แชร์

บทที่ 1096

ผู้เขียน: เฉินเจียเสี่ยวเกอ
หญิงชุดสีน้ำเงินใช้ดาบฟันขวานที่กำลังจะพุ่งเข้าหาเฉินฝาน จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งโอบเอวเฉินฝาน ออกแรงแตะฝีเท้า ใช้วิชาตัวเบาพาเฉินฝานเหาะเหินไปจากฝูงชน

ชาวบ้านเห็นเพียงมวลเมฆสีน้ำเงินผ่านเหนือศีรษะพวกเขาไปด้วยความเร็ว เฉินฝานที่เดิมทีอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาเท่าใดนัก พลันหายตัวไป

“แม่นาง เจ้าตัดสินใจถูกแล้ว!”

เฉินฝานมองหญิงสาวที่อุ้มเขาเหาะเหินผ่านฝูงชน พูดพร้อมกับยิ้มบางๆ

หญิงสาวมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบสะระแหน่ กลิ่นนั้นไม่ฉุนและไม่จางจนเกินไป มีความเป็นธรรมชาติ งดงามจนไม่อาจควบคุมได้

หญิงชุดสีน้ำเงินที่ได้ยินเสียงของเขา ก้มหน้ามองเฉินฝานที่เวลานี้สีหน้ากำลังดื่มด่ำ นางโมโหทันที

“คนบ้า!”

หญิงชุดสีน้ำเงินผลักเฉินฝานออกไปอย่างแรง เฉินฝานร่วงหล่นบนพื้นทันที

“โอ๊ย เจ็บจะตายอยู่แล้ว!” เฉินฝานเอามือท้าวเอวพร้อมกับร้องโอดครวญเสียงดัง “หากข้าตกลงมาแล้วตาย ก็ไม่อาจถอนหมั้นได้แล้ว”

ความจริงเฉินฝานไม่เจ็บ ตอนจะตกลงมา เขาทำการป้องกันตัวแล้ว หลังจากตกลงมาเขาเพียงไม่สบอารมณ์เท่านั้น จึงคิดอยากจะทำให้หญิงชุดสีน้ำเงินตกใจ

“พูดมากอะไรกัน? รีบลุกขึ้น ไปเมืองหลวงเดี๋ยวนี้” หญิงชุดสีน้ำเงินพูดเสียงเหี้ยม
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1097

    หญิงชุดสีน้ำเงินมองค้อน “อย่าแกล้งทำตัวน่าสงสารกับข้า ชาวบ้านผู้บริสุทธิ์เหล่านั้น ล้วนตายเพราะท่านไม่ใช่หรือ?”เฉินฝานเองก็มองค้อนโต้กลับหญิงชุดสีน้ำเงิน“แม่นาง บิดาของเจ้าเซียนเจี้ยนหวง แม้จะใช้ชีวิตอิสระมาโดยตลอด แต่การที่เขาเป็นมิตรสหายคนสนิทของซูซิวฉีได้นั้น คาดว่าเขาคงสายตาแหลมคมไม่น้อย หากข้าเลวร้ายดั่งเช่นแม่นางกล่าว เขาจะให้แม่นางแต่งงานกับข้าหรือ?”“เขาตาบอด!” หญิงชุดสีน้ำเงินชักดาบออกมาพร้อมกับชี้ไปที่เฉินฝาน “ขุนนางชั่วเช่นพวกท่านล้วนเข้าข้างพวกของตนเอง ท่านมาหาเจ้าเมืองลู่ตูพานอีเฟย เพราะอยากให้เขานำทหารมาจัดการชาวบ้านใช่หรือไม่?”“ข้าไม่มีวันปล่อยให้ท่านทำสำเร็จแน่นอน ตายซะ...”หญิงชุดสีน้ำเงินที่กำลังแยกเขี้ยวยิงฟันอยู่นั้น จู่ๆ ก็เงียบกะทันหัน ปืนสีดำขลับจ่อไปที่ศีรษะของนางเฉินฝานส่ายหน้า “อายุยังน้อยแต่กลับความจำย่ำแย่ บอกแม่นางแล้วไม่ใช่หรือ? เจ้าไม่อาจสังหารข้าได้”หญิงชุดสีน้ำเงินถลึงตามองเฉินฝาน “ทั้งที่อาวุธในมือของท่านอานุภาพรุนแรง เหตุใดจึงต้องให้ข้าพาท่านออกมาด้วย? ท่านมีจุดประสงค์ใดกันแน่?”“หึๆ!” เฉินฝานยิ้มมุมปาก “แม่นางเป็นภรรยาของข้า หากไม่ให้เจ้

