Share

บทที่ 462

Aвтор: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
มองกำแพงค่ายโจรที่พังทลายลงมากขึ้นเรื่อยๆ และพวกโจรที่ล้มตายมากขึ้นเรื่อยๆ พวกหญิงสาวยิ่งได้ใจ

บางคนถึงขั้นลุกขึ้นโยน

“ห้ามลุกยืนเด็ดขาด กลับเข้าไปในหลุมเร็วเข้า!”

เสียงร้องเตือนของเฉินฝานดังขึ้น แต่คำพูดของเฉินฝานสายไปแล้ว

ลูกศรแปดดอกพุ่งออกมาจากค่ายโจร อีกทั้งลูกศรทั้งแปดก็แม่นยำยิ่งนัก ลูกศรหนึ่งดอกล้มสตรีไปหนึ่งคน

เพียงครู่เดียวหญิงสาวก็ตายไปสามคน ส่วนที่เหลือ แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่พวกนางก็ไม่อาจต่อสู้ได้อีก

ด้วยความร้อนใจ เฉินฝานที่ยกมือเตือนพวกหญิงสาว ก็บาดเจ็บด้วย

“นายท่าน!”

ฉินเย่ว์เจียวโผเข้าหาเฉินฝาน

“คุณท่าน!”

“เสี่ยวฝาน!”

พวกหญิงสาวและเฉียนลิ่ววิ่งไปหาเฉินฝาน

“พวกเจ้าอย่าเข้ามา ข้าไม่เป็นไร ระเบิดต่อ!” เพื่อให้พวกเขาวางใจ ตอนออกคำสั่ง เฉินฝานนั่งเหยียดตัวตรง

ตำแหน่งของพวกเขาถือว่าเป็นตำแหน่งเสียเปรียบ ต้องอาศัยจังหวะที่พวกค่ายชิงหลงไม่ทันตั้งตัว จัดการพวกเขา

“นายท่าน!” ฉินเย่ว์เจียวมองแขนของเฉินฝานที่ถูกยิง ปวดใจจนน้ำตารินไหล “เป็นความผิดของข้าน้อยเองเจ้าค่ะ ที่ไม่อาจปกป้องนายท่านได้!”

“เย่ว์เจียว เจ้าอย่าโทษตัวเอง เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า”

ขณะพูด เฉินฝา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава

Related chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 463

    ค่ายชิงหลงมีโจรประมาณสามร้อยกว่าคน ทั้งตาย ทั้งบาดเจ็บ เหลือคนที่ยังมีกำลังในการต่อสู้เพียงไม่กี่คนเท่านั้น“เสี่ยวฝาน!” เฉียนลิ่วร้องเรียก “ข้าพาพวกผู้หญิงบุกไป ใช้ระเบิดไหสุราระเบิดพวกมันให้สิ้นซาก”โดยปกติสามารถทำระเบิดง่ายๆ โดยการเททรายและดินปืนประมาณนิ้วหัวแม่โป้งลงไปในไหสุราตามอัตราส่วนที่ถูกต้องแล้วเชื่อมกับตะกั่วเมื่อครั้นก่อนจะทะลุมิติมา เฉินฝานเคยทำดินปืน ประทัด ของอันตรายเช่นนี้ แคว้นต้าชิ่งมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมร้านขายประทัด มีเพียงทางการเท่านั้นที่เปิดได้นี่จึงเป็นเหตุผลว่าเพราะเหตุใดเฉินฝานขอให้หลูเฉิงกวงช่วยไม่มีหลูเฉิงกวง เขาไม่อาจทำระเบิดมือเช่นนี้ได้“ไม่ต้อง พวกท่านกลับมา!”เฉินฝานรีบร้องเรียกเฉียนลิ่ว เผชิญหน้ากันโต้งๆ พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโจรภูเขาเรื่องที่ต้องอาศัยความชำนาญ ปล่อยให้คนชำนาญเป็นคนดำเนินการขณะพูด เฉินฝานหันไปมองหลูเฉิงกวงที่ตกตะลึงนิ่งค้างอยู่นาน “ใต้เท้าหลูขอรับ!”ร้องเรียกสามครั้งติดต่อกัน กว่าหลูเฉิงกวงจะดึงสติกลับมา“เฮ้อ เสี่ยวฝาน เสี่ยวฝาน ข้าอยู่นี่! เจ้าเรียกข้ามีอะไรรึเปล่า? หลูเฉิงกวงตอบ พร้อมกับเดินมาหาเฉินฝาน“ใต้เท

