Share

ความฝัน

last update Last Updated: 2025-04-24 20:08:42

แล้วพวกเขา 3 คนก็เดินทางไปห้องสมุดด้วยกัน สถานที่ที่กว้างขวาง เงียบสงบเหมาะสำหรับการอ่านหนังสือและการทำงานอย่างจริงจัง กนก มิวและพราวต่างก็มีเป้าหมายของตัวเอง มิวและพราวตั้งใจจะหาหนังสือเกี่ยวกับวิชาเคมีเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับรายงาน ส่วนกนกนั้นแม้ว่าจะไม่ได้มีงานเร่งด่วนอะไรแต่เขาก็อยากมาหาหนังสือนิยายรักโรแมนติกเล่มใหม่เอาไว้อ่านสักหน่อย

เมื่อเดินเข้าไปในห้องสมุด มิวและพราวก็แยกย้ายไปหาหนังสือในส่วนของวิทยาศาสตร์ ในขณะที่กนกเดินตรงไปที่ชั้นหนังสือวรรณกรรม เขาหยิบนิยายรักโรแมนติกเล่มหนึ่งที่เขาคิดว่าน่าสนใจแล้วก็หามุมสงบในห้องสมุดเพื่อนั่งอ่านต่อ

หลังจากนั้นไม่นาน มิวและพราวก็เสร็จสิ้นจากการค้นหาหนังสือและเดินมาหากนก ที่กำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือเล่มหนา

"นี่กนก ยังอ่านไม่จบอีกเหรอ" มิวยื่นหน้าไปถามกระซิบเสียงเบา

"กำลังถึงตอนสำคัญเลย พระเอกเพิ่งจะสารภาพรักนางเอก" กนกตอบด้วยแววตาที่เป็นประกาย

"แกนี่น่ะ..." พราวยิ้มเล็กๆหมั่นไส้เจ้าเพื่อนหนอนหนังสือ

 "แต่เอาเถอะ เราเสร็จแล้ว กลับกันไหม?"

กนกพยักหน้าแล้วปิดหนังสืออย่างเสียดายแต่เขาก็รู้ว่าต้องกลับมาอ่านต่อในวันหลัง พวกเขาทั้งสามเดินออกจากห้องสมุดพร้อมกับพูดคุยกันเรื่องการเรียนและเรื่องราวในมหาวิทยาลัยอย่างสนุกสนาน แม้ว่าชีวิตของกนกจะไม่ได้มีอะไรที่ตื่นเต้นมากนักแต่เขาก็รู้สึกมีความสุขที่ได้มีเพื่อนดีๆ และมีหนังสือเป็นเพื่อนคู่ใจ

"เฮ้อ...เหนื่อยจังเลยอ่ะ นี่แค่ปีหนึ่งนะ ทำไมรายงานเยอะขนาดนี้"

"ก็ไม่เยอะเท่าไหร่ รีบทำสิ จะได้รีบกลับหอไปนอน" มิวบอกกนกที่ทำหน้าเหนื่อยอ่อนเมื่อต้องลาจากหนังสือนิยายเล่มนั้น

"อยากไปลั้นลาเหมือนพี่ปี 2 บ้างอ่ะ" อยู่พราวก็พูดขึ้นมา ทำให้กนกและมิวสงสัย

"แกดื่มแอลกอฮอล์เป็นหรอ?"

"ไม่เป็นหรอก แต่ว่าถ้าดื่มมันจะมีเพื่อนเพิ่มขึ้นนะ มีพี่ๆด้วย" พราวพูดออกมาด้วยแววตาขี้เล่น

"ไม่เอาอ่ะ ไม่เห็นจะอร่อยเลย" มิวแย้งขึ้น

"เฮ้ย แกเคยกินแล้วหรอ? โห ทำไมไม่ชวนวะเนี่ย" พราวโวยมิวที่เคยได้ชิมแอลกอฮอล์ตั้งแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ

"พ่อซื้อมาให้กินตอน ม.5 น่ะ"

"โห...พ่อโคตรจะเท่"

"พ่อบอกว่าเผื่อขึ้นมหาลัยแล้วมีคนเอามาให้กิน จะได้รู้ว่ารสชาติเป็นยังไง" มิวอธิบายให้เพื่อนๆ ฟัง

"แล้วเป็นไง อร่อยป่ะ?"

"กินเบียร์ไม่เห็นอร่อยเลย ขมจะตาย ไม่รู้ว่ากินไปได้ยังไง" เขาเล่าพร้อมแสดงสีหน้าเหยเก เมื่อนึกถึงวันที่พ่อเอาเบียร์มาให้ลองชิม

"โห่ แกนี่ไม่รู้จักรสชาติของแอลกอฮอล์ที่มันอร่อยๆ" พราวพูดโม้คุยโว

"แกเคยกินเหรอ" มิวหันมองหน้าเพื่อนสาวด้วยความแปลกใจในคำพูดของเธอ

"ไม่เคยอ่ะ แต่เขาบอกว่าอร่อย"

"ตลกล่ะ" มิวส่ายหน้าให้กับพราวเพื่อนสาวขี้โม้ประจำกลุ่ม

"รีบๆ เลย จะได้กลับห้องกัน อยากไปอ่านนิยายอีกเล่มแล้ว"

"ชีวิตแกนี่มันน่าเบื่อจริงๆ มีแต่นิยาย นิยาย นิยาย"

