เฉินฝานมิยอมให้โอวหยางน่าหลันไปต้าชิ่งกับเขา ทว่าก็ยังยืนกรานจะไปส่งออกจากวังหลวงช่วงเวลาที่ประตูวังเปิดออก...“ลูกเขยที่แสนดีของข้า!”อ๋องตวนตะโกนเสียงดังเป็นคนแรกด้านนอกวังหลวงมีราษฎรคุกเข่าอยู่ด้านนอกมากมายสุดลุกหูลูกตาเมื่อเฉินฝานออกมา ก็มีเสียงเกรียวกราวดังขึ้นทันที่“ส่งเสด็จใต้เท้าขอรับ!”“รอคอยให้ใต้เท้ากลับมาแคว้นหลู่โดยเร็ว!”เรื่องที่เฉินฝานจะกลับต้าชิ่งไปแพร่กระจายไปเหล่าราษฎรแล้ว เมื่อเหล่าราษฎรได้ยินว่าเฉินฝานจะกลับต้าชิ่ง ก็รีบหยุดทำงานตรงหน้า รีบมาส่งเสด็จที่ด้านนอกประตูวังตลอดระยะเวลาที่เฉินฝานมาอยู่ที่นี้ แคว้นหลู่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ไฟไหม้ใหญ่ครั้งนั้นเผาทำลายป่าไม้แคว้นหลู่เกินกว่าแปดในสิบ ทำลายหนทางทำมาหากินของราษฎรแคว้นหลู่ส่วนใหญ่ ตอนที่ทั้งแคว้นหลู่เข้าสู่สภาวะสิ้นหวัง เฉินฝานก็ปรากฏตัวขึ้นมิใช่ทุกคนที่เชื่อว่าเทพเจ้าพิโรธ ทว่าคนที่สิ้นหวังส่วนใหญ่ล้วนเอาความเดือดดาลไปลงที่เฉินฝานเฉินฝานกลับไม่กลัดกลุ้มไม่โมโห เขาแบกรับความกดดันอันใหญ่หลวง ภายใต้สายตาความแค้นเคืองของเหล่าราษฎร เดินเท้าไปดับไฟในแค้วนหลู่เมืองแล้วเมืองเล่า และเขามิ
แต่งงานถูกคนแล้ว ได้รับการยอมรับจากราษฎรทั้งแคว้น โอวหยางน่าหลันรู้สึกโชคดีหาสิ่งใดเปรียบเทียบมิได้แน่นอนว่า คนที่ตื่นเต้นดีใจที่สุดคืออ๋องตวน เขายืนลูบเคราตนเองภาคภูมิใจกับผลงงานตนเองเขามิได้มีความสามารถอันใด ทว่าเขาเลือกลูกเขยได้ดี ฮ่า ๆ ๆ ๆ !ตอนที่ขึ้นรถม้า เฉินฝานก็เตรียมใจปลอบประโลมโอวหยางน่าหลันไว้แล้ว ดูจากภายนอกแล้วนางที่คนที่เข้มแข็งตรงไปตรงมา แต่ความจริงในบรรดาภรรยาของเฉินฝานนางเป็นคนที่ติดสามีที่สุดคนหนึ่ง ติดยิ่งกว่าฉินเย่ว์โหรวเสียอีก“เอ๋?”หลังจากที่ขึ้นรถม้าไปแล้ว เฉินฝานมองโอวหยางน่าหลันที่ปล่อยมือและยืนอยู่ด้านนอกรถม้าอย่างว่าง่ายด้วยความประหลาดใจอย่างมากเฉินฝานกำลังจะถามหยอกล้อนางว่าเบื่อเขาแล้วหรือกระไร ทว่าโอวหยางน่าหลันก็ชิงพูดก่อน“ท่านพี่ฝาน พี่รีบกลับไปเถอะ ราษฎรต้าชิ่งต้องการพี่ ยิ่งไปกว่าพี่น้องตระกูลฉินก็ต้องการพี่เช่นกัน”น้ำเสียงของโอวหยางน่าหลันอบอุ่นเกินคาด“รีบไปเถอะ!”ระหว่างที่พูด โอวหยางน่าหลันก็หยิบแส้ของคนขับรถม้าฟาดลงไปที่ตัวม้าอย่างรุนแรงทันที“ฮี่ ๆ!”ม้าที่ถูกแส้ม้าตี ร้องเสียงดังวิ่งไปด้านหน้าจึงทำให้รถม้าที่เฉินฝานนั่งเคลื่อนท