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1098

    มือของเฉินฝานใหญ่มาก กลางฝ่ามือของเขาหยาบกร้าน สากมือเล็กน้อย ทว่าฝ่ามือของเขากลับอบอุ่น ทำให้คนรู้สึกปลอดภัยตอนเฉินฝานหันหน้ากลับไปเขาเห็นหวงหวั่นเอ๋อร์ก้มหน้ามองมือของเขา อีกทั้งใบหน้างดงามนั่นยังแดงระเรื่อ“แม่นางหวง เจ้าเป็นอะไร?”คำพูดของเฉินฝาน เรียกสติหวงหวั่นเอ๋อร์กลับมานางสะบัดหน้าอย่างแรง ก่นด่าตนเองในใจ ‘หวงหวั่นเอ๋อร์ เจ้ากำลังคิดเพ้อเจ้ออะไร’“แม่นางหวง เจ้าเป็นอะไรกันแน่?” เฉินฝานแปลกใจกว่าเดิม“ข้าไม่เป็นอะไรทั้งนั้น!”ขณะพูด หวงหวั่นเอ๋อร์เขย่งปลายเท้าเล็กน้อย เหาะขึ้นไปบนกำแพงจวนเจ้าเมืองอย่างรวดเร็ว“แม่นางหวง พาข้าไปด้วย!”หวงหวั่นเอ๋อร์ไม่สนใจเฉินฝาน เฉินฝานทำได้เพียงใช้วิชาการปีนป่ายที่ได้เรียนในกองทัพยุคปัจจุบัน“ท่านเองก็มีวิชาตัวเบาไม่ใช่หรือ? เหตุใดยังต้องให้ข้าพาท่านขึ้นมาด้วย”เฉินฝานเพิ่งปีนไปถึงหลังคา เสียงเอ่ยถามของหวงหวั่นเอ๋อร์ดังขึ้นด้านหน้า“นี่ไม่ใช่วิชาตัวเบา นี่คือ...ไว้ข้าค่อยอธิบายให้เจ้าฟัง”ครั้งก่อนเขาเคยพักที่จวนท่านเจ้าเมืองลู่ตู เฉินฝานรู้ว่าห้องของพานอีเฟยอยู่ที่ใด เขาเดินไปอย่างรู้ทาง“ใคร?”พานอีเฟยในฐานะเจ้าเมืองลู่ตูซึ่

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1099

    พานอีเฟยไม่กล้ารอช้า รีบรายงานเฉินฝานทันที “ใต้เท้า ครึ่งเดือนก่อน เริ่มมีชาวบ้านทยอยคลื่นไส้ อาเจียนแล้วขอรับ แรกเริ่มไม่มีใครสนใจ คิดว่าทานอาหารเป็นพิษเท่านั้น”“ทว่าคิดไม่ถึง ชาวบ้านที่คลื่นไส้และอาเจียนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังปวดท้อง เป็นตะคริว วิงเวียน พูดไม่รู้เรื่อง หายใจหอบ สลบไม่ได้สติ คนที่อาการหนักถึงขั้นเสียชีวิตขอรับ”“เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นตั้งแต่เมืองลู่ตูไปจนถึงเมืองหลวง แรกเริ่มคิดว่าเป็นกาฬโรค ทว่าใช้วิธีป้องกันการระบาดของกาฬโรค กลับไม่ได้ผลแม้แต่น้อย ชาวบ้านล้มป่วยและตายมากขึ้นเรื่อย ๆ”ในตอนหลังมีคนพบว่า พื้นที่ที่มีผู้ป่วยมากล้วนมีน้ำด่างไหลผ่าน คนป่วยล้วนเคยดื่มน้ำด่างก่อนจะป่วย ดังนั้นจึงเริ่มมีคนคิดว่าน้ำด่างมีปัญหา แล้วรายงานไปถึงเมืองหลวง”“หลังจากฝ่าบาทได้รับรายงานรีบสั่งให้หมอหลวงออกมาตรวจรักษา เวลาเพียงไม่นานหมอหลวงก็ได้คำตอบ น้ำด่างมีปัญหาจริงๆ ในน้ำด่างมีหญ้าไส้ขาดขอรับ”“หญ้าไส้ขาด?” เฉินฝานพูดพึมพำ “คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง เป็นตะคริว วิงเวียน พูดไม่รู้เรื่อง หายใจหอบ สลบไม่ได้สติ ตาย”เฉินฝานตอนอยู่ในยุคปัจจุบันเคยฝึกทหารพิเศษมาก่อน เพราะ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1100

