Share

บทที่ 1134

Author: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
เมื่อเข้ามาในศูนย์บรรเทาทุกข์ เฉินฝานสั่งหมอหลี่ทันที “ให้หมอและพยาบาลเหล่านั้นขนของบนรถม้าด้านนอกเข้ามา”

หลังจากสั่งหมอหลี่แล้ว เฉินฝานก็หันหน้าไปพูดกับหวงหวั่นเอ๋อร์อีกว่า “รบกวนแม่นางหวงคุ้มครองพวกเขาด้วย เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาขนของมาที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ได้อย่างปลอดภัย”

หวงหวั่นเอ๋อร์ไม่ได้ส่งเสียงพูด นางทะยานออกจากศูนย์บรรเทาทุกข์ดังฟิ้วอีกครั้ง ก่อนจะนั่งแกว่งเท้าบนกิ่งไม้เมื่อครู่นี้แล้วก้มหน้าชมเหตุการณ์คึกคักต่อ

“พวกเรารออีกหน่อยก็ได้ กองทัพลาดตระเวนของเหอจื่อหลินจะมาถึงวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้ค่อยขนก็ได้” ฉินเย่ว์เหมยกล่าว

เวลานี้หงอิงคุ้มครองพวกเขาก็กินแรงมากแล้ว หากหวงหวั่นเอ๋อร์ไม่ยอมช่วยเหลือ หมอและพยาบาลของศูนย์บรรเทาทุกข์ออกไปขนของบนรถม้าจะต้องโดนขัดขวางอย่างแน่นอน

เฉินฝานเหลือบมองหวงหวั่นเอ๋อร์ที่นั่งอยู่บนกิ่งไม้อยากชมความคึกคักเท่านั้น “แม่นางหวงจะต้องช่วยเหลือแน่นอน”

เฉินฝานพูดพลางเร่งหมอหลี่อีกครั้ง “อย่ามัวชักช้า รีบพาคนไปเสีย!”

ผู้ป่วยมากมายได้รับพิษนานเกินสามวันแล้ว หากไม่รักษาอีก พิษแทรกซึมเข้าสู่กระดูกก็จะหมดหนทางช่วยเหลือแล้วจริง ๆ

เป็นอย่างที่เฉินฝานพู
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1135

    “ใต้เท้า ข้าน้อยเข้าใจแล้ว” นัยน์ตาของหมอหลี่จู่พลันเปล่งประกาย “ท่านใช้ดอกพลับพลึงแมงมุมขจัดพิษในร่างของผู้ได้รับพิษใช่หรือไม่”เฉินฝานยิ้มพลางพยักหน้า“วิธีการนี้ มีเพียงใต้เท้าเท่านั้นที่กล้าใช้” หมอหลี่ทอดถอนใจ “เมื่อขจัดพิษส่วนใหญ่แล้ว ข้าค่อยใช้สมุนไพรอย่างชะเอมกับดอกสายน้ำผึ้งไปขจัดพิษที่เหลืออยู่ก็ได้แล้ว ดี ดีเลย!” “ไม่ดี!” เฉินฝานส่ายหน้า “ตอนนี้หากไปหาชะเอมกับดอกสายน้ำผึ้งจะเสียเวลามาก ใช้ถั่วเขียวไปเลย ตอนนี้เจ้าให้หมอกับพยาบาลครึ่งหนึ่งไปต้มน้ำแกงถั่วเขียว” “น้ำแกงถั่วเขียว?”“ใช่ ยามนี้ไม่มีเวลามาอธิบายให้เจ้าฟัง เจ้ารีบไปทำเถิด นมก็ต้องอุ่นไว้ด้วย อาเจียนแล้วดื่มน้ำแกงถั่วเขียว ผ่านไปครึ่งชั่วยามค่อยป้อนนมให้กิน” เฉินฝานกล่าวไม่มีเวลาแล้วจริง ๆ เสียงพูดของเฉินฝานเพิ่งจะสิ้นสุดลง ภายในศูนย์บรรเทาทุกข์ก็เริ่มมีเสียงอาเจียนดังออกมามากมาย“สวรรค์ เถี่ยหนิวของบ้านข้าอาเจียนแล้ว ดูเหมือนจะอาเจียนปอดออกมาเลย!”“ลูกชายข้าก็อาเจียนรุนแรงเหมือนกัน” เมื่อผู้ได้รับพิษอาเจียน ด้านนอกก็ยิ่งโกลาหล ผู้คนมากเกินไป พวกทหารรักษาพระองค์เริ่มต้านไม่ไหวแล้ว ก่อนจะเห็นคนเหล่านั้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1136