เฉินฝานเปิดผ้าม่านมองหงอิงด้านหน้าด้วยความสงสัย ตลอดทางมานี้ คนที่รีบร้อนที่สุดก็คือนาง ไฉนเมื่อเข้าใกล้เมืองลู่ตูแล้ว นางกลับไม่ให้เขาเข้าไป“ใต้เท้า!”หงอิงขี่ม้าไปด้านข้างเฉินฝาน อธิบายสถานการณ์ตอนนี้ที่ต้าชิ่งมองว่าเขาเป็นศัตรู“ใต้เท้า ฝ่าบาทยังรับสั่งอีกว่า รอให้ฝ่าบาทจัดการความโกลาหลในต้าชิ่ง มั่นใจว่าท่านจะปลอดภัยให้ได้ก่อน ข้าน้อยจึงจะสามารถพาท่านกลับต้าชิ่งได้”“เจ้าพูดอันใดของเจ้า เจ้ากล้าขวางทางพวกเรางั้นรึ?”อ๋องตวนยกขาถีบขาคู่ ง้างหมัดพุ่งไปทางหงอิง หงอิงกระโดดลงหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว เพื่อหลบหมัดของอ๋องตวนหงอิงยังไม่ทันทรงตัวได้ดี อ๋องตวนก็ง้างหมัดออกไปอีกรอบ...“ปึก!”“โอ้ย!”อ๋องตวนถูกสวนกลับ ม้าที่เขาขี่ตกใจจนวิ่งพล่านไปทั่ว โชคดีที่อ๋องตวนมีทักษะการขี่ม้าขั้นสูง มิเช่นนั้นตอนนี้เขาคงจะถูกสะบัดตกหลังม้าไปแล้วคนที่สวนกลับอ๋องตวนไม่ใช่หงอิงแต่เป็นเฉินฝาน“เสี่ยวฝานเจ้า...”อ๋องตวนมองเฉินฝานด้วยสีหน้าตื่นตกใจ เขารู้ว่าเฉินฝานใช้ปืนได้เก่งกาจ มิคิดว่าทักษะทางร่างกายก็เก่งกาจปานนั้นเช่นกันเขามีพลังเทพมาตั้งแต่กำเนิด การโจมตีของเขา คนอื่นทำได้เพียงหลบเลี่ยง
“ใต้เท้า ท่านอ๋อง พวกท่านอย่าเข้าไปในแคว้นต้าชิ่งสุ่มสี่สุ่มห้า อันตรายเจ้าค่ะ!” หงอิงไล่ตามไปเวลาเพียงหนึ่งจิบน้ำชา หงอิงก็ไล่ตามพวกเฉินฝานทันกล่าวให้ถูกต้องคือ หงอิงไม่ได้ไล่ตามทัน แต่เฉินฝานและอ๋องตวนยืนนิ่งไม่ยอมเดินมองเฉินฝานและอ๋องตวนที่ยืนอยู่ไม่ไกล หงอิงถอนหายใจเบาๆโชคดี เฉินฝานยังฟังที่นางห้ามปราม ทุกคนในเมืองลู่ตูกำลังรอเขาด้วยไอสังหาร หากพรวดพราดเข้าไปในเวลานี้ อันตรายมากจริงๆ“ใต้เท้า ท่านอ๋อง พวกท่านรอข้าที่นี่ก่อน ข้าจะเข้าไปปูทางให้พวกท่านเรียบร้อยเสียก่อน พวกท่านค่อยเข้ามา” หงอิงขี่ม้าผ่านหน้าเฉินฝานและอ๋องตวนไป“หงอิง เจ้าคิดว่าพวกข้าไม่อยากไปหรือ? มีคนขวางทางพวกเราอยู่” เสียงดังฟังชัดราวกับฟ้าคำรามของอ๋องตวนดังขึ้น“ฮุยเอ๋อร์ ฮุยเอ๋อร์”สิ้นเสียงอ๋องตวนไม่นาน ด้านหน้าก็มีเสียงร้องของลาดังขึ้นเวลานี้ หงอิงเพิ่งพบว่าทางด้านหน้า มีลาตัวหนึ่งยืนอยู่ บนหลังลามีสตรีชุดน้ำเงินนั่งอยู่มองจากรูปร่างของสตรีคนนั้น เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุไม่มากนัก อย่างมากก็แค่สิบหกถึงสิบเจ็ดปีเท่านั้น หญิงสาวในชุดเสื้อคลุมสีน้ำเงิน สวมหมวกปีกกว้างบดบังใบหน้า หมวกปีกกว้างของ
“ท่านคิดว่าพูดเช่นนี้แล้ว ข้าจะไม่สังหารท่านหรือ?”หญิงชุดสีน้ำเงินเสียงอ่อนหวาน แม้จะพูดจาข่มขู่ แต่กลับไม่น่ากลัวเลยสักนิด“แม่นาง แม้เจ้าจะทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ แต่เจ้าก็เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง!” เฉินฝานพูดด้วยรอยยิ้ม“ผู้ใดเป็นเด็ก!”