Share

บทที่ 1140

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
“หลี่ชิ่ง!”

เสิ่นหมิงหยวนพลันตะโกนเสียงดัง

หลี่ชิ่งก้าวออกมาข้างหน้าทันที “ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”

“ข้าขอสั่งให้เจ้าไปจับตัวคนขายชาติเดี๋ยวนี้ ใครขัดขวางฆ่าได้ไม่ต้องละเว้น!”

“รับบัญชา!” หลี่ชิ่งหันกายทันที “พลธนูเตรียมพร้อม!”

ฟึบ ๆๆ!

พลธนูนับไม่ถ้วนพลันปรากฏตัวขึ้นในสายตาของทุกคน มีคนออกมาจากในมุมถนน มีคนออกมาจากร้านค้าใกล้เคียง และมีคนลุกขึ้นมาจากบนหลังคา อีกทั้งยังมีคนกระโดดลงมาจากบนต้นไม้

ลูกธนูนับพันนับหมื่นเล็งไปที่ศูนย์บรรเทาทุกข์พร้อมเพรียงกัน

ชาวบ้านด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์ไฉนเลยจะเคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่ละคนตกใจกลัวจนคุกเข่าตัวสั่นเทาอยู่บนพื้น

“บังอาจ!” ฉินเย่ว์เหมยก้าวมาข้างหน้าแล้วตะโกนด้วยเสียงเย็นชา “เสิ่นหมิงหยวน เรายังอยู่ที่นี่ เจ้ายังกล้าให้พลธนูมากมายขนาดนี้เล็งเป้ามาที่เรา เจ้าคิดจะก่อกบฏหรือไร?”

เสิ่นหมิงหยวนชูมือสองข้างขึ้นสูง แล้วโค้งคำนับท้องฟ้า ท่าทางดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม “ข้าจงรักภักดีต่อแคว้นต้าชิ่ง แต่ฝ่าบาท...”

เสิ่นหมิงหยวนเบนสายตาไปที่ฉินเย่ว์เหมย แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “หนึ่งปีที่ผ่านมานี้ ฝ่าบาทหลงเชื่อขุนนางชั่วอย่างเฉินฝานมาโ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1141

    กองกำลังทหารม้าทมิฬทุกคนล้วนได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี วรยุทธ์ของพวกเขาเก่งกาจยิ่งกว่ายอดฝีมือแนวหน้าในยุทธภพเสียอีกหลังจากที่เสิ่นหมิงหยวนออกคำสั่งแล้ว ทหารม้าทมิฬทุกคนล้วนพุ่งทะยานตัว เดินเหินออกมาจากแต่ละมุมมุ่งหน้าสู่ศูนย์บรรเทาทุกข์อย่างคล่องแคล่วและในช่วงเวลาพริบตาเดียว ทหารม้าทมิฬจำนวนมากก็ห่างจากฉินเย่ว์เหมยมิถึงสองเมตรแล้วทุกคนล้วนเข้าใจดี หากฉินเย่ว์เหมยถูกพาตัวออกจากศูนย์บรรเทาทุกข์แล้ว เสิ่นหมิงหยวนต้องออกคำสั่งให้สังหารเฉินฝานอย่างแน่นอนคันศรนับหมื่นนับพันกำลังเล็งเป้ามาที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ ต่อให้หวงหวั่นเอ๋อร์จะเป็นยอดฝีมือแนวหน้าในยุทธภพ เฉินฝานก็ยากที่จะหนีพ้นอยู่ดี“อารักขาฝ่าบาท!”ในขณะเดียวกันที่หงอิงออกสั่ง ก็กำจัดทหารม้าทมิฬสองคนที่พุ่งใส่มาด้านหน้าเรียบร้อยแล้วทว่าทหารม้าทมิฬที่บุกเข้ามามีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และวรยุทธ์ของทหารม้าทมิฬเหล่านี้ก็เหนือชั้นกว่ากองกำลังรักษาพระองค์อย่างมากอ๋องตวนก็เข้ามาเสริมทัพเช่นกันทว่าพวกเขาก็ยังต้านไว้ได้มินานอยู่ดี“ปัง!”เสียงกังวานดังขึ้นเฉินฝานยัดลูกกระสุนใส่ดาบปลายปืนไปพลางเดินไปนอกด้านนอกไปพลางคนส่วนใหญ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1142

