิมของนาง เฟิงหย่าเสวี่ยก็จะเผยรอยยิ้มอันอบอุ่นซึ่งทำให้หัวใจของเจิ้งอี้หลงกระตุกวูบ นางเองก็อดคิดถึงชื่อเดิมของตัวเองไม่ได้ ราวกับมันเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 145  นางพญาแห่งพิษ

    บทที่ 145 นางพญาแห่งพิษม่านหมอกสีเขียวอมดำค่อยๆ แผ่ขยายออกจากป่าทึบ เสียงกรีดร้องแหลมเล็กดังขึ้นเป็นระยะ ตามด้วยเสียงหัวเราะเย็นเยียบที่ทำให้ขนลุกซู่"อ๊ะ! น้องน้อย เจ้าจะวิ่งไปไหน?" เสียงหวานใสดั่งระฆังแก้วดังมาจากร่างในชุดม่วงเข้มที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้สูง ดวงหน้างามราวหยกขาวเปื้อนรอยยิ้มบางๆ ขณะที่นัยน์ตาคู่งามกลับเย็นชาดุจน้ำแข็งเด็กหญิงวัยสิบขวบในชุดขาววิ่งสะดุดล้มลงกับพื้น ร่างของนางสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ดวงตาเบิกกว้างจ้องมองพื้นดินที่เย็นเยียบ ขาทั้งสองข้างชาและไร้เรี่ยวแรง ราวกับร่างกายปฏิเสธที่จะต่อสู้เพื่อหนีไปจากความสยดสยองนี้"ท่านแม่...ท่านพ่อ..." เสียงสั่นเครือของนางแผ่วเบาและแหบพร่า ราวกับถูกความสิ้นหวังกลืนกิน นางเรียกหาผู้ให้กำเนิดด้วยความหวังที่ริบหรี่ แต่ไม่มีสิ่งใดตอบรับกลับมา นอกจากความเงียบงันที่ทำให้ทุกอย่างดูน่าสลดสังเวชยิ่งขึ้น"พ่อแม่ของเจ้าน่ะหรือ?" ไป่เหลียนเอ่ยพลางดีดนิ้วเบาๆ งูเขียวตัวใหญ่เลื้อยลากร่างไร้วิญญาณสองร่างออกจากพุ่มไม้ ร่างกายของพวกเขาบิดเบี้ยวผิดรูป ดวงตากลวงโบ๋ไม่มีแววชีวิต เนื้อหนังเริ่มหลุดลอกเผยให้เห็นเส้นเลือดสีดำสนิทที่พาดผ่านอย่างน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 146 ปฐมบทแห่งความแค้นของไป่เหลียน EP 1

    บทที่ 146 ปฐมบทแห่งความแค้นของไป่เหลียน EP 1ยามเช้าตรู่บนเทือกเขายอดเขาหมื่นพิษหมอกขาวลอยอ้อยอิ่งจนแทบแยกไม่ออกว่าอันไหนคือเมฆ อันไหนคือหมอกเหนือไหล่เขา ที่นี่เป็นที่ตั้งของสำนักเทียนซี ก่อตั้งโดย ไป่เฉียน เจ้าสำนักสตรีมากบารมี ผู้มีฝีมือโดดเด่นด้านการปรุงพิษและรักษาโรคได้อย่างน่าทึ่ง ว่ากันว่าไป่เฉียนเชี่ยวชาญศาสตร์พิษล้ำลึกจนสามารถพลิกแพลงให้กลายเป็นยาถอนพิษหรือเปลี่ยนเป็นอาวุธสังหารในชั่วพริบตา สำหรับศิษย์ในซึ่งเป็น ลูกศิษย์สายตรง ศิษย์เอกของไป่เฉียน การเรียนรู้กับนางจึงเสมือนได้เปิดประตูสู่โลกใหม่ที่ผสมผสาน ชีวิตกับความตายเข้าไว้ในวิชาเดียววันนี้ ในห้องทดลองใต้ดินอันลึกลับของสำนักเทียนซี มีเพียงแสงสว่างจากตะเกียงน้ำมันบาง ๆ และกลิ่นฉุนของไอระเหยของสมุนไพรพิษนาๆ ชนิด เสียงเดือดปุด ๆ ของหม้อทองเหลืองขนาดใหญ่ กลายเป็นดนตรีพื้นหลังที่ฟังดูชวนขนลุก ไป่เฉียน เจ้าสำนักผู้สูงศักดิ์อยู่ในอาภรณ์สีเขียวแก่ บนชายแขนเสื้อปักลายเถาวัลย์ดำลึกลับ ผมยาวดำขลับถูกรวบขึ้นอย่างประณีต ดวงตาของนางส่องประกายเย็นเยียบไม่ต่างจากงูเห่าที่จ้องเหยื่อ“พิษคือศาสตร์แห่งชีวิตและความตาย…” นางกล่าวเสียงแผ่วแต่