    “ถึงอย่างไรข้าก็เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง ข้าเชื่อใจใต้เท้าขอรับ!”ชายที่ชื่อเถี่ยนิวผู้นั้นเป็นคนแรกที่คลานกลับมาที่เตียงผู้ป่วยของตนเอง“ข้าก็เชื่อใจใต้เท้า!”“ข้าก็เชื่อใจเหมือนกัน”บรรดาผู้ได้รับพิษคลานกลับไปที่เตียงผู้ป่วยของตนเองติดต่อกัน สามวันแล้ว เสียงเอะอะโวยวายด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์ไม่เคยหยุดเลยชั่วขณะที่ประตูใหญ่ของศูนย์บรรเทาทุกข์เปิดออกนั้นเหมือนกับกดปุ่มหยุดชั่วคราวก็ไม่ปาน เสียงเอะอะด้านนอกหยุดลงในพริบตา เถี่ยนิวเป็นคนแรกที่เดินออกมาจากศูนย์บรรเทาทุกข์ มารดาและภรรยาของเขาดึงเด็กพุ่งมาตรงหน้าเขา มองเขาด้วยนัยน์ตาเบิกโต แต่ไม่กล้าส่งเสียง “ท่านแม่ เสี่ยวฟาง!”เถี่ยนิวเดินไปหามารดาและภรรยาของตนด้วยความตื่นเต้น ทว่ามารดาและภรรยาของเขากลับอุ้มลูกพลางถอยหลังติดต่อกัน“ท่านแม่ เสี่ยวฟาง พวกท่านถอยไปข้างหลังเพราะเหตุใด ข้าคือเถี่ยนิวอย่างไรเล่า!” จางเถี่ยนิวเดินเข้าไปด้วยความร้อนใจเล็กน้อยมารดาของจางเถี่ยนิวหยุดชะงักเป็นคนแรก ภายในดวงตาที่จ้องมองจางเถี่ยนิวอย่างพิจารณามีความหวาดกลัวเล็กน้อย “จะ เจ้าเป็นคนหรือเป็นผี?”“ได้ยินเซียนบอกว่า คนที่ได้รับพิษร้ายแรงจนตายแ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1137

    ราวกับมีแม่น้ำขวางกั้น ด้านในศูนย์บรรเทาทุกข์เต็มไปด้วยความครึกครื้น ส่วนด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์กลับเงียบสงัดอย่างยิ่งนอกจากครอบครัวของผู้ได้รับพิษเหล่านั้นแล้ว คนอื่น ๆ ต่างก็ตะลึงงันพิษของหญ้าไส้ขาดแก้ได้จริง ๆ หรือ?!“ว้าว ว้าว!”เสียงที่เหมือนกับระฆังใหญ่ของอ๋องตวนทำลายความเงียบสงัดด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์ อ๋องตวนตะโกนลั่นพลางวิ่งไปหาเฉินฝาน“ลูกเขยสุดที่รักของข้า เจ้ายอดเยี่ยมเกินไปแล้วจริง ๆ”“ฝ่าบาท! ใต้เท้าทำได้แล้ว เขาทำได้แล้วจริง ๆ!”หงอิงที่ปกติเคร่งขรึมเย็นชาและไม่ชอบยิ้มหรือพูดก็ตื่นเต้นไม่หยุดเช่นกัน“ใช่แล้ว เขาทำได้แล้ว” สายตาของฉินเย่ว์เหมยมองไปตามร่างของเฉินฝาน ปากก็ส่งเสียงพึมพำ รู้สึกภาคภูมิใจควบคู่ไปกับรักใครสุดซึ้งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อประตูศูนย์บรรเทาทุกข์เปิดออก เฉินฝานก็มองหาร่างของฉินเย่ว์เหมยเป็นอันดับแรก สายตาของทั้งสองสบกันโดยไม่คาดคิดเช่นนี้เอง สายตาของเจ้ากับข้าเปลี่ยนจากความกังวลมาเป็นความรักใคร่สุดซึ้ง สุดท้ายฉินเย่ว์เหมยก็หน้าแดงระเรื่อแล้วหันหน้าหนีไป หวงหวั่นเอ๋อร์ที่นั่งเอ้อระเหยแกว่งขาชมความคึกคักอยู่บนต้นไม้มาตลอด สีหน้าของดว

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1138

    เสิ่นหมิงหยวนที่ไม่เคยเหลือบแลอ๋องตวน วันนี้โต้เถียงกับอ๋องตวนไม่หยุด ทั้งคู่โต้เถียงกันตั้งแต่เที่ยงตรงจนพระอาทิตย์คล้อยต่ำ“ข้าว่าเสิ่นหมิงหยวนจงใจทำ หงอิง เจ้าไปลากอ๋องตวนกลับมาเถิด” ฉินเย่ว์เหมยสั่งหงอิง“เจ้าว่าตอนนี้เสิ่นหมิงหยวนกำลังทำเรื่องอะไรลับหลังอยู่ใช่หรือไม่ ดังนั้นตอนนี้เลยจงใจทะเลาะกับอ๋องตวน เบนสายตาของพวกเรา” ฉินเย่ว์เหมยเดินไปหาเฉินฝาน แล้วเอ่ยด้วยความกังวลใจเล็กน้อยเฉินฝานที่กำลังตรวจอาการของผู้ได้รับพิษที่ยังไม่ได้หายสนิท เงยหน้าเหลือบมองออกไปด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์เสิ่นหมิงหยวนยังคงโต้เถียงกับอ๋องตวน แต่ว่ามีหลายครั้งที่อ๋องตวนอยากไป เสิ่นหมิงหยวนก็จะพูดขึ้นมาอย่างเรียบนิ่ง คำพูดของเขามักโจมตีจุดตายของอ๋องตวนได้อย่างแม่นยำ ด้วยเหตุนี้เองอ๋องตวนถึงได้เดือดดาลมากขึ้น หันไปขวางหน้าเสิ่นหมิงหยวนอีกครั้ง “ชายชราเคราขาวข้างกายเสิ่นหมิงหยวนจากไปตั้งแต่เมื่อไร?” เฉินฝานถาม “ชายชราเคราขาว?” ฉินเย่ว์เหมยอึ้งไป “มีชายชราข้างกายเสิ่นหมิงหยวนด้วยหรือ?”“ใต้เท้า ฝ่าบาท!”ในตอนนี้เอง จู่ ๆ ก็มีคนที่เปื้อนเลือดเต็มตัววิ่งกระเสือกกระสนเข้ามาหาเฉินฝานและฉินเย่ว์เหมย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1139

