Home / แฟนตาซี / เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี / เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๒)

Share

เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๒)

last update Last Updated: 2025-01-02 12:31:07

มธุรสพยายามดิ้นรนทั้งที่บัดนี้กายสาวเปลือยเปล่า ผิวขาวผ่องสะท้อนแสงจันทร์เปล่งประกายสุกใส ผิดแผกจากสาวงามที่สังวรีราพณ์เคยลิ้มรสผ่านกายาของไอ้สุวรรณราพณ์ เนื้อนวลเปล่งสีทองประกาย สาวงามเช่นหล่อน เมื่อชาติก่อนคงทำบุญมามาก ชาตินี้จึงเกิดมาด้วยรูปโฉมงดงามราวกับนางอัปสรเช่นนี้

“อยากรู้เสียจริงว่าไฉนไอ้สุวรรณราพณ์ถึงหวงแหนเจ้านัก ข้าจักลิ้มรสเจ้ามิให้เหลือ ให้มันได้รู้ซึ้งว่าข้านี่แหละที่ควรจักครองร่างนี้”

สุวรรณราพณ์พร่ำพูดคำที่มธุรสไม่สามารถทำความเข้าใจได้ กายาใหญ่ยามสะท้อนแสงจันทร์ พร้อมกับดวงตาสีชาดที่แลดูหมายมั่นว่าจักเอาหล่อนมารวบหัวรวบหางให้ได้ทำให้มธุรสหวีดร้องในลำคอ นางพลิกตัวเพื่อคลานลงจากเตียง หากแต่ก็ถูกรั้งข้อเท้าเอาไว้ แลถูกลากให้นอนราบคว่ำหน้าบนเตียง

สังวรีราพณ์คว้าสะโพกนางให้ยกเชยขึ้น สำรวจความงามของบั้นท้ายขาวผ่อง ตรงใจกลางกลีบดอกลำดวนนั้นช่างงดงาม เป็นสีชมพูอ่อนแลสั่นระริกจากเนื้อตัวของนาง

ปลายตชฺชะนี (นิ้วชี้) แลมชฺฌิมา (นิ้วกลาง) แหวกกลีบเนื้อนวลที่ปิดสนิทแนบชิดกันออก เผยโพรงแคบแน่นขนัดที่เต้นตุบๆ ด้านในเป็นสีชมพูเข้ม งดงามเมื่อได้เชยชม

ดวงหน้าคมคายโน้มเข้ามาใกล้บั้นท้า
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๖ ยักษาในราตรี (๓) จบตอน

    เช้าตรู่วันต่อมา มธุรสตื่นขึ้นมาพร้อมกับคราบน้ำตานางค่อยๆ หยัดกายลุกขึ้นนั่ง ผิวเนียนนุ่มมีแต่กลิ่นสมุนไพรฉุนจมูก เจ้าตัวจ้อยค่อยๆ ใช้หลังมือนวลปาดน้ำตาของตนเอง พลางค่อยๆ วางเท้าลงบนพื้นกระดาน หยัดยืนขึ้นเต็มความสูง“... พี่สูรย์จันทร์” เธอเรียกชื่อของบ่าวอสุรีประจำกายตน เมื่อคืนพอหัวถึงหมอนก็ร้องไห้จนหลับไปเลย โดยมีพี่สูรย์จันทร์ค่อยลูบเนื้อลูบตัว ทำแผลหายาทาให้อยู่ไม่ห่างในยุคนี้ คนที่ใจดีไปมากกว่าพี่สูรย์จันทร์... คงไม่มีอีกแล้วแม้แต่เจ้ายักษ์นั่นที่เกือบจะไว้ใจ ก็ทำร้ายเราจนเจ็บใจ เจ็บกายไปหมด“... ต้องหนี” มธุรสพึมพำกับตนเองใช่ ต้องหนีไปจากที่นี่ เพราะเธอไม่สามารถทนอยู่เพื่อประสบพบหน้ากับชายผู้นั้นได้อีกแล้วมธุรสคิดพลางห่มกายที่เปลือยเปล่ากับผ้าแพรยาวคลุมได้ทั้งตัว พลางค่อยๆ ลับๆ ล่อๆ เดินกะเผลกๆ ลงไปตามกระไดเรือน มองซ้ายมองขวา เลือกไปในที่ที่ทหารอารักขามองไม่เห็นพอเข้าไปในป่าละม่อมนางก็วิ่ง วิ่งจนสุดชีวิต วิ่งโดยไม่หันกลับไปมองข้างหลัง จนเข้ามาในเขตป่าใหญ่ที่ติดกับป่าละม่อมรอบสระบัว นางมองไปด้านหลังเห็นวังมรกตอยู่ลิบๆคนตัวเล็กหอบแฮ่ก พลางล้มตัวลงนั่งกลางป่า เสียงนกและเสีย

    Last Updated : 2025-01-02
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๑)