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-19
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 147 ปฐมบทแห่งความแค้นของไป่เหลียน EP2

    บทที่ 147 ปฐมบทแห่งความแค้นของไป่เหลียน EP2เมื่อศิษย์สำนักเทียนซีพิษต้านไม่ไหว พวกเขาค่อย ๆ ถอยร่นไปยังส่วนในสุดของสำนักซึ่งเป็นห้องทดลองใต้ดินขนาดใหญ่ ไร้ทางหนี พายุฝนโหมกระหน่ำ เสียงฟ้าร้องสั่นสะเทือนจิตใจไม่หยุด ไป่เฉียน หัวเสียและบาดเจ็บไม่น้อย แต่นางยังฝืนสั่งการ“ไป่เหลียน ไป่หรง ตามข้ามา!” นางกระซิบแผ่ว ๆ เค้นปราณกดแผลที่ต้นแขน “เราจะใช้ ‘พิษมารกินวิญญาณ’ ปกป้องที่นี่ ถึงพวกมันจะมามากแค่ไหน ก็หนีความตายไม่พ้น!”ในสุดของห้องทดลองใต้ดิน อาบด้วยแสงประหลาดสีเขียวมรกตที่มาจากหม้อต้มพิษยักษ์ เขม่าพิษล่องลอยดั่งม่านหมอก เหยื่อทดลองหลายคนยังถูกขังตามกรงเหล็ก สภาพสะบักสะบอมใกล้ตายเต็มที พันธมิตรสำนักบุกทะลวงมาถึงที่นี่ก็แทบสติแตก บ้างไม่เคยเห็นภาพโหดร้ายขนาดนี้มาก่อนและแล้ว เสียงกรีดร้องของผู้คน ผสมกับเสียงหัวเราะแหบพร่าอย่างบ้าคลั่งของ ไป่เฉียน ปะทะโสตประสาททุกคน“มากันแล้วหรือ! เช่นนั้นจงรับความตายเป็นของขวัญจากสำนักเทียนซีพิษเถอะ!!”ทันใดนั้น นางและสองศิษย์รักก็รวมพลังเท “พิษมารกินวิญญาณ” ลงในกระแสลมและใช้ลมปราณทำให้มันกระจายไปทั่ว สีเขียวเข้มปนดำ กระจายวงกว้างราวสายหมอกปีศาจ พวกยอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 148  อันตรายที่คืบคลานเข้ามา

    บทที่ 148 อันตรายที่คืบคลานเข้ามาเช้าวันต่อมาเฟิงหย่าเสวี่ยก็มาให้ท่านอาจารย์ของนางที่เรือนพักที่จัดให้พิเศษที่คฤหาสน์เฟิง จากนั้นนางก็เล่าอาการของโรคที่กำลังระบายอยู่ที่แคว้นต้าหมิงให้นางได้ทราบ จวงหลิวเฟิงนั้นเมื่อได้ทราบอาการที่โรคแพร่กระจายทำให้นางนึกถึงคนผู้หนึ่งที่เก่งกาจด้านสร้างพิษร้ายคนผู้นั้น ที่เคยเป็นเพื่อนรักกับนางในวัยเยาว์...ไป่เหลียน... จวงหลิวเฟิงนิ่งคิดถึงเรื่องราวในอดีต ภาพความทรงจำของไป่เหลียนผุดขึ้นในความคิด เพื่อนรักผู้เชี่ยวชาญด้านการปรุงยาพิษ นางจำได้ดีถึงว่า ไป่เหลียนมีพรสวรรค์พิเศษในการผสมสมุนไพรและสร้างยาพิษชนิดแปลกใหม่มากจนกระทั่ง…."อาการของโรคร้ายที่ระบาดนี่..." จวงหลิวเฟิงเหมอมองออกไปนอกหน้าต่างเหมือนกันกำลังหวนคิดคำนึงถึงบางสิ่งบางอย่าง จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาว่า"มันคล้ายกับตำรับยาพิษที่คนผู้หนึ่งเคยทดลองทำ" เฟิงหย่าเสวี่ยหันมามองด้วยความสนใจ"ท่านอาจารย์รู้จักผู้ที่สามารถที่ทำยาพิษที่อันตรายและน่ากลัวแบบนี้หรือเจ้าคะ?"จวงหลิวเฟิงพยักหน้าช้าๆ "นางชื่อไป่เหลียน... นางเป็นสหายรักในวัยเยาว์ของข้าและท่านป้าจวงของเจ้า เราเคยศึกษาวิชาแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 149  รับภารกิจจากฮ่องเต้