    “เถี่ยนิวผู้นี้มีปานด้านหลังคอ เขาต่างหากที่เป็นบุตรชายของข้า” “ท่านแม่ ท่านดูสิ!” จางเถี่ยนิวที่อยู่บนรถลากไม้ก้มหน้าลง กระชากเสื้อทิ้งเผยหลังคอออกมา “ข้ามีปานตรงนี้ ข้าต่างหากที่เป็นบุตรชายของท่าน” มารดาเถี่ยเดินเข้ามามอง ก่อนจะรู้สึกลำบากใจทันที คนที่อยู่บนรถลากไม้ก็มีปานเช่นกัน จางเถี่ยนิวสองคนมีปานบนคอเหมือนกันไม่มีผิด “ตัวปลอมอย่างเจ้า อย่าเข้าใกล้แม่ของข้านะ” “เจ้าต่างหากที่เป็นตัวปลอม นางคือมารดาของข้า ตัวปลอมอย่างเจ้าเรียกได้หรือ?” จางเถี่ยนิวตัวจริงกับตัวปลอมโต้เถียงกันไม่เลิกที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ พวกเขาสองคนยังเถียงกันไม่จบก็ถึงตาหลี่ซิ่นเริ่นสองคนทะเลาะกันแล้ว “ใต้เท้า ท่านรีบไล่เขาออกไปจากศูนย์บรรถเทาทุกข์เถิด เขาเป็นตัวปลอม เขาอยากวางยาพิษทำร้ายผู้ได้รับพิษที่พวกเราเพิ่งช่วยเอาไว้ในศูนย์บรรเทาทุกข์ต่ออย่างแน่นอน”หลี่ซิ่นเริ่นที่อยู่ด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์เอ่ยด้วยความร้อนใจ เขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บบนร่างตนเอง พยายามคลานมาที่ศูนย์บรรเทาทุกข์อย่างสุดชีวิต แต่เขาเพิ่งจะคลานมาถึงบันไดของศูนย์บรรเทาทุกข์ก็โดนหลี่ซิ่นเริ่นที่อยู่ด้านในศูนย์บรรเทาทุกข์เตะออกมาทันที“ใ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1140

    “หลี่ชิ่ง!”เสิ่นหมิงหยวนพลันตะโกนเสียงดังหลี่ชิ่งก้าวออกมาข้างหน้าทันที “ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ!”“ข้าขอสั่งให้เจ้าไปจับตัวคนขายชาติเดี๋ยวนี้ ใครขัดขวางฆ่าได้ไม่ต้องละเว้น!”“รับบัญชา!” หลี่ชิ่งหันกายทันที “พลธนูเตรียมพร้อม!” ฟึบ ๆๆ!พลธนูนับไม่ถ้วนพลันปรากฏตัวขึ้นในสายตาของทุกคน มีคนออกมาจากในมุมถนน มีคนออกมาจากร้านค้าใกล้เคียง และมีคนลุกขึ้นมาจากบนหลังคา อีกทั้งยังมีคนกระโดดลงมาจากบนต้นไม้ลูกธนูนับพันนับหมื่นเล็งไปที่ศูนย์บรรเทาทุกข์พร้อมเพรียงกันชาวบ้านด้านนอกศูนย์บรรเทาทุกข์ไฉนเลยจะเคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน แต่ละคนตกใจกลัวจนคุกเข่าตัวสั่นเทาอยู่บนพื้น“บังอาจ!” ฉินเย่ว์เหมยก้าวมาข้างหน้าแล้วตะโกนด้วยเสียงเย็นชา “เสิ่นหมิงหยวน เรายังอยู่ที่นี่ เจ้ายังกล้าให้พลธนูมากมายขนาดนี้เล็งเป้ามาที่เรา เจ้าคิดจะก่อกบฏหรือไร?”เสิ่นหมิงหยวนชูมือสองข้างขึ้นสูง แล้วโค้งคำนับท้องฟ้า ท่าทางดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม “ข้าจงรักภักดีต่อแคว้นต้าชิ่ง แต่ฝ่าบาท...” เสิ่นหมิงหยวนเบนสายตาไปที่ฉินเย่ว์เหมย แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด “หนึ่งปีที่ผ่านมานี้ ฝ่าบาทหลงเชื่อขุนนางชั่วอย่างเฉินฝานมาโ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1141