    เมืองลู่ตูอยู่ใกล้แคว้นหลู่ ถือเป็นเมืองที่มีบุรุษมากที่สุดในแคว้นต้าชิ่งแล้ว“ตอนนี้คนป่วยอยู่ที่ใดของเมืองลู่ตู?” เฉินฝานถามด้วยความร้อนใจ“ใต้เท้า พวกเขาอยู่ที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ของเฉิงตงขอรับ”ศูนย์บรรเทาทุกข์ตั้งอยู่ทุกเมือง สร้างบนพื้นที่กว้าง ใช้สำหรับเป็นที่คุ้มภัยยามเกิดภัยพิบัติต่างๆพานอีเฟยยังพูดไม่จบ ก็ถูกเฉินฝานคว้าตัวขึ้นมา “เจ้าพาข้าไปตอนนี้เลย”ตอนออกจากจวนท่านเจ้าเมือง เฉินฝานสั่งให้พานอีเฟยมีคำสั่ง หากอ๋องตวนและหงอิงมาถึง ให้พวกเขาไปหาตนที่ศูนย์บรรเทาทุกข์ตอนหวงหวั่นเอ๋อร์ช่วยเขาออกมา เขาส่งสัญญาณบอกหงอิงแล้ว เมื่อไปหาท่านเจ้าเมืองก็จะรู้ว่าตนอยู่ที่ใดชาวบ้านถูกหลอกลวง คนส่วนมากเข้าใจผิดในตัวเขา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องวุ่นวาย เฉินฝานเข้าไปในโรงยาแล้วเปลี่ยนเป็นชุดหมอแน่นอน เรื่องนี้เป็นเรื่องด่วน ตอนเปลี่ยนเป็นชุดหมอ วิธีการของเขาหยาบคายเล็กน้อย“พวกเจ้าเป็นใคร? เหตุใดจึงแย่งเสื้อผ้าของข้า?”หมออายุราวห้าสิบ ถามเฉินฝานด้วยนั่งขดตัวสั่นเทาในมุมด้วยสภาพเปลือยเปล่า“ขอโทษด้วย ข้าขอซื้อชุดของท่าน!”เฉินฝานสวมชุดของหมอ แล้วเดินออกไป ตอนเดินไปถึงหน้าประตู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1101

    “ท่านเจ้าเมือง!”หมอไม่รู้จักเฉินฝาน แต่รู้จักพานอีเฟย“ข้าน้อยคารวะท่านเจ้าเมืองขอรับ” หมอคนนี้มีความรับผิดชอบสูงมาก เขาคุกเข่าคารวะเสร็จแล้วก็ไม่รอให้พานอีเฟยพูดจาก็รีบเอ่ยอีกครั้งว่า “ใต้เท้า ตอนนี้ข้าน้อยยังต้องรีบไปจ่ายยาขอรับ”เขากล่าวจบก็ลุกขึ้นมาเอง ก่อนจะตวาดเสียงดังใส่เฉินฝานด้วยความรีบร้อนว่า “เจ้าอย่ามาก่อกวน รีบลุกขึ้นมาเร็วเข้า”“หมอหลี่!” พานอีเฟยห้ามปรามหมอผู้นั้นอีกครั้ง เขาชี้ไปยังอาภรณ์บนร่างของเฉินฝาน “ท่านดูเครื่องแต่งกายของเขาสิ เขาไม่ได้มาก่อกวนนะ”คราวนี้หมอหลี่ถึงค่อยสังเกตเห็นว่าเฉินฝานสวมชุดหมอเช่นเดียวกับเขา ก่อนที่เขาจะตกตะลึงเล็กน้อย “เขาก็เป็นหมอเหมือนกันหรือ? เหตุใดข้าถึงไม่เคยเห็นมาก่อนเลย?”“ไม่เคยเห็นก็ถูกแล้ว” พานอีเฟยกล่าว“อ๊ะ!” หมอหลี่พลันร้องเสียงต่ำ “ใต้เท้า หรือว่าเขาก็คือหมอหลวงที่ฝ่าบาททรงส่งมา?”“เขา...เฮ้อ ท่านอย่าถามให้มากความเลย ไปยืนข้าง ๆ เขา หากเขามีสิ่งใดต้องการให้ท่านทำ ท่านก็จงทำตาม”พานอีเฟยผลักหมอหลี่ไปทางเฉินฝาน “คิดไม่ถึงเลยว่าจะมีหมอหลวงเยาว์วัยถึงเพียงนี้ด้วย? ท้ายสุดเขาจะไหวหรือไม่นะ?”ยามที่หมอหลี่เดินไปหาเฉินฝ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1102

    “ถุย!”มีชาวบ้านหลายคนถ่มน้ำลายคนที่ได้รับพิษผู้หนึ่งซึ่งเดิมทีหายใจรวยริน พยายามออกแรงลุกขึ้นมาอย่างสุดกำลัง ก่อนที่เขาจะก่นด่าพลางกัดฟันด้วยดวงตาแดงก่ำ“เขาห่วงใยราษฎรสุดหัวใจ? เขาอยากฆ่าราษฎรสุดหัวใจน่ะสิ”หลายคนเห็นด้วยกับคำพูดของคนผู้นี้ ทุกคนต่างพากันพยักหน้า พวกเขายังอยากเตือนสติพานอีเฟย“ใต้เท้าพาน ท่านอย่าโดนโฉมหน้าปลอม ๆ ของเฉินฝานหลอกลวงเลย” “ถูกต้อง เฉินฝานผู้นั้นเสแสร้งเก่งเป็นที่สุด ตอนแรกเขานำกองทัพลาดตระเวนไปต้านทานกองทัพใหญ่ของแคว้นหลู่ พวกเราล้วนนึกว่าเขาเป็นขุนนางดีห่วงใยราษฎรอย่างถึงที่สุด ผลที่ได้รับกลับคาดไม่ถึงเลย”“อันที่จริงตอนแรกข้าก็นึกสงสัยอยู่แล้ว กองทัพลาดตระเวนแค่ไม่กี่หมื่นนายจะเอาชนะกองทัพใหญ่แคว้นหลู่กว่าสองแสนนายได้อย่างไร ตอนนี้คิดดูแล้วจะต้องเป็นเพราะเฉินฝานเล่นละครร่วมกับโอวหยางน่าหลันผู้นั้น จุดประสงค์ก็คือเพื่อให้พวกเราตายใต ให้ขุนนางในราชสำนักตายใจ”เดิมทีคนเหล่านี้ป่วยจนสติไม่อยู่กับตัวแล้วชัด ๆ ตอนนี้แค่พูดถึงเฉินฝาน แต่ละคนล้วนตาแดงฉาน กระปรี้กระเปร่า แทบอยากจะฉีกเฉินฝานเป็นชิ้น ๆ เมื่อได้ยินคนเหล่านี้พูดจาเหิมเกริมขึ้นเรื่อย ๆ พา