    เฉินฝานมิใช่คนยุคโบราณ เขาคิดมาโดยตลอดว่าศิลปะการแปลงโฉมเป็นเรื่องเหลวไหลในนิยายกำลังภายในยุคปัจจุบันเท่านั้น ดังนั้นเขามิได้มองออกว่าหลี่ซิ่นเริ่นเป็นตัวปลอมได้ในทันที เพียงแค่รู้สึกว่าหลี่ซิ่นเริ่นที่กลับมาจากห้องน้ำแตกต่างจากปกติไปเล็กน้อยอย่างเช่น ส่วนใหญ่หลี่ซิ่นเริ่นมักจะใช้มือซ้ายป้อนนมให้คนติดพิษ จู่ ๆ ก็เปลี่ยนมาชอบใช้มือขวาแทนเสียอย่างนั้นอย่างเช่น ตอนที่หลี่ซิ่นเริ่นป้อนนมให้คนติดพิษ ก็พูดอธิบายกับคนที่มิชอบดื่มนมหรือมิชินกับการดื่มนมฟัง ดอกพลับพลึงแมงมุมจะทำให้สำรอกพิษในร่างกายออกมา ตอนที่ถั่วเขียวถอนพิษ จะกัดกระเพาะค่อนข้างรุนแรง ตอนนี้กระเพาะอ่อนแออย่างมาก ต้องดื่มนมเพื่อบำรุงกระเพาะสิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้ หลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมล้วนมิได้ทำ ตอนที่เฉินฝานกำลังสงสัยว่าไฉนจู่ ๆ หลี่ซิ่นเริ่นถึงทำตัวแปลกไปจากปกติ หลี่ซิ่นเริ่นตัวจริงก็กลับมาแล้วตอนที่เจอหลี่ซิ่นเริ่นที่เลือดท่วมตัว เฉินฝานก็รู้ทันทีว่าคนไหนตัวจริงคนไหนตัวปลอม เขามิได้เปิดโปงในทันที เพราะอยากจะฉวยโอกาสหลอกถามข้อมูลจากหลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมให้มากขึ้น ไฉนเลยจะรู้ว่าเสิ่นหมิงหยวนจะทนรอมิไหวที่จะสังหารเขาปานนั้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1143

    “เขามิได้เก่งกาจธรรมดา แต่เก่งกาจอย่างมาก ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวาน เผชิญหน้าโดยมิลนลาน มิเพียงแต่ถอนพิษให้คนที่ติดพิษทั้งหมดได้ และยังสามารถแยกแยะหมอและคนติดพิษตัวจริงได้อีกด้วย”“ขอบคุณใต้เท้าที่กรุณาช่วยชีวิต ใต้เท้าเป็นผู้มีพระคุณที่ยิ่งใหญ่ของเถี่ยหนิว ความเมตตาของท่าน เถี่ยหนิวจะมิวันลืมเลือน!” จางเถี่ยหนิวนำภรรยาและเหล่าลูกชายลูกสาวมาคุกเข่าต่อหน้าเฉินฝานคนติดพิษคนอื่นเห็นเช่นนี้ ก็พากันพาคนในครอบครัวมาคุกเข่าขอบคุณเฉินฝานทันใดนั้น เสียงร้องไห้ซาบซึ้งด้วยความดีใจก็ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งศูนย์บรรเทาทุกข์เฉินฝานช่วยเหลือเหล่าคนติดพิษแล้ว สังหารตัวปลอมที่แฝงตัวเข้ามาด้วยเจตนาร้าย เสิ่นหมิงหยวนก็เปิดศึกสังหารโดยไร้เหตุผลมิได้แล้วตอนนี้เสิ่นหมิงหยวนมิเพียงมิสามารถเปิดศึกโดยไร้เหตุผลแล้ว ยังต้องคิดหาวิธีแสดงความบริสุทธิ์ว่าไม่เกี่ยวข้องกับคนที่ปลอมตัวเข้ามาอีกด้วย“เหนือจิตนาการไปแล้ว ช่างเหนือจิตนาการยิ่งนัก!”เมื่อได้ยินว่าเฉินฝานถูกปิดล้อมอยู่ที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ ไป่เผยหรานที่รีบร้อนพากองกำลังมา ตื้นตันใจสุดขีดหนึ่งเค่อก่อนหน้านี้ ยังตกอยู่ในสถานการณ์ถูกปิดล้อมอยู่เลย แ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1144