    กองกำลังทหารม้าทมิฬทุกคนล้วนได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี วรยุทธ์ของพวกเขาเก่งกาจยิ่งกว่ายอดฝีมือแนวหน้าในยุทธภพเสียอีกหลังจากที่เสิ่นหมิงหยวนออกคำสั่งแล้ว ทหารม้าทมิฬทุกคนล้วนพุ่งทะยานตัว เดินเหินออกมาจากแต่ละมุมมุ่งหน้าสู่ศูนย์บรรเทาทุกข์อย่างคล่องแคล่วและในช่วงเวลาพริบตาเดียว ทหารม้าทมิฬจำนวนมากก็ห่างจากฉินเย่ว์เหมยมิถึงสองเมตรแล้วทุกคนล้วนเข้าใจดี หากฉินเย่ว์เหมยถูกพาตัวออกจากศูนย์บรรเทาทุกข์แล้ว เสิ่นหมิงหยวนต้องออกคำสั่งให้สังหารเฉินฝานอย่างแน่นอนคันศรนับหมื่นนับพันกำลังเล็งเป้ามาที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ ต่อให้หวงหวั่นเอ๋อร์จะเป็นยอดฝีมือแนวหน้าในยุทธภพ เฉินฝานก็ยากที่จะหนีพ้นอยู่ดี“อารักขาฝ่าบาท!”ในขณะเดียวกันที่หงอิงออกสั่ง ก็กำจัดทหารม้าทมิฬสองคนที่พุ่งใส่มาด้านหน้าเรียบร้อยแล้วทว่าทหารม้าทมิฬที่บุกเข้ามามีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และวรยุทธ์ของทหารม้าทมิฬเหล่านี้ก็เหนือชั้นกว่ากองกำลังรักษาพระองค์อย่างมากอ๋องตวนก็เข้ามาเสริมทัพเช่นกันทว่าพวกเขาก็ยังต้านไว้ได้มินานอยู่ดี“ปัง!”เสียงกังวานดังขึ้นเฉินฝานยัดลูกกระสุนใส่ดาบปลายปืนไปพลางเดินไปนอกด้านนอกไปพลางคนส่วนใหญ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1142

    เฉินฝานมิใช่คนยุคโบราณ เขาคิดมาโดยตลอดว่าศิลปะการแปลงโฉมเป็นเรื่องเหลวไหลในนิยายกำลังภายในยุคปัจจุบันเท่านั้น ดังนั้นเขามิได้มองออกว่าหลี่ซิ่นเริ่นเป็นตัวปลอมได้ในทันที เพียงแค่รู้สึกว่าหลี่ซิ่นเริ่นที่กลับมาจากห้องน้ำแตกต่างจากปกติไปเล็กน้อยอย่างเช่น ส่วนใหญ่หลี่ซิ่นเริ่นมักจะใช้มือซ้ายป้อนนมให้คนติดพิษ จู่ ๆ ก็เปลี่ยนมาชอบใช้มือขวาแทนเสียอย่างนั้นอย่างเช่น ตอนที่หลี่ซิ่นเริ่นป้อนนมให้คนติดพิษ ก็พูดอธิบายกับคนที่มิชอบดื่มนมหรือมิชินกับการดื่มนมฟัง ดอกพลับพลึงแมงมุมจะทำให้สำรอกพิษในร่างกายออกมา ตอนที่ถั่วเขียวถอนพิษ จะกัดกระเพาะค่อนข้างรุนแรง ตอนนี้กระเพาะอ่อนแออย่างมาก ต้องดื่มนมเพื่อบำรุงกระเพาะสิ่งที่กล่าวมาเหล่านี้ หลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมล้วนมิได้ทำ ตอนที่เฉินฝานกำลังสงสัยว่าไฉนจู่ ๆ หลี่ซิ่นเริ่นถึงทำตัวแปลกไปจากปกติ หลี่ซิ่นเริ่นตัวจริงก็กลับมาแล้วตอนที่เจอหลี่ซิ่นเริ่นที่เลือดท่วมตัว เฉินฝานก็รู้ทันทีว่าคนไหนตัวจริงคนไหนตัวปลอม เขามิได้เปิดโปงในทันที เพราะอยากจะฉวยโอกาสหลอกถามข้อมูลจากหลี่ซิ่นเริ่นตัวปลอมให้มากขึ้น ไฉนเลยจะรู้ว่าเสิ่นหมิงหยวนจะทนรอมิไหวที่จะสังหารเขาปานนั้