    บทที่ 149 รับภารกิจจากฮ่องเต้ณ ท้องพระโรงวังหลวงแคว้นต้าโจวในห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ฮ่องเต้แห่งแคว้นต้าโจวนั่งอยู่บนบัลลังก์ทองคำ ใบหน้าทรงอำนาจสะท้อนความกังวลเล็กน้อย ใกล้ๆ กันนั้น ชินอ๋องน้องชาย ผู้ทรงสง่างามด้วยชุดขุนนางและสายตาที่เฉียบแหลม กำลังครุ่นคิดถึงสถานการณ์ที่ได้รับรายงานเมื่อเช้านี้จากเฟิงหย่าเสวี่ยที่ตอนนี้ได้กลายเป็นลูกเลี้ยงของเขา และดูเหมือนว่าฮ่องเต้นั้นอยากจะแต่งตั้งพวกนางเป็นท่านชายและท่านหญิงด้วยเพราะความสามารถที่มากมายของสองพี่น้องตระกูลเฟิง ซึ่งเขานั้นก็ย่อมเห็นด้วยอยู่แล้วเพียงแต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ขณะที่แม่ทัพซู่หลิงรอฟังการประชุมอย่างสงบนิ่ง ทว่าสายตาของเขานั้นไม่ได้ห่างจะฮูหยินของเขาเลย ช่างประจวบเหมาะราวกับเรื่องราวเอาไว้ (โดยไรท์) เมื่อเฟิงหย่าเสวี่ยและจวงหลิวอวี้มาถึงเมืองหลวง พวกนางก็ถูกเรียกเข้าเฝ้าทันที"ท่านหมอหัตถ์เทวะ" ฮ่องเต้ตรัสเสียงเย็นแต่ทว่ายังคงมีความนับถือและยำเกรงเมื่อเอ่ยทักทายจวงหลิวอวี้ เพราะว่าตอนนี้สถานะของนางนั้นทั้งเป็นหมอหัตถ์เทวะที่เก่งกาจและยังเป็นฮูหยินของท่านแม่ทัพใหญ่ซู่หลิง จากนั้นก็เอ่ยทักทายเฟิงหย่าเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-20
  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 150  แสดงฝีมือให้ท่านแม่ชม