    รุ่งสาง... สุวรรณราพณ์ปรากฎกายอยู่ริมสระบัวไม่ใกล้ไม่ไกลกับวังมรกตของตน เป่าปี่ชวาอย่างเศร้าศร้อย เมื่อเขาทุกข์พระทัยเรื่องใด มักเลือกที่จะปลดปล่อยด้วยบทเพลงเสียดแทงดวงใจผู้ที่ได้ฟังความเจ็บปวด เศร้าหมองนั้นส่งผ่านเสียงของปี่ ไปยังฝูงปลาบู่เผือกที่ว่ายวนไปมาอยู่ในสระบัว คุณปู่ปลาบู่นั้นจึงได้ส่งเสียงพูดคุยกับท่าน“วันนี้เพลงปี่ท่านเศร้าศร้อยเหลือเกิน ท่านมีเรื่องทุกข์ใจอันใดฤา” สุวรรณราพณ์ทอดมองไปอย่างน่านน้ำใส ผ่อนปรนลมหายใจออกมาพลางท้าวแขนไว้ที่ข้อเข่าที่ถูกยกชันขึ้นบนสะพานริมน้ำ“ข้าคงถูกน้องจันทร์เกลียดเข้าแล้ว” เขาพูดพลางยกปี่ชวามาวางแนบไว้บนหน้าตักใหญ่ รุ่งสางหมอกยามเช้านั้นลงที่เนิ่นน้ำจนเกิดคล้ายๆ ก้อนปุยเมฆเหนือนั้น ทั้งหนาวแลสวยงาม “เมื่อคืนนี้ ข้าเผลอปล่อยตนข่มเหงรังแกน้องเข้า จนน้องจันทร์เจ็บปวดทั้งกายแลใจ”“ท่านจึงมาขับกล่อมด้วยเพลงปี่เช่นนี้หรือ เหตุใดจึงไม่ไปพูดคุยปรับความเข้าใจกันเล่า”“เจ้าเป็นเพียงแค่ปลา... มันมิง่ายเช่นนั้นดอก”“ถึงท่านจักเป็นนายเหนือหัวของเมืองนี้ ก็มิใช่ว่าท่านจักรู้ไปเสียทุกเรื่องดอกหนา” เจ้าปลาบู่เผือกชรานั้นพูดด้วยท่าทางแปลกๆ มันดูฉลาดเกินกว่า

    Last Updated : 2025-01-24
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๒)

    งั้นจักปล่อยให้ไอ้ท้าวไกรสิงห์นั้นได้เมียมึงไปหรืออย่างไร ไอ้หน้าโง่ ให้กูครองกายมึงเสีย ถ้ามิอยากให้นางนั่นถูกกรงเล็บครุฑนั่นจิกคอดับดิ้นชีวี!“มันก็เพราะมึงมิใช่ฤา ที่เข่นฆ่าพวกของมันจนมันต้องมาเอาชีวีเมียกู”กูก็กำลังจักชดใช้ให้มึงอยู่นี่อย่างไร สุรสียงดุกร้าวมีรอยยิ้มขบขัน ที่พูดไปหาได้มีความรู้สึกสำนึกอยากจักชดใช้อยู่จริงไม่ ก็เพียงแค่อยากฆ่าเท่านั้นสุวรรณราพณ์นิ่งงันไปชั่วอึดใจ เพราะนอกจากน้องนางของเขา ถึงอีกใจอยากจักสั่งสมความดีตามที่พระฤาษีท่านว่า แต่อีกใจใครจักเป็นจักตายก็ช่างมัน“ถ้ากูให้มึงครองร่าง จักไม่ฆ่าใครไปมากกว่าไอ้ท้าวไกรสิงห์ใช่หรือไม่” เสียงหัวเราะก้องกังวาน สังวรีราพณ์กำลังคิดแผนการกบฏครั้งใหญ่ หากแต่ปากกลับเอื้อนเอ่ยวาจาตระบัดสัตย์กูให้สัญญาทางด้านฝั่งของมธุรส นางกำลังกระถดถอยไปยังหัวพระแท่นของท้าวไกรสิงห์ พลางมองกล้ามเนื้อสุดเย้ายวนขาวผ่องเป็นยองใยตรงหน้าที่ถูกซ่อนไปด้วยทับทรวงแลสังวาลย์ แต่ก็ยังปกปิดความแซ่บนั่นไม่มิดจักสุวรรณราพณ์ก็ดี หนุมานก็ดี อีตาครุฑนี่ก็ดีมีแต่คนหุ่นดีทั้งนั้นเลย!“จ้องกระไรมิวางตาเช่นนั้น”“อะ... เอ่อ” หากแต่เสียงทุ้มดุดันก็ขัดต่อภ

    Last Updated : 2025-01-24
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๓)

