หน้าหลัก / แฟนตาซี / เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี / เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๑)

แชร์

เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๑)

ผู้เขียน: Madam Hangover
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-24 21:18:48

รุ่งสาง... สุวรรณราพณ์ปรากฎกายอยู่ริมสระบัวไม่ใกล้ไม่ไกลกับวังมรกตของตน เป่าปี่ชวาอย่างเศร้าศร้อย เมื่อเขาทุกข์พระทัยเรื่องใด มักเลือกที่จะปลดปล่อยด้วยบทเพลงเสียดแทงดวงใจผู้ที่ได้ฟัง

ความเจ็บปวด เศร้าหมองนั้นส่งผ่านเสียงของปี่ ไปยังฝูงปลาบู่เผือกที่ว่ายวนไปมาอยู่ในสระบัว คุณปู่ปลาบู่นั้นจึงได้ส่งเสียงพูดคุยกับท่าน

“วันนี้เพลงปี่ท่านเศร้าศร้อยเหลือเกิน ท่านมีเรื่องทุกข์ใจอันใดฤา” สุวรรณราพณ์ทอดมองไปอย่างน่านน้ำใส ผ่อนปรนลมหายใจออกมาพลางท้าวแขนไว้ที่ข้อเข่าที่ถูกยกชันขึ้นบนสะพานริมน้ำ

“ข้าคงถูกน้องจันทร์เกลียดเข้าแล้ว” เขาพูดพลางยกปี่ชวามาวางแนบไว้บนหน้าตักใหญ่ รุ่งสางหมอกยามเช้านั้นลงที่เนิ่นน้ำจนเกิดคล้ายๆ ก้อนปุยเมฆเหนือนั้น ทั้งหนาวแลสวยงาม “เมื่อคืนนี้ ข้าเผลอปล่อยตนข่มเหงรังแกน้องเข้า จนน้องจันทร์เจ็บปวดทั้งกายแลใจ”

“ท่านจึงมาขับกล่อมด้วยเพลงปี่เช่นนี้หรือ เหตุใดจึงไม่ไปพูดคุยปรับความเข้าใจกันเล่า”

“เจ้าเป็นเพียงแค่ปลา... มันมิง่ายเช่นนั้นดอก”

“ถึงท่านจักเป็นนายเหนือหัวของเมืองนี้ ก็มิใช่ว่าท่านจักรู้ไปเสียทุกเรื่องดอกหนา” เจ้าปลาบู่เผือกชรานั้นพูดด้วยท่าทางแปลกๆ มันดูฉลาดเกินกว่า
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๒)

    งั้นจักปล่อยให้ไอ้ท้าวไกรสิงห์นั้นได้เมียมึงไปหรืออย่างไร ไอ้หน้าโง่ ให้กูครองกายมึงเสีย ถ้ามิอยากให้นางนั่นถูกกรงเล็บครุฑนั่นจิกคอดับดิ้นชีวี!“มันก็เพราะมึงมิใช่ฤา ที่เข่นฆ่าพวกของมันจนมันต้องมาเอาชีวีเมียกู”กูก็กำลังจักชดใช้ให้มึงอยู่นี่อย่างไร สุรสียงดุกร้าวมีรอยยิ้มขบขัน ที่พูดไปหาได้มีความรู้สึกสำนึกอยากจักชดใช้อยู่จริงไม่ ก็เพียงแค่อยากฆ่าเท่านั้นสุวรรณราพณ์นิ่งงันไปชั่วอึดใจ เพราะนอกจากน้องนางของเขา ถึงอีกใจอยากจักสั่งสมความดีตามที่พระฤาษีท่านว่า แต่อีกใจใครจักเป็นจักตายก็ช่างมัน“ถ้ากูให้มึงครองร่าง จักไม่ฆ่าใครไปมากกว่าไอ้ท้าวไกรสิงห์ใช่หรือไม่” เสียงหัวเราะก้องกังวาน สังวรีราพณ์กำลังคิดแผนการกบฏครั้งใหญ่ หากแต่ปากกลับเอื้อนเอ่ยวาจาตระบัดสัตย์กูให้สัญญาทางด้านฝั่งของมธุรส นางกำลังกระถดถอยไปยังหัวพระแท่นของท้าวไกรสิงห์ พลางมองกล้ามเนื้อสุดเย้ายวนขาวผ่องเป็นยองใยตรงหน้าที่ถูกซ่อนไปด้วยทับทรวงแลสังวาลย์ แต่ก็ยังปกปิดความแซ่บนั่นไม่มิดจักสุวรรณราพณ์ก็ดี หนุมานก็ดี อีตาครุฑนี่ก็ดีมีแต่คนหุ่นดีทั้งนั้นเลย!“จ้องกระไรมิวางตาเช่นนั้น”“อะ... เอ่อ” หากแต่เสียงทุ้มดุดันก็ขัดต่อภ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๓)