    บทที่ 150 แสดงฝีมือให้ท่านแม่ชมหลังจากกลับจากวัง เฟิงหย่าเสวี่ยก็ตรงมาที่วังหย่งเฮ่าและได้บอกกล่าวเรื่องการได้รับภาริกิจจากฮ่องเต้ให้ไปแคว้นต้าหมิงกับท่านแม่ของนางทันที ซึ่งพระชายาเฟิงนั้นถึงแม้จะเป็นห่วงบุตรสาวมาก แต่ก็ไม่อาจที่จะขัดพระบัญชาของฮ่องเต้ได้ และอีกประการหนึ่งคือ เฟิงหย่าเสวี่ยนั้นได้แสดงวิชาต่างๆ ทั้งวรยุทธ์และการปลุกพืชพรรณวิญญาณชั้นสูงที่อาจารย์ของนางจวงหลิวเฟิงสอนมาและในตอนท้ายนางยังได้แสดงถึงวิชาป้องกันพิษที่ได้เรียนมาอีกด้วย"ท่านแม่เจ้าคะ" เฟิงหย่าเสวี่ยนั่งตรงหน้าพระชายาเฟิง "ลูกได้รับพระบัญชาจากฮ่องเต้ให้เดินทางไปแคว้นต้าหมิงพร้อมกับท่านป้าจวงเจ้าค่ะ" นางเริ่มทันที เพราะนางยังต้องเตรียมของอีกมากที่จะไปในครั้งนี้ แต่ก็ต้องบอกกล่าวนางเพราะไม่อยากให้นางเป็นห่วงนั้นเองพระชายาเฟิงสีหน้าเป็นกังวลทันที "เหตุใดจึงต้องเป็นเจ้า? แคว้นต้าหมิงกำลังมีโรคร้ายระบาด เจ้าจะไปเสี่ยงอันตรายได้อย่างไร?""ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงเจ้าค่ะ " เฟิงหย่าเสวี่ยลุกขึ้นยืน "ลูกจะแสดงให้ท่านแม่เห็นว่าลูกสามารถดูแลตัวเองได้" เพื่อความสบายใจของท่านแม่ของนาง เฟิงหย่าเสวี่ยจึงจำเป็นต้องแสดงฝีมือให

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-21

บทล่าสุด

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ 3 บทส่งท้ายแห่งความสุข EP 2 NC...

    ตอนพิเศษ 3 บทส่งท้ายแห่งความสุข EP 2 NC...“…อา อื๊อ อี้หลง”เจิ้งอี้หลงใช้ความจัดเจนดูดดุนปลายลิ้นกับทรวงอกอวบสวยทำให้นางแอ่นหน้าอกขึ้นมาด้วยเสียวซ่าน ขณะที่มืออีกข้างก็เขี่ยคลึงเล่นไปที่ปลายถันที่ยังว่างอยู่จนยอดแข็งชันสู้มือหญิงสาวส่ายร่างบิดไปมาบนที่นอนด้วยด้วยความกระสันซ่าน อารมณ์ปรารถนาของนางถูกปลุกเร้าจนตื่นเพริศ เนื้อตัวเร่าร้อนไปหมดนางปรารถนาเขาจริงๆ ส่วนเจิ้งอี้หลงนั้น เมื่อหญิงสาวตอบสนองและไม่หวงเนื้อหวงตัว เขาจึงจัดเต็มตามอารมณ์ที่เก็บกดไว้ ริมฝีปากของเขาหยอกเย้าดูดดุนอยู่ที่ปลายถัน ส่วนมือก็บีบเค้นปทุมถันอวบใหญ่แรงขึ้นจนผิวขาวๆ เริ่มเป็นจ้ำสีแดงตามรอยมือและปาก จนเมื่อเขาละริมฝีปากจากปลายถันก็เล็มไล้ไต่ลงมาที่เนินหน้าท้อง แล้วซุกไซ้จมูกและปากอยู่ที่สะดือสวย ก่อนจะใช้นิ้วเลื่อนลูบไปที่เนินเนื้อโหนกนูนที่บิดส่ายอยู่ใต้ร่างเขา“อ๊า…อี้หลงค่ะ ฉัน..”หญิงสาวสะดุ้งเฮือกขึ้นมา แล้วจับข้อมือชายหนุ่มไว้ เจิ้งอี้หลงยกยิ้มที่มุมปากและค่อยดึงมือของเขาออก และยกมือของนางมาจูบและรวบดูดปลายนิ้วเล็กเรียวแสนสวยนั้นเสียเลย เฟิงหย่าเสวี่ยตัวอ่อนระรวย ไม่มีแรงที่จะห้ามปรามเขาเสียแล้ว… (เฮ้อช่าง