Latest chapter

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1302

    หวนนึกถึงภาพเพื่อนสนิทที่ถูกเสือฉีกร่างทั้งเป็น ฉินเย่วฉินดวงตาแดงก่ำ แววตาแน่วแน่“ได้!” เฉินฝานขานรับน้ำเสียงเด็ดขาดอย่างมากในขณะเดียวกันที่เฉินฝานออกเดินทาง โจวอวี่ก็พามือปืนหนึ่งพันคนของเขาปลอมตัวเป็นชาวบ้าน เดินทางจากอีกฝั่งของเมืองเช่นกันวันนี้คนบนท้องถนนมีจำนวนมากเป็นพิเศษ รถม้าของเฉินฝานต้องหยุดหลายครั้งเมื่อรถม้าหยุดอีกครั้ง ฉินเย่ว์ฉินกล่าวด้วยความหงุดหงิด “เจ้าเป็นท่านอัครเสนาบดีที่ตำแหน่งอำนาจสูงส่งมิใช่หรือ? ไฉนคนเดินเท้าบนท้องถนนจึงกล้าขวางทางรถม้าเจ้า”“ขวางทางอันใดกัน? พวกเราใต้เท้ามิใช่ขุนนางกังฉินที่วางอำนาจตามอำเภอใจไปทั่ว ใต้เท้าต้องรักและดูแลราษฎร วันนี้คนที่ออกจากเมืองค่อนข้างเยอะ พวกเราเพียงหยุดเพื่อหลีกทางให้ฝูงชนเท่านั้น อีกอย่างบัดนี้พวกเรามิได้นั่งรถม้าของอัครเสนาบดีเสียหน่อย”หลี่จู้นายพลประจำกายคนใหม่ของเฉินฝานที่ติดตามอยู่ด้านนอกรถม้าเริ่มปริปากตำหนิฉินเย่ว์ฉิน ตั้งแต่ที่เกิดเรื่องที่โรงมหรสพจวบจนบัดนี้ เขาคิดมาตลอดว่าเป็นความผิดของฉินเย่ว์ฉิน หากมิใช่เพราะนาง เฉินฝานก็คงจะมิตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายบัดนี้เฉินฝานยังเป็นอัครเสนาบดีที่ ‘ตายไปแล้ว’

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1301

    “ถูกต้อง คนของตำหนักเซียวเหยาส่วนใหญ่ล้วนมีวรยุทธ์ติดตัวและวางยาพิษเป็น และมีคนที่สามารถควบคุมงูได้เช่นกัน ทว่าสตรีที่ทำอันใดมิเป็นสักอย่างมีเยอะกว่าเสียอีก ทุกคนล้วนหน้าตาค่อนข้างดี พวกนางจะแยกย้ายกันไปแต่ละแคว้นในแผ่นดินใหญ่ ใช้ประโยชน์จากความงามของตนดึงดูดบุรุษ หลังจากที่ตั้งท้องได้สำเร็จแล้วก็จะตีตัวออกห่างหายไปอย่างเงียบ ๆ”“เดิมทีสตรีก็มีฐานะต่ำต้อยอยู่แล้ว ผนวกกับการที่พื้นที่ส่วนใหญ่ทั้งแคว้นหญิงเยอะชายจำนวนน้อย การจากไปของพวกนางมิเพียงแต่มิได้ทำให้ชายเหล่านั้นเสียใจเท่านั้น ชายส่วนใหญ่กลับรู้สึกยินดี อย่างไรเสียก็คงมิมีชายใดที่อยากให้สตรีที่ตนเองได้ร่วมอภิรมย์แล้วจากไปโดยมิบอกกล่าว”ตอนที่ฉินเย่ว์ฉินพูด ใช้สายตาถมึงทึงมองไปที่เฉินฝานเฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินก็มีความสงสัยเช่นนี้กับเขาเช่นกัน เขามิได้แก้ตัว แก้ตัวไปก็ไร้ประโยชน์ เรื่องเช่นนี้มีเพียงเวลาเท่านั้นที่จะสามารถพิสูจน์ได้และที่นางพูดก็เป็นเรื่องจริงชายที่ถูกดึงดูดได้อย่างง่ายดายปานนั้น ย่อมมิยอมรับผิดชอบเป็นแน่“จากนั้นล่ะ หลังจากนั้นพวกนางอุ้มท้องแล้วก็กลับไปที่ตำหนักเซียวเหยาเช่นนี้รึ?”“ถูกต้อง” ฉินเย่ว์ฉิน