    แต่ก็คงมิแปลกเนอะ ก็เขาเป็นอมนุษย์นี่หว่า“ก็เจ้าไม่ใช่มนุษย์นี่นา!”“แล้วเจ้าล่ะเป็นใคร นางอัปสรงั้นรึ? ถึงได้อ้างอายุอานามเกินความแก่นแก้วของตนเช่นนี้” มธุรสสะอึกอึ้งเมื่อได้ยิน จักให้พูดตามตรงได้อย่างไรว่าตนนั้นเป็นคนที่มาจากโลกอนาคต ที่เกิดซี้ม่องเท่งแล้วย้อนอดีตมาเกิดใหม่ในร่างของเจ้าจันทร์คนนี้ ถึงอีกฝั่งจักเป็นอมนุษย์ก็จริง แต่ก็คงมิเชื่อกฎฟิสิกส์แห่งการย้อนมาเกิดใหม่ที่มีแต่ใน Webtoon เท่านั้นหรอก“โอเค สรุปแล้วข้าอายุสิบเจ็ด พอใจหรือยังเจ้าคะ” ในเมื่ออ้างมันไม่ได้ ก็โป๊ะแตกไปอีกสักรอบเนอะสาว“คำพูดกลิ้งกลอก สรุปเจ้าเป็นใครกันแน่” เสียงเข้มทวนถามหนักแน่นขึ้น คิ้วหนาขมวดเป็นปมสร้างความน่าเกรงขาม ดวงตาสีชาดคล้ายคลึงกับสุวรรณราพณ์จ้องนางเขม็งเพื่อค้นหาคำตอบ “หรือว่า...”นางสะดุ้งเฮือกเมื่ออีกฝ่ายนึกข้อสันนิษฐานออกมา“เจ้าจักเป็นแม่มดหมอผี ที่ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากกรุงฝรั่งมังค่า ที่จักสามารถชุบตนให้กลับมาเยาว์วัยได้กัน?”เอ่อ... เดี๋ยวก่อนนี่มันชักจักไปกันใหญ่แล้ว แม่มดอะไร นี่มันการตูนชุดยุคล่าแม่มดผสมผสานกับวรรณคดีไทยหรือไง นี่เราวาร์ปมาเกิดในโลกแบบไหนกันนี่!?แต่ถ้าให้อ้างตนว่า

    Last Updated : 2025-01-24
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๗ แผนล่อลวงของครุฑ (๔)

    ถึงจักดูโหดร้ายในทีแรก แต่ท้าวไกรสิงห์นั้นเข้มแข็ง กล้าหาญ แลรักความถูกต้องเป็นที่สุด เขาเป็นบุรุษที่ดำรงอยู่เพราะความแค้นที่มีต่อพระสุวรรณราพณ์เพียงผู้เดียว รังเกียจการดึงคนที่มิข้องเกี่ยวมาเป็นหมากแต่จำเป็นต้องทำเนื่องจากไอ้ยักษานั่นมันไม่มีจุดอ่อนให้เห็น แลเก่งกาจด้านคาถาอาคมมากเหลือแต่เมื่อเจอท่าทางกระโดกกระเดกพิลึกพิลั่นของหญิงสาว ก็ทำให้อีกฝ่ายนึกสับสนว่าควรจักล่อลวงนางต่อไปด้วยวิธีใดยิ่งวิปลาสเช่นนี้... เดาใจนางมิถูกเลยเทียว“ทหาร” ทันทีที่นางสาธยายสรรพคุณจบประโยค เขาจึงเรียกหาทหารครุฑยามให้เข้ามา บุรุษกำยำในชุดโจงกระเบนหลากสีพร้อมเพรียงกันเข้ามาภายในห้องบรรทมของพญาครุฑที่มีอำนาจตั้งแต่อายุยังน้อย ท้าวไกรสิงห์จึงรับสั่งเสียงดังฟังชัด “จับนางไปขังที่ห้องบ่าวรับใช้ แลให้อาหารนางวันต่อวัน ข้าจักส่งสาส์นท้าประลองไปยังกรุงยักษา”“ขอรับ!” ทหารทุกนายพร้อมเพียงกันคุดเข่าลง ก่อนที่จักเข้ามาคว้าตัวแม่หญิงตัวจ้อยจนผิวเนื้อนุ่มนั้นเป็นรอยมือหนาหยาบกร้าน บุรุษครุฑาพานางไปยังห้องหับที่คับแคบ ภายนอกเป็นลูกกรงราวกับกรงขังนก นางถูกตะเพิดไปด้านในนั้นที่มีเพียงฟูกนอนกับโต๊ะไม้สักโบราณตัวหนึ่ง เ

    Last Updated : 2025-01-24
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๑)

    กายแกร่งประจันอยู่ตรงหน้าร่างเล็กที่ยืนเต็มความสูง หากแต่ก็ยังอยู่ได้แค่เพียงไหล่แกร่งของเขาเท่านั้น ดวงตาสีชาดที่ฉายแววลึกซึ้งสบกับดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อน ที่เวลานางกระพริบตาทีหนึ่ง... ก็ช่างชวนให้หลงใหลเหลือคณา“เช่นนั้น...” สุวรรณราพณ์ยักษาสบตามธุรสนิ่งงัน อย่างต้องการถามหาความในใจจากสาวเจ้า “เจ้าเป็นใคร”แม้แต่สรรพนามที่เปลี่ยนไปก็พาลทำให้หญิงสาวสะอึกอึ้ง มิรู้จักตอบอันใดไปเลย ทั้งที่ก่อนหน้ามีถ้อยคำมากมายที่อยากจักพูดกับเขา“หนู... ชื่อมธุรส”“บ้านเกิดเมืองนอนที่ดวงจิตเจ้าจากมาเล่า”“กะ... กรุงเทพมหานคร โลกในอนาคตหลังจากนี้อีกหลายร้อยหลายพันปีค่ะ”ท้ายประโยคนั้น กษัตริย์อสุราเม้มกลีบปากเข้าหากันแน่นขนัด เขามิรู้จักอธิบายความรู้สึกในตอนนั้นเช่นไรดี ราวกับโลกทั้งใบพังทลาย เจ้าดวงใจที่รอคอยมาตลอดนับร้อยปี จนค้นหานางพบว่าเป็นลูกสาวกษัตริย์แห่งเมืองใกล้เคียงอโยธยา ทำพิธีนำหญิงสาวที่เกี่ยวข้องจากอดีตชาติมาดูแลใกล้ตัวจนดูเหมือนชายมากเมีย แลพยายามทำความดี อดทนรอนั้น... นางจักมิอยู่ในร่างนี้เสียแล้วหรือว่าเจ้าจันทร์นั้น... จักมอดมรณาไปเมื่อยามได้พิษไข้ประหลาดนั่นเสียแล้วงั้นหรือ หากแต่ยัง