    แต่ก็คงมิแปลกเนอะ ก็เขาเป็นอมนุษย์นี่หว่า“ก็เจ้าไม่ใช่มนุษย์นี่นา!”“แล้วเจ้าล่ะเป็นใคร นางอัปสรงั้นรึ? ถึงได้อ้างอายุอานามเกินความแก่นแก้วของตนเช่นนี้” มธุรสสะอึกอึ้งเมื่อได้ยิน จักให้พูดตามตรงได้อย่างไรว่าตนนั้นเป็นคนที่มาจากโลกอนาคต ที่เกิดซี้ม่องเท่งแล้วย้อนอดีตมาเกิดใหม่ในร่างของเจ้าจันทร์คนนี้ ถึงอีกฝั่งจักเป็นอมนุษย์ก็จริง แต่ก็คงมิเชื่อกฎฟิสิกส์แห่งการย้อนมาเกิดใหม่ที่มีแต่ใน Webtoon เท่านั้นหรอก“โอเค สรุปแล้วข้าอายุสิบเจ็ด พอใจหรือยังเจ้าคะ” ในเมื่ออ้างมันไม่ได้ ก็โป๊ะแตกไปอีกสักรอบเนอะสาว“คำพูดกลิ้งกลอก สรุปเจ้าเป็นใครกันแน่” เสียงเข้มทวนถามหนักแน่นขึ้น คิ้วหนาขมวดเป็นปมสร้างความน่าเกรงขาม ดวงตาสีชาดคล้ายคลึงกับสุวรรณราพณ์จ้องนางเขม็งเพื่อค้นหาคำตอบ “หรือว่า...”นางสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายนึกข้อสันนิษฐานออกมา“เจ้าจักเป็นแม่มดหมอผี ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากกรุงฝรั่งมังค่า ที่จักสามารถชุบตนให้กลับมาเยาว์วัยได้กัน?”เอ่อ... เดี๋ยวก่อนนี่มันชักจักไปกันใหญ่แล้ว แม่มดอะไร นี่มันการตูนชุดยุคล่าแม่มดผสมผสานกับวรรณคดีไทยหรือไง นี่เราวาร์ปมาเกิดในโลกแบบไหนกันนี่!?แต่ถ้าให้อ้างตนว่า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๔)

    ถึงจักดูโหดร้ายในทีแรก แต่ท้าวไกรสิงห์นั้นเข้มแข็ง กล้าหาญ แลรักความถูกต้องเป็นที่สุด เขาเป็นบุรุษที่ดำรงอยู่เพราะความแค้นที่มีต่อพระสุวรรณราพณ์เพียงผู้เดียว รังเกียจการดึงคนที่มิข้องเกี่ยวมาเป็นหมากแต่จำเป็นต้องทำเนื่องจากไอ้ยักษานั่นมันไม่มีจุดอ่อนให้เห็น แลเก่งกาจด้านคาถาอาคมมากเหลือแต่เมื่อเจอท่าทางกระโดกกระเดกพิลึกพิลั่นของหญิงสาว ก็ทำให้อีกฝ่ายนึกสับสนว่าควรจักล่อลวงนางต่อไปด้วยวิธีใดยิ่งวิปลาสเช่นนี้... เดาใจนางมิถูกเลยเทียว“ทหาร” ทันทีที่นางสาธยายสรรพคุณจบประโยค เขาจึงเรียกหาทหารครุฑยามให้เข้ามา บุรุษกำยำในชุดโจงกระเบนหลากสีพร้อมเพรียงกันเข้ามาภายในห้องบรรทมของพญาครุฑที่มีอำนาจตั้งแต่อายุยังน้อย ท้าวไกรสิงห์จึงรับสั่งเสียงดังฟังชัด “จับนางไปขังที่ห้องบ่าวรับใช้ แลให้อาหารนางวันต่อวัน ข้าจักส่งสาส์นท้าประลองไปยังกรุงยักษา”“ขอรับ!” ทหารทุกนายพร้อมเพียงกันคุดเข่าลง ก่อนที่จักเข้ามาคว้าตัวแม่หญิงตัวจ้อยจนผิวเนื้อนุ่มนั้นเป็นรอยมือหนาหยาบกร้าน บุรุษครุฑาพานางไปยังห้องหับที่คับแคบ ภายนอกเป็นลูกกรงราวกับกรงขังนก นางถูกตะเพิดไปด้านในนั้นที่มีเพียงฟูกนอนกับโต๊ะไม้สักโบราณตัวหนึ่ง เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-24
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๑)