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1300

    เฉินฝานรู้ว่าฉินเย่ว์ฉินหวาดระแวง “มิต้องสงสัยหรอก ข้าเชื่อเจ้าจริง ๆ”“ทำไมล่ะ?”“เพราะเจ้าเป็นพี่สาวของเย่ว์เจียว”อีกหนึ่งเหตุผลหนึ่งคือ ฉินเย่ว์ฉินออกมาเสี่ยงชีวิตช่วยเขาและฉินเย่ว์เจียวโดยมิห่วงความปลอดภัยตนเองแม้แต่น้อย“เพียงแค่นี้งั้นรึ?” ฉินเย่ว์ฉินสีหน้ามิเชื่อ“และเพราะว่าเจ้าเป็นภรรยาของข้า” เฉินฝานมิได้พูดเล่นหนังสือทางการที่เขาครอบครองอยู่ ตราบใดที่เขามิเขียนใบหย่า ฉินเย่ว์ฉินย่อมเป็นคนของเขาตลอดไป“แต่ข้ามิชอบเจ้า”“แล้วอย่างไรต่อ? ชีวิตของเจ้าเป็นข้า ตายไปแล้ววิญญาณก็เป็นของข้า” มิว่าจะเป็นน้ำเสียงหรือท่าทางของเฉินฝานล้วนแน่วแน่และเอาแต่ใจอย่างมากวินาทีที่ฉินเย่ว์ฉินกลับมา เฉินฝานก็มิได้คิดจะปล่อยให้นางจากไปตามกฎหมายของต้าชิ่ง ในฐานะที่เป็นสามี เขามีหน้าที่ดูแลนาง นางทำความผิด เขาก็มีหน้าที่อบรมสั่งสอนนางเช่นกันฉินเย่ว์ฉินใจเต้นจากคำพูดจี้ใจดำของเฉินฝานมิใช่รู้สึกหวั่นไหวเฉินฝานตอนที่อยู่หมู่บ้านซานเหอช่วงแรกมักพูดเสียงดังน้ำเสียงดุร้ายเสมอ ทว่าตอนนั้นฉินเย่ว์ฉินมิได้รู้สึกหวาดกลัวอย่างแน่นอน ถึงขั้นรู้สึกรำคาญอย่างมาก เฉินฝานในตอนนี้มิได้พูดเสียงดัง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1299

    ฉินเย่ว์ฉินเช็ดน้ำตาด้วยความรีบร้อน “อย่ามาพูดจาเหลวไหล ข้ามิได้ร้องไห้เสียหน่อย เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตาเท่านั้น”“อ๋อ ๆ พี่รองมิได้ร้องไห้ เพียงแค่เศษดินทรายเข้าตา”ระหว่างที่พูด ฉินเย่ว์เจียวก็จูงมือเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน “พวกพี่มิเป็นไรก็ดีแล้ว ในที่สุดพวกเราเหล่าพี่น้องก็พร้อมหน้าพร้อมตากันได้เสียที พวกเราจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ข้าจะไปกว้านซื้อประทัดมาเยอะ ๆ เสียงประทัดต้องดังทั้งวันทั้งคืน”“ไม่!”เฉินฝานและฉินเย่ว์ฉินพูดออกมาพร้อมกัน“ข้าจะมิกลับไปกับพวกเจ้า” น้ำเสียงฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา นางยังคงมิยอมรับในตัวเฉินฝาน“จะจุดประทัดมิได้ บัดนี้ข้ามิสามารถกลับไปได้ชั่วคราว กลับไปเช่นนี้มิได้” เฉินฝานกล่าว“พี่รอง ข้ารู้ว่าพี่คิดอันใดอยู่ พี่มิอยากกลับไป ข้าก็คิดไว้อยู่แล้ว แต่...” ฉินเย่ว์เจียวถามเฉินฝานด้วยความสงสัย “นายท่าน ไฉนท่านจึงมิกลับ?”“พี่มิเพียงแต่กลับไปมิได้เท่านั้น และยังมิสามารถ ‘มีชีวิตอยู่’ ได้”“ใต้เท้าพูดถูก บัดนี้ใต้เท้ามิสามารถมีชีวิตอยู่ได้” ไป่เผยหรานที่อยู่ด้านข้างเข้าใจความหมายแฝงในประโยคที่เฉินฝานพูดทันทีขอเพียงเฉินฝานและฉินเย่ว์ฉิน‘เสียชีวิต’ ผู้ชักใยอย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1298

    เหอจื่อหลินและไป่เผยหรานพากองกำลังขยายอาณาเขตในการขุดค้น ทว่าหาอยู่นานก็ยังมิพบอยู่ดีมิรู้ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร“นายท่าน พี่รอง!”ฉินเย่ว์เจียวที่โดยปกติแล้วมีนิสัยดุดันตรงไปตรงมา บัดนี้ร้องไห้จนแทบจะหมดสติเหอจื่อหลินและไป่เผยหรานกำลังจะจัดแจงคนให้พานางกลับไป ปรากฏว่าเพิ่งจะปริปาก ฉินเย่ว์เจียวก็ถูกสิ่งของกระทบใส่อย่างรุนแรง“ตุ้บ!”ฉินเย่ว์เจียวถูกขว้างก้อนหินใส่“เจ้าคนหน้าไหนรนหาที่ตาย บังอาจขว้างหินใส่ข้า”“เจ้าเอะอะโวยวายปานนี้ และยังทุบตีคนที่ช่วยข้าอย่างรุนแรง เจ้ากลัวว่าพี่จะตายช้าไปหรือกระไร?”......!!!!ทุกคนล้วนตกตะลึงไปครู่ใหญ่ จึงได้สติกลับมาคือเฉินฝาน นี่คือเสียงของเฉินฝาน“นายท่าน ๆ”“ใต้เท้า ๆ”ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวเข้าหาคนแรก ทว่ามินานนางก็รู้สึกงุนงง ได้ยินเสียงเฉินฝานแล้ว แล้วตัวเขาอยู่ที่ใด“นายท่าน ๆ ท่านอยู่ที่ใด?” ฉินเย่ว์เจียวร้อนรนใจจนกระทืบเท้า“เจ้าหยุดกระทืบเท้าได้แล้ว ถ้ายังกระทืบเท้าข้าคงได้ตายจริง ๆ แล้ว!”ได้ยินเช่นนี้ ฝูงชนมองใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวตามสัญชาตญาณเฉินฝานอยู่ใต้เท้าฉินเย่ว์เจียวจริง เขาถูกโต๊ะตัวหนึ่งทับร่างไว้ เพราะโต