    Last Updated : 2025-01-28
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๒)

    น้ำตาใสนองอาบแก้ม มือหนาที่ไปไวกว่าความคิด ทั้งที่นางมิใช่เจ้าจันทร์ที่เขารักแท้ๆ หากแต่บุรุษยักษากลับเอื้อมมือไปสัมผัสที่ผิวแก้มของมธุรสอย่างแผ่วเบาจนนางต้องหลับตาลงข้างหนึ่ง แลรู้สึกอบอุ่นเพราะมือใหญ่หยาบกร้านนั้นกำลังบรรจงปาดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน“... เจ้าจันทร์ คือคู่ชะตาในอดีตชาติของข้า” ดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มค่อยๆ กระพริบแล้วลืมตาขึ้นมองเขาอย่างใสแป๋ว ที่ถึงจักมิใช่คนที่รัก แต่ก็อดไม่ได้ที่จักทำให้ยักษ์หนุ่มชะงักไปชั่วครู่ด้วยใจที่ไหวหวั่นในยามราตรีเช่นนี้ “อดีตชาตินางชื่อขวัญ เป็นสาวชาวบ้าน แลเก็บข้าที่เป็นอสุรกายบาดเจ็บได้ที่ริมแม่น้ำข้างหุบเขา”“...”“ขวัญกับข้าในชาตินั้นตายไปพร้อมกันด้วยฝีมือของชาวบ้านที่เกลียดที่นางขี้เหร่แลขี้โรค เลยทุบตีนางจนตาย”“... โหดร้ายจังเลยนะคะ” มธุรสเผลอตอบรับกลับไป เนื่องจากเพิ่งรู้เรื่องราวของเขาและหนูจันทร์ที่นางอยู่ในร่างเป็นครั้งแรก“ใช่... มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดร้าย อดีตชาติก่อนที่จักเจออีขวัญข้าเคยคิดเช่นนั้น”“...”“ข้าเห็นการเวียนว่ายตายเกิดของมนุษย์มานานเหลือเกิน แค่คิดว่าเจ้าจันทร์ที่ข้ารักต้องจากไปตามวัฏจักรสงสาร ข้าก็รู้สึกเจ็

    Last Updated : 2025-01-28
  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   เจ้าจันทร์เมียยักษ์ บทที่ ๘ น้ำอมฤตเริงรมณ์ (๓)

    “ข้าจักทานทนความกำหนัดนี้มิไหวอีกแล้ว” สุ้มเสียงแหบพร่ากระซิบเย้าข้างริมหู สุวรรณราพณ์เร่งนำสุราป้อนเข้าปากเธอ คว้าแก่นกายใหญ่โต รูดอย่างเร่งรีบเพื่อบริกรรมคาถาให้ธุลีในน้ำของตนออกเร็วกว่าปรกติเขาต้องการสอดใส่เข้าไปอบอุ่นท่อนกายในร่างน้อยๆ ของเธอให้เร็วที่สุดปลายลึงค์กระตุกถี่เมื่อถึงจุดหมาย หากแต่ยังไม่สมปรารถนา บุรุษยักษายกฝ่ามือที่ชุ่มน้ำสีขาวขุ่นตรงหน้าหล่อนที่หายใจอย่างต้องการ และให้นางงับปลายนิ้วที่ชุ่มไปด้วยน้ำปรารถนาของเขา“อึก... อะไรคะ”“ดื่มมันเถิด แล้วเจ้าจักมิรู้สึกเจ็บปวด”มธุรสกลัวในทีแรก แต่เพราะเธอเองก็อยากรู้อยากลอง จึงค่อยๆ ดูดเลียปลายนิ้วใหญ่ แลกุมฝ่ามือชุ่มน้ำคาวขุ่นของเขาลงไป แต่รสมันกลับไม่เหมือนที่เคยได้ยินมาเลย น้ำของสุวรรณราพณ์นั้นมันหอมหวาน เหมือนกับสุราฝรั่งที่เธอเคยรับประทานกับรุ่นพี่ที่ทำงานในร้านเหล้านั่งชิวก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุอร่อยจัง“อื้ม” เสียงหวานครางครวญแสดงความพึงพอใจในรสธุลีในน้ำของเขา สุวรรณราพณ์ยกร่างแน่งน้อยของนาง วางอย่างเบามือให้นอนราบลงบนพื้นหญ้าเขียว ฝ่ามือหนาคว้าเรียวขางาม ค่อยๆ แยกขาของเธอออก เพื่อสำรวจความเปียกชื้นตรงบริเวณแอ่งเก