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1103

    เฉินฝานโน้มตัวลงไปแย่งชามยาของคนผู้นั้นอย่างรวดเร็ว แล้วสาดน้ำยาทิ้ง“จะ เจ้า...” คนผู้นั้นชี้หน้าเฉินฝานแล้วด่าว่า “เทยาของข้าทิ้งไปเนี่ยนะ จิตใจอำมหิตนัก!” เฉินฝานสะบัดแขนเสื้อที่โดนสาดตอนแย่งยา แล้วเอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ดื่มยาที่ไร้ประโยชน์กันไปเพื่ออะไร? อยากตายไว้ขึ้นหรือไร?”เฉินฝานพูดพลางเทยาของอีกหลายคนติดต่อกัน...???คำพูดและการกระทำของเฉินฝานทำให้ภายในห้องตกอยู่ในความเงียบสงัด ทุกคนจ้องมองเขาด้วยความสงสัยและความตกตะลึงยานี้ไร้ประโยชน์? อีกทั้งดื่มแล้วยังตายไวขึ้น?“นี่เจ้ากำลังพูดเหลวไหลอันใด! ยาของข้าจะไร้ประโยชน์ได้อย่างไร?" หมอหลี่ผู้นั้นเอ่ยด้วยความโกรธ แก้ต่างให้ตนเองอย่างหน้าดำหน้าแดง“ไม่ใช่ว่าข้าอวดดี แต่ข้าเป็นหมออยู่ในเมืองลู่ตูมากว่าสามสิบปีแล้ว ความประพฤติและวิชาแพทย์ใต้เท้าพานรู้ดี ชาวเมืองลู่ตูเองก็รู้ดี ข้าไม่มีทางทำร้ายผู้คนเป็นอันขาด”“ใช่แล้ว หมอหลี่ไม่มีทางทำร้ายพวกเราอย่างแน่นอน!”ผู้ได้รับพิษเหล่านั้นแสดงความเชื่อใจหมอหลี่ออกมาทันที พานอีเฟยที่ยืนข้างเฉินฝานก็ก้มหน้าพูดแทนหมอหลี่เช่นกันหมอหลี่มีนามว่าหลี่ซิ่นเริ่น เขาเกิดมาก็เป็นชาวเมืองลู

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1104

    ทหารนับไม่ถ้วนกรูกันเข้ามาในสถานพยาบาล ชั่วพริบตาเดียวก็มาถึงตรงหน้าเฉินฝานกับหวงหวั่นเอ๋อร์หวงหวั่นเอ๋อร์ขมวดคิ้วทันที นัยน์ตางดงามถลึงมองเฉินฝานอย่างอำมหิต “ตัวปัญหาจริง ๆ!”“แหะ ๆ!” เฉินฝานฉีกยิ้มหัวเราะ เกาผมเอ่ยอย่างเขินอายว่า “ช่วยไม่ได้ คนใหญ่คนโตนี่นา เรื่องย่อมต้องเยอะหน่อย เจ้าควรรู้สึกภูมิใจที่สามีแบบข้าสิ...”“ถุย!” เฉินฝานยังพูดไม่ทันจบก็โดนเสียงที่ทำเป็นฉุนเฉียวของหวงหวั่นเอ๋อร์ตับบท “ไร้ยางอา ข้าไม่มีสามีเช่นเจ้า!”หวงหวั่นเอ๋อร์พูดพลางโยนเฉินฝานไปหาทหารเหล่านั้น “เฮ้ย อย่านะ ๆ ข้าผิดไปแล้ว...”การขอร้องของเฉินฝานช้าไปเสียแล้ว หวงหวั่นเอ๋อร์โยนเขาออกไปแล้ว“โอ๊ย...”หลังจากผ่านความรู้สึกไร้น้ำหนัก เฉินฝานร่วงลงไปยัง...นุ่มนิ่ม แถมยังหอมด้วย...มือของเฉินฝานสัมผัสโดนจุดนุ่มนิ่มพอดี เขาบิดไปตามสัญชาตญาณเอ๊ะ?ความนุ่มนิ่มนี้ สัมผัสที่มือเหมือนกับ...“อืม~”เสียงครางเบา ๆ ดังเข้ามาเฉินฝานเงยหน้าไปตามเสียงดวงหน้าประณีตงดงามปรากฏขึ้นในม่านตาของเฉินฝานทันที “คนสารเลว!”หวงหวั่นเอ๋อร์อายจนโกรธโยนเฉินฝานลงกับพื้นอย่างรุนแรงที่แท้ เมื่อครู่นี้หวงหวั่นเอ