    กายแกร่งประจันอยู่ตรงหน้าร่างเล็กที่ยืนเต็มความสูง หากแต่ก็ยังอยู่ได้แค่เพียงไหล่แกร่งของเขาเท่านั้น ดวงตาสีชาดที่ฉายแววลึกซึ้งสบกับดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน ที่เวลานางกระพริบตาทีหนึ่ง... ก็ช่างชวนให้หลงใหลเหลือคณา“เช่นนั้น...” สุวรรณราพณ์ยักษาสบตามธุรสนิ่งงัน อย่างต้องการถามหาความในใจจากสาวเจ้า “เจ้าเป็นใคร”แม้แต่สรรพนามที่เปลี่ยนไปก็พาลทำให้หญิงสาวสะอึกอึ้ง มิรู้จักตอบอันใดไปเลย ทั้งที่ก่อนหน้ามีถ้อยคำมากมายที่อยากจักพูดกับเขา“หนู... ชื่อมธุรส”“บ้านเกิดเมืองนอนที่ดวงจิตเจ้าจากมาเล่า”“กะ... กรุงเทพมหานคร โลกในอนาคตหลังจากนี้อีกหลายร้อยหลายพันปีค่ะ”ท้ายประโยคนั้น กษัตริย์อสุราเม้มกลีบปากเข้าหากันแน่นขนัด เขามิรู้จักอธิบายความรู้สึกในตอนนั้นเช่นไรดี ราวกับโลกทั้งใบพังทลาย เจ้าดวงใจที่รอคอยมาตลอดนับร้อยปี จนค้นหานางพบว่าเป็นลูกสาวกษัตริย์แห่งเมืองใกล้เคียงอโยธยา ทำพิธีนำหญิงสาวที่เกี่ยวข้องจากอดีตชาติมาดูแลใกล้ตัวจนดูเหมือนชายมากเมีย แลพยายามทำความดี อดทนรอนั้น... นางจักมิอยู่ในร่างนี้เสียแล้วหรือว่าเจ้าจันทร์นั้น... จักมอดมรณาไปเมื่อยามได้พิษไข้ประหลาดนั่นเสียแล้วงั้นหรือ หากแต่ยัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๒)

    น้ำตาใสนองอาบแก้ม มือหนาที่ไปไวกว่าความคิด ทั้งที่นางมิใช่เจ้าจันทร์ที่เขารักแท้ๆ หากแต่บุรุษยักษากลับเอื้อมมือไปสัมผัสที่ผิวแก้มของมธุรสอย่างแผ่วเบาจนนางต้องหลับตาลงข้างหนึ่ง แลรู้สึกอบอุ่นเพราะมือใหญ่หยาบกร้านนั้นกำลังบรรจงปาดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน“... เจ้าจันทร์ คือคู่ชะตาในอดีตชาติของข้า” ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มค่อยๆ กระพริบแล้วลืมตาขึ้นมองเขาอย่างใสแป๋ว ที่ถึงจักมิใช่คนที่รัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จักทำให้ยักษ์หนุ่มชะงักไปชั่วครู่ด้วยใจที่ไหวหวั่นในยามราตรีเช่นนี้ “อดีตชาตินางชื่อขวัญ เป็นสาวชาวบ้าน แลเก็บข้าที่เป็นอสุรกายบาดเจ็บได้ที่ริมแม่น้ำข้างหุบเขา”“...”“ขวัญกับข้าในชาตินั้นตายไปพร้อมกันด้วยฝีมือของชาวบ้านที่เกลียดที่นางขี้เหร่แลขี้โรค เลยทุบตีนางจนตาย”“... โหดร้ายจังเลยนะคะ” มธุรสเผลอตอบรับกลับไป เนื่องจากเพิ่งรู้เรื่องราวของเขาและหนูจันทร์ที่นางอยู่ในร่างเป็นครั้งแรก“ใช่... มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดร้าย อดีตชาติก่อนที่จักเจออีขวัญข้าเคยคิดเช่นนั้น”“...”“ข้าเห็นการเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์มานานเหลือเกิน แค่คิดว่าเจ้าจันทร์ที่ข้ารักต้องจากไปตามวัฏจักรสงสาร ข้าก็รู้สึกเจ็

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๓)

    “ข้าจักทานทนความกำหนัดนี้มิไหวอีกแล้ว” สุ้มเสียงแหบพร่ากระซิบเย้าข้างริมหู สุวรรณราพณ์เร่งนำสุราป้อนเข้าปากเธอ คว้าแก่นกายใหญ่โต รูดอย่างเร่งรีบเพื่อบริกรรมคาถาให้ธุลีในน้ำของตนออกเร็วกว่าปรกติเขาต้องการสอดใส่เข้าไปอบอุ่นท่อนกายในร่างน้อยๆ ของเธอให้เร็วที่สุดปลายลึงค์กระตุกถี่เมื่อถึงจุดหมาย หากแต่ยังไม่สมปรารถนา บุรุษยักษายกฝ่ามือที่ชุ่มน้ำสีขาวขุ่นตรงหน้าหล่อนที่หายใจอย่างต้องการ และให้นางงับปลายนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำปรารถนาของเขา“อึก... อะไรคะ”“ดื่มมันเถิด แล้วเจ้าจักมิรู้สึกเจ็บปวด”มธุรสกลัวในทีแรก แต่เพราะเธอเองก็อยากรู้อยากลอง จึงค่อยๆ ดูดเลียปลายนิ้วใหญ่ แลกุมฝ่ามือชุ่มน้ำคาวขุ่นของเขาลงไป แต่รสมันกลับไม่เหมือนที่เคยได้ยินมาเลย น้ำของสุวรรณราพณ์นั้นมันหอมหวาน เหมือนกับสุราฝรั่งที่เธอเคยรับประทานกับรุ่นพี่ที่ทำงานในร้านเหล้านั่งชิวก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุอร่อยจัง“อื้ม” เสียงหวานครางครวญแสดงความพึงพอใจในรสธุลีในน้ำของเขา สุวรรณราพณ์ยกร่างแน่งน้อยของนาง วางอย่างเบามือให้นอนราบลงบนพื้นหญ้าเขียว ฝ่ามือหนาคว้าเรียวขางาม ค่อยๆ แยกขาของเธอออก เพื่อสำรวจความเปียกชื้นตรงบริเวณแอ่งเก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-28
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ปฐมบท