ปลายดาบขยับลึกไปด้านหน้าอีกเล็กน้อย เสื้อตัวนอกของเฉินฝานถูกดาบของหญิงชุดสีน้ำเงินแทงทะลุแล้ว คำพูดของเฉินฝานทำให้นางโมโหยิ่งนัก “ปีนี้ข้าอายุสิบเจ็ดแล้ว ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว”“อื้ม!” เฉินฝานพยักหน้า “อายุสิบเจ็ดไม่เด็กเท่าไรแล้ว หญิงสาวหลายคนอายุสิบเจ็ดก็มีลูกแล้ว แม่นาง หญิงสาวเช่นเจ้าตีรันฟันแทงไปเพื่อการใด กลับไปมีลูกกับสามีไม่ดีกว่าหรือ”“คนขายแคว้นค้าชาติเช่นท่าน ปล่อยให้ยาพิษของแคว้นหลู่มาทำลายแคว้นต้าชิ่ง ต่อให้เรามีสัญญาหมั้นหมายกัน ข้าก็ไม่มีวันแต่งงานกับท่าน!”“...หมั้นหมาย?” เฉินฝานชะงัก “ข้าเคยหมั้นหมายกับเจ้าเมื่อใดกัน? เจ้าเป็นใคร?”“วันนี้ข้าจะสังหารท่าน!”สตรีชุดสีน้ำเงินไม่ตอบคำถาม ร้องตะโกนเสียงดัง มือขาวดั่งหยกจับดาบแน่นแล้วพุ่งมาด้านหน้า...“ติ้ง!”“ตึ้ง !”ดาบของหญิงชุดสีน้ำเงินถูกปืนของเฉินฝานยิงจนร่วงหล่น“ปั้ง!”เสียงปืน
ถึงอย่างไรหญิงชุดสีน้ำเงินก็เป็นคนมีฝีมือ นางหลุดออกจากพันธนาการของเฉินฝานอย่างรวดเร็ว“ข้าจะสังหารท่าน!” หญิงสาวตะโกนขึ้น เหาะขึ้นกลางอากาศพุ่งตัวไปยังดาบที่ถูกเฉินฝานยิงทิ้งเมื่อครู่ จากนั้นเก็บดาบขึ้นมาแล้วพุ่งตัวไปหาเฉินฝานการจู่โจมครั้งนี้ของหญิงชุดสีน้ำเงิน รวดเร็วกว่าครั้งก่อนหน้า เพียงชั่วพริบตา นางก็ปรากฏตัวตรงหน้าเฉินฝานแล้วหากเฉินฝานไม่มีดาบในมือ เกรงว่าจะกลายเป็นวิญญาณภายใต้ดาบของหญิงสาวไปนานแล้ว“ปั้ง!”หญิงสาวถอยหลังอีกครั้งเพราะถูกเฉินฝานยิงหญิงสาวที่ถูกเฉินฝานโต้กลับ ตีลังกากลับหลังกลางอากาศสามตลบ สุดท้ายร่อนลงพื้นอย่างแผ่วเบาหญิงสาวชุดสีน้ำเงินที่ยืนอยู่บนพื้นดิน แขนเสื้อของนางยังคงพลิ้วไหวไปตามแรงลม“แม่นางช่างตัวเบาจริงๆ” เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะพูดแต่คล้ายหญิงสาวไม่ได้ยินคำชมของเขาอย่างไรอย่างนั้น นางที่มือถือดาบ แววตาสงสัยระคนตกใจ จับจ้องปืนขนาดเล็กในมือเฉินฝาน “อาวุธของท่านคืออะไร?”ครั้งแรกที่เฉินฝานยิง นางไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก นางคิดว่าตนประมาทเกินไป นางยังคงคิดว่าสำหรับตนแล้วการสังหารเฉินฝาน เป็นเพียงเรื่องขี้ประติ๋วนางไม่ได้โอหัง แต่นางเป็นคนเก่งจร
เฉินฝานเป่าปืนในมือ พูดกับหญิงชุดสีน้ำเงินต่อ“แม่นางคิดอยากจะสังหารข้า เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้ อีกอย่าง ข้าคิดว่าเจ้าคงถูกตาเฒ่าหวงโถวหลอกแล้วแน่ๆ ข้ากับเขาไม่เคยสัญญาหมั้นหมายใดๆ กันมาก่อน”“เจ้าในตอนนั้นเป็นแค่เด็ก ย่อมไม่ได้ทำสัญญาหมั้นหมายกับเจ้า” หญิงชุดสีน้ำเงินพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ไม่ได้ทำกับเจ้าพ่อและเจ้าแม่ของข้าด้วย” เฉินฝานตอบด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกันพ่อแม่เจ้าของร่างเดิม เป็นเพียงคู่สามีภรรยาธรรมดาทั่วไป พวกเขาไม่มีทางรู้จักเซียนเจี้ยนหวงที่เป็นถึงผู้มีชื่อเสียงของบู๊ลิ้ม“พ่อกับแม่เจ้าไม่ได้ทำสัญญา ทว่าพ่อบุญธรรมของเจ้าทำ”“พ่อบุญธรรม?”