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1297

    “ข้ารู้ว่าเจ้ามีข้อสงสัยมากมาย แต่อย่าเพิ่งมาถามตอนนี้ รีบตามข้ามา !”ฉินเย่ว์ฉินลากฉินเย่ว์เจียวไปทันที ดูจากท่าทางของนางแล้ว คงจะเป็นสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานจริง ๆฉินเย่ว์ฉินมุ่งหน้ากลับไปเรือนที่นางออกมาเมื่อครู่“ไปทางนั้นมิได้!” เฉินฝานตะโกนดังลั่นจู่ ๆ เขาก็ได้กลิ่นดินปืนจำนวนมาก จากประสบการณ์ในยุคปัจจุบันของเขา ดินปืนนี้จวนจะระเบิด“เย่ว์เจียวเย่ว์ฉิน อ๋องตวน อีกมินานที่แห่งนี้จะระเบิดแล้ว จงล่าถอยไปด้านนอก!”สองสามปีมานี้ฉินเย่ว์เจียวและอ๋องตวนมักจะติดตามอยู่ข้างกายเฉินฝานเสมอ เฉินฝานมักจะทำการทดลองระเบิดอยู่บ่อยครั้ง พวกเขาเข้าใจสิ่งที่เฉินฝานพูด และเข้าใจผลที่ตามมาของการระเบิดดินปืนในยุคนี้เป็นสินค้าหายาก เพราะดินปืนมีอานุภาพทำลายที่รุนแรง ดังนั้นดินปืนจึงเป็นสินค้าที่ทางการควบคุมอย่างเข้มงวด โดยปกติแล้วราษฎรมิสามารถครอบครองได้ แม้ฉินเย่ว์ฉินจะอยู่ในกลุ่มตำหนักเซียวเหยาที่แข็งแกร่งปานนั้นก็มิแน่เสมอไปว่าจะเคยสัมผัสกับดินปืนมากก่อน ผนวกกับการที่นางรู้สึกมิดีกับเฉินฝาน นางจึงมิฟังคำพูดของเขา นางมิได้ล่าถอยตามฉินเย่ว์เจียวไปด้านนอก ยังคงยืนกรานจะไปที่เรือนหลังนั้น“ไปม

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1296

    “พี่รอง!” ฉินเย่ว์เจียวพุ่งตัวไปกอดฉินเย่ว์ฉินไว้แน่น ทั้งร่ำไห้และตะโกน “สองสามปีที่ผ่านมานี้พี่ไปอยู่ที่ใดมา ไฉนพี่มิกลับมาเยี่ยมพวกเราบ้าง พี่ใหญ่และนายท่านส่งไปคนมากมายไปตามหาพี่ ก็ยังมิเจอพี่อยู่ดี พี่รู้หรือไม่ว่าข้าเป็นห่วงพี่เพียงใด?”ฉินเย่วเจียวร้องไห้ไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มบ่นฉินเย่ว์ฉิน “ไฉนพี่จึงใจดำเช่นนี้ ยังมีชีวิตอยู่แท้ ๆ ไฉนจึงมิยอมกลับมา ไฉนมิยอมมาเจอหน้าพวกเรา? จำพวกเรามิได้แล้วงั้นรึ? และยังมีเรื่องของนายท่านอีก บัดนี้เขามิใช่นายท่านแบบเมื่อก่อนแล้ว ข้ามิเชื่อหรอกว่าพี่จะมิเคยได้ยินเรื่องที่เขาเปลี่ยนตัวเอง พี่จะต้องเคยได้ยินมาอย่างแน่นอน และพี่ก็รู้ด้วยว่าพวกเราเป็นห่วงเพียงใด แต่ก็ยังมิยอมกลับมาอยู่ดี พี่ช่างเป็นคนที่ใจดำอำมหิตเสียจริง”รู้สึกว่าบ่นไปก็มิได้ผล ฉินเย่ว์เจียวก็เริ่มชกต่อยฉินเย่ว์ฉิน นางนำความถวิลหา ความกังวลใจ ความคับแค้นใจที่มีต่อฉินเย่ว์ฉินทั้งหมดรวมเข้ามาไว้ในกำปั้นตนเองฉินเย่ว์ฉินมิได้ต่อต้าน มิได้เถียงกลับ ทำเพียงยืนอยู่ตรงนั้นให้ฉินเย่ว์เจียวระบายอารมณ์ ตอนที่ฉินเย่ว์เจียวกล่าวถึงเฉินฝาน ฉินเย่ว์ฉินหันไปมองเฉินฝาน ทว่าเป็นชำเลืองมองเพียงครู่เ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1295