    มธุรส คือสาวออฟฟิศที่มีช่วงชีวิตที่จืดจางตั้งแต่เด็กจนถึงวัยทำงานชื่อของเธอหมายความว่าน้ำผึ้งรสหวาน แต่สาวเจ้ากลับไร้ความหวานราวกับน้ำเปล่าก็ไม่ปาน เธอเติบโตมาที่กรุงเทพมหานคร ถูกเลี้ยงดูมาเหมือนเด็กสาวทั่วไป หากแต่มธุรสแต่กลับมีพรสวรรค์ด้านความจืดจางเป็นที่หนึ่ง ไม่มีเพื่อน ไม่มีคนคุย ไม่มีใครจนเรียนจบเธอจบคณะอักษรมาแล้วต่อด้วยทำงานเป็นทีมงานพิสูจน์อักษรที่ไม่มีบทบาทหน้างาน ยิ่งไร้คนรู้จักเข้าไปใหญ่หน้าตาบ้านๆ จืดชืดไร้เสน่ห์ สัดส่วนไม่ต้องพูดถึง แข็งทื่อเป็นท่อนไม้ แน่นอนว่าตั้งแต่เด็กจนโตไม่เคยสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของผู้ชาย ไม่มีใครคิดที่จะมาจีบสาวแว่นหน้าตาบ้านๆ และหุ่นตอไม้เช่นนี้จนอายุยี่สิบห้าปี วัยเบญจเพสทำให้สาวเจ้าประสบวิบากกรรมจนถึงแก่ชีวิตติ๊ด ติ๊ดเสียงเซ็งแซ่ที่พร่าเบลอของหมอและพยาบาลที่วิ่งวุ่นผ่าตัดร่างกายที่ชุ่มเลือดของเธอดังอื้ออึงข้างหูพอๆ กับเสียงสัญญาณชีพจรที่เต้นอ่อนลงทุกที แว่นตาที่แตกละเอียดเปรอะเลือดถูกวางอยู่ข้างๆ ผ้าซับเลือด คนตัวผอมเพรียวเหลียวไปมองอย่างเชื่องช้า เธอชาไปทั้งตัว และรู้สึกเหมือนสติจะเริ่มเลือนรางนี่เรากำลังจะตายแล้วเหรอ?เกิดคำถามสุดท้า

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๑ เจ้าจันทร์คือสนมเอกของกรุงยักษา (๑)

    มธุรสแทบจับต้นชนปลายไม่ถูก มารู้สึกตัวอีกทีก็ถูกคนที่ดูเหมือนว่าจะเป็นบิดาบังเกิดเกล้าของเจ้าจันทร์ที่ตัวเองอยู่ในร่างขายตัวเองให้ผู้ชายโครงสร้างใหญ่โตท่าทางน่ากลัวบนบัลลังก์เสียแล้ว ตอนนี้เธออยู่บนหลังคชสารศึก ผู้ชายร่างใหญ่นั่งซ้อนอยู่ด้านหลัง ความองอาจแตะเข้ากับแผ่นหลังเปลือยที่มีแต่สไบหุ้มไว้บางๆ มือหนาถืออะไรบางอย่างที่ดูเหมือนกับไม้หวายขนาดใหญ่ พอเห็นว่าคชสารใหญ่หยุดเดิน เขาก็ใช้ไม้นั้นฟาดแรงๆ โดยไร้ความปราณีมธุรสนั่งช็อกซีนีม่าอยู่ท่ามกลางหลังช้าง ที่รอบๆ มีผู้ชายโครงสร้างใหญ่หลายคนขี่ม้า บ้างก็เดินอยู่ด้านล่าง มองรวมๆ ก็เป็นพันคนได้ นอกซะจากโครงสร้างที่ใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไป รอบข้างยังเป็นเหล่าบ้านเมืองที่ถูกเหยียบด้วยรอยเท้ามหึมาจนจมดิน มีศพเลอะดินเกลื่อนกลาดในความฝัน มันชัดเจนขนาดนี้เชียวหรือมธุรสได้แต่ถามตัวเองในใจ จนสัมผัสได้ถึงไออุ่นของลมหายใจเคียงข้างแก้ม“เจ้าเห็นศพเกลื่อนกลาดพวกนี้หรือไม่ เจ้าจันทร์ของข้า” เสียงทุ้มต่ำดูทรงอำนาจดังข้างแก้มนวล เธอหน้าซีดจนไม่กล้าหันกลับไป ผู้ชายด้านหลังนั่นดูน่ากลัวราวกับจะกลืนกินเธอเข้าไปตลอดเวลา “คนพวกนี้ยอมเสียชีวันเพื่อให้ข้าได้เคี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-12-31