เฉินฝานถึงกับพูดไม่ออก เขามีพ่อบุญธรรมตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดเขาจึงไม่รู้ฟังคำพูดของเฉินฝาน หญิงชุดสีน้ำเงินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนเจ้าเองก็ไม่อยากแต่งงานกับข้า เช่นนั้นก็ดีเหมือนกัน ขอเพียงเจ้าฉีกสัญญาหมั้นหมายต่อหน้าข้า เช่นนั้นการหมั้นหมายระหว่างเรา ถือว่าจบสิ้น”“สัญญาหมั้นหมาย? ข้าไม่เคยพบเจอมาก่อน” เฉินฝานตกตะลึงเล็กน้อย หญิงชุดสีน้ำเงินเป็นเพียงเด็กสาววัยสิบเจ็ดที่วางตัวเป็นผู้ใหญ่เท่านั้น นางไม่ได้เจ้าเล่ห์เพทุบาย ส
“ฝ่าบาท ในรัชสมัยนี้ขาดแคลนชายหนุ่มอย่างหนักพ่ะย่ะค่ะ!”“ร้ายแรงถึงขั้นไหน”“ในหนึ่งร้อยคน มีชายหนุ่มไม่ถึงยี่สิบคน หลายปีมานี้ มีหญิงสาววัยเหมาะสมจำนวนมากจบชีวิตตนเองเพราะไม่มีใครแต่งงานด้วย หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่ารากฐานของแผ่นดินอาจสั่นคลอนได้พ่ะย่ะค่ะ”“จงประกาศราชโองการลงไป ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทุกเขตการปกครอง เมืองที่อยู่ภายใต้การปกครองให้ดำเนินการจัดสรรการแต่งงาน ผู้ใดยินดีรับมากกว่าสามคน มอบรางวัล!”“ผู้ใดให้กำเนิดบุตรชาย มอบรางวัลใหญ่!”“ภายในสามปี ต้องพลิกปรากฏการณ์หญิงมากชายน้อยของแผ่นดินให้จงได้!”-เฉินฝานตื่นขึ้นด้วยเสียงร้องไห้รบกวนเมื่อลืมตาขึ้นก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องที่ตนไม่รู้จักมีหญิงสาวนั่งปิดหน้าร้องไห้เสียงเบานั่งอยู่ข้างกาย“หยุดร้องได้แล้ว ข้ารำคาญ!”เมื่อได้ยินเสียงของเฉินฝาน หญิงสาวปาดน้ำตาและมองเขาทันที “นายท่าน ตื่นแล้วหรือเจ้าคะ!”เฉินฝากเงยหน้ามองหญิงสาว……ผมเผ้าดำเงาวับ ผิวขาวนวลผุดผ่องดังหยก ดวงตาคู่งามแลมองหมุนรอบเป็นพันครั้ง ทุกการขมวดคิ้วคือการตีความคำว่าสง่างามน่าประทับใจผ้าดิบหยาบกระด้าง ก็ไม่อาจปกปิดรูปร่างน่าเอ็นดูของนางเฮ้ย
เฉินฝานเป่าปืนในมือ พูดกับหญิงชุดสีน้ำเงินต่อ“แม่นางคิดอยากจะสังหารข้า เรื่องนั้นเป็นไปไม่ได้ อีกอย่าง ข้าคิดว่าเจ้าคงถูกตาเฒ่าหวงโถวหลอกแล้วแน่ๆ ข้ากับเขาไม่เคยสัญญาหมั้นหมายใดๆ กันมาก่อน”“เจ้าในตอนนั้นเป็นแค่เด็ก ย่อมไม่ได้ทำสัญญาหมั้นหมายกับเจ้า” หญิงชุดสีน้ำเงินพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“ไม่ได้ทำกับเจ้าพ่อและเจ้าแม่ของข้าด้วย” เฉินฝานตอบด้วยความมั่นใจเช่นเดียวกันพ่อแม่เจ้าของร่างเดิม เป็นเพียงคู่สามีภรรยาธรรมดาทั่วไป พวกเขาไม่มีทางรู้จักเซียนเจี้ยนหวงที่เป็นถึงผู้มีชื่อเสียงของบู๊ลิ้ม“พ่อกับแม่เจ้าไม่ได้ทำสัญญา ทว่าพ่อบุญธรรมของเจ้าทำ”“พ่อบุญธรรม?”