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ3 บทส่งท้ายแห่งความสุข ep 1

    ตอนพิเศษ3 บทส่งท้ายแห่งความสุข ep 1ค่ำคืนอันสดใสในฤดูใบไม้ผลิ ท้องฟ้ายามราตรีเหนือพระราชวังต้าหมิงสว่างไสวไปด้วยแสงประกายของดอกไม้ไฟที่พุ่งขึ้นสูง สาดส่องท้องฟ้าด้วยสีสันอันตระการตา เสียงเพลงบรรเลงจากเครื่องดนตรีพื้นบ้านผสมผสานกับเสียงปรบมือและเสียงหัวเราะของเหล่าประชาชนที่มารวมตัวกันอย่างคับคั่ง บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุขและความปลื้มปีติภายในพระราชวังงานเฉลิมฉลองครบรอบ 5 ปีแห่งการครองราชย์ของฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงกำลังดำเนินไปอย่างยิ่งใหญ่ ท้องพระโรงอันวิจิตรตระการตาประดับประดาไปด้วยโคมไฟหลากสี เสนาอำมาตย์และขุนนางจากทั้งแคว้นต้าหมิงและแคว้นต้าโจวต่างมาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพรียง เพื่อร่วมแสดงความยินดีและสรรเสริญความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสองแคว้นฮ่องเต้เจิ้งอี้หลงประทับบนบัลลังก์แกะสลักมังกร พระพักตร์เปี่ยมด้วยความสุขและความภาคภูมิใจ ขณะที่เฟิงฮองเฮา หรือเฟิงหย่าเสวี่ยนั่งเคียงข้างพระสวามี สวมอาภรณ์สีเหลือทองประดับประดาอย่างงดงามสมเกียรติสะท้อนความงดงามหยดย้อยของนางอย่างชัดเจน แววตาของนางแสดงถึงความมุ่งมั่นและความรักและความเมตตาที่มีต่อแผ่นดินและประชาชน"กระหม่อมขอกราบบังคมทูล" เสนาบดีอาวุ

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ 2  สองสุดยอดแพทย์แห่งยุค

    ตอนพิเศษ 2 สองสุดยอดแพทย์แห่งยุคภายในห้องผ่าตัดขนาดกลางที่ถูกดัดแปลงอย่างพิถีพิถัน แสงจากโคมไฟหลากดวงส่องรวมตรงกลาง เผยให้เห็นเตียงผ่าตัดที่ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ บนเตียงมีชายชราผู้สูญเสียขาจากสงครามนอนหลับสนิทด้วยฤทธิ์ยาชา รอบข้างเต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ที่ดูแปลกตาสำหรับแพทย์จำนวนไม่น้อยในยุคนี้วันนี้ถือเป็นวาระสำคัญที่หลายคนต่างพูดถึง เพราะจะมีการผ่าตัดเพื่อใส่ขาเทียมให้กับผู้ป่วยที่ขาพิการโดยผู้นำการผ่าตัดคือนายท่านเฟิงหยวนเจี๋ย คุณชายหมอเทวดาซึ่งกำลังมีชื่อเสียงขจรขจาย และถือเป็นคุณชายเนื้อหอมมากๆ ผู้หนึ่งของแคว้นต้าหมิง และอีกผู้ยิ่งใหญ่อีกผู้หนึ่งก็คือฮองเฮาเฟิงหย่าเสวี่ย ซึ่งแม้ร่างกายเพิ่งฟื้นตัวได้ไม่นาน แต่ความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ของนางก็ไม่เป็นสองรองใคร และการผ่าตัดในครั้งนี้ก็เป็นการที่นางต้องการที่จะทำด้วย และวาระสำคัญเช่นนี้ฮ่องเต้ของทั้งสองแคว้นนั้นไม่รอช้าที่จะส่งนายแพทย์มาเพื่อศึกษาดูงาน ซึ่งฮองเฮาเฟิงนั้นก็ยินดีที่จะให้พวกเขาได้เรียนรู้ในการผ่าตัดครั้งนี้ด้วยเหล่าแพทย์ของจากทั้งสองแคว้นคือแคว้นต้าโจวและต้าหมิงรวมตัวกันอยู่รอบ ๆ ทางด้านหลังเพื่อศึกษาขั้นตอนในก

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   ตอนพิเศษ ครอบครัวสุขสันต์