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 464

    “เผียะ!”โคลนก้อนใหญ่ถูกโยนไปยังใบหน้าของจางหย่งชุน โคลนก้อนนี้เป็นโคลนที่ถูกเผาจึงร้อนยิ่งนัก“อ๊าก!”จางหย่งชุนร้องเรียกด้วยความเจ็บปวด มือกุมหน้าด่าทอเสียงดัง “ใคร? ใครอยากตาย ถึงโยนโคลนใส่หน้าข้า เดินออกมาคุกเข่าขอโทษข้าเสียโดยดี ข้าจะพิจารณาไว้ชีวิตเจ้า!”“ข้า”เสียงนิ่งสงบ ทุ้มต่ำเปี่ยมไปด้วยพลัง“คือท่าน ท่านยังไม่...”ตอนจางหย่งชุนเห็นหน้าคนที่พูดชัดเจนแล้วนั้น ขาทั้งสองข้างราวกับโคลนเหลวอย่างไรอย่างนั้น ทรุดตัวคุกเข่าบนพื้น“ท่าน ท่านจอมพลเสถียรภาพ ข้า ข้า...”สีหน้าของจางหย่งชุนซีดขาว พูดติดอ่างมานานพักใหญ่ ก็ยังไม่อาจพูดประโยคที่สมบูรณ์ได้“ข้าสมควรตาย ข้าสมควรตาย!”เห็นสีหน้าของเพ่ยจี้แย่ลงอย่างต่อเนื่อง จางหย่งชุนตบหน้าตนเองไม่หยุด“พอได้แล้ว!” สีหน้าของเพ่ยจี้ฉายความหงุดหงิด “หยุดเสแสร้งได้แล้ว มานี่!”“ขอรับ ขอรับ” จางหย่งชุนทั้งคลานและกระโดดลงไปในหลุม “จอมพล ไม่ทราบว่าท่านมีอะไรจะสั่งการขอรับ?”“ย่อตัวลง แบกเฉินฝานลงเขา!”คำพูดของเพ่ยจี้ ทำให้ภูเขาที่เสียงดังกึกก้องเงียบสงบลงกะทันหัน“ขอรับ?” จางหย่งชุนมองเพ่ยจี้ด้วยความตกตะลึง ไม่ใช่ว่าเขาได้ยินไม่ชัด แ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 465

    “ไม่ต้องแบกข้า ข้าเดินเองได้!” เฉินฝานพูดต่อ เขาไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ทั้งยังรู้สึกยุ่งยาก เดินเองเร็วกว่า“ต้องแบก จำต้องแบก ตอนนี้เจ้าบาดเจ็บสาหัส หากเดินลงเขาเอง ทำให้บาดแผลที่มือกระทบกระเทือน วันข้างหน้ามือของเจ้าจะเบี้ยวเอาได้”เพ่ยจี้พูด แล้วหันไปถามหมอที่รักษาเฉินฝาน “เจ้าว่าใช่ไหม?”“เอ่อ...ใช่ๆ พ่อหนุ่มตอนนี้เจ้าไม่ควรเดินด้วยตนเอง”หมอคนนั้นยกมือขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผากตั้งแต่เป็นหมอมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพูดโกหกแววตาของจอมพลแทบจะกินคนแล้ว เขาจะกล้าพูดความจริงได้อย่างไร“นายท่าน ท่านเชื่อฟังท่านหมอเถอะเจ้าค่ะ” ฉินเย่ว์เจียวพูดด้วยความเป็นห่วงนี่คงจะเป็นคนคลั่งรักที่ว่ากันกระมังฉินเย่ว์เจียวที่เป็นห่วงเฉินฝาน เมื่อเห็นเขาบาดเจ็บ นางไม่อาจพิจารณาสิ่งใดได้แล้ว“หึ!” เพ่ยจี้พูดเสียงดัง “ได้ยินแล้วใช่ไหม ไม่ใช่แค่หมอพูดเช่นนี้ ภรรยาของเจ้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน”“...” เฉินฝานจนปัญญารอยยิ้มของเพ่ยจี้ มีความร้ายกาจแล่นผ่านเขาย่อมรู้ว่าเฉินฝานเดินเองได้ เขาทำเช่นนี้มีสองจุดประสงค์ประการแรกจางหย่งชุนแค่ปราบโจรก็ทำให้สูญเสียกำลังทหารมากมาย เขาต้องลงโทษจางหย่งชุน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 466