บทล่าสุด

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๓)

    “ข้าจักทานทนความกำหนัดนี้มิไหวอีกแล้ว” สุ้มเสียงแหบพร่ากระซิบเย้าข้างริมหู สุวรรณราพณ์เร่งนำสุราป้อนเข้าปากเธอ คว้าแก่นกายใหญ่โต รูดอย่างเร่งรีบเพื่อบริกรรมคาถาให้ธุลีในน้ำของตนออกเร็วกว่าปรกติเขาต้องการสอดใส่เข้าไปอบอุ่นท่อนกายในร่างน้อยๆ ของเธอให้เร็วที่สุดปลายลึงค์กระตุกถี่เมื่อถึงจุดหมาย หากแต่ยังไม่สมปรารถนา บุรุษยักษายกฝ่ามือที่ชุ่มน้ำสีขาวขุ่นตรงหน้าหล่อนที่หายใจอย่างต้องการ และให้นางงับปลายนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำปรารถนาของเขา“อึก... อะไรคะ”“ดื่มมันเถิด แล้วเจ้าจักมิรู้สึกเจ็บปวด”มธุรสกลัวในทีแรก แต่เพราะเธอเองก็อยากรู้อยากลอง จึงค่อยๆ ดูดเลียปลายนิ้วใหญ่ แลกุมฝ่ามือชุ่มน้ำคาวขุ่นของเขาลงไป แต่รสมันกลับไม่เหมือนที่เคยได้ยินมาเลย น้ำของสุวรรณราพณ์นั้นมันหอมหวาน เหมือนกับสุราฝรั่งที่เธอเคยรับประทานกับรุ่นพี่ที่ทำงานในร้านเหล้านั่งชิวก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุอร่อยจัง“อื้ม” เสียงหวานครางครวญแสดงความพึงพอใจในรสธุลีในน้ำของเขา สุวรรณราพณ์ยกร่างแน่งน้อยของนาง วางอย่างเบามือให้นอนราบลงบนพื้นหญ้าเขียว ฝ่ามือหนาคว้าเรียวขางาม ค่อยๆ แยกขาของเธอออก เพื่อสำรวจความเปียกชื้นตรงบริเวณแอ่งเก

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๒)

    น้ำตาใสนองอาบแก้ม มือหนาที่ไปไวกว่าความคิด ทั้งที่นางมิใช่เจ้าจันทร์ที่เขารักแท้ๆ หากแต่บุรุษยักษากลับเอื้อมมือไปสัมผัสที่ผิวแก้มของมธุรสอย่างแผ่วเบาจนนางต้องหลับตาลงข้างหนึ่ง แลรู้สึกอบอุ่นเพราะมือใหญ่หยาบกร้านนั้นกำลังบรรจงปาดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน“... เจ้าจันทร์ คือคู่ชะตาในอดีตชาติของข้า” ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มค่อยๆ กระพริบแล้วลืมตาขึ้นมองเขาอย่างใสแป๋ว ที่ถึงจักมิใช่คนที่รัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จักทำให้ยักษ์หนุ่มชะงักไปชั่วครู่ด้วยใจที่ไหวหวั่นในยามราตรีเช่นนี้ “อดีตชาตินางชื่อขวัญ เป็นสาวชาวบ้าน แลเก็บข้าที่เป็นอสุรกายบาดเจ็บได้ที่ริมแม่น้ำข้างหุบเขา”“...”“ขวัญกับข้าในชาตินั้นตายไปพร้อมกันด้วยฝีมือของชาวบ้านที่เกลียดที่นางขี้เหร่แลขี้โรค เลยทุบตีนางจนตาย”“... โหดร้ายจังเลยนะคะ” มธุรสเผลอตอบรับกลับไป เนื่องจากเพิ่งรู้เรื่องราวของเขาและหนูจันทร์ที่นางอยู่ในร่างเป็นครั้งแรก“ใช่... มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดร้าย อดีตชาติก่อนที่จักเจออีขวัญข้าเคยคิดเช่นนั้น”“...”“ข้าเห็นการเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์มานานเหลือเกิน แค่คิดว่าเจ้าจันทร์ที่ข้ารักต้องจากไปตามวัฏจักรสงสาร ข้าก็รู้สึกเจ็

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๑)