    ตอนพิเศษ ครอบครัวสุขสันต์หลังจากที่เฟิงหย่าเสวี่ยฟื้นคืนสติ ข่าวดีนี้ได้แพร่กระจายไปทั่วอย่างรวดเร็วตอนนี้ทั้งประชาชนแคว้นอวี้ไห่และประชาชนแคว้นต้าหมิงต่างก็ความสุขที่ได้รับรู้ว่าเฟิงฮองเฮานั้นได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เมืองอวี้ไห่ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส ดอกเหมยท้อบานสะพรั่งทั้งสวนส่งกลิ่นหอมไปทั่ว ภายในสวนที่จัดแต่งเอาไว้อย่างงดงามนั้นมีเสียงหัวเราะและบทบทสนทนาของคนในครอบครัวเฟิงที่นั่งล้อมวงคุยกันอยู่ เฟิงหย่าเสวี่ยหลังจากฟื้นก็ได้รับการดูแลอย่างดีทั้งจากอาจารย์ของนาง ท่านป้าจวงและเฟิงหยวนเจี๋ยที่มักจะนำยาบำรุงชั้นเลิศที่เขาคิดค้นขึ้นมาสำหรับนางโดยเฉพาะมาให้ดื่มเสมอ ทำให้ร่างก่ายของนางนั้นแข็งแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว สมกับที่นางนั้นได้ตกอยู่ในมือของเหล่าหมอเทวดาจริงๆ"ท่านแม่" เฟิงหย่าเสวี่ยเอ่ยเรียกเฟิงซิ่งเหยาที่กำลังนั่งปักรองเท้าอยู่ในสวนดอกไม้ "ท่านแม่ดูอิ่มเอิบขึ้นมากเลยนะเจ้าคะ" เฟิงซิ่งเหยายิ้มอายๆ ขณะที่มือลูบท้องน้อยที่เริ่มนูนขึ้น"เสด็จพ่อของเจ้านี่สิ... ตั้งแต่รู้ว่าข้าตั้งครรภ์บุตรคนนี้ก็เอาแต่แพ้ท้องแทนข้า กินไม่ได้นอนไม่หลับวิงเวียนอยู่ตลอดเ

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 163  จนกว่าจะพบกัน.. (จบบริบูรณ์)

    บทที่ 163 จนกว่าจะพบกัน.. (จบบริบูรณ์)แสงแดดยามเช้าสาดส่องเข้ามาผ่านหน้าต่างโรงพยาบาลในยุคปัจจุบัน เฟิงหย่าเสวี่ยค่อยๆ ลืมตาขึ้น ดวงตาที่เคยเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวากลับสับสนเล็กน้อย ราวกับจิตวิญญาณของนางยังคงล่องลอย เธอมองเพดานสีขาวสะอาดและพยายามดึงความทรงจำที่กระจัดกระจายกลับคืนมาเธอถูกพาออกจากโลกแห่งยุคโบราณและกลับมายังยุคปัจจุบัน ร่างกายของนางอ่อนแอแต่หัวใจของนางเต็มไปด้วยความทรงจำอันเจ็บปวด นางนึกถึงผู้คนที่นางได้ช่วยเหลือและเสียสละเพื่อพวกเขา นึกถึงท่านแม่และเจ้าเล็กหากว่าพวกเขารู้ข่าวจะเป็นอย่างไรนะ…คงจะเศร้าเสียใจอย่างแน่นอน..ไหนจะป้าจวงที่จะต้องรู้สึกผิดที่ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือนางได้ จากนั้นน้ำตาไหลของนางก็ออกมาเงียบๆ ขณะที่นางพึมพำชื่อคนที่คุ้นเคยจากโลกอีกใบหลังจากนั้น เฟิงหย่าเสวี่ยฟื้นตัวและกลับไปดำเนินชีวิตในฐานะจิตรกร นางใช้ศิลปะในการแสดงความรู้สึกและความทรงจำจากอดีต ทุกภาพที่นางวาดล้วนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งการเสียสละและความหวัง นางกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียง ผู้คนต่างหลงใหลในผลงานของนางโดยไม่รู้ว่านั่นคือเศษเสี้ยวของชีวิตที่นางเคยผ่านพ้นมา แต่ทว่าพู่กันชิงหลงที่เธอใช

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 162 พี่ใหญ่...ท่านผิดสัญญาเช่นนั้นหรือ?