"ไม่น่าเบื่อ เพราะว่าชีวิตมีนิยายน้า"

กนกนั่งฟังเพื่อน ๆ คุยกันอย่างสนุกสนาน แม้ว่าเรื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือปาร์ตี้จะไม่ใช่สิ่งที่เขาสนใจ แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าโลกของตัวเองน่าเบื่อ ตรงกันข้ามชีวิตของเขามีสีสันเพราะหนังสือ นิยายคือโลกอีกใบที่เปิดประตูสู่ความสุขที่ไม่ต้องพึ่งเสียงเพลงดังหรือเครื่องดื่มมึนเมาและแม้เพื่อน ๆ จะมองว่าเขาเป็นคนเรียบง่ายเกินไป กนกก็รู้ว่าพวกเขาเข้าใจในแบบของเขา

มิวกับพราวมักแซวว่าเขาเป็น "คุณชายหอพัก" ไม่เคยออกเที่ยวกลางคืน ไม่สนใจงานสังสรรค์ แทบไม่ทำอะไรที่หวือหวาแต่นั่นไม่ใช่ปัญหาของกนกเลย เขามีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ มีหนังสือเป็นเพื่อน มีโลกจินตนาการที่สามารถหลบเข้าไปได้ทุกเมื่อ ในห้องพักเล็กๆของเขา หนังสือเรียงรายอยู่เต็มชั้น โต๊ะหนังสือวางนิยายกองพะเนินพร้อมกับกาแฟแก้วโปรดที่ดื่มคู่ไปกับการอ่าน

ชีวิตของกนกเป็นไปตามจังหวะเดิม ๆ ตื่นเช้าไปเรียน กินข้าวกับมิวและพราว กลับมาทำการบ้านหรือบางครั้งก็นั่งอ่านหนังสือจนลืมเวลา และการที่เขาอยู่หอในคนเดียวโดยไม่มีรูมเมทยิ่งทำให้เขาได้ใช้ชีวิตในแบบที่ต้องการ ไม่มีใครรบกวน ไม่มีใครคอยถามว่าทำไมต้องอ่านหนังสือเยอะขนาดนั้น

สำหรับคนอื่น ชีวิตแบบนี้อาจดูธรรมดาเกินไป แต่สำหรับกนก มันคือความสมบูรณ์แบบ ไม่จำเป็นต้องมีอะไรพิเศษแค่ได้นั่งเงียบ ๆ กับนิยายสักเล่ม ท่ามกลางคืนอันเงียบสงบก็เพียงพอแล้ว

แต่คืนนั้นเอง ขณะที่เขากำลังจมอยู่กับนิยายรักโรแมนติกเล่มใหม่ที่เพิ่งซื้อมา เสียงแปลก ๆ ก็ดังขึ้นในห้อง…

แก๊ก

เสียงไขกุญแจประตูเบาๆ ดังขึ้นในตอนกลางคืนที่เงียบสงบ กนกเงยหน้าขึ้นจากหนังสือด้วยความสงสัย เขามองไปที่ประตูห้องซึ่งปิดสนิท ไม่มีใครควรจะมาหาเขาในเวลาดึกดื่นแบบนี้

"ใครน่ะ" เขาถามด้วยเสียงเบาๆแต่ไม่มีเสียงตอบกลับ

กึก!

เสียงไขประตูได้สำเร็จ คราวนี้มันดังและชัดเจนขึ้นจนรู้สึกขนลุก เขาลุกจากเตียงและเดินไปที่ประตูอย่างช้าๆ มือของเขาเกือบจะจับที่ลูกบิดประตูแต่เขาก็หยุดชะงัก

"นี่แก...อย่ามาแกล้งนะ มิวหรอ!" เขาพูดเสียงสั่นแต่ก็ยังไม่มีเสียงตอบ

"ใครมาตอนดึกขนาดนี้..." เขารำพึงกับตัวเองแล้วเดินไปเปิดไฟหรี่ในห้องด้วยมือที่สั่นเล็กน้อยแล้วเดินกลับไปยังบานประตูไม้อีกครั้ง เมื่อถึงประตู เขาก็ค่อยๆเปิดมันออก ตรงหน้าเขาคือผู้ชายคนหนึ่งที่สวมหมวก เขายิ้มมุมปากให้กนกแล้วพูดขึ้นว่า

"เปิดประตูช้านะครับ "

กนกยังไม่ทันได้ตอบอะไร ผู้ชายคนนั้นก็ก้าวเข้ามาในห้องและกอดเขาไว้แน่น จากนั้นริมฝีปากของเขาจะถูกทาบปิดลงมาและบดจูบด้วยความปรารถนาที่ถาโถมจากอีกฝ่าย ดูดเม้นริมฝีปากบางเป็นจังหวะ แม้ไม้ได้ล่วงล้ำในโพรงปากแต่เสียงดูดปากดังเบาๆอยู่ข้างหู เขาตกใจจนเบิกตากว้างรู้สึกว่าตัวเองถูกครอบงำด้วยความรู้สึกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนและตอนนี้หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นราวกับจะแตกออกจากอก

นี่มันอะไรกัน... เขาคิดในใจแต่ร่างกายของเขากลับไม่ยอมขยับเขยื้อนขัดขืน

ผู้ชายคนนั้นถอนจูบออกอย่างบางเบาแล้วมองเขาด้วยแววตาที่อบอุ่นและลึกลับ

"ทำไมจูบไม่เก่งเลยล่ะครับ ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวพี่สอน" เสียงกระซิบเบาๆดังที่ข้างหู

กนกรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น เขาพยายามจะพูดอะไรแต่คำพูดก็ติดอยู่ในลำคอผู้ชายคนนั้นยิ้มให้เขาอีกครั้งแล้วก็ก้าวเข้ามาใกล้ๆ

จากนั้น ทั้งสองคนก็...