    Last Updated : 2025-01-28

Latest chapter

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๖ ชายาครุฑ (๒)

    อ้อมกอดแห่งครุฑสีชาตินั้นทำให้นางยากจักถอนกายออก ความอบอุ่นที่ไม่ทราบเหตุผลว่าเพราะเหตุใดชายผู้นี้ถึงได้เลือกนางเป็นมารดาผู้ให้กำเนิด กรรณิกาอัปสรไม่คิดหวังให้ท้าวไกรสิงห์ใฝ่รักใฝ่หานาง หล่อนหมดหวังไปตั้งแต่พระสวามีคนก่อนแล้วสุวรรณราพณ์มองกรรณิกาที่อยู่ในร่างของเจ้าจันทร์เป็นเพียงแค่ตัวแทนหญิงที่ห่างกายเขาไปเมื่อนานมาแล้ว เขามักตัดพ้อรำพันทุกค่ำคืนว่าหญิงในอดีตชาตินั้นร้างรักเขาเนื่องจากเป็นอสูรรูปชั่ว แม้นมียศถาบรรดาศักดิ์มากมาย ก็ไม่สามารถเปลี่ยนใจนางได้หารู้ไม่ว่าทุกอย่างนั้นคือบ่วงกรรมที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องเผชิญ ฝ่ายท้าวไกรสิงห์นั้นไม่สามารถระลึกชาติก่อนได้ แต่เขามีสะพานกรรมที่ต้องวนเวียนชดใช้ อดีตชาติของท้าวไกรสิงห์ก่อนจักมาเกิดเป็นครุฑนั้น คืออดีตพรานบุญที่หลงรักมธุรสวดี อัปสราสาวที่ลงมาล้อเล่นน้ำอาบแสงจันทร์กลางป่าหิมพานต์ในสระอโนดาต แลเสพสมกับหล่อนกลางสระงาม โดยที่หล่อนเมามายรสน้ำเงาจันทร์ ทำให้หลงลืมคิดว่าพรานบุญนั้นคือสามีของตนเฉกเช่นทศกุมภัณฑ์เมื่อทศกุมภัณฑ์มาพบการก่อกบถเข้า จึงทำการฆ่าพรานบุญคนนั้นจนตายในชาติก่อน ชิงเมียรักกลับมาสู่อ้อมอก พรานบุญนั้นสาปแช่งก่อนตายตกว่าชาติ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๖ ชายาครุฑ (๑)

    ก่อนพบรักกับอัปสรมธุรสวดี ทศกุมภัณฑ์เคยมีภรรยาเป็นยักษีรูปร่างงดงามสะสวย นางเสวยทิพย์มิกินเนื้อคนต่างจากเขาผู้เป็นสวามี นางถูกตบแต่งกับเขาเพียงเพื่อสานไมตรี ทศกุมภัณฑ์อัปลักษณ์หากแต่มียศศักดิ์บริวารมาก ตระกูลยักษ์ฝั่งนั้นจึงส่งนางปารตีเป็นเมียกำนัล การตบแต่งที่มิได้เริ่มต้นด้วยความรัก สุดท้ายทศกุมภัณฑ์กลับหลงรูปโฉมอัปสราจนทิ้งนางน้ำตาตกในตลอดมานางยักษ์ปารตีเองก็มิได้เหลียวแลเนื่องจากสวามีนั้นโหดเหี้ยมทานแต่เนื้อสัตว์ ทั้งเนื้อสัตว์เนื้อมนุษย์ไม่ขาดปาก นางที่เป็นยักษ์เสวยทิพย์ชั้นสูง จึงตีตนออกห่าง จนเป็นช่องโหว่ให้อีกฝ่ายนั้นไปมีบ้านเล็กบ้านน้อย อยู่ของนางดีๆ ก็ต้องมารับรู้ว่าสวามีของตนนั้นได้ลิ้มรสเชยชมนางอัปสรชั้นสูง พร้อมกับเอานางอัปสรมธุรสวดีเข้ามากกกอดถึงในรังนอนนิมมานเทพเองต้องการดวงตาของนางยักษ์ปารตี เนื่องจากดวงตาของนางเป็นดวงตาที่สาม สามารถเปิดโลกแห่งความตายทั้งปวงได้ การมีดวงตาของนางเอาไว้ในครอบครอง มิว่าจักเป็นนรกภูมิหรือสรวงสวรรค์ เขาจักเป็นชายผู้มากศักดาจนมีแต่คนอยากคบหาพาที เขาจึงส่งนางอัปสรมธุรสวดีเข้าหาทศกุมภัณฑ์หวังยั่วยวนหาโอกาสฆ่าชิงดวงตาที่สามของนางปารตี แต่นางอั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๕) จบตอน