เฉินฝานถึงกับพูดไม่ออก เขามีพ่อบุญธรรมตั้งแต่เมื่อใด เหตุใดเขาจึงไม่รู้ฟังคำพูดของเฉินฝาน หญิงชุดสีน้ำเงินขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนเจ้าเองก็ไม่อยากแต่งงานกับข้า เช่นนั้นก็ดีเหมือนกัน ขอเพียงเจ้าฉีกสัญญาหมั้นหมายต่อหน้าข้า เช่นนั้นการหมั้นหมายระหว่างเรา ถือว่าจบสิ้น”“สัญญาหมั้นหมาย? ข้าไม่เคยพบเจอมาก่อน” เฉินฝานตกตะลึงเล็กน้อย หญิงชุดสีน้ำเงินเป็นเพียงเด็กสาววัยสิบเจ็ดที่วางตัวเป็นผู้ใหญ่เท่านั้น นางไม่ได้เจ้าเล่ห์เพทุบาย ส
ถึงอย่างไรหญิงชุดสีน้ำเงินก็เป็นคนมีฝีมือ นางหลุดออกจากพันธนาการของเฉินฝานอย่างรวดเร็ว“ข้าจะสังหารท่าน!” หญิงสาวตะโกนขึ้น เหาะขึ้นกลางอากาศพุ่งตัวไปยังดาบที่ถูกเฉินฝานยิงทิ้งเมื่อครู่ จากนั้นเก็บดาบขึ้นมาแล้วพุ่งตัวไปหาเฉินฝานการจู่โจมครั้งนี้ของหญิงชุดสีน้ำเงิน รวดเร็วกว่าครั้งก่อนหน้า เพียงชั่วพริบตา นางก็ปรากฏตัวตรงหน้าเฉินฝานแล้วหากเฉินฝานไม่มีดาบในมือ เกรงว่าจะกลายเป็นวิญญาณภายใต้ดาบของหญิงสาวไปนานแล้ว“ปั้ง!”หญิงสาวถอยหลังอีกครั้งเพราะถูกเฉินฝานยิงหญิงสาวที่ถูกเฉินฝานโต้กลับ ตีลังกากลับหลังกลางอากาศสามตลบ สุดท้ายร่อนลงพื้นอย่างแผ่วเบาหญิงสาวชุดสีน้ำเงินที่ยืนอยู่บนพื้นดิน แขนเสื้อของนางยังคงพลิ้วไหวไปตามแรงลม“แม่นางช่างตัวเบาจริงๆ” เฉินฝานอดไม่ได้ที่จะพูดแต่คล้ายหญิงสาวไม่ได้ยินคำชมของเขาอย่างไรอย่างนั้น นางที่มือถือดาบ แววตาสงสัยระคนตกใจ จับจ้องปืนขนาดเล็กในมือเฉินฝาน “อาวุธของท่านคืออะไร?”ครั้งแรกที่เฉินฝานยิง นางไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก นางคิดว่าตนประมาทเกินไป นางยังคงคิดว่าสำหรับตนแล้วการสังหารเฉินฝาน เป็นเพียงเรื่องขี้ประติ๋วนางไม่ได้โอหัง แต่นางเป็นคนเก่งจร
“ท่านคิดว่าพูดเช่นนี้แล้ว ข้าจะไม่สังหารท่านหรือ?”หญิงชุดสีน้ำเงินเสียงอ่อนหวาน แม้จะพูดจาข่มขู่ แต่กลับไม่น่ากลัวเลยสักนิด“แม่นาง แม้เจ้าจะทำตัวเหมือนผู้ใหญ่ แต่เจ้าก็เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง!” เฉินฝานพูดด้วยรอยยิ้ม“ผู้ใดเป็นเด็ก!”