    “ดอกพลับพลึงแมงมุมกระตุ้นให้อาเจียน แกงถั่วเขียวถอนพิษ นมวัวบำรุงกระเพาะ ท่านหมอหลี่ซิ่นเริ่นบอกมาเช่นนี้”หมอหนุ่มผู้นั้นกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง“เจ้าหนุ่มสมองกลวงช่างหลอกลวงเก่งยิ่งนัก” มีคนเขกหัวหมอหนุ่ม “ดอกพลับพลึงแมงมุมกระตุ้นให้อาเจียน แกงถั่วเขียวถอนพิษ นมวัวบำรุงกระเพาะงั้นรึ? ง่ายดายปานนั้นก็สามารถถอนพิษหญ้าไส้ขาดแล้ว พิษหญ้าไส้ขาดน่าหวาดกลัวปานนั้น น่าหวาดกลัวถึงขั้นที่ว่าหมอหลวงในวังยังหน้าซีดด้วยความหวาดกลัว?”“ถูกต้อง จะต้องมิง่ายดายแบบนั้นแน่นอน ดอกพลับพลึงแมงมุม แกงถั่วเขียว นมวัว สิ่งเหล่านั้นล้วนนำมาใช้เพื่ออำพรางความจริง ด้านในจะต้องมีเครื่องปรุงยาล้ำค่าอันใดซ่อนอยู่เป็นแน่”ห่างออกไปมิไกลนักพิษหญ้าไส้ขาดถูกถอนแล้ว ศิลปะการแปลงโฉมถูกเปิดโปงแล้ว ไป่ชงซานที่จิตใจห่อเหี่ยวได้ยินคำพูดนี้ ก็มีกำลังวังชาขึ้นมาทันทีถูกต้องแล้ว จะต้องเป็นเช่นนี้แน่นอน มิเช่นนั้นจะถอนพิษหญ้าไส้ขาดในหุบเขาร้อยบุปผาของเขาได้ง่ายดายปานนั้นได้อย่างไรเสิ่นหมิงหยวนสีหน้าถมึงทึงเหลือบมองไป่ชงซานเล็กน้อย จากนั้นก็หันหน้าไปจ้องเขม็งใช้สายตาถามหลี่ชิ่งหลี่ชิ่งรีบกล่าวอย่างลนลาน “ใต้เท้า ตอนที

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1145

    เขากล่าวว่า แพทย์แผนจีนยิ่งใหญ่ ทว่าเพราะความคิดแล้งน้ำใจเช่นนี้ของเหล่าหมอทั้งหลาย ทำให้ใบสั่งยาแพทย์แผนจีนที่ยิ่งใหญ่มากมายมิได้ถูกส่งต่อ เมื่อถึงยุคปัจจุบัน แพทย์แผนจีนก็ถูกแพทย์แผนตะวันตกบดขยี้อย่างไร้ความปรานีหากหมอคนหนึ่งอยากจะเป็นผู้ยิ่งใหญ่ จำเป็นต้องสลัดความคิดใจแคบเช่นนี้ออกไป ต้องแบ่งปันความรู้ซึ่งกันและกัน ระดมความคิดเพื่อปรับปรุงใบสั่งยาให้ดียิ่งๆขึ้นไปหลี่ซิ่นเริ่นมิเข้าใจคำพูดของเฉินฝานมากนัก เพราะเขาล้วนรู้สึกมิคุ้นชินกับคำว่ายุคปัจจุบันหรือคำว่าแพทย์แผนตะวันตกมากนักทว่าสีหน้าหนักแน่นเด็ดเดี่ยวของเฉินฝาน และประโยคด้านหลังที่ทำให้ประทับใจอย่างสุดซึ้งหากหมอทุกคนสามารถแบ่งปันใบสั่งยาของตนเองออกสู่สาธารณะ เช่นนั้นบนโลกหล้านี้คงจะมีคนป่วยรอดชีวิตเพิ่มขึ้นได้ด้วยเหตุนี้มิน้อย“ข้ารู้ว่าพวกเจ้าก็ยังคงมิเชื่ออยู่ดี มานี่สิ!” หลี่ซิ่นเริ่นยกมือขึ้นชี้ไปทางศูนย์บรรเทาทุกข์ “ตามข้าไปที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ คนติดพิษคนใหม่เข้ามาจำนวนมาก พวกเขาต้องการทุกท่าน”แม้หมอส่วนใหญ่ยังคงรู้สึกสงสัย ทว่าก็ตามหลี่ซิ่นเริ่นเข้าไปในศูนย์บรรเทาทุกข์อยู่ดีเฉินฝานมองดูอยู่ด้านข้างลอบชื่นชมอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1146

    “ก็ถือว่าเป็นลูกผู้ชายตัวจริง” เฉินฝานกล่าวด้วยเสียงเรียบนิ่งเขาหันหน้าไปออกคำสั่งกับไป่เผยหราน “ช่างเถอะ มิต้องทำให้เขาลำบากใจแล้ว”“ขอรับ ใต้เท้า” ไป่เผยหรานทำตามคำสั่งทันทีไป่เผยหรานส่งหลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมไปรักษาแผล หลังจากนั้นก็ให้เขากินดีอยู่ดีในคุก มิทรมานเขาอีกจริง ๆตอนแรกหลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมมิเชื่อว่าไป่เผยหรานจะปล่อยเขาไปจริงๆ จนกระทั่งหิวโหยมาสามวันสามคืนจนทนมิได้ต้องกินอาหาร ไป่เผยหรานก็ยังมิได้ทำให้เขาลำบากใจ เขาจึงปักใจเชื่อ“ต่อให้พวกเจ้าใช้วิธีนี้ ข้าก็จะมิพูดอันใดอยู่ดี!”ตอนที่ไป่เผยหรานมาส่งอาหารอีกรอบ หลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมเขียนข้อความใส่กระดาษมาเช่นนี้หลังจากที่วางกล่องอาหารลงแล้วไป่เผยหรานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย พูดอย่างมิใส่ใจนัก “ข้ารู้ ดังนั้นก็มิได้คาดหวังให้เจ้าพูดอันใดออกมาอยู่แล้ว”“ในเมื่อรู้เช่นนี้ ไฉนยังต้องมาส่งอาหารให้ข้า?” หลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมเขียนอย่างลวกๆอีกหนึ่งประโยค มือที่กำหญ้าฟางไว้ ถูกไฟเผาทำให้ตุ่มหนองผุดขึ้นจำนวนมาก จะต้องเจ็บปวดอย่างมากเป็นแน่ ทว่าเขากลับมิได้ส่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดแม้แต่น้อยผ่านไปครู่ใหญ่ ไป่เผยหรานจึงละสายตาจา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1147

    สายตาของหงอิงมองไปมือของฉินเย่ว์เหมย “ตอนนี้ฝ่าบาทสามารถอ่านสาสน์กราบทูลกลับหัวได้แล้ว”“...ข้า ข้า...” ฉินเย่ว์เหมยรีบกลับด้านสาสน์กราบทูลกลับอย่างลนลาน หันหน้าไปทางอื่นด้วยความประหม่า“เป็นเพราะเจ้าทำให้ข้าตกใจต่างหาก” เห็นได้ชัดว่าฉินเย่ว์เหมยหาข้ออ้างส่งเดช“เรื่องนั้นข้าน้อยมิได้เป็นคนทำเสียหน่อย” หงอิงหน้าแดงก่ำ กลั้นขำอย่างยากลำบากฉินเย่ว์เหมยจ้องหงอิงอย่างโหดเหี้ยม“อยากจะหัวเราะเจ้าก็หัวเราะออกมาเถอะ ข้าเห็นหน้าแดงเป็นลูกตำลึงของเจ้าคงทรมานน่าดู”“ฝ่าบาท ท่านอยากไปดูใต้เท้าเฉินก็ไปดูสิ มิต้องเอาความโมโหมาลงที่ข้าน้อย”น้อยครั้งที่หงอิงจะต่อปากต่อคำ จู่ ๆ ก็ใจกล้าขึ้นมาเสียอย่างนั้น เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเฉินฝาน ขอเพียงแค่เกี่ยวกับเฉินฝาน หงอิงก็จะกล้าพูดเสมอ และแม้ฉินเย่ว์เหมยจะบอกว่ามิยอมยกโทษให้ง่ายๆมาโดยตลอด แต่พอเอาเข้าจริงแล้วนางก็มิได้ทำอันใด“เขาจะหลับดีหรือไม่ ใครอยากจะไปดูเขากัน”ฉินเย่ว์เหมยกล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น ทว่านางมิทางรู้ได้ว่าท่าทีตอนนี้ของนางเหมือนกับสาวน้อยที่กำลังหาเรื่องชวนทะเลาะกับแฟนหนุ่มของตัวเอง“หากฝ่าบาทมิไป ข้าน้อยจะไปเอง”กล่าวจบ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1148

    “......”ฉินเย่ว์เหมยเพิ่งจะรู้ตัวว่า ตอนนี้ตัวเองจะแก้ตัวอย่างไรก็ฟังมิขึ้นแล้วฉินเย่ว์เหมยถลึงตามองเฉินฝานที่กำลังหลับอย่างสบายใจเฉิบอย่างโหดเหี้ยมล้วนเป็นเพราะตาทึ่มคนนี้แท้ๆโมโหก็ส่วนโมโห เสียเปรียบก็ส่วนเสียเปรียบ อายก็ส่วนอาย ฉินเย่ว์เหมยยังตัดใจปลุกเฉินฝานมิลงมิเพียงแต่มิปลุกให้ตื่นเท่านั้น และยังมิลุกจากไปไหนอีกด้วย เพราะตอนนี้เฉินฝานกำลังนอนหนุนตักของนางอยู่ หากนางลุกขึ้นยืนเฉินฝานจะต้องตื่นเป็นแน่ต่อให้เป็นโอรสสวรรค์ของต้าชิ่ง ต่อให้เวลาปกติต้องทำท่าทีเย่อหยิ่งเย็นชาอยู่ตลอด ทว่าสิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นเปลือกนอกของฉินเย่ว์เหมย ที่จริงแล้วนางเป็นเพียงแค่หญิงสาวอายุยี่สิบต้นๆที่ยังมิได้ออกเรือนเท่านั้นมีชายคนหนึ่งมานอนหลับบนตัก จึงเป็นเรื่องยากที่นางจะทำจิตใจให้สงบได้ระหว่างนี้หากมิใช่ใบหน้าขึ้นสีก็หัวใจเต้นมิเป็นจังหวะ-เกือบหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ นี่เป็นการนอนที่สบายใจและเคลิบเคลิ้มที่สุดครั้งหนึ่งของเฉินฝานเฉินฝานรู้สึกว่าหมอนใบนี้ช่างนุ่มนวล กลิ่นหอมและยังอบอุ่นอีกด้วยบนโลกหล้านี้จะมีหมอนที่หอมและนุ่มนิ่มปานนั้นได้อย่างไร ทำให้เขาติดใจมิอยากวางลง ยิ่งกอดรัดแ

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1302

    หวนนึกถึงภาพเพื่อนสนิทที่ถูกเสือฉีกร่างทั้งเป็น ฉินเย่วฉินดวงตาแดงก่ำ แววตาแน่วแน่“ได้!” เฉินฝานขานรับน้ำเสียงเด็ดขาดอย่างมากในขณะเดียวกันที่เฉินฝานออกเดินทาง โจวอวี่ก็พามือปืนหนึ่งพันคนของเขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน เดินทางจากอีกฝั่งของเมืองเช่นกันวันนี้คนบนท้องถนนมีจำนวนมากเป็นพิเศษ รถม้าของเฉินฝานต้องหยุดหลายครั้งเมื่อรถม้าหยุดอีกครั้ง ฉินเย่ว์ฉินกล่าวด้วยความหงุดหงิด “เจ้าเป็นท่านอัครเสนาบดีที่ตำแหน่งอำนาจสูงส่งมิใช่หรือ? ไฉนคนเดินเท้าบนท้องถนนจึงกล้าขวางทางรถม้าเจ้า”“ขวางทางอันใดกัน? พวกเราใต้เท้ามิใช่ขุนนางกังฉินที่วางอำนาจตามอำเภอใจไปทั่ว ใต้เท้าต้องรักและดูแลราษฎร วันนี้คนที่ออกจากเมืองค่อนข้างเยอะ พวกเราเพียงหยุดเพื่อหลีกทางให้ฝูงชนเท่านั้น อีกอย่างบัดนี้พวกเรามิได้นั่งรถม้าของอัครเสนาบดีเสียหน่อย”หลี่จู้นายพลประจำกายคนใหม่ของเฉินฝานที่ติดตามอยู่ด้านนอกรถม้าเริ่มปริปากตำหนิฉินเย่ว์ฉิน ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่โรงมหรสพจวบจนบัดนี้ เขาคิดมาตลอดว่าเป็นความผิดของฉินเย่ว์ฉิน หากมิใช่เพราะนาง เฉินฝานก็คงจะมิตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายบัดนี้เฉินฝานยังเป็นอัครเสนาบดีที่ ‘ตายไปแล้ว’

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1301

    “ถูกต้อง คนของตำหนักเซียวเหยาส่วนใหญ่ล้วนมีวรยุทธ์ติดตัวและวางยาพิษเป็น และมีคนที่สามารถควบคุมงูได้เช่นกัน ทว่าสตรีที่ทำอันใดมิเป็นสักอย่างมีเยอะกว่าเสียอีก ทุกคนล้วนหน้าตาค่อนข้างดี พวกนางจะแยกย้ายกันไปแต่ละแคว้นในแผ่นดินใหญ่ ใช้ประโยชน์จากความงามของตนดึงดูดบุรุษ หลังจากที่ตั้งท้องได้สำเร็จแล้วก็จะตีตัวออกห่างหายไปอย่างเงียบ ๆ”“เดิมทีสตรีก็มีฐานะต่ำต้อยอยู่แล้ว ผนวกกับการที่พื้นที่ส่วนใหญ่ทั้งแคว้นหญิงเยอะชายจำนวนน้อย การจากไปของพวกนางมิเพียงแต่มิได้ทำให้ชายเหล่านั้นเสียใจเท่านั้น ชายส่วนใหญ่กลับรู้สึกยินดี อย่างไรเสียก็คงมิมีชายใดที่อยากให้สตรีที่ตนเองได้ร่วมอภิรมย์แล้วจากไปโดยมิบอกกล่าว”ตอนที่ฉินเย่ว์ฉินพูด ใช้สายตาถมึงทึงมองไปที่เฉินฝานเฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินก็มีความสงสัยเช่นนี้กับเขาเช่นกัน เขามิได้แก้ตัว แก้ตัวไปก็ไร้ประโยชน์ เรื่องเช่นนี้มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะสามารถพิสูจน์ได้และที่นางพูดก็เป็นเรื่องจริงชายที่ถูกดึงดูดได้อย่างง่ายดายปานนั้น ย่อมมิยอมรับผิดชอบเป็นแน่“จากนั้นล่ะ หลังจากนั้นพวกนางอุ้มท้องแล้วก็กลับไปที่ตำหนักเซียวเหยาเช่นนี้รึ?”“ถูกต้อง” ฉินเย่ว์ฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1300

    เฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินหวาดระแวง “มิต้องสงสัยหรอก ข้าเชื่อเจ้าจริง ๆ”“ทำไมล่ะ?”“เพราะเจ้าเป็นพี่สาวของเย่ว์เจียว”อีกหนึ่งเหตุผลหนึ่งคือ ฉินเย่ว์ฉินออกมาเสี่ยงชีวิตช่วยเขาและฉินเย่ว์เจียวโดยมิห่วงความปลอดภัยตนเองแม้แต่น้อย“เพียงแค่นี้งั้นรึ?” ฉินเย่ว์ฉินสีหน้ามิเชื่อ“และเพราะว่าเจ้าเป็นภรรยาของข้า” เฉินฝานมิได้พูดเล่นหนังสือทางการที่เขาครอบครองอยู่ ตราบใดที่เขามิเขียนใบหย่า ฉินเย่ว์ฉินย่อมเป็นคนของเขาตลอดไป“แต่ข้ามิชอบเจ้า”“แล้วอย่างไรต่อ? ชีวิตของเจ้าเป็นข้า ตายไปแล้ววิญญาณก็เป็นของข้า” มิว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือท่าทางของเฉินฝานล้วนแน่วแน่และเอาแต่ใจอย่างมากวินาทีที่ฉินเย่ว์ฉินกลับมา เฉินฝานก็มิได้คิดจะปล่อยให้นางจากไปตามกฎหมายของต้าชิ่ง ในฐานะที่เป็นสามี เขามีหน้าที่ดูแลนาง นางทำความผิด เขาก็มีหน้าที่อบรมสั่งสอนนางเช่นกันฉินเย่ว์ฉินใจเต้นจากคำพูดจี้ใจดำของเฉินฝานมิใช่รู้สึกหวั่นไหวเฉินฝานตอนที่อยู่หมู่บ้านซานเหอช่วงแรกมักพูดเสียงดังน้ำเสียงดุร้ายเสมอ ทว่าตอนนั้นฉินเย่ว์ฉินมิได้รู้สึกหวาดกลัวอย่างแน่นอน ถึงขั้นรู้สึกรำคาญอย่างมาก เฉินฝานในตอนนี้มิได้พูดเสียงดัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1299

    ฉินเย่ว์ฉินเช็ดน้ำตาด้วยความรีบร้อน “อย่ามาพูดจาเหลวไหล ข้ามิได้ร้องไห้เสียหน่อย เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตาเท่านั้น”“อ๋อ ๆ พี่รองมิได้ร้องไห้ เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตา”ระหว่างที่พูด ฉินเย่ว์เจียวก็จูงมือเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน “พวกพี่มิเป็นไรก็ดีแล้ว ในที่สุดพวกเราเหล่าพี่น้องก็พร้อมหน้าพร้อมตากันได้เสียที พวกเราจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปกว้านซื้อประทัดมาเยอะ ๆ เสียงประทัดต้องดังทั้งวันทั้งคืน”“ไม่!”เฉินฝานและฉินเย่ว์ฉินพูดออกมาพร้อมกัน“ข้าจะมิกลับไปกับพวกเจ้า” น้ำเสียงฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา นางยังคงมิยอมรับในตัวเฉินฝาน“จะจุดประทัดมิได้ บัดนี้ข้ามิสามารถกลับไปได้ชั่วคราว กลับไปเช่นนี้มิได้” เฉินฝานกล่าว“พี่รอง ข้ารู้ว่าพี่คิดอันใดอยู่ พี่มิอยากกลับไป ข้าก็คิดไว้อยู่แล้ว แต่...” ฉินเย่ว์เจียวถามเฉินฝานด้วยความสงสัย “นายท่าน ไฉนท่านจึงมิกลับ?”“พี่มิเพียงแต่กลับไปมิได้เท่านั้น และยังมิสามารถ ‘มีชีวิตอยู่’ ได้”“ใต้เท้าพูดถูก บัดนี้ใต้เท้ามิสามารถมีชีวิตอยู่ได้” ไป่เผยหรานที่อยู่ด้านข้างเข้าใจความหมายแฝงในประโยคที่เฉินฝานพูดทันทีขอเพียงเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน‘เสียชีวิต’ ผู้ชักใยอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1298

    เหอจื่อหลินและไป่เผยหรานพากองกำลังขยายอาณาเขตในการขุดค้น ทว่าหาอยู่นานก็ยังมิพบอยู่ดีมิรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร“นายท่าน พี่รอง!”ฉินเย่ว์เจียวที่โดยปกติแล้วมีนิสัยดุดันตรงไปตรงมา บัดนี้ร้องไห้จนแทบจะหมดสติเหอจื่อหลินและไป่เผยหรานกำลังจะจัดแจงคนให้พานางกลับไป ปรากฏว่าเพิ่งจะปริปาก ฉินเย่ว์เจียวก็ถูกสิ่งของกระทบใส่อย่างรุนแรง“ตุ้บ!”ฉินเย่ว์เจียวถูกขว้างก้อนหินใส่“เจ้าคนหน้าไหนรนหาที่ตาย บังอาจขว้างหินใส่ข้า”“เจ้าเอะอะโวยวายปานนี้ และยังทุบตีคนที่ช่วยข้าอย่างรุนแรง เจ้ากลัวว่าพี่จะตายช้าไปหรือกระไร?”......!!!!ทุกคนล้วนตกตะลึงไปครู่ใหญ่ จึงได้สติกลับมาคือเฉินฝาน นี่คือเสียงของเฉินฝาน“นายท่าน ๆ”“ใต้เท้า ๆ”ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวเข้าหาคนแรก ทว่ามินานนางก็รู้สึกงุนงง ได้ยินเสียงเฉินฝานแล้ว แล้วตัวเขาอยู่ที่ใด“นายท่าน ๆ ท่านอยู่ที่ใด?” ฉินเย่ว์เจียวร้อนรนใจจนกระทืบเท้า“เจ้าหยุดกระทืบเท้าได้แล้ว ถ้ายังกระทืบเท้าข้าคงได้ตายจริง ๆ แล้ว!”ได้ยินเช่นนี้ ฝูงชนมองใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวตามสัญชาตญาณเฉินฝานอยู่ใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวจริง เขาถูกโต๊ะตัวหนึ่งทับร่างไว้ เพราะโต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1297

    “ข้ารู้ว่าเจ้ามีข้อสงสัยมากมาย แต่อย่าเพิ่งมาถามตอนนี้ รีบตามข้ามา !”ฉินเย่ว์ฉินลากฉินเย่ว์เจียวไปทันที ดูจากท่าทางของนางแล้ว คงจะเป็นสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานจริง ๆฉินเย่ว์ฉินมุ่งหน้ากลับไปเรือนที่นางออกมาเมื่อครู่“ไปทางนั้นมิได้!” เฉินฝานตะโกนดังลั่นจู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นดินปืนจำนวนมาก จากประสบการณ์ในยุคปัจจุบันของเขา ดินปืนนี้จวนจะระเบิด“เย่ว์เจียวเย่ว์ฉิน อ๋องตวน อีกมินานที่แห่งนี้จะระเบิดแล้ว จงล่าถอยไปด้านนอก!”สองสามปีมานี้ฉินเย่ว์เจียวและอ๋องตวนมักจะติดตามอยู่ข้างกายเฉินฝานเสมอ เฉินฝานมักจะทำการทดลองระเบิดอยู่บ่อยครั้ง พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เฉินฝานพูด และเข้าใจผลที่ตามมาของการระเบิดดินปืนในยุคนี้เป็นสินค้าหายาก เพราะดินปืนมีอานุภาพทำลายที่รุนแรง ดังนั้นดินปืนจึงเป็นสินค้าที่ทางการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยปกติแล้วราษฎรมิสามารถครอบครองได้ แม้ฉินเย่ว์ฉินจะอยู่ในกลุ่มตำหนักเซียวเหยาที่แข็งแกร่งปานนั้นก็มิแน่เสมอไปว่าจะเคยสัมผัสกับดินปืนมากก่อน ผนวกกับการที่นางรู้สึกมิดีกับเฉินฝาน นางจึงมิฟังคำพูดของเขา นางมิได้ล่าถอยตามฉินเย่ว์เจียวไปด้านนอก ยังคงยืนกรานจะไปที่เรือนหลังนั้น“ไปม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1296

    “พี่รอง!” ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวไปกอดฉินเย่ว์ฉินไว้แน่น ทั้งร่ำไห้และตะโกน “สองสามปีที่ผ่านมานี้พี่ไปอยู่ที่ใดมา ไฉนพี่มิกลับมาเยี่ยมพวกเราบ้าง พี่ใหญ่และนายท่านส่งไปคนมากมายไปตามหาพี่ ก็ยังมิเจอพี่อยู่ดี พี่รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงพี่เพียงใด?”ฉินเย่วเจียวร้องไห้ไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มบ่นฉินเย่ว์ฉิน “ไฉนพี่จึงใจดำเช่นนี้ ยังมีชีวิตอยู่แท้ ๆ ไฉนจึงมิยอมกลับมา ไฉนมิยอมมาเจอหน้าพวกเรา? จำพวกเรามิได้แล้วงั้นรึ? และยังมีเรื่องของนายท่านอีก บัดนี้เขามิใช่นายท่านแบบเมื่อก่อนแล้ว ข้ามิเชื่อหรอกว่าพี่จะมิเคยได้ยินเรื่องที่เขาเปลี่ยนตัวเอง พี่จะต้องเคยได้ยินมาอย่างแน่นอน และพี่ก็รู้ด้วยว่าพวกเราเป็นห่วงเพียงใด แต่ก็ยังมิยอมกลับมาอยู่ดี พี่ช่างเป็นคนที่ใจดำอำมหิตเสียจริง”รู้สึกว่าบ่นไปก็มิได้ผล ฉินเย่ว์เจียวก็เริ่มชกต่อยฉินเย่ว์ฉิน นางนำความถวิลหา ความกังวลใจ ความคับแค้นใจที่มีต่อฉินเย่ว์ฉินทั้งหมดรวมเข้ามาไว้ในกำปั้นตนเองฉินเย่ว์ฉินมิได้ต่อต้าน มิได้เถียงกลับ ทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้นให้ฉินเย่ว์เจียวระบายอารมณ์ ตอนที่ฉินเย่ว์เจียวกล่าวถึงเฉินฝาน ฉินเย่ว์ฉินหันไปมองเฉินฝาน ทว่าเป็นชำเลืองมองเพียงครู่เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1295

    มิถึงเวลาหนึ่งถ้วยชา ผู้ฟังทั่วบริเวณล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งหมด คนส่วนใหญ่ล้วนถูกงูฉกตาย ส่วนคนที่ถูกฉกแต่ยังมิสิ้นลม ใบหน้าดำคล้ำสติเลือนรางเพราะพิษงูมีผู้ฟังที่ล้มลงกับพื้นตรงประตูทางออกมากที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่คิดที่จะหนีออกไป ทว่าประตูทางออกใหญ่ปิดล็อกไปตั้งแต่ตอนที่พวกเฉินฝานเข้ามาแล้ว“ให้ตายสิ!” อ๋องตวนตะโกนลั่น “แม้ทั้งชีวิตข้าจะทำเรื่องเลวทรามมาเยอะ เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องตายอย่างน่าสังเวช ทว่าต่อจะให้น่าสังเวชเพียงใด ข้าก็มิอยากถูกงูฉกตายเช่นนี้!”อ๋องตวนที่ปกติมิเกรงกลัวสิ่งใด บัดนี้กลับเกิดความหวาดกลัวอย่างแท้จริง เขาหวาดกลัวงูที่สุด ตัวลื่น ๆ เนื้อสัมผัสเย็น ๆรูปลักษณ์ภายนอกน่าขยะแขยงเพียงแค่คิดก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าแล้ว นับประสาอันใดกับการเห็นและถูกฉกด้วยตาตนเอง“ท่านอ๋อง ท่านมายืนด้านหลังข้า” ฉินเย่ว์เจียวกล่าวจบ ก็มองไปทางเฉินฝาน เฉินฝานพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเฉินฝานอนุญาต ฉินเย่ว์เจียวยื่นมือไปที่เอวทันทีฉินเย่ว์เจียวยังมิทันได้หยิบขลุ่ยไม้ไผ่ตรงเอวขึ้นมา ด้านนอกก็เสียงดนตรีที่เนิบนาบดังขึ้นเมื่อเสียงดนตรีนั้นดังขึ้น งูที่แต่เดิมโจมตีคนอย่างบ้าคลั่ง จู่ ๆก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1294

    วินาทีที่เห็นสตรีนางนั้น หลี่อวี้ไห่ตาเบิกกว้าง องครักษ์หญิงด้านหลังเขาเหล่านั้นก็มีสีหน้าเช่นเดียวกัน ตกตะลึงเหลือเชื่อ และหวาดกลัว!สตรีผู้นั้นหยุดฝีเท้าตรงหน้าหลี่อวี้ไห่ กะพริบตาเล็กน้อย น้ำเสียงเนิบนาบ “พวกเราโรงมหรสพเซียนยินทำการค้า ขอเพียงมิฝ่าฝืนกฎหมายต้าชิ่ง ก็ต้องเติมเต็มความต้องการของแขกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”หลี่อวี้ไห่ยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ทั้ง ๆ ที่เป็นคนวัยกลางคนผ่านโลกมามากมายแล้ว บัดนี้กลับทำอันใดมิถูก“หืม?” สตรีนางนั้นเลิกคิ้วขึ้นเลิกเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงเนิบนาบ ทว่ากลับแฝงด้วยรังสีเย็นยะเยือกที่ทำให้คนอกสั่นขวัญผวา นางยกมือเรียวยาวของนางขึ้น ปัดไรผมบนหน้าผากตนเองเบา ๆ กำไลข้อมือรูปงูสีทองเปล่งประกายสะท้อนแสง “หูใช้การมิได้แล้วงั้นรึ?”เหงื่อเย็นหลายเม็ดผุดขึ้นหน้าผากหลี่อวี้ไห่ทันที “เร็วเข้าสิ รีบนำสุรามาให้ท่านอ๋อง”ตอนที่หลี่อวี้ไห่เหงื่อเย็นไหลออกมา อ๋องตวนก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิได้ นับตั้งแต่วินาทีที่สตรีนางนั้นออกมา เขาก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิอยู่แล้ว ทว่าเฉินฝานห้ามเขาไว้ตอนที่สาวใช้ยกสุราผ่านหน้าสตรีไป สตรีนางนั้นก็ยื่นมือเรียวยาวออกมาอีกครั้ง “เอาม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status