บทล่าสุด

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1315

    “อะไรนะ!?”“ตอนนี้องค์หญิงเสี่ยวฉู่พาฝ่าบาทไปที่ประตูอู่แล้วขอรับ เจ้าสิ่งนั้น ปะ ปะ...”“ปืนไรเฟิล”“ใช่ ๆ ปืนไรเฟิล ปากกระบอกปืนไรเฟิลจ่อพระเศียรของฝ่าบาทอยู่เลยขอรับ!”“หา นี่เป็นเพราะอะไรกัน?”บรรดาพี่สาวน้องสาวตระกูลฉินได้ยินข่าวขึ้นมา“กราบทูลบรรดาองค์หญิง ข้อเรียกร้องขององค์หญิงเสี่ยวฉู่คืออยากให้ท่านอัครเสนาบดีกับฝ่าบาทอภิเษกสมรสกันเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ”“เหลวไหล!”เฉินฝานพุ่งตัวออกไปราวกับพายุเวลานี้บรรดาพี่น้องตระกูลฉินที่เพิ่งแสดงท่าทีรีบร้อนทำหน้าร้อนใจกลับมีสีหน้าแจ่มใส ถึงขนาดที่นั่งลงปรึกษาหารือกันฉินเย่ว์โหรว “พี่หญิงรอง ท่านมีฝีมือดี ท่านรีบไปขวางอยู่ที่หอด้านบนประตูอู่ อย่าให้นายท่านลงมา” ฉินเย่ว์เจียว “ไม่มีปัญหา พอถึงเวลานั้นข้าจะเรียกน้องหวั่นเอ๋อร์ นายท่านหนีไม่รอดแน่”ฉินเย่ว์ฉิน “เช่นนั้นข้าจะให้พี่น้องในวังเซียวเหยาก่อนหน้านี้ไปเดินเล่นแถว ๆ ประตูอู่ให้หมดเลย จะต้องครึกครื้นเป็นแน่ รับรองว่าพี่น้องทหารองครักษ์พวกนั้นจะต้องมองสาวงามอย่างไม่หวาดไม่ไหว”สามพี่น้อง “ความปรารถนาของเสี่ยวฉู่ พวกเราในฐานะพี่สาวจะต้องช่วยอย่างเต็มที่!”เมื่อมองถนนละแวกป

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1314

    “ข้าไม่ได้ขัดขืนจริง ๆ” เย่ลวี่เลี่ยก้มหน้าลง ชายสูงแปดฉื่อทำสีหน้าที่เต็มไปด้วยความท้อแท้ใจ เขาอยากขัดขืนอยู่แล้ว แต่ฉินเย่ว์ฉู่ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับเขาเลยตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่บุกเข้ามาในกระโจมใหญ่ของเย่ลวี่เลี่ย ก็ยิงปืนกำจัดองครักษ์ของเย่ลวี่เลี่ยก่อนพูดแล้วก็น่าอับอาย เย่ลวี่เลี่ยที่เคยผ่านศึกมาอย่างโชกโชนตกใจกลัวรูเลือดตรงกลางหน้าผากขององครักษ์ เขาไม่เคยเห็นอาวุธที่รวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลยได้ยินแค่เสียงดังปัง หน้าผากขององครักษ์ก็มีรูเลือดใหญ่ขนาดนี้แล้ว ความเร็วที่แม้แต่เทพเซียนก็ทำไม่ได้ ความแม่นยำที่แม้แต่เทพเซียนก็ยังทำไม่ได้ในตอนที่ฉินเย่ว์ฉู่ยกปืนขึ้นแล้วลั่นไกอีกครั้ง เมื่อเย่ลวี่เลี่ยได้ยินเสียง เขาก็ตกใจจนสลบไปทันที หลับไปตื่นหนึ่งถึงค่อยพบว่าฉินเย่ว์ฉินยิงใส่หมวกเล็กของเขาเท่านั้นตกใจสาวน้อยจนสลบไป ไม่ว่าสือจิ่งซานผู้นี้จะถามอย่างไร เย่ลวี่เลี่ยก็ไม่บอกเขา .....ในคืนที่เย่ลวี่เลี่ยถูกจับ ข่าวก็ไปถึงเมืองหลวงแล้ว “เครื่องอัดเสียงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องเสียง...” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยอ่านคำเหล่านี้ก็ถามเฉินฝานด้วยความมึนงงว่า “จดหมายของเสี่ยวฉู่บอกว่า นางแค่อาศ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1313