ปลายดาบขยับลึกไปด้านหน้าอีกเล็กน้อย เสื้อตัวนอกของเฉินฝานถูกดาบของหญิงชุดสีน้ำเงินแทงทะลุแล้ว คำพูดของเฉินฝานทำให้นางโมโหยิ่งนัก “ปีนี้ข้าอายุสิบเจ็ดแล้ว ข้าไม่ใช่เด็กแล้ว”“อื้ม!” เฉินฝานพยักหน้า “อายุสิบเจ็ดไม่เด็กเท่าไรแล้ว หญิงสาวหลายคนอายุสิบเจ็ดก็มีลูกแล้ว แม่นาง หญิงสาวเช่นเจ้าตีรันฟันแทงไปเพื่อการใด กลับไปมีลูกกับสามีไม่ดีกว่าหรือ”“คนขายแคว้นค้าชาติเช่นท่าน ปล่อยให้ยาพิษของแคว้นหลู่มาทำลายแคว้นต้าชิ่ง ต่อให้เรามีสัญญาหมั้นหมายกัน ข้าก็ไม่มีวันแต่งงานกับท่าน!”“...หมั้นหมาย?” เฉินฝานชะงัก “ข้าเคยหมั้นหมายกับเจ้าเมื่อใดกัน? เจ้าเป็นใคร?”“วันนี้ข้าจะสังหารท่าน!”สตรีชุดสีน้ำเงินไม่ตอบคำถาม ร้องตะโกนเสียงดัง มือขาวดั่งหยกจับดาบแน่นแล้วพุ่งมาด้านหน้า...“ติ้ง!”“ตึ้ง !”ดาบของหญิงชุดสีน้ำเงินถูกปืนของเฉินฝานยิงจนร่วงหล่น“ปั้ง!”เสียงปืน
“ใต้เท้า ท่านอ๋อง พวกท่านอย่าเข้าไปในแคว้นต้าชิ่งสุ่มสี่สุ่มห้า อันตรายเจ้าค่ะ!” หงอิงไล่ตามไปเวลาเพียงหนึ่งจิบน้ำชา หงอิงก็ไล่ตามพวกเฉินฝานทันกล่าวให้ถูกต้องคือ หงอิงไม่ได้ไล่ตามทัน แต่เฉินฝานและอ๋องตวนยืนนิ่งไม่ยอมเดินมองเฉินฝานและอ๋องตวนที่ยืนอยู่ไม่ไกล หงอิงถอนหายใจเบาๆโชคดี เฉินฝานยังฟังที่นางห้ามปราม ทุกคนในเมืองลู่ตูกำลังรอเขาด้วยไอสังหาร หากพรวดพราดเข้าไปในเวลานี้ อันตรายมากจริงๆ“ใต้เท้า ท่านอ๋อง พวกท่านรอข้าที่นี่ก่อน ข้าจะเข้าไปปูทางให้พวกท่านเรียบร้อยเสียก่อน พวกท่านค่อยเข้ามา” หงอิงขี่ม้าผ่านหน้าเฉินฝานและอ๋องตวนไป“หงอิง เจ้าคิดว่าพวกข้าไม่อยากไปหรือ? มีคนขวางทางพวกเราอยู่” เสียงดังฟังชัดราวกับฟ้าคำรามของอ๋องตวนดังขึ้น“ฮุยเอ๋อร์ ฮุยเอ๋อร์”สิ้นเสียงอ๋องตวนไม่นาน ด้านหน้าก็มีเสียงร้องของลาดังขึ้นเวลานี้ หงอิงเพิ่งพบว่าทางด้านหน้า มีลาตัวหนึ่งยืนอยู่ บนหลังลามีสตรีชุดน้ำเงินนั่งอยู่มองจากรูปร่างของสตรีคนนั้น เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุไม่มากนัก อย่างมากก็แค่สิบหกถึงสิบเจ็ดปีเท่านั้น หญิงสาวในชุดเสื้อคลุมสีน้ำเงิน สวมหมวกปีกกว้างบดบังใบหน้า หมวกปีกกว้างของ
เฉินฝานเปิดผ้าม่านมองหงอิงด้านหน้าด้วยความสงสัย ตลอดทางมานี้ คนที่รีบร้อนที่สุดก็คือนาง ไฉนเมื่อเข้าใกล้เมืองลู่ตูแล้ว นางกลับไม่ให้เขาเข้าไป“ใต้เท้า!”หงอิงขี่ม้าไปด้านข้างเฉินฝาน อธิบายสถานการณ์ตอนนี้ที่ต้าชิ่งมองว่าเขาเป็นศัตรู“ใต้เท้า ฝ่าบาทยังรับสั่งอีกว่า รอให้ฝ่าบาทจัดการความโกลาหลในต้าชิ่ง มั่นใจว่าท่านจะปลอดภัยให้ได้ก่อน ข้าน้อยจึงจะสามารถพาท่านกลับต้าชิ่งได้”“เจ้าพูดอันใดของเจ้า เจ้ากล้าขวางทางพวกเรางั้นรึ?”อ๋องตวนยกขาถีบขาคู่ ง้างหมัดพุ่งไปทางหงอิง หงอิงกระโดดลงหลังม้าอย่างคล่องแคล่ว เพื่อหลบหมัดของอ๋องตวนหงอิงยังไม่ทันทรงตัวได้ดี อ๋องตวนก็ง้างหมัดออกไปอีกรอบ...“ปึก!”“โอ้ย!”