    มิถึงเวลาหนึ่งถ้วยชา ผู้ฟังทั่วบริเวณล้มลงไปนอนกับพื้นทั้งหมด คนส่วนใหญ่ล้วนถูกงูฉกตาย ส่วนคนที่ถูกฉกแต่ยังมิสิ้นลม ใบหน้าดำคล้ำสติเลือนรางเพราะพิษงูมีผู้ฟังที่ล้มลงกับพื้นตรงประตูทางออกมากที่สุด เพราะคนส่วนใหญ่คิดที่จะหนีออกไป ทว่าประตูทางออกใหญ่ปิดล็อกไปตั้งแต่ตอนที่พวกเฉินฝานเข้ามาแล้ว“ให้ตายสิ!” อ๋องตวนตะโกนลั่น “แม้ทั้งชีวิตข้าจะทำเรื่องเลวทรามมาเยอะ เคยคิดไว้อยู่แล้วว่าอาจจะต้องตายอย่างน่าสังเวช ทว่าต่อจะให้น่าสังเวชเพียงใด ข้าก็มิอยากถูกงูฉกตายเช่นนี้!”อ๋องตวนที่ปกติมิเกรงกลัวสิ่งใด บัดนี้กลับเกิดความหวาดกลัวอย่างแท้จริง เขาหวาดกลัวงูที่สุด ตัวลื่น ๆ เนื้อสัมผัสเย็น ๆรูปลักษณ์ภายนอกน่าขยะแขยงเพียงแค่คิดก็รู้สึกขนพองสยองเกล้าแล้ว นับประสาอันใดกับการเห็นและถูกฉกด้วยตาตนเอง“ท่านอ๋อง ท่านมายืนด้านหลังข้า” ฉินเย่ว์เจียวกล่าวจบ ก็มองไปทางเฉินฝาน เฉินฝานพยักหน้าเล็กน้อยเมื่อเฉินฝานอนุญาต ฉินเย่ว์เจียวยื่นมือไปที่เอวทันทีฉินเย่ว์เจียวยังมิทันได้หยิบขลุ่ยไม้ไผ่ตรงเอวขึ้นมา ด้านนอกก็เสียงดนตรีที่เนิบนาบดังขึ้นเมื่อเสียงดนตรีนั้นดังขึ้น งูที่แต่เดิมโจมตีคนอย่างบ้าคลั่ง จู่ ๆก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1294

    วินาทีที่เห็นสตรีนางนั้น หลี่อวี้ไห่ตาเบิกกว้าง องครักษ์หญิงด้านหลังเขาเหล่านั้นก็มีสีหน้าเช่นเดียวกัน ตกตะลึงเหลือเชื่อ และหวาดกลัว!สตรีผู้นั้นหยุดฝีเท้าตรงหน้าหลี่อวี้ไห่ กะพริบตาเล็กน้อย น้ำเสียงเนิบนาบ “พวกเราโรงมหรสพเซียนยินทำการค้า ขอเพียงมิฝ่าฝืนกฎหมายต้าชิ่ง ก็ต้องเติมเต็มความต้องการของแขกเป็นธรรมดาอยู่แล้ว”หลี่อวี้ไห่ยังคงยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ทั้ง ๆ ที่เป็นคนวัยกลางคนผ่านโลกมามากมายแล้ว บัดนี้กลับทำอันใดมิถูก“หืม?” สตรีนางนั้นเลิกคิ้วขึ้นเลิกเล็กน้อย น้ำเสียงยังคงเนิบนาบ ทว่ากลับแฝงด้วยรังสีเย็นยะเยือกที่ทำให้คนอกสั่นขวัญผวา นางยกมือเรียวยาวของนางขึ้น ปัดไรผมบนหน้าผากตนเองเบา ๆ กำไลข้อมือรูปงูสีทองเปล่งประกายสะท้อนแสง “หูใช้การมิได้แล้วงั้นรึ?”เหงื่อเย็นหลายเม็ดผุดขึ้นหน้าผากหลี่อวี้ไห่ทันที “เร็วเข้าสิ รีบนำสุรามาให้ท่านอ๋อง”ตอนที่หลี่อวี้ไห่เหงื่อเย็นไหลออกมา อ๋องตวนก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิได้ นับตั้งแต่วินาทีที่สตรีนางนั้นออกมา เขาก็เริ่มสงบสติอารมณ์มิอยู่แล้ว ทว่าเฉินฝานห้ามเขาไว้ตอนที่สาวใช้ยกสุราผ่านหน้าสตรีไป สตรีนางนั้นก็ยื่นมือเรียวยาวออกมาอีกครั้ง “เอาม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status