    “เมื่อเจ้าเติบใหญ่กว่านี้ พ่อจักบอกทุกอย่าง อดทนรอแล้วทำตามที่พ่อเอ่ยได้หรือไม่” แน่นอนว่าพระสุวรรณราพณ์รู้ดีถึงพลังที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดของบุตรแฝด แต่เนื่องจากอินมุกแลจันทร์ดายังมิมีวุฒิภาวะหรือการเผชิญหน้ากับโลกภายนอกมากพอที่จะเข้าใจเรื่องราวในอดีตชาติของตน เขาจึงอยากรอให้ลูกทั้งสองเติบโตมากกว่านี้ก่อน“ไม่! ท่านควักดวงตาแม่แท้ๆ ของข้า แลยังขับไสไล่ส่งแม่ที่แท้จริงของพวกเราไปไกลบ้านไกลเมือง หากมิรักใคร่เนื่องจากพวกเราเป็นสายเลือดมนุษย์ ท่านพ่อก็บอกข้ามาตามตรงเถิด!” จันทร์ดาได้ฟังพี่ชายว่าเช่นนั้นก็ใจตกไปอยู่แทบตาตุ่ม ยืนร่ำไห้กอดอินมุกที่หยัดยืนสู้ตัวน้อยๆ ประจันหน้ากับกษัตริย์เมืองยักษ์ที่ถือเป็นบิดาแท้ๆ ของตน ตั้งแต่เกิดมาบิดาไม่เคยพูดดีด้วยนอกเสียจากมองเขาเป็นตัวปัญหา แม้นจักเป็นลูกของสตรีที่มิได้รัก แต่ก็มีหัวจิตหัวใจเช่นกัน“ควักดวงตา? หมายความว่าเช่นไร” สีหน้าของพระสุวรรณราพณ์นั้นสับสน ชวนให้สองเด็กแฝดชะงักไป“พระมารดาของเจ้านั้นอยู่ที่เมืองจันทร์ นางตาบอดเพราะถูกควักลูกตาไปด้วยฝีมือของพระบิดาของพวกเจ้า เนื่องด้วยนางมิเป็นที่โปรดปรานเท่ากับสนมคนที่สิบสองอย่างนางอัปสรที่นามว

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๔)

    “ไสหัวไปเสีย ก่อนที่กูจักบั่นคอมึงให้ดับดิ้นอยู่ตรงนี้” พอได้ยินอีกฝ่ายตีฝีปากกลับอย่างมั่นอกมั่นใจเช่นนั้นอสุราหนุ่มยิ่งพิโรธเหลือ เขารู้เรื่องราวทุกอย่างที่หล่อนลงมาแลแปลงกายเป็นอัปสรเพื่อเข้ามาเป็นสนมคนที่สิบสาม แต่เขาไม่สามารถล่วงรู้ได้ถึงช่วงที่นางดำรงอยู่บนสรวงสวรรค์กับนิมมานเทพ มิอาจรู้ได้ว่ามันได้เป่าหูกระไรนางไว้บ้าง“อย่าลืมเสีย สุวรรณราพณ์... ไม่สิ ไอ้ทศกุมภัณฑ์เอ๋ย”“...!”“มธุรสวดีจักไม่มีวันตกเป็นของมึง แม้นชาตินี้หรือชาติไหน กูจักตามราวีมึงทุกชาติไป เพื่อให้ได้มาซึ่งหญิงที่กูหมายครอง”ไวกว่าความคิด พระสุวรรณราพณ์เขวี้ยงดาบทมิฬตรงไปยังร่างตรงหน้าหวังฟาดฟันด้วยความเกรี้ยวโกรธสุดกำลัง แต่ร่างนั้นกลับสลายหายไปเป็นเพียงไอหมอกเย็นเยียบโอบล้อมรอบดาบดำมืดก่อนที่จักถึงตัว พระสุวรรณราพณ์เรียกดาบทมิฬกลับมาสู่ฝ่ามือใหญ่ กวาดสายตามองไปรอบๆ พลางขบฟันกรอดอย่างขัดเคืองมาทั้งที ก็ทิ้งเพลิงกัลป์ไว้เลยสิหนา“ทะ... ท่านพ่อ ข้า...” อินมุกมีสีหน้าหวาดกลัวเมื่อผู้เป็นพ่อหมุนตัวใหญ่โตหันกลับมา ดวงตาสีชาดหรี่ลงมองบุตรชายที่ยืนตัวสั่น พระสุวรรณราพณ์ทำได้เพียงเดินนำหน้าลูกไปเท่านั้น“ตามพ่อมา อิ

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๓)