    “เจ้าเดิน ผู้ใดบอกว่าจะให้เจ้านั่งรถม้าเล่า?”แม้รถม้าจะใหญ่มากพอ เพ่ยจี้ก็ไม่มีทางให้หลี่หงโห่วขึ้นไปนั่ง“ข้าน้อย เดิน เดินหรือขอรับ?”เจ้าเมืองขุนนางขั้นห้า ยกรถม้าให้บัณฑิต แล้วตนเดินเองเนี่ยนะ!นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งแรก ตลอดหลายร้อยปีนับตั้งแต่ก่อตั้งราชวงศ์ต้าชิ่งแววตาของเพ่ยจี้ลุ่มลึง จ้องเขม็งไปที่หลี่หงโห่ว “ทำไม? ร่างกายของเจ้า แค่เดินก็เดินไม่ได้แล้วหรือ? หากเป็นเช่นนั้น ข้าจะรายงานฝ่าบาท ให้เจ้าเกษียณก่อนกำหนด”“จอมพล สุขภาพร่างกายของข้าน้อยยังแข็งแรงดีขอรับ เดินได้ เดินได้!”หลี่หงโห่วไม่กล้าพูดพล่ามอีกแม้แต่คำเดียว หันไปบอกองครักษ์ของตน “เร็วเข้า บอกลุงเหอให้นำรถม้าออกมาจากที่ซ่อน แล้วรอตรงนั้น”ไปถึงหน้ารถม้า เพ่ยจี้ชำเลืองมองเก้าอี้ที่วางอยู่ข้างรถม้า ใช้เท้าแตะ “เก้าอี้ตัวนี้ดูไม่แข็งแรงแม้แต่น้อย เจ้า!”เพ่ยจี้ชี้ไปที่จางหย่งชุน “หลังจากวางเฉินฝาน คลานเข่าลงซะ!”เขาจะให้จางหย่งชุนคลานเข่าเป็นเก้าอี้เหยียบขึ้นรถม้าให้กับเฉินฝานจางหย่งชุนไม่กล้าปฏิเสธ หลี่หงโห่วก็ไม่กล้าช่วยเขาพูด“ผู้เฒ่า ข้าขึ้นไปเอง”ลงจากหลังของจางหย่งชุน เฉินฝานกระโดดเล็กน้อย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 467