    กายแกร่งประจันอยู่ตรงหน้าร่างเล็กที่ยืนเต็มความสูง หากแต่ก็ยังอยู่ได้แค่เพียงไหล่แกร่งของเขาเท่านั้น ดวงตาสีชาดที่ฉายแววลึกซึ้งสบกับดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน ที่เวลานางกระพริบตาทีหนึ่ง... ก็ช่างชวนให้หลงใหลเหลือคณา“เช่นนั้น...” สุวรรณราพณ์ยักษาสบตามธุรสนิ่งงัน อย่างต้องการถามหาความในใจจากสาวเจ้า “เจ้าเป็นใคร”แม้แต่สรรพนามที่เปลี่ยนไปก็พาลทำให้หญิงสาวสะอึกอึ้ง มิรู้จักตอบอันใดไปเลย ทั้งที่ก่อนหน้ามีถ้อยคำมากมายที่อยากจักพูดกับเขา“หนู... ชื่อมธุรส”“บ้านเกิดเมืองนอนที่ดวงจิตเจ้าจากมาเล่า”“กะ... กรุงเทพมหานคร โลกในอนาคตหลังจากนี้อีกหลายร้อยหลายพันปีค่ะ”ท้ายประโยคนั้น กษัตริย์อสุราเม้มกลีบปากเข้าหากันแน่นขนัด เขามิรู้จักอธิบายความรู้สึกในตอนนั้นเช่นไรดี ราวกับโลกทั้งใบพังทลาย เจ้าดวงใจที่รอคอยมาตลอดนับร้อยปี จนค้นหานางพบว่าเป็นลูกสาวกษัตริย์แห่งเมืองใกล้เคียงอโยธยา ทำพิธีนำหญิงสาวที่เกี่ยวข้องจากอดีตชาติมาดูแลใกล้ตัวจนดูเหมือนชายมากเมีย แลพยายามทำความดี อดทนรอนั้น... นางจักมิอยู่ในร่างนี้เสียแล้วหรือว่าเจ้าจันทร์นั้น... จักมอดมรณาไปเมื่อยามได้พิษไข้ประหลาดนั่นเสียแล้วงั้นหรือ หากแต่ยัง

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๔)

    ถึงจักดูโหดร้ายในทีแรก แต่ท้าวไกรสิงห์นั้นเข้มแข็ง กล้าหาญ แลรักความถูกต้องเป็นที่สุด เขาเป็นบุรุษที่ดำรงอยู่เพราะความแค้นที่มีต่อพระสุวรรณราพณ์เพียงผู้เดียว รังเกียจการดึงคนที่มิข้องเกี่ยวมาเป็นหมากแต่จำเป็นต้องทำเนื่องจากไอ้ยักษานั่นมันไม่มีจุดอ่อนให้เห็น แลเก่งกาจด้านคาถาอาคมมากเหลือแต่เมื่อเจอท่าทางกระโดกกระเดกพิลึกพิลั่นของหญิงสาว ก็ทำให้อีกฝ่ายนึกสับสนว่าควรจักล่อลวงนางต่อไปด้วยวิธีใดยิ่งวิปลาสเช่นนี้... เดาใจนางมิถูกเลยเทียว“ทหาร” ทันทีที่นางสาธยายสรรพคุณจบประโยค เขาจึงเรียกหาทหารครุฑยามให้เข้ามา บุรุษกำยำในชุดโจงกระเบนหลากสีพร้อมเพรียงกันเข้ามาภายในห้องบรรทมของพญาครุฑที่มีอำนาจตั้งแต่อายุยังน้อย ท้าวไกรสิงห์จึงรับสั่งเสียงดังฟังชัด “จับนางไปขังที่ห้องบ่าวรับใช้ แลให้อาหารนางวันต่อวัน ข้าจักส่งสาส์นท้าประลองไปยังกรุงยักษา”“ขอรับ!” ทหารทุกนายพร้อมเพียงกันคุดเข่าลง ก่อนที่จักเข้ามาคว้าตัวแม่หญิงตัวจ้อยจนผิวเนื้อนุ่มนั้นเป็นรอยมือหนาหยาบกร้าน บุรุษครุฑาพานางไปยังห้องหับที่คับแคบ ภายนอกเป็นลูกกรงราวกับกรงขังนก นางถูกตะเพิดไปด้านในนั้นที่มีเพียงฟูกนอนกับโต๊ะไม้สักโบราณตัวหนึ่ง เ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๓)

    แต่ก็คงมิแปลกเนอะ ก็เขาเป็นอมนุษย์นี่หว่า“ก็เจ้าไม่ใช่มนุษย์นี่นา!”“แล้วเจ้าล่ะเป็นใคร นางอัปสรงั้นรึ? ถึงได้อ้างอายุอานามเกินความแก่นแก้วของตนเช่นนี้” มธุรสสะอึกอึ้งเมื่อได้ยิน จักให้พูดตามตรงได้อย่างไรว่าตนนั้นเป็นคนที่มาจากโลกอนาคต ที่เกิดซี้ม่องเท่งแล้วย้อนอดีตมาเกิดใหม่ในร่างของเจ้าจันทร์คนนี้ ถึงอีกฝั่งจักเป็นอมนุษย์ก็จริง แต่ก็คงมิเชื่อกฎฟิสิกส์แห่งการย้อนมาเกิดใหม่ที่มีแต่ใน Webtoon เท่านั้นหรอก“โอเค สรุปแล้วข้าอายุสิบเจ็ด พอใจหรือยังเจ้าคะ” ในเมื่ออ้างมันไม่ได้ ก็โป๊ะแตกไปอีกสักรอบเนอะสาว“คำพูดกลิ้งกลอก สรุปเจ้าเป็นใครกันแน่” เสียงเข้มทวนถามหนักแน่นขึ้น คิ้วหนาขมวดเป็นปมสร้างความน่าเกรงขาม ดวงตาสีชาดคล้ายคลึงกับสุวรรณราพณ์จ้องนางเขม็งเพื่อค้นหาคำตอบ “หรือว่า...”นางสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายนึกข้อสันนิษฐานออกมา“เจ้าจักเป็นแม่มดหมอผี ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากกรุงฝรั่งมังค่า ที่จักสามารถชุบตนให้กลับมาเยาว์วัยได้กัน?”เอ่อ... เดี๋ยวก่อนนี่มันชักจักไปกันใหญ่แล้ว แม่มดอะไร นี่มันการตูนชุดยุคล่าแม่มดผสมผสานกับวรรณคดีไทยหรือไง นี่เราวาร์ปมาเกิดในโลกแบบไหนกันนี่!?แต่ถ้าให้อ้างตนว่า

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๒)

    งั้นจักปล่อยให้ไอ้ท้าวไกรสิงห์นั้นได้เมียมึงไปหรืออย่างไร ไอ้หน้าโง่ ให้กูครองกายมึงเสีย ถ้ามิอยากให้นางนั่นถูกกรงเล็บครุฑนั่นจิกคอดับดิ้นชีวี!“มันก็เพราะมึงมิใช่ฤา ที่เข่นฆ่าพวกของมันจนมันต้องมาเอาชีวีเมียกู”กูก็กำลังจักชดใช้ให้มึงอยู่นี่อย่างไร สุรสียงดุกร้าวมีรอยยิ้มขบขัน ที่พูดไปหาได้มีความรู้สึกสำนึกอยากจักชดใช้อยู่จริงไม่ ก็เพียงแค่อยากฆ่าเท่านั้นสุวรรณราพณ์นิ่งงันไปชั่วอึดใจ เพราะนอกจากน้องนางของเขา ถึงอีกใจอยากจักสั่งสมความดีตามที่พระฤาษีท่านว่า แต่อีกใจใครจักเป็นจักตายก็ช่างมัน“ถ้ากูให้มึงครองร่าง จักไม่ฆ่าใครไปมากกว่าไอ้ท้าวไกรสิงห์ใช่หรือไม่” เสียงหัวเราะก้องกังวาน สังวรีราพณ์กำลังคิดแผนการกบฏครั้งใหญ่ หากแต่ปากกลับเอื้อนเอ่ยวาจาตระบัดสัตย์กูให้สัญญาทางด้านฝั่งของมธุรส นางกำลังกระถดถอยไปยังหัวพระแท่นของท้าวไกรสิงห์ พลางมองกล้ามเนื้อสุดเย้ายวนขาวผ่องเป็นยองใยตรงหน้าที่ถูกซ่อนไปด้วยทับทรวงแลสังวาลย์ แต่ก็ยังปกปิดความแซ่บนั่นไม่มิดจักสุวรรณราพณ์ก็ดี หนุมานก็ดี อีตาครุฑนี่ก็ดีมีแต่คนหุ่นดีทั้งนั้นเลย!“จ้องกระไรมิวางตาเช่นนั้น”“อะ... เอ่อ” หากแต่เสียงทุ้มดุดันก็ขัดต่อภ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๑)

    รุ่งสาง... สุวรรณราพณ์ปรากฎกายอยู่ริมสระบัวไม่ใกล้ไม่ไกลกับวังมรกตของตน เป่าปี่ชวาอย่างเศร้าศร้อย เมื่อเขาทุกข์พระทัยเรื่องใด มักเลือกที่จะปลดปล่อยด้วยบทเพลงเสียดแทงดวงใจผู้ที่ได้ฟังความเจ็บปวด เศร้าหมองนั้นส่งผ่านเสียงของปี่ ไปยังฝูงปลาบู่เผือกที่ว่ายวนไปมาอยู่ในสระบัว คุณปู่ปลาบู่นั้นจึงได้ส่งเสียงพูดคุยกับท่าน“วันนี้เพลงปี่ท่านเศร้าศร้อยเหลือเกิน ท่านมีเรื่องทุกข์ใจอันใดฤา” สุวรรณราพณ์ทอดมองไปอย่างน่านน้ำใส ผ่อนปรนลมหายใจออกมาพลางท้าวแขนไว้ที่ข้อเข่าที่ถูกยกชันขึ้นบนสะพานริมน้ำ“ข้าคงถูกน้องจันทร์เกลียดเข้าแล้ว” เขาพูดพลางยกปี่ชวามาวางแนบไว้บนหน้าตักใหญ่ รุ่งสางหมอกยามเช้านั้นลงที่เนิ่นน้ำจนเกิดคล้ายๆ ก้อนปุยเมฆเหนือนั้น ทั้งหนาวแลสวยงาม “เมื่อคืนนี้ ข้าเผลอปล่อยตนข่มเหงรังแกน้องเข้า จนน้องจันทร์เจ็บปวดทั้งกายแลใจ”“ท่านจึงมาขับกล่อมด้วยเพลงปี่เช่นนี้หรือ เหตุใดจึงไม่ไปพูดคุยปรับความเข้าใจกันเล่า”“เจ้าเป็นเพียงแค่ปลา... มันมิง่ายเช่นนั้นดอก”“ถึงท่านจักเป็นนายเหนือหัวของเมืองนี้ ก็มิใช่ว่าท่านจักรู้ไปเสียทุกเรื่องดอกหนา” เจ้าปลาบู่เผือกชรานั้นพูดด้วยท่าทางแปลกๆ มันดูฉลาดเกินกว่า

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๓) จบตอน

    เช้าตรู่วันต่อมา มธุรสตื่นขึ้นมาพร้อมกับคราบน้ำตานางค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ผิวเนียนนุ่มมีแต่กลิ่นสมุนไพรฉุนจมูก เจ้าตัวจ้อยค่อยๆ ใช้หลังมือนวลปาดน้ำตาของตนเอง พลางค่อยๆ วางเท้าลงบนพื้นกระดาน หยัดยืนขึ้นเต็มความสูง“... พี่สูรย์จันทร์” เธอเรียกชื่อของบ่าวอสุรีประจำกายตน เมื่อคืนพอหัวถึงหมอนก็ร้องไห้จนหลับไปเลย โดยมีพี่สูรย์จันทร์ค่อยลูบเนื้อลูบตัว ทำแผลหายาทาให้อยู่ไม่ห่างในยุคนี้ คนที่ใจดีไปมากกว่าพี่สูรย์จันทร์... คงไม่มีอีกแล้วแม้แต่เจ้ายักษ์นั่นที่เกือบจะไว้ใจ ก็ทำร้ายเราจนเจ็บใจ เจ็บกายไปหมด“... ต้องหนี” มธุรสพึมพำกับตนเองใช่ ต้องหนีไปจากที่นี่ เพราะเธอไม่สามารถทนอยู่เพื่อประสบพบหน้ากับชายผู้นั้นได้อีกแล้วมธุรสคิดพลางห่มกายที่เปลือยเปล่ากับผ้าแพรยาวคลุมได้ทั้งตัว พลางค่อยๆ ลับๆ ล่อๆ เดินกะเผลกๆ ลงไปตามกระไดเรือน มองซ้ายมองขวา เลือกไปในที่ที่ทหารอารักขามองไม่เห็นพอเข้าไปในป่าละม่อมนางก็วิ่ง วิ่งจนสุดชีวิต วิ่งโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลัง จนเข้ามาในเขตป่าใหญ่ที่ติดกับป่าละม่อมรอบสระบัว นางมองไปด้านหลังเห็นวังมรกตอยู่ลิบๆคนตัวเล็กหอบแฮ่ก พลางล้มตัวลงนั่งกลางป่า เสียงนกและเสีย

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๒)

    มธุรสพยายามดิ้นรนทั้งที่บัดนี้กายสาวเปลือยเปล่า ผิวขาวผ่องสะท้อนแสงจันทร์เปล่งประกายสุกใส ผิดแผกจากสาวงามที่สังวรีราพณ์เคยลิ้มรสผ่านกายาของไอ้สุวรรณราพณ์ เนื้อนวลเปล่งสีทองประกาย สาวงามเช่นหล่อน เมื่อชาติก่อนคงทำบุญมามาก ชาตินี้จึงเกิดมาด้วยรูปโฉมงดงามราวกับนางอัปสรเช่นนี้“อยากรู้เสียจริงว่าไฉนไอ้สุวรรณราพณ์ถึงหวงแหนเจ้านัก ข้าจักลิ้มรสเจ้ามิให้เหลือ ให้มันได้รู้ซึ้งว่าข้านี่แหละที่ควรจักครองร่างนี้”สุวรรณราพณ์พร่ำพูดคำที่มธุรสไม่สามารถทำความเข้าใจได้ กายาใหญ่ยามสะท้อนแสงจันทร์ พร้อมกับดวงตาสีชาดที่แลดูหมายมั่นว่าจักเอาหล่อนมารวบหัวรวบหางให้ได้ทำให้มธุรสหวีดร้องในลำคอ นางพลิกตัวเพื่อคลานลงจากเตียง หากแต่ก็ถูกรั้งข้อเท้าเอาไว้ แลถูกลากให้นอนราบคว่ำหน้าบนเตียงสังวรีราพณ์คว้าสะโพกนางให้ยกเชยขึ้น สำรวจความงามของบั้นท้ายขาวผ่อง ตรงใจกลางกลีบดอกลำดวนนั้นช่างงดงาม เป็นสีชมพูอ่อนแลสั่นระริกจากเนื้อตัวของนางปลายตชฺชะนี (นิ้วชี้) แลมชฺฌิมา (นิ้วกลาง) แหวกกลีบเนื้อนวลที่ปิดสนิทแนบชิดกันออก เผยโพรงแคบแน่นขนัดที่เต้นตุบๆ ด้านในเป็นสีชมพูเข้ม งดงามเมื่อได้เชยชมดวงหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้บั้นท้า

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status