    บทที่ 162 พี่ใหญ่...ท่านผิดสัญญาเช่นนั้นหรือ?“จบแล้ว...” เฟิงหย่าเสวี่ยพึมพำ เสียงแผ่วบางราวกับสายลมที่พัดผ่านใบไม้ร่วง ร่างบางของนางค่อยๆ ทรุดลงกับพื้นอย่างช้าๆ ราวกับวิญญาณที่กำลังหลุดลอยไปจากโลกนี้“คุณหลีหนิง!” เสียงของเจิ้งอี้หลงดังขึ้นด้วยความตกใจ พระองค์รีบพุ่งเข้ามาประคองร่างของนางไว้ในอ้อมพระกร พระพักตร์ซีดเผือด น้ำพระเนตรเอ่อคลอ “คุณหลีหนิง! ลืมตาขึ้นมา! อย่าทิ้งข้าไปแบบนี้!”ดวงตาของเฟิงหย่าเสวี่ยค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างยากลำบาก เปลือกตาที่หนักอึ้งเผยให้เห็นดวงตาที่แฝงไว้ด้วยความอ่อนล้าและเศร้าสร้อย ริมฝีปากซีดเผือดสั่นระริก “อี้หลง... ข้า... ข้าเหนื่อยเหลือเกิน...”“ไม่เป็นไร ข้าอยู่ตรงนี้” เจิ้งอี้หลงพูดด้วยน้ำเสียงสั่น มือหนาลูบใบหน้าซีดขาวของนางอย่างอ่อนโยน ราวกับพยายามปลอบประโลมความเจ็บปวดของนาง “เจ้าอย่าพูดแบบนี้ เจ้าจะไม่เป็นอะไร ข้าสัญญา...”เฟิงหย่าเสวี่ยพยายามยกมือที่อ่อนแรงขึ้นแตะใบหน้าที่แสนหล่อเหลาของเจิ่งอี้หลง มือที่เย็นเฉียบสั่นระริกจนเจิ้งอี้หลงรู้สึกได้ถึงความสิ้นหวัง “ข้า... ใช้พลังทั้งหมดแล้ว... ทุกหยด... ตอนนี้ข้ารู้สึกเหมือน... เหมือนวิญญาณกำลังหลุดลอย

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 161 ข้าได้บอกเจ้าหรือยังว่าอาจารย์ของข้าคือ จวงหลิวเฟิง!!!

    บทที่ 161 ข้าได้บอกเจ้าหรือยังว่าอาจารย์ของข้าคือ จวงหลิวเฟิง!!!เฟิงหย่าเสวี่ยถูกกับไป่เหลียนใช้มีดจี้ที่คอและถูกจับเอาไว้ พยายามนิ่งมากที่สุดแม้ว่าตอนนี้นางแmบจะไม่มีแรงที่จะยืนแล้ว ขณะนั้นเองมือขวากำเข็มเงินแน่น สายตาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของอีกตนที่ตอนนี้ทุกคนต่างก็ล้อมไป่เหลียนเอาไว้ ทุกทางส่วนกองทัพเด็กของนางนั้นต่างก็ถูกช่วยเหลือและพาออกจากสถานที่นี้แล้ว ทำให้ตอนนี้กลางลานนั้นมีเพียงนางเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดอยู่พร้อมกับตัวประกันของนางที่เป็นคนที่สำคัญที่สุดด้วย"เจ้าคิดว่าตัวเองจะหยุดข้าได้หรือ?" ไป่เหลียนเอ่ยเสียงเย็น พลางหันมองดวงหน้าที่งดงามของนังเด็กบ้าผู้นี้…เหตุใดนางถึงได้งดงามเช่นนี้แม้ว่าตอนนี้หน้าของนางจะซีดเซียวมากก็ตาม ไป่เหลียนคิด ดวงตาฉายแววอำมหิตขึ้นมาอีกครั้ง "เด็กน้อยอย่างเจ้า ช่างงดงามเสียจริงหากว่าความงามของเจ้าเป็นของข้าคงจะดีไม่น้อย ฮ่าฮ่าฮ่า!" นางพูดขึ้นมา พลางพยักหน้ากับความคิดของตัวเอง และคิดหาทางที่จะใช้ประโยชน์จากความเยาว์วัยนี้ให้ได้"ข้ารู้ว่าท่านกำลังทำผิด" เฟิงหย่าเสวี่ยตอบเสียงมั่นคง มือยังคงกำเข็มเงินแน่น "ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด การทำร้ายผู้บริสุท

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 160  เจ้าแพ้แล้ว!!