    “ไม่ได้ขอรับ!”เฉินฝานไม่แม้แต่จะคิด ก็ปฏิเสธไปทันทีระเบิดมือจากดิน สำหรับคนยุคปัจจุบันอย่างเขา ไม่ใช่เรื่องยาก แต่สำหรับคนโบราณที่ไม่เข้าใจหลักการระเบิด และไม่อาจแยกแยะอัตราส่วนได้นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายพวกเฉียนลิ่ว ตอนนี้หากไม่มีเฉินฝานคอยชั่งสารต่างๆ พวกเขาก็ไม่อาจทำได้การสอนคนโบราณคนหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งยังมีอีกหนึ่งเหตุผลอีกหนึ่งเหตุผลก็คือ เฉินฝานยังไม่รู้จักเพ่ยจี้ดีเท่าใดนัก หากเขาเป็นคนทะเยอทะยาน เช่นนั้นเฉินฝานก็จะกลายเป็นคนบาปของแคว้นต้าชิ่งถอยอีกก้าว แม้เพ่ยจี้จะเป็นขุนนางจงรักภักดี ซื่อสัตย์ต่อราชวงศ์ต้าชิ่งแต่คนข้างกายเขาเล่า?เขาอายุมากแล้ว ไม่ช้าก็เร็วย่อมยกกองทัพหมาป่าให้ผู้อื่น“เสี่ยวฝาน” เพ่ยจี้ยังอยากจะขอร้องอีก“ไม่ได้ขอรับ ข้าบอกว่าไม่ได้ก็ไม่ได้ หากท่านยังพูดไม่จบ รถม้าคันนี้ ท่านนั่ง ข้าลง!”ขณะพูด เฉินฝานยื่นมือไปเปิดผ้าม่าน“อย่าๆๆ!” เพ่ยจี้รีบปรามเฉินฝาน “ระเบิดมือนั้น ข้าไม่เอาแล้ว ไม่เอาแล้ว!”เฉินฝานได้ยินเช่นนี้ค่อยนั่งลง“เสี่ยวฝาน ข้าไม่เอาระเบิดมือแล้ว เช่นนั้นเจ้าบอกข้าได้หรือไม่ หลุมของเจ้า แล้วก็รหัสคำต่างๆ เหล่านั้นแม้การโ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 468

    “เสี่ยวฝาน เจ้าอย่าเข้าใจผิด แม้ข้าไม่มีลูกชาย แต่ข้ามีลูกสาวสิบแปดคน ข้าเป็นชายแท้ หากเจ้าไม่เชื่อ!”เพ่ยจี้ยกมือขึ้น หยิบยกลูกสาวตนเองขึ้นมากล่าวคำสาบาน “หากข้าพูดโกหก ขอให้ลูกสาวทั้งหมดของข้าไม่อาจออกเรือน บรรดาลูกสาวที่ออกเรือนแล้วก็ขอให้พวกนางไม่มีลูกชาย”“...” เสี้ยววินาทีนี้ เฉินฝานรู้สึกปวดใจแทนลูกสาวของเพ่ยจี้ พ่อแบบนี้มีที่ไหน“หากท่านไม่มีปัญหา แล้วเหตุใดจู่ๆ จึงเหม่อลอยเล่า?”“ข้าเหม่อลอยหรือ? เฮ้อ เจ้าเป็นบัณฑิตไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงมีความรู้ด้านการทหารมากมายเช่นนี้ รู้สึกคล้ายเมื่อก่อนสู้รบบ่อยครั้งอย่างไรอย่างนั้นเพ่ยจี้ไม่เพียงไม่ตอบคำถามเฉินฝาน ยังเปลี่ยนบทสนทนามาสงสัยในตัวเฉินฝานแทนเฉินฝานมองเพ่ยจี้เงียบๆช่างเป็นชายชราแสนเจ้าเล่ห์จริงๆเรื่องเล็กน้อย ชายชราเจ้าเล่ห์เช่นนี้ ใช่ว่าเขาเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก“ท่านบอกว่าข้าเป็นบัณฑิตไม่ใช่หรือ ล้วนได้ความรู้มากจากการอ่านตำรับตำรา”“พ่อหนุ่มคนนี้!” เพ่ยจี้มองเฉินฝานอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย “เจ้าช่างไม่ซื่อสัตย์ แคว้นของเราไม่อาจสั่งพิมพ์และขายตำราทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับด้านการทหาร แล้วเจ้าจะเคยอ่านเจอได้อย่าไง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 469

    “เฉินฝานเปิดม่านมองออกไปเพ่ยจี้นั่งตรงตำแหน่งสารถี หลี่หงโห่วและจางหย่งชุนยืนอยู่ข้างรถม้าด้วยความเคารพ“ท่านจอมพล อำเภอผิงอันยากจน อาหารการกินและที่พักล้วนไม่สะดวกสบาย พักที่นี่ ลำบากท่านจอมพลแล้วขอรับ” จางหย่งชุนพูดอำเภอผิงอันเป็นจุดด่างพล้อยในชีวิตของเขา แม้แค่เพียงดื่มน้ำ จางหย่งชุนก็ไม่อยากอยู่สีหน้าของเพ่ยจี้ไม่สบอารมณ์ “ข้าเป็นทหารคอยออกรบ ความลำบากแค่นี้มีหรือที่จะทนรับไม่ได้?”“ไม่ขอรับ!” สีหน้าของหลี่หงโห่วซีดขาวทันที เขาส่งสายตาบอกจางหย่งชุนติดต่อกันเพ่ยจี้เป็นทหาร ทหารคนหนึ่งถือสาเรื่องอาหารการกินและที่พักไม่สุขสบาย เช่นนั้นก็หมายความว่าเขารักตัวกลัวตายไม่ใช่หรือ?เจ้าหมอเนี่ย เขาเกือบเดือดร้อนเพราะจางหย่งชุนแล้ว“จอมพล ท่านย่อมเป็นคนทนต่อความลำบากมากที่สุดของแคว้นต้าชิ่ง มิเช่นนั้นท่านจะเป็นผู้บัญชาการของกองทัพหมาป่าได้อย่างไร จะปกป้องพื้นที่ชายแดนของต้าชิ่งได้อย่างไร”ฟังถึงตรงนี้ จางหย่งชุนก็เข้าใจเขาตกใจรีบคุกเข่าลง พร้อมกับตนหน้าตนเองไม่หยุด “ข้าน้อยโง่เขลา ข้าน้อยโง่เขลา!”เพ่ยจี้มองจางหย่งชุนด้วยแววตาเย็นชา “เจ้าช่างโง่เขลาจริงๆ ไม่ต้องข้าน้อยอะไรแล้ว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 470

    “ท่านจอมพล ท่านยังคงเหมือนเดิมชอบล้อเล่นกับข้าน้อยเสมอ...”“ข้าน้อยน้อมคารวะนายกอง ขอแสดงความยินดีกับนายกอง ยินดีด้วยขอรับนายกอง!”หลูเฉิงกวงยังพูดไม่จบ จางเจิ้งห้าวที่อยู่ข้างๆ เขาคุกเข่ากล่าวคำยินดีเสียงดัง“ปลัดอำเภอ ท่านยินดีบ้าบออะไร? ซื่อจริงๆ ท่านจอมพลอยู่นี่” หลูเฉิงกวงก้มหน้าตำหนิจางเจิ้งห้าวเพ่ยจี้เขกศีรษะหลูเฉิงกวงเบาๆ “ข้าว่าคนที่ซื่อที่สุดคือเจ้า ผ่านมาหลายปีแล้ว อายุมากขึ้นแล้ว แต่ความฉลาดกลับไม่มากขึ้น”“คารวะท่านนายกอง!”สิ้นเสียงของเพ่ยจี้ ทหารเฝ้าเมืองของหรงตูต่างคุกเข่าลง กล่าวคารวะนายกองเสียงดัง เสียงนั้นดังราวกับฟ้าคำราม“ท่านจอมพล ความหมายของท่านคือ หลูเฉิงกวงคือนายกองคนใหม่ที่ท่านส่งมาหรือขอรับ?”คำถามสติปัญญาต่ำเช่นนี้ พูดแล้วทำให้ตนดูโง่เขลา ทั้งยังทำให้เพ่ยจี้ไม่พอใจ แต่หลี่หงโห่วก็ยังคงถามเพราะเขาไม่อาจเชื่อได้จริงๆ ทั้งยังไม่อาจยอมรับได้ว่าหลูเฉิงกวงคือนายกองคนใหม่ของหรงตูคนที่ในอดีตเขาชักสีหน้าให้ตลอด กลายเป็นนายกองของเขา ความปลอดภัยในชีวิตอยู่ในมือนายกอง เขาจะไม่กลัวได้อย่างไร?“ถูกต้อง ทำไม เจ้ามีปัญหาหรือ?” น้ำเสียงของเพ่ยจี้ไม่สบอารมณ์“ข

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status