    “พระมารดาของเจ้านั้นอยู่ที่เมืองจันทร์ นางตาบอดเพราะถูกควักลูกตาไปด้วยฝีมือของพระบิดาของพวกเจ้า เนื่องด้วยนางมิเป็นที่โปรดปรานเท่ากับสนมคนที่สิบสองอย่างนางอัปสรที่นามว่ากรรณิกา”“!!!” ทั้งอินมุกแลจันทร์ดาเบิกตากว้าง เป็นจริงดั่งสัญชาตญาณที่ว่ามารดาของตนนั้นไม่อยู่ที่นี่ ตัวจริงนั้นอยู่เมืองจันทร์ ส่วนตัวปลอมที่แปลงเป็นมารดาของพวกเขานั้นคือหนึ่งในสนมที่เป็นนางสวรรค์แต่ยิ่งหดหู่ใจไปกว่านั้น... คือเรื่องที่บิดาเลือกที่จะควักลูกตาของพระมารดาไป เนื่องจากไม่เป็นที่โปรดปรานดั่งเช่นสนมที่เป็นนางอัปสร มันช่างน่าเศร้านัก นี่ท่านพ่อไม่มีความรักต่อแม่เราเลยหรือ“... ว่าต่อได้หรือไม่” ท้ายที่สุดเด็กชายก็อดรนทนไม่ได้ ด้วยความอยากรู้เรื่องราวของแม่ที่แท้จริงจึงเอ่ยปากถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจากเมื่อครู่“จงมอบความเชื่อใจให้แก่ข้าเสียก่อน จึงจักเล่าต่อได้” นิมมานเทพถือโอกาสออกกลอุบายดึงบุตรของพระสุวรรณราพณ์มาเป็นพวกด้วยค่าของเรื่องราวของหญิงที่เขามินึกใส่ใจอย่างธิดาเจ้าจันทร์“ข้าแลน้องสาวจักเชื่อใจเจ้า”“อินมุก... เจ้ามิรักพระบิดาหรือ เจ้าเชื่อใจข้ามากกว่าพระบิดาหรือ ทั้งๆ ที่มันอาจจักเป็นคำโก

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๒)

    มิรู้ดอกว่าแปลงกายมาหลอกพ่อด้วยเหตุอันใด แต่จักมิยอมญาติดีกับแม่อัปสรสวรรค์นั่นเด็ดขาด“ข้ามิพูดคุยหรือทำดีต่อนาง ยัยนั่นมิใช่แม่ของข้า แม่ของข้าชื่อเจ้าจันทร์ ข้าจำกลิ่นไอของแม่ข้าได้ดี!”“อินมุก จริงๆ แล้วแม่ของเจ้า...”“เลิกพยายามจักโป้ปดข้า หาความดีความชอบมาสู่นังอัปสรนั่นเสียที ท่านพ่อรักหลงนางจนมิเห็นหัวข้าแลน้องจันทร์ดาเลยด้วยซ้ำ!” ว่าพลางก็กัดฟันข่มความรู้สึกโกรธแค้นนางอัปสรนั่น ฉุดแขนจันทร์ดาที่ยืนมองท่านพ่อกับพี่ชายต่อล้อต่อเถียงกันและวิ่งตามแรงจับจูงของพระเชษฐาไปอย่างว่าง่ายอินมุกวิ่งมาจนถึงบึงบัว กำหมัดแน่นในข้างที่ไม่ได้จูงฝ่ามือเล็กของน้องสาว จันทร์ดาเอียงคอมองพี่ชายฝาแฝดที่บัดนี้น้ำตาหยดลงสู่ผิวแก้มสุกปลั่ง“พี่อินมุก โอ๋ โอ๋ พี่อินมุกอย่าร่ำไห้เลยเจ้าค่ะ” เสียงหวานปลอบประโลมพี่ชายเพียงแผ่วเบา ตระกองกอดพี่ชายแนบแน่นเท่าที่จำความได้ อินมุกกับจันทร์ดามีสูรย์วันบ่าวยักษีตนหนึ่งคอยดูแลเป็นแม่นมให้ตั้งแต่เล็ก สายใยอบอุ่นระหว่างพวกเขาและพระมารดาแน่นแฟ้น อินมุกและจันทร์ดาเชื่อว่ามารดาคลอดตนด้วยความรักใคร่ เมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็ถามถึงแม่ของตนที่มีนามว่าเจ้าจันทร์นางสูรย์

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๕ สงครามครุฑ (๑)

    “มิมีสาส์นตอบรับส่งมาจากเมืองครุฑเลยพะย่ะค่ะฝ่าบาท... จนบัดนี้แล้ว”เหล่าทหารกราบทูลกับพระสุวรรณราพณ์ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ใหญ่มหึมา ได้ความว่าสาส์นท้ารบนั้นอาจส่งไปถึงเมืองครุฑ แต่ฝ่ายไอ้ท้าวไกรสิงห์อาจยังเล่นตุกติกมิยอมส่งสาส์นกลับมา ทำตัวยั่วโมโหเก่งจริงๆพระสุวรรณราพณ์เข้าใจว่ามันนึกแค้นเคืองที่ในอดีตชาติต้นกำเนิดเผ่าพันธุ์ยักษ์เช่นทศกุมภัณฑ์ (ซึ่งก็คือตัวเขาเองนั่นแล) นั้นเข่นฆ่าฉีกเนื้อเทือหนังครุฑอย่างโหดร้ายเพียงเพื่อชิงเมียรักกลับมาสู่อ้อมอก แม้นจักมาเจอเมียในร่างไร้วิญญาณก็ตาม แถมในอดีตก่อนเจอคู่ชะตา สังวรีราพณ์ก็ได้ไปบุกเมืองครุฑด้วยความหิวกระหายเนื้อสดหลังจากจำศีลไม่กินเนื้อมาเกือบห้าสิบปีจนตบะแตกด้วยดวงจิตทมิฬที่สอง สุดท้ายก็ฆ่าพวกครุฑแลครุฑีไปเกินครึ่ง แถมยังกินจนเหลือแต่กองกระดูกนกให้ดูต่างหน้าอีกด้วยเรียกได้ว่าเขาเองก็เป็นตัวการที่ทำให้ฝั่งไอ้ท้าวครุฑนั้นมีความอาฆาตแค้นจนต้องชิงสิ่งสำคัญออกไปอย่างเช่นภาชนะอย่างธิดาเมืองจันทร์ที่มีดวงจิตมธุรสวดีอยู่ในนั้น แม้นสุดท้ายจะสู้พลังวังชาของพระสุวรรณราพณ์ไม่ได้ก็ตามที่ส่งสาส์นท้ารบไป เพื่อจักให้มันจบมันสิ้นไป ให้มันได้ระบายอาร