    “นางไม่รู้หรือว่าพวกเราไม่อยากลงมือจริงจัง?” “พอไปถึงค่ายทหารของชาวหู ไม่ใช่แค่โดนฆ่าธรรมดาแบบนั้นหรอกนะ” ชาวหูไม่มีทางปล่อยสตรีชาวต้าชิ่งใด ๆ ที่ตกอยู่ในมือพวกเขา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสตรีชาวต้าชิ่งที่หน้าตางดงามฐานะสูงศักดิ์อย่างฉินเย่ว์ฉู่ พฤติกรรมของพวกเขาใช้คำว่าเดรัจฉานมาอธิบายยังไม่พอเลย สือจิ่งซานสะบัดแขนเสื้อ “พอได้แล้ว สตรีนางเดียวไม่มีค่าพอให้เราต้องใส่ใจหรอก นางอยากตายก็ปล่อยนางไปเถิด โจวจวี่ เจ้าส่งคนไปบอกเยลวี่เลี่ยว่าให้พวกเขาเหลือศพไว้ครบถ้วน ข้าจะซื้อศพไว้ใช้ประโยชน์” ไม่ต้องให้สือจิ่งซานรอนานเกินไป วันรุ่งขึ้นทหารลาดตระเวนก็มารายงาน “ว่าไงนะ? เยลวี่เลี่ยมาด้วยตนเอง?”“ท่านแม่ทัพใหญ่ หากพูดให้ตรงคือเยลวี่เลี่ยโดนฮูหยินเล็กของท่านอัครเสนาบดีจับกุมมาขอรับ”“เจ้าพูดอีกทีสิ?”ทหารลาดตระเวนพูดซ้ำถึงสามรอบเต็ม ๆ สือจิ่งซานก็ยังไม่เชื่อไม่ใช่แค่สือจิ่งซานที่ไม่เชื่อ ต่อให้เป็นผู้ถูกจับกุมอย่างเยลวี่เลี่ยก็ไม่เชื่อเช่นกัน เขาจะโดนสตรีนางเดียวจับกุมได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้นสตรีผู้นี้ยังอายุน้อย พาทหารหญิงรุ่นราวคราวเดียวกันมาแค่ร้อยกว่าคนเมื่อฉินเย่ว์ฉู่พาเยลวี่เล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1312

    สือจิ่งซานยกมุมปากยิ้มคลุมเครือ “แปรพักตร์อันใดกัน ฝ่าบาทกับท่านอัครเสนาบดีเห็นอกเห็นใจกองทัพหมาป่าเรา จึงส่งสะใภ้คนเล็กมา เช่นนั้นกองทัพหมาป่าเราย่อมต้องต้อนรับสะใภ้ท่านนี้ให้ดี ๆ”“แม่ทัพใหญ่กล่าวถูกต้อง พวกเราต้อง ‘ต้อนรับ’ ให้ดี ๆ!” โจวจวี่พูดคล้อยตามทันที ไม่นานนักก็มีคำสั่งจากในกระโจมใหญ่ ให้ทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนยุคโบราณที่จารีตเคร่งครัดอย่างยิ่ง การเปลือยท่อนบนเช่นนี้เป็นพฤติกรรมดูหมิ่นไม่ให้ความกียรติสตรีอย่างรุนแรงยิ่งกว่านั้นฉินเย่ว์ฉู่เป็นภรรยาเอกของอัครเสนาบดีขั้นหนึ่ง องค์หญิงแห่งต้าชิ่ง พระขนิษฐาแท้ๆ ของฮ่องเต้หญิงหากฉินเย่ว์ฉู่เป็นเพียงสตรีทั่วไปในยุคนี้ เกรงว่ามีแต่จะตกใจจนมือไม้อ่อนไปหมดทหารแม่ทัพทั้งหมดของกองทัพหมาป่าเปลือยท่อนบนออกจากกระโจม รอดูท่าทางตกใจกลัวจนร้องไห้โฮยกใหญ่ของฉินเย่ว์ฉู่“ผู้ชายมากมายถึงเพียงนี้ข่มขู่เด็กสาวคนเดียวจะไม่เกินไปหน่อยหรือ” มีบางคนรู้สึกว่าแบบนี้ไม่ค่อยดีนัก แต่คำพูดของเขาก็โดนคนอื่นสวนกลับทันที “เกินไปอันใดเล่า เฉินฝานเป็นคนส่งมา ให้เขาหยามพวกเราได้เท่านั้น แต่ไม่ยอมให้พวกเราตอบโต้คืนหรือ? เปลือย

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1311

    เย่ว์หนูได้รับบาดเจ็บในระหว่างที่ปกป้องเฉินฝานครั้งหนึ่ง ร่างกายของนางตอนนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน เดิมทีเฉินฝานอยากให้หวงหวั่นเอ๋อร์ตามฉินเย่ว์ฉู่ไป มีหวงหวั่นเอ๋อร์อยู่ อย่างน้อยที่สุดก็ไม่มีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของฉินเย่ว์ฉู่ ผลปรากฏว่าฉินเย่ว์ฉู่ปฏิเสธแม้กระทั่งหวงหวั่นเอ๋อร์ด้วยฉินเย่ว์ฉู่พาทหารหญิงไปหนึ่งร้อยกว่าคน มุ่งตรงสู่ทางเหนือ บุกไปยังกองทัพหมาป่าอย่างกล้าหาญ “เจ้าปล่อยให้นางไปเช่นนี้หรือ?” คนที่ตำหนิเฉินฝาน ไม่ใช่แค่พี่น้องตระกูลฉินทั้งสามคนในจวนสกุลเฉิน แม้แต่ฉินเย่ว์เหมยที่อยู่ในวังหลวงก็รีบออกมาเช่นกันนางคิดว่าไม่ว่าอย่างไร อย่างน้อยที่สุดเฉินฝานต้องให้ฉินเย่ว์ฉู่นำกองพลมือปืนไป“เย่ว์ฉู่เป็นน้องเล็กของพวกเจ้า น้องเล็กของพวกเจ้ามีนิสับแบบไหน พวกเจ้าไม่รู้เลยหรือไร?” คำพูดประโยคเดียวของเฉินฝานทำให้พวกนางสำลักแล้วแม้ว่าฉินเย่ว์ฉู่จะเป็นน้องเล็กสุดในตระกูลฉิน ทว่าตั้งแต่เด็กจนโต นางมีความคิดของตัวเองมากที่สุด ขอเพียงเป็นเรื่องที่นางตัดสินใจแล้ว ไม่มีใครสามารถทำให้นางเปลี่ยนใจได้“แต่ว่า...” ฉินเย่ว์โหรวที่เป็นคนกังวลใจมากที่สุด ขมวดคิ้วมุ่น ดูกลัดกล