อ๋องตวนถูกสวนกลับ ม้าที่เขาขี่ตกใจจนวิ่งพล่านไปทั่ว โชคดีที่อ๋องตวนมีทักษะการขี่ม้าขั้นสูง มิเช่นนั้นตอนนี้เขาคงจะถูกสะบัดตกหลังม้าไปแล้วคนที่สวนกลับอ๋องตวนไม่ใช่หงอิงแต่เป็นเฉินฝาน“เสี่ยวฝานเจ้า...”อ๋องตวนมองเฉินฝานด้วยสีหน้าตื่นตกใจ เขารู้ว่าเฉินฝานใช้ปืนได้เก่งกาจ มิคิดว่าทักษะทางร่างกายก็เก่งกาจปานนั้นเช่นกันเขามีพลังเทพมาตั้งแต่กำเนิด การโจมตีของเขา คนอื่นทำได้เพียงหลบเลี่ยง
แต่งงานถูกคนแล้ว ได้รับการยอมรับจากราษฎรทั้งแคว้น โอวหยางน่าหลันรู้สึกโชคดีหาสิ่งใดเปรียบเทียบมิได้แน่นอนว่า คนที่ตื่นเต้นดีใจที่สุดคืออ๋องตวน เขายืนลูบเคราตนเองภาคภูมิใจกับผลงงานตนเองเขามิได้มีความสามารถอันใด ทว่าเขาเลือกลูกเขยได้ดี ฮ่า ๆ ๆ ๆ !ตอนที่ขึ้นรถม้า เฉินฝานก็เตรียมใจปลอบประโลมโอวหยางน่าหลันไว้แล้ว ดูจากภายนอกแล้วนางที่คนที่เข้มแข็งตรงไปตรงมา แต่ความจริงในบรรดาภรรยาของเฉินฝานนางเป็นคนที่ติดสามีที่สุดคนหนึ่ง ติดยิ่งกว่าฉินเย่ว์โหรวเสียอีก“เอ๋?”หลังจากที่ขึ้นรถม้าไปแล้ว เฉินฝานมองโอวหยางน่าหลันที่ปล่อยมือและยืนอยู่ด้านนอกรถม้าอย่างว่าง่ายด้วยความประหลาดใจอย่างมากเฉินฝานกำลังจะถามหยอกล้อนางว่าเบื่อเขาแล้วหรือกระไร ทว่าโอวหยางน่าหลันก็ชิงพูดก่อน“ท่านพี่ฝาน พี่รีบกลับไปเถอะ ราษฎรต้าชิ่งต้องการพี่ ยิ่งไปกว่าพี่น้องตระกูลฉินก็ต้องการพี่เช่นกัน”น้ำเสียงของโอวหยางน่าหลันอบอุ่นเกินคาด“รีบไปเถอะ!”ระหว่างที่พูด โอวหยางน่าหลันก็หยิบแส้ของคนขับรถม้าฟาดลงไปที่ตัวม้าอย่างรุนแรงทันที“ฮี่ ๆ!”ม้าที่ถูกแส้ม้าตี ร้องเสียงดังวิ่งไปด้านหน้าจึงทำให้รถม้าที่เฉินฝานนั่งเคลื่อนท
เฉินฝานมิยอมให้โอวหยางน่าหลันไปต้าชิ่งกับเขา ทว่าก็ยังยืนกรานจะไปส่งออกจากวังหลวงช่วงเวลาที่ประตูวังเปิดออก...“ลูกเขยที่แสนดีของข้า!”อ๋องตวนตะโกนเสียงดังเป็นคนแรกด้านนอกวังหลวงมีราษฎรคุกเข่าอยู่ด้านนอกมากมายสุดลุกหูลูกตาเมื่อเฉินฝานออกมา ก็มีเสียงเกรียวกราวดังขึ้นทันที่“ส่งเสด็จใต้เท้าขอรับ!”“รอคอยให้ใต้เท้ากลับมาแคว้นหลู่โดยเร็ว!”เรื่องที่เฉินฝานจะกลับต้าชิ่งไปแพร่กระจายไปเหล่าราษฎรแล้ว เมื่อเหล่าราษฎรได้ยินว่าเฉินฝานจะกลับต้าชิ่ง ก็รีบหยุดทำงานตรงหน้า รีบมาส่งเสด็จที่ด้านนอกประตูวังตลอดระยะเวลาที่เฉินฝานมาอยู่ที่นี้ แคว้นหลู่ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ไฟไหม้ใหญ่ครั้งนั้นเผาทำลายป่าไม้แคว้นหลู่เกินกว่าแปดในสิบ ทำลายหนทางทำมาหากินของราษฎรแคว้นหลู่ส่วนใหญ่ ตอนที่ทั้งแคว้นหลู่เข้าสู่สภาวะสิ้นหวัง เฉินฝานก็ปรากฏตัวขึ้นมิใช่ทุกคนที่เชื่อว่าเทพเจ้าพิโรธ ทว่าคนที่สิ้นหวังส่วนใหญ่ล้วนเอาความเดือดดาลไปลงที่เฉินฝานเฉินฝานกลับไม่กลัดกลุ้มไม่โมโห เขาแบกรับความกดดันอันใหญ่หลวง ภายใต้สายตาความแค้นเคืองของเหล่าราษฎร เดินเท้าไปดับไฟในแค้วนหลู่เมืองแล้วเมืองเล่า และเขามิ