    บทที่ 160 เจ้าแพ้แล้ว!!จวงหลิวอวี้จ้องมองเหตุการณ์ที่เบื้องหน้าอย่างแน่นิ่ง สายตาของนางจับจ้องเฟิงหย่าเสวี่ยที่ยกพู่กันชิงหลงขึ้นมา เสียงหัวใจเต้นหนักหน่วงในอกบอกให้นางรู้ว่าสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก นางรีบพุ่งตัวเข้าหาหลานสาวทันที มือแข็งแรงคว้ามือที่กำพู่กันไว้แน่นก่อนที่จะทันได้วาดอะไรลงในอากาศ“อะไรก็ตามที่เจ้าคิดจะทำและเสียสละ...จงหยุดมันเดี๋ยวนี้!!!” จวงหลิวอวี้เอ่ยเสียงดัง สายตาของนางเต็มไปด้วยความกังวลและห่วงใยเฟิงหย่าเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมองป้าจวง ดวงตาคู่นั้นเปี่ยมไปด้วยความรักและเคารพที่นางมีต่อผู้ที่คอยปกป้องและดูแลมาตลอด ทว่าในแววตานั้นกลับแฝงไว้ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง“ท่านป้า...” เฟิงหย่าเสวี่ยพูดเสียงสั่น ดวงตาเริ่มเอ่อคลอด้วยหยาดน้ำตา “ข้าขอโทษ...” คำพูดนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดและความอาลัยจวงหลิวอวี้มองหลานสาวอย่างตกตะลึง นางยื่นมือไปจับใบหน้าของเฟิงหย่าเสวี่ย “เสวี่ยเออร์... เจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้ เจ้าคือความหวังของตระกูลเฟิง! ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าเสียสละตัวเองเด็ดขาด เจ้านึกถึงท่านแม่และน้องชายของเจ้าสิพวกเขาจะเป็นอย่างไร หากว่า

  • เจียงหย่าเสวี่ย จิตรกรหัตถ์สวรรค์   บทที่ 159  ฉันขอทำหน้าที่ของฮองเฮาที่กล้าเสียสละเพื่อลูกหลาน

    บทที่ 159 ฉันขอทำหน้าที่ของฮองเฮาที่กล้าเสียสละเพื่อลูกหลาน"และนี่คือผลงานชิ้นเอกของข้า!" ไป่เหลียนผายมือไปที่เด็กๆ "พิษที่ไม่เพียงทำลายร่างกาย แต่ยังบดขยี้จิตวิญญาณ ทำให้พ่อแม่ต้องเห็นลูกของตัวเองกลายเป็นเครื่องมือสังหาร! ความทรมานทั้งผู้ใช้และผู้ถูกใช้ นี่คือสิคือสิ่งที่เรียกว่าพิษที่ดีที่สุดที่ที่ข้าสามารถสร้างขึ้นมาได้ ไม่เพียงทำลายหนึ่งแต่ทำลายได้ทั้งครอบครัวฮ่าฮ่าฮ่า!" เสียงหัวเราะของนางดังลั่นไปทั่วเฟิงซินซินร้องไห้จ้า มือน้อยๆ กำพู่กันแน่นดวงตาเล็กๆ ของนางมองไปที่เหล่าเด็กๆ ที่ถูกทำให้กลายเป็นหุ่นเชิดเป็นร่างที่ไร้ชีวิต"นางสละความเป็นมนุษย์... แลกกับพลังแห่งความชั่วร้าย ยิ่งมีผู้ถูกพิษตาย พิษก็ยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งมีผู้ทุกข์ทรมาน พิษก็ยิ่งร้ายกาจ... วงจรแห่งความชั่วร้ายที่ไม่มีวันสิ้นสุด!"จวงหลิงเฟิงสะท้านเฮือก "นี่มัน... เกินกว่าที่มนุษย์คนใดจะทำได้ไป่เหลียนเจ้านี่มันกู่ไม่กลับจริงๆ ไม่เคยสำนึกถึงความผิดของตัวเอง..""ฮ่าฮ่าฮ่า!!!นี่เจ้ารู้ได้อย่างไรเพื่อนรักว่าข้าไม่ใช่มนุษย์แล้ว!" ไป่เหลียนตะโกนก้องและหันมาจ้องมองเพื่อนรักในอดีตที่ได้กลายมาเป็นศัตรูคู่แค้น และเพราะความแค้น

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status