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1310

    การปรากฏตัวของนาง ทำให้ทุกคนรู้สึกปีติยินดีกันมากแต่ฉินเย่ว์เจียวกลับถลึงมองสตรีผู้นั้น “พอได้แล้ว เสี่ยวฉู่เจ้าเด็กตัวแสบ แสร้งทำตัวเป็นผู้ใหญ่อันใด ยังไม่รีบเข้ามาอีก?” ฉินเย่ว์ฉู่ขี่ม้าเข้ามา ขณะที่นางผ่านฉินเย่ว์เจียวยังไม่ลืมเถียงกลับว่า “พี่หญิงรอง ข้าอายุยี่สิบแล้ว เป็นผู้ใหญ่ตั้งนานแล้วนะ”ฉินเย่ว์เจียวเชิดหน้าขึ้นสูง “ไม่ว่าเจ้าจะอายุเท่าไหร่ ถึงอย่างไรในสายตาข้า เจ้าก็เป็นเด็กตลอดกาล” ฉินเย่ว์ฉู่ควบม้าตรงมาหาเฉินฝาน แล้วฟ้องเขาว่า “นายท่านดูสิเจ้าคะ พี่หญิงรองรังแกข้าอีกแล้ว นางรังแกข้ามาตลอด ท่านไม่จัดการนางบ้างหรือ?”เฉินฝานมองฉินเย่ว์ฉู่ที่สดใสมั่นใจในตัวเองตรงหน้า ภาพที่เขาเห็นฉินเย่ว์ฉู่ครั้งแรกเมื่อสิบปีก่อนฉายขึ้นมาในสมอง เกิดความรู้สึกราวกับว่าเวลาผ่านไปชาติหนึ่งเด็กสาวที่ขี้กลัวในวันวาน บัดนี้กลายเป็นโฉมสะคราญที่มีสง่าราศี เฉินฝานรู้สึกภาคภูมิใจเล็กน้อย“เหตุใดที่กลับมาตอนนี้ ไม่ต้องเข้าเรียนแล้วหรือ?” เฉินฝานถามตั้งแต่ฉินเย่ว์ฉู่อายุสิบห้า เฉินฝานก็ส่งนางไปเรียนที่โรงเรียนสตรีในเมืองเซียนตู“นายท่าน ข้าน้อยเรียนจบแล้วเจ้าค่ะ”“เรียนจบแล้ว?”“ข้าน้อยเ

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1309

    วันนี้เป็นวันหยุดพักผ่อน ซึ่งทั้งเดือนจะมีเพียงวันเดียวเท่านั้น นี่เป็นวันที่หาได้ยาก ในฐานะที่ฉินเย่ว์โหรวเป็นภรรยาเอกที่ดูแลบ้านย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือไปง่าย ๆ นางได้เตรียมการไว้ล่วงหน้าหลายวันแล้วว่าวันนี้พวกเขาจะไปเที่ยวเล่นกินอาหารที่ชานเมืองกันทั้งครอบครัวนี่เป็นสิ่งที่เฉินฝานเสนอขึ้นเมื่อหลายปีก่อน หลังจากครั้งนั้น ฉินเย่ว์โหรวก็หลงใหลอยู่สุดซึ้ง ขอเพียงเฉินฝานมีวันหยุด นางจะต้องออกไปให้ได้สถานที่เที่ยวเล่นกินอาหารกันในครั้งนี้มีทิวทัศน์งดงามราวกับภาพวาดเหมือนเช่นเคยเฉินฝานนั่งอยู่บนเก้าอี้พนักพิง กินผลไม้มองบุตรชายบุตรสาวเล่นกันอย่างสนุกสนานบนทุ่งหญ้า ส่วนบรรดาภรรยาก็ยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารกลางวันกลิ่นอาหารที่เฉินฝานชอบลอยอยู่ในอากาศอาหารของพวกเขาทั้งหมดเป็นรูปแบบยุคปัจจุบัน เนื้อแกะย่างทั้งตัว สเต๊กซี่โครงย่าง หมูสามชั้นย่าง ปีกไก่ย่าง กระดูกอ่อนย่าง... ยังมีหม้อไฟทะเล และผลไม้แช่เย็นต่าง ๆ นานา“อืม~” เฉินฝานสูดจมูก แล้วแค่นเสียงเบา ๆ ด้วยความพึงพอใจ เขาหลับตาพักผ่อน พักผ่อนสักพักก็เริ่มกินได้แล้ว“ฮี่!”เฉินฝานเพิ่งจะนอนหลับก็ตกใจตื่นกับเสียงร้องฮี่ของม้า “