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๔ ข้ารักลูก หาได้รักท่าน (๕) จบตอน

    แต่พระมเหสีเจ้าจันทร์กลับต่างออกไป ตลอดสามวันหลังคลอดเด็ก นางแวะมาแอบดูเด็กทั้งสองแลพยายามเข้าหาอยู่หลายครา แต่เด็กแฝดปฏิเสธการเข้าหาของแม่ สูรย์วันคิดว่าวันเดียวเธอคงล้มเลิกแล้ว เพราะคงมิมีใครอยากมีลูกกับยักษ์ สนมทุกคนที่ท่านนำพา ก็ล้วนแต่มิเต็มใจตกเป็นเมียทั้งสิ้นแต่นางกลับไม่เคยยอมแพ้ ยังแวะมาขอกอดขออุ้มอยู่ทุกวันแม้จักรู้ว่าเด็กทั้งสองจักต้องกระจองอแงแลผลักไสนางด้วยเดียดฉันท์เลือดมนุษย์“พระมเหสีทรงอยากอุ้มบุตรธิดาหรือเพคะ”“อะ... อื้อ” สาวเจ้าพยักหน้าหงึกหงัก ดวงหน้าซีดเซียว อาจเพราะยังป่วยอยู่“ท่านอินมุกแลท่านจันทร์ดายังมิคุ้นชินนัก แต่สักวันคงจักคุ้นได้แน่” นางว่าด้วยความหวังดี ฝ่ายกรรณิกาเองก็กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่จากทุกวันที่โดนลูกปฏิเสธ มันออกจักฝังใจมิน้อยแต่อย่าหวังว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอจักมีเพียงแค่นี้หญิงสาวค่อยๆ ขยับตัวเข้าไปใกล้เด็กหัวจุกทั้งสอง ค่อยๆ ยกจันทร์ดาขึ้นมาก่อนเพราะลูกหญิงมักอ่อนโยนกว่าคนพี่เล็กน้อย พร้อมกับยกบุตรสาวที่ทำตาโตมาแนบอกอิ่ม“จันทร์ดา... นี่แม่เองนะ”“...”“จันทร์ดา แม่รักหนู... แม้จักเป็นช่วงเพลาเพียงสั้นๆ ก็ตาม”หมับ!“อึก...!” แต่ยั

  • เกิดใหม่เป็นเมียยักษ์ในวรรณคดี   ภาค ๒ เจ้าจันทร์เมียยักษ์ ๑๔ ข้ารักลูก หาได้รักท่าน (๔)

    ทำเป็นไม่รู้ต่อไป เพื่อรักษานางไว้ รวมถึงรักษาสัมพันต่อสรวงสวรรค์ มิเช่นนั้นทุกอย่างจักยากขึ้นเกือบเท่าตน ทั้งการสัญจร รวมถึงพันธะสงบศึกที่มีมาตั้งแต่อดีตชาติระหว่างสรวงสวรรค์แลโลกอสูรเป็นเพียงอสูร มีอำนาจมากมายเพียงไหน สุดท้ายยังถูกชิงไปได้ด้วยเทวดาอยู่ดีส่วนเด็กสาวผู้มิรู้ประสากระไรทั้งนั้น ได้แต่สั่นสะเทือนอยู่บนกายใหญ่เนื่องจากร่างกายเล็กจ้อยแสนเปราะบาง นางครางครวญเสียงสะท้านหวามไหว กอบโกยอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด ท่าทางนี้มองเห็นดวงหน้าของยักษาได้ถนัด เขากำลังจ้องมองหล่อนอย่างเปรมปรีดิ์ รบกวนจิตใจเหลือเกินทำมาเป็นจ้องมองเหมือนรักเหมือนหลงยิ่งนัก จักทำให้ร่างน้อยๆ นี่เป็นของโปรดของเจ้าให้ได้เลยเชียวว่าพลางก็พยายามขยับบั้นเอวน้อยเพื่อคลึงความใหญ่โต แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะขาดอากาศหายใจ ถึงร่างกายจะแปลงตนเป็นอัปสร แต่ก็รับความรู้สึกได้ทุกอณูไม่ต่างกับร่างกายมนุษย์จนเริ่มชักไม่แน่ใจ ว่าตนเองเป็นอัปสร หรือมนุษย์กันแน่หรือนางหลอมรวมกับร่างเจ้าจันทร์ไปแล้ว?คิดเพ้อฝันพลางส่ายหัว ร่างนั้นจำแลงเป็นการเวกกลับสู่เมืองจันทร์ไปแล้ว สุวรรณราพณ์ตกเป็นของนางแทนที่เจ้าจันทร์แล้ว นี่ล่ะค

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status