Share

บทที่ 1143

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“เขามิได้เก่งกาจธรรมดา แต่เก่งกาจอย่างมาก ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เผชิญหน้าโดยมิลนลาน มิเพียงแต่ถอนพิษให้คนที่ติดพิษทั้งหมดได้ และยังสามารถแยกแยะหมอและคนติดพิษตัวจริงได้อีกด้วย”

“ขอบคุณใต้เท้าที่กรุณาช่วยชีวิต ใต้เท้าเป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของเถี่ยหนิว ความเมตตาของท่าน เถี่ยหนิวจะมิวันลืมเลือน!” จางเถี่ยหนิวนำภรรยาและเหล่าลูกชายลูกสาวมาคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝาน

คนติดพิษคนอื่นเห็นเช่นนี้ ก็พากันพาคนในครอบครัวมาคุกเข่าขอบคุณเฉินฝาน

ทันใดนั้น เสียงร้องไห้ซาบซึ้งด้วยความดีใจก็ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งศูนย์บรรเทาทุกข์

เฉินฝานช่วยเหลือเหล่าคนติดพิษแล้ว สังหารตัวปลอมที่แฝงตัวเข้ามาด้วยเจตนาร้าย เสิ่นหมิงหยวนก็เปิดศึกสังหารโดยไร้เหตุผลมิได้แล้ว

ตอนนี้เสิ่นหมิงหยวนมิเพียงมิสามารถเปิดศึกโดยไร้เหตุผลแล้ว ยังต้องคิดหาวิธีแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับคนที่ปลอมตัวเข้ามาอีกด้วย

“เหนือจิตนาการไปแล้ว ช่างเหนือจิตนาการยิ่งนัก!”

เมื่อได้ยินว่าเฉินฝานถูกปิดล้อมอยู่ที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ ไป่เผยหรานที่รีบร้อนพากองกำลังมา ตื้นตันใจสุดขีด

หนึ่งเค่อก่อนหน้านี้ ยังตกอยู่ในสถานการณ์ถูกปิดล้อมอยู่เลย แ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1144

    “ดอกพลับพลึงแมงมุมกระตุ้นให้อาเจียน แกงถั่วเขียวถอนพิษ นมวัวบำรุงกระเพาะ ท่านหมอหลี่ซิ่นเริ่นบอกมาเช่นนี้”หมอหนุ่มผู้นั้นกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง“เจ้าหนุ่มสมองกลวงช่างหลอกลวงเก่งยิ่งนัก” มีคนเขกหัวหมอหนุ่ม “ดอกพลับพลึงแมงมุมกระตุ้นให้อาเจียน แกงถั่วเขียวถอนพิษ นมวัวบำรุงกระเพาะงั้นรึ? ง่ายดายปานนั้นก็สามารถถอนพิษหญ้าไส้ขาดแล้ว พิษหญ้าไส้ขาดน่าหวาดกลัวปานนั้น น่าหวาดกลัวถึงขั้นที่ว่าหมอหลวงในวังยังหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว?”“ถูกต้อง จะต้องมิง่ายดายแบบนั้นแน่นอน ดอกพลับพลึงแมงมุม แกงถั่วเขียว นมวัว สิ่งเหล่านั้นล้วนนำมาใช้เพื่ออำพรางความจริง ด้านในจะต้องมีเครื่องปรุงยาล้ำค่าอันใดซ่อนอยู่เป็นแน่”ห่างออกไปมิไกลนักพิษหญ้าไส้ขาดถูกถอนแล้ว ศิลปะการแปลงโฉมถูกเปิดโปงแล้ว ไป่ชงซานที่จิตใจห่อเหี่ยวได้ยินคำพูดนี้ ก็มีกำลังวังชาขึ้นมาทันทีถูกต้องแล้ว จะต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน มิเช่นนั้นจะถอนพิษหญ้าไส้ขาดในหุบเขาร้อยบุปผาของเขาได้ง่ายดายปานนั้นได้อย่างไรเสิ่นหมิงหยวนสีหน้าถมึงทึงเหลือบมองไป่ชงซานเล็กน้อย จากนั้นก็หันหน้าไปจ้องเขม็งใช้สายตาถามหลี่ชิ่งหลี่ชิ่งรีบกล่าวอย่างลนลาน “ใต้เท้า ตอนที

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1145

    เขากล่าวว่า แพทย์แผนจีนยิ่งใหญ่ ทว่าเพราะความคิดแล้งน้ำใจเช่นนี้ของเหล่าหมอทั้งหลาย ทำให้ใบสั่งยาแพทย์แผนจีนที่ยิ่งใหญ่มากมายมิได้ถูกส่งต่อ เมื่อถึงยุคปัจจุบัน แพทย์แผนจีนก็ถูกแพทย์แผนตะวันตกบดขยี้อย่างไร้ความปรานีหากหมอคนหนึ่งอยากจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ จำเป็นต้องสลัดความคิดใจแคบเช่นนี้ออกไป ต้องแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน ระดมความคิดเพื่อปรับปรุงใบสั่งยาให้ดียิ่งๆขึ้นไปหลี่ซิ่นเริ่นมิเข้าใจคำพูดของเฉินฝานมากนัก เพราะเขาล้วนรู้สึกมิคุ้นชินกับคำว่ายุคปัจจุบันหรือคำว่าแพทย์แผนตะวันตกมากนักทว่าสีหน้าหนักแน่นเด็ดเดี่ยวของเฉินฝาน และประโยคด้านหลังที่ทำให้ประทับใจอย่างสุดซึ้งหากหมอทุกคนสามารถแบ่งปันใบสั่งยาของตนเองออกสู่สาธารณะ เช่นนั้นบนโลกหล้านี้คงจะมีคนป่วยรอดชีวิตเพิ่มขึ้นได้ด้วยเหตุนี้มิน้อย“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าก็ยังคงมิเชื่ออยู่ดี มานี่สิ!” หลี่ซิ่นเริ่นยกมือขึ้นชี้ไปทางศูนย์บรรเทาทุกข์ “ตามข้าไปที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ คนติดพิษคนใหม่เข้ามาจำนวนมาก พวกเขาต้องการทุกท่าน”แม้หมอส่วนใหญ่ยังคงรู้สึกสงสัย ทว่าก็ตามหลี่ซิ่นเริ่นเข้าไปในศูนย์บรรเทาทุกข์อยู่ดีเฉินฝานมองดูอยู่ด้านข้างลอบชื่นชมอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1146

    “ก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริง” เฉินฝานกล่าวด้วยเสียงเรียบนิ่งเขาหันหน้าไปออกคำสั่งกับไป่เผยหราน “ช่างเถอะ มิต้องทำให้เขาลำบากใจแล้ว”“ขอรับ ใต้เท้า” ไป่เผยหรานทำตามคำสั่งทันทีไป่เผยหรานส่งหลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมไปรักษาแผล หลังจากนั้นก็ให้เขากินดีอยู่ดีในคุก มิทรมานเขาอีกจริง ๆตอนแรกหลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมมิเชื่อว่าไป่เผยหรานจะปล่อยเขาไปจริงๆ จนกระทั่งหิวโหยมาสามวันสามคืนจนทนมิได้ต้องกินอาหาร ไป่เผยหรานก็ยังมิได้ทำให้เขาลำบากใจ เขาจึงปักใจเชื่อ“ต่อให้พวกเจ้าใช้วิธีนี้ ข้าก็จะมิพูดอันใดอยู่ดี!”ตอนที่ไป่เผยหรานมาส่งอาหารอีกรอบ หลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมเขียนข้อความใส่กระดาษมาเช่นนี้หลังจากที่วางกล่องอาหารลงแล้วไป่เผยหรานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พูดอย่างมิใส่ใจนัก “ข้ารู้ ดังนั้นก็มิได้คาดหวังให้เจ้าพูดอันใดออกมาอยู่แล้ว”“ในเมื่อรู้เช่นนี้ ไฉนยังต้องมาส่งอาหารให้ข้า?” หลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมเขียนอย่างลวกๆอีกหนึ่งประโยค มือที่กำหญ้าฟางไว้ ถูกไฟเผาทำให้ตุ่มหนองผุดขึ้นจำนวนมาก จะต้องเจ็บปวดอย่างมากเป็นแน่ ทว่าเขากลับมิได้ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดแม้แต่น้อยผ่านไปครู่ใหญ่ ไป่เผยหรานจึงละสายตาจา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1147

    สายตาของหงอิงมองไปมือของฉินเย่ว์เหมย “ตอนนี้ฝ่าบาทสามารถอ่านสาสน์กราบทูลกลับหัวได้แล้ว”“...ข้า ข้า...” ฉินเย่ว์เหมยรีบกลับด้านสาสน์กราบทูลกลับอย่างลนลาน หันหน้าไปทางอื่นด้วยความประหม่า“เป็นเพราะเจ้าทำให้ข้าตกใจต่างหาก” เห็นได้ชัดว่าฉินเย่ว์เหมยหาข้ออ้างส่งเดช“เรื่องนั้นข้าน้อยมิได้เป็นคนทำเสียหน่อย” หงอิงหน้าแดงก่ำ กลั้นขำอย่างยากลำบากฉินเย่ว์เหมยจ้องหงอิงอย่างโหดเหี้ยม“อยากจะหัวเราะเจ้าก็หัวเราะออกมาเถอะ ข้าเห็นหน้าแดงเป็นลูกตำลึงของเจ้าคงทรมานน่าดู”“ฝ่าบาท ท่านอยากไปดูใต้เท้าเฉินก็ไปดูสิ มิต้องเอาความโมโหมาลงที่ข้าน้อย”น้อยครั้งที่หงอิงจะต่อปากต่อคำ จู่ ๆ ก็ใจกล้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเฉินฝาน ขอเพียงแค่เกี่ยวกับเฉินฝาน หงอิงก็จะกล้าพูดเสมอ และแม้ฉินเย่ว์เหมยจะบอกว่ามิยอมยกโทษให้ง่ายๆมาโดยตลอด แต่พอเอาเข้าจริงแล้วนางก็มิได้ทำอันใด“เขาจะหลับดีหรือไม่ ใครอยากจะไปดูเขากัน”ฉินเย่ว์เหมยกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ทว่านางมิทางรู้ได้ว่าท่าทีตอนนี้ของนางเหมือนกับสาวน้อยที่กำลังหาเรื่องชวนทะเลาะกับแฟนหนุ่มของตัวเอง“หากฝ่าบาทมิไป ข้าน้อยจะไปเอง”กล่าวจบ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1148

    “......”ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งจะรู้ตัวว่า ตอนนี้ตัวเองจะแก้ตัวอย่างไรก็ฟังมิขึ้นแล้วฉินเย่ว์เหมยถลึงตามองเฉินฝานที่กำลังหลับอย่างสบายใจเฉิบอย่างโหดเหี้ยมล้วนเป็นเพราะตาทึ่มคนนี้แท้ๆโมโหก็ส่วนโมโห เสียเปรียบก็ส่วนเสียเปรียบ อายก็ส่วนอาย ฉินเย่ว์เหมยยังตัดใจปลุกเฉินฝานมิลงมิเพียงแต่มิปลุกให้ตื่นเท่านั้น และยังมิลุกจากไปไหนอีกด้วย เพราะตอนนี้เฉินฝานกำลังนอนหนุนตักของนางอยู่ หากนางลุกขึ้นยืนเฉินฝานจะต้องตื่นเป็นแน่ต่อให้เป็นโอรสสวรรค์ของต้าชิ่ง ต่อให้เวลาปกติต้องทำท่าทีเย่อหยิ่งเย็นชาอยู่ตลอด ทว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นเปลือกนอกของฉินเย่ว์เหมย ที่จริงแล้วนางเป็นเพียงแค่หญิงสาวอายุยี่สิบต้นๆที่ยังมิได้ออกเรือนเท่านั้นมีชายคนหนึ่งมานอนหลับบนตัก จึงเป็นเรื่องยากที่นางจะทำจิตใจให้สงบได้ระหว่างนี้หากมิใช่ใบหน้าขึ้นสีก็หัวใจเต้นมิเป็นจังหวะ-เกือบหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ นี่เป็นการนอนที่สบายใจและเคลิบเคลิ้มที่สุดครั้งหนึ่งของเฉินฝานเฉินฝานรู้สึกว่าหมอนใบนี้ช่างนุ่มนวล กลิ่นหอมและยังอบอุ่นอีกด้วยบนโลกหล้านี้จะมีหมอนที่หอมและนุ่มนิ่มปานนั้นได้อย่างไร ทำให้เขาติดใจมิอยากวางลง ยิ่งกอดรัดแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1149

    เฉินฝานมิขอโทษมิยอมรับผิดยังจะดีเสียกว่า เมื่อเขาปริปากพูดเช่นนี้ ทำให้ฉินเย่ว์เหมยยากที่จะทำใจให้สงบได้ จึงเริ่มทำตัวลนลานอีกครั้งปลายจมูกขึ้นสีอีกครั้ง แสงตกกระทบทำให้สีแดงบนใบหน้าเปล่งประกายชวนให้คนหลงไหล“ขุนนางเฉินที่รัก เจ้ารายงานเรียบแล้วก็กลับไปเถอะ”แม้ฉินเย่ว์เหมยจะคงรักษาความเยือกเย็นในน้ำเสียงไว้ได้ ทว่ากลับมิกล้ามองเฉินฝาน นางรีบไปนั่งที่โต๊ะทำงานหยิบสาสน์กราบทูลขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว ทำท่าทีว่ายุ่งมากเฉินฝานลูบจมูกเล็กน้อย เดินมาด้านหน้าฉินเย่ว์เหมย ลังเลไปครู่หนึ่งจึงพูดเสียงนุ่มนวลออกมา “ฝ่าบาท ท่านถือสาสน์กราบทูลกลับด้าน”มือที่ฉินเย่ว์เหมยถือสาสน์กราบทูลสั่นเทาเล็กน้อย“ข้าชอบอ่านสาสน์กราบทูลเช่นนี้”“......” ช่างเป็นสาวน้อยที่ปากแข็งยิ่งนัก ต่อให้จิตใจว้าวุ่น หรือเขินอาย ให้ตายก็มิยอมรับอยู่ดีช่างเถอะ เรื่องนี้เขาเป็นฝ่ายทำผิดก่อน อย่าทำให้นางลำบากใจเลย“เช่นนั้นกระหม่อมขอตัวก่อน”“อืม” ฉินเย่ว์เหมยจานรับเบา ๆ ยังคงก้มหน้าก้มตาอยู่“ฝ่าบาท เสื้อซับในของท่านช่างพิเศษยิ่งนัก คิดไม่ถึงว่าด้านบนปักเป็ดแมนดารินคู่หนึ่งไว้ งดงามมาก การปักช่างประณีต” ตอนที่เดิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1150

    ตอนที่จวนจะเดินออกมาจากโรงเตี๊ยมแล้ว เฉินฝานพบว่าตัวของเขามีกลิ่นเหม็นเปรี้ยวเขาหันหน้ากลับไปมองห้องบรรทมของฉินเย่ว์เหมย ยกยิ้มขึ้นทันที กลิ่นตัวเขาแรงปานนั้น ฉินเย่ว์เหมยยังมิรังเกียจให้เขานอนบนเตียงยังจะพูดว่ามิมีทางชอบเขาอีก ช่างเป็นสาวน้อยที่ปากแข็งยิ่งนัก!“หลี่เต๋อฉวน!”เฉินฝานตะโกนไปทางห้องของฉินเย่ว์เหมย“เสิ่นหมิงหยวนยังมีที่พักอาศัย แต่ข้าที่เป็นอัครเสนาบดีเบื้องซ้ายกลับมิมีงั้นรึ?”เฉินฝานพูดยังมิทันจบดี หลี่เต๋อฉวนก็วิ่งออกมาจากห้องฉินเย่ว์เหมย หลี่เต๋อฉวนทั้งอ้วนและเตี้ย เมื่อออกวิ่งก็เหมือนก้อนเนื้อกลมๆก้อนหนึ่ง ท่าทางน่าขันยิ่งนัก“โถ่ ๆ ใต้เท้า ท่านจะประหารข้าน้อยงั้นรึ ท่านจะมิมีที่พักได้อย่างไร ห้องของท่านข้าน้อยได้ตระเตรียมไว้ให้นานแล้วขอรับ”หลี่เต๋อฉวนวิ่งไปพลางส่งสายตาให้ขันทีน้อยข้างกายไปพลาง ขันทีที่รับทราบสัญญาณรีบวิ่งออกไปทันที“โถ่ ๆ ใต้เท้า ท่านร่างกายกำยำบึกบึน ร่างกายไร้ประโยชน์ของข้ามิมีทางเทียบได้ ใต้เท้า ท่านโปรดรอข้าน้อยประเดี๋ยวหนึ่งเถิด” หลี่เต๋อฉวนวิ่งตามหลังเฉินฝาน พูดอย่างกระหืดกระหอบ“หัวหน้าหลี่ ร่างเจ้าเนื้อของเจ้า ขาวๆนุ่มนิ่ม มองแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1151

    “ช้าก่อน!”ขณะหลี่เต๋อฉวนเดินไปถึงประตู เฉินฝานก็เอ่ยปากร้องเรียกเขาไว้“ใต้เท้า มีอะไรให้รับใช้ขอรับ?” หลี่เต๋อฉวนหยุดลงทันทีเฉินฝานชี้ไปยังสตรีสองคนด้านหน้า พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งสงบ “พาตัวพวกนางกลับไปด้วย”“ใต้เท้า?” หลี่เต๋อฉวนฉงนครู่หนึ่ง ทว่าก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว พลันสายตามองไปทางสตรีทั้งสองสตรีนามเสี่ยวเจินและเสี่ยวฮวารีบขยับเข้าใกล้เฉินฝาน“ท่านอัครเสนาบดี ให้พวกข้าปรนนิบัติท่านเถอะเจ้าค่ะ”“ใต้เท้า ทักษะการขัดตัวของพวกข้ายอดเยี่ยมมากนะเจ้าคะ”ขณะพูด เสี่ยวเจินและเสี่ยวฮวาที่ยืนขนาบซ้ายขวาของเฉินฝาน เริ่มบิดเอวเป็นงู ปทุมอวบอิ่มทั้งสองเริ่มเลื้อยขึ้นลงบนตัวเฉินฝาน“... ‘ทักษะ’ ขัดตัวของพวกเจ้าจัดเป็นอันดับหนึ่งจริงๆ เพียงแต่วันนี้ผิวพรรณของข้าแพ้ง่าย ไม่อาจ ‘ขัดตัว’ ได้”ขณะพูด เฉินฝานก็ผลักเสี่ยวเจินและเสี่ยวฮวาออกไป“ใต้เท้า ท่าน...”“สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร ทางศูนย์บรรเทาทุกข์ยังคงวุ่นวาย ความปลอดภัยของฝ่าบาทยังไม่ได้รับการรับประกัน ความใคร่เปรียบดั่งดาบบนศีรษะ แม้กระทั่งเด็กหนุ่มวัยสิบต้นๆ ยังรู้หลักการนี้ ทว่าท่านหัวหน้าหลี่กลับไม่รู้เช่นนั้นหรือ? หื้ม

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1302

    หวนนึกถึงภาพเพื่อนสนิทที่ถูกเสือฉีกร่างทั้งเป็น ฉินเย่วฉินดวงตาแดงก่ำ แววตาแน่วแน่“ได้!” เฉินฝานขานรับน้ำเสียงเด็ดขาดอย่างมากในขณะเดียวกันที่เฉินฝานออกเดินทาง โจวอวี่ก็พามือปืนหนึ่งพันคนของเขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน เดินทางจากอีกฝั่งของเมืองเช่นกันวันนี้คนบนท้องถนนมีจำนวนมากเป็นพิเศษ รถม้าของเฉินฝานต้องหยุดหลายครั้งเมื่อรถม้าหยุดอีกครั้ง ฉินเย่ว์ฉินกล่าวด้วยความหงุดหงิด “เจ้าเป็นท่านอัครเสนาบดีที่ตำแหน่งอำนาจสูงส่งมิใช่หรือ? ไฉนคนเดินเท้าบนท้องถนนจึงกล้าขวางทางรถม้าเจ้า”“ขวางทางอันใดกัน? พวกเราใต้เท้ามิใช่ขุนนางกังฉินที่วางอำนาจตามอำเภอใจไปทั่ว ใต้เท้าต้องรักและดูแลราษฎร วันนี้คนที่ออกจากเมืองค่อนข้างเยอะ พวกเราเพียงหยุดเพื่อหลีกทางให้ฝูงชนเท่านั้น อีกอย่างบัดนี้พวกเรามิได้นั่งรถม้าของอัครเสนาบดีเสียหน่อย”หลี่จู้นายพลประจำกายคนใหม่ของเฉินฝานที่ติดตามอยู่ด้านนอกรถม้าเริ่มปริปากตำหนิฉินเย่ว์ฉิน ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่โรงมหรสพจวบจนบัดนี้ เขาคิดมาตลอดว่าเป็นความผิดของฉินเย่ว์ฉิน หากมิใช่เพราะนาง เฉินฝานก็คงจะมิตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายบัดนี้เฉินฝานยังเป็นอัครเสนาบดีที่ ‘ตายไปแล้ว’

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1301

    “ถูกต้อง คนของตำหนักเซียวเหยาส่วนใหญ่ล้วนมีวรยุทธ์ติดตัวและวางยาพิษเป็น และมีคนที่สามารถควบคุมงูได้เช่นกัน ทว่าสตรีที่ทำอันใดมิเป็นสักอย่างมีเยอะกว่าเสียอีก ทุกคนล้วนหน้าตาค่อนข้างดี พวกนางจะแยกย้ายกันไปแต่ละแคว้นในแผ่นดินใหญ่ ใช้ประโยชน์จากความงามของตนดึงดูดบุรุษ หลังจากที่ตั้งท้องได้สำเร็จแล้วก็จะตีตัวออกห่างหายไปอย่างเงียบ ๆ”“เดิมทีสตรีก็มีฐานะต่ำต้อยอยู่แล้ว ผนวกกับการที่พื้นที่ส่วนใหญ่ทั้งแคว้นหญิงเยอะชายจำนวนน้อย การจากไปของพวกนางมิเพียงแต่มิได้ทำให้ชายเหล่านั้นเสียใจเท่านั้น ชายส่วนใหญ่กลับรู้สึกยินดี อย่างไรเสียก็คงมิมีชายใดที่อยากให้สตรีที่ตนเองได้ร่วมอภิรมย์แล้วจากไปโดยมิบอกกล่าว”ตอนที่ฉินเย่ว์ฉินพูด ใช้สายตาถมึงทึงมองไปที่เฉินฝานเฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินก็มีความสงสัยเช่นนี้กับเขาเช่นกัน เขามิได้แก้ตัว แก้ตัวไปก็ไร้ประโยชน์ เรื่องเช่นนี้มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะสามารถพิสูจน์ได้และที่นางพูดก็เป็นเรื่องจริงชายที่ถูกดึงดูดได้อย่างง่ายดายปานนั้น ย่อมมิยอมรับผิดชอบเป็นแน่“จากนั้นล่ะ หลังจากนั้นพวกนางอุ้มท้องแล้วก็กลับไปที่ตำหนักเซียวเหยาเช่นนี้รึ?”“ถูกต้อง” ฉินเย่ว์ฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1300

    เฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินหวาดระแวง “มิต้องสงสัยหรอก ข้าเชื่อเจ้าจริง ๆ”“ทำไมล่ะ?”“เพราะเจ้าเป็นพี่สาวของเย่ว์เจียว”อีกหนึ่งเหตุผลหนึ่งคือ ฉินเย่ว์ฉินออกมาเสี่ยงชีวิตช่วยเขาและฉินเย่ว์เจียวโดยมิห่วงความปลอดภัยตนเองแม้แต่น้อย“เพียงแค่นี้งั้นรึ?” ฉินเย่ว์ฉินสีหน้ามิเชื่อ“และเพราะว่าเจ้าเป็นภรรยาของข้า” เฉินฝานมิได้พูดเล่นหนังสือทางการที่เขาครอบครองอยู่ ตราบใดที่เขามิเขียนใบหย่า ฉินเย่ว์ฉินย่อมเป็นคนของเขาตลอดไป“แต่ข้ามิชอบเจ้า”“แล้วอย่างไรต่อ? ชีวิตของเจ้าเป็นข้า ตายไปแล้ววิญญาณก็เป็นของข้า” มิว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือท่าทางของเฉินฝานล้วนแน่วแน่และเอาแต่ใจอย่างมากวินาทีที่ฉินเย่ว์ฉินกลับมา เฉินฝานก็มิได้คิดจะปล่อยให้นางจากไปตามกฎหมายของต้าชิ่ง ในฐานะที่เป็นสามี เขามีหน้าที่ดูแลนาง นางทำความผิด เขาก็มีหน้าที่อบรมสั่งสอนนางเช่นกันฉินเย่ว์ฉินใจเต้นจากคำพูดจี้ใจดำของเฉินฝานมิใช่รู้สึกหวั่นไหวเฉินฝานตอนที่อยู่หมู่บ้านซานเหอช่วงแรกมักพูดเสียงดังน้ำเสียงดุร้ายเสมอ ทว่าตอนนั้นฉินเย่ว์ฉินมิได้รู้สึกหวาดกลัวอย่างแน่นอน ถึงขั้นรู้สึกรำคาญอย่างมาก เฉินฝานในตอนนี้มิได้พูดเสียงดัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1299

    ฉินเย่ว์ฉินเช็ดน้ำตาด้วยความรีบร้อน “อย่ามาพูดจาเหลวไหล ข้ามิได้ร้องไห้เสียหน่อย เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตาเท่านั้น”“อ๋อ ๆ พี่รองมิได้ร้องไห้ เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตา”ระหว่างที่พูด ฉินเย่ว์เจียวก็จูงมือเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน “พวกพี่มิเป็นไรก็ดีแล้ว ในที่สุดพวกเราเหล่าพี่น้องก็พร้อมหน้าพร้อมตากันได้เสียที พวกเราจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปกว้านซื้อประทัดมาเยอะ ๆ เสียงประทัดต้องดังทั้งวันทั้งคืน”“ไม่!”เฉินฝานและฉินเย่ว์ฉินพูดออกมาพร้อมกัน“ข้าจะมิกลับไปกับพวกเจ้า” น้ำเสียงฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา นางยังคงมิยอมรับในตัวเฉินฝาน“จะจุดประทัดมิได้ บัดนี้ข้ามิสามารถกลับไปได้ชั่วคราว กลับไปเช่นนี้มิได้” เฉินฝานกล่าว“พี่รอง ข้ารู้ว่าพี่คิดอันใดอยู่ พี่มิอยากกลับไป ข้าก็คิดไว้อยู่แล้ว แต่...” ฉินเย่ว์เจียวถามเฉินฝานด้วยความสงสัย “นายท่าน ไฉนท่านจึงมิกลับ?”“พี่มิเพียงแต่กลับไปมิได้เท่านั้น และยังมิสามารถ ‘มีชีวิตอยู่’ ได้”“ใต้เท้าพูดถูก บัดนี้ใต้เท้ามิสามารถมีชีวิตอยู่ได้” ไป่เผยหรานที่อยู่ด้านข้างเข้าใจความหมายแฝงในประโยคที่เฉินฝานพูดทันทีขอเพียงเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน‘เสียชีวิต’ ผู้ชักใยอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1298

    เหอจื่อหลินและไป่เผยหรานพากองกำลังขยายอาณาเขตในการขุดค้น ทว่าหาอยู่นานก็ยังมิพบอยู่ดีมิรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร“นายท่าน พี่รอง!”ฉินเย่ว์เจียวที่โดยปกติแล้วมีนิสัยดุดันตรงไปตรงมา บัดนี้ร้องไห้จนแทบจะหมดสติเหอจื่อหลินและไป่เผยหรานกำลังจะจัดแจงคนให้พานางกลับไป ปรากฏว่าเพิ่งจะปริปาก ฉินเย่ว์เจียวก็ถูกสิ่งของกระทบใส่อย่างรุนแรง“ตุ้บ!”ฉินเย่ว์เจียวถูกขว้างก้อนหินใส่“เจ้าคนหน้าไหนรนหาที่ตาย บังอาจขว้างหินใส่ข้า”“เจ้าเอะอะโวยวายปานนี้ และยังทุบตีคนที่ช่วยข้าอย่างรุนแรง เจ้ากลัวว่าพี่จะตายช้าไปหรือกระไร?”......!!!!ทุกคนล้วนตกตะลึงไปครู่ใหญ่ จึงได้สติกลับมาคือเฉินฝาน นี่คือเสียงของเฉินฝาน“นายท่าน ๆ”“ใต้เท้า ๆ”ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวเข้าหาคนแรก ทว่ามินานนางก็รู้สึกงุนงง ได้ยินเสียงเฉินฝานแล้ว แล้วตัวเขาอยู่ที่ใด“นายท่าน ๆ ท่านอยู่ที่ใด?” ฉินเย่ว์เจียวร้อนรนใจจนกระทืบเท้า“เจ้าหยุดกระทืบเท้าได้แล้ว ถ้ายังกระทืบเท้าข้าคงได้ตายจริง ๆ แล้ว!”ได้ยินเช่นนี้ ฝูงชนมองใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวตามสัญชาตญาณเฉินฝานอยู่ใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวจริง เขาถูกโต๊ะตัวหนึ่งทับร่างไว้ เพราะโต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1297

    “ข้ารู้ว่าเจ้ามีข้อสงสัยมากมาย แต่อย่าเพิ่งมาถามตอนนี้ รีบตามข้ามา !”ฉินเย่ว์ฉินลากฉินเย่ว์เจียวไปทันที ดูจากท่าทางของนางแล้ว คงจะเป็นสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานจริง ๆฉินเย่ว์ฉินมุ่งหน้ากลับไปเรือนที่นางออกมาเมื่อครู่“ไปทางนั้นมิได้!” เฉินฝานตะโกนดังลั่นจู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นดินปืนจำนวนมาก จากประสบการณ์ในยุคปัจจุบันของเขา ดินปืนนี้จวนจะระเบิด“เย่ว์เจียวเย่ว์ฉิน อ๋องตวน อีกมินานที่แห่งนี้จะระเบิดแล้ว จงล่าถอยไปด้านนอก!”สองสามปีมานี้ฉินเย่ว์เจียวและอ๋องตวนมักจะติดตามอยู่ข้างกายเฉินฝานเสมอ เฉินฝานมักจะทำการทดลองระเบิดอยู่บ่อยครั้ง พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เฉินฝานพูด และเข้าใจผลที่ตามมาของการระเบิดดินปืนในยุคนี้เป็นสินค้าหายาก เพราะดินปืนมีอานุภาพทำลายที่รุนแรง ดังนั้นดินปืนจึงเป็นสินค้าที่ทางการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยปกติแล้วราษฎรมิสามารถครอบครองได้ แม้ฉินเย่ว์ฉินจะอยู่ในกลุ่มตำหนักเซียวเหยาที่แข็งแกร่งปานนั้นก็มิแน่เสมอไปว่าจะเคยสัมผัสกับดินปืนมากก่อน ผนวกกับการที่นางรู้สึกมิดีกับเฉินฝาน นางจึงมิฟังคำพูดของเขา นางมิได้ล่าถอยตามฉินเย่ว์เจียวไปด้านนอก ยังคงยืนกรานจะไปที่เรือนหลังนั้น“ไปม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1296

    “พี่รอง!” ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวไปกอดฉินเย่ว์ฉินไว้แน่น ทั้งร่ำไห้และตะโกน “สองสามปีที่ผ่านมานี้พี่ไปอยู่ที่ใดมา ไฉนพี่มิกลับมาเยี่ยมพวกเราบ้าง พี่ใหญ่และนายท่านส่งไปคนมากมายไปตามหาพี่ ก็ยังมิเจอพี่อยู่ดี พี่รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงพี่เพียงใด?”ฉินเย่วเจียวร้องไห้ไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มบ่นฉินเย่ว์ฉิน “ไฉนพี่จึงใจดำเช่นนี้ ยังมีชีวิตอยู่แท้ ๆ ไฉนจึงมิยอมกลับมา ไฉนมิยอมมาเจอหน้าพวกเรา? จำพวกเรามิได้แล้วงั้นรึ? และยังมีเรื่องของนายท่านอีก บัดนี้เขามิใช่นายท่านแบบเมื่อก่อนแล้ว ข้ามิเชื่อหรอกว่าพี่จะมิเคยได้ยินเรื่องที่เขาเปลี่ยนตัวเอง พี่จะต้องเคยได้ยินมาอย่างแน่นอน และพี่ก็รู้ด้วยว่าพวกเราเป็นห่วงเพียงใด แต่ก็ยังมิยอมกลับมาอยู่ดี พี่ช่างเป็นคนที่ใจดำอำมหิตเสียจริง”รู้สึกว่าบ่นไปก็มิได้ผล ฉินเย่ว์เจียวก็เริ่มชกต่อยฉินเย่ว์ฉิน นางนำความถวิลหา ความกังวลใจ ความคับแค้นใจที่มีต่อฉินเย่ว์ฉินทั้งหมดรวมเข้ามาไว้ในกำปั้นตนเองฉินเย่ว์ฉินมิได้ต่อต้าน มิได้เถียงกลับ ทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้นให้ฉินเย่ว์เจียวระบายอารมณ์ ตอนที่ฉินเย่ว์เจียวกล่าวถึงเฉินฝาน ฉินเย่ว์ฉินหันไปมองเฉินฝาน ทว่าเป็นชำเลืองมองเพียงครู่เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1295

    มิถึงเวลาหนึ่งถ้วยชา ผู้ฟังทั่วบริเวณล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งหมด คนส่วนใหญ่ล้วนถูกงูฉกตาย ส่วนคนที่ถูกฉกแต่ยังมิสิ้นลม ใบหน้าดำคล้ำสติเลือนรางเพราะพิษงูมีผู้ฟังที่ล้มลงกับพื้นตรงประตูทางออกมากที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่คิดที่จะหนีออกไป ทว่าประตูทางออกใหญ่ปิดล็อกไปตั้งแต่ตอนที่พวกเฉินฝานเข้ามาแล้ว“ให้ตายสิ!” อ๋องตวนตะโกนลั่น “แม้ทั้งชีวิตข้าจะทำเรื่องเลวทรามมาเยอะ เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องตายอย่างน่าสังเวช ทว่าต่อจะให้น่าสังเวชเพียงใด ข้าก็มิอยากถูกงูฉกตายเช่นนี้!”อ๋องตวนที่ปกติมิเกรงกลัวสิ่งใด บัดนี้กลับเกิดความหวาดกลัวอย่างแท้จริง เขาหวาดกลัวงูที่สุด ตัวลื่น ๆ เนื้อสัมผัสเย็น ๆรูปลักษณ์ภายนอกน่าขยะแขยงเพียงแค่คิดก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าแล้ว นับประสาอันใดกับการเห็นและถูกฉกด้วยตาตนเอง“ท่านอ๋อง ท่านมายืนด้านหลังข้า” ฉินเย่ว์เจียวกล่าวจบ ก็มองไปทางเฉินฝาน เฉินฝานพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเฉินฝานอนุญาต ฉินเย่ว์เจียวยื่นมือไปที่เอวทันทีฉินเย่ว์เจียวยังมิทันได้หยิบขลุ่ยไม้ไผ่ตรงเอวขึ้นมา ด้านนอกก็เสียงดนตรีที่เนิบนาบดังขึ้นเมื่อเสียงดนตรีนั้นดังขึ้น งูที่แต่เดิมโจมตีคนอย่างบ้าคลั่ง จู่ ๆก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1294

    วินาทีที่เห็นสตรีนางนั้น หลี่อวี้ไห่ตาเบิกกว้าง องครักษ์หญิงด้านหลังเขาเหล่านั้นก็มีสีหน้าเช่นเดียวกัน ตกตะลึงเหลือเชื่อ และหวาดกลัว!สตรีผู้นั้นหยุดฝีเท้าตรงหน้าหลี่อวี้ไห่ กะพริบตาเล็กน้อย น้ำเสียงเนิบนาบ “พวกเราโรงมหรสพเซียนยินทำการค้า ขอเพียงมิฝ่าฝืนกฎหมายต้าชิ่ง ก็ต้องเติมเต็มความต้องการของแขกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”หลี่อวี้ไห่ยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ทั้ง ๆ ที่เป็นคนวัยกลางคนผ่านโลกมามากมายแล้ว บัดนี้กลับทำอันใดมิถูก“หืม?” สตรีนางนั้นเลิกคิ้วขึ้นเลิกเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงเนิบนาบ ทว่ากลับแฝงด้วยรังสีเย็นยะเยือกที่ทำให้คนอกสั่นขวัญผวา นางยกมือเรียวยาวของนางขึ้น ปัดไรผมบนหน้าผากตนเองเบา ๆ กำไลข้อมือรูปงูสีทองเปล่งประกายสะท้อนแสง “หูใช้การมิได้แล้วงั้นรึ?”เหงื่อเย็นหลายเม็ดผุดขึ้นหน้าผากหลี่อวี้ไห่ทันที “เร็วเข้าสิ รีบนำสุรามาให้ท่านอ๋อง”ตอนที่หลี่อวี้ไห่เหงื่อเย็นไหลออกมา อ๋องตวนก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิได้ นับตั้งแต่วินาทีที่สตรีนางนั้นออกมา เขาก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิอยู่แล้ว ทว่าเฉินฝานห้ามเขาไว้ตอนที่สาวใช้ยกสุราผ่านหน้าสตรีไป สตรีนางนั้นก็ยื่นมือเรียวยาวออกมาอีกครั้ง “เอาม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status