“เจ้าไปบอกองค์หญิงให้ข้า วันนี้ข้าไม่เข้าท้องพระโรงแล้ว จำเป็นต้องกลับต้าชิ่งทันที!”เฉินฝานถอดชุดขุนนางด้วยความรวดเร็ว ในขณะเดียวก็ออกคำสั่งกับผู้ดูแลวังต้าชิ่งเกิดเรื่องใหญ่หลวงจริง ๆ ข่าวที่หงอิงมาบอกทำให้รู้สึกหวาดกลัวสิบวันก่อน สายน้ำที่ไหลจากแคว้นหลู่ไปที่ต้าชิ่งให้เหล่าราษฎรต้าชิ่งอุปโภคบริโภคอย่างเป็นทางการ มิคิดว่าหลังจากที่ดื่มน้ำจากแคว้นหลู่ไปแล้ว ราษฎรต้าชิ่งส่วนใหญ่ล้วนเจ็บป่วยไม่สบาย รุนแรงถึงขั้นมีบางคนเสียชีวิตตอนนี้ราษฎรของต้าชิ่งทั้งหวาดกลัวและกลัดกลุ้ม ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วว่า แคว้นหลู่จงใจใส่ยาพิษลงไปในแหล่งน้ำเพื่อที่จะทำลายล้างต้าชิ่งให้สิ้นซากเมื่อข่าวลือกระจายออกไปเรื่อย ๆ เฉินฝานก็ตกเป็นเป้าในการกล่าวโทษอีกครั้งกล่าวว่าเฉินฝานจงใจ ตอนนี้เขาเป็นอัครเสนาบดีแคว้นหลู่และยังเป็นพระราชบุตรเขยของโอวหยางน่าหลัน เขาร่วมมือกับโอวหยางน่าหลันเพื่อที่จะสังหารราษฎรส่วนใหญ่ของต้าชิ่งเปิดทางให้แคว้นหลู่ยึดดินแดนต้าชิ่งเมื่อแคว้นหลู่ยึดเขตแดนต้าชิ่งได้แล้ว เฉินฝานก็จะฉวยโอกาสขึ้นเป็นจักรพรรดิทันทีข่าวลือนี้เกินความเป็นจริงไปเรื่อย ๆ มินานนักก็กระจายไปทั่วต้าชิ
คนแก่คนนี้คือฝูป๋อ คนที่เคยช่วยเฉินฝานดับไฟที่เมืองตงเจียวในตอนแรก เดิมทีเขาไปที่เมืองตงเจียวเพื่อจะไปหาลูกชายคนเล็ก เพิ่งกลับมาเมื่อวาน มิคิดว่าเมื่อเข้าเขตวังหลวงก็พบว่าพวกเหมียวเหลียงจื้อกำลังจะกระโดดหน้าผาและได้ยินมาว่าเฉินฝานจะเดินทางมาจัดการ เขาจึงให้หลานคนโตพาเขามาที่นี้ทันที“ดี ๆ!” ฝูป๋อพยักหน้าหงึก ๆ “โชคดีของข้าที่ได้เจอใต้เท้า ตอนนี้ข้าสบายดีเป็นอย่างมาก!”เฉินฝานกำลังจะพูด ทว่าก็ถูกฝูป๋อชิงพูดตัดบทไปอีกแล้ว“พวกเด็กเปรต ช่างมิรู้จักผิดชอบชั่วดีเสียจริง!” ฝูป๋อยกไม้เท้าชี้ไปที่ฝูงชนด้านหน้าเขาฝูป๋อค่อนข้างมีอำนาจในกลุ่มฝูงเหล่านี้ ฝูป๋อตีพวกเขาก็ยังไม่มีใครกล้าต่อต้าน“มีความรู้อันน้อยนิด ก็กล้าพูดช่วยพวกเดียวกันเองแล้วรึ? พวกเจ้ารู้หรือว่าสิ่งใดเรียกว่าช่วยพวกเดียวกันเอง?”“ขุนนางเหล่านั้นตายไปแล้ว นอกจากทำให้พวกเจ้าคลายความเคียดแค้นลงไปได้เล็กน้อย แล้วมันทำให้ชีวิตต่อจากนี้ของพวกเจ้าดีขึ้นงั้นรึ? ก็ยังคงจะต้องใช้ชีวิตอดมื้อกินมื้อด้วยความยากลำบากทุกวันมิใช่หรือกระไร?”“ตอนนี้ใต้เท้าให้ขุนนางเหล่านั้นสร้างความชอบชดเชยความผิด พวกเขาจะทุ่มเทแรงกายคิดหาทุกวิธีทางให้พว