กนกรู้สึกว่าตัวเองถูกดึงเข้าไปในโลกที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อนเขาไม่แน่ใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นจริงหรือไม่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความรู้สึกแปลก

    ร่างของชายปริศนาแนบชิดเข้ามา กนกแทบไม่ได้มีเวลาตั้งตัว ก่อนที่ลมหายใจร้อนจะเคลื่อนเข้าใกล้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เขาไม่คุ้นเคยลอยอวลอยู่รอบตัว เสี้ยววินาทีต่อมา ริมฝีปากของชายแปลกหน้ากดลงมาบนริมฝีปากของเขา...อ่อนโยน ทว่าตราตึงในความรู้สึกเขา กนกเบิกตากว้างพร้อมหัวใจเต้นกระหน่ำราวกับจะทะลุออกจากอก เขาพยายามจะขยับตัวแต่กลับถูกอ้อมแขนแข็งแรงตรึงไว้อย่างมั่นคง ไม่ใช่การบังคับขืนใจแต่เป็นสัมผัสที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดลึกลับราวกับอีกฝ่ายกำลังเฝ้าค้นหาอะไรบางอย่างจากตัวเขา“คุณ...” เสียงของกนกสั่นไหว ไม่แน่ใจว่าควรผลักออกหรือหยุดนิ่ง ความอบอุ่นที่แนบชิดส่งผ่านความรู้สึกบางอย่างที่เขาอธิบายไม่ได้ชายปริศนาโน้มลงมา สูดลมหายใจช้าๆ ใกล้ต้นคอของเขา ปลายนิ้วเย็นเฉียบไล้ผ่านข้างแก้มก่อนกระซิบเบาๆ ข้างหู“...ในที่สุด พี่ก็เจอเราสักที”นี่มันอะไรกัน... เขาคิดในใจ แต่ร่างกายของเขากลับตอบสนองต่อความรู้สึกที่แปลกใหม่นี้ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้เขาอีกครั้งแล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน"ไม่ต้องกลัวนะ...พี่จะไม่ทำร้ายเธอ"กนกรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น เขาพยายามจะพูดอะไรแต่คำพูดก็ติดอยู่ในลำคอ ผู้ชายคนนั้นยิ้มให

    Last Updated : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ใคร

    เขารู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ยาวนานและวุ่นวายเพราะเขามีเรียนตั้งแต่เช้าถึงสองทุ่ม ทั้งบรรยายวิชาชีวะและทำแล็ปการทดลองเคมีภาคค่ำ กว่าจะลากสังขารกลับหอได้ก็พากันหมดแรง"ทำไมวันนี้โหดขนาดนี้...ใครจัดตารางเรียนว่ะ" "นั่นนะสิ...จะแบ้ล้า นี่มันเด็กปีหนึ่งนะเว้ย" พราวสมทบอีกหนึ่งเสียง"แล้วพวกแกจะบ่นเพื่อ...กินข้าว กลับบ้านแยกย้ายกัน" "เย้ อาหารจะช่วยชีวิตพวกเรา ฉันอยากกินยำ อยากกินยำ" พราวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น"กนกกินอะไรดี?" "อ่า...อะไรดีอ่าา อยากกินกระเพาะแล้วกัน กระเพาะเนื้อ" "อืม งั้นไปร้านป้าข้างหอพราว แล้วค่อยเดินกลับมาหอในแล้วกัน" "อืม..." กนกพยักหน้ารับระหว่างทาง กนกก็เหม่อมองบรรยากาศโดยรอบ วันนี้รู้สึกเหนื่อยตั้งแต่เช้าที่ต้องวิ่งมาเรียน ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินแล้วมาเรียนแล็ปต่อ ปวดหัวจะแย่ คิดถึงหนังสือนิยายที่อยู่ที่หอจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่จะได้กลับไปอ่านต่อนะ... แต่ในตอนนี้ เขาต้องกินข้าวให้อิ่มก่อนแล้วค่อยกลับไปหาหนังสือเล่มโปรดที่รอเขาอยู่"ป้าคะ หนูขอยำแซ่บๆหนึ่งจานค่ะ ขอเผ็ดๆเลยนะคะ" พราวสั่งอาหารด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยหิวกระหาย"กินเผ็ดเดี๋ยวก็ปว