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1308

    หลังจากสือจิ่งซานควบคุมกองทัพหมาป่า เขาก็เปลี่ยนตัวแม่ทัพก่อนหน้านี้ทั้งหมด ตอนนี้ทหารเหล่านี้ล้วนเชื่อฟังสือจิ่งซานเท่านั้น“ใครบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทและท่านอัครเสนาบดีที่นี่?”สือจิ่งซานตวาดอย่างเย็นชา เขาเดินแหวกแม่ทัพเหล่านั้นพร้อมกับเอ่ยวาจา หลังจากนั้นก็หันกาย สายตากวาดมองไปบนร่างแม่ทัพเหล่านั้นห“ข้าน้อยไม่บังอาจวิจารณ์ เดิมทีสิ่งที่ข้าน้อยพูดก็เป็นความจริง หากไม่มีกองทัพหมาป่าของเรา ไม่มีท่านแม่ทัพใหญ่ ต้าชิ่งจะสงบสุขเหมือนทุกวันนี้ได้อย่างไร เวลานี้กลับให้เฉินฝานผู้นั้นยึดความดีความชอบทั้งหมดไว้เพียงผู้เดียว” “ถูกต้อง พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุติธรรมกับท่านแม่ทัพใหญ่เลย”แม้ว่าเสียงของพวกแม่ทัพจะเบาลงแล้ว แต่ความโกรธเกรี้ยวและความไม่พอใจในคำพูดกลับยิ่งรุนแรงขึ้น “เหลวไหล เดิมทีความสงบสุขของต้าชิ่งก็เป็นหน้าที่ของกองทัพหมาป่าเรา ในฐานะที่ข้าเป็นแม่ทัพใหญ่ของกองทัพหมาป่ายิ่งต้องทำเช่นเดียว ต่อไปหากมีใครกล้าบังอาจวิจารณ์ฝ่าบาทกับอัครเสนาบดีอีก ลงโทษโบยด้วยไม้พลองทหาร!”“ท่านแม่ทัพใหญ่...”“ทหาร!” สือจิ่งซานตัดบทคนผู้นั้น “นำตัวสวี่ต๋าออกไปโบยด้วยไม้พลองทหารห้าสิบที!” ไม่นานนัก

  • เขยอันดับหนึ่งของจักรพรรดิ   บทที่ 1307

    ตอนนี้น่าจะถือว่ารักษาสัญญาแล้วกระมังฉินเย่ว์เหมยรับประทานอาหารค่ำที่จวนสกุลเฉิน พี่น้องทั้งห้าคุยเล่นกันในห้องจนดึกดื่น หลี่เต๋อฉวนเร่งอยู่หลายครั้ง ฉินเย่ว์เหมยถึงค่อยอำลาบรรดาน้องสาวของตนด้วยความอาลัยอาวรณ์“พี่หญิงใหญ่ ท่านถอนรับสั่งได้หรือไม่?”เมื่อเห็นฉินเย่ว์เหมยกำลังจะจากไป ฉินเย่ว์ฉินก็รีบเอ่ยขึ้นมา“รับสั่งใดเล่า?” ฉินเย่ว์เหมยหันหน้ากลับมาถาม“ก็เรื่อง ก็เรื่อง...” เสียงของฉินเย่ว์ฉินแผ่วเบา หน้าแดงเล็กน้อย “เข้าหอในวันนี้”แม้ยามนี้ฉินเย่ว์ฉินไม่รังเกียจเฉินฝานแล้ว แต่นางยังไม่ได้เตรียมใจแต่งงานกับเฉินฝาน “เหตุใดต้องถอนคืนด้วย เจ้าเองก็อายุไม่น้อยแล้ว ควรจะมีทายาทให้สามีของเจ้าได้แล้ว เช้านี้ข้าตรวจดูปฏิทินโหรแล้ว วันนี้เป็นวันดี ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธอีก”นี่ก็คือการปราบปรามโดยสายเลือด ก่อนที่ฉินเย่ว์เหมยจะมา พวกฉินเย่ว์เจียวไม่อาจเอ่ยถึงเรื่องเข้าหอได้เลย เวลานี้เมื่อฉินเย่ว์เหมยเอ่ย ฉินเย่ว์ฉินไม่อาจโต้แย้งได้แม้แต่คำเดียว “ยังจะว่าข้าอีก ท่านก็เหมือนกันไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ว่าท่านเองก็หาเหตุผลต่าง ๆ เพื่อหนีนายท่านหรือไร” ขณะที่ฉินเย่ว์เหมยหันกายเดินจากไป ฉินเย่ว์ฉ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status