Home / แฟนตาซี / เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี / เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๓)

Share

เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๓)

last update Last Updated: 2025-01-28 18:26:42

“ข้าจักทานทนความกำหนัดนี้มิไหวอีกแล้ว” สุ้มเสียงแหบพร่ากระซิบเย้าข้างริมหู สุวรรณราพณ์เร่งนำสุราป้อนเข้าปากเธอ คว้าแก่นกายใหญ่โต รูดอย่างเร่งรีบเพื่อบริกรรมคาถาให้ธุลีในน้ำของตนออกเร็วกว่าปรกติ

เขาต้องการสอดใส่เข้าไปอบอุ่นท่อนกายในร่างน้อยๆ ของเธอให้เร็วที่สุด

ปลายลึงค์กระตุกถี่เมื่อถึงจุดหมาย หากแต่ยังไม่สมปรารถนา บุรุษยักษายกฝ่ามือที่ชุ่มน้ำสีขาวขุ่นตรงหน้าหล่อนที่หายใจอย่างต้องการ และให้นางงับปลายนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำปรารถนาของเขา

“อึก... อะไรคะ”

“ดื่มมันเถิด แล้วเจ้าจักมิรู้สึกเจ็บปวด”

มธุรสกลัวในทีแรก แต่เพราะเธอเองก็อยากรู้อยากลอง จึงค่อยๆ ดูดเลียปลายนิ้วใหญ่ แลกุมฝ่ามือชุ่มน้ำคาวขุ่นของเขาลงไป แต่รสมันกลับไม่เหมือนที่เคยได้ยินมาเลย น้ำของสุวรรณราพณ์นั้นมันหอมหวาน เหมือนกับสุราฝรั่งที่เธอเคยรับประทานกับรุ่นพี่ที่ทำงานในร้านเหล้านั่งชิวก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุ

อร่อยจัง

“อื้ม” เสียงหวานครางครวญแสดงความพึงพอใจในรสธุลีในน้ำของเขา สุวรรณราพณ์ยกร่างแน่งน้อยของนาง วางอย่างเบามือให้นอนราบลงบนพื้นหญ้าเขียว ฝ่ามือหนาคว้าเรียวขางาม ค่อยๆ แยกขาของเธอออก เพื่อสำรวจความเปียกชื้นตรงบริเวณแอ่งเก
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๔) จบตอน

    ฝ่ามือหนายังคงกุมมือนางแนบแน่น แผ่ขยายร่างกายลงสู่เนินหญ้า หลับตาลงเคล้ากับรสจันทร์แลกองไหสุรา สัมผัสเปลือยเปล่ายังติดตรึงใจเกิดคำถามมากมายในดวงจิตของยักษ์ หลายครานึกสงสัยว่าเหตุใดจึงยอมให้สัมพันธ์แรกต่อดวงจิตที่ไม่รู้จักนี้ แต่เขาไม่สามารถให้คำตอบต่อคำถามนั้นได้ทั้งที่ควรจักเป็นน้องจันทร์แท้ๆ ที่อยู่ข้างกายเขาในเพลานี้มธุรสตื่นขึ้นมาในช่วงเช้าตรู่ ความเย็นโอ้โลมผ่านบานหน้าต่างและผ้าม่านแพรบางเบามาถึงผิวกายสาวจนรู้สึกหนาวเหน็บ เธอหยัดกายลุกขึ้นมาพร้อมกับความปวดหน่วงที่หน้าท้องแบนราบ เห็นว่าตัวเองถูกห่มด้วยผ้าแพรหนาอยู่ ภายในนั้นล่อนจ้อนเปลือยเปล่า“อะ...!” เธอผวาเอาผ้าห่มมาปิดทรวงอกเอาไว้ ทั้งที่ในห้องนี้เป็นหอนอนของเธอ ดูจากเครื่องตกแต่งภายในที่พอจำได้ปลายเท้าเปล่าที่สวมกำไลข้อเท้าสีทองวางนาบลงกับพื้นกระดานดังกรุ้งกริ้ง สาวเจ้าทอดมองร่างกายตัวเองในคันฉ่อง ไร้ร่องรอยใดๆ ที่ควรจะเป็น ร่างกายยังคงโฉมสะคราญ ขาวนวลผุดผ่อง ราวกับว่าตัวเองนั้นดูมีน้ำมีนวลขึ้นทันตา หลังจากที่ได้มีสัมพันธ์ช่วงข้ามคืนกับยักษา ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องด้วยหรือเปล่านี่เรากลายเป็นของอีตายักษ์นั่นแล้วหรือ?นางค

    Last Updated : 2025-02-12
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๙ ความลับของบุศยา (๑)

    “ไม่หรอก ไม่เป็นไรเลย ฉันเข้าใจ”ทั้งสองคนที่ก้มลงคุกเข่าขอขมานางถึงกับเงยหน้าขึ้นมามอง เมื่อเห็นว่ามธุรสเองแม้มีสีหน้าตกใจนัก แต่ก็ไม่ได้คิดจะถือโทษอะไรพวกเขา ศิรบาลและบุศยาหันมามองหน้ากัน ปรี่ผละออกห่างจากกันโดยเร็วไว ในขณะที่มธุรสเองก็รู้สึกว่าไม่ว่าใครที่โดนลักพามาที่นี่ ก็ล้วนต้องมีสนมบางคนที่ไม่ได้รักชอบพอกับสุวรรณราพณ์อยู่แล้ว ความรักนั้นควรจะให้เราเลือกเองสิ ไม่ใช่จะมาบังคับขู่ใจกันแต่จะไปว่าใครก็ไม่ได้ เพราะเราเองก็ไหวหวั่นให้กับเขา“แม่หญิง... จักมิไปบอกท่านสุวรรณราพณ์ใช่หรือไม่” จนศิรบาลที่นิ่งอึ้งไปนานตัดสินใจโพล่งขึ้นมาแทนความรู้สึกของทั้งตนแลบุศยาหญิงที่รัก ว่ากันว่าแม่หญิงเจ้าจันทร์ผู้นี้คือคนที่นายเหนือหัวต้องใจจนถึงกับเมินเฉยพระสนมคนอื่นๆ เพราะนาง แลเพราะท่านเอาแต่วิ่งเร่หาเธอ เขาจึงหาโอกาสเข้าใกล้พระสนมบุศยา หวังเพียงอยู่เคียงข้างนาง จนเลยเถิดเป็นสัมพันธ์ผูกกันเช่นนี้มธุรสพยักหน้ารับ“อื้อ ใช่แล้ว”“ขอบพระคุณขอรับพระสนม!” เขาแทบจะกราบเธอเลยทีเดียวหลังจากที่มธุรสให้คำมั่น คนตัวเล็กรีบยกมือห้าม พลางเดินไปย่อตัวลงตรงหน้าบุศยาสาวตัวจ้อยที่ก้มลงคุกเข่าสั่นสะอื้นอยู่“เธ

    Last Updated : 2025-02-12
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๙ ความลับของบุศยา (๒)

    คำตอบนั้นทำเอายักษ์หนุ่มเคร่งเครียดหนักหนา เขายอมรับกับตนเองว่าสับสนเหลือคณา เพราะมธุรสนั้นเป็นดวงจิตที่ประดับร่างเจ้าจันทร์ มิใช่เจ้าจันทร์ที่เขารักแม้นโหรฯ กลับไปแล้ว ก็ยังต้องการคำตอบว่าเขาจักให้มธุรสมาแทนที่เจ้าจันทร์หรืออีขวัญได้อย่างไร ในเมื่อนางมิมีส่วนเกี่ยวข้องใดใดกับหญิงสาวผู้เป็นที่รักของเขาเป็นการมีสัมพันธ์คราแรกที่พลาดพลั้งเหลือเกินแล้วมึงจักรู้ได้เยี่ยงไร ว่ายามเมื่อกูครองกายมึง จักมิเคยมีสัมพันธ์สวาทกับสนมคนอื่น?เสียงสะท้อนในดวงจิตลึกล้ำดังขึ้นภายในจิตใจ สุวรรณราพณ์นิ่งงันกลางตั่งทอง สดับรับฟังเสียงอาฆาตมาดร้ายนั่นอย่างร้อนอกร้อนใจ‘เจ้าหมายความว่าอย่างไร’กูก็หมายความว่า กูได้ร่วมหอลงโลงกับอีตองนวล เนตรเกล้า แลเกสรแก้วน่ะสิ นางจันทร์มิใช่ผู้หญิงคนแรกของมึง แลกูมิเคยพลาดทำใครตั้งครรภ์ให้มึง ทำได้เพียงแค่สูบพลังชีวีเท่านั้น‘ไอ้ระยำชั่วช้า แต่กูจักมินับดอกว่าเป็นกู เราเป็นดวงจิตคนละดวงกัน แลเจ้าเป็นเพียงดวงจิตส่วนที่เหลือของท่านพี่ของกู’พี่มึงตายห่าไปเสียนานแล้วไอ้สุวรรณราพณ์ ยอมรับสักทีว่ากูมิใช่ท่านพี่ของมึง กูคือดวงจิตลึกภายในก้นบึ้งของมึง ที่ต้องการกระทำชั่ว เข่

    Last Updated : 2025-02-12
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๙ ความลับของบุศยา (๓)

    “ออกไปก่อน” เขาเลือกที่จักหันไปพูดกับทหารอารักขาทั้งสองนายที่ยืนมองหน้ากันไปมาอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่กระอั่กกระอ่วน พวกเขาปิดประตูให้ตามรับสั่ง แลเหลือเพียงเขาแลนางอยู่ในห้องนี้เพียงสองคน“หนูมีเรื่องจะคุยกับคุณ” ด้านมธุรสเองก็เก้ๆ กังๆ เหลือเกิน ยิ่งเห็นชายคนแรกในชีวิตอย่างเขาอยู่ตรงหน้า กลับทำให้ใจสั่นจนไม่กล้าสบตา “ระ... เรื่องเมื่อคืน”กษัตริย์ยักษานิ่งไปเล็กน้อย ก่อนที่เขาจักถอนหายใจ พาลทำให้สาวเจ้าหวั่นใจยิ่งกว่าเก่า ด้วยกลัวคำตอบของเขา“ถ้าเป็นเรื่องนั้น... ข้าขอลุแก่โทษเจ้าจริงๆ ข้าเพียงแค่เมามายจนเผลอพลั้งกระทำมิถูกมิควรกับเจ้า” ฝ่ายอสุราหนุ่มเองก็พูดไปตามความจริง ที่แม้มธุรสจะรู้ความจริงข้อนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อชายตรงหน้ายอมรับมันออกมาตรงๆ ใจนางก็ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มแพ้ตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มเลยสินะ“มะ... มันคือครั้งแรกของหนู”“...”“จะไม่ให้มารับผิดชอบหรอก แต่แค่อยากรู้ว่าคุณ... คิดยังไงกับเรื่องเมื่อคืนเหรอคะ”สุวรรณราพณ์มิเข้าใจว่านางต้องการจักสื่อกระไรถึงถามเช่นนี้ แต่ถ้าตามที่โหรหลวงทำนายทายทักนั้นเป็นความจริง เขาก็คงจักต้องเลี้ยงดูนางเอาไว้อยู่แล้วมิสามารถทิ้งร่างกายของเ

    Last Updated : 2025-02-12
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๙ ความลับของบุศยา (๔) จบตอน

    พอคิดได้แบบนั้นก็ขมวดคิ้ว ครวญเสียงหวานทั้งที่ยังขุ่นในใจ เมื่อปลายลิ้นหนาฉกชิมปทุมถันจากดอกบัวตูมงาม ความเสียวซ่านนั้นทำให้นางต้องแหงนหน้าขึ้นมองเพดาน พลางสั่นระริกด้วยความปรารถนาเรียวขางามหนีบเข้าหากันแน่นเมื่อสัมผัสได้ถึงความเปียกชื้น เรียวนิ้วใหญ่แตะลงที่กลางลำตัวของเธอ แทรกผ่านระหว่างเรียวขาทั้งสองข้าง เพื่อสัมผัสกับแกนเกสรของดอกบัวบานด้านล่าง“พี่รักเจ้า”“...”“รักเจ้าเหลือเกินน้องจันทร์”ความเจ็บที่ไม่มีเสียง แถมยังพูดอะไรไม่ได้... มันเป็นแบบนี้เองสินะ“ศิรบาล ข้าควรจักบอกพี่จันทร์ดีหรือไม่ ว่าตามจริงแล้วข้ามิได้มีสัมพันธ์กระไรกับท่านสุวรรณราพณ์”ตัดมาทางฝั่งของบุศยา นางกำลังทาบฝ่ามือเล็กลงบนบานหน้าต่างที่ถูกเปิดออกยามค่ำคืน สูรย์เสียงที่เฝ้าหน้าประตูหลับไปแล้ว ศิรบาลที่แวะเวียนมาเฝ้ายามที่หน้าหอนอนของนางจึงมาเคาะบานหน้าต่างของเด็กสาวยอดดวงใจ เนื่องจากอีกฝ่ายนั้นตัวใหญ่จนเกือบถึงบานหน้าต่างเลยนี่กระไร“แม่จักบอกนางทำไมกันหรือ” ศิรบาลมีสีหน้าแปลกใจ ที่นานๆ ทีเด็กสาวตัวน้อยของเขาจักมีสัมพันธ์ฉันท์มิตรจนนึกถึงใจของอีกฝ่าย แรกๆ นางนั้นหวาดกลัวมากนักเชียว เนื่องจากพระสนมแต่ละคนนั้

    Last Updated : 2025-02-12
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๐ ตั้งครรภ์ (๑)

    มธุรสกลับมาที่หอนอนของนางในยามค่ำ หลังจากที่สุวรรณราพณ์เร้าหรือให้อยู่ข้างกันจนแสงตะวันรอนและฟ้าเริ่มมืด จนเผลอคิดไปเองในบางเวลาว่าเขาอาจจะกำลังคลั่งรักเรา แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องรีบเตือนสติตนเองในทันที ว่านี่มันก็แค่การทำแทนตัวเจ้าจันทร์ทั้งหมดเขามองเพียงแค่เจ้าของกายเนื้อ หาใช่ดวงจิตของเราคืนนี้ช่างเหน็บหนาว สาวเจ้าห่มผ้าแพรขดตัวอยู่ในผ้าห่มสีงาช้าง นางค่อยๆ ปรือตาหลับลง และในขณะเดียวกันเมื่อหัวถึงหมอน มธุรสก็ผล็อยหลับไปและจมลงสู่ห้วงนิทราในทันที ราวกับทุกอย่างประจวบเหมาะไปหมดในความฝันอันเลือนราง นางเห็นเทวดาและนางอัปสรสองตนบินเคียงคู่กันอยู่บนฟากฟ้า แต่ความรู้สึกในนิมิตนั้นทั้งสองไม่ใช่คู่รักกันอย่างที่ใครต่อใครคิด แต่ดูราวกับพี่น้องฝาแฝดกันเสียมากกว่า เนื่องจากเมื่อพวกเขาบินลงมาจากฟากฟ้าด้านบนตรงหน้านางที่ยืนกึ่งแห้งกึ่งเปียกอยู่ในสระบัวกว้างใหญ่ ใบหน้าของทั้งสองดูละม้ายคล้ายคลึงกันมาก“พวกเราขอมอบสิ่งนี้ให้แก่ท่าน” ทั้งสองพูดขึ้นมาพร้อมเพรียงกัน พร้อมกับวางดอกบัวสีเผือกลงบนมือของมธุรส นางมองดอกบัวดอกนั้นค่อยๆ เบ่งบานในมือ มีแสงสว่างทอประกายจนจ้าสายตา ก่อนที่ทั้งสองจะหายไปอยู่ใน

    Last Updated : 2025-02-12
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๐ ตั้งครรภ์ (๒)

    ตัดมาที่ด้านมธุรส นางนั่งหน้าอมทุกข์อยู่ที่สวนดอกแก้ว เมื่อถูกตองนวลลากทึ้งมาที่สวนเพื่อไต่สวนเรื่องที่นางอยู่กับพระสุวรรณราพณ์ตลอดสองคืนวัน“คุณพี่มิบอกกระไรข้าเลยว่าเจ้าถูกลักพาไป” เจ้าคนสวยพัดวีมองหน้าหล่อน สร้างระยะห่างเล็กน้อยมิให้ใกล้ชิดกับนางจนเกินไป เพราะอย่างไรแม่เจ้าจันทร์ตรงหน้าก็เป็นที่โปรดปรานของสุวรรณราพณ์ แม้นจักเป็นเด็กดีอยู่ แต่เธอก็ยังมีความหึงหวงผัวในแบบฉบับของเมียคนแรก “คุณพี่มิได้ทำกระไรเจ้าหลังจากนี้ใช่หรือไม่?”มธุรสสะอึกอึ้งไป จะบอกได้อย่างไรว่าเสร็จสมกับผู้ชายคนนั้นไปแล้ว ถ้าบอกไปคนที่รักบูชาเขาแทบถวายหัวอย่างตองนวลคงได้เกลียดขี้หน้าเธอแน่ๆ“... มิได้บอกกระไรค่ะ”“ว่าแล้วเชียว คงมิอยากให้เมียอื่นมีรอยราคีจากชายใด” นางพัดวีแรงขึ้น แต่ตามปรกติก็มิมีสนมผู้ใดถูกชิงไปง่ายๆ กันดอก หรือเพราะท่านผู้นั้นเป็นห่วงนางเด็กผู้นี้กันนะ“แต่ข้าก็ไม่ได้ทำกระไรกับชายที่ลักพาไปนะคะ”“จักรู้ได้เช่นไร คุณพี่เองก็คงมิมั่นพระทัยเช่นกัน ดูซิวันนี้เห็นเข้าไปที่เรือนนอนของเกสรแก้วอีกแล้ว”แปลบดวงใจดวงน้อยของมธุรสห่อเหี่ยวลงทันใดเมื่อได้ความจากตองนวลว่าเช่นนั้น ไม่ได้นึกขุ่นเคืองที่ถูก

    Last Updated : 2025-02-12
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๐ ตั้งครรภ์ (๓)

    ทั้งมธุรส เนตรเกล้า แลตองนวลแทบจะผงะเมื่อยังไม่ทันที่เนตรเกล้าจักปรามาสมธุรสจนจบคำ ข้อมือที่เงื้อขึ้นสูงของนางก็ถูกคว้าไว้ด้วยพระสุวรรณราพณ์ที่กำลังตามหาเจ้าจันทร์อยู่จนหลงมาถึงศาลากลางสวนดอกแก้วนี้ เมื่อเห็นว่าพระสนมคนที่สองที่นำมาแผลงฤทธิ์เดชใส่สาวเจ้า จึงอดไม่ได้ต้องไปกระชากข้อมือที่แสนอวดดีนั่นไว้“คะ... คุณพี่!”เสียงของเนตรเกล้าดังขึ้นอย่างหวาดผวา พอๆ กับตองนวลที่ตัวสั่นเทาแทบหมอบลงไปเมื่อเห็นแววตาวาวโรจน์ของท่าน สุวรรณราพณ์หลุบตาลงมองข้อมือเล็กของเจ้าจันทร์ที่แดงเป็นปื้นจากแรงของเนตรเกล้า ท่านจึงหันกลับไปคาดคั้นคำตอบจากนาง“เจ้าคิดจักทำกระไรเจ้าจันทร์”“ไม่นะคะคุณพี่ แค่เพียงจักสั่งสอนที่มันไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง... กรี๊ด!”เพี้ยะ!ราวกับอัสสุนีบาตรฟาดลงกลางศาลา เมื่อสุวรรณราพณ์บันดาลโทสะด้วยการสะบัดหลังมือจนเนตรเกล้าหน้าหันไปอีกข้าง ปากที่อวดดีนั่น นางมักรังแกพระสนมของเขาอยู่เสมอ ทำให้ระบบที่วางไว้รวนเรไม่เหลือรูป จำเป็นต้องสั่งสอนเสียบ้าง เพื่อให้ประพฤติตัวสงบเสงี่ยมยิ่งขึ้นวิธีปราบพยศเมียแต่ละคน ก็จักต้องรุนแรงเช่นนี้มธุรสเบิกตากว้าง มองเนตรเกล้าที่ล้มลงไปนั่งพับเพียบพร้อมก

    Last Updated : 2025-02-12

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๖ ชายาครุฑ (๒)

    อ้อมกอดแห่งครุฑสีชาตินั้นทำให้นางยากจักถอนกายออก ความอบอุ่นที่ไม่ทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใดชายผู้นี้ถึงได้เลือกนางเป็นมารดาผู้ให้กำเนิด กรรณิกาอัปสรไม่คิดหวังให้ท้าวไกรสิงห์ใฝ่รักใฝ่หานาง หล่อนหมดหวังไปตั้งแต่พระสวามีคนก่อนแล้วสุวรรณราพณ์มองกรรณิกาที่อยู่ในร่างของเจ้าจันทร์เป็นเพียงแค่ตัวแทนหญิงที่ห่างกายเขาไปเมื่อนานมาแล้ว เขามักตัดพ้อรำพันทุกค่ำคืนว่าหญิงในอดีตชาตินั้นร้างรักเขาเนื่องจากเป็นอสูรรูปชั่ว แม้นมียศถาบรรดาศักดิ์มากมาย ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจนางได้หารู้ไม่ว่าทุกอย่างนั้นคือบ่วงกรรมที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องเผชิญ ฝ่ายท้าวไกรสิงห์นั้นไม่สามารถระลึกชาติก่อนได้ แต่เขามีสะพานกรรมที่ต้องวนเวียนชดใช้ อดีตชาติของท้าวไกรสิงห์ก่อนจักมาเกิดเป็นครุฑนั้น คืออดีตพรานบุญที่หลงรักมธุรสวดี อัปสราสาวที่ลงมาล้อเล่นน้ำอาบแสงจันทร์กลางป่าหิมพานต์ในสระอโนดาต แลเสพสมกับหล่อนกลางสระงาม โดยที่หล่อนเมามายรสน้ำเงาจันทร์ ทำให้หลงลืมคิดว่าพรานบุญนั้นคือสามีของตนเฉกเช่นทศกุมภัณฑ์เมื่อทศกุมภัณฑ์มาพบการก่อกบถเข้า จึงทำการฆ่าพรานบุญคนนั้นจนตายในชาติก่อน ชิงเมียรักกลับมาสู่อ้อมอก พรานบุญนั้นสาปแช่งก่อนตายตกว่าชาติ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๖ ชายาครุฑ (๑)

    ก่อนพบรักกับอัปสรมธุรสวดี ทศกุมภัณฑ์เคยมีภรรยาเป็นยักษีรูปร่างงดงามสะสวย นางเสวยทิพย์มิกินเนื้อคนต่างจากเขาผู้เป็นสวามี นางถูกตบแต่งกับเขาเพียงเพื่อสานไมตรี ทศกุมภัณฑ์อัปลักษณ์หากแต่มียศศักดิ์บริวารมาก ตระกูลยักษ์ฝั่งนั้นจึงส่งนางปารตีเป็นเมียกำนัล การตบแต่งที่มิได้เริ่มต้นด้วยความรัก สุดท้ายทศกุมภัณฑ์กลับหลงรูปโฉมอัปสราจนทิ้งนางน้ำตาตกในตลอดมานางยักษ์ปารตีเองก็มิได้เหลียวแลเนื่องจากสวามีนั้นโหดเหี้ยมทานแต่เนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อสัตว์เนื้อมนุษย์ไม่ขาดปาก นางที่เป็นยักษ์เสวยทิพย์ชั้นสูง จึงตีตนออกห่าง จนเป็นช่องโหว่ให้อีกฝ่ายนั้นไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย อยู่ของนางดีๆ ก็ต้องมารับรู้ว่าสวามีของตนนั้นได้ลิ้มรสเชยชมนางอัปสรชั้นสูง พร้อมกับเอานางอัปสรมธุรสวดีเข้ามากกกอดถึงในรังนอนนิมมานเทพเองต้องการดวงตาของนางยักษ์ปารตี เนื่องจากดวงตาของนางเป็นดวงตาที่สาม สามารถเปิดโลกแห่งความตายทั้งปวงได้ การมีดวงตาของนางเอาไว้ในครอบครอง มิว่าจักเป็นนรกภูมิหรือสรวงสวรรค์ เขาจักเป็นชายผู้มากศักดาจนมีแต่คนอยากคบหาพาที เขาจึงส่งนางอัปสรมธุรสวดีเข้าหาทศกุมภัณฑ์หวังยั่วยวนหาโอกาสฆ่าชิงดวงตาที่สามของนางปารตี แต่นางอั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๕) จบตอน

    “เมื่อเจ้าเติบใหญ่กว่านี้ พ่อจักบอกทุกอย่าง อดทนรอแล้วทำตามที่พ่อเอ่ยได้หรือไม่” แน่นอนว่าพระสุวรรณราพณ์รู้ดีถึงพลังที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดของบุตรแฝด แต่เนื่องจากอินมุกแลจันทร์ดายังมิมีวุฒิภาวะหรือการเผชิญหน้ากับโลกภายนอกมากพอที่จะเข้าใจเรื่องราวในอดีตชาติของตน เขาจึงอยากรอให้ลูกทั้งสองเติบโตมากกว่านี้ก่อน“ไม่! ท่านควักดวงตาแม่แท้ๆ ของข้า แลยังขับไสไล่ส่งแม่ที่แท้จริงของพวกเราไปไกลบ้านไกลเมือง หากมิรักใคร่เนื่องจากพวกเราเป็นสายเลือดมนุษย์ ท่านพ่อก็บอกข้ามาตามตรงเถิด!” จันทร์ดาได้ฟังพี่ชายว่าเช่นนั้นก็ใจตกไปอยู่แทบตาตุ่ม ยืนร่ำไห้กอดอินมุกที่หยัดยืนสู้ตัวน้อยๆ ประจันหน้ากับกษัตริย์เมืองยักษ์ที่ถือเป็นบิดาแท้ๆ ของตน ตั้งแต่เกิดมาบิดาไม่เคยพูดดีด้วยนอกเสียจากมองเขาเป็นตัวปัญหา แม้นจักเป็นลูกของสตรีที่มิได้รัก แต่ก็มีหัวจิตหัวใจเช่นกัน“ควักดวงตา? หมายความว่าเช่นไร” สีหน้าของพระสุวรรณราพณ์นั้นสับสน ชวนให้สองเด็กแฝดชะงักไป“พระมารดาของเจ้านั้นอยู่ที่เมืองจันทร์ นางตาบอดเพราะถูกควักลูกตาไปด้วยฝีมือของพระบิดาของพวกเจ้า เนื่องด้วยนางมิเป็นที่โปรดปรานเท่ากับสนมคนที่สิบสองอย่างนางอัปสรที่นามว

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๔)

    “ไสหัวไปเสีย ก่อนที่กูจักบั่นคอมึงให้ดับดิ้นอยู่ตรงนี้” พอได้ยินอีกฝ่ายตีฝีปากกลับอย่างมั่นอกมั่นใจเช่นนั้นอสุราหนุ่มยิ่งพิโรธเหลือ เขารู้เรื่องราวทุกอย่างที่หล่อนลงมาแลแปลงกายเป็นอัปสรเพื่อเข้ามาเป็นสนมคนที่สิบสาม แต่เขาไม่สามารถล่วงรู้ได้ถึงช่วงที่นางดำรงอยู่บนสรวงสวรรค์กับนิมมานเทพ มิอาจรู้ได้ว่ามันได้เป่าหูกระไรนางไว้บ้าง“อย่าลืมเสีย สุวรรณราพณ์... ไม่สิ ไอ้ทศกุมภัณฑ์เอ๋ย”“...!”“มธุรสวดีจักไม่มีวันตกเป็นของมึง แม้นชาตินี้หรือชาติไหน กูจักตามราวีมึงทุกชาติไป เพื่อให้ได้มาซึ่งหญิงที่กูหมายครอง”ไวกว่าความคิด พระสุวรรณราพณ์เขวี้ยงดาบทมิฬตรงไปยังร่างตรงหน้าหวังฟาดฟันด้วยความเกรี้ยวโกรธสุดกำลัง แต่ร่างนั้นกลับสลายหายไปเป็นเพียงไอหมอกเย็นเยียบโอบล้อมรอบดาบดำมืดก่อนที่จักถึงตัว พระสุวรรณราพณ์เรียกดาบทมิฬกลับมาสู่ฝ่ามือใหญ่ กวาดสายตามองไปรอบๆ พลางขบฟันกรอดอย่างขัดเคืองมาทั้งที ก็ทิ้งเพลิงกัลป์ไว้เลยสิหนา“ทะ... ท่านพ่อ ข้า...” อินมุกมีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อผู้เป็นพ่อหมุนตัวใหญ่โตหันกลับมา ดวงตาสีชาดหรี่ลงมองบุตรชายที่ยืนตัวสั่น พระสุวรรณราพณ์ทำได้เพียงเดินนำหน้าลูกไปเท่านั้น“ตามพ่อมา อิ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๓)

    “พระมารดาของเจ้านั้นอยู่ที่เมืองจันทร์ นางตาบอดเพราะถูกควักลูกตาไปด้วยฝีมือของพระบิดาของพวกเจ้า เนื่องด้วยนางมิเป็นที่โปรดปรานเท่ากับสนมคนที่สิบสองอย่างนางอัปสรที่นามว่ากรรณิกา”“!!!” ทั้งอินมุกแลจันทร์ดาเบิกตากว้าง เป็นจริงดั่งสัญชาตญาณที่ว่ามารดาของตนนั้นไม่อยู่ที่นี่ ตัวจริงนั้นอยู่เมืองจันทร์ ส่วนตัวปลอมที่แปลงเป็นมารดาของพวกเขานั้นคือหนึ่งในสนมที่เป็นนางสวรรค์แต่ยิ่งหดหู่ใจไปกว่านั้น... คือเรื่องที่บิดาเลือกที่จะควักลูกตาของพระมารดาไป เนื่องจากไม่เป็นที่โปรดปรานดั่งเช่นสนมที่เป็นนางอัปสร มันช่างน่าเศร้านัก นี่ท่านพ่อไม่มีความรักต่อแม่เราเลยหรือ“... ว่าต่อได้หรือไม่” ท้ายที่สุดเด็กชายก็อดรนทนไม่ได้ ด้วยความอยากรู้เรื่องราวของแม่ที่แท้จริงจึงเอ่ยปากถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจากเมื่อครู่“จงมอบความเชื่อใจให้แก่ข้าเสียก่อน จึงจักเล่าต่อได้” นิมมานเทพถือโอกาสออกกลอุบายดึงบุตรของพระสุวรรณราพณ์มาเป็นพวกด้วยค่าของเรื่องราวของหญิงที่เขามินึกใส่ใจอย่างธิดาเจ้าจันทร์“ข้าแลน้องสาวจักเชื่อใจเจ้า”“อินมุก... เจ้ามิรักพระบิดาหรือ เจ้าเชื่อใจข้ามากกว่าพระบิดาหรือ ทั้งๆ ที่มันอาจจักเป็นคำโก

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๒)

    มิรู้ดอกว่าแปลงกายมาหลอกพ่อด้วยเหตุอันใด แต่จักมิยอมญาติดีกับแม่อัปสรสวรรค์นั่นเด็ดขาด“ข้ามิพูดคุยหรือทำดีต่อนาง ยัยนั่นมิใช่แม่ของข้า แม่ของข้าชื่อเจ้าจันทร์ ข้าจำกลิ่นไอของแม่ข้าได้ดี!”“อินมุก จริงๆ แล้วแม่ของเจ้า...”“เลิกพยายามจักโป้ปดข้า หาความดีความชอบมาสู่นังอัปสรนั่นเสียที ท่านพ่อรักหลงนางจนมิเห็นหัวข้าแลน้องจันทร์ดาเลยด้วยซ้ำ!” ว่าพลางก็กัดฟันข่มความรู้สึกโกรธแค้นนางอัปสรนั่น ฉุดแขนจันทร์ดาที่ยืนมองท่านพ่อกับพี่ชายต่อล้อต่อเถียงกันและวิ่งตามแรงจับจูงของพระเชษฐาไปอย่างว่าง่ายอินมุกวิ่งมาจนถึงบึงบัว กำหมัดแน่นในข้างที่ไม่ได้จูงฝ่ามือเล็กของน้องสาว จันทร์ดาเอียงคอมองพี่ชายฝาแฝดที่บัดนี้น้ำตาหยดลงสู่ผิวแก้มสุกปลั่ง“พี่อินมุก โอ๋ โอ๋ พี่อินมุกอย่าร่ำไห้เลยเจ้าค่ะ” เสียงหวานปลอบประโลมพี่ชายเพียงแผ่วเบา ตระกองกอดพี่ชายแนบแน่นเท่าที่จำความได้ อินมุกกับจันทร์ดามีสูรย์วันบ่าวยักษีตนหนึ่งคอยดูแลเป็นแม่นมให้ตั้งแต่เล็ก สายใยอบอุ่นระหว่างพวกเขาและพระมารดาแน่นแฟ้น อินมุกและจันทร์ดาเชื่อว่ามารดาคลอดตนด้วยความรักใคร่ เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ถามถึงแม่ของตนที่มีนามว่าเจ้าจันทร์นางสูรย์

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๑)

    “มิมีสาส์นตอบรับส่งมาจากเมืองครุฑเลยพะย่ะค่ะฝ่าบาท... จนบัดนี้แล้ว”เหล่าทหารกราบทูลกับพระสุวรรณราพณ์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ใหญ่มหึมา ได้ความว่าสาส์นท้ารบนั้นอาจส่งไปถึงเมืองครุฑ แต่ฝ่ายไอ้ท้าวไกรสิงห์อาจยังเล่นตุกติกมิยอมส่งสาส์นกลับมา ทำตัวยั่วโมโหเก่งจริงๆพระสุวรรณราพณ์เข้าใจว่ามันนึกแค้นเคืองที่ในอดีตชาติต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์ยักษ์เช่นทศกุมภัณฑ์ (ซึ่งก็คือตัวเขาเองนั่นแล) นั้นเข่นฆ่าฉีกเนื้อเทือหนังครุฑอย่างโหดร้ายเพียงเพื่อชิงเมียรักกลับมาสู่อ้อมอก แม้นจักมาเจอเมียในร่างไร้วิญญาณก็ตาม แถมในอดีตก่อนเจอคู่ชะตา สังวรีราพณ์ก็ได้ไปบุกเมืองครุฑด้วยความหิวกระหายเนื้อสดหลังจากจำศีลไม่กินเนื้อมาเกือบห้าสิบปีจนตบะแตกด้วยดวงจิตทมิฬที่สอง สุดท้ายก็ฆ่าพวกครุฑแลครุฑีไปเกินครึ่ง แถมยังกินจนเหลือแต่กองกระดูกนกให้ดูต่างหน้าอีกด้วยเรียกได้ว่าเขาเองก็เป็นตัวการที่ทำให้ฝั่งไอ้ท้าวครุฑนั้นมีความอาฆาตแค้นจนต้องชิงสิ่งสำคัญออกไปอย่างเช่นภาชนะอย่างธิดาเมืองจันทร์ที่มีดวงจิตมธุรสวดีอยู่ในนั้น แม้นสุดท้ายจะสู้พลังวังชาของพระสุวรรณราพณ์ไม่ได้ก็ตามที่ส่งสาส์นท้ารบไป เพื่อจักให้มันจบมันสิ้นไป ให้มันได้ระบายอาร

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๔ ข้ารักลูก หาได้รักท่าน (๕) จบตอน

    แต่พระมเหสีเจ้าจันทร์กลับต่างออกไป ตลอดสามวันหลังคลอดเด็ก นางแวะมาแอบดูเด็กทั้งสองแลพยายามเข้าหาอยู่หลายครา แต่เด็กแฝดปฏิเสธการเข้าหาของแม่ สูรย์วันคิดว่าวันเดียวเธอคงล้มเลิกแล้ว เพราะคงมิมีใครอยากมีลูกกับยักษ์ สนมทุกคนที่ท่านนำพา ก็ล้วนแต่มิเต็มใจตกเป็นเมียทั้งสิ้นแต่นางกลับไม่เคยยอมแพ้ ยังแวะมาขอกอดขออุ้มอยู่ทุกวันแม้จักรู้ว่าเด็กทั้งสองจักต้องกระจองอแงแลผลักไสนางด้วยเดียดฉันท์เลือดมนุษย์“พระมเหสีทรงอยากอุ้มบุตรธิดาหรือเพคะ”“อะ... อื้อ” สาวเจ้าพยักหน้าหงึกหงัก ดวงหน้าซีดเซียว อาจเพราะยังป่วยอยู่“ท่านอินมุกแลท่านจันทร์ดายังมิคุ้นชินนัก แต่สักวันคงจักคุ้นได้แน่” นางว่าด้วยความหวังดี ฝ่ายกรรณิกาเองก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่จากทุกวันที่โดนลูกปฏิเสธ มันออกจักฝังใจมิน้อยแต่อย่าหวังว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอจักมีเพียงแค่นี้หญิงสาวค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้เด็กหัวจุกทั้งสอง ค่อยๆ ยกจันทร์ดาขึ้นมาก่อนเพราะลูกหญิงมักอ่อนโยนกว่าคนพี่เล็กน้อย พร้อมกับยกบุตรสาวที่ทำตาโตมาแนบอกอิ่ม“จันทร์ดา... นี่แม่เองนะ”“...”“จันทร์ดา แม่รักหนู... แม้จักเป็นช่วงเพลาเพียงสั้นๆ ก็ตาม”หมับ!“อึก...!” แต่ยั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๔ ข้ารักลูก หาได้รักท่าน (๔)

    ทำเป็นไม่รู้ต่อไป เพื่อรักษานางไว้ รวมถึงรักษาสัมพันต่อสรวงสวรรค์ มิเช่นนั้นทุกอย่างจักยากขึ้นเกือบเท่าตน ทั้งการสัญจร รวมถึงพันธะสงบศึกที่มีมาตั้งแต่อดีตชาติระหว่างสรวงสวรรค์แลโลกอสูรเป็นเพียงอสูร มีอำนาจมากมายเพียงไหน สุดท้ายยังถูกชิงไปได้ด้วยเทวดาอยู่ดีส่วนเด็กสาวผู้มิรู้ประสากระไรทั้งนั้น ได้แต่สั่นสะเทือนอยู่บนกายใหญ่เนื่องจากร่างกายเล็กจ้อยแสนเปราะบาง นางครางครวญเสียงสะท้านหวามไหว กอบโกยอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ท่าทางนี้มองเห็นดวงหน้าของยักษาได้ถนัด เขากำลังจ้องมองหล่อนอย่างเปรมปรีดิ์ รบกวนจิตใจเหลือเกินทำมาเป็นจ้องมองเหมือนรักเหมือนหลงยิ่งนัก จักทำให้ร่างน้อยๆ นี่เป็นของโปรดของเจ้าให้ได้เลยเชียวว่าพลางก็พยายามขยับบั้นเอวน้อยเพื่อคลึงความใหญ่โต แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ ถึงร่างกายจะแปลงตนเป็นอัปสร แต่ก็รับความรู้สึกได้ทุกอณูไม่ต่างกับร่างกายมนุษย์จนเริ่มชักไม่แน่ใจ ว่าตนเองเป็นอัปสร หรือมนุษย์กันแน่หรือนางหลอมรวมกับร่างเจ้าจันทร์ไปแล้ว?คิดเพ้อฝันพลางส่ายหัว ร่างนั้นจำแลงเป็นการเวกกลับสู่เมืองจันทร์ไปแล้ว สุวรรณราพณ์ตกเป็นของนางแทนที่เจ้าจันทร์แล้ว นี่ล่ะค

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status