    Last Updated : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กลับบ้าน

    เพราะความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้อยากกลับบ้าน จึงตัดสินใจว่ากลับบ้านไปตามหาอะไรบางอย่างน่าจะดีกว่า"อ้าว...ทำไมกลับ เดินทางตั้งหลายชั่วโมงนะ" ใช่...เพื่อนเขาพูดถูก พวกเราทั้งสามคนสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ แต่บ้านของพวกเราอยู่ชลบุรี ถึงจะนั่งรถตู้ไปถึงสถานีใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงแต่จากสถานีก็ต้องนั่งรถสองแถวเข้าบ้านอีกตั้งสี่สิบนาที นานๆ ทีพวกเราถึงจะกลับบ้านกัน"อืม...มีธุระนิดหน่อยน่ะ" เขาไลน์บอกแม่ว่าจะกลับบ้านไปทำธุระ แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร"เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม มาถึงดึกเชียว" "เหนื่อยครับแม่ ดีที่วันนี้กนกเรียนแค่คาบเช้า ไม่งั้นดึกกว่านี้แน่เลย" "งั้นไปพักผ่อนแล้วลงมาทานข้าวเย็นด้วยกันนะ" "ไม่เป็นไรครับ ผมกินข้าวบ้านน้าแป้นมาแล้ว""อ่อ...เออ พูดถึงน้าแป้น" "หืมม...ทำไมหรอครับ" "เห็นแกบอกว่าลูกชายเขาก็ไปเรียนกรุงเทพนะ แต่ที่ไหนแม่ก็จำไม่ได้""หรอครับ แต่พี่...อ่าา จำไม่ได้แล้วอ่า" "อืมม... จำได้ว่าน่าจะเป็นรุ่นพี่เรานะ" "อ่าา...ครับ" กนกพยักหน้า"กนกขึ้นไปพักก่อนนะ""รีบพักนะลูก" กนกรีบขึ้นไปพักบนห้องของตัวเอง บ้านของเขาไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แม้ว่าพ่อกับแม่จะรักการอ่านหนังสือมากแ

    Last Updated : 2025-04-24
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ลึกลับ

    ถึงแม้ว่ารู้สึกยังพักผ่อนไม่เต็มที่ แต่ด้วยภารกิจในการเรียนทำให้กนกต้องเดินทางกลับมาที่หอตั้งแต่เช้ามืด ความเศร้าที่อยู่ภายในใจยังเกาะกิน ความผูกพันธ์ที่เขามีต่อหนังสือเล่มนั้นทำให้เขารู้สึกว่ามันอาจมีอะไรซ่อนอยู่ ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงกับตัวเขาเอง ทำให้รู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศรอบตัวมีแต่ความหมองหม่น ความเหม่อลอยตลอดเส้นทางการเดินไปมหาวิทยาลัยทำให้เขาเกือบจะโดนรถเฉี่ยวปิ๊ดดด!แต่ทันใดนั้น กลับมีใครบางคนดึงตัวเขากลับมาได้ทันเวลา หัวใจเขาตื่นระรัวด้วยความตกใจ และกำลังจะหันกลับไปขอบคุณคนใจดีคนนั้น แต่กลับไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นเลย มีเพียงสายลมที่พัดผ่านและเสียงใบไม้ที่สั่นไหว เหมือนกับว่ามีใครสักคนหายไปในอากาศ“ใครนะ...?” เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง แต่ไม่มีใครตอบ มีเพียงเสียงลมพัดผ่านหูเบาๆ เหมือนเสียงกระซิบที่เขาคุ้นเคยถึงแม้จะยังคงสงสัย แต่พอดูนาฬิกาก็พบว่าใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว เลยรีบกวดฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาทันเวลาพอดี มองหาเพื่อนสนิทก็เห็นพราวโบกมือทักทายให้มานั่งข้าง เมื่อถึงที่นั่งก็ฟุบลงกับโต๊ะ แสดงอาการเหนื่อยหอบ“เป็นไงกลับบ้านมา...สนุกไหม?” “น่

    Last Updated : 2025-04-25
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พี่หรอ

    วันนี้ชั่วโมงเรียนของกนกลากยาวมาถึง 5 โมงเย็น ความเหนื่อยล้าตั้งแต่เช้าส่งผลให้ช่วงเย็น ขณะที่กำลังรออาหารตามสั่งจากร้านป้านิด เขาก็เผลอพิงศีรษะกับแขนตัวเอง ดวงตาปรือคล้ายจะหลับสนิท ท่ามกลางเสียงพูดคุยของเพื่อน ๆ ที่ยังดังอยู่รอบตัว“กนก ตื่นก่อน!” พราวเรียกด้วยเสียงดัง“ใช่ๆ กินข้าวก่อน นี่กระเพาะกุ้งของชอบแกไง กินก่อนแล้วค่อยกลับไปนอน” มิวพูดพร้อมกับยื่นช้อนให้“อืมม...” กนกพยักหน้าเบาๆ แต่สายตาของเขาดูเหมือนจะปิดลงทุกที เขายิ้มบาง ๆ แต่ก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นเต็มที่ ความเหนื่อยสะสมทำให้ร่างกายของเขาหนักอึ้ง จนเผลอคิดไปว่า... ถ้าตอนนี้ได้เอนตัวลงนอนที่ไหนสักที่ก็คงดี แต่ระหว่างที่กำลังจะหลับตาลงอีกครั้ง “ป้าได้ยังคะ? เพื่อนหนูจะหลับตาโต๊ะแล้วค่าา” พราวหันไปเรียกป้านิด เจ้าของร้านอาหาร“ฮ่ะๆ วันนี้เรียนหนักกันหรอคะ? เพิ่งวันจันทร์กันเอง” ป้านิดถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“วันนี้ไม่หนักเท่าไรค่ะป้านิด แต่กนกมันเพิ่งกลับบ้านมา ตื่นตั้งแต่ตี 4 วันนี้เรียนตั้งแต่เช้าลากถึงเย็นคงจะง่วงเต็มที่” “น้องกนกรีบทานจะได้รีบไปพักนะคะ” ป้านิดพูดพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณครับป้านิด ผมจะรีบกิน...จะได้รีบไปนอน

    Last Updated : 2025-04-28
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ของขวัญกำลังใจ

    ช่วงเวลาสอบกลางภาคกำลังจะเริ่มขึ้น ทำให้บรรยากาศของนักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 เต็มไปด้วยความกดดัน อาจารย์เร่งสอนเนื้อหาให้ทันก่อนสอบ ขณะที่นักศึกษาทุกคนต่างต้องเร่งอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนอย่างเคร่งเครียด ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของกนกเองที่ตอนนี้กำลังปรึกษากันว่าหลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วพวกเขาจะไปอ่านหนังสือกันที่ไหนต่อ“หลังจากนี้คงต้องติวให้เยอะกว่าเดิม” กนกพูดขึ้นขณะที่พราวและมิวกำลังกดโทรศัทพ์เปิดดูแหล่งบันเทิงเพื่อผ่อนคลายจากความเคร่งเครียดที่เพิ่งผ่านกันมา“ก็คงงั้นแหละ เพราะบางคาบแกก็หลับในห้องไง กนก” พราวอมยิ้มและดูสนุกที่ได้แซวเพื่อนตัวเล็ก“ทำเป็นพูดนะพราว เหมือนแกไม่เคยหลับ”“ถึงชั้นจะหลับ แต่ก็ไม่ได้หลับเกือบทุกคาบเหมือนแก” ก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะเถียงกันจะเกิดเสียงดังและอาจจะมีการโกรธเคืองเกิดขึ้น“ทั้งสองหยุดเลย เลิกทะเลาะกันได้แล้ว” มิวแทรกเข้ามาด้วยเสียงหนักแน่น“หลังจากกินข้าววันนี้ เราจะไปหาหนังสือที่ห้องสมุด ใครจะไปบ้าง?”“เราไป&rdquo

    Last Updated : 2025-04-29
  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กนก

    "แม่ครับ อ่านเรื่องนี้ให้ฟังหน่อย!""นิยายเรื่องนี้สนุกไหมครับแม่?""กนกอยากนอนหลับไปกับกองนิยายเล้ยย!"เสียงสดใสของกนกดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นของบ้านหลังเล็ก ที่นี่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือแทบทุกวัน แม่ของเขาชอบอ่านหนังสือสารคดีแปลก ๆ แล้วมักจะเล่าเรื่องให้ลูกชายฟังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ส่วนพ่อก็เป็นสายหนังสือพัฒนาตัวเอง ชอบสอนกนกเรื่องแนวคิดการเติบโตและการใช้ชีวิต ทุกเย็นบ้านนี้แทบไม่เงียบเหงา เพราะมื้อค่ำมักกลายเป็นวงสนทนาเกี่ยวกับหนังสือที่แต่ละคนกำลังอ่าน ราวกับเป็นสโมสรนักอ่านขนาดย่อมแต่ในบรรดาหนังสือทั้งหมด กนกรักนิยายรักของแม่มากที่สุด ตู้หนังสือของแม่เต็มไปด้วยเล่มปกสีหวาน บางเล่มเก่าจนกระดาษเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ตอนเด็ก ๆ เขาหยิบมาอ่านเพราะคิดว่ามันตลก แต่พอโตขึ้น เขากลับหลงรักเรื่องราวในนั้นอย่างไม่รู้ตัว"กนกลูก มากินข้าวกันครับ"เสียงแม่ดังแว่วมาจากชั้นล่าง ในขณะที่กนกกำลังจมอยู่กับฉากสำคัญของนิยาย"แป๊บนึงนะครับแม่... อีกนิดเดียวจะจบแล้ว!""แม่รอนะลูก แต่อย่านานล่ะ ข้าวจะเย็นหมด""ได้ครับแม่" กนกตอบลอย ๆ แต่สายตายังคงตรึงอยู่กับหน้ากระดาษ "อีกแค่สามหน้าเอง

    Last Updated : 2025-04-24

Latest chapter

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ของขวัญกำลังใจ

    ช่วงเวลาสอบกลางภาคกำลังจะเริ่มขึ้น ทำให้บรรยากาศของนักศึกษาใหม่ชั้นปีที่ 1 เต็มไปด้วยความกดดัน อาจารย์เร่งสอนเนื้อหาให้ทันก่อนสอบ ขณะที่นักศึกษาทุกคนต่างต้องเร่งอ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนอย่างเคร่งเครียด ไม่เว้นแม้แต่กลุ่มของกนกเองที่ตอนนี้กำลังปรึกษากันว่าหลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จแล้วพวกเขาจะไปอ่านหนังสือกันที่ไหนต่อ“หลังจากนี้คงต้องติวให้เยอะกว่าเดิม” กนกพูดขึ้นขณะที่พราวและมิวกำลังกดโทรศัทพ์เปิดดูแหล่งบันเทิงเพื่อผ่อนคลายจากความเคร่งเครียดที่เพิ่งผ่านกันมา“ก็คงงั้นแหละ เพราะบางคาบแกก็หลับในห้องไง กนก” พราวอมยิ้มและดูสนุกที่ได้แซวเพื่อนตัวเล็ก“ทำเป็นพูดนะพราว เหมือนแกไม่เคยหลับ”“ถึงชั้นจะหลับ แต่ก็ไม่ได้หลับเกือบทุกคาบเหมือนแก” ก่อนที่เพื่อนทั้งสองจะเถียงกันจะเกิดเสียงดังและอาจจะมีการโกรธเคืองเกิดขึ้น“ทั้งสองหยุดเลย เลิกทะเลาะกันได้แล้ว” มิวแทรกเข้ามาด้วยเสียงหนักแน่น“หลังจากกินข้าววันนี้ เราจะไปหาหนังสือที่ห้องสมุด ใครจะไปบ้าง?”“เราไป&rdquo

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   พี่หรอ

    วันนี้ชั่วโมงเรียนของกนกลากยาวมาถึง 5 โมงเย็น ความเหนื่อยล้าตั้งแต่เช้าส่งผลให้ช่วงเย็น ขณะที่กำลังรออาหารตามสั่งจากร้านป้านิด เขาก็เผลอพิงศีรษะกับแขนตัวเอง ดวงตาปรือคล้ายจะหลับสนิท ท่ามกลางเสียงพูดคุยของเพื่อน ๆ ที่ยังดังอยู่รอบตัว“กนก ตื่นก่อน!” พราวเรียกด้วยเสียงดัง“ใช่ๆ กินข้าวก่อน นี่กระเพาะกุ้งของชอบแกไง กินก่อนแล้วค่อยกลับไปนอน” มิวพูดพร้อมกับยื่นช้อนให้“อืมม...” กนกพยักหน้าเบาๆ แต่สายตาของเขาดูเหมือนจะปิดลงทุกที เขายิ้มบาง ๆ แต่ก็ยังไม่ยอมลืมตาขึ้นเต็มที่ ความเหนื่อยสะสมทำให้ร่างกายของเขาหนักอึ้ง จนเผลอคิดไปว่า... ถ้าตอนนี้ได้เอนตัวลงนอนที่ไหนสักที่ก็คงดี แต่ระหว่างที่กำลังจะหลับตาลงอีกครั้ง “ป้าได้ยังคะ? เพื่อนหนูจะหลับตาโต๊ะแล้วค่าา” พราวหันไปเรียกป้านิด เจ้าของร้านอาหาร“ฮ่ะๆ วันนี้เรียนหนักกันหรอคะ? เพิ่งวันจันทร์กันเอง” ป้านิดถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“วันนี้ไม่หนักเท่าไรค่ะป้านิด แต่กนกมันเพิ่งกลับบ้านมา ตื่นตั้งแต่ตี 4 วันนี้เรียนตั้งแต่เช้าลากถึงเย็นคงจะง่วงเต็มที่” “น้องกนกรีบทานจะได้รีบไปพักนะคะ” ป้านิดพูดพร้อมกับยิ้มให้“ขอบคุณครับป้านิด ผมจะรีบกิน...จะได้รีบไปนอน

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ลึกลับ

    ถึงแม้ว่ารู้สึกยังพักผ่อนไม่เต็มที่ แต่ด้วยภารกิจในการเรียนทำให้กนกต้องเดินทางกลับมาที่หอตั้งแต่เช้ามืด ความเศร้าที่อยู่ภายในใจยังเกาะกิน ความผูกพันธ์ที่เขามีต่อหนังสือเล่มนั้นทำให้เขารู้สึกว่ามันอาจมีอะไรซ่อนอยู่ ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงกับตัวเขาเอง ทำให้รู้สึกว่าวันนี้บรรยากาศรอบตัวมีแต่ความหมองหม่น ความเหม่อลอยตลอดเส้นทางการเดินไปมหาวิทยาลัยทำให้เขาเกือบจะโดนรถเฉี่ยวปิ๊ดดด!แต่ทันใดนั้น กลับมีใครบางคนดึงตัวเขากลับมาได้ทันเวลา หัวใจเขาตื่นระรัวด้วยความตกใจ และกำลังจะหันกลับไปขอบคุณคนใจดีคนนั้น แต่กลับไม่เห็นใครอยู่ตรงนั้นเลย มีเพียงสายลมที่พัดผ่านและเสียงใบไม้ที่สั่นไหว เหมือนกับว่ามีใครสักคนหายไปในอากาศ“ใครนะ...?” เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง แต่ไม่มีใครตอบ มีเพียงเสียงลมพัดผ่านหูเบาๆ เหมือนเสียงกระซิบที่เขาคุ้นเคยถึงแม้จะยังคงสงสัย แต่พอดูนาฬิกาก็พบว่าใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว เลยรีบกวดฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อจะเข้าเรียนให้ทัน เขาวิ่งกระหืดกระหอบมาทันเวลาพอดี มองหาเพื่อนสนิทก็เห็นพราวโบกมือทักทายให้มานั่งข้าง เมื่อถึงที่นั่งก็ฟุบลงกับโต๊ะ แสดงอาการเหนื่อยหอบ“เป็นไงกลับบ้านมา...สนุกไหม?” “น่

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กลับบ้าน

    เพราะความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้อยากกลับบ้าน จึงตัดสินใจว่ากลับบ้านไปตามหาอะไรบางอย่างน่าจะดีกว่า"อ้าว...ทำไมกลับ เดินทางตั้งหลายชั่วโมงนะ" ใช่...เพื่อนเขาพูดถูก พวกเราทั้งสามคนสอบติดมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ แต่บ้านของพวกเราอยู่ชลบุรี ถึงจะนั่งรถตู้ไปถึงสถานีใช้เวลาประมาณสองชั่วโมงแต่จากสถานีก็ต้องนั่งรถสองแถวเข้าบ้านอีกตั้งสี่สิบนาที นานๆ ทีพวกเราถึงจะกลับบ้านกัน"อืม...มีธุระนิดหน่อยน่ะ" เขาไลน์บอกแม่ว่าจะกลับบ้านไปทำธุระ แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร"เป็นไงบ้าง เหนื่อยไหม มาถึงดึกเชียว" "เหนื่อยครับแม่ ดีที่วันนี้กนกเรียนแค่คาบเช้า ไม่งั้นดึกกว่านี้แน่เลย" "งั้นไปพักผ่อนแล้วลงมาทานข้าวเย็นด้วยกันนะ" "ไม่เป็นไรครับ ผมกินข้าวบ้านน้าแป้นมาแล้ว""อ่อ...เออ พูดถึงน้าแป้น" "หืมม...ทำไมหรอครับ" "เห็นแกบอกว่าลูกชายเขาก็ไปเรียนกรุงเทพนะ แต่ที่ไหนแม่ก็จำไม่ได้""หรอครับ แต่พี่...อ่าา จำไม่ได้แล้วอ่า" "อืมม... จำได้ว่าน่าจะเป็นรุ่นพี่เรานะ" "อ่าา...ครับ" กนกพยักหน้า"กนกขึ้นไปพักก่อนนะ""รีบพักนะลูก" กนกรีบขึ้นไปพักบนห้องของตัวเอง บ้านของเขาไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แม้ว่าพ่อกับแม่จะรักการอ่านหนังสือมากแ

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ใคร

    เขารู้สึกว่าวันนี้เป็นวันที่ยาวนานและวุ่นวายเพราะเขามีเรียนตั้งแต่เช้าถึงสองทุ่ม ทั้งบรรยายวิชาชีวะและทำแล็ปการทดลองเคมีภาคค่ำ กว่าจะลากสังขารกลับหอได้ก็พากันหมดแรง"ทำไมวันนี้โหดขนาดนี้...ใครจัดตารางเรียนว่ะ" "นั่นนะสิ...จะแบ้ล้า นี่มันเด็กปีหนึ่งนะเว้ย" พราวสมทบอีกหนึ่งเสียง"แล้วพวกแกจะบ่นเพื่อ...กินข้าว กลับบ้านแยกย้ายกัน" "เย้ อาหารจะช่วยชีวิตพวกเรา ฉันอยากกินยำ อยากกินยำ" พราวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น"กนกกินอะไรดี?" "อ่า...อะไรดีอ่าา อยากกินกระเพาะแล้วกัน กระเพาะเนื้อ" "อืม งั้นไปร้านป้าข้างหอพราว แล้วค่อยเดินกลับมาหอในแล้วกัน" "อืม..." กนกพยักหน้ารับระหว่างทาง กนกก็เหม่อมองบรรยากาศโดยรอบ วันนี้รู้สึกเหนื่อยตั้งแต่เช้าที่ต้องวิ่งมาเรียน ข้าวเช้าก็ไม่ได้กินแล้วมาเรียนแล็ปต่อ ปวดหัวจะแย่ คิดถึงหนังสือนิยายที่อยู่ที่หอจะแย่อยู่แล้ว เมื่อไหร่จะได้กลับไปอ่านต่อนะ... แต่ในตอนนี้ เขาต้องกินข้าวให้อิ่มก่อนแล้วค่อยกลับไปหาหนังสือเล่มโปรดที่รอเขาอยู่"ป้าคะ หนูขอยำแซ่บๆหนึ่งจานค่ะ ขอเผ็ดๆเลยนะคะ" พราวสั่งอาหารด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยหิวกระหาย"กินเผ็ดเดี๋ยวก็ปว

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความรู้สึกแปลก

    ร่างของชายปริศนาแนบชิดเข้ามา กนกแทบไม่ได้มีเวลาตั้งตัว ก่อนที่ลมหายใจร้อนจะเคลื่อนเข้าใกล้ กลิ่นหอมอ่อนๆ ที่เขาไม่คุ้นเคยลอยอวลอยู่รอบตัว เสี้ยววินาทีต่อมา ริมฝีปากของชายแปลกหน้ากดลงมาบนริมฝีปากของเขา...อ่อนโยน ทว่าตราตึงในความรู้สึกเขา กนกเบิกตากว้างพร้อมหัวใจเต้นกระหน่ำราวกับจะทะลุออกจากอก เขาพยายามจะขยับตัวแต่กลับถูกอ้อมแขนแข็งแรงตรึงไว้อย่างมั่นคง ไม่ใช่การบังคับขืนใจแต่เป็นสัมผัสที่เต็มไปด้วยแรงดึงดูดลึกลับราวกับอีกฝ่ายกำลังเฝ้าค้นหาอะไรบางอย่างจากตัวเขา“คุณ...” เสียงของกนกสั่นไหว ไม่แน่ใจว่าควรผลักออกหรือหยุดนิ่ง ความอบอุ่นที่แนบชิดส่งผ่านความรู้สึกบางอย่างที่เขาอธิบายไม่ได้ชายปริศนาโน้มลงมา สูดลมหายใจช้าๆ ใกล้ต้นคอของเขา ปลายนิ้วเย็นเฉียบไล้ผ่านข้างแก้มก่อนกระซิบเบาๆ ข้างหู“...ในที่สุด พี่ก็เจอเราสักที”นี่มันอะไรกัน... เขาคิดในใจ แต่ร่างกายของเขากลับตอบสนองต่อความรู้สึกที่แปลกใหม่นี้ผู้ชายคนนั้นยิ้มให้เขาอีกครั้งแล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน"ไม่ต้องกลัวนะ...พี่จะไม่ทำร้ายเธอ"กนกรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงขึ้น เขาพยายามจะพูดอะไรแต่คำพูดก็ติดอยู่ในลำคอ ผู้ชายคนนั้นยิ้มให

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   ความฝัน

    แล้วพวกเขา 3 คนก็เดินทางไปห้องสมุดด้วยกัน สถานที่ที่กว้างขวาง เงียบสงบเหมาะสำหรับการอ่านหนังสือและการทำงานอย่างจริงจัง กนก มิวและพราวต่างก็มีเป้าหมายของตัวเอง มิวและพราวตั้งใจจะหาหนังสือเกี่ยวกับวิชาเคมีเพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงสำหรับรายงาน ส่วนกนกนั้นแม้ว่าจะไม่ได้มีงานเร่งด่วนอะไรแต่เขาก็อยากมาหาหนังสือนิยายรักโรแมนติกเล่มใหม่เอาไว้อ่านสักหน่อยเมื่อเดินเข้าไปในห้องสมุด มิวและพราวก็แยกย้ายไปหาหนังสือในส่วนของวิทยาศาสตร์ ในขณะที่กนกเดินตรงไปที่ชั้นหนังสือวรรณกรรม เขาหยิบนิยายรักโรแมนติกเล่มหนึ่งที่เขาคิดว่าน่าสนใจแล้วก็หามุมสงบในห้องสมุดเพื่อนั่งอ่านต่อหลังจากนั้นไม่นาน มิวและพราวก็เสร็จสิ้นจากการค้นหาหนังสือและเดินมาหากนก ที่กำลังจดจ่ออยู่กับหนังสือเล่มหนา"นี่กนก ยังอ่านไม่จบอีกเหรอ" มิวยื่นหน้าไปถามกระซิบเสียงเบา"กำลังถึงตอนสำคัญเลย พระเอกเพิ่งจะสารภาพรักนางเอก" กนกตอบด้วยแววตาที่เป็นประกาย"แกนี่น่ะ..." พราวยิ้มเล็กๆหมั่นไส้เจ้าเพื่อนหนอนหนังสือ "แต่เอาเถอะ เราเสร็จแล้ว กลับกันไหม?"กนกพยักหน้าแล้วปิดหนังสืออย่างเสียดายแต่เขาก็รู้ว่าต้องกลับมาอ่านต่อในวันหลัง พวกเขาทั้งสามเดิน

  • เขาคนนั้นเหมือนใครคนหนึ่ง   กนก

    "แม่ครับ อ่านเรื่องนี้ให้ฟังหน่อย!""นิยายเรื่องนี้สนุกไหมครับแม่?""กนกอยากนอนหลับไปกับกองนิยายเล้ยย!"เสียงสดใสของกนกดังขึ้นท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นของบ้านหลังเล็ก ที่นี่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือแทบทุกวัน แม่ของเขาชอบอ่านหนังสือสารคดีแปลก ๆ แล้วมักจะเล่าเรื่องให้ลูกชายฟังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ส่วนพ่อก็เป็นสายหนังสือพัฒนาตัวเอง ชอบสอนกนกเรื่องแนวคิดการเติบโตและการใช้ชีวิต ทุกเย็นบ้านนี้แทบไม่เงียบเหงา เพราะมื้อค่ำมักกลายเป็นวงสนทนาเกี่ยวกับหนังสือที่แต่ละคนกำลังอ่าน ราวกับเป็นสโมสรนักอ่านขนาดย่อมแต่ในบรรดาหนังสือทั้งหมด กนกรักนิยายรักของแม่มากที่สุด ตู้หนังสือของแม่เต็มไปด้วยเล่มปกสีหวาน บางเล่มเก่าจนกระดาษเปลี่ยนเป็นสีเหลือง ตอนเด็ก ๆ เขาหยิบมาอ่านเพราะคิดว่ามันตลก แต่พอโตขึ้น เขากลับหลงรักเรื่องราวในนั้นอย่างไม่รู้ตัว"กนกลูก มากินข้าวกันครับ"เสียงแม่ดังแว่วมาจากชั้นล่าง ในขณะที่กนกกำลังจมอยู่กับฉากสำคัญของนิยาย"แป๊บนึงนะครับแม่... อีกนิดเดียวจะจบแล้ว!""แม่รอนะลูก แต่อย่านานล่ะ ข้าวจะเย็นหมด""ได้ครับแม่" กนกตอบลอย ๆ แต่สายตายังคงตรึงอยู่กับหน้ากระดาษ "อีกแค